ORI – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 17 Nov 2023 07:45:19 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ORI กวาดยอดขายบ้าน-คอนโด 9 เดือนแรกปี 66 ทะลุ 36,940 ล้าน ฝั่งธนฯ-ต่างจังหวัดคึกต่อเนื่อง ดันยอดขายรวมทะลุกว่า 80% ของเป้าทั้งปี https://thestandard.co/ori-home-and-condo-sales/ Fri, 17 Nov 2023 07:45:19 +0000 https://thestandard.co/?p=866788 พีระพงศ์ จรูญเอก

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้ […]

The post ORI กวาดยอดขายบ้าน-คอนโด 9 เดือนแรกปี 66 ทะลุ 36,940 ล้าน ฝั่งธนฯ-ต่างจังหวัดคึกต่อเนื่อง ดันยอดขายรวมทะลุกว่า 80% ของเป้าทั้งปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
พีระพงศ์ จรูญเอก

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 3/66 (กรกฎาคม-กันยายน 2566) บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ 12,475 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 7% แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 75% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ซึ่งเป็นบริษัทในเครือประมาณ 25% 

 

หากเทียบตามสถานะโครงการ เป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) ราว 57% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขาย (New Launch) และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) ประมาณ 43% ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัยสะสมแล้วกว่า 36,940 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 26% และคิดเป็น 82% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 

 

“การเดินหน้าเจาะทำเลศักยภาพใหม่ๆ ทั่วประเทศ ตามแผนงาน Origin Infinity ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญให้เราสามารถกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาดลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะยังอยู่ในสภาวะทรงตัว แต่เรายังเห็นความต้องการซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน ในทำเลศักยภาพหลายทำเล เช่น โซนฝั่งธนบุรีและโซนหัวเมืองขนาดใหญ่อย่างภูเก็ตและขอนแก่น” 

 

 ช่วงไตรมาส 4/66 (ตุลาคม-ธันวาคม 2566) บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 15,550 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,650 ล้านบาท โดยยังคงใช้ 3 แบรนด์หลักในการบุกตลาด กระจายตัวทั้งในกรุงเทพฯ เช่น ปิ่นเกล้า สุขุมวิท ตลอดจนหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น พัทยา บางแสน นครราชสีมา 

 

และโครงการบ้านจัดสรร 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,900 ล้านบาท เน้นเจาะตลาดแมสด้วยแบรนด์บริทาเนีย (Britania) พร้อมทั้งเสริมทัพด้วยแบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่างแกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) และแบรนด์ลักชัวรีอย่างเบลกราเวีย (Belgravia) กระจายตัวทั้งในฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ เช่น ราชพฤกษ์ บางนา-บางปะกง เวสต์เกต 

 

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่สะสมยอดขายไว้แล้วกว่า 82% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี และแผนการดำเนินงานที่กระจายตัวเปิดโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายทั้งปี 45,000 ล้านบาท

The post ORI กวาดยอดขายบ้าน-คอนโด 9 เดือนแรกปี 66 ทะลุ 36,940 ล้าน ฝั่งธนฯ-ต่างจังหวัดคึกต่อเนื่อง ดันยอดขายรวมทะลุกว่า 80% ของเป้าทั้งปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
คาด ‘กลุ่มอสังหา’ โกยกำไรไตรมาส 2 ปีนี้รวม 6.7 พันล้านบาท ยอดขายทะลุ 8.12 หมื่นล้านบาท https://thestandard.co/property-sector-strong-growth-q2/ Tue, 08 Aug 2023 04:01:20 +0000 https://thestandard.co/?p=826756

โบรกเกอร์คาดผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ […]

The post คาด ‘กลุ่มอสังหา’ โกยกำไรไตรมาส 2 ปีนี้รวม 6.7 พันล้านบาท ยอดขายทะลุ 8.12 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

โบรกเกอร์คาดผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์งวดไตรมาส 2/66 จะมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.7 พันล้านบาท ยอดขายทะลุ 8.12 หมื่นล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อน แต่แย่ลงจากงวดปีก่อน ด้านผู้ประกอบการยังเดินหน้าธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ แม้ภาพรวมยังเสียงแตก ไม่มั่นใจการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผลกระทบจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า

 

