คริสต์มาสก็แล้ว ปีใหม่ก็กำลังมา จะไปหาของขวัญอะไรมอบให้กับเพื่อนๆ ครอบครัว คนรัก หรือคนพิเศษดีนะ?

อภัยพร ศรีสุข Commercial Director แห่ง Oriental Princess

คิดเยอะไปทำไม เมื่อ โอเรียนทอล พริ้นเซส (Oriental Princess) เปิดสถานีส่งความสุขในคอนเซปต์ #OPสถานีส่งความสุข เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในงาน ‘Gift Fair Festival’ เนรมิตลานโปรโมชัน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต พร้อมเซ็ตของขวัญมากมาย ส่งแทนใจให้กับคนสำคัญในวันสำคัญ

เรื่องของขวัญต้อง Oriental Princess แบรนด์ของขวัญอันดับหนึ่งในใจคนไทย

Oriental Princess แบรนด์ความงามจากศาสตร์แห่งดินแดนตะวันออกที่ดูแลคนไทยมานานกว่า 34 ปี เปลี่ยนบริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ให้เป็นสถานีที่รวมของขวัญมากมาย หรือ #OPสถานีส่งความสุข พร้อมให้คนไทยในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองได้ส่งต่อของขวัญเพื่อเวอร์ชันที่ดีที่สุดในแบบของตัวเองให้คนสำคัญ เพราะ #OPของขวัญนัมเบอร์วัน ที่มอบให้คนสำคัญได้ในทุกโอกาส

วันที่ 25 ธันวาคม 2024 – 3 มกราคม 2025 ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต Oriental Princess ขนเซ็ตของขวัญสุดประทับใจมาในสถานีสุดแสนน่ารัก เหมาะสำหรับปลายปี รวมถึงกิจกรรมที่ทั้งสนุก อบอุ่น รวมถึงความหอมแบบเฉพาะตัวที่พลาดไม่ได้

รวมภาพบรรยากาศสุด Festive สถานีส่งความสุขจาก Oriental Princess

บรรยากาศเรียกได้ว่าอบอุ่น น่ารัก และเหมาะกับเดือนแห่งการเฉลิมฉลองแบบสุดๆ โดยมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมทั้งชมบูธ ถ่ายภาพ ทำกิจกรรม รวมถึงเลือกช้อปผลิตภัณฑ์และไอเท็มความหอมที่มีให้เลือกสรรไปฝากคนสำคัญในโอกาสสำคัญ

เซ็ตของขวัญแทนใจ และไอเท็มความหอมจาก Oriental Princess

เดินยังไม่ถึงบริเวณงาน แต่กลิ่นความหอมเป็นเอกลักษณ์ก็เตะจมูกทันใด เพราะภายในงาน Oriental Princess มีผลิตภัณฑ์ความหอมที่ติด Best Seller มาให้ทุกคนเลือกสรรเป็นของแทนใจให้คนสำคัญ เซ็ตของขวัญสุดพรีเมียม อบอวลด้วยความหอมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘Beauty Celebration Value Set 2025’ 

โซนนี้เรียกความประทับใจอย่างมาก เพราะออกแบบจากจุดแลนด์มาร์ก 5 ภาค 5 ดีไซน์ โดยอาร์ตเวิร์กของแลนด์มาร์กทั้ง 5 ภาค มาจากการคอลแลบกับศิลปิน ‘Pearada’ ด้วยลายศิลป์สุดแสนน่ารักและอบอุ่น ใครเห็นก็ต้องหยุดดูความครีเอตและความน่ารักที่มองไม่รู้เบื่อ นอกจากจะเนรมิตแลนด์มาร์กสวยๆ ให้แล้ว ยังออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ 5 แบบ 5 ภาค 5 สไตล์ เหมือนกับร้านโอเรียนทอล พริ้นเซส ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศไทยมากกว่า 330 สาขา

• Enriching Journey Set ความงดงามบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ของเมืองขอนแก่นในภาคอีสาน 
• Unforgettable Memories Set ความทรงจำที่ไม่อาจลืมกับเสน่ห์ล้านนาจากเมืองเชียงใหม่ในภาคเหนือ
• Vibrant Life Set ความตื่นเต้นของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย
• Leisure Paradise Set สวรรค์ของเหล่านักท่องเที่ยวกับเอกลักษณ์ของเมืองพัทยาบนชายทะเลแห่งภาคตะวันออก
• Timeless Charm Set มนตร์ขลังที่ไม่เก่าลงไปตามกาลเวลาของไข่มุกอันดามันแห่งภาคใต้กับเมืองภูเก็ต

