หลังการออกฉายพาร์ตแรกของ Money Heist: Korea – Joint Economic Area เสียงตอบรับจากแฟนซีรีส์มีทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการเป็นซีรีส์รีเมกจากต้นฉบับที่ได้รับความนิยมล้นหลาม ก็ย่อมต้องยอมรับทั้งก้อนหินและดอกไม้จากผลของมัน แต่ถึงอย่างนั้น Money Heist: Korea ก็ทำคะแนนนิยมติดอันดับหนึ่ง Netflix Top 10 ในประเทศเกาหลีใต้, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, มาเลเซีย และไทยไปเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับแฟนซีรีส์ Money Heist เวอร์ชันต้นฉบับสเปน อาจจะรู้สึกว่า Money Heist: Korea ไม่ได้แปลกใหม่แบบรื้อสร้าง และการพุ่งประเด็นไปที่สถานการณ์ที่เกิดระหว่างความพยายามรวมชาติ ก็อาจทำให้คนดูนอกเกาหลีไม่ได้อินเท่าคนในที่หวังว่าวันหนึ่ง เหนือ-ใต้จะไม่ใช่สองประเทศที่แยกจากกัน เพราะในซีรีส์เราได้เห็นคนเกาหลีจากทั่วทุกภูมิภาคมาร่วมเป็นตัวละครในเรื่อง ทั้งคนเกาหลีเหนือ คนทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ คนเกาหลีที่ไปเป็นแก๊งมาเฟียจีน เด็กหนุ่มร่ำรวยในโซล ฯลฯ นั่นจึงน่าสนใจในความหลากหลายทางสถานะทางสังคมที่ทำให้เห็นว่า การเคารพในความแตกต่างและความเท่าเทียมต่างหากที่เป็นประเด็นซุกซ่อนอยู่ในนั้น

บทความนี้รวบรวมบทสัมภาษณ์ผู้กำกับ นักเขียน และนักแสดงนำของ Money Heist: Korea ในประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมด้วยเบื้องหลังงานสร้าง เพื่อว่าใครที่ดูแล้วอาจจะเข้าใจความคิดและความพยายามในการรีเมกซีรีส์ยอดนิยมนี้ให้เป็นคอนเทนต์เกาหลี ที่เล่นท่ายากทั้งในการต้องยังบูชาครู สร้างความแปลกใหม่ และยังได้ใจคนดูด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• Money Heist: Korea สัมภาษณ์ พัคแฮซู หัวหน้าทีมปล้นโรงกษาปณ์ พร้อมเรื่องราวเบื้องหลังก่อนจะมาเป็นตัวละครเบอร์ลิน
• Money Heist: Korea – Joint Economic Area ความดีหรือเลว? การปล้นโรงกษาปณ์บนความพยายามรวมชาติเกาหลี
• รู้จักคนบนธนบัตร Money Heist: Korea 3 วีรชนผู้เรียกร้องอิสรภาพของเกาหลีสมัยถูกปกครองโดยญี่ปุ่น

จุดเริ่มต้นของความคลั่งไคล้ Money Heist

นักเขียน รยูยงแจ ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวว่า เขาเป็นแฟนตัวยงของ Money Heist และถ้าไล่เรียงผลงานก่อนหน้านี้ของเขา Monstrous, My Holo Love และ Psychopath Diary ก็น่าสนใจทีเดียวว่าไอเดียเบื้องหลังการเขียนบทซีรีส์รีเมกเรื่องนี้เป็นอย่างไร

“ตอนที่ผมดูซีรีส์ Money Heist ออริจินัลเวอร์ชันของสเปน ผมดูทันทีที่ออนแอร์เลยครับ ชอบมากๆ และเป็นแฟนตัวยงของ Money Heist เลย และอยากมีโอกาสได้ทำเวอร์ชันรีเมก ด้วยความที่เป็นซีรีส์ออริจินัลของ Netflix ผมไม่สามารถซื้อลิขสิทธิ์มาจากผู้สร้างได้ แต่ทาง Netflix กลับเสนองานนี้ให้ ผมเลยได้รู้ว่าสามารถบิดเรื่องราวเพื่อให้เข้ากับบริบทสังคมเกาหลีได้ เราได้รับความเชื่อใจอย่างมากมายจากผู้สร้างต้นฉบับ พวกเราได้นำแผนที่คิดไว้ส่งไปให้ผู้สร้าง และมีการพูดคุยกันเยอะมากเลยครับกับทาง Netflix เพื่อที่จะเล่าเรื่องราวในแบบเกาหลีให้ดีที่สุด”

เช่นเดียวกับผู้กำกับ คิมฮงซอน ที่เป็นแฟนซีรีส์ Money Heist เช่นกัน “ผมได้ดู Money Heist ออริจินัลซีรีส์ในปี 2018 และผมเองก็คิดว่ามันมีคาแรกเตอร์มากมายในเรื่อง ทางผู้สร้างเขาเก่งมากในการทำให้ทุกตัวละครมีเสน่ห์ของตัวเอง ส่วนเรื่องราวก็สนุกมากๆ ผมมีความคิดว่าถ้าเราถ่ายทอดแบ็กกราวด์ของตัวละครให้อยู่ในสังคมเกาหลี ก็น่าจะเป็นการให้กำเนิดใหม่กับ Money Heist: Korea นั่นจึงเป็นการเริ่มต้นการทำงานของพวกเราครับ

“จากใจจริง Money Heist เวอร์ชันสเปนเป็นที่นิยมมาก ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเราควรจะรีเมกมันออกมาอย่างไรในตอนต้น ค่อนข้างเต็มไปด้วยความกดดันครับ แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าเกาหลีน่าจะเป็นประเทศสุดท้ายแล้วที่ยังมีการแบ่งแยกเหนือ-ใต้เป็นสองประเทศอยู่ และประเด็นนี้สามารถต่อยอดไปเป็นองค์ประกอบที่ดีของเรื่องราวได้”

การรวมชาติเกาหลี พื้นที่สมมติ JEA ฝันที่เป็นจริง?

การเลือกประเด็นรวมชาติเกาหลีเหนือ-ใต้ ต้องยอมรับว่าน่าสนใจ ยิ่งมีการขยี้ประเด็นด้วยการปูพื้นตัวละครจากเกาหลีภาคต่างๆ การแบ่งตัวประกันเป็นทีมเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ก็ยิ่งมองเห็นว่าจะเป็นประเด็นที่พัฒนาเรื่องราวใน Money Heist: Korea ได้อย่างแปลกใหม่

ผู้กำกับคิมฮงซอนเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเริ่มแรกของการทำงาน เขาหนักใจมากในการทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเหตุการณ์รวมประเทศนี้อาจเกิดขึ้นได้จริงในอนาคต

“The Joint Economic Area: JEA เป็นพื้นที่สมมติ เป็นเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อ Money Heist: Korea เลยครับ ผมอยากให้คนดูเชื่อว่าการรวมประเทศอาจเกิดขึ้นจริง และที่เกิดขึ้นในซีรีส์ก็ควรจะสมจริงด้วย ผมคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกาหลีด้วย การเลือกช่วงเวลาที่เป็นอนาคตในซีรีส์ทำให้เรื่องราวดูสมจริงขึ้น 

“ผมกับทีมงานได้ทำ Virtual Space ของพื้นที่บริเวณ JEA ด้วยกัน โรงกษาปณ์ที่ตั้งอยู่บนเส้นแบ่งเขตทหารที่ JSA หรือพื้นที่ความมั่นคงร่วมระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ เราได้สร้างกรอบการทำงานเพื่อให้เห็นว่าโรงกษาปณ์สำหรับสองประเทศมีอยู่จริง และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดความวุ่นวายระหว่างพิมพ์ธนบัตรสำหรับสองประเทศ, จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโจรที่รวมทีมจากทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ร่วมกันปล้นโรงกษาปณ์ และตำรวจจากสองประเทศต้องมาร่วมกันปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน ผมคิดว่าไอเดียนี้จะทำให้เรื่องราวมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น มันคุ้มค่ามากที่จะลองสร้างเรื่องราวในแบบของเราเอง

สองนักแสดง คิมยุนจิน และยูจีแท ได้เล่าถึงการตัดสินใจรับแสดงซีรีส์เรื่องนี้

คิมยุนจิน: ซีรีส์ต้นฉบับได้รับความนิยมสูงมาก ฉันก็เลยกังวลค่อนข้างมากค่ะ แต่เพราะเป็นเนื้อเรื่องที่เกาหลีใต้เท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ เมื่อนำจุดแข็งจากเวอร์ชันต้นฉบับมาผสมผสานเข้ากับความเป็นเกาหลี และบทประพันธ์ที่นักเขียนรยูยงแจได้เรียบเรียงมาเป็นอย่างดี น่าจะออกมาเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม พวกเราจึงถ่ายทำกันอย่างเต็มที่ค่ะ

ยูจีแท: Money Heist เป็นซีรีส์ที่มีแฟนเยอะมากจริงๆ ครับ แต่เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ก็ควรได้รับการบอกเล่าในหลายๆ ประเทศ ในหลายๆ ความเป็นไปได้ ผมคิดแบบนั้นนะครับ สำหรับคอนเทนต์เกาหลีเอง ในตอนนี้ก็เป็นที่รักจากผู้ชมทั่วโลก และเป็นไปได้ว่าผู้สร้างของเกาหลีได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และการมองหาความเป็นไปได้อย่างชาญฉลาด ผมคิดว่าเสน่ห์และความขบขันที่สอดแทรกเข้าไปใน Money Heist น่าจะทำให้สนุกขึ้นได้เช่นกัน