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ปี 2566 นำร่องโดย บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) พบว่ามีกำไรสุทธิ 87.10 ล้านบาท ลดลง 40.92% ส่วน 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท ลดลง 31.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดขายที่ลดลง

 

ยอดขาย กำไร Q2/66 หด

 

ทั้งนี้ โบรกเกอร์ประเมินว่า โดยภาพรวมผลประกอบการของ บจ. กลุ่มนี้ ทั้งยอดขายและกำไรหลักจากการดำเนินงาน จะเติบโตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบแบบไตรมาสต่อไตรมาส แต่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 

 

โดยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส คาดการณ์ว่า ยอดขาย (Presale) ของผู้ประกอบการจำนวน 15 ราย จะอยู่ที่ 8.12 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลงเล็กน้อย 1.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 

 

สินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียมเติบโตได้ดีเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสและงวดปี คิดเป็นอัตรา 2% และ 14% ตามลำดับ อยู่ที่ 3.86 หมื่นล้านบาท หรือสัดส่วน 48% ของภาพรวม ขณะที่แนวราบมียอดขาย 4.25 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 52% ของตลาด

 

ขณะที่ครึ่งปีแรกมียอดขายสะสมอยู่ที่ 1.57 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 44% ของทั้งปีนี้ที่ 3.55 แสนล้านบาท และมีการเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 104 โครงการ มีมูลค่ารวม 1.38 แสนล้านบาท คิดเป็น 30% ของแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งปี 2566 

 

ส่วนครึ่งหลังของปีนี้ ประเมินว่ายอดขายจะสูงกว่าครึ่งปีแรกตามแผนเปิดโครงการใหม่ และการส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินภาพรวมกำไรหลักไตรมาส 2 ไว้ที่ 6.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 9% จากงวดปีก่อน 

 

กำไรหลักที่ลดลงจากปีก่อนเป็นผลมาจากยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยลดลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น ส่วนการเติบโตของกำไรหลักเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ได้รับแรงหนุนจากยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น 

 

ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้ที่อยู่อาศัยโดยรวมจะอยู่ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 5% จากปีก่อน และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่อยู่อาศัยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 33.3% ลดลงจาก 33.9% ในไตรมาส 2 ปี 2565 และ 34.2% ในไตรมาส 1 ปีนี้

 

ตลาดอสังหาโตต่ำกว่าคาดการณ์

 

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นั้น ผู้ประกอบการยังมีมุมมองที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่ายังเติบโตได้ ขณะที่บางส่วนคาดว่าจะทรงตัว ทำให้ทั้งปีนี้เติบโตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งทั้งหมดจะอ้างอิงการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

 

โดย อภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ รักษาการประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ (SIRI) ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH ระบุว่า ภาคอสังหาจะอ้างอิง GDP ปัจจุบัน แม้จะมีปัญหาด้านการส่งออก แต่การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวก็เข้ามาช่วยสนับสนุน จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะยังเติบโตได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ราคาพืชผลทางการเกษตรโลกมีปัญหา และภาวะเอลนีโญ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยบ้าง

 

ส่วน ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) มองว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะเติบโตไม่มาก สะท้อนจากครึ่งแรกของปีนี้ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้เพียง 2-3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 5% โดยความไม่ชัดเจนทางการเมือง การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า ส่งผลให้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดจากการลงทุนสะดุด กำลังซื้อลดลงเพราะขาดความเชื่อมั่น ขณะที่ต่างชาติชะลอทั้งการซื้อและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยลง

 

คงเป้าการเติบโตทั้งปีนี้

 

อภิชาติกล่าวว่า SIRI ยังคงเป้าหมายแผนงานทั้งปี 2566 นี้ โดยจะเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท ทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

 

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะมียอดขายที่ 55,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ราว 40,000 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นการสร้างผลงาน All Time High ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ เนื่องจากสินค้าของบริษัทกระจายอยู่ในทุกเซกเมนต์ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

 

ส่วนตลาดลูกค้าต่างชาติยังไม่ได้รับผลกระทบหรือมีการชะลอการซื้อ ดังนั้น ทั้งปีนี้ยังคงเป้ายอดขายตลาดต่างชาติที่ 12,000 ล้านบาท 

 