Beauty Celebration Value Set 2025 เหมาะมากสำหรับเลือกให้เป็นรางวัลแก่คนสำคัญ พร้อมแสดงความรักและห่วงใยได้ทุกโอกาส พร้อมการ์ดอวยพรสุดน่ารักแทนใจในโอกาสต่างๆ พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับสมาชิก Oriental Princess เพื่อซื้อของขวัญแทนความรู้สึกให้คนที่คุณรัก

และสินค้าที่ขายภายในงานอีกมากมาย ทั้ง Oriental Beauty, Charisma The Art of Fragrance Layering, Rhythms of Nature, Story of Happiness และ Princess Garden

กิจกรรมสุดน่ารักและห้ามพลาดภายใน Gift Fair Festival

เริ่มที่ PHOTO BOOTH สุดครีเอทีฟที่มีตู้เดียวในโลก ให้การถ่ายภาพพิเศษกว่าเดิม พร้อมพาคุณท่องเที่ยวแลนด์มาร์กทั่วไทยภายในแชะเดียวแบบไม่ต้องไปถึงสถานที่ เพราะตู้นี้มีเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว (Motion Photo) รับรองว่าทุกภาพจะมีชีวิตชีวาสุดๆ ส่งต่อความทรงจำสุดประทับใจได้ไม่รู้ลืม

ต่อมากับกิจกรรม SHOP & UNLOCK YOUR CHANCE TO WIN กับล็อกเกอร์ลุ้นรางวัลสุดเซอร์ไพรส์ จุดนี้นอกจากจะสนุกและตื่นเต้นกับล็อกเกอร์สุดเซอร์ไพรส์แล้ว ยังได้ช้อปเพลินพร้อมลุ้นรางวัลของพรีเมียมพิเศษสุดฟิน

ปิดท้ายด้วยกิจกรรม SNAP & SHARE ถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียลมีเดียง่ายๆ รับฟรีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าขนาดทดลอง ใช้ได้นาน 7 วัน

งานนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับเลือกของขวัญแก่คนสำคัญ พร้อมสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Oriental Princess ที่มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อให้ทุกช่วงเวลาพิเศษสมบูรณ์แบบ 

สามารถติดตามความพิเศษของโซนของขวัญในปี 2025 ได้ในร้านโอเรียนทอล พริ้นเซส ทุกสาขาทั่วประเทศมากกว่า 330 สาขา เพื่อมอบความประทับใจในทุกโอกาสสำคัญของคุณ 

แอด LINE สาขาที่ https://www.orientalprincess.com/storelocator/

ช่องทางออนไลน์ www.orientalprincess.com

ช่องทาง Social Media ของแบรนด์ และ Lazada, Shopee, Konvy, LINE SHOPPING, TikTok Shop และ Food Delivery

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ครั้งแรกของน้ำหอมที่แคร์คนรอบข้างและโลกใบนี้ Floranista Limited Edition by Oriental Princess หอมใสไม่ทำร้ายใคร
• ‘bene’ Limited Edition เมกอัพไลน์ใหม่เอาใจสายคลีนในสไตล์ Peach Blossom

The post Oriental Princess เปิดสถานีส่งความสุขสู่แบรนด์ของขวัญอันดับหนึ่งในใจคนไทย [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

Oriental Princess ไม่เคยหยุดสวยเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะล่าสุดทางแบรนด์ได้ออกไลน์ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่าง ‘bene Limited Edition’ ไอเท็มสูตรคลีนบิวตี้ สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ หมดกังวลเรื่องใช้เครื่องสำอางแล้วแพ้ ตอบโจทย์คนเจนใหม่ใส่ใจโลกที่รักผลิตภัณฑ์วีแกน โดยมาในสไตล์ Peach Blossom ที่สกัดมาจากสารสกัดธรรมชาติอย่างดอกพีช ผ่านแพ็กเกจจิ้งสีพีชผลิตจากวัสดุรักษ์โลก ที่สาย Sustainable ต้องเลิฟกันสุดๆ

ไม่ว่าจะเป็น Happy Skin Multi Serum เซรั่มเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าที่เน้นความชุ่มชื้นในรูปแบบเจลใส มาพร้อมกับ Hello Sunny Day CC Cream SPF50 PA++++ ซีซีครีมกันแดดแบบไฮบริดที่เปลี่ยนสีตามผิวและคงความเป็นธรรมชาติทุกครั้งที่ทา ตามด้วย All Day Bright Loose Powder แป้งฝุ่นเซ็ตผิว ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนผสมจากน้ำมันปิโตรเลียม น้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน  