ยูจีแท รับบทเป็น​ ศาสตราจารย์ นักวางกลยุทธ์อัจฉริยะ และเป็นนักโน้มน้าวใจ คนวางแผนการปล้นโรงกษาปณ์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นการก่ออาชญากรรมที่ไม่มีการเสียชีวิตหรือเลือดเนื้อ เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นและได้รับความเชื่อมั่น ได้รับความไว้วางใจ “ผมเคยรับบทตัวร้ายมาหลายครั้ง แต่บทที่วางแผนก่ออาชญากรรมแบบขาวสะอาดที่ไม่มีการเสียเลือดเนื้อ เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ผมได้รับบทแบบนี้ ตัวศาสตราจารย์เองจะมีฐานที่มั่นเพื่อคอยดูภาพรวมสถานการณ์ เขาจะคอยกำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงกษาปณ์ คอยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกให้กับทีมที่อยู่ข้างในด้วย ไม่ใช่แค่สื่อสารกับทีมปล้นนะครับ แต่ศาสตราจารย์ยังเป็นคนสื่อสารให้กับคนดูด้วยเหมือนกัน”

คิมยุนจิน รับบทเป็น ซอนอูจิน เป็นตำรวจหัวหน้าทีมเจรจาต่อรองในภาวะวิกฤตจากฝั่งเกาหลีใต้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจรจาที่มากความสามารถ สุขุม และแน่วแน่ “ซอนอูจินเป็นตัวละครที่พยายามหาจุดอ่อนของแก๊งโจรเพื่อรีบช่วยเหลือตัวประกันและยุติการโจรกรรม สิ่งหนึ่งที่เธอคิดเหมือนกับศาสตราจารย์ก็คือต้องไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เธอไม่ต้องการให้ใช้อาวุธหรือใช้กำลังในการยุติสถานการณ์ แต่ต้องการแก้ปัญหาโดยการพูดคุยและใช้ความคิดค่ะ”

รายละเอียดงานสร้างที่คนดูอาจยังไม่รู้

JEA – Joint Economic Area พื้นที่พิเศษที่เกิดจากจินตนาการถึงการรวมชาติเกาหลี เมืองพิเศษแห่งนี้จะเป็นพื้นที่เข้าถึงร่วมกันระหว่างรัฐบาลเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

• คาดเดาว่าน่าจะอยู่บริเวณ DMZ – Demilitarized Zone ที่เมืองแคซอง 
• ขนาดใหญ่ประมาณสวนยออีโดในโซล 
• สร้างเมืองขึ้นที่นี่โดยมีโรงกษาปณ์เป็นศูนย์กลาง มีถนนล้อมรอบ
• อาคารสไตล์ฮันอก หรือ Hanok ซึ่งเป็นแบบบ้านโบราณของเกาหลี
• ผู้คนที่อยู่อาศัยมีทั้งเกาหลีเหนือและใต้ 

ตัวอาคารโรงกษาปณ์ เต็นท์บัญชาการ และที่ทำการของศาสตรจารย์ จะเป็นสิ่งที่ได้เห็นในซีรีส์เยอะที่สุด เพราะเป็นสถานที่ที่เหตุการณ์ดำเนินไป ทีมงานได้จัดไฟแต่ละสถานที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลา โดยคำนึงถึงทิศทางของแสงอาทิตย์ มุม และแสงสีที่ส่องเข้าไปในแต่ละสถานที่ ทั้งเช้า บ่าย ค่ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยแสดงความรู้สึกที่แตกต่าง 

ทีมงานพยายามที่จะควบคุมทิศทางและแสงสีในการเล่าเรื่องราวและความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น เวลาที่นักแสดงอยู่ในเซ็ต แม้ว่าจะถ่ายทำช็อตแยกจากกัน แต่รีแอ็กชันเกิดขึ้นพร้อมกัน ทีมงานจึงขอให้นักแสดงที่อยู่ในซีนนั้นยังคงแสดงอยู่ คล้ายๆ การแสดงละครเวทีที่การแสดงเกิดขึ้นตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้โดนกล้องจับภาพอยู่ก็ตาม

อาวุธปืนรวมถึงเครื่องกระสุนหนักที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักในซีรีส์เกาหลี

อย่างที่รู้กันดีว่ากฎหมายการครอบครองอาวุธปืนในเกาหลีนั้นเข้มงวดมาก กระทั่งตำรวจที่จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยังต้องมีการลงทะเบียน และได้รับปืนไปใช้เฉพาะในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ดังนั้น Money Heist ที่มีการยิงกันแบบระเบิดภูเขา เผากระท่อม จึงมีการกระหน่ำยิงกันน้อยกว่าที่คิด เพราะจากสเปนมาสู่เกาหลี ก็ย่อมต้องปรับบทให้เข้ากับรูปแบบสังคม

ความละเอียดของงานสร้างในส่วนนี้ สะท้อนผ่านความตกใจทุกครั้งที่เกิดเสียงปืนดังขึ้น ผู้กำกับคิมฮงซอนได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “การใช้ปืนในเกาหลีอาจจะดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไร ด้วยข้อกฎหมาย ทำให้เราไม่มีฉากยิงปืนเยอะในซีรีส์เกาหลีอยู่แล้ว เราทำงานกันหนักและยาวนานมากในการทำให้ทุกอย่างดูสมจริง เราผสมผสานอาวุธปืน AK ที่ใช้ในเกาหลีเหนือ และปืน HK416 ที่เกาหลีใต้ใช้ เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างสองประเทศ” 

หน้ากากฮาฮเว ตัวแทนทางวัฒนธรรมที่ส่งเมสเสจสำคัญ

สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Money Heist ก็คือหน้ากากที่ใช้ในการปล้น ซึ่งก็คือหน้ากากฮาฮเว หนึ่งในวัฒนธรรมเก่าแก่จากเมืองอันดงที่คนเกาหลีทุกคนรู้จักกันดี

ผู้กำกับคิมฮงซอนได้เล่าถึงการเลือกหน้ากากฮาฮเวมาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพิเศษของ Money Heist: Korea เอาไว้ว่า “ผมกับอาร์ตไดเรกเตอร์คุยกันเยอะมากเกี่ยวกับหน้ากากเวอร์ชันเกาหลี เพราะแม้ว่าเกาหลีใต้รวมถึงโซลเป็นที่รู้จักในระดับโลกอยู่แล้ว แต่กับเกาหลีเหนือ พูดตามตรงว่าเราก็ไม่ได้รู้จักประเทศและผู้คนได้ลึกซึ้งไปกว่าคนอื่นๆ เราต้องการแสดงให้เห็นภาพเกาหลีเหนือที่เป็นจริง เพราะซีรีส์เรื่องนี้จะฉายไปทั่วโลก เราจึงต้องทำการศึกษาเยอะมากเพื่อสร้างภาพของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในอนาคต และหน้ากากฮาฮเวเป็นวัฒนธรรมที่สะท้อนทั้งเกาหลีเหนือและใต้ได้เป็นอย่างดี”

พัคแฮซูและจอนจงซอได้ให้สัมภาษณ์ไว้เช่นกันว่าหน้ากากฮาฮเวเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ

พัคแฮซู: หนึ่งในเมสเสจสำคัญที่สุดของซีรีส์ Money Heist คงหนีไม่พ้นหน้ากากครับ ที่สเปนใช้หน้ากากดาลีเพื่อบ่งบอกถึงอิสรภาพ ในเวอร์ชันเกาหลีเราเลือกใช้ ‘หน้ากากฮาฮเว’ ของเมืองอันดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้เปรียบเปรยและเสียดสีผู้ที่มีอำนาจ ครั้งแรกที่ได้ลองสวมหน้ากาก ผมว่านักแสดงทุกคนน่าจะสัมผัสได้ถึงความน่าเกรงขามนะครับ เวลาเรามองหน้ากากฮาฮเวจากด้านหน้า ด้านล่าง หรือด้านข้าง ความรู้สึกที่ได้รับล้วนแตกต่างกันครับ 

จอนจงซอ: ก่อนที่จะเริ่มการถ่ายทำ พวกเราค่อนข้างสงสัยกันนะคะว่าจะได้ใส่หน้ากากแบบไหน แล้วตอนที่เรารู้ว่าทีมงานเลือกหน้ากากฮาฮเว ฉันก็เซอร์ไพรส์มากค่ะ เพราะว่ามันมีรอยยิ้มกว้างๆ ที่ทำให้รู้สึกถึงอารมณ์ดี ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกลึกลับและมีความหมายซับซ้อน

คาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

Money Heist เป็นซีรีส์สเปนที่ได้รับความรักไปทั่วโลก และปฏิเสธไม่ได้ว่าเสน่ห์ของตัวละครต้นฉบับยังคงอยู่ในใจแฟนซีรีส์ นั่นทำให้การมาถึงของ Money Heist: Korea กลายเป็นยาขมอยู่เหมือนกัน สำหรับคนที่ปักใจไปกับเบอร์ลิน, ศาสตราจารย์, มอสโก, โตเกียว ฯลฯ ในเวอร์ชันต้นฉบับไปแล้ว 

ทีมสร้าง Money Heist: Korea ได้มีการสร้างตัวละครบนพื้นฐานที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตมาในสังคมเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ นักเขียนรยูยงแจได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า

“เราค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงตัวละครมากๆ ครับ การเปลี่ยนแปลงต้องทำให้ตัวละครมีเสน่ห์และมีชีวิตชีวาในแบบเวอร์ชันต้นฉบับ และยังต้องเข้ากับองค์ประกอบของซีรีส์เวอร์ชันเกาหลีด้วย ตอนที่ผมเขียนบทเสร็จแล้วก็ยังต้องพูดคุยกับนักแสดงแต่ละคนว่า พวกเขาอยากเพิ่มหรือคิดว่าตัวละครของตัวเองควรออกมาเป็นแบบไหน เพื่อให้ตัวละครของพวกเขามีความเป็นเกาหลีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราต้องการเรื่องราวของทีมปล้นที่หาทางเอาชีวิตรอด และการเชื่อมโยงของพวกเขาในจุดเริ่มต้นก็คือเงินจำนวนมหาศาล 

