NVIDIA – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sun, 19 Jan 2025 06:20:25 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ล่องคลื่นความผันผวน สู่ฝั่งฝันแห่งโอกาสใหม่ในตลาดหุ้นเวียดนาม https://thestandard.co/vietnam-stock-market-investment-analysis-2024/ Sun, 19 Jan 2025 06:20:25 +0000 https://thestandard.co/?p=1031857 กราฟแสดงการเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนามและการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

“I will return to Vietnam, to NVIDIA’s second hom […]

The post ล่องคลื่นความผันผวน สู่ฝั่งฝันแห่งโอกาสใหม่ในตลาดหุ้นเวียดนาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
กราฟแสดงการเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนามและการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

“I will return to Vietnam, to NVIDIA’s second homeland”

Jensen Huang, CEO of NVIDIA

 

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา NVIDIA ประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามในการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งแรกในประเทศ ซึ่งจะกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม AI สำหรับ NVIDIA พันธมิตรทางธุรกิจ นักวิจัย และสตาร์ทอัพในเวียดนาม เพื่อประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น การแพทย์ การศึกษา การขนส่ง และการเงิน

 

โดยตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา NVIDIA ได้ลงทุนในเวียดนามด้วยมูลค่ารวมกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งสนับสนุนสตาร์ทอัพด้าน AI มากกว่า 100 ราย และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกว่า 65 แห่งทั่วประเทศ ท่ามกลางแรงผลักดันของรัฐบาลเวียดนามที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

 

NVIDIA เป็นตัวอย่างหนึ่งในบรรดาบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เลือกลงทุนในเวียดนาม และยังมีบริษัทข้ามชาติรายใหญ่อื่นๆ เช่น Apple, Samsung และ Nike ที่เข้ามาลงทุนในประเทศนี้ นอกจากนี้ SpaceX บริษัทของ อีลอน มัสก์ ยังแสดงความตั้งใจที่จะลงทุนในเวียดนามด้วยมูลค่าสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเวียดนามในการก้าวเข้ามาเป็นจุดหมายปลายทางของการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม ดัชนี VN Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น +12.1% ในปี 2024 ที่ผ่านมา และยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2025 ดังต่อไปนี้ แม้จะอยู่ภายใต้สภาวะที่ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเผชิญกับความผันผวนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ประการที่ 1 เศรษฐกิจเวียดนามยังคงเติบโตในระดับสูงต่อเนื่องจากปี 2024 โดยรัฐบาลตั้งเป้าเศรษฐกิจเติบโตกว่า 8% ในปี 2025 โดยจากรายงานของสำนักงานสถิติเวียดนาม (General Statistics Office: GSO) ในปี 2024 GDP เวียดนามขยายตัว +7.09%YoY โดยประมาณ สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 6.50-7.00% และมีทิศทางการเติบโตอย่างเด่นชัด โดย GDP เวียดนามขยายตัวในไตรมาสที่ 4/24 ที่ +7.55%YoY เร่งตัวจาก +7.43%YoY ในไตรมาสที่ 3/24, +7.25%YoY ในไตรมาสที่ 2/24 และ +5.98% ในไตรมาสที่ 1/24 จากแรงสนับสนุนในภาคการผลิตและการส่งออก

 

สำหรับปี 2025 สมัชชาแห่งชาติเวียดนามกำหนดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 6.50-7.00% พร้อมกับความพยายามเพื่อให้บรรลุการเติบโตที่สูงแตะระดับ 7.00-7.50% โดยในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม 2024 นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ออกคำสั่งสำคัญถึงสองครั้งเกี่ยวกับการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งสั่งการให้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตที่สูงกว่า 8% และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตั้งเป้าหมายการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลัก (Double-Digit Growth) ซึ่งต้องทำให้สำเร็จอย่างน้อยในช่วง 20 ปีข้างหน้า เพื่อให้เวียดนามกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูง

 

ในส่วนของมุมมองจากภาคเอกชน Vietnam Investment Review ณ วันที่ 13 มกราคม 2025 ได้รวบรวมความคิดเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันการเงินระดับโลก 23 แห่ง ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2025 จะขยายตัวเฉลี่ยที่ +6.50%YoY โดยมีการประเมินอัตราการเติบโตสูงสุดที่ +7.2%YoY จาก Fitch Solutions และต่ำสุดที่ +5.4%YoY จาก J.P.Morgan Securities ถึงแม้การคาดการณ์จะแตกต่างกันไป แต่ภาพรวมยังสะท้อนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคและทั่วโลก ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

 

ประการที่ 2 รัฐบาลเวียดนามเพิ่มงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่หนี้สาธารณะเทียบกับ GDP อยู่ในระดับต่ำ รัฐบาลเวียดนามได้ตั้งเป้าการใช้จ่ายในด้านการลงทุนและพัฒนาสำหรับปี 2025 ไว้ที่ประมาณ 3.16 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 30% จากเป้าหมายเดิม และเพิ่มขึ้น 16.7% จากแผนปี 2024 ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้คาดการณ์การขาดดุลทางการคลังในปี 2024 ไว้ที่ 1.58 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.4% ของ GDP และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.8% ของ GDP ในปี 2025 การเพิ่มงบประมาณดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง

 

นอกจากนี้ระดับหนี้สาธารณะของเวียดนามที่ยังคงอยู่ในระดับเพียง 37% ของ GDP ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับรัฐบาลในการขยายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อวินัยทางการคลัง ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจและรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ในกรณีที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหรือผลกระทบจากปัจจัยภายนอก (External Shock) ขณะเดียวกันการปฏิรูปกฎหมายสำคัญหลายฉบับมีกำหนดเริ่มบังคับใช้ในปี 2025 ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่ดิน กฎหมายการลงทุนสาธารณะ และกฎหมายการประกอบกิจการไฟฟ้า ซึ่งเราคาดว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ

 

ประการที่ 3 ตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสได้รับการยกระดับจากตลาดชายขอบ (Frontier Market) เป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ภายในปี 2025 การแก้ไขกฎหมายหลักทรัพย์ของเวียดนามเพิ่มโอกาสที่ FTSE จะปรับสถานะของเวียดนามจากตลาดชายขอบเป็นตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจากการประเมินของ Vietcap Securities คาดว่าการปรับสถานะโดย FTSE จะส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดผ่านกองทุน ETF ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การปรับสถานะโดย MSCI อาจดึงดูดเงินทุนเพิ่มขึ้นถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอิงจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับด้วยสัดส่วนหุ้นที่หมุนเวียน (Float-Adjusted Market Capitalization) ของ FTSE และ MSCI ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2024 พบว่าตลาดหุ้นเวียดนามคิดเป็นประมาณ 0.5% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของตลาดเกิดใหม่

 

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงสำคัญที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นเวียดนามคือความไม่แน่นอนในการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวียดนามที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยมูลค่าการส่งออกของประเทศคิดเป็น 81% ของ GDP โดยเวียดนามได้รับประโยชน์อย่างมากจากนโยบายการผลิต ‘China+1’ หรือการกระจายฐานการผลิตออกจากจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากจีน (Foreign Value Added) ในสินค้าส่งออกของเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากค่าเฉลี่ย 12% ในช่วงปี 2016-2017 เป็น 18% ในช่วงปี 2022-2023 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แสดงถึงบทบาทสำคัญของจีนในห่วงโซ่อุปทานการส่งออกของเวียดนาม

 

ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้กลายเป็นตลาดปลายทางที่สำคัญที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกของเวียดนาม โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติเวียดนามระบุว่า เวียดนามมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงถึง 1.046 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 และตามการคาดการณ์ของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (Ministry of Industry and Trade: MoIT) มูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นแตะ 1.197 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีเดียวกัน คิดเป็น 29.5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสหรัฐฯ ในฐานะคู่ค้าหลักและตลาดปลายทางสำหรับสินค้าส่งออกของเวียดนาม

 

ในมุมมองของเรา ผลกระทบจากนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์สมัยที่สองยังคงไม่ชัดเจน แต่ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต่อภาคการส่งออกของเวียดนามมีแนวโน้มเกิดขึ้นอย่างจำกัด แม้ว่าสินค้าส่งออกของเวียดนามบางประเภทอยู่ในห่วงโซ่การผลิตที่เกี่ยวข้องกับจีนและอาจมีผู้ผลิตจีนใช้เวียดนามเป็นช่องทางในการส่งออกสินค้า แต่เราคาดว่าสินค้าส่งออกจากเวียดนามจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าสินค้าส่งออกที่มาจากจีนโดยตรง

 

ขณะเดียวกัน เวียดนามมีการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ อีกทั้งยังเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreements: FTAs) ถึง 20 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมประเทศคู่ค้ากว่า 50 ประเทศ โดยในจำนวนนี้มี 16 ฉบับที่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ความร่วมมือเหล่านี้ช่วยลดอุปสรรคทางการค้ากับประเทศคู่ค้า และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการแข่งขันของเวียดนาม นอกจากนี้สินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม เช่น เครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ ยังเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของพันธมิตรของสหรัฐฯ ซึ่งลดความเสี่ยงต่อการกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าประเภทดังกล่าวลง

 

สุดท้ายนี้ เราคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์อาจมีการเจรจาเพื่อกำหนดข้อตกลงทางธุรกิจที่เอื้อต่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ หากผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์มีอยู่อย่างจำกัดจริง เรามองว่าตลาดหุ้นเวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูง สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งนักลงทุนไม่ควรมองข้าม

ภาพ: Dilok Klaisataporn / Shutterstock

The post ล่องคลื่นความผันผวน สู่ฝั่งฝันแห่งโอกาสใหม่ในตลาดหุ้นเวียดนาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
สรุปไฮไลต์ NVIDIA ในงาน CES 2025 จากการเปิดตัวโมเดล Cosmos และ AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ส่วนตัวราคา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ https://thestandard.co/nvidia-ces-2025/ Tue, 07 Jan 2025 10:39:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1027935 NVIDIA

เจนเซน หวง ซีอีโอของ NVIDIA บริษัทผู้นำด้านการออกแบบชิป […]

The post สรุปไฮไลต์ NVIDIA ในงาน CES 2025 จากการเปิดตัวโมเดล Cosmos และ AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ส่วนตัวราคา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ appeared first on THE STANDARD.