นอกจากนี้ยังมี Sparking Eye Liquid Eyeshadow เซ็ตอายแชโดว์เนื้อลิควิดที่ไม่ทำให้ตกร่องและเป็นคราบ กับ 5 เฉดสีโทนอบอุ่น เหมาะกับสายโกลวที่อยากเน้นชิมเมอร์ ก่อนจะตบท้ายด้วย Shine On Cheek & Lip Colour ทินต์เนื้อครีมทาแก้มและปากอีก 5 เฉดสี ซึ่งถือได้ว่าไอเท็มทั้งหมดของ bene Limited Edition ในไลน์นี้เหมาะกับคนเลิฟโปรดักต์สไตล์เอเชียนหรือจะมาในสายฝอแบบฉ่ำวาวก็ดูดีหมด หากใครสนใจผลิตภัณฑ์คลีนๆ เป็นมิตรต่อผิว สามารถไปช้อปกันได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน Oriental Princess ทุกสาขา หรือทางเว็บไซต์ orientalprincess.com

The post ‘bene’ Limited Edition เมกอัพไลน์ใหม่เอาใจสายคลีนในสไตล์ Peach Blossom appeared first on THE STANDARD.

ถ้าหากว่ากันตามตรงแล้ว น้ำหอมเปรียบเสมือนเสื้อผ้าอีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจและเป็นที่เตะตา (และจมูก) ให้กับคนรอบข้าง แต่ทว่าหลายคนอาจไม่คิดอย่างนั้นจากกลิ่นที่หอมหนึ่งคนแต่ฉุนอีกสิบคน แม้กระทั่งคนใช้แล้ว หอมแค่ไหนก็อาจเลิกใช้จากความรุนแรงของกลิ่นน้ำหอม

ปัญหานั้นจะหมดไปจากการมาถึงของน้ำหอมที่ใส่ใจคนรอบข้างและยังแคร์ไปถึงโลกใบนี้ จากผู้เชี่ยวชาญด้านความหอมที่ไม่ว่าใครก็นึกถึงอย่าง Oriental Princess ผ่านคอลเล็กชันผลิตภัณฑ์ความหอมใหม่อย่าง ‘Floranista Limited Edition’ ที่มาในคาแรกเตอร์ของ ‘Clean Beauty Perfumery’ เป็นครั้งแรก

น้ำหอมที่เปลี่ยน Pain Point มาเป็น Strong Point

อย่างที่กล่าวไป น้ำหอมของเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน ทำให้คนที่ใช้อาจหมดความมั่นใจ ผู้เชี่ยวชาญความหอมอย่าง Oriental Princess จึงเข้ามาเปลี่ยน Pain Point มาเป็นโอกาส

การจะสร้างน้ำหอมที่หอมใสไม่ทำร้ายใครได้นั้น ต้องหยิบกลิ่นหอมที่มีแรงบันดาลใจจากดอกไม้ที่มีคาแรกเตอร์กลิ่นอ่อนโยน มีความละมุน และเสริมด้วยความปลอดภัยต่อผู้ใช้และคนรอบข้าง กลิ่นในคอลเล็กชันนี้ผ่านการทดสอบความปลอดภัย และยังปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทั้งหมด 25 รายการ เช่น พาราเบน (Paraben) ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือพาทาเลต (Phthalate) ที่สร้างความเสียหายภายในร่างกาย

3 กลิ่นหอมใสดุจเดินอยู่ในสวนดอกไม้

พบกับกลิ่นแรกดังช่อดอกไม้หวานสำหรับสาวสไตล์ลูกคุณหนู ‘Sweet Bouquet’ สวมคาแรกเตอร์คลาสสิกแต่พรีเมียมตั้งแต่เริ่มฉีด ด้วยการถอดกลิ่นอย่างดอกการ์ดิเนียสีขาว สารสกัดจาก Tahitian Gardenia Extract หรือดอกพุดการ์ดิเนีย ที่มีสตอรีจากความเชื่อของชาวจีนและญี่ปุ่น อันเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างาม ความอ่อนโยน และความละเมียดละไมของหญิงสาว ทำให้กลิ่นมีความหอมหวาน อบอุ่น อ่อนโยน และผ่อนคลาย

หากมองหาความสวยและเซ็กซี่มัดใจเป้าหมาย ต้องขอแนะนำ ‘Pink Passion’ จากสารสกัดจาก Peony Extract ที่เสริมความเป็นสาวที่นอกจากความสวยแล้ว ยังมีความเป็นสาวแซ่บ สาวมั่น และโรแมนติก ด้วยคาแรกเตอร์ที่หยิบมาจากดอกพีโอนีสีชมพู ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี สะท้อนถึงความสวยงามของผู้หญิง และยังเชื่อกันว่าดอกพีโอนีจะช่วยเพิ่มเสน่ห์และส่งเสริมดวงด้านความรัก