เช่นเดียวกับประเสริฐที่ยืนยันว่า ANAN จะรับรู้รายได้ทั้งปี 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท ตามแผนเติบโต 20% จากปีก่อน เนื่องจากยอดโอนเติบโตต่อเนื่อง และคาดว่ายอดโอนในเดือนสิงหาคมจะดีกว่าเดือนกรกฎาคม เพราะเพียง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการทยอยโอนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโครงการแอชตัน อโศก ลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อมั่นและเข้าใจสถานการณ์ดีว่าเป็นเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการเดียว ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

 

อย่างไรก็ตาม ภายในไตรมาส 2 และ 3 นี้ อาจมีการทยอยตั้งสำรองฯ จากโครงการดังกล่าว ดังนั้น หากไม่รวมผลการตั้งสำรองฯ ภาพโดยรวมของ ANAN ถือว่ามีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น

 

หุ้นอสังหาน่าลงทุน

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มอสังหา ‘เท่าตลาด’ เลือกหุ้นเด่นที่มีพื้นฐานดี แนวโน้มกําไรปกติทั้งปีทำนิวไฮ (New High) และจ่ายปันผลจูงใจ ประกอบด้วย บมจ.แสนสิริ (SIRI), บมจ.ออริจิ้น (ORI) และ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงมอง SIRI, บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) และ บมจ.เอพี ไทยแลนด์ (AP) จะเป็นผู้นำการเติบโตของกำไร เมื่อมองไปยังไตรมาส 3 ปีนี้มีแนวโน้มที่ดี โดยมีการเปิดตัวโครงการ มียอดจองซื้อและยอดโอนโครงการที่เพิ่มขึ้น

The post คาด ‘กลุ่มอสังหา’ โกยกำไรไตรมาส 2 ปีนี้รวม 6.7 พันล้านบาท ยอดขายทะลุ 8.12 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
ครั้งแรกในไทย ‘ORI’ ขายโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอ็กซ์’ ลงทุนคอนโดหรูกลางเมือง ชูจุดเด่นผลตอบแทนสม่ำเสมอ การันตีรายรับสุทธิ 5 ปีแรก 4-5% https://thestandard.co/ori-sells-digital-tokens-realx/ Thu, 27 Apr 2023 09:29:15 +0000 https://thestandard.co/?p=782216 RealX ORI

‘เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล-ออริจิ้น-โทเคน เอกซ์’ เปิ […]

The post ครั้งแรกในไทย ‘ORI’ ขายโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอ็กซ์’ ลงทุนคอนโดหรูกลางเมือง ชูจุดเด่นผลตอบแทนสม่ำเสมอ การันตีรายรับสุทธิ 5 ปีแรก 4-5% appeared first on THE STANDARD.

]]>
RealX ORI

‘เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล-ออริจิ้น-โทเคน เอกซ์’ เปิดตัวโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ‘เรียลเอ็กซ์’ (RealX) นวัตกรรมใหม่เพื่อเข้าถึงการลงทุนคอนโดหรูใจกลางเมือง 3 โครงการของเครือออริจิ้นโดยไม่ต้องซื้อคอนโดทั้งยูนิต เพื่อรับโอกาสธุรกิจอสังหาฟื้นตัว ชูจุดเด่นสินทรัพย์อยู่ในทำเลศักยภาพสูงและมีมูลค่าเพิ่ม พร้อมรับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่า และการันตีรายรับสุทธิของโครงการในปีที่ 1-5 อัตรา 4-5% ต่อปี และปีที่ 6-10 รับผลตอบแทนรายไตรมาสจากการขายคอนโดและค่าเช่า เตรียมความพร้อมเสนอขายไม่เกิน 19,230,769 โทเคน ที่ราคาเสนอขาย 182 บาทต่อโทเคน คาดจองวันที่ 12-23 มิถุนายนนี้ 

 

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ‘พาร์ค ออริจิ้น’ พร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็น Pain Points ของผู้ที่ต้องการลงทุนในคอนโดมิเนียมลักชัวรีใจกลางเมือง แต่ต้องสูญเสียโอกาสเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเงินทุนที่ไม่สามารถซื้อคอนโดได้ทั้งยูนิต จึงร่วมกับบริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด และบริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด นำเสนอนวัตกรรมการลงทุนคอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย 