]]>
NVIDIA

เจนเซน หวง ซีอีโอของ NVIDIA บริษัทผู้นำด้านการออกแบบชิปเซมิคอนดักเตอร์ ขึ้นเวทีงาน CES 2025 งานโชว์เคสนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก พร้อมประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ NVIDIA ทั้งชิปตัวใหม่รวมถึงซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำในแวดวงธุรกิจ AI ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

ในการขึ้นเวทีครั้งนี้ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เจนเซนฉายภาพให้เห็นโลกอนาคตที่ AI จะถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจ โดยเขาต้องการเห็นผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA เข้าไปอยู่ใจกลางของโลกอนาคตที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีผ่านการมาของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์นับพันล้านตัว โรงงานอัจฉริยะ 10 ล้านแห่ง และยานพาหนะอัตโนมัติอีกกว่า 1.5 พันล้านคัน

 

เปิดตัวการ์ดจอใหม่เอาใจสายเกม พร้อมดันธุรกิจ Data Center โตต่อ

 

ไฮไลต์แรกที่เจนเซนเลือกจะหยิบมาพูดก่อนก็คือ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มแรกของ NVIDIA นั่นคือกลุ่มลูกค้าผู้เล่นเกม โดย NVIDIA เปิดตัว GeForce GPUs หรือการ์ดจอสำหรับประมวลผลกราฟิกตัวใหม่ ซึ่งมีการพัฒนาให้สามารถแสดงภาพของเกมได้อย่างสมจริงมากขึ้นจากสถาปัตยกรรมการออกแบบที่มีชื่อว่า ‘Blackwell’ โดยขณะที่ชิปกราฟิกแบบเดิมสร้างภาพด้วยการคำนวณเฉดสีของแต่ละพิกเซลในภาพ แต่เทคโนโลยีใหม่นี้จะใช้ AI เพื่อคาดการณ์ว่าเฟรมถัดไปควรมีลักษณะอย่างไร

 

“GeForce ทำให้ AI เข้าถึงคนหมู่มากได้ และตอนนี้ AI กำลังกลับมาสู่ GeForce” เจนเซนกล่าว

 

RTX 5090 ที่เป็นรุ่นเรือธง จะวางจำหน่ายเดือนนี้ในราคา 1,999 ดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วย RTX 5070 ที่ราคา 549 ดอลลาร์จสหรัฐ จะเปิดตัวตามมาทีหลังในเดือนกุมภาพันธ์ 

 

แม้ว่าธุรกิจเกมจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้หลักให้กับ NVIDIA แต่การเข้ามาของ AI ก็เปลี่ยนภาพออกไปอย่างสิ้นเชิง

 

Bloomberg รวบรวมข้อมูลที่เผยว่า หากย้อนกลับไปในปี 2022 อุตสาหกรรมเกมคือแหล่งทำเงินของ NVIDIA แต่วันนี้ธุรกิจ Data Center แซงหน้าธุรกิจเกมไปมากแล้ว

 

มีการคาดการณ์จาก Bloomberg ว่า ในปี 2025 ชิปสำหรับใช้งานใน Data Center จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากถึง 1.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ชิปสำหรับเกมน่าจะสร้างรายได้ราว 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือน้อยกว่าประมาณ 10 เท่าของ Data Center ซึ่งสาเหตุของการเติบโตอย่างรวดเร็วก็มาจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากเหล่าบริษัทบิ๊กเทค

 

อนาคตของ NVIDIA กับการรักษาผู้นำด้าน AI

 

สำหรับก้าวต่อไปของ NVIDIA นั่นคือการนำฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปใช้กับภาคธุรกิจและหน่วยงานรัฐให้มากขึ้นเพื่อช่วยกระจายรายได้ ซึ่งบริษัทประเมินว่าการนำ AI เข้ามาใช้งานกับโลกความเป็นจริงมากขึ้นจะช่วยทรานส์ฟอร์มหลายอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ารวมกว่า 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

หนึ่งในตัวอย่างที่ถูกประกาศคือ การร่วมมือกับ Toyota ที่กลายเป็นลูกค้าของบริการ AI สำหรับช่วยในการขับขี่อัตโนมัติของ NVIDIA แล้ว เพื่อจะนำไปใช้กับโมเดลรถบางรุ่นของตน ซึ่งการประกาศทำให้ราคาหุ้น Toyota ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

อีกทั้ง NVIDIA ก็ร่วมมือกับ Uber เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งทริปการเดินทางนับล้านครั้งที่ Uber ให้บริการในแต่ละวันจะเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีสำหรับการฝึกฝนโมเดล AI

 

อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์หรือยานพาหนะที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง ก็จำเป็นต้องอาศัยซอฟต์แวร์ที่จะทำให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเจนเซนประกาศว่า NVIDIA ได้พัฒนาโมเดล AI ของตนเองชื่อว่า Cosmos ซึ่งเป็นโมเดลพื้นฐาน (Foundation Models) ที่จะช่วยให้เหล่าหุ่นยนต์ฉลาดขึ้นและการใช้งานรถยนต์อัตโนมัติสมบูรณ์มากขึ้น

 

จุดต่างของ Cosmos จากโมเดลภาษาอื่นๆ คือการถูกออกแบบให้สามารถสร้างรูปและโมเดล 3 มิติเพื่อจำลองโลกความเป็นจริง ซึ่งโมเดลดังกล่าวถูกฝึกโดยข้อมูลภาพเคลื่อนไหวของมนุษย์ ทั้งการเดิน การหยิบจับสิ่งของ และการทำกิจกรรมต่างๆ จำนวน 20 ล้านชั่วโมง

 

Cosmos สามารถสร้างวิดีโอได้จากการพิมพ์คำสั่งด้วยข้อความ ซึ่งจะกลายเป็นพื้นฐานการฝึกโมเดล AI ในโลกเสมือน ช่วยลดการพึ่งพาการทดลองในโลกจริงที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน โดยวิดีโอที่สร้างขึ้นสามารถค้นหา ปรับแต่ง และทดสอบซ้ำได้หลายครั้ง

 

มันไม่ได้มีไว้สำหรับสร้างคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์ แต่มีไว้เพื่อเข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง” เจนเซนกล่าวถึง Cosmos

 