ตบท้ายด้วยการเป็นสาวสดใสหัวใจเฟรนด์ลีด้วยกลิ่น ‘Peach Blossom’ กลิ่นแนว Floral Fruity จากสารสกัดจาก Rose Water Extract ซึ่งนิยมใช้กันมานานนับพันปี แรงบันดาลใจที่มาจากกุหลาบสีพีช ทำให้มีโทนความหอมละมุน เบาสบาย สดใสร่าเริง สารสกัดจากกุหลาบนิยมใช้มานานในแถบตะวันออกเพื่อบำรุงผิวกาย ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย

และยังไม่พอ ใน 1 เซ็ตยังประกอบด้วย

• น้ำหอมชนิด Eau De Parfum หอมนาน 12 ชั่วโมง
• Body Serum เซรั่มน้ำหอมบำรุงผิวกาย หอมนาน 8 ชั่วโมง ชุ่มชื้นนาน 12 ชั่วโมง
• Hair Mist สเปรย์น้ำหอมสำหรับเส้นผม หอมนาน 8 ชั่วโมง

มากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ความหอม ยังห่วงใยโลกใบนี้

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้น้ำหอม Floranista เป็นเครื่องหอมที่หอมอย่างไม่ทำร้ายใครคือ การเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยคำนึงถึงความปลอดภัย จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง Body Serum และ Hair Mist หญิงตั้งครรภ์สามารถใช้ได้ นอกจากนั้นยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการทดลองกับสัตว์หรือใช้น้ำมันสกัดจากสัตว์ร้อยเปอร์เซ็นต์

กระบวนการผลิตยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าไม่มีการใช้แรงงานจากเด็กหรือใช้วัตถุดิบที่ผิดต่อจริยธรรม และในมุมมองต่อการใส่ใจปัญหาที่เกิดขึ้นกับโลก กล่องผลิตภัณฑ์ยังใช้วัตถุดิบรักษ์โลก โดยผลิตจากกระดาษป่าปลูกที่สามารถหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และป่าก็สามารถปลูกทดแทนได้ ไม่กระทบระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม กล่องของน้ำหอมยังได้รับการรับรอง FSC (Forest Stewardship Council) ที่ยืนยันว่าเป็นกระดาษที่มาจากแหล่งที่มีการปลูกทดแทน

นับว่าเป็นน้ำหอมที่ฉีดครั้งเดียวแต่สร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ไปจนถึงในระดับการนึกถึงโลกและสิ่งแวดล้อม เป็นน้ำหอมกลิ่นหอมใสไม่ทำร้ายใคร ทั้งยังแคร์โลกและคนรอบข้างอย่างแท้จริง

The post ครั้งแรกของน้ำหอมที่แคร์คนรอบข้างและโลกใบนี้ – Floranista Limited Edition by Oriental Princess หอมใสไม่ทำร้ายใคร [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

ด้วยความเชี่ยวชาญและเข้าใจปัญหาผิว Oriental Princess แบรนด์สกินแคร์ที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 33 ปี จึงต้องการสร้างความมั่นใจให้สภาพผิวของทุกคน เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราจะมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ฉะนั้นเพื่อทำให้คนไทยมั่นใจไม่ว่าจะเจอปัญหาผิวแบบใดก็ตาม รวมถึงมีสุขภาพผิวที่แข็งแรงอยู่เสมอ การมีสกินแคร์ที่ตอบโจทย์ตรงจุดจึงเป็นการดูแลที่มีความยั่งยืนที่สุด

Oriental Princess จึงผุดแคมเปญ #OPแคร์สกิน แคร์ทุกสภาพผิวของคนไทย ชวนทุกคนมาดูแลผิวตัวเอง สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์แต่ละปัญหาผิว ด้วยการใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย ผ่านการคิดค้นวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหยิบส่วนผสมจากธรรมชาติมาสกัดเป็นสกินแคร์ที่ตอบโจทย์

แบรนด์ได้จัดกิจกรรมในแคมเปญนี้ภายใต้คอนเซปต์ ‘#OPแคร์สกิน ตัวจริงเรื่องสกินแคร์’ สร้างแกลเลอรีที่รวบรวมภาพถ่ายและบอกเล่าเรื่องราว ‘ปัญหาผิวของคนไทย’ ผ่านนิทรรศการออนไลน์บน Instagram @nitasskin ที่เปิดให้ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแกลเลอรีนี้ พร้อมจัด Exclusive Event ‘นิทรรศสกิน’ ชวนผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม บิวตี้บล็อกเกอร์ และแขกรับเชิญพิเศษ มาร่วมแบ่งปันปัญหาผิวด้วยกัน