 

โดยเลือกคอนโดมิเนียม ‘พาร์ค ออริจิ้น’ 3 ทำเลใจกลางเมืองที่เป็นไพร์มโลเคชัน ได้แก่ พร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ จำนวน 361 ยูนิต มาใช้เป็นสินทรัพย์อ้างอิงในการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ทำให้การลงทุนมีขนาดย่อยลง เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น

 

ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ในฐานะผู้ออกโทเคนดิจิทัล กล่าวว่า การออกและเตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ‘เรียลเอ็กซ์ (RealX Investment Token) มาจากแนวคิดการนำคอนโดพาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ ไม่เกิน 138 ยูนิต พาร์ค ออริจิ้น พญาไท ไม่เกิน 123 ยูนิต และพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ไม่เกิน 100 ยูนิต มาแปลงเป็นหน่วยการลงทุนที่มีขนาดเล็กลง โดย 1 โทเคนดิจิทัลจะเทียบเท่าการลงทุนในพื้นที่คอนโดประมาณ 1 ตารางนิ้ว (Fractionalization) เพื่อให้คนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถลงทุนได้ด้วยรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล

 

การลงทุนในโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอ็กซ์’ มีอายุโครงการ 10 ปีนับจากวันที่เริ่มโครงการ โดยผู้ถือโทเคนดิจิทัลดังกล่าวจะได้รับผลตอบแทน 2 ส่วน ประกอบด้วย

 

  1. ปีที่ 1-5 รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิของคอนโดทั้ง 3 โครงการที่เป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดยบริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI จะประกันรายรับสุทธิของโครงการที่ 4%, 4.25%, 4.50%, 4.75% และ 5% ต่อปีของมูลค่าเสนอขายโทเคนดิจิทัลตามลำดับ 

 

  1. ปีที่ 6-10 มีโอกาสรับส่วนต่างราคาคอนโดที่สูงขึ้นใน 6 ปีข้างหน้า กล่าวคือในปีที่ 6 จะนำห้องว่างที่ไม่ถูกเช่ามาขายในราคาตลาดช่วงนั้นๆ ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่าราคาในปัจจุบัน โดยในปีที่ 6-10 ขายปีละ 10%, 15%, 20%, 25% และ 30% ของจำนวนยูนิตที่มีตามลำดับ และเมื่อขายได้จะกระจายคืนให้ผู้ถือโทเคนในปีที่ 6 เป็นต้นไป และยังคงได้รับผลตอบแทนตามจริงจากการนำห้องชุดที่ไม่ได้มีการขายออกมาปล่อยเช่า โดยผู้ถือโทเคนจะยังคงได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาส

 

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอกซ์’ รายละไม่เกิน 300,000 บาท ในเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดจองซื้อโทเคนระหว่างวันที่ 12-23 มิถุนายน 2566 โดยในการจองซื้อดังกล่าว บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จะเข้ามาจองซื้อเพื่อลงทุนประมาณ 10% ของจำนวนโทเคนที่เสนอขาย 

 

และปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการนำโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอ็กซ์’ เข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากกระทรวงการคลัง ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อรองรับการซื้อขายในตลาดรอง โดยขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดรองที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDX) หรือแพลตฟอร์ม Bitkub แต่ก็มีโอกาสที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดรองทั้ง 2 แห่ง  

 

จุดเด่นการลงทุนในโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอ็กซ์’ คือคอนโดที่นำมาเป็นสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง เป็นที่ต้องการของผู้เช่า และเป็นการกระจายการลงทุนพร้อมกันในย่านทำเลใจกลางเมือง โดยโครงการได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัย อยู่ในสภาพใหม่และมีการดูแลรักษาที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน เพิ่มโอกาสสร้างรายได้จากค่าเช่า รวมถึงมีการรับประกันรายรับสุทธิแก่โครงการที่แน่นอนในช่วง 5 ปีแรก นอกจากนี้คอนโดทั้ง 3 โครงการดังกล่าวจะบริหารจัดการโดย บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการบริหารอสังหาริมทรัพย์

 

จิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลถือเป็นเทรนด์การลงทุนรูปแบบใหม่ที่กำลังมีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะ ‘โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน’ ซึ่งนำสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ เช่น คอนโดมิเนียม เป็นต้น มาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัล (Tokenization) เพื่อแบ่งเป็นหน่วยลงทุนขนาดเล็ก เพิ่มโอกาสเข้าถึงการลงทุนแก่คนรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อซื้อคอนโดทั้งยูนิต

 

‘เรียลเอ็กซ์’ เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ที่นำคอนโดพาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ รวม 361 ยูนิต มาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง และในการทำธุรกรรมยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขาย Investment Token นั้น นอกจากจะได้รับการกำกับดูแลจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว ระบบงาน ICO Portal ของ Token X มีการเตรียมความพร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ ได้รับการตรวจสอบจากที่ปรึกษาทั้งภายในและภายนอก 

 

อีกทั้งยังมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ทำหน้าที่เป็นทรัสตีที่ช่วยดูแลจัดการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนที่ลงทุนในโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอ็กซ์’ พร้อมทั้งบริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ทำหน้าที่ในการเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนอีกด้วย

 

ทั้งนี้ ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัล เรียลเอ็กซ์ ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) มีจำนวนไม่เกิน 19,230,769 โทเคน ที่ราคา 182 บาทต่อโทเคน รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 3,500 ล้านบาท โดยจะนำเงินไปลงทุนในสัญญา RSTA (Revenue Sale and Transfer Agreement) ให้ได้กระแสรายรับจากทรัพย์สินของโครงการจากบริษัท เรียล เอสเตท อินทิเกรชั่น จำกัด ซึ่งจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์คอนโดพาร์ค ออริจิ้น ทั้ง 3 ทำเล เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรม ชำระเงินกู้ยืมจากการระดมทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของผู้ออกโทเคนดิจิทัล 

 

โดยผู้ลงทุนที่ชำระเงินก่อนจะได้รับสิทธิจัดสรรก่อน (First Come, First Served) ซึ่งปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน และร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อขอเสนอขายโทเคนดิจิทัลเรียลเอ็กซ์ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) ได้รับการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

The post ครั้งแรกในไทย ‘ORI’ ขายโทเคนดิจิทัล ‘เรียลเอ็กซ์’ ลงทุนคอนโดหรูกลางเมือง ชูจุดเด่นผลตอบแทนสม่ำเสมอ การันตีรายรับสุทธิ 5 ปีแรก 4-5% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ORI ไม่หวั่นโควิดระลอกใหม่ ชี้การปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค คือกุญแจสำคัญหนุนรายได้ปีนี้เติบโตเข้าเป้า 20% https://thestandard.co/ori-real-estate-business/ Mon, 12 Jul 2021 13:25:34 +0000 https://thestandard.co/?p=511785 ORI

สถานการณ์โควิดในประเทศซึ่งระบาดหนักขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 […]

The post ORI ไม่หวั่นโควิดระลอกใหม่ ชี้การปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค คือกุญแจสำคัญหนุนรายได้ปีนี้เติบโตเข้าเป้า 20% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ORI

สถานการณ์โควิดในประเทศซึ่งระบาดหนักขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจในประเทศต่างถูกกดดันไปตามๆ กัน เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นอกจากจะเผชิญกับความกังวลในเรื่องของกำลังซื้อ ยังมีเรื่องของมาตรการควบคุมจากภาครัฐที่อาจกระทบต่อการพัฒนาโครงใหม่ๆ 

 

อย่างไรก็ตาม ในมุมของ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ดูเหมือนว่าจะไม่ได้กังวลกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิดมากนัก โดย พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI มองว่า สถานการณ์ตอนนี้คล้ายกับเมื่อปีก่อนที่มีการล็อกดาวน์เกิดขึ้น แต่ในมุมของ ORI ยังคงมองบวกต่อแนวโน้มของบริษัท ซึ่งมีสัญญาณที่ดีจากยอดขายบ้านจัดสรรที่ดีขึ้น

 

“ปัจจุบันคนต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น จากเดิมที่อาจจะใช้เวลาแค่ช่วงเย็น แต่ตอนนี้กลับต้องการพื้นที่ในบ้านมากขึ้น ทำให้คนที่ยังมีกำลังซื้อมองหาบ้านมากขึ้นในช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา” 