“พวกเราแชร์กันบ่อยมากเกี่ยวกับไอเดียตัวละครต่างๆ อย่างเช่นเบอร์ลินในเวอร์ชันสเปนที่เป็นตัวละครที่ยอดเยี่ยมมากๆ ส่วนของเวอร์ชันเกาหลี เราต้องการให้เบอร์ลินเป็นใครสักคนหนึ่งที่เข้าร่วมทีมปล้นโดยไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายเขากลับค้นพบเหตุผลนั้น เราต้องการความสงสัย ความขัดแย้ง ความเชื่อใจ ความร่วมมือ ผนวกอยู่ด้วยกันในทีมปล้นโรงกษาปณ์”

ทีมนักแสดง Money Heist: Korea เองก็ได้บอกเล่าถึงตัวละครของพวกเขา ที่สะท้อนความเป็นเวอร์ชันเกาหลีที่แตกต่างไปจากเดิม

พัคแฮซู: ตัวละคร เบอร์ลิน ถูกคุมขังอยู่ในค่ายกักกันของเกาหลีเหนือเป็นเวลานาน เขาเป็นคนเหี้ยมโหดที่คอยควบคุมตัวประกันให้อยู่ในคำสั่ง โดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตามครับ

จอนจงซอ: ตัวละคร โตเกียว เป็นเด็กสาววัยยี่สิบธรรมดาคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือ เธออพยพมาเกาหลีใต้เพราะวาดฝันถึงอนาคตและความเป็นอยู่ที่ดี แต่กลับต้องลิ้มรสความยากลำบากและทุกข์ทรมานจากระบบทุนนิยมค่ะ ศาสตราจารย์เป็นคนช่วยเธอไว้ เธอจึงเป็นตัวละครที่ศรัทธาในตัวศาสตราจารย์มากที่สุด เรียกว่ายอมทำทุกอย่างตามที่เขาสั่ง 

ตัวละครโตเกียวที่ฉันรับบทแตกต่างจากโตเกียวในเวอร์ชันสเปนค่ะ เพราะเป็นตัวละครที่เป็นตัวแทนของ Gen Y เป็นเด็กวัยรุ่นที่ใสซื่อ ศาสตราจารย์พูดอะไรก็เชื่อฟัง มุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายโดยไม่ออกนอกลู่นอกทาง

อีวอนจง: ตัวละคร มอสโก ใช้ชีวิตอย่างลำบากทั้งในอดีตและปัจจุบัน เขามีลูกชายที่ดูท่าแล้วน่าจะมีชะตาที่ลำบากเช่นกัน แต่เขาก็ยังมีความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น และฝากความหวังครั้งสุดท้ายไว้กับศาสตราจารย์ครับ

พัคมยองฮุน: ตัวละคร โจยองมิน เป็นคนเลวมากครับ อาจจะเลวร้ายกว่าแก๊งโจรก็ได้ครับ เขาเป็นผู้อำนวยการของโรงกษาปณ์ เป็นนักฉวยโอกาสที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดครับ

คิมซองโอ: ชามูฮยอก เป็นอดีตสายลับพิเศษเกาหลีเหนือที่ถูกส่งตัวมายังหน่วยปฏิบัติภารกิจเฉพาะกิจเพื่อช่วยในการเจรจาครับ 

คิมจีฮุน: ตัวละคร เดนเวอร์ เป็นลูกชายของมอสโกครับ เขาเป็นนักเลงที่ชกต่อยเก่ง ชอบก่อเรื่องเดือดร้อนตั้งแต่เด็กๆ ไม่ตั้งใจเรียน แต่ก็เป็นคนที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องและศีลธรรม เป็นตัวละครที่มีมุมใสซื่อและมีเสน่ห์ครับ

จางยุนจู: ตัวละคร ไนโรบี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปลอมแปลงเอกสารและเงินตราค่ะ หรือพูดง่ายๆ ก็คือนักต้มตุ๋นนั่นเองค่ะ ไนโรบีเป็นตัวละครที่ร่าเริงและพลังเหลือล้น แต่ภายในเป็นคนอบอุ่นและเข้าใจความรู้สึกคนอื่น ฉันคิดว่าระหว่างถ่ายทำนักแสดงคนอื่นน่าจะสนุกและเพลิดเพลินได้เพราะฉันนะคะ

อีจูบิน: ตัวละคร ยุนมีซอน เป็นเจ้าหน้าที่ในโรงกษาปณ์ค่ะ เธอมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับยองมินและถูกหักหลัง นอกจากนั้นยังถูกแก๊งโจรจับเป็นตัวประกันด้วยค่ะ 

อีฮยอนอู: ริโอ เป็นตัวละครที่สดใสร่าเริง บางครั้งก็ดูเป็นคนที่ไร้เดียงสาเกินไป แต่จะได้เห็นการเติบโตของเขาหลังจากได้เข้าร่วมกับแก๊งโจรครับ ริโอเป็นน้องเล็กและเป็นแฮกเกอร์ของแก๊ง ซึ่งคอยเชื่อมโยงศาสตราจารย์ที่อยู่ข้างนอกกับแก๊งโจรที่อยู่ในโรงกษาปณ์ครับ

คิมจีฮุน: ตัวละคร เฮลซิงกิ เป็นคนที่ชอบข่มขู่และใช้อาวุธจำพวกปืนเก่ง ดูจากภายนอกเขาอาจจะเหมือนคนโง่ แต่เป็นคนที่เอาใจใส่และรักษาคำพูดครับ

อีคยูโฮ: ตัวละคร ออสโล เป็นคู่หูของเฮลซิงกิครับ เขาบึกบึนที่สุดในแก๊งโจรก็เลยทำให้ดูน่ากลัว แต่ก็มีบางครั้งที่เขาเห็นใจตัวประกัน เป็นคนที่ใจกว้างครับ 

ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศมีภาพยนตร์และซีรีส์แนวโจรกรรมมากมาย Money Heist: Korea เองก็เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาย ผู้กำกับคิมฮงซอนและนักเขียนรยูยงแจได้ทิ้งท้ายถึงเหตุผลสำคัญที่พวกเขาคิดว่าผู้ชมจะได้รับจากซีรีส์รีเมกเวอร์ชันเกาหลี 

ผู้กำกับคิมฮงซอน: ผมเชื่อว่าคงมีคนที่เคยและไม่เคยดูซีรีส์ต้นฉบับมาก่อน สำหรับคนที่ไม่เคยดู ถึงจะเป็นซีรีส์แนวโจรกรรมเหมือนกับเรื่องอื่น แต่เรื่องนี้มีตัวละครที่หลากหลายและแปลกใหม่ซึ่งชวนให้น่าติดตามครับ ส่วนคนที่เคยดูต้นฉบับแล้ว ลองดูพร้อมกับลุ้นและเปรียบเทียบทั้งตัวละคร ฉาก และการดำเนินเรื่องว่าแบบฉบับของเกาหลีจะเสนอออกมาเป็นอย่างไร น่าจะทำให้ดูสนุกมากขึ้นครับ

นักเขียนรยูยงแจ: ตัวต้นฉบับมีความลึกซึ้งและเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากมายอยู่แล้ว พอเพิ่มประเด็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เข้าไป ยิ่งตัวละครใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ทั้งแก๊งโจรและกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็ระแวงกันเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย และแม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์คับขัน แต่ก็สามารถค้นพบอีกมุมมองได้ อยากให้คอยติดตามตรงจุดเหล่านี้ครับ

อาหารประจำชาติของสเปนคือปาเอญา ถ้าซีรีส์ต้นฉบับคือปาเอญา ของเราก็คงเปรียบได้กับข้าวผัดกิมจิครับ ถึงจะเป็นข้าวผัดเหมือนกัน แต่มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ซีรีส์ต้นฉบับมีแฟนที่ชื่นชอบจำนวนมากอยู่แล้ว คิดเสียว่าเทศกาลซึ่งเริ่มจัดที่แรกที่สเปนได้มาจัดที่เกาหลีใต้ และอยากให้ทุกคนร่วมสนุกไปกับเทศกาลครั้งนี้ครับ

ภาพ: Netflix

The post เบื้องหลัง Money Heist: Korea สัมภาษณ์ผู้กำกับ นักเขียน นักแสดง กับรายละเอียดการทำงานและความพยายามไปให้ถึงฝั่งฝัน appeared first on THE STANDARD.

เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากมายสำหรับนักแสดงมากความสามารถเจ้าของรอยยิ้มพิมพ์ใจ อีฮยอนอู กับผลงานล่าสุดในบทบาทของ ริโอ แฮกเกอร์น้องเล็กผู้เป็นมันสมองของทีมนักปล้น จากซีรีส์รีเมกชื่อดัง Money Heist: Korea – Joint Economic Area ที่ทำเอาใครหลายๆ คนที่ได้รับชมต่างก็ต้องตกหลุมรักอีฮยอนอูไปตามๆ กันกับเสน่ห์อันเหลือล้นและทักษะทางการแสดงของเขา

อีฮยอนอูเดบิวต์ในวงการบันเทิงเกาหลีใต้มาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้แฟนๆ ซีรีส์แดนโสมต่างก็ต้องเคยเห็นและคุ้นหน้าคุ้นตาเขามาบ้างกับผลงานซีรีส์และภาพยนตร์มากมาย รวมถึงอีฮยอนอูยังมีความสามารถในการร้องเพลงและเป็น MC ด้วยเช่นกัน ด้วยความสามารถรอบด้านของเขาที่มาพร้อมรอยยิ้มและความน่ารัก จึงทำให้อีฮยอนอูเป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพผู้ทรงเสน่ห์แห่งวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ที่ไม่ว่าเขาจะได้รับบทบาทใดในการแสดงแต่ละเรื่อง ก็มักจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากความเป็นมืออาชีพและการเข้าถึงทุกบทบาทในการแสดงของเขาอยู่เสมอ

THE STANDARD POP จึงขอถือโอกาสนี้พาแฟนๆ ไปย้อนชม 10 ผลงานเด่น กว่าจะมาเป็นนักแสดงหน้าหวานเจ้าบทบาทคนนี้ไปด้วยกัน

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

The post ย้อนเส้นทาง อีฮยอนอู นักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาท กับ 10 ผลงานการแสดงเด่นต้องห้ามพลาด! appeared first on THE STANDARD.