โดยกิจกรรมภายในงานได้แก่ ‘นิทรรศสกิน’ นิทรรศการภาพถ่ายเผยสภาพผิว เพื่อให้ทุกคนรับรู้ว่าปัญหาผิวเป็นเรื่องธรรมดา และการตรวจสภาพผิวด้วยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ทราบปัญหาผิวที่แท้จริงและดูแลผิวได้อย่างตรงจุด พร้อมมีแขกรับเชิญ หมอต่อ-นายแพทย์ภาณุพงศ์ ภัทรกุลทวี แพทย์ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังชื่อดังมาร่วมพูดคุยถึงสกินแคร์สำหรับแต่ละสภาพผิว

และยังมีอีก 3 แขกรับเชิญพิเศษ มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร, เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า และ ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ปัญหาผิวแต่ละช่วงวัยด้วยเช่นกัน

หลังจากนั้นเป็นเวิร์กช็อปพิเศษ ‘Crafted Tea Workshop’ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทำความรู้จักส่วนผสมจากธรรมชาติในสกินแคร์ 3 ตัวหลักในแคมเปญครั้งนี้ ผ่านการเบลนด์ชาพิเศษเป็นของตัวเอง

เช่น เนื้อส้มและเปลือกส้ม ส่วนผสมสำคัญของเซรั่มวิตซีในตำนานของ Oriental Princess อย่าง Natural Power C Miracle Brightening Complex Power Boosting Serum ที่ช่วยดูแลเรื่องความกระจ่างใสทุกสีผิว

กุหลาบ สารสกัดธรรมชาติที่แบรนด์นำมาจับคู่กับสนร่มญี่ปุ่นใน RED Natural Whitening & Firming Phenomenon Concentrated Serum เพื่อช่วยให้ผิวใส เฟิร์ม กระชับ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยผลัดเซลล์ผิว

สุดท้าย บัวฉลองขวัญ สายพันธุ์บัวที่มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น อีกทั้งเป็นส่วนผสมจากสารสกัดที่ได้รับ 2 รางวัลระดับโลก เพราะสามารถช่วยชะลอวัยและลดริ้วรอยได้ โดยสารสกัดนี้จะอยู่ใน Naturally Ageless Supreme Lifting & Anti-Wrinkle Cream

“การเลือกใช้สกินแคร์ เราต้องรู้จักสภาพผิวที่แท้จริงของตัวเองก่อน แต่ละคนจะมีสภาพผิวและปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป อย่างผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่กระชับและไม่กระจ่างใสควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ส่วนผู้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งช่วยให้ผิวเรียบเนียนเต่งตึง” นายแพทย์ภาณุพงศ์กล่าว

ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทุกซีรีส์ของ Oriental Princess วางจำหน่าย ณ ร้านโอเรียนทอล พริ้นเซส 325 สาขาทั่วประเทศ การันตีคุณภาพ ไม่พอใจยินดีคืนเงินใน 14 วัน สามารถติดตามหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.orientalprincess.com 

The post #OPแคร์สกิน แคมเปญสกินแคร์ที่สร้างมาเพื่อดูแลทุกสภาพผิวโดย Oriental Princess appeared first on THE STANDARD.

แม้ว่าโควิดจะเคยฉุดให้ตลาดเครื่องสำอางไทยในภาพรวมลดลงถึง 44% แต่ภาพรวมของ beneficialเมคอัพของ โอเรียนทอล พริ้นเซส ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาลดลงเพียงแค่ 21% เท่านั้น ทั้งๆ ที่เป็นแบรนด์ทีมีสาขาสูงสุดในประเทศไทยถึง 325 สาขา แต่กลับได้รบผลกระทบไม่มากนัก  

อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จท่ามกลางวิกฤต และการแข่งขันที่ท้าทายของตลาดเครื่องสำอาง รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป beneficial เดินเกมอย่างไรถึงครองใจผู้บริโภคมากว่า 20 ปี และการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ New beneficial ที่สุดแห่งเมคอัพพลังสีสันจากธรรมชาติ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Multiverse: สวยทุกเวอร์ฉัน’ โอเรียนทอล พริ้นเซส หยิบกลยุทธ์ไหนมารักษาฐานลูกค้าเก่า และดึงกลุ่มลูกค้าใหม่

อภัยพร ศรีสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท เอสเอสยูพี (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพกว้างให้เห็นถึงสัญญาณชีพที่ดีของตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากผู้คนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตปกติ ผู้บริโภคต้องการสิ่งชุบชูใจจากสีสันที่แต่งแต้ม คนเริ่มเดินทางท่องเที่ยว กลับไปทำงานนอกบ้านตามปกติ จากปัจจุบันที่มูลค่าตลาดในไทยอยู่ที่ 2.26 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นผิวหน้า 57% ริมฝีปาก 25% ดวงตา 17% เล็บ 1% คาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดเมคอัพจะโตมากกว่า 5% และ beneficial ก็ตั้งเป้าหมายเติบโตมากกว่า 15% ภายในสิ้นปี จากการกลับมาของ New beneficial สูตรใหม่และการอัดแคมเปญตลอดปี 