นอกจากนี้อีกหนึ่งนวัตกรรมของ NVIDIA คือ Project DIGITS โดยเจนเซนเรียกมันว่า AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ส่วนตัว (Personal AI Supercomputer) ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งาน AI ที่ซับซ้อนและให้มีขนาดเล็กพอจะตั้งบนโต๊ะทำงานได้ ซึ่งการประมวลผลของ Project DIGITS จะสามารถทำงานได้บนตัวอุปกรณ์เองทั้งหมด และให้ความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ได้เมื่อผู้ใช้งานต้องการ

 

Project DIGITS จะออกมาให้ใช้งานภายในเดือนพฤษภาคมปีนี้ สนนราคาที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 103,000 บาท

 

ภาพ: Chip Somodevilla / Staff / Getty Images 

อ้างอิง:

The post สรุปไฮไลต์ NVIDIA ในงาน CES 2025 จากการเปิดตัวโมเดล Cosmos และ AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ส่วนตัวราคา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ลงทุน Data Center แซงงบส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์! AI ดันยอดพุ่ง 15.7 ล้านล้านบาทในปีหน้า https://thestandard.co/ai-data-center-investment-15-7-trillion/ Fri, 06 Dec 2024 13:04:19 +0000 https://thestandard.co/?p=1016834

การลงทุนใน Data Center ทั่วโลกพุ่งแรง แซงหน้าค่าใช้จ่าย […]

The post ลงทุน Data Center แซงงบส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์! AI ดันยอดพุ่ง 15.7 ล้านล้านบาทในปีหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>

การลงทุนใน Data Center ทั่วโลกพุ่งแรง แซงหน้าค่าใช้จ่ายในการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ถึง 50% โดย Dell’Oro Group คาดการณ์ว่า การลงทุนใน Data Center จะเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เป็น 4.637 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15.7 ล้านล้านบาท) ในปีหน้า เทียบกับโครงการอพอลโลทั้งหมดตั้งแต่ปี 1960-1973 ซึ่งมีมูลค่า 3.18 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10.0 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบัน

 

ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้คือความต้องการระบบคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นจาก Generative AI ที่มาแรง ซึ่ง Amazon เองก็ประกาศร่วมวงแข่งขัน Generative AI ด้วย Amazon Nova ชุดโมเดลภาษาขนาดใหญ่

 

Amazon Nova พัฒนาเพื่อทวงคืนส่วนแบ่งตลาด Generative AI โดย Jassy อ้างว่า Amazon Nova มีราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 75% และมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4 ของ OpenAI และ Gemini ของ Google ในบางด้าน

 

Amazon จะมุ่งเน้นไปที่ Generative AI ในธุรกิจคลาวด์ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกประมาณ 30% โดยจะติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และชิป AI ขั้นสูงใน Data Center เพื่อให้บริการลูกค้าภายนอกที่พัฒนาหรือใช้งานโมเดลภาษาขนาดใหญ่

 

Dell’Oro Group คาดการณ์ว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของการลงทุน Data Center ทั่วโลกในปีหน้าจะมาจาก Amazon, Microsoft, Google และ Meta

 

NVIDIA ซึ่งครองตลาดชิป AI ประมาณ 90% ทั่วโลก เป็นผู้ได้รับประโยชน์รายใหญ่จากแนวโน้มนี้ โดยมีกำไรขั้นต้นมากกว่า 70% เนื่องจากความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ราคา GPU เพิ่มขึ้น

 

Jassy กล่าวว่า “ผู้คนต้องการประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในราคาที่เหมาะสม” Amazon จึงพัฒนาโปรเซสเซอร์ของตัวเอง โดยมีแผนที่จะจัดหาให้กับ Anthropic สตาร์ทอัพ Generative AI ซึ่ง Amazon ลงทุนไปแล้ว 8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.7 แสนล้านบาท) เพื่อทดแทน NVIDIA

 

Amazon ประกาศว่าจะเปิดตัวชิปใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า โดยมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของชิปที่มีอยู่

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นในฐานะตัวขับเคลื่อนรายได้ แม้ Amazon จะกล่าวว่า AI สร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ให้กับธุรกิจคลาวด์ แต่ผลตอบแทนยังจำกัดเมื่อเทียบกับขนาดของการลงทุน 

 

ขณะที่ธุรกิจ AI ของ Microsoft คาดว่าจะทำรายได้ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 แสนล้านบาท) ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

 

อ้างอิง:

The post ลงทุน Data Center แซงงบส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์! AI ดันยอดพุ่ง 15.7 ล้านล้านบาทในปีหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมบรรยากาศงาน AI Vision for Thailand SIAM.AI Cloud พาร์ตเนอร์ NVIDIA [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/ai-vision-thailand-nvidia-siam-ai/ Fri, 06 Dec 2024 12:00:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1016537

THE STANDARD พาไปชมบรรยากาศ AI Vision for Thailand ซึ่ง […]

The post ชมบรรยากาศงาน AI Vision for Thailand SIAM.AI Cloud พาร์ตเนอร์ NVIDIA [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

THE STANDARD พาไปชมบรรยากาศ AI Vision for Thailand ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา เปรียบเสมือนก้าวแรกของประเทศไทยที่จะพัฒนา Sovereign AI ของประเทศ ผ่านความร่วมมือกันของสองบริษัทอย่าง SIAM.AI Cloud และ NVIDIA 

 

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานในครั้งนี้คือ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ที่มาร่วมงานด้วยตัวเอง พร้อมกับร่วมพูดคุยแบบ Fireside Chat กับ รัตนพล วงศ์นภาจันทร์ ผู้บริหารสูงสุดของ SIAM.AI Cloud เกี่ยวกับอนาคตของการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในไทย

 

บรรยากาศงาน AI Vision for Thailand SIAM.AI Cloud

 

ในฐานะที่เป็น NVIDIA Cloud Partner (NCP) เจ้าแรกที่เจ้าของเป็นคนไทย บริษัท สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ประกาศความร่วมมือกับบริษัท NVIDIA ในการพัฒนาระบบ Ecosystem ด้านเทคโนโลยี AI ของไทย ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่

 

  1. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูง: การนำสถาปัตยกรรมอย่าง NVIDIA’s Cutting-Edge AI มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนากลุ่มงานด้าน AI
  2. การพัฒนาทักษะและการสร้างอาชีพ: การพัฒนาความสามารถทางด้านโปรแกรมต่างๆ การสร้างอาชีพและโอกาสใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกับ AI
  3. การสร้างความร่วมมือ: การสร้างความร่วมมือกับหลายภาคส่วนของประเทศ รวมถึงสตาร์ทอัพภายในประเทศ, SMEs, มหาวิทยาลัย และหน่วยงานรัฐบาล
  4. การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบโครงสร้างพื้นฐาน: การสร้างความร่วมมือกับศูนย์ข้อมูลอันดับต้นๆ ของประเทศ เพื่อยกระดับความสามารถในการประมวลผลข้อมูล

 

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI

 

เทคโนโลยี AI ที่กำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้หุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวได้อัตโนมัติจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ

 

Jensen Huang ลงนามความร่วมมือกับ SIAM.AI Cloud

 

Jensen Huang ลงนามความร่วมมือกับ SIAM.AI Cloud ซึ่งหัวใจสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้คือการนำชิป NVIDIA H100 GPU มาร่วมพัฒนา AI ในไทย ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านศักยภาพการประมวลผล AI ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

 

โดยโครงสร้างพื้นฐานนี้มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม NVIDIA AI แบบครบวงจร รวมถึงซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise และแผนการขยายไปสู่ GPU รุ่นถัดไป NVIDIA H200 Tensor Core และ NVIDIA GB200 Grace Blackwell Superchip

 

Jensen Huang

 

นอกจากมาลงนามความร่วมมือกับ SIAM.AI Cloud แล้ว Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ได้ร่วมสนทนาบนเวที พร้อมกล่าวว่า “NVIDIA มาเพื่อช่วยประเทศไทยพัฒนา Thai AI” 

 

Jensen เน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเทคโนโลยี AI คือข้อมูล ซึ่งประเทศไทยควรใช้ข้อมูลของตัวเองเพื่อสร้าง Sovereign AI ของตัวเอง 

 

Jensen กล่าวอีกว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า เทคโนโลยี AI จะถูกใช้แพร่หลายไปทุกที่ ขณะที่ปัจจุบันประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นวางรากฐานของอุตสาหกรรม AI ให้กับประเทศของตัวเองนั้นมีอยู่เพียงแค่ประมาณ 20 ประเทศเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ริเริ่มการวางรากฐานนี้ผ่านการลงทุนของ SIAM.AI Cloud 

 

SIAM.AI Cloud

 

ภายในงานยังมี Showcase จากทาง SIAM.AI Cloud เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมา ไปปรับใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ และหนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมท่องเที่ย

 

ภายในงานยังมี Showcase จากทาง SIAM.AI Cloud

 

อีกหนึ่ง Showcase คือ AI ที่ถูกนำไปปรับใช้กับวงการแพทย์ อย่างเรื่องของการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับอุบัติเหตุฉุกเฉิน

 

ทักษิณ

 

นอกจากผู้คนในแวดวงเทคโนโลยี AI งานในครั้งนี้ยังมีผู้คนในแวดวงธุรกิจเข้าร่วมงานจำนวนมาก เช่น ทักษิณ ชินวัตร, ธนินท์ เจียรวนนท์ และ สารัชถ์ รัตนาวะดี

 

Mahidol x SIAM.AI Cloud

 

Mahidol x SIAM.AI Cloud บุกเบิกความก้าวหน้าทางการแพทย์ด้วย AI – พลิกโฉมการค้นคว้ายา การถอดรหัสจีโนม และการแพทย์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคโนโลยีของ NVIDIA โดยมีเป้าหมายในการสร้างประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการแพทย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

True IDC x SIAM.AI Cloud

 

True IDC x SIAM.AI Cloud พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ล้ำสมัยและบริการ GPU-as-a-Service เพื่อเร่งศักยภาพของภาครัฐและงานวิจัยในประเทศไทย ทำให้การเข้าถึงการประมวลผล AI ขั้นสูงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน และส่งเสริมนวัตกรรมในภาครัฐ การศึกษา และสถาบันวิจัย

 

GSA x SIAM.AI Cloud

 

GSA x SIAM.AI Cloud โครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลระดับองค์กรเพื่อสนับสนุนบริการ AI รุ่นใหม่ของ SIAM.AI Cloud โดยมอบฐานรากที่มั่นคงสำหรับระบบนิเวศ AI ของประเทศไทย พร้อมรับประกันทรัพยากรการประมวลผลที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย และขยายตัวได้สำหรับธุรกิจทั่วประเทศ

 

DAMAC x SIAM.AI Cloud

 

DAMAC x SIAM.AI Cloud ร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI Cloud ที่ล้ำหน้าที่สุดในประเทศไทย โดยใช้เทคโนโลยีจาก NVIDIA ในศูนย์ข้อมูลระดับโลกของ DAMAC เพื่อให้ธุรกิจและองค์กรทั่วประเทศสามารถเข้าถึงทรัพยากรการประมวลผล AI ขั้นสูง และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล

 

STT GDC x SIAM AI

 

STT GDC x SIAM AI สร้างห้องปฏิบัติการระบายความร้อนด้วยของเหลวแห่งแรกในประเทศไทยสำหรับการประมวลผล AI ประสิทธิภาพสูง พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลขั้นสูงที่เพิ่มขึ้นของประเทศ

 

The post ชมบรรยากาศงาน AI Vision for Thailand SIAM.AI Cloud พาร์ตเนอร์ NVIDIA [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: เจาะลึก! ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huang | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-06122024-3/ Fri, 06 Dec 2024 08:07:48 +0000 https://thestandard.co/?p=1016616 เจาะลึก! ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huang | THE STANDARD WEALTH

เจาะลึก! ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huan […]

The post ชมคลิป: เจาะลึก! ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huang | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจาะลึก! ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huang | THE STANDARD WEALTH

เจาะลึก! ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huang โดยเฉพาะการสร้าง Sovereign AI จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ พูดคุยกับ ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล กรรมการบริหาร ส.อ.ท. และคณะทำงานจัดทำแผนกลยุทธ์พัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศ ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: เจาะลึก! ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huang | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: มุมมอง Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของไทย | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-06122024-2/ Fri, 06 Dec 2024 08:01:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1016613 ชมคลิป: มุมมอง Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของไทย

การเดินทางมาไทยของ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVI […]

The post ชมคลิป: มุมมอง Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของไทย | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: มุมมอง Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของไทย

การเดินทางมาไทยของ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA เพื่อร่วมงาน ‘AI Vision for Thailand’ ซึ่งจัดโดย บริษัท สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (SIAM.AI Cloud) เพื่อประกาศแผนกลยุทธ์สำคัญที่จะยกระดับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศไทย รวมถึงลงนามความร่วมมือกับ SIAM.AI Cloud ในฐานะบริษัทไทยรายแรกที่เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI มีอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามได้ในไฮไลต์นี้

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: มุมมอง Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของไทย | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
NVIDIA ประกาศเปิดตัวศูนย์ R&D แห่งแรกในเวียดนาม รัฐบาลหวังพัฒนาแอปด้านสุขภาพ การศึกษา การขนส่ง และการเงิน https://thestandard.co/nvidia-vietnam-rd-center-app-development/ Fri, 06 Dec 2024 03:42:42 +0000 https://thestandard.co/?p=1016474 NVIDIA เวียดนาม

NVIDIA ประกาศผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่ากำลังร่วมมือกับรัฐ […]

The post NVIDIA ประกาศเปิดตัวศูนย์ R&D แห่งแรกในเวียดนาม รัฐบาลหวังพัฒนาแอปด้านสุขภาพ การศึกษา การขนส่ง และการเงิน appeared first on THE STANDARD.

]]>
NVIDIA เวียดนาม

NVIDIA ประกาศผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่ากำลังร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามเพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในเวียดนามซึ่งเน้นด้านปัญญาประดิษฐ์

 

NVIDIA จะใช้ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยใช้ประโยชน์จากกลุ่มวิศวกร STEM ที่มีพรสวรรค์ของประเทศ และเพื่อดึงดูดผู้นำในอุตสาหกรรม สตาร์ทอัพ หน่วยงานของรัฐ มหาวิทยาลัย และนักศึกษา เพื่อเร่งการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้

 

“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาของ NVIDIA เพื่อเร่งการเดินทางสู่ปัญญาประดิษฐ์ในเวียดนาม ด้วยความเชี่ยวชาญการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ NVIDIA จะร่วมมือกับระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาของนักวิจัย สตาร์ทอัพ และองค์กรธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างปัญญาประดิษฐ์อันน่าทึ่งในเวียดนาม” Jensen Huang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA กล่าว

 

ศูนย์วิจัยและพัฒนาในเวียดนามจะพัฒนาแพลตฟอร์มอันทรงคุณค่าสำหรับ NVIDIA และพันธมิตรเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ นักวิจัยและสตาร์ทอัพจะสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์สำหรับอุตสาหกรรมหลัก เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา การขนส่ง และการเงิน

 

ด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของประเทศในการผลิตเทคโนโลยี ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ ทำให้เวียดนามกลายเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ตลาด AI ของเวียดนามก็เติบโตขึ้นเช่นกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การสนับสนุนจากรัฐบาล และการบูรณาการ AI ที่มากขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ปี 2021 เวียดนามได้ส่งเสริมการพัฒนา AI เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนวัตกรรม สร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่ง และวางตำแหน่งประเทศให้เป็นผู้นำระดับภูมิภาคในด้านการวิจัยและพัฒนา

 

“รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในฐานะองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนา ด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้รัฐบาลเวียดนามและ NVIDIA มุ่งมั่นที่จะร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่แข็งแกร่งในเวียดนาม และสร้างอนาคตที่สดใสให้กับระบบนิเวศนวัตกรรมและอุตสาหกรรมไฮเทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีของเวียดนามกล่าว

 

NVIDIA ได้ลงทุนในระบบนิเวศเทคโนโลยีของเวียดนามมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว บริษัทมีส่วนร่วมกับสตาร์ทอัพ AI ของเวียดนามมากกว่า 100 แห่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Inception นอกเหนือจากมหาวิทยาลัย 65 แห่งในประเทศ เมื่อปีที่แล้ว NVIDIA ร่วมมือกับ FPT Smart Cloud ซึ่งเป็นพันธมิตรคลาวด์รายแรกในเวียดนาม