 

จากผลประกอบการไตรมาสแรกจะเห็นว่าบริษัทยังเติบโตได้ค่อนข้างดี ส่วนทั้งปีนี้บริษัทวางเป้าหมายรายได้ไว้เติบโต 20% จากปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทมีสต๊อกในมือที่พร้อมขายคิดเป็นมูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตของบริษัทไปได้อีกประมาณ 1 ปี และในระหว่างนี้บริษัทก็พยายามเร่งพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผลประกอบการของบริษัทขาดช่วง 

 

ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้แนวราบเติบโตสูงมาก ในส่วนของบริษัทเองจาก 3-4 ปีก่อนแทบจะไม่มีรายได้จากแนวราบเลย ปัจจุบันก็เพิ่มมาเป็น 30% ของรายได้ และในอีก 2-3 ปีข้างหน้าคาดว่าสัดส่วนรายได้ของแนวราบน่าจะขยับขึ้นมาเท่าๆ กับรายได้จากคอนโดมิเนียม

 

แม้ว่าภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะถูกกระทบในช่วงโควิดที่ผ่านมา แต่ในส่วนของ ORI ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก 

 

พีระพงศ์กล่าวว่า ในทุกธุรกิจจะมีคนชนะกับคนแพ้ คนที่แก้เกมได้ก็จะยังสามารถเติบโตได้ โดยรวมแล้วธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โตตาม GDP ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีทั้งคนที่ทำได้สูงกว่า GDP และคนที่ทำได้ต่ำกว่า GDP 

 

สำหรับ ORI ที่ยังเติบโตได้นั้นมีปัจจัยแห่งความสำเร็จคือ การเข้าใจความต้องการของลูกค้า และเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป เช่น ความต้องการพื้นที่ส่วนตัวในบ้านจากการที่ทุกคนใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น

 

“บางคนอาจจะมองว่าความต้องการในส่วนของอสังหาฯ มันนิ่ง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะคนเราเปลี่ยนทุกวัน แต่บางครั้งคนก็อาจจะไม่รู้ว่าเขาอยากได้อะไร เราต้องพยายามหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างดีมานด์ หากสามารถทำได้ก็จะช่วยให้เราขายได้” 

 

ทั้งนี้ ORI เตรียมที่จะนำบริษัทย่อยคือ บมจ.บริทาเนีย (BRI) ซึ่งทำธุรกิจบ้านจัดสรรในเครือ ORI โดยวางแผนจะยื่นไฟลิ่งช่วงไตรมาส 3 นี้ หลังก่อตั้งไม่ถึง 5 ปี 

 

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า ประเด็นนี้เป็นบวกต่อ ORI หลังประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในการหันมารุกตลาดบ้านแนวราบเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ จากเดิมที่เน้นแต่คอนโดมิเนียม ปัจจุบันตลาดบ้านแนวราบขายดีมากในช่วงที่มีการทำงานที่บ้าน โดย ORI คาดว่าปีนี้จะสามารถติดลำดับ 1 ใน 10 ของตลาดบ้านแนวราบ เพราะจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ราว 4 พันล้านบาท และตั้งเป้าหมายว่าในอนาคตจะติดลำดับ 1 ใน 5 ของตลาด

 

สำหรับความคืบหน้าบ้านแนวราบในงวดไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คือ 

 

  1. เปิดขายใหม่ 2 โครงการ ได้ยอดขายถึงปัจจุบันมาราว 5 ร้อยล้านบาท 
  2. โอนบ้านแนวราบในไตรมาส 2 ทำสถิติสูงสุด และทั้งปีวางเป้าโอน 4 พันล้านบาท
  3. ยอดขายไตรมาส 2 ที่ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน เป็นแนวราบในสัดส่วน 25% 

 

ส่วนทั้งปี 2564 วางเป้าเปิดขายโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 1.04 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม 9.6 พันล้านบาท ส่วนเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท จะเป็นสถิติสูงสุดใหม่ 

The post ORI ไม่หวั่นโควิดระลอกใหม่ ชี้การปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค คือกุญแจสำคัญหนุนรายได้ปีนี้เติบโตเข้าเป้า 20% appeared first on THE STANDARD.

]]>