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ beneficial มีอัตราการเติบโตลดลงเพียง 21% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเพราะเรานำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขายสินค้าผ่าน Social Commerce/Chat Commerce รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งของ Online Platform ที่มีอยู่ และการมีฐานสมาชิกจำนวนมากถึง 3.2 ล้านคน และมี Brand loyalty สูงก็มีส่วนสำคัญ” 

โอเรียนทอล พริ้นเซส ดำเนินธุรกิจโดยใช้หลัก Customer-Centric Approach มาโดยตลอด เรารับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้เกิดความสะดวกสบายสูงสุด ตั้งแต่การขยาย E-Commerce Platform ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Seamless Omni Channel Experience หลากหลายช่องทางทั้งเว็บไซต์ และโมบายแอปพลิเคชันรวมถึง Marketplaces ต่างๆ เช่น Shopee, Lazada, Konvy, Line Shopping, TikTok Shop และ Chat Commerce เช่น การสั่งซื้อโดยตรงกับแบรนด์ผ่าน LINE OA, LINE สาขา 325 สาขา, มี Social Commerce ผ่าน Facebook, Instagram, Twitter หรือถ้าต้องการสินค้าแบบ ด่วนๆ ภายใน 1 ชั่วโมง ก็มีบริการสั่งซื้อผ่าน Mart ใน Delivery Application เช่น Grabmart, Lineman Mart, Robinhood Mart และ Panda Mart

“ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ช่วงโควิด E-Commerce โตขึ้นมาก เราเองยอดขายฝั่ง E-Commerce ก็โตขึ้น 300% นอกจากเราจะมีร้านอยู่ใน Marketplaces ที่ครอบคลุม เรามองเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาใช้ไลน์ในการคุยกับร้านค้า จึงเปิด LINE SHOP ทุกสาขา ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าจากสาขาไหนก็ได้ นอกจากนั้นเรายังพัฒนาโมบายแอปฯ รูปแบบใหม่รองรับผู้ใช้งานใน          แอปพลิเคชันกว่า 1 ล้านคนให้สามารถช้อปปิ้งได้อย่างไร้รอยต่อ หลังจากเราเปิดตัวพบว่าลูกค้าช้อปผ่านโมบายแอปฯ มากถึง 80%” 

“นอกจากความสะดวกสบายแล้ว สิ่งที่เราทำมาตลอดคือ รับประกันความพึงพอใจเพราะเราเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์สามารถเปลี่ยนคืนสินค้าได้ภายใน 14 วัน สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ทุกสาขาหรือส่งคืนทางไปรษณีย์ก็ได้ แม้สั่งซื้อสินค้าจากทางออนไลน์ก็สามารถส่งคืนหรือนำไปเปลี่ยนที่สาขาใดก็ได้ หรือสั่งซื้อจากสาขาก็สามารถส่งคืนได้ทั้งไปรษณีย์หรือสาขาใดก็ได้เช่นกัน” 

“พอเราเซ็ตรูปแบบเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม สิ่งที่แบรนด์ต้องดำเนินการในทันทีคือ เราต้องมีการเทรนนิ่งทักษะด้านออนไลน์ให้กับพนักงานทุกคน เพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดีเปรียบเสมือนไปช้อปปิ้งที่สาขา พนักงานทุกคนจะได้รับการเทรนสำหรับการให้บริการผ่าน Chat Commerce และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ” 

ส่วนเรื่องการทำแคมเปญการตลาดก็ต้องจัดอย่างต่อเนื่อง Co-promotion กับพาร์ทเนอร์หลากหลาย โดยเฉพาะปีนี้เป็นช่วงการเติบโตจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และขยายเซกเมนต์

“แม้ว่าเราจะชื่อ Oriental Princess แต่แบรนด์เราก็แข็งแกร่งสามารถสร้างยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ผู้ชาย และเติบโตขึ้นมาอยู่ใน Top 3  นอกจากนั้นเรายังขยายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มวัยรุ่น ทั้ง Underarm care และ Bikini care และ บัวฉลองขวัญ สำหรับลูกค้ากลุ่ม 40+”

หากคลี่ดูไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ โอเรียนทอล พริ้นเซส ตอนนี้พบว่า มีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย รวม 8 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1. Facial & Special Regimen 2. Body Remedy 3. Hair Remedy 4. Natural Sunscreen 5. Perfumery 6. Makeup 7. Limited Edition 8. For Men  