 

นอกจากนี้ NVIDIA ยังกล่าวอีกว่า เข้าซื้อกิจการ VinBrain ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านการดูแลสุขภาพของหน่วยงานในเครือ Vingroup (VIC.HM) ของเวียดนาม แต่ไม่ได้ให้มูลค่าของข้อตกลงดังกล่าว

 

Jensen กล่าวระหว่างการเยือนกรุงฮานอยเมื่อปีที่แล้วว่า บริษัทต้องการขยายความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเวียดนาม และสนับสนุนประเทศในการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

 

และในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยี FPT ของเวียดนาม กล่าวว่า มีแผนที่จะสร้างโรงงานปัญญาประดิษฐ์มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้ชิปกราฟิกและซอฟต์แวร์ของ NVIDIA

 

อ้างอิง:

The post NVIDIA ประกาศเปิดตัวศูนย์ R&D แห่งแรกในเวียดนาม รัฐบาลหวังพัฒนาแอปด้านสุขภาพ การศึกษา การขนส่ง และการเงิน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: อนาคตเทคโนโลยี AI ของไทยในมุมมองของ ‘Jensen Huang’ แม่ทัพ NVIDIA | Morning Wealth 6 ธ.ค. 2567 https://thestandard.co/morning-wealth-06122024/ Fri, 06 Dec 2024 03:33:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1016467

สรุปมุมมองของ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโ […]

The post ชมคลิป: อนาคตเทคโนโลยี AI ของไทยในมุมมองของ ‘Jensen Huang’ แม่ทัพ NVIDIA | Morning Wealth 6 ธ.ค. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>
  • สรุปมุมมองของ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของประเทศไทย
  • เจาะลึกไทยได้อะไรจากการมาเยือนของ Jensen Huang พูดคุยกับ ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล กรรมการบริหาร ส.อ.ท. และคณะทำงานจัดทำแผนกลยุทธ์พัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศ ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: อนาคตเทคโนโลยี AI ของไทยในมุมมองของ ‘Jensen Huang’ แม่ทัพ NVIDIA | Morning Wealth 6 ธ.ค. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดวิสัยทัศน์ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ที่มีต่อ ‘อธิปไตยทางปัญญาประดิษฐ์’ https://thestandard.co/jensen-huang-nvidia-vision/ Thu, 05 Dec 2024 06:18:06 +0000 https://thestandard.co/?p=1016236 Jensen Huang

สรุปวิสัยทัศน์สำคัญของ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง […]

The post เปิดวิสัยทัศน์ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ที่มีต่อ ‘อธิปไตยทางปัญญาประดิษฐ์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Jensen Huang

สรุปวิสัยทัศน์สำคัญของ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อลงนามแถลงความร่วมมือกับ SIAM.AI CLOUD ในฐานะบริษัทไทยรายแรกที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ NVIDIA เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการสร้าง Sovereign AI ในประเทศไทย 

 

 

 “ไม่มีอนาคตสำหรับประเทศใดก็ตามที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานของ AI”

 

Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ให้วิสัยทัศน์ระหว่างลงนามความร่วมมือกับ SIAM.AI CLOUD ในฐานะบริษัทไทยรายแรกที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ NVIDIA เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการสร้าง Sovereign AI ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 

 

 

“ส่วนที่สำคัญที่สุดของ AI คือข้อมูล และข้อมูลในประเทศไทยก็เป็นของคนไทย มันคือทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งองค์ความรู้ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สามัญสำนึก ซึ่งควรจะถูกเก็บเกี่ยวโดยคนไทย เพื่อสร้าง Sovereign AI ของประเทศไทย” 

 

Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ให้วิสัยทัศน์ระหว่างลงนามความร่วมมือกับ SIAM.AI CLOUD ในฐานะบริษัทไทยรายแรกที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ NVIDIA เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการสร้าง Sovereign AI ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 

 

Jensen Huang

 

“NVIDIA มาเพื่อช่วยประเทศไทยพัฒนา Thai AI และเปิดตัว ThaiGPT ผมเชื่อว่าไทยจะกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตด้วยอุตสาหกรรมใหม่”

 

Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ให้วิสัยทัศน์ระหว่างลงนามความร่วมมือกับ SIAM.AI CLOUD ในฐานะบริษัทไทยรายแรกที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ NVIDIA เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการสร้าง Sovereign AI ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567  

The post เปิดวิสัยทัศน์ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA ที่มีต่อ ‘อธิปไตยทางปัญญาประดิษฐ์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สรุปมุมมองของ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของประเทศไทย https://thestandard.co/nvidia-ceo-thailand-ai-technology-outlook/ Thu, 05 Dec 2024 02:34:41 +0000 https://thestandard.co/?p=1016179 Jensen Huang NVIDIA

หากเอ่ยชื่อ NVIDIA เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก หรืออย่างน […]

The post สรุปมุมมองของ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
Jensen Huang NVIDIA

หากเอ่ยชื่อ NVIDIA เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก หรืออย่างน้อยก็น่าจะคุ้นหูกันอยู่บ้าง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่กระแสของเทคโนโลยี AI กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก

 

สำหรับใครที่อาจจะยังไม่รู้จัก NVIDIA นี่คือบริษัทที่มีมูลค่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 119 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่า GDP ประเทศไทย 6 เท่า ผู้ผลิตชิป GPU ที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี AI ในเวลานี้ 

 

วันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อลงนามแถลงความร่วมมือกับ SIAM.AI CLOUD ในฐานะบริษัทไทยรายแรกที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ NVIDIA เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการสร้าง Sovereign AI ในประเทศไทย 

 

นอกจากพิธีลงนามที่มีลูกเล่นเล็กน้อย โดยการให้หุ่นยนต์ที่มีขนาดและลักษณะใกล้เคียงกับคนจริงถือถุงที่ข้างในมีเสื้อแจ็กเก็ตมามอบให้กับ Jensen หลังจากนั้นก็เป็นการพูดคุยกันถึงพัฒนาการของเทคโนโลยี AI ในไทย

 

ไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่เริ่มวางรากฐาน AI 

 

Jensen กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นวางรากฐานของอุตสาหกรรม AI ให้กับประเทศของตัวเองมีอยู่เพียงประมาณ 20 ประเทศเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ริเริ่มการวางรากฐานนี้ 

 

Jensen บอกว่า “ไม่มีอนาคตสำหรับประเทศใดก็ตามที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานของ AI”

 

โลกที่พวกเราอยู่ในทุกวันนี้ กำลังอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของเทคโนโลยี ซึ่งทุกคนจำเป็นต้องลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ประจำชาติของตนเอง โดยมีหลักสำคัญ 3 ประการด้วยกัน

 

  1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ซึ่งจะทำให้ทุกคนเริ่มต้นจากจุดศูนย์กลางเดียวกันอย่างเท่าเทียม ทำให้นี่เป็นโอกาสที่เท่าเทียมสำหรับทุกประเทศในการผลักดันตัวเองขึ้นมาเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี AI

 

  1. AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทางสังคม โดยมันจะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมพลังงาน การเริ่มวางโครงสร้างพื้นฐานของ AI ในวันนี้ จะนำไปสู่การที่ประชาชนชาวไทยทุกคนสามารถเข้าถึง AI ได้อย่างง่ายดาย 

 

  1. เหมือนดั่งที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งก่อนนำมาสู่จุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมพลังงาน ขณะนี้อุตสาหกรรม AI จะสร้างสิ่งใหม่ที่เรียกว่า ‘สติปัญญา’ (Intelligence) ซึ่งอาจมองไม่เห็นด้วยตา แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้ นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก

 

Jensen มองว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า เทคโนโลยี AI จะแทรกซึมอยู่ทุกที่ และในความเป็นจริงแล้ว เด็กๆ ที่กำลังเติบโตขึ้นมาจะไม่มีใครไม่เข้าใจ AI ขณะเดียวกันพวกเขาไม่ใช้การเสิร์ชอีกต่อไป พวกเขาจะคุยกับ AI แทน

 

‘ข้อมูล’ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ AI

 

“ส่วนที่สำคัญที่สุดของ AI คือข้อมูล และข้อมูลในประเทศไทยก็เป็นของคนไทย มันคือทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งองค์ความรู้ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สามัญสำนึก ซึ่งควรจะถูกเก็บเกี่ยวโดยคนไทยเพื่อสร้าง Sovereign AI ของประเทศไทย” Jensen กล่าว 

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้จำเป็นจะต้องถูกนำมาใช้ด้วย ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่ในประเทศก็จำเป็นจะต้องพัฒนาทักษะและความรู้ด้าน AI ขึ้นมามากขึ้น ซึ่ง Jensen เชื่อมั่นว่า AI จะช่วยปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้ แต่สิ่งสำคัญคือการนำความรู้ด้าน AI ไปใส่ไว้กับทุกๆ มหาวิทยาลัย 

 

Jensen บอกว่า NVIDIA ร่วมมือกับ 40 มหาวิทยาลัยในไทยเพื่อสร้าง เพื่อสอน และเพื่อเปิดให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI รวมทั้งการร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้าน AI เกือบ 60 แห่ง เพื่อช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้เข้าถึงเทคโนโลยีของ NVIDIA และสร้าง AI ของตัวเองขึ้นมาได้ 

 

“NVIDIA มาเพื่อช่วยประเทศไทยพัฒนา Thai AI และเปิดตัว ThaiGPT ผมเชื่อว่าไทยจะกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตด้วยอุตสาหกรรมใหม่” Jensen กล่าว 

 

ข้อความจาก Jensen ถึงคนรุ่นใหม่ที่กำลังหมดไฟ

 

นอกจากมุมมองเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI แล้ว Jensen ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับอาการหมดไฟที่อาจกำลังเกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่ในประเทศไทย 

 

Jensen ตั้งคำถามว่า คุณจะเกิดอาการหมดไฟ หรือ Burnout ได้อย่างไร หากคุณกำลังเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ทำอยู่

 

Jensen บอกว่า อาการหมดไฟจะเกิดขึ้นหากคุณนึกถึงอนาคตที่คุณไม่มีวันไปถึง พร้อมเปรียบอาการหมดไฟกับการเดินทางไปยังจุดหมาย หากเราเพลิดเพลินกับการเดินทางและโฟกัสอยู่กับปัจจุบัน โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องไปถึงจุดอื่น อาการหมดไฟจะไม่เกิดขึ้น 

 

“สิ่งที่จะช่วยได้คือการเพลิดเพลินไปกับปัจจุบัน เพลิดเพลินไปกับการเดินทาง เพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ทำ โดยไม่ต้องกังวลในผลลัพธ์ ขณะเดียวกันการมองหาจุดมุ่งหมายของสิ่งที่ทำก็ช่วยได้ โดยเฉพาะการให้ การแบ่งปัน การสร้างแรงบันดาลใจ และการใช้ชีวิต” Jensen กล่าว

The post สรุปมุมมองของ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ต่ออนาคตเทคโนโลยี AI ของประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>