ท่ามกลางเสียงติชมมากมายของซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area ที่ลงพาร์ตแรกทั้ง 6 ตอนให้รับชมกันไปทาง Netflix ผู้เขียนคิดว่าสิ่งที่เวอร์ชันเกาหลีดึงความสนใจได้ดีคือการนำประเด็นการรวมชาติของเกาหลีเหนือ-ใต้มาดัดแปลง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้แน่ๆ

ในซีรีส์เองก็เพิ่งอยู่ในช่วงทดลองสร้างเขตเศรษฐกิจร่วม JEA (Joint Economic Area) โดยเลือกให้วันที่ 4 ตุลาคมเป็นวันประกาศความร่วมมือระหว่างเหนือ-ใต้ (ตรงกับวันจริงของการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน กับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โนมูฮยอน) มีการสร้างโรงกษาปณ์เป็นหน่วยงานราชการแรกที่ทั้งเหนือ-ใต้ทำงานร่วมกัน และแน่นอนว่าต้องผลิตสกุลเงินใหม่มาใช้ร่วมกันอีกด้วย

ธนบัตรจึงเป็นอีกกิมมิกสำคัญ ทีมผู้สร้างเผยว่าก่อนหน้านี้มีการออกแบบไว้หลายเวอร์ชันจากสิ่งที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมเหนือ-ใต้ เช่น เกาะทกโด ภูเขาแพ็กดู ภูเขาฮัลลา ฯลฯ แต่พวกเขาคิดว่า ถ้าหากเกาหลีรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้วจะออกธนบัตร 100,000 วอน บุคคลที่น่าจะได้รับการพิจารณามากที่สุดน่าจะเป็นผู้คนที่สละชีพเพื่อชาติ เช่น ยูกวานซุน ซึ่งพวกเขาเองก็แฝงความหมายที่อยากจะบอกให้คนต่างชาติได้รับรู้กัน

ผลสุดท้ายบุคคล 3 คนบนธนบัตรและโถงในโรงกษาปณ์จากที่เราเห็นในซีรีส์คือ จูชีกยอง, อันจุงกึน และ ยูกวานซุน วีรชนผู้ได้รับการยกย่องว่ามีบทบาทสำคัญต่อการปกป้องชนชาติเกาหลีไว้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในเวลานั้นกษัตริย์และราชสำนักอยู่ในสภาวะไร้อำนาจต่อกรกับชาติอื่นที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ จนกระทั่งญี่ปุ่นสามารถเข้าควบคุมการเมืองการปกครองได้อย่างเบ็ดเสร็จ และพยายามลบล้างอัตลักษณ์ของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการศึกษา หนังสือพิมพ์ เพลงชาติ ธงชาติ ฯลฯ แม้ไร้หนทางสู้แค่ไหน แต่ชาวเกาหลีก็ออกมาเรียกร้องและลงมือทำอะไรหลายอย่างครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อแสดงออกว่าไม่ยอมจำนนต่อการถูกกดขี่อีกต่อไป

จูชีกยอง (1876-1914) ปรากฏบนธนบัตร 10,000 วอน

“เมื่อภาษารุ่งเรือง ประเทศก็รุ่งเรือง เมื่อภาษาล่มสลาย ประเทศก็ล่มสลาย”

จูชีกยองเป็นนักภาษาศาสตร์ผู้มีอุดมการณ์ชาตินิยม เขาเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมภาษาเกาหลี อุทิศตนให้กับการวิจัยจัดระบบระเบียบภาษาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ส่งเสริมให้คนตระหนักรู้ถึงคุณค่าของภาษาอันเป็นรากเหง้าที่สำคัญของประเทศตนเอง และยังเป็นผู้บัญญัติชื่อของระบบเขียนภาษาเกาหลีซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า ‘ฮันกึล’ แทนคำว่า ‘ฮุนมินจองอึม’ ของพระเจ้าเซจงมหาราช

เขาเป็นหนึ่งในนักเขียนของ ทงนิบชินมุน (The Independent) หนังสือพิมพ์ภาษาเกาหลีล้วนฉบับแรกที่จัดทำขึ้นเพื่อให้คนทุกชนชั้นสามารถอ่านความเป็นไปในบ้านเมืองได้อย่างกว้างขวาง ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะชนชั้นขุนนางหรือผู้มีการศึกษาเท่านั้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลผู้มีคุณูปการในห้วงเวลาที่ภาษาและวัฒนธรรมของคนในชาติถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยจักรวรรดิญี่ปุ่น

จูชีกยอง (1876-1914)

อันจุงกึน (1879-1910) ปรากฏบนธนบัตร 50,000 วอน

เมื่อกล่าวถึงอันจุงกึน มิชชันนารีผู้สละทุกอย่างเพื่อต่อต้านการครอบงำจากญี่ปุ่น ก็ต้องกล่าวถึง อิโต ฮิโรบุมิ รัฐบุรุษผู้น่ายกย่องของญี่ปุ่นในยุคเมจิ เพราะสำหรับชาวเกาหลีแล้วเขาคือผู้ตรวจราชการที่มีบทบาทเลวร้ายภายในเกาหลี จนนำไปสู่การวางแผนลอบสังหาร โดยอันจุงกึนเป็นคนลั่นไกยิงอิโต ฮิโรบุมิ ได้สำเร็จในปี 1909 ก่อนจะถูกจับกุมและส่งตัวให้ทางการญี่ปุ่น

เขากล่าวถึงแรงจูงใจไว้ถึง 15 ข้อ เช่น อิโตเป็นผู้ลอบสังหารจักรพรรดินีมยองซอง, สังหารชาวเกาหลีผู้บริสุทธิ์, บังคับให้เกาหลีทำสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรม 14 ฉบับ, บังคับใช้ธนบัตรญี่ปุ่น, ขัดขวางไม่ให้ชาวเกาหลีได้รับการศึกษา ฯลฯ เขาคิดว่าการสังหารอิโตจะช่วยหยุดยั้งความสูญเสียได้ เพราะนโยบายของญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ทำร้ายเกาหลีเท่านั้น แต่จะลุกลามจนนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่ภายในเอเชียตะวันออกด้วย สุดท้ายแม้ว่าอันจุงกึนถูกประหารชีวิตในปี 1910 เวลาไม่นานก่อนญี่ปุ่นจะเข้าปกครองได้สำเร็จ แต่การต่อสู้ของเขาก็เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายใหญ่ที่ปลุกให้ผู้คนยังไม่ยอมแพ้ต่อการทวงคืนอิสรภาพ

อันจุงกึน (1879-1910)

ยูกวานซุน (1902-1920) ปรากฏบนธนบัตร 100,000 วอน

ยูกวานซุนเกิดในครอบครัวชาวคริสเตียนพร้อมอุดมการณ์รักชาติแรงกล้า พ่อของเธอสนับสนุนให้เธอได้เข้าเรียนโรงเรียนสตรีอีฮวา ซึ่งในยุคนั้นไม่ใช่เรื่องปกตินักที่ผู้หญิงจะได้รับการศึกษาทัดเทียมผู้ชาย ในวันที่ 1 มีนาคม 1919 ยูกวานซุนกับเพื่อนร่วมชั้นเข้าร่วมขบวนประท้วงเรียกร้องเอกราชจากญี่ปุ่น ขบวนในวันนั้นมีชื่อเรียกว่า ‘การเคลื่อนไหว 3.1’ และกลายมาเป็นวันแห่งอิสรภาพของเกาหลีในปัจจุบัน

หลังจากรัฐบาลสั่งปิดโรงเรียนเพื่อปราบปรามการประท้วง เธอเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อเผยแพร่เรื่องราวการเคลื่อนไหวให้ผู้คนรับรู้ จนเกิดการชุมนุมอย่างสงบโดยมีผู้เข้าร่วมราว 3,000 คน แต่ทหารตำรวจญี่ปุ่นกลับเปิดฉากยิงประชาชนรวมถึงพ่อแม่ของเธอจนถึงแก่ความตาย ส่วนเธอถูกจับขังคุก กระนั้นก็ไม่ยอมซัดทอดชื่อคนอื่นเพื่อขอลดโทษแต่อย่างใด ก่อนจะเสียชีวิตลงจากการถูกทรมานและขาดสารอาหารในวัยไม่ถึง 18 ปี เด็กสาวทิ้งข้อความที่ตอกย้ำเจตจำนงของตัวเองว่า

“แม้เล็บของฉันถูกลอกหลุด จมูกและหูของฉันถูกตัดขาด ขาและแขนของฉันถูกบิดงอ ฉันก็เอาชนะความเจ็บปวดเหล่านั้นได้ มีเพียงความเจ็บปวดของการสูญเสียประเทศเท่านั้นที่ฉันไม่อาจอดทนได้”

ยูกวานซุน (1902-1920)

35 ปีภายใต้การปกครองของจักวรรดิญี่ปุ่นทำให้ชนชาติเกาหลีเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์บาดแผลที่ยังฝังลึกไม่หาย ใน Money Heist: Korea ก็ไม่ลืมจิกกัดแสบๆ ด้วยเหตุผลในการเลือกชื่อของ โตเกียว (รับบทโดย จอนจงซอ) ว่า “เพราะเรากำลังจะทำเรื่องชั่วๆ กันไง” แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักของเรื่องอยู่ที่การวิพากษ์ระบบทุนนิยมในประเทศของพวกเขาเอง ศาสตราจารย์ (ยูจีแท) หวังให้การปล้นครั้งนี้ถูกจารึกว่าเป็นการ ‘ปฏิวัติ’ เพื่อเอาคืนความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ซึ่งต้นสายปลายเหตุมาจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ เมื่อรวมกับภาพของวีรชนในช่วงเวลาดังกล่าวที่เป็นสัญลักษณ์ของสำนึกความรักชาติ และความเป็นปึกแผ่นเดียวกันจึงดูสร้างความขัดแย้งได้น่าตลกร้ายดี เหมือนอย่างที่พาร์ตแรกของซีรีส์แสดงให้เห็นว่ารอยแยกความเป็นพวกเรา-พวกเขาระหว่างทั้งสองฝั่งยังไม่อาจมาสมานรวมกันได้ง่ายๆ เท่าไรนัก

ภาพ: Netflix

อ้างอิง:

• https://www.youtube.com/watch?v=90V7-Ng_TqM
• http://peacemaker.prkorea.com/
• http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20190227000831
• https://www.asianstudies.org/publications/eaa/archives/the-story-of-an-chunggun/

The post รู้จักคนบนธนบัตร Money Heist: Korea 3 วีรชนผู้เรียกร้องอิสรภาพของเกาหลีสมัยถูกปกครองโดยญี่ปุ่น appeared first on THE STANDARD.

