NITMX – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 07 Feb 2025 04:37:47 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘พร้อมเพย์’ 8 ปีแห่งการพลิกโฉมระบบการเงินไทย หนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัว https://thestandard.co/8-years-promptpay/ Fri, 07 Feb 2025 04:37:47 +0000 https://thestandard.co/?p=1039149

ย้อนกลับไปในปี 2559 ‘พร้อมเพย์’ ถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครง […]

The post ‘พร้อมเพย์’ 8 ปีแห่งการพลิกโฉมระบบการเงินไทย หนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>

ย้อนกลับไปในปี 2559 ‘พร้อมเพย์’ ถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในยุคดิจิทัลของไทย เปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทยจากการใช้เงินสดสู่การทำธุรกรรมที่สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงได้ง่าย จุดมุ่งหมายของพร้อมเพย์ไม่ใช่เพียงแค่การอำนวยความสะดวก แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’ อย่างเต็มตัว 

 

บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ NITMX เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารจัดการระบบพร้อมเพย์อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินที่มีเสถียรภาพสูง พร้อมกับความสามารถในการรองรับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในทุกปี  

 

NITMX มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ โดยเน้นทั้งความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้และการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พร้อมเพย์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือทางการเงิน แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย การทำธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์ช่วยลดความซับซ้อนของการโอนเงิน นอกจากจะสามารถโอนเงินด้วยหมายเลขบัญชีแล้ว ยังสามารถโอนเงินผ่านหมายเลขโทรศัพท์หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนได้ด้วย ทำให้เกิดสถิติที่สะท้อนให้เห็นการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว เช่น

 

  • ผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์กว่า 80 ล้านบัญชี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและการใช้งานที่แพร่หลาย
  • มูลค่าธุรกรรมสะสมกว่า 200 ล้านล้านบาท ตอกย้ำความสำคัญในเศรษฐกิจระดับประเทศ
  • ลดต้นทุนค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ใช้ สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับทุกคน 

 

ระบบพร้อมเพย์ยังสามารถต่อยอดพัฒนาบริการเสริมต่างๆ เพื่อเพิ่มประโยชน์ให้ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม เช่น การจ่ายเงินสวัสดิการภาครัฐ การคืนภาษี การโอนเงินรายย่อย พร้อมเพย์นิติบุคคล และการชำระบิลข้ามธนาคาร นอกจากนี้ยังมีบริการที่ตอบสนองยุคดิจิทัล เช่น Thai QR Payment, e-Donation, MyPromptQR และ Cross-Border QR Payment ที่รองรับธุรกรรมระหว่างประเทศ รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่าง e-Wallet ของ Non-Bank กับพร้อมเพย์ ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดต้นทุนสำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีบริการแจ้งเตือนเพื่อชำระเงิน Pay Alert และ Bill Alert ที่ทำให้การทำธุรกรรมสะดวกมากยิ่งขึ้น 

 

นอกจากนี้ พร้อมเพย์พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การเชื่อมต่อกับระบบการเงินระดับนานาชาติ หนึ่งในก้าวสำคัญของพร้อมเพย์คือ การพัฒนา PromptPay เชื่อมโยงกับ PayNow ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ผู้รับเงินปลายทางได้รับเงินทันที การพัฒนาบริการชำระเงินข้ามพรมแดน (Cross-Border QR Payment) ซึ่งช่วยให้คนไทยสามารถทำธุรกรรมชำระเงินระหว่างประเทศได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง 

 

ปัจจุบันพร้อมเพย์เชื่อมต่อกับระบบการชำระเงินของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, สปป.ลาว, ญี่ปุ่น, กัมพูชา, เวียดนาม และอยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อขยายการเชื่อมโยงไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มเติม เช่น จีน อินเดีย และเกาหลีใต้ เพื่อรองรับการโอนเงินและการชำระเงินข้ามประเทศด้วยต้นทุนต่ำ ตอบสนองความต้องการของแรงงานต่างชาติ นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล การเพิ่มระบบความปลอดภัยขั้นสูง และการสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พร้อมเพย์พัฒนาขึ้นจนเป็นระบบที่สร้างความสะดวกสบายให้กับคนไทยทั่วภูมิภาคและทั่วโลก

 

พร้อมเพย์ก้าวสู่ปีที่ 8 ด้วยความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ นับเป็นก้าวสำคัญของระบบชำระเงินที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทย โดยได้รับการสนับสนุนและความเชื่อมั่นจากประชาชนทั่วประเทศ ความร่วมมือจากธนาคาร สถาบันการเงิน และพันธมิตรทุกภาคส่วน ที่ช่วยผลักดันพร้อมเพย์ให้กลายเป็นหนึ่งในรากฐานที่มั่นคงของเศรษฐกิจดิจิทัล ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นไม่ได้เพียงสะท้อนถึงความสะดวก แต่ยังบ่งบอกถึงความไว้วางใจที่ผู้ใช้งานมีต่อระบบนี้ในทุกช่วงเวลา

 

ในอนาคต พร้อมเพย์จะยังคงเป็นผู้นำในการพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล ด้วยการเพิ่มนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ยุคสมัย สร้างโอกาสทางการเงินที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน และมุ่งเน้นการยกระดับความปลอดภัย พร้อมสร้างระบบที่สะดวกและยั่งยืน และมุ่งมั่นในการก้าวสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นไปพร้อมกับคนไทยทุกคน

The post ‘พร้อมเพย์’ 8 ปีแห่งการพลิกโฉมระบบการเงินไทย หนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
เที่ยวไทย-จีนไม่ต้องพกเงินสดแล้ว NITMX จับมือ UnionPay เพิ่มการชำระเงินผ่าน QR Code PromptPay https://thestandard.co/nitmx-unionpay-qr-code-promptpay/ Wed, 07 Aug 2024 10:03:06 +0000 https://thestandard.co/?p=968493 NITMX

เข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว เพื่อให้การชำระเงิ […]

The post เที่ยวไทย-จีนไม่ต้องพกเงินสดแล้ว NITMX จับมือ UnionPay เพิ่มการชำระเงินผ่าน QR Code PromptPay appeared first on THE STANDARD.

]]>
NITMX

เข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว เพื่อให้การชำระเงินสะดวกสบายทั้งในประเทศไทยและจีน บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการชำระเงินในประเทศไทย จับมือร่วมลงนาม MOU กับ UnionPay International (UPI) ยกระดับการชำระเงินให้คนไทยและคนจีนได้ชำระเงินอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องพกเงินสด ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี

 

พิธีลงนาม MOU ครั้งนี้จัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยมี ฉัตรชัย ดุษฎีโหนด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) และ แลร์รี หวัง CEO จาก UnionPay International (UPI) ร่วมลงนามเพื่อยืนยันว่าทั้งคนไทยและคนจีนสามารถสแกนชำระเงินได้สะดวกสบาย

 

โดยคนจีนที่เข้ามาประเทศไทยสามารถสแกนจ่ายเงินได้ทุกที่ที่มีสัญลักษณ์ QR Code PromptPay ขณะที่คนไทยสามารถหาสัญลักษณ์ UnionPay QR Payment และสแกนจ่ายที่ประเทศจีนได้เช่นกัน

 

การร่วมลงนามในครั้งนี้ยังรวมถึงการโอนเงินข้ามประเทศ (Cross-Border Remittance Service) และการใช้ Cardless ATM Withdrawal ซึ่งเป็นบริการถอนเงินสดแบบไม่ใช้บัตรผ่าน Mobile Banking Application บนโทรศัพท์มือถือ ทำให้การจ่ายเงินเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่สังคมก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว ด้วยการสนับสนุนจากทั้ง UnionPay และ NITMX ผู้บริโภคจะสามารถใช้จ่ายได้อย่างราบรื่นไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือประเทศจีน

 

หลังโควิด การท่องเที่ยวของประเทศไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยสถิติการท่องเที่ยวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2566 จำนวนกว่า 28 ล้านคน สร้างรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 1.2 ล้านล้านบาท โดย 1 ในประเทศที่มาไทยมากที่สุดคือประเทศจีน

 

การลงนาม MOU ครั้งนี้จะช่วยทำให้การเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนได้จับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลทางบวกกับเศรษฐกิจในประเทศไทย นอกจากนี้มาตรการยกเว้นวีซ่าระหว่างจีนและไทยก็ยิ่งทำให้การท่องเที่ยวขาออกของไทยคึกคัก

 

ฉัตรชัยกล่าวถึงการลงนาม MOU ครั้งนี้ว่า รู้สึกยินดีที่ได้ลงนามใน MOU นี้กับ UnionPay International (UPI) ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินชั้นนำของประเทศไทย และ UnionPay International (UPI) ผู้นำด้านอุตสาหกรรมการชำระเงินระดับโลก ได้ร่วมมือกันในนวัตกรรม โดย UPI มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบการชำระเงินทั่วโลก ในขณะที่ NITMX มีประสบการณ์ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินในประเทศไทย เชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะยกระดับประสบการณ์การชำระเงินสำหรับคนในประเทศไทยและนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

 

NITMX ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการชำระเงินในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนา ยืนหยัดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกที่ ทุกเวลา เพื่อให้ในอนาคตการชำระเงินของคนไทยไม่ว่าไปประเทศไหนก็สะดวกสบาย ผ่าน QR Code PromptPay ผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรมได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ร้านค้า การท่องเที่ยว หรือการทำธุรกรรมออนไลน์ ไม่ต้องพกเงินสด ลดความเสี่ยงในการสูญหายหรือถูกขโมย ให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

The post เที่ยวไทย-จีนไม่ต้องพกเงินสดแล้ว NITMX จับมือ UnionPay เพิ่มการชำระเงินผ่าน QR Code PromptPay appeared first on THE STANDARD.

]]>
NITMX เล็งพัฒนาระบบการชำระเงินไทย ให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ 10,000 รายการ/วินาทีภายในสิ้นปีนี้ https://thestandard.co/nitmx/ Mon, 29 Aug 2022 07:44:56 +0000 https://thestandard.co/?p=673386 NITMX

NITMX เตรียมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินไทยให […]

The post NITMX เล็งพัฒนาระบบการชำระเงินไทย ให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ 10,000 รายการ/วินาทีภายในสิ้นปีนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
NITMX

NITMX เตรียมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินไทยให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้สูงสุด 10,000 รายการต่อวินาทีภายในสิ้นปีนี้ พร้อมเปิดให้บริการ PromptBiz ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมของภาคธุรกิจไตรมาสหน้า

 

ผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) กล่าวว่า NITMX เป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและมาตรฐานระบบการชำระเงินที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) ทำให้การชำระเงินและโอนเงินสะดวกรวดเร็วขึ้น ถึงมือผู้รับโดยตรง โปร่งใส และไม่มีค่าธรรมเนียม  

 

โดยมีจำนวนผู้ลงทะเบียน PromptPay ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 อยู่ที่ 70 ล้านหมายเลข เพิ่มขึ้น 22.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มียอดการโอนเงินเฉลี่ย 38.7 ล้านรายการต่อวัน เพิ่มขึ้น 59.3% มูลค่ารวม 1.21 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ช่วยผลักดัน Digital Payment ของประเทศให้เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น 

 

ทั้งนี้ ในปี 2564 มีธุรกรรมชำระเงินระหว่างธนาคารเกิดขึ้นกว่า 1 หมื่นล้านรายการ และมีเงินหมุนเวียนผ่านระบบ ITMX มูลค่ารวม 39 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.4 เท่าของ GDP ของประเทศไทย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 2565 จากช่วง เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มีธุรกรรมชำระเงินระหว่างธนาคารกว่า 6 พันล้านรายการ มูลค่ากว่า 23 ล้านล้านบาท

 

“NITMX เดินหน้าขยายขีดความสามารถของระบบให้สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมดิจิทัลที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยภายในสิ้นปีนี้ NITMX มีแผนจะเพิ่มศักยภาพระบบให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้สูงสุด 10,000 รายการต่อวินาที จากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 6,000 รายการต่อวินาที เพิ่มขึ้นกว่า 40 เท่าจากปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มเปิดใช้ระบบพร้อมเพย์ ขณะที่จำนวนธุรกรรมสูงสุดในปัจจุบันอยู่ที่ 2,900 รายการต่อวินาที จึงมั่นใจได้ว่าระบบการชำระเงินของไทยภายใต้การพัฒนาของ NITMX มีประสิทธิภาพทั้งในด้านศักยภาพการรองรับธุรกรรม และความมีเสถียรภาพที่ทำให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย” ผยงกล่าว

 

ผยงกล่าวอีกว่า แผนพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นของ NITMX จะเป็นไปในทางเดียวกับทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินตามแนวนโยบายภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยปัจจุบัน NITMX อยู่ระหว่างพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการชำระเงินดิจิทัลสำหรับภาคธุรกิจ หรือระบบ PromptBiz เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมการค้าให้เป็นดิจิทัลแบบครบวงจร โดยเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าและการชำระเงินของภาคธุรกิจผ่านผู้ให้บริการทางการเงิน และเชื่อมต่อกับระบบภาษีของภาครัฐ  

 

ประธานกรรมการ NITMX กล่าวว่า ระบบ PromptBiz จะเข้ามาช่วยแก้ Pain Point การทำธุรกิจแบบเดิมที่ยังใช้เอกสารกระดาษ มีต้นทุนสูง และมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ง่าย เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดใหญ่ช่วยเหลือคนตัวเล็กให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง พร้อมให้ความสำคัญกับมิติของความยั่งยืนผ่านการพัฒนาระบบการชำระเงินที่มีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยให้ภาคธุรกิจและภาคประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นบนต้นทุนที่เหมาะสม

 

ขณะเดียวกันระบบยังส่งเสริมให้เกิดการปล่อยสินเชื่อโดยอาศัยข้อมูล หรือ Information-Based Lending โดยนำข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) มาใช้ในการพิจารณาให้สินเชื่อ เช่น ข้อมูลธุรกรรมการค้าซึ่งจะถูกเก็บเป็น Digital Footprint นับเป็นการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลใหม่ ที่จะช่วยให้การให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการ SMEs มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแท้จริง

 

รณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่ผู้ให้บริการสามารถเข้าถึงได้และรองรับนวัตกรรมในโลกดิจิทัลจะเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนภาคการเงินเข้าสู่ยุค Digital Transformation โดย ธปท. สนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขันและพัฒนาบริการทางการเงิน เพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มได้รับบริการอย่างทั่วถึง และสนับสนุนการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน

 

“แผนพัฒนาระบบการชำระเงินไทยในระยะ 3 ปีของ ธปท. จะดำเนินการภายใต้ 3 หลักการคือ Openness เปิดกว้าง, Inclusivity ครอบคลุม และ Resilency ยืดหยุ่น สำหรับ PromptBiz คาดว่าน่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาสหน้า” รณดลกล่าว 

 

วรรณา นพอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ NITMX เปิดเผยว่า NITMX ได้กำหนดแผนธุรกิจในปี 2565 โดยมุ่งสร้างศักยภาพและเสถียรภาพการให้บริการระบบต่างๆ ให้สอดคล้องกับรูปแบบบริการทางการเงินในปัจจุบันและอนาคต พร้อมยกระดับศักยภาพ Next Generation Digital Infrastructure เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินสนับสนุนการปรับเปลี่ยนเพื่อการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล รองรับแผนของ ธปท. ที่จะผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพการชำระเงินและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับภาคธุรกิจในโครงการ PromptBiz ควบคู่ไปกับการเพิ่มขีดความสามารถและเสถียรภาพโดยการขยายระบบรองรับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น  

 

“NITMX ยังศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงบริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพทางต้นทุนสูงสุดในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน National Digital Trade Platform เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก” วรรณากล่าว

 

สันติธาร เสถียรไทย ประธานทีมเศรษฐกิจ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ Sea Group กล่าวว่า ปี 2565 ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล เนื่องจากการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของโลกในปีนี้เริ่มชะลอตัวลงหลังจากเติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นมาในช่วงวิกฤตโควิด จนมีการเรียกภาวะที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็น Revenge of Old Economy หรือการแก้แค้นของเศรษฐกิจเก่า ที่คนหันมาทำกิจกรรมต่างๆ แบบออฟไลน์มากขึ้น

 

“คนกำลังตั้งคำถามว่าภาวะที่เกิดขึ้นนี้ลากยาวต่อไปหรือจะเป็นแค่ภาวะชั่วคราว โดยส่วนตัวยังมองว่าเป็นการย่อตัวลงแค่ชั่วคราว แต่เทรนด์ของเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะยาวจะยังเติบโตได้ เพราะยังมีกลุ่มคนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการเหล่านี้อีกเยอะมาก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา” สันติธารกล่าว

 

สันติธารกล่าวอีกว่า การพัฒนาระบบชำระเงินแบบดิจิทัลจะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้คนเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น โดยระบบการชำระเงินจะเปรียบเสมือนถนนที่ช่วยเชื่อมระหว่างเกาะต่างๆ หากถนนดีคนจะเดินทางไปที่เกาะได้มากขึ้น นำความเจริญไปสู่เกาะ เมื่อคนเดินทางเข้าเกาะเยอะ ถนนก็ต้องถูกขยาย วนเป็นลูปแบบนี้

The post NITMX เล็งพัฒนาระบบการชำระเงินไทย ให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ 10,000 รายการ/วินาทีภายในสิ้นปีนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>