“เรามีผลิตภัณฑ์รวมทั้งสิ้นกว่า 500 SKUs ซึ่งหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามายาวนานกว่า 20 ปี ก็คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เมคอัพภายใต้beneficial มีสินค้ากว่า 200 SKUs ครบไลน์ของการแต่งหน้า ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ และยังมีความวาไรตี้ของผลิตภัณฑ์ให้เลือกตอบโจทย์ทุกสีผิว ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์รองพื้น คอนซีลเลอร์  แป้งผสมรองพื้น แป้งฝุ่น และเมคอัพ เบส ผลิตภัณฑ์รอบดวงตา คิ้ว มาสคาร่า อายไลเนอร์ และอายแชโดว์ ผลิตภัณฑ์สำหรับปัดแก้มที่มีให้เลือกทั้งแบบเนื้อฝุ่น และทินต์ ผลิตภัณฑ์ริมฝีปาก ทั้งลิปสติกบำรุงริมฝีปากให้ความชุ่มชื่น ลิปสติกที่สร้างสรรค์ลุคต่างๆ ทั้งแมต และฉ่ำวาว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าอ่อนโยน สบายผิว ทั้งสูตรน้ำนม และสูตรน้ำ แปรงแต่งหน้าที่ฟูนุ่มสบายผิวช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็น Special Collection หรือ Limited Edition ตามเทรนด์เมคอัพ”

“เรามีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตามปัญหาผิวต่อเนื่องจากการใช้ผลิตภัณฑ์ Facial Regimen เช่น Natural Sunscreen ควบคู่กับ beneficial กลุ่ม All Day Sun หรือ Ultimate Renewal ควบคู่กับ beneficial กลุ่ม Ultimate Coverage หรือ Red Natural Whitening Phenomenon ใช้ควบคู่กับ beneficial กลุ่ม RED เป็นต้น ซึ่งเป็นเสน่ห์ของความงามที่สมบูรณ์แบบที่ไม่เหมือนใคร”

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์น่าจะเป็นปัจจัยแรกที่ทำให้ beneficial สร้างยอดขายครอง Top 3 ของแบรนด์มาโดยตลอด อีกปัจจัยหนึ่งคงเป็นเรื่องของ ‘ราคาที่เข้าถึงง่าย’ เพราะช่วยให้ผู้บริโภคที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ สามารถทดลองสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น ที่ขาดไม่ได้คือเรื่อง ‘คุณภาพ’ จนได้รับการตอบรับอย่างดีมาโดยตลอด การันตีด้วยรางวัลจาก Beauty Guru และนิตยสารชั้นนำมากมาย  

ทว่าโจทย์ที่ท้าทายยิ่งกว่าของ โอเรียนทอล พริ้นเซส คือการปลุกความยิ่งใหญ่ของ beneficial ให้กลับมา ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดเมคอัพที่ดุเดือด ทุกแบรนด์ใช้เครื่องมือการตลาดเดียวกัน เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคเหมือนกัน ทำให้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา beneficial จึงไม่หยุดพัฒนา ปรับสูตร เปลี่ยนแพ็คเกจจิ้งใหม่ทั้งหมด เพื่อตอกย้ำความสำเร็จเมคอัพสำหรับผิวคนเอเชีย จึงเปิดตัว New beneficial ภายใต้คอนเซปต์ ‘Multiverse: สวยทุกเวอร์ฉัน’ ชูจูดเด่นเมคอัพที่สามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว ทุกการครีเอทลุค ด้วยไลน์เมคอัพครบ สวยจบในที่เดียว โดยยังจับเทรนด์ความงามในแบบที่ผู้บริโภคยุคใหม่มองหา นั่นคือความงามแบบองค์รวม ให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพ ทั้งเรื่องของความแข็งแรงจากภายใน มองหาความงามแบบธรรมชาติและหันมาสนใจในเรื่องส่วนผสมของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมสารสกัดธรรมชาติกันมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มองหาลุคที่เป็น  แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เน้นเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น ติดทนนาน ให้สีสันชัดเจนแต่ใช้เวลากับการแต่งหน้าไม่นาน  

“จุดเด่นของแบรนด์คือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ การกลับมาของ New beneficial เลยอยากให้ลูกค้าเห็นถึงความเป็นแบรนด์เมคอัพผสานธรรมชาติอย่างชัดเจน จึงไปค้นคว้าว่าสารสกัดธรรมชาติ Peony Flower Extract สารสกัดดอกพิโอนีที่โดดเด่นในด้านการให้ความชุ่มชื่นต่อผิว และช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิว จึงนำมาเป็นส่วนผสมในเมคอัพของ  New beneficial เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิวคนเอเชีย ให้คุณครีเอทลุคด้วยไลน์เมคอัพครบ สวยจบในที่เดียว สำหรับทั้งบิวตี้เลิฟเวอร์มือโปร และมือสมัครเล่น ใน New Design โดดเด่น โฉบเฉี่ยว บ่งบอกถึงความเป็นธรรมชาติ และเครื่องสำอางเข้าด้วยกัน”  

New beneficial เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนทุกเพศ ทุกวัย เพราะเชื่อว่าคนยุคใหม่แต่งหน้าตามไลฟ์สไตล์ และไม่ว่าเพศไหนๆ ก็สามารถใช้เครื่องสำอางเพื่อสร้างความมั่นใจและทำให้ตัวเองสวยในเวอร์ชันของตัวเองได้ New beneficial จึงเลือกสื่อสารผ่านไลฟ์สไตล์ และความชอบของลูกค้ามากกว่าจะเจาะไปที่กลุ่มอายุ 

“จากเดิมที่เราเคยมีสโลแกนว่า “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” ยุคนี้เรามองว่าทุกคนมีความสวยในเวอร์ชันของตัวเอง ทุกคนอยากมีสไตล์ของตัวเอง ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ของเราที่อยากให้ทุกคนสวยทุกเวอร์ฉัน เมื่อก่อนแบรนด์ต้องทำหน้าที่จุดประกายไอเดียให้กับลูกค้า แต่ตอนนี้บทบาทของแบรนด์เปลี่ยนไป เราทำหน้าที่เพียงซัพพอร์ตลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อตอบทุกความต้องการด้านความงามของลูกค้าทุกคนซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เราสามารถแข่งขันในตลาดเมคอัพได้อย่างยั่งยืน”  

อภัยพร ย้ำว่าการกลับมาของ New beneficial ครั้งนี้ยิ่งใหญ่แน่นอน เพราะจะเดินหมากแบบเต็มสูบทำตลาด 360 องศา ทั้ง Above the Line  และ Below the Line เริ่มตั้งแต่งานอีเวนท์สร้างการรับรู้ถึงการกลับมาของ New beneficial และการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด #สวยทุกเวอร์ฉัน ออนแอร์ช่องฟรีทีวีรวมถึงดิจิทัลทีวีและสื่อ OOH จอดิจิทัล ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และช่องทาง Social media ออนไลน์ (Facebook, YouTube, Instagram, Twitter, TikTok, LINE, LINELAP) รวมถึงหน้าร้าน Oriental Princess อีกกว่า 325 สาขา พร้อมทั้งจัดกิจกรรมแจกของรางวัลบนช่องทางโซเชียลมีเดียรวมไปถึง beneficial makeup looks ที่หลากหลายเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ลุคแต่งหน้าสวยในเวอร์ชันของคุณ 

“ปัจจุบันเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนเรื่องพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ลูกค้ากล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ กล้าที่จะสั่งซื้อเมคอัพออนไลน์แม้จะไม่ได้ทดลองสินค้าจริง สิ่งหนึ่งที่เราจะช่วยซัพพอร์ตให้เขาสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นคือเรามี Makeup Virtual Try-on ที่ให้ลูกค้าเข้าถึงทุกผลิตภัณฑ์ของเราได้จากทุกที่ด้วยเทคโนโลยี AR ได้ทดลอง และเห็นผลลัพธ์สีใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น สนุกกับสีสันมากขึ้น”   

สัดส่วนการทำตลาด Above the Line และ Below the Line อภัยพร บอกว่า ให้ความสำคัญเท่ากัน ถ้าต้องการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง Above the Line ยังจำเป็น ด้าน Below the Line นำมาหล่อเลี้ยงไปตลอดทั้งแคมเปญ และยังเลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ชัดขึ้น 

“ยอมรับว่าตลาดเมคอัพเป็นอะไรที่ท้าทายมาก ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะ และเขาก็สามารถใช้หลายๆ แบรนด์พร้อมกันได้เวลาจะแต่งหน้า แต่เราก็เชื่อมั่นว่าถ้าลูกค้าได้มาลอง New beneficial สักครั้งหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นในกระเป๋าเครื่องสำอางของเขาจะต้องมีแบรนด์เราอยู่ในนั้นแน่นอน” อภัยพร กล่าวทิ้งท้าย 

สัมผัสสินค้าทุกผลิตภัณฑ์ทุกสีผ่านจากทุกที่ได้เลยตอนนี้ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อทดลองสินค้าแบบ Makeup Virtual Try-on หรือจะแวะเข้าไปทดลองสินค้าจริงที่ร้าน Oriental Princess 325 สาขาทั่วประเทศก็ได้ 

The post อ่านเกม ‘โอเรียนทอล พริ้นเซส’ กับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ ‘New beneficial’ ภายใต้คอนเซปต์ Multiverse: สวยทุกเวอร์ฉัน [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.