พัคแฮซู นักแสดงผู้รับบท เบอร์ลิน ในซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวที่กรุงโซล เกาหลีใต้ บอกเล่าที่มาการทำงานของซีรีส์เรื่องนี้ และผลงานหลังความสำเร็จจาก Squid Game 

“ฉากหลังเกี่ยวกับการแบ่งแยกระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ เป็นสิ่งที่กระทบใจผมเองมากๆ ครับ และเป็นจุดแข็งของ Money Heist: Korea ที่หวังว่าจะได้รับความรักจากผู้ชมอีกครั้ง”

เบอร์ลินในเวอร์ชัน Money Heist: Korea ปรับเปลี่ยนแบ็กกราวด์ไปจากเดิมอยู่บ้าง ตรงที่เขามีพื้นหลังในชีวิตที่สุดแสนจะโหดร้ายและแสนเศร้า การถูกกักขังในค่ายกักกัน 25 ปีในเกาหลีเหนือ ทำให้เขาคล้ายเป็นคนเลือดเย็นที่ไม่แยแสความรู้สึกของใครอีกแล้ว

เขาเล่าถึงตัวละครไว้ว่า “เบอร์ลินเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเศร้าหมอง ไม่ต่างอะไรกับเกาหลีเหนือและใต้ที่เคยเผชิญกับเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน ผมพูดได้ว่านี่คือการตีความคาแร็กเตอร์ของผมเลยครับ เบอร์ลินเป็นนักโทษที่ถูกกักขังในแคมป์เกาหลีเหนือมานานมากๆ และหลบหนีออกมาได้ในท้ายที่สุด ในการปล้นโรงกษาปณ์เบอร์ลินก็เลือกใช้วิธีที่แตกต่างจากศาสตราจารย์ในการควบคุมตัวประกันที่นั่น เขาเป็นคนที่หัวใจเย็นชาที่สุดคนหนึ่ง”

บทความที่เกี่ยวข้อง

• Money Heist: Korea – Joint Economic Area ความดีหรือเลว? การปล้นโรงกษาปณ์บนความพยายามรวมชาติเกาหลี

สำเนียงพยองอัน ซึ่งเป็นสำเนียงถิ่นแบบเกาหลีเหนือ พูดตามตรงว่าขนาดคนเกาหลีด้วยกัน ถ้าหากไม่ตั้งใจฟังหรือไม่คุ้นเคยกับสำเนียงถิ่นก็อาจฟังไม่ออกทั้งหมด คุณเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

พัคแฮซู: มีครูมาสอนพูดสำเนียงเกาหลีเหนือ พวกเราได้เรียนการพูดสำเนียงพยองอันหรือฮัมกยอง ซึ่งเป็นสำเนียงท้องถิ่นในเกาหลีเหนือ ติวเตอร์ช่วยเรามากเลยครับในการออกเสียงให้ถูกต้องที่สุด ตอนที่เริ่มคุ้นเคยกับสำเนียงแล้ว ติวเตอร์ก็จะส่งเสียงที่ถูกต้องมาให้เพื่อซ้อมบทครับ

เบอร์ลินเป็นบทที่ท้าทายมากๆ ครับ ก่อนหน้าที่จะมีการถ่ายทำ Money Heist: Korea เราต้องมาซ้อมบทร่วมกันเยอะมาก ผู้กำกับและนักเขียนก็ช่วยพวกเราเยอะมากในการเตรียมตัวครับ

หน้ากากฮาฮเวที่ใช้ในซีรีส์เรื่องนี้มีความหมายอย่างไร และกับตัวคุณเอง รู้สึกเกี่ยวกับหน้ากากนี้อย่างไรบ้าง

พัคแฮซู: หน้ากากในซีรีส์ Money Heist: Korea เป็นการส่งเมสเสจหลายอย่างจากซีรีส์เลยครับ ในเวอร์ชันสเปนมีการใช้หน้ากากดาลีเพื่อส่งเมสเสจถึงอิสรภาพ ส่วนในเวอร์ชันเกาหลีเราเลือกใช้หน้ากากฮาฮเวที่มาจากเมืองอันดง 

อย่างที่ทราบกันครับ หน้ากากฮาฮเวเป็นสิ่งสำคัญทางวัฒนธรรมของเรามาก ด้านหนึ่งเป็นการแสดงประวัติศาสตร์อันยาวนานและพลังของความเป็นมนุษย์อยู่ในนั้น ส่วนอีกด้านหนึ่ง ตอนที่ผมได้รับหน้ากากนี้มาเป็นครั้งแรก ผมสัมผัสได้ถึงพลังตอนที่นักแสดงแต่ละคนสวมมันเอาไว้ การมองหน้ากากจากมุมต่างๆ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป ซึ่งผมคิดว่ามันน่าทึ่งมากเลยที่ได้เห็นพลังของหน้ากากในแบบนี้

ตอนที่คุณเล่นซีรีส์ Squid Game ตัวละครคุณอยู่ในชุดวอร์มสีเขียว พอมาถึงซีรีส์ Money: Heist คุณอยู่ในชุดจัมป์สูทสีแดง คิดว่าครั้งต่อไปคุณน่าจะมีเครื่องแบบเป็นอย่างไรในซีรีส์

พัคแฮซู: ในแต่ละซีรีส์ ผมรับคาแร็กเตอร์ที่ถูกกักขังด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป ผมคิดว่าตอนนี้มันเหมือนไฟสัญญาณจราจร สีเขียว สีแดง ต่อไปก็ต้องชุดสีเหลืองแล้วล่ะครับ

นับจาก Squid Game ก็มีคนตั้งความหวังไว้เยอะเกี่ยวกับ Money Heist: Korea คุณคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จตามรอย Squid Game ได้ไหม

พัคแฮซู: ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าในท้ายที่สุดผลของมันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ผมพอจะบอกอะไรได้อย่างหนึ่ง Money Heist: Korea นอกจากจะมีจุดแข็งที่ทีมนักแสดงแล้ว ยังมีจุดแข็งมากๆ อีกข้อหนึ่งคือ ฉากหลังที่แสดงให้เห็นการแบ่งแยกของชาติเกาหลีและมีความรู้สึกที่ย้อนแย้งในการกลับมารวมชาติกันอีกครั้ง ผมคิดว่าแฟนๆ ซีรีส์ทั่วโลกจะเข้าใจประเด็นนี้ร่วมกันจากการชมเรื่องราว 

เรามีศิลปินและผู้สร้างที่ยอดเยี่ยมในเกาหลี Squid Game เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นแล้ว ผมมั่นใจว่า Money Heist: Korea จะเดินตามเส้นทางเดียวกัน และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับคนที่กำลังเดินทางตามมา ผมหวังว่าจะได้เห็นความก้าวหน้าในการพัฒนาผลงาน และผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นซีรีส์รวมถึงภาพยนตร์เกาหลีอีกหลายเรื่องที่จะประสบความสำเร็จในระดับสากลนับจากนี้ครับ

ทรชนคนปล้นโลก: เกาหลีเดือด (Money Heist: Korea – Joint Economic Area) ซีรีส์เกาหลีที่สร้างจาก ทรชนคนปล้นโลก (La Casa de Papel) เวอร์ชันต้นฉบับของสเปน กำกับโดย คิมฮงซอน เขียนบทโดย รยูยงแจ, คิมฮวานแช และ ชเวซองจุน นำแสดงโดย ยูจีแท (ศาสตราจารย์), คิมยุนจิน (ซอนอูจิน), พัคแฮซู (เบอร์ลิน), ชอนจงซอ (โตเกียว), อีวอนจง (มอสโก), พัคมยองฮุน (โจยองมิน), คิมซองโอ (ชามูฮยอก), คิมจีฮุน (เดนเวอร์), จางยุนจู (ไนโรบี), อีจูบิน (ยุนมีซอน), อีฮยอนอู (ริโอ), คิมจีฮุน (เฮลซิงกิ), อีคยูโฮ (ออสโล) รับชมได้ทาง Netflix

ตัวอย่างซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area

ภาพ: Netflix

The post Money Heist: Korea สัมภาษณ์ พัคแฮซู หัวหน้าทีมปล้นโรงกษาปณ์ พร้อมเรื่องราวเบื้องหลังก่อนจะมาเป็นตัวละครเบอร์ลิน appeared first on THE STANDARD.

Money Heist: Korea – Joint Economic Area ที่จะออกอากาศพร้อมกันทั่วโลกวันที่ 24 มิถุนายนนี้ เป็นซีรีส์เกาหลีรีเมกจากเวอร์ชันต้นฉบับของสเปนอันลือลั่น La Casa de Papel หรือ Money Heist (2017) งานสร้างของโปรดิวเซอร์ Alex Pina ซึ่งเขาเองเป็นคนที่ยอมให้มีการรีเมกเป็นเวอร์ชันเกาหลี และยังเปิดโอกาสให้เรื่องราวพัฒนาต่อยอดไปได้จากเดิม

และใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะดูดีไหม ขอบอกว่าถ้าคุณยังไม่เคยดู Money Heist มาก่อน การเริ่มด้วยเวอร์ชันเกาหลีสนุกเลย ทั้งยังน่าจะได้รสชาติแบบเอเชียที่คุ้นเคย ส่วนใครที่เป็นแฟนประจำมาตั้งแต่เวอร์ชันสเปนแล้ว ก็อยากแนะนำให้ดู เพราะเกาหลีเลือกใช้โครงเรื่องเดิมมาเล่าใหม่อย่างชาญฉลาด ปรับเปลี่ยนเรื่องราวให้สอดคล้องกับความพยายามรวมประเทศเกาหลีเหนือ-ใต้, พื้นฐานวัฒนธรรมเอเชียที่เน้นเรื่องสายใยความรัก-ครอบครัว, เกมการเมืองเข้มๆ และยังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันสุดลุ้นระทึกในแบบที่ไม่แพ้เวอร์ชันต้นฉบับ 

Money Heist: Korea – Joint Economic Area ได้ขยับเรื่องราวการปล้นโรงกษาปณ์วางไว้บนความซับซ้อนในปี 2025 เมื่อเกาหลีเหนือและใต้ได้ทดลองรวมประเทศบนพื้นที่ JEA หรือ Joint Economic Area เทียบเคียงได้บริเวณเดียวกับ DMZ ในปัจจุบัน โดยที่โรงกษาปณ์แห่งนี้จะใช้ในการพิมพ์ธนบัตรแบบใหม่ที่ใช้ร่วมกัน

แน่นอนว่าอนาคตในการรวมประเทศกำลังเกิดขึ้น แต่การถูกแบ่งแยกกันมากว่า 70 ปี ย่อมทิ้งรอยแผลเอาไว้ในใจของผู้คนทั้งสองประเทศไม่มากก็น้อย ตัวละครที่รายล้อมอยู่ใน Money Heist: Korea จึงมีมิติชีวิตที่แตกต่างหลากหลาย ยืนอยู่บนประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันไป แต่พวกเขามี ‘ความปรารถนา’ ร่วมกันคือ การหลุดพ้นจากความยากลำบากและความยากจน ที่การเมือง การปกครอง และเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ได้บีบบังคับให้ความร่ำรวยไม่ใช่ความเท่าเทียมที่จะมีได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

• เตรียมพร้อมก่อนดู Money Heist เวอร์ชันเกาหลี ซีรีส์การปล้นอัจฉริยะครบรสที่น่าเชื่อว่าดังแน่!

มิติตัวละครใน Money Heist: Korea – Joint Economic Area

พื้นฐานตัวละครใน Money Heist: Korea โดยเฉพาะทีมปล้นโรงกษาปณ์ น่าสนใจมาก เพราะมีการลงรายละเอียดของแต่ละตัวละครชัดเจน

• เบอร์ลิน (รับบทโดย พัคแฮซู) จากเด็กชายเกาหลีเหนือที่พยายามข้ามแม่น้ำมามีชีวิตที่ดีกว่าบนแผ่นดินเกาหลีใต้ กลับถูกขังคุกในฐานะผู้แปรพักตร์นาน 25 ปี จนความคิดจิตใจแทบจะบิดเบี้ยว
• โตเกียว (รับบทโดย ชอนจงซอ) หญิงสาวเกาหลีเหนือที่ไปใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ แต่ชีวิตสู้กลับจนเธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด จนตอนที่สิ้นหวังกับชีวิตอย่างที่สุด ก็ได้ศาสตราจารย์มามอบความหวังใหม่ที่ทำให้เธอศรัทธากับแนวคิดของศาสตราจารย์คนนี้อย่างที่สุด
• ริโอ (รับบทโดย อีฮยอนอู) ตัวละครที่สะท้อนชีวิตลูกหลานตระกูลร่ำรวย ที่แม้จะมีสถานะทางสังคมที่ดี แต่กลับเลือกเส้นทางนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาเป็นลูกคนเล็กของตระกูลดัง นักศึกษาแพทย์ที่ล้มเลิกความตั้งใจและมาเอาดีในการเป็นแฮ็กเกอร์ให้กับทีม
• นอกจากนี้ยังมี เฮลซิงกิ (รับบทโดย คิมจีฮุน) และ ออสโล (รับบทโดย อีคยูโฮ) คู่หูที่เคยทำงานในแก๊งมาเฟียจีน, มอสโก (รับบทโดย อีวอนจง) และ เดนเวอร์ (รับบทโดย คิมจีฮุน) สองพ่อลูกที่ฝันจะร่ำรวย เพื่อไม่ต้องทำงานผิดกฎหมายอีก และ ไรโนบี (รับบทโดย จางยุนจู) นักต้มตุ๋นเกาหลีใต้ที่ชำนาญการปลอมแปลงทุกรูปแบบ

ฝั่งของทีมนอกโรงกษาปณ์ โดยเฉพาะหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ ที่ตั้งขึ้นมาจัดการกับภารกิจปล้นโรงกษาปณ์และช่วยเหลือตัวประกัน ก็นับเป็นความน่าสนใจในการให้มิติตัวละครได้มีเหตุและผล สะท้อนความเป็นไปได้จริงในความรู้สึกที่ขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ ในการเลือกตัดสินใจและจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินตรงหน้า ผ่านตัวละครหลักๆ อย่างเช่น

• ซอนอูจิน (รับบทโดย คิมยุนจิน) ผู้นำภารกิจช่วยเหลือตัวประกันจากเกาหลีใต้ เชี่ยวชาญในการเจรจาต่อรอง เธอเป็นอดีตภรรยาของนักการเมืองตัวเต็งประธานาธิบดีสมัยต่อไป ผู้หญิงแกร่งที่ต้องแสดงท่าทีเข้มแข็งตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความรู้สึกในหัวจิตหัวใจเหมือนคนอื่นๆ
• ชามูฮยอก (รับบทโดย คิมซองโอ) ผู้นำภารกิจช่วยเหลือตัวประกันจากเกาหลีเหนือ เขาเป็นอดีตสายลับพิเศษที่รับคำสั่งโดยตรง ในการทำงานที่มุ่งหวังความสำเร็จมากกว่าการประนีประนอม 
• นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตัวละครที่สะท้อนให้เห็นความจริงที่ว่า เรื่องการเมืองและอำนาจคือสิ่งที่หอมหวานมากกว่าประโยชน์สุขของส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็น หนึ่งในทีมผู้นำภารกิจช่วยเหลือตัวประกันที่ห่วงผลงานก่อนเกษียณ, ผู้อำนวยการกองกษาปณ์ที่ทำทุกทางเพื่อหวังเอาตัวรอด, นักการเมืองตัวเต็งประธานาธิบดีรัฐบาลหลังรวมประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับฐานเสียงและอำนาจมากกว่าสิ่งอื่นใด

ส่วนสำคัญที่มีการเลือกพลิกประเด็นไปจากเวอร์ชันต้นฉบับ และทำให้หัวใจของ Money Heist: Korea กลับมาตอบโจทย์ประเด็นความพยายามรวมชาติเกาหลีเหนือ-ใต้ก็คือตัวละคร ศาสตราจารย์ (รับบทโดย ยูจีแท) ศูนย์กลางของแผนปล้นโรงกษาปณ์ และยังเป็นคนรวบรวมนักโจรกรรมฝีมือดีมารวมตัวเพื่อปล้นเงินกว่า 4 ล้านล้านวอนจากโรงกษาปณ์ร่วมระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ด้วยความหวังว่าเงินจำนวนนี้จะพลิกโลกและสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมนี้

มิติตัวละครศาสตราจารย์ตีความต่างไปจากต้นฉบับในเชิงพื้นฐานชีวิต Money Heist: Korea ย้อนเล่าถึงชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ที่มีอาชีพเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย นักวิชาการที่ทำงานวิจัยผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการรวมประเทศเกาหลีเหนือ-ใต้ เขาเป็นหนึ่งในทีมวางแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพราะเชื่อว่าไม่ใช่แค่มิติปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม แต่การรวมชาติจะเกิดขึ้นได้จริงจาก ‘ความปรารถนา’ และมีฝันร่วมกันในการทำให้ชาวเกาหลีทั้งเหนือและใต้ร่ำรวยขึ้น

เกาหลีเหนือ-ใต้ บนพื้นที่ร่วม Joint Economic Area

ซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area เลือกเล่าเรื่องบนพื้นที่รอยต่อเขตแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่เรียกกันว่า JEA – Joint Economic Area และถ้าหากอ้างอิงตามความเป็นจริง ระหว่างประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีพื้นที่แห่งหนึ่งบริเวณพันมุนจอม เมืองแคซอง ที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่รักษาความปลอดภัย เพื่อใช้ในการเจรจาข้อตกลงร่วมระหว่างสองประเทศ โดยมีองค์การสหประชาชาติเป็นผู้ดูแล 

บริเวณเขตรักษาความปลอดภัยร่วมนี่เอง มีชื่อเรียกว่า JSA หรือ Joint Security Area ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ DMZ – Korean Demilitarized Zone ที่เราน่าจะจำกันได้จากการพบกันครั้งสำคัญระหว่าง มุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และ คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในปี 2018 และการพบกันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในปี 2019

การที่ซีรีส์ใช้พื้นที่บริเวณนี้ในการเล่าเรื่องราว ทำให้เกิดความเป็นไปได้ทีเดียวหากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตกลงยุติข้อพิพาทและทดลองรวมชาติให้เกิดขึ้นจริง อย่างที่เราได้เห็นในซีรีส์ว่า พื้นที่นี้จะใช้เป็นศูนย์สำหรับคณะทำงานทั้งสองประเทศในการทำงานร่วมกัน คล้ายเมืองใหม่ที่ใช้ทดลองการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างเหนือ-ใต้ และที่สำคัญโรงกษาปณ์สำหรับพิมพ์ธนบัตรร่วม สถานที่อันเป็นศูนย์กลางของซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area นี่เอง

อะไรคือความดี-ความเลว? การเลือกพร่าเลือนมิติดี-เลว ผ่านความเห็นของสาธารณชน

นอกจากฉากแอ็กชันตามไล่ล่า ปล้นธนาคารที่ดุเดือดมาก ความดีงามอีกอย่างของซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area คือการเลือกขยี้ความรู้สึกของผู้คน ทั้งคนที่เฝ้ารอบทสรุปของเหตุการณ์ด้านนอกโรงกษาปณ์ และคนดูที่รับชมอยู่ทางบ้าน ด้วยการเบลอนิยามความดี-ความเลว โดยชี้ให้เห็นว่า เหล่านี้คือนามธรรมที่แล้วแต่จะตัดสิน

ทั้งฝ่ายศาสตราจารย์กับทีมปล้นที่อาจถูกมองว่าเป็น ‘คนเลว’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการปล้นโรงกษาปณ์และจับผู้คนเป็นตัวประกัน แต่ในทางกลับกัน หากเขาแย่งชิงความเห็นของสาธารณชนไว้ได้ แล้วกลายภาพเป็นโรบินฮู้ดที่ขโมยเงินเพื่อคนยากจนส่วนใหญ่ของประเทศ สุดท้ายแล้วทีมปล้นโรงกษาปณ์ก็อาจเปลี่ยนฝั่งไปอยู่ด้าน ‘คนดี’ ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

หรือขณะเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจที่เดินหน้าภารกิจช่วยเหลือตัวประกันจากเหตุการณ์ปล้นโรงกษาปณ์ ภาพของตำรวจ อดีตสายสืบ และผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาล ต่างมีภาพของ ‘คนดี’ จากหน้าที่และเครื่องแบบที่พวกเขาสวมอยู่ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องส่วนตัว เรื่องผลงาน หรือกระทั่งแนวทางปฏิบัติเด็ดขาด เน้นผลสำเร็จมากกว่าชีวิตตัวประกัน ก็เป็นไปได้สูงทีเดียวว่ากระแสสังคมจะมองว่าพวกเขาเป็น ‘คนเลว’ ได้ เช่นเดียวกับตัวละครคนเลวที่แฝงตัวในภาพคนดีอย่างผู้อำนวยการโรงกษาปณ์ ที่มีอยู่จริงในสังคม และยังคงเป็นน้ำเสียในองค์กรใดๆ ไปในแบบที่มีตัวตายตัวแทนตลอดกาล

อะไรคือความดี อะไรคือความเลว ในยุคสมัยนี้แทบจะไม่มีอะไรขาว-ดำขนาดนั้น มิติของเรื่องราวและตัวละครในซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area สะท้อนให้เห็นความเทาของแทบทุกตัวละคร และสำหรับฝ่ายโจรปล้นโรงกษาปณ์ก็เป็นอีกครั้งที่ซีรีส์สะท้อนให้เห็นว่า การที่พวกเขาตัดสินใจร่วมแผนร้ายครั้งนั้นอาจไม่ใช่เพราะเนื้อแท้ของตัวตนที่เลวตั้งแต่เกิด 

ตัวสังคมเองหรือเปล่าที่บิดเบี้ยวจนทำให้พวกเขาไร้หนทางในการเป็นคนที่ดี และต้องมีชะตากรรมบนเส้นทางผิดกฎหมายแบบนั้น

ตัวอย่างซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area

The post Money Heist: Korea – Joint Economic Area ความดีหรือเลว? การปล้นโรงกษาปณ์บนความพยายามรวมชาติเกาหลี appeared first on THE STANDARD.

Money Heist: Korea จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว พร้อมด้วยกิจกรรมสนุกๆ เพื่อเพิ่มความน่าตื่นเต้นของซีรีส์การปล้นโรงกษาปณ์ในเวอร์ชันเกาหลี นักแสดงนำ ยูจีแท, พัคแฮซู, คิมยุนจิน, จอนจองซอ, คิมจีอุน, อีฮยอนอู และทีมนักแสดงครบทีม มาร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ก่อนที่ทุกคนจะได้รับชมงานสร้างยิ่งใหญ่พร้อมกันในวันที่ 24 มิถุนายนนี้!

THE STANDARD POP ร่วมกิจกรรม K-Wave Immersion ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ โดยทาง Netflix ได้จัดกิจกรรมสัมภาษณ์และร่วมสนุก จนได้เห็นทีมนักแสดงเคมีเข้าขากัน จนกลายเป็นความสัมพันธ์แบบทีมเดียวกันไปแล้วจริงๆ เราได้รวบรวมบรรยากาศสุดพิเศษอย่างใกล้ชิดมาให้แล้ว อุ่นเครื่องก่อนรับชมซีรีส์พร้อมกันในวันนี้!

Money Heist: Korea – Joint Economic Area กำกับโดย คิมฮงซอน เขียนบทโดย รยูยงแจ คิมฮวานแช และ ชเวซองจุน นำแสดงโดย ยูจีแท (ศาสตราจารย์), คิมยุนจิน (ซอนอูจิน), พัคแฮซู (เบอร์ลิน), จอนจงซอ (โตเกียว), อีวอนจง (มอสโก), พัคมยองฮุน (โจยองมิน), คิมซองโอ (ชามูฮยอก), คิมจีฮุน (เดนเวอร์), จางยุนจู (ไนโรบี), อีจูบิน (ยุนมีซอน), อีฮยอนอู (ริโอ), คิมจีฮุน (เฮลซิงกิ), อีคยูโฮ (ออสโล)

ยูจีแท ผู้รับบท ศาสตราจารย์ ได้ฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยว่า “พวกเราทุ่มเททุกอย่างไปในโชว์ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาครับ อยากให้ทุกคนรักซีรีส์เรื่องนี้และรอคอยรับชมความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นใน Money Heist – Korea”

ภาพ: Netflix

The post Exclusive! Money Heist: Korea ทุกภาพความประทับใจกับ ยูจีแท, พัคแฮซู, คิมยุนจิน, จอนจองซอ, คิมจีอุน, อีฮยอนอู และทีมนักแสดงครบทีม appeared first on THE STANDARD.

Money Heist: Korea – Joint Economic Area เป็นซีรีส์ออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix ที่รีเมกมาจาก La Casa de Papel ทรชนคนปล้นโลก ซีรีส์ต้นฉบับของสเปน ซึ่งออนแอร์มาแล้ว 3 ซีซัน 5 พาร์ต รวม 41 อีพี โดยในเวอร์ชันเกาหลีที่จะออนแอร์วันที่ 24 มิถุนายนนี้ จะมี 2 พาร์ต รวมทั้งหมด 12 อีพี อ้างอิงโครงสร้างและตัวละครจากเวอร์ชันต้นฉบับ แต่เปลี่ยนสถานที่เกิดเหตุเป็นบนคาบสมุทรเกาหลี

และนี่คือความน่าตื่นเต้นว่าการรีเมกที่จะเกิดขึ้นนั้น ผู้กำกับคิมฮงซัน (L.U.C.A.: The Beginning, Black, Voice) และนักเขียนรยูยองแจ (Monstrous, My Holo Love, Psychopath Diary) จะตีความสร้างความสดใหม่ให้เรื่องราวและวิธีการเล่าเรื่องอย่างไร และยิ่งทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วในซีรีส์ในแนวทางคล้ายๆ กัน ทั้ง Pied Piper (2016) เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมต่อรองในสถานการณ์วิกฤต ที่ทำงานโดยไม่เน้นการใช้กำลัง และ Liar Game (2014) กลเกมเบื้องหลังเกมโชว์ชิงเงินรางวัลกว่า 1 หมื่นล้านวอน ยิ่งเป็นความน่าสนใจว่า Money Heist: Korea – Joint Economic Area จะยิ่งเข้มข้นและแสดงเอกลักษณ์คอนเทนต์เกาหลีได้ไม่แพ้เวอร์ชันต้นฉบับ

พล็อตที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้

ความแตกต่างของ Money Heist: Korea – Joint Economic Area จะเพิ่มเติมในประเด็นเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ที่ในซีรีส์จะมีการรวมชาติกันเกิดขึ้น และก่อให้เกิดปัญหาจากระบบทุนนิยมที่กระทบกระเทือนผู้คนไปทั่ว 

นักเขียนบทรยูยงแจ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเขียนบทที่เพิ่มเติมเข้าไปในเวอร์ชันเกาหลีว่า “ซีรีส์เรื่องนี้จะยิ่งน่าสนใจถ้าได้ใส่มิติของความเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ลงไป ซึ่งสิ่งนี้สามารถส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนและความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกับผู้อื่น”

เรื่องราวของ Money Heist ทั้งสองเวอร์ชันอยู่บนโครงเรื่องเดียวกัน เมื่อนักโจรกรรมกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันวางแผนปล้นเงินจากโรงกษาปณ์ โดยมีศูนย์กลางของแผนอยู่ที่ศาสตราจารย์ (รับบทโดย ยูจีแท) คนวางแผนการปล้นเหนือชั้น และยังเป็นคนรวบรวมนักโจรกรรมฝีมือดีมารวมตัวเพื่อปล้นเงินกว่า 4 ล้านล้านวอนจากโรงกษาปณ์ร่วมระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ด้วยความหวังว่าเงินจำนวนนี้จะพลิกโลกและสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมนี้

เบอร์ลิน (รับบทโดย พัคแฮซู) ผู้นำทีมโจรกรรมโรงกษาปณ์ ได้แยกกลุ่มตัวประกันโดยแบ่งตามสัญชาติเกาหลีเหนือและใต้ ส่งผลให้สถานการณ์ภายในโรงกษาปณ์เต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะเกิดความระแวดระวังซึ่งกันและกันโดยอัตโนมัติ

ท่ามกลางเหตุการณ์ความวุ่นวายนี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือและใต้ได้ร่วมกันจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ ซอนอูจิน (รับบทโดย คิมยุนจิน) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจรจาจากฝั่งเกาหลีใต้ และอดีตสายลับพิเศษจากฝั่งเกาหลีเหนือ และ ชามูฮยอก (รับบทโดย คิมซองโอ) เป็นสองผู้นำภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน ขณะเดียวกันสถานการณ์ในโรงกษาปณ์เริ่มเกิดความโกลาหล เมื่อกลุ่มตัวประกันเริ่มตื่นกลัว พร้อมๆ กับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มของเหล่าโจร 

ปกปิดตัวตนภายใต้หน้ากากฮาฮเว

ในขณะที่ Money Heist เวอร์ชันออริจินัลของสเปน เลือกใช้หน้ากากดาลี ซัลบาดอร์ ศิลปินคนดัง อันเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของสเปน Money Heist: Korea – Joint Economic Area ได้เลือกใช้หน้ากากฮาฮเว (Hahoe Mask) ซึ่งเป็นหนึ่งในคาแร็กเตอร์ตำนานของเกาหลีที่ทุกคนในคาบสมุทรนี้รู้จักกันดี

เอกลักษณ์ของหน้ากากฮาฮเวอยู่ตรงใบหน้าที่แสดงความรู้สึกหลากหลาย แต่หน้ากากที่ศาสตราจารย์เลือกใช้เป็นหน้ากากฮาฮเวที่มาพร้อมรอยยิ้ม ก้ำกึ่งว่าแสดงความรู้สึกดีใจหรือสุดแสนจะสยดสยองกันแน่ และหน้ากากฮาฮเวจะใช้เป็นเกราะกำบังในการปล้น เพื่อรักษาความลับของตัวตนที่แท้จริงของเหล่าโจร ทั้งยังเป็นความชาญฉลาดในการทำตามแผนการปล้นอย่างที่ศาสตราจารย์เตรียมการรับมือไว้

ตัวละครที่ปูมหลังซับซ้อน เต็มไปด้วยความรัก โลภ โกรธ หลง

ด้วยความที่เป็นเกมการโจรกรรม เลยทำให้เหล่าอาชญากรตัวกลั่นมารวมตัวกันอย่างไม่น่าเชื่อ และกลายเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง ความลุ่มหลง การทรยศ และการหลอกลวง ปะปนอยู่ในเนื้อเรื่องตลอดเวลา จนคนดูคาดเดาได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ตัวละครสำคัญของ Money Heist: Korea- Joint Economic Area ที่สำคัญๆ ประกอบด้วย

ยูจีแท (Old Boy, When My Love Blooms) จะมารับบทเป็นศาสตราจารย์ผู้อยู่เบื้องหลังแผนการโจรกรรมทั้งหมด ตัวละครศาสตราจารย์นั้นมีบทบาทสำคัญในซีรีส์เรื่องนี้นับตั้งแต่เริ่มเรื่อง เพราะเขาเป็นผู้รับผิดชอบวางแผนปฏิบัติการ และคอยคัดเลือกเหล่าจารชนจากทั้งเกาหลีเหนือและใต้ ยูจีแทให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “สำหรับผมแล้ว ตัวละครศาสตราจารย์ถือว่าเป็นนักยุทธศาสตร์สุดอัจฉริยะ ผู้วางแผนการปล้นด้วยหลักการและวิสัยทัศน์ของเขา” 

พัคแฮซู (Squid Game, Chimera, Prison Playbook) รับบทเป็น เบอร์ลิน ตัวละครที่เย็นชาและโหดร้าย คนเกาหลีเหนือที่ใช้เวลาอยู่ในค่ายกักกันนานถึง 25 ปี เขาเป็นผู้นำภาคสนามของแก๊งโจรในระหว่างการปล้น เบอร์ลินซึ่งเป็นตัวละครที่ดื้อรั้นนั้นเชื่อว่า มีเพียงความกลัวและความแตกแยกเท่านั้นที่จะควบคุมผู้คนได้อย่างอยู่หมัด 

ชอนจงซอ (Burning, The Call) รับบทเป็น โตเกียว หญิงสาวชาวเกาหลีเหนือที่ได้อพยพไปเกาหลีใต้ผ่านนโยบาย ‘Korean Dream’ แต่ชีวิตของเธอในเกาหลีใต้กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่ฝันเอาไว้ ตรงกันข้ามกลับโหดร้ายสุดขั้ว และในขณะที่เธอกำลังสิ้นหวังกับชีวิตนั้นเอง ศาสตราจารย์ก็ได้ชักชวนให้เธอเข้าร่วมแผนการใหญ่ของเขา เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่ศรัทธาต่อศาสตราจารย์อย่างแท้จริง ชอนจงซอได้พูดถึงโตเกียวไว้ว่า “เป็นตัวละครที่ทุกๆ การตัดสินใจของเธอจะเปลี่ยนแนวทางทั้งหมดของเกม”

นอกจากนี้ยังร่วมด้วย อีวอนจง รับบทเป็น มอสโก และ คิมจีฮุน รับบทเป็น เดนเวอร์ สองพ่อลูกที่มารับงานนี้ร่วมกัน มอสโกเป็นตัวละครที่เฝ้าฝันเพียงว่าจะได้ใช้ชีวิตตามปกติสุขกับลูกชาย และในฐานะนักขุดแร่ชาวเกาหลีใต้ มอสโกมีหน้าที่ขุดอุโมงค์หลักที่จะใช้เป็นทางออกของการปล้น ส่วนเดนเวอร์ อดีตนักเลงข้างถนน จะเป็นตัวละครที่ทั้งเจ้าอารมณ์และเซ็กซี่ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นมิตร 

จางยุนจู รับบทเป็น ไนโรบี นักต้มตุ๋นเกาหลีใต้ผู้เชี่ยวชาญการปลอมแปลงเอกสารและเงินตรา

อีฮยอนอู รับบทเป็น ริโอ อดีตนักเรียนแพทย์ที่ดร็อปเรียนมาเป็นแฮ็กเกอร์อัจฉริยะ

คิมจีฮุน รับบทเป็น เฮลซิงกิ และ อีคยูโฮ รับบทเป็น ออสโล คู่หูสองคนนี้จะมารับหน้าที่ดูแลคลังแสงของแก๊ง เนื่องจากเป็นคนเชื้อชาติเกาหลีที่เคยเป็นสมาชิกแก๊งนักเลงจีน

ตัวอย่างซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area 

ภาพ: Netflix

The post เตรียมพร้อมก่อนดู Money Heist เวอร์ชันเกาหลี ซีรีส์การปล้นอัจฉริยะครบรสที่น่าเชื่อว่าดังแน่! appeared first on THE STANDARD.

Netflix ได้ปล่อยโปสเตอร์แรก พร้อมประกาศวันฉายอย่างเป็นทางการของ Money Heist: Korea – Joint Economic Area (ทรชนคนปล้นโลก: เกาหลีเดือด) ซีรีส์โจรกรรมเรื่องล่าสุดจากเกาหลีใต้ที่ดัดแปลงมาจากซีรีส์สเปนในชื่อเดียวกัน โดยซีรีส์มีกำหนดเข้าฉาย 24 มิถุนายนนี้ ทาง Netflix 

Money Heist: Korea – Joint Economic Area จะบอกเล่าเรื่องราวของ ศาสตราจารย์ (ยูจีแท) อัจฉริยะจอมวางกลยุทธ์ และเหล่าหัวขโมยชั้นแนวหน้าที่กำลังวางแผนก่อการโจรกรรมในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนบนคาบสมุทรเกาหลี แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีหนึ่งในสมาชิกกลุ่มได้จับตัวประกันขณะเผชิญหน้ากับความท้าทายเหนือความคาดหมาย เรื่องราวการโจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์จึงเริ่มต้นขึ้น

ซีรีส์จะมีความยาวทั้งหมด 6 ตอน และมีฉากหลังเป็นเขตเศรษฐกิจร่วมระหว่างสองเกาหลี รวมถึงโปสเตอร์แรกที่ถูกปล่อยออกมายังเผยให้เห็นถึง ‘หน้ากาก’ ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของซีรีส์ โดยหน้ากากในเวอร์ชันนี้เรียกว่า ‘หน้ากากฮาฮเว’ (Hahoe Mask) หน้ากากในวัฒนธรรมเกาหลีที่มากับใบหน้ายิ้มกว้าง แต่เป็นรอยยิ้มที่ว่างเปล่า 

ซีรีส์จะได้ คิมฮงซอน จากซีรีส์ Black (2017) มานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วยทีมนักแสดงมากฝีมือ นำโดย ยูจีแท จาก Oldboy (2003) ที่จะมาสวมบทเป็นศาสตราจารย์ พร้อมด้วย คิมยุนจิน จาก Confession (2020), พัคแฮซู จากซีรีส์ Squid Game (2021) และ ชอนจงซอ จาก Burning (2018)  

เตรียมรับชมการปล้นครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกต้องจับตามองใน Money Heist: Korea – Joint Economic Area 24 มิถุนายนนี้ ทาง Netflix

ชมคลิปประกาศวันฉายได้ที่นี่

The post Netflix ประกาศวันฉายซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area เวอร์ชันเกาหลีใต้ 24 มิ.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.