2023 เป็นอีกปีที่อุตสาหกรรมการประกวดนางงามได้รับความสนใจ และได้สร้างความสุขคลุกเคล้าไปด้วยน้ำตาให้แฟนนางงามไทย

ปัจจุบันมีเวทีการประกวดนางงามที่เป็นที่สนใจของแฟนนางงามไทย เช่น Miss Universe, Miss World, Miss International, Miss Grand International, Miss Supranational หรือแม้แต่ Miss Earth 

THE STANDARD POP ขอประมวลเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับวงการนางงามไทยตลอดปี 2023 ที่เปรียบเหมือนความฝันที่ยังไปไม่ถึงของแฟนนางงามไทย 

คนไทยเป็นเจ้าของจักรวาล เหตุใดตัวแทนสาวไทยยังตกรอบ

เปิดศักราช 2023 ด้วยการประกวด Miss Universe 2022 ครั้งที่ 71 รอบตัดสิน ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ด้วยตัวแทนสาวไทย ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ ที่มาพร้อมกับสตอรีสู้ชีวิต 

‘แอนนา’ โตมาในครอบครัวที่มีพ่อและแม่ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะของกรุงเทพมหานคร สตอรีนี้จับใจ ปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN GLOBAL) ผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Universe Thailand (MUT) จนได้เป็นตัวแทนสู่จักรวาล

แอนนา เสืองามเอี่ยม Miss Universe Thailand 2022 

พร้อมด้วยคุณแม่สมพร ศรีบุญเรือง พาชมห้องเก่าที่เธอเคยอาศัยอยู่ในวัยเด็ก

ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม

Miss Universe 2022 จัดขึ้น 3 เดือนภายหลัง ‘แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ ซีอีโอของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อกิจการของ Miss Universe Organization (MUO) ซึ่งเป็นผู้จัดการประกวด Miss Universe ด้วยมูลค่าการซื้อ-ขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 20,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 800 ล้านบาท

แอน จักรพงษ์ ขึ้นกล่าวบนเวที Miss Universe 2022 ในฐานะเจ้าของเวทีด้วยสุนทรพจน์ที่มีความหมายลึกซึ้ง ส่งเสริมเพื่อนหญิงพลังหญิง โดยเฉพาะประโยคเริ่มต้นที่ว่า “Hello the Universe” จนกลายเป็นไวรัลในวงการนางงามทั่วโลก

แอน จักรพงษ์ กล่าวว่า ปีนี้เป็นการเริ่มต้นบริหารงานการจัดประกวด Miss Universe ที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำองค์กร และต้อนรับสู่ยุคใหม่ของเวทีประกวดนางงามที่เสริมพลังให้กับผู้หญิงในระดับโลก เพื่อยกระดับการประกวด Miss Universe ด้วยแนวคิด Transformational Leadership คือการเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง ให้เสมือนเป็นแสงนำทางเพื่อส่องสว่างให้กับอนาคตที่สดใสของทุกคน

แอน จักรพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ Miss Universe จะถูกบริหารงานโดยผู้หญิง และมีเจ้าของเป็นผู้หญิงข้ามเพศ เพื่อให้ทุกคนจากทั่วโลกได้มาเฉลิมฉลองแนวคิดแห่งสตรีนิยม ความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมถึงการให้โอกาสทางสังคม ความเท่าเทียมทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ แรงขับเคลื่อนแห่งความดี และความงดงามของมนุษย์ปุถุชน

การประกวดครั้งนี้แม้จะมีคนไทยเป็นเจ้าของเวที แต่ก็มินำพาให้ ‘แอนนา’ ตัวแทนสาวไทยผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายแต่อย่างใด ทว่ากองประกวดได้มอบรางวัล Leadership Award ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสาวงามผู้มีภาวะผู้นำที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในสังคม ซึ่งรางวัลพิเศษนี้หลายคนมองว่าเป็นรางวัลปลอบใจสำหรับตัวแทนสายสะพาย ‘Thailand’ ที่ตกรอบแรก 2 ปีติด 

สำหรับผลการประกวด Miss Universe 2022 นั้น Harnaaz Sandhu นางงามจักรวาลคนที่ 70 จากอินเดีย ได้ส่งต่อตำแหน่งให้กับ R’Bonney Gabriel ดีไซเนอร์ด้านสิ่งแวดล้อมวัย 28 ปี จากสหรัฐอเมริกา

R’Bonney Gabriel สาวงามวัย 28 ปี จากสหรัฐอเมริกา 

เป็นนางงามจักรวาลคนที่ 71 

ภาพ: Miss Universe

แม้การประกวด Miss Universe 2022 จบลง แต่แฟนนางงามไทยก็ยังไม่จบ ต่างเฝ้ารอคำตอบจาก แอน จักรพงษ์ เจ้าของ Miss Universe Organization ว่าเหตุใด ‘แอนนา’ ตัวแทนสายสะพาย ‘Thailand’ จึงไม่ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ทั้งที่ทำผลงานไม่แย่ และอยู่ในโผสาวงามที่จะเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายมาโดยตลอด 

แอน จักรพงษ์ ได้ไลฟ์อธิบายว่า การตัดสินทั้งหมดมีคณะกรรมการเป็นผู้ตัดสิน นอกเหนือจากการดูภาพรวม ยังมีปัจจัยในการให้คะแนนอื่นๆ ด้วย และมีบริษัทรับการนับคะแนนที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยที่เขาไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลการประกวดใดๆ ทั้งสิ้น

“การตัดสินไม่ได้มีเพียงความสวยอย่างเดียว แต่มีการตอบคำถามด้วย และ Miss USA ตอบคำถามได้ตรง และพูดอยู่เสมอว่าเรากำลังมองหาคนที่เป็นผู้นำเชิงปฏิรูป แม้เจ้าของจะเป็นคนไทย แต่ผลจากการตัดสินก็ทำให้ทุกคนได้รู้แล้วว่า ขนาดคนไทยเป็นเจ้าของ กรรมการก็ไม่ได้สนใจ ต่างคนต่างให้คะแนน เมื่อรวมคะแนนเสร็จสิ้น นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพ ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา” แอน จักรพงษ์ กล่าว

แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ในฐานะเจ้าของ Miss Universe Organization

มอบรางวัล Leadership Award แก่ แอนนา เสืองามเอี่ยม ตัวแทนสายสะพาย ‘Thailand’

ส่วนรางวัล Leadership Award นั้น แอน จักรพงษ์ ก็บอกว่า “ทุกอย่างก็เป็นไปตามกติกาเช่นกัน” รางวัลนี้มี 3 นางงามที่มีคะแนนสูงสุด คือ ลาว อินโดนีเซีย และไทย ซึ่งมีการเก็บคะแนนจากประวัติ และการต่อสู้ของแอนนา การที่เธอได้รางวัลนี้ก็มาจากความสามารถของเธอที่ทำให้คนโหวตและศรัทธาในตัวเธอ

มิสแกรนด์ไทยแลนด์ประกาศไม่รับนางงามจาก MUT และนางสาวไทย

อีกไม่ถึงสัปดาห์ (19 มกราคม) กองประกวด Miss Grand Thailand ออกประกาศส่งตรงถึงผู้อำนวยการกองประกวด Miss Grand Thailand ทั้ง 77 จังหวัด เนื่องจากมีกระแสข่าวเวทีคู่แข่งอย่าง Miss Universe Thailand และนางสาวไทย เตรียมจัดการประกวดในรูปแบบจังหวัดเช่นกัน

กองประกวด Miss Grand Thailand แจ้งเงื่อนไขเกี่ยวกับนโยบายและบริบทของเวทีการประกวด Miss Grand Thailand ว่า ไม่อนุญาตให้รับสมัครผู้เข้าประกวดที่ผ่านการประกวดจากเวที Miss Universe Thailand ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป และจากเวทีนางสาวไทยตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป รวมไปถึงผู้เข้าประกวดนางสาวไทยในระดับจังหวัด 77 จังหวัด ถึงแม้ไม่ได้ตำแหน่งก็ตาม

เส้นทางนางสาวไทยที่ไปไม่ถึงนางงามโลก 

หลังจากบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN GLOBAL) ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Universe Thailand ผิดหวังจากผลการประกวด Miss Universe 2022 ได้มูฟออนไปร่วมมือกับสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเฟ้นหานางสาวไทยประจำปี 2566 และรับสมัครนางสาวไทยในระบบตัวแทนจังหวัดเป็นครั้งแรก มีตัวแทนสาวงามทั้งสิ้น 46 จังหวัด 

กานต์-ชนนิกานต์ สุพิทยาพร นางสาวไทยเชียงใหม่ 

นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนางสาวไทยคนที่ 54 

ภาพ: นางสาวไทย

ประเดิมปีแรกได้ กานต์-ชนนิกานต์ สุพิทยาพร นางสาวไทยเชียงใหม่ นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนางสาวไทยคนที่ 54 ประจำปี 2566 และจะได้เป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวด Miss World 2023 เวทีการประกวดนางงามสัญชาติอังกฤษ ที่ประเทศอินเดีย ตามที่ ไชยวุฒิ พึ่งทอง ประธานคณะทำงานการจัดการประกวดนางสาวไทย และกรรมการสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ได้ประกาศบนเวที

“ผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งนางสาวไทยจะได้มีโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยในการประกวด Miss World ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)” ไชยวุฒิ พึ่งทอง ประธานคณะทำงานการจัดการประกวดนางสาวไทย และกรรมการสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ กล่าว 

หลังการประกวดเสร็จสิ้นก็เกิดข้อถกเถียงอย่างมากว่า นางสาวไทยคนล่าสุดจะได้เป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวด Miss World 2023 หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่าบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Thailand World เตรียมจะหาตัวแทนเพื่อส่งไปประกวดเอง โดยไม่ได้ใช้บริการนางสาวไทยคนล่าสุดแต่อย่างใด 

ขนม-ทารีน่า โบเทส สวมกอด เฟิร์น-วรางคณา สิริสถาพรทรัพย์ รองอันดับ 1 ด้วยความดีใจ 

หลังพิธีกรประกาศว่าเธอคือ Miss Thailand World 2023

ภาพ: Miss Thailand World

และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามกระแสข่าว บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับช่อง 7HD จัดประกวด Miss Thailand World 2023 และได้นางงามมากประสบการณ์ และเป็นขวัญใจแฟนนางงามไทย คือ ‘ขนม-ทารีน่า โบเทส’ เป็นผู้คว้ามงกุฎ และเป็นตัวแทนคาดสายสะพาย ‘Thailand’ เข้าร่วมการประกวด Miss World 2023 ที่ประเทศอินเดีย 

เดิมทีมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งรัฐบาลของอินเดีย ซึ่งจะตรงกับช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม การประกวดจึงถูกเลื่อนไปจัดในวันที่ 2 มีนาคม 2567 

ทำให้ กานต์ ชนนิกานต์ นางสาวไทยคนล่าสุด ที่เกิดข้อถกเถียงกันก่อนหน้าว่าจะเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวด Miss World 2023 นั้น ย้ายไปประกวด Miss Global 2023 แทน

นางรองฯ คนแรกกลับมาแก้มือได้สำเร็จ 

อีกหนึ่งเวทีที่ได้รับความนิยมในหมู่แฟนนางงาม เวทีการประกวดนางงามที่มีผู้ก่อตั้งและมีเจ้าของเป็นคนไทย คือ Miss Grand Thailand หลังประสบความสำเร็จจากกระแส #อิงฟ้ามหานคร (อิงฟ้า วราหะ) ที่เป็นผู้ครองตำแหน่งฉลองครบรอบ 10 ปี Miss Grand Thailand และเป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศได้อย่างงดงาม

จอ LED ภาพของ อิงฟ้า วราหะ Miss Grand Thailand 2022

ก่อนการประกวด Miss Grand Thailand 2023 รอบตัดสิน ที่ MGI Hall, Show DC

ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา

เมื่อ Miss Grand Thailand กลับมาเปิดศักราช ทั้งยังเป็นปีแรกที่กองประกวดอนุญาตให้สาวงามที่เคยได้ตำแหน่งนางรองฯ กลับมาประกวดได้อีกครั้ง 

แฟนนางงามจึงได้เห็นนางงามที่เคยได้ตำแหน่งนางรองฯ ในการประกวดปีก่อนกลับมาชิงมงอีกครั้ง เช่น อุ้ม-ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์ชุมพร ที่ในปี 2017 ได้เป็นตัวแทนจังหวัดจันทบุรี และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 3

อีกคนคือ ออยล์-จุฑามาศ เมฆเสรี มิสแกรนด์อำนาจเจริญ ที่ในปี 2020 ได้เป็นตัวแทนจังหวัดเชียงราย และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 3 กลับมาประกวดอีกครั้งเช่นกัน

การประกวดนางงามเวที Miss Grand Thailand ซึ่งเป็นระบบจังหวัด ประสบความสำเร็จอย่างมากในครั้งที่ผ่านมา จึงทำให้การประกวดครั้งนี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมการประกวดหลายคน เช่น เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ อดีตผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand 2020 และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้าประกวดในนามมิสแกรนด์ลำพูน

หรือแม้แต่ พิม-พิมพ์จิรา เจริญลักษณ์ ดาราและนักแสดง เข้าประกวดในนามมิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร อีกคนคือ เทีย ทวีพาณิชย์พันธุ์ อดีตนางแบบจากรายการ The Face Thailand เข้าประกวดในนามมิสแกรนด์ภูเก็ต

ตลอดการเก็บตัวระยะเวลาเกือบ 1 เดือน มีข่าวความเคลื่อนไหวทั้งข่าวดีและข่าวร้าย มีเรื่องราวดราม่าไม่เว้นแต่ละวัน ตัวอย่างเช่น ดราม่ากรณี ‘เฌอเอม’ มิสแกรนด์ลำพูน ที่ปฏิเสธการดูดวงระหว่างทำกิจกรรม 

จนทำให้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของเวที ได้กล่าวตักเตือน และมีการตอบโต้ไปมา และก่อนการประกวดรอบตัดสิน ‘เฌอเอม’ ยังได้ปฏิเสธไม่ขอรับตำแหน่ง Top 11 รวมถึง Grand Model ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่จะต้องอยู่บ้านร่วมกับสาวงามที่ได้ตำแหน่งอีก 10 คนด้วย 

หรืออีกกรณีดราม่าคือ ‘อุ้ม’ มิสแกรนด์ชุมพร ได้ยืมชุดจาก แองจี้-ทรัพย์สิรี แสนโกศิก เจ้าของแบรนด์ Unix ซึ่งเป็นบุตรสาวของ ปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Universe Thailand ซึ่งเป็นเวทีคู่แข่ง มาสวมใส่ระหว่างเก็บตัวการประกวด

บัญชี Instagram อย่างเป็นทางการของแบรนด์ unix_wear 

รีโพสต์รูปภาพที่ อุ้ม-ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์ชุมพร

ได้ยืมชุดมาสวมใส่ระหว่างเก็บตัว Miss Grand Thailand 2023

ทำให้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ออกอาการโมโห และได้ต่อว่า ‘อุ้ม’ ต่อหน้าเพื่อนนางงาม “ใครใช้ให้เธอมา…เธอมาสมัครงานบริษัทโคคา-โคล่า เธอใส่เสื้อเป๊ปซี่มาสมัคร แล้วให้เป๊ปซี่เอาไปรีโพสต์อย่างนี้เหรอ เวทีมิสแกรนด์ไม่ได้กระจอก อย่าเหยียบย่ำด้วยวิธีแบบนี้…”  

‘อุ้ม’ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เธอขออภัยณวัฒน์ กองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความผิดพลาดของเธอ เธอยอมรับว่าได้ติดต่อกับดีไซเนอร์ของแบรนด์ Unix เพื่อขอยืมชุดมาใส่ช่วงเก็บตัวประกวดโดยปราศจากการไตร่ตรอง ความรอบคอบ และก่อให้เกิดปัญหา จนส่งผลต่อภาพลักษณ์และแนวทางของกองประกวด

“ขอโทษและยอมรับผิดกับปัญหาที่เกิดขึ้น” มิสแกรนด์ชุมพรกล่าว

ทั้ง 2 กรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวดราม่าของมิสแกรนด์ลำพูน หรือมิสแกรนด์ชุมพร ล้วนมีคู่ขัดแย้งโดยตรงคือ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ ซึ่งเป็นบิ๊กบอสแห่งมิสแกรนด์ แต่เมื่อถึงเวลาการประกวด หากนางงาม Shine on Stage ทำผลงานบนเวทีได้อย่างยอดเยี่ยม ผลการประกวดก็ตัดสินอย่างตรงไปตรงมา

อุ้ม-ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์ชุมพร ระหว่างตอบคำถามใน 5 คนสุดท้าย 

การประกวด Miss Grand Thailand 2023 รอบตัดสิน ที่ MGI Hall, Show DC

ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา

ท้ายที่สุด แม้ ‘อุ้ม’ มิสแกรนด์ชุมพร จะต้องเผชิญกับดราม่าครั้งใหญ่ในช่วงการเก็บตัว แต่เธอคือนางรองฯ จาก Miss Grand Thailand คนแรกที่กลับมาแก้มือ และสามารถคว้ามงทอง (มงกุฎ Miss Grand Thailand) คนที่ 11 เป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวด Miss Grand International (MGI) 2023 ที่ประเทศเวียดนาม 

‘อุ้ม’ ทำดีที่สุด เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ส่วนสาวงามที่คว้าตำแหน่งชนะเลิศ Miss Grand International 2023 คือ Luciana Fuster เป็น Miss Grand International คนที่ 2 ของเปรู และการประกวดในครั้งถัดไปได้ประเทศเมียนมาเป็นเจ้าภาพ 

มงสามที่ไทยไปไม่ถึง แต่เข้าใกล้ในรอบ 35 ปี

การประกวด Miss Universe Thailand 2023 เป็นที่จับตามองของแฟนนางงามไทยอีกครั้ง เนื่องจากบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์ ได้ปรับรูปแบบการประกวดด้วยการคัดเลือกสาวงามเป็นตัวแทนจังหวัด เหมือน Miss USA, Miss Grand Thailand และนางสาวไทย เป็นครั้งแรก 

จากซ้าย ปวีนา สิงห์ทักวาล ตัวแทนจังหวัดภูเก็ต, แจสซี่-กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์ ตัวแทนจังหวัดแม่ฮ่องสอน, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร (นักร้อง) และ แอนโทเนีย โพซิ้ว ตัวแทนจังหวัดนครราชสีมา 

ในรอบ 3 คนสุดท้าย Miss Universe Thailand 2023 รอบตัดสิน ที่ MCC Hall เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน 

ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา

การประกวดในปีนี้ มีสาวงามที่เป็นตัวเต็งและขวัญใจของแฟนนางงามหลายคนที่เข้าร่วมชิงมงกุฎ ตัวเต็งหมายเลข 1 คือ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ เจ้าของตำแหน่ง Miss Supranational 2019 นางงามไทยคนแรกที่คว้าตำแหน่งนี้ เป็นตัวแทนหลานย่าโม จังหวัดนครราชสีมา 

นอกจากนี้ยังมี แจสซี่-กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์ อดีตนางแบบในรายการ The Face Thailand เป็นตัวแทนจังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือ ‘ปวีนา สิงห์ทักวาล’ อดีตนางรองฯ ขวัญใจแฟนนางงาม กลับมาประกวดรอบที่ 3 เป็นตัวแทนจังหวัดภูเก็ต หรือแม้แต่ ‘ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวราฉัตร’ อดีตรองอันดับ 1 Miss Grand Thailand 2017 เป็นตัวแทนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

แม้จะมีตัวเต็งมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วมงกุฎมีเพียงอันเดียว และตกเป็นของตัวเต็งหมายเลข 1 ‘แอนโทเนีย’ จากจังหวัดนครราชสีมา ที่ได้ตอบคำถามสุดท้ายเฉือนเอาชนะ ‘แจสซี่’ ไปอย่างฉิวเฉียด

แอนโทเนีย โพซิ้ว Miss Universe Thailand 2023 กุมมือให้กำลังใจ แจสซี่-กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์ รองอันดับ 1 จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะกำลังเช็ดคราบน้ำตาหลังผิดหวังไม่ได้ตำแหน่ง

ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา

‘แอนโทเนีย’ จึงได้เป็นตัวแทนสาวไทย และเดินหน้าไปคว้ามงสาม (ตำแหน่งนางงามจักรวาลคนที่ 3 ของประเทศไทย) ที่แฟนนางงามไทยรอคอยมายาวนานกว่า 35 ปี ในการประกวด Miss Universe 2023 นางงามจักรวาลครั้งที่ 72 ที่กรุงซานซัลวาดอร์ สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ 

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีนางงามจักรวาลมาแล้วทั้งสิ้น 2 คน คือ ครั้งแรกในปี 1965 อาภัสรา หงสกุล และครั้งที่ 2 ในปี 1988 ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก

เมื่อ ‘แอนโทเนีย’ ได้ตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2023 โพลแทบทุกสำนักจับจ้องมาที่ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยทันที เพราะเธอมีดีกรีเป็นถึง Miss Supranational 2019 และมองว่าถึงเวลาที่ตัวแทนสายสะพาย ‘Thailand’ ได้จะมงสามตามที่แฟนนางงามไทยส่งเสียงเฝ้ารอมาตั้งแต่ปี 2019 เสียที 

แอนโทเนีย โพซิ้ว ในชุดว่ายน้ำ ยกมือขอบคุณด้วยความดีใจหลังพิธีกรบนเวทีประกาศเรียก ‘Thailand’ 

เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย Miss Universe 2023 เป็นคนที่ 2 

ภาพ: Miss Universe Thailand 

หลายคนมองว่าการประกวดในปีนี้ควรถึงเวลาที่พิธีกรบนเวทีจะประกาศเรียกชื่อ ‘Thailand’ เป็นประเทศสุดท้ายได้เสียที แต่สุดท้ายแล้วไม่เป็นตามที่หลายคนคาดหวัง ‘แอนโทเนีย’ ทำดีที่สุดด้วยการคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 

แม้ ‘แอนโทเนีย’ จะไปไม่ถึงตำแหน่ง ‘มงสาม’ ที่แฟนนางงามไทยรอคอย แต่เธอทำผลงานบนเวทีได้อย่างยอดเยี่ยม พานางงามไทยก้าวข้ามด่านรอบตอบคำถาม และเป็นนางงามไทยคนล่าสุดในรอบ 35 ปีที่เข้าใกล้มงสามมากที่สุด

แอนโทเนีย โพซิ้ว สวมใส่ชุดราตรี ‘Stars in the Universe’ แบรนด์ Myriad Grand Monde 

ระหว่างตอบคำถามใน 3 คนสุดท้าย Miss Universe 2023 

ภาพ: Miss Universe Thailand 

‘แอนโทเนีย’ ได้แสดงวิสัยทัศน์ถึงเรื่องการกลั่นแกล้งในโรงเรียน ไปจนถึง Malala Yousafzai นักเคลื่อนไหวชาวปากีสถานเพื่อเด็กและการศึกษา ในรอบ 3 คนสุดท้าย ที่ถามว่า “ถ้าคุณมีเวลา 1 ปี หากสามารถเลือกที่จะเป็นผู้หญิงคนอื่นได้ คุณจะเลือกใคร” 

‘แอนโทเนีย’ บอกว่า “ฉันจะเลือกเป็น ‘Malala Yousafzai’ (นักเคลื่อนไหวชาวปากีสถาน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2014) เพราะฉันรับรู้ได้ถึงการต่อสู้กับความลำบากของ Malala กว่าเธอจะมายืนในจุดนี้ได้ เธอได้ต่อสู้ในเรื่องการศึกษาของผู้หญิง และต่อสู้เพื่อผู้หญิงทุกคนให้สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง และเป็นการเปลี่ยนแปลง เป็นผู้นำด้วยการเป็นตัวอย่างให้เห็น ถ้าฉันเลือกใครได้สักคน ฉันจะเลือก Malala”

แม้คำตอบสุดท้ายของ ‘แอนโทเนีย’ จะไม่สามารถชนะใจกรรมการได้ แต่คำตอบของเธอที่พูดถึง ‘Malala Yousafzai’ นักเคลื่อนไหวชาวปากีสถาน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2014 ที่ต่อสู้เพื่อเด็กและการศึกษา เป็นที่ถกเถียงไปทั่วโลกเช่นกัน

เมื่อเท้าของเธอได้เหยียบแผ่นดินเกิด เดินทางถึงประเทศไทย เกิดปรากฏการณ์แฟนนางงามจำนวนมากไปเฝ้ารอรับแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันเดียวกันนั้นมีขบวนแห่เพื่อเฉลิมฉลองในย่านใจกลางเมืองให้กับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 นางงามจักรวาลคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยด้วย

ขณะที่ประเทศไทยกำลังเฉลิมฉลองให้กับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 นางงามจักรวาลคนแรกในประวัติศาสตร์ แต่ Miss Universe 2023 อย่าง Sheynnis Palacios จากประเทศนิการากัว กลับอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

แม้จะได้ครองตำแหน่ง Miss Universe 2023 แต่เธอยังต้องรอลุ้นว่าจะสามารถกลับเข้าประเทศบ้านเกิดเพื่อร่วมเฉลิมฉลองกับครอบครัวและแฟนนางงามชาวนิการากัวได้หรือไม่ 

R’Bonney Gabriel นางงามจักรวาลคนที่ 71 จากสหรัฐอเมริกา ได้สวมมงกุฎ Force for Good จาก Mouawad แก่ Sheynnis Palacios จากประเทศนิการากัว

ภาพ: Miss Universe

เนื่องจากถูกรัฐบาลนิการากัวมองว่าชัยชนะของ Sheynnis Palacios เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านผู้นำอย่างประธานาธิบดี Daniel Ortega เพราะในปี 2018 ขณะเธอยังเป็นนักศึกษา เธอเคยเข้าร่วมขบวนประท้วงรัฐบาลเผด็จการ พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนแนวทางประชาธิปไตย 

ขณะเดียวกันมีการวิเคราะห์ว่า ชุดราตรีของเธอในการแข่งขันรอบตัดสินบนเวที Miss Universe 2023 ถูกตีความว่าสื่อถึงสีของธงชาตินิการากัว ซึ่งผู้นำเผด็จการคนปัจจุบันมองว่าสีและธงชาติดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลนั่นเอง 

Reuters รายงานว่า ตำรวจนิการากัวตั้งข้อหา Karen Celebertti ผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Nicaragua ใน 4 ข้อหา ได้แก่ สมรู้ร่วมคิด, ทรยศหักหลัง, ฟอกเงิน และเผยแพร่ข่าวปลอม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการโค่นล้มรัฐบาล 

ด้วยปัญหาการเมืองที่นางงามจักรวาลคนปัจจุบันต้องเผชิญนั้น หลังได้ตำแหน่งทำให้ไม่เห็นเธอไปปฏิบัติภารกิจพบปะสื่อมวลชนเหมือนนางงามจักรวาลคนก่อนๆ ได้ 

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ JKN ได้ชี้แจงระบุว่า ด้วยประเด็นที่อ่อนไหวที่ประเทศของเธอ จึงทำให้การพบสื่อมวลชนในปีนี้แตกต่างออกไป เพราะองค์กรต้องปกป้องตัวเธอ ครอบครัว และคนรอบข้าง อาจต้องใช้เวลาสักระยะ แต่อีกไม่นานเธอจะสามารถออกปฏิบัติภารกิจนางงามจักรวาลได้

ขณะที่ Karen Celebertti ผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Nicaragua ได้ประกาศว่า ยุติการส่งนางงามเข้าร่วมการประกวด Miss Universe หลังทำหน้าที่ทุ่มเทมา 23 ปี โดยขณะนี้ยังไม่มีผู้ถือลิขสิทธิ์รายใหม่ ยังต้องติดตามว่าจะได้เห็น Miss Nicaragua เข้าร่วมการประกวด Miss Universe อีกครั้งหรือไม่ 

แม้สุดท้ายแล้วปี 2023 ประเทศไทยจะไม่ได้ตำแหน่งนางงามจักรวาลคนที่ 3 ตามที่แฟนนางงามไทยหวัง แต่ภาพรวมการประกวดนางงามในปีนี้ก็ถือเป็นปีทองของสายสะพาย Thailand เพราะการประกวดในปีนี้ไม่มีนางงามไทยที่ร่วมประกวดบนเวทีนานาชาติตกรอบแรกสักคนเดียว ทั้งยังทำหน้าที่ได้ดี มีตำแหน่งติดอันดับกลับมาฝากแฟนนางงามไทยทุกคน

The post บทสรุปวงการนางงามไทย 2023 สุขคลุกเคล้าน้ำตา เหมือนฝันที่ยังไปไม่ถึง appeared first on THE STANDARD.

ในที่สุดทั่วโลกก็ได้ทราบกันแล้วว่า Miss World 2019 คือ โทนี-แอน ซิงห์ สาวงามวัย 23 ปี จากประเทศจาเมกา โดยเธอยังชนะในรอบ Talent Competition จากการโชว์พลังเสียงในเพลง I Have Nothing ของ วิตนีย์ ฮุสตัน อีกด้วย สำหรับสาวไทย เกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ Miss Thailand World 2019 ก็ทำผลงานได้ดีที่รอบ 40 คนสุดท้าย จากผู้เข้าประกวด 111 ประเทศ

แต่ที่ผ่านมาก็มีสาวงามจากประเทศไทยทำผลงานได้ดีจนเข้าใกล้มงกุฎ Miss World ในตำแหน่ง Runner Up Miss World 2018 โดย THE STANDARD POP ได้รวบรวมเส้นทางความสำเร็จของสายสะพาย Thailand บนเวที Miss World และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งจะมีภาพมงกุฎฟ้าของเวที Miss World สวมลงบนศีรษะของสาวงามจากประเทศไทย

The post Miss World มงกุฎที่นางงามไทยอยากได้มาครอบครอง appeared first on THE STANDARD.

หลังจากลุ้นกันมานาน การประกวดมิสเวิลด์ 2018 ได้มาถึงที่สิ้นสุดลงแล้ว โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่งมิสเวิลด์ในปีนี้คือ Vanessa Ponce de León จากประเทศเม็กซิโก ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ จากประเทศไทย

โดยกติกาการตัดสินของมิสเวิลด์ในปีนี้ ได้คัดสาวงามจากทั้งหมด 118 ประเทศให้เหลือ 30 คน และคัดเลือกสาวงามจาก 30 คนให้เหลือ 12 คน และ 5 คน ผ่านการแบ่งแบบทวีป ซึ่งตัวแทนแต่ละทวีปก็จะได้เป็นมิสเวิลด์ทวีปจำนวน 5 คน ได้แก่

• มิสเวิลด์ทวีปยุโรป – ประเทศเบลารุส
• มิสเวิลด์ทวีปอเมริกา – ประเทศเม็กซิโก
• มิสเวิลด์ทวีปแอฟริกา – ประเทศยูกันดา
• มิสเวิลด์ทวีปแคริบเบียน – ประเทศจาเมกา
• มิสเวิลด์ทวีปเอเชียและโอเชียเนีย – ประเทศไทย

สำหรับผลงานของสาวไทย นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ ได้ผ่านเข้ารอบ 30 คน จากรอบ Head to Head Challenge ด้วยการนำเสนอโครงการ Love for All ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ Beauty with a Purpose ที่ช่วยเหลือเด็กออทิสติก โดยมีแรงบันดาลใจจากน้องชายของเธอที่เป็นผู้ป่วยออทิสติก หลังจากนั้นเธอได้ผ่านเข้าสู่รอบ 12 คนสุดท้ายจากทวีปเอเชียและโอเชียเนีย และได้รับคัดเลือกเข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้าย

ในการตอบคำถามรอบ 5 คนสุดท้าย เรื่องจุดแข็งของเธอในการเป็นมิสเวิลด์คืออะไร ซึ่งนิโคลีนได้กล่าวถึงแพสชันที่มีต่อโครงการ Love for All ที่ได้แรงบันดาลใจจากน้องชายของเธอที่เป็นออทิสติก “แพสชันทำให้คุณทำงานได้ มีความรักได้ และทำอะไรก็ได้ที่คุณอยากทำ ซึ่งสิ่งนั้นจะช่วยผลักดันโลกใบนี้ สังคมของเรา ช่วยเปลี่ยนแปลงตัวตนของคุณ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น”

แม้ว่าจะพลาดตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย แต่ นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ หญิงสาวเชื้อสายไทย จีน อเมริกัน วัย 20 ปี มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ได้สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นสาวงามจากประเทศไทยที่เข้ารอบลึกที่สุด และได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสเวิลด์ได้เป็นครั้งแรก

สำหรับเวทีประกวดมิสเวิลด์ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 68 ณ เมืองซานย่า ประเทศจีน โดยมี จูเลีย มอร์ลีย์ เป็นประธานองค์กรมิสเวิลด์ ซึ่งมีภารกิจหลักในการส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านโครงการ Beauty with a Purpose ซึ่งนางงามมิสเวิลด์จะต้องจัดทำขึ้นในประเทศของตนเอง

โดยล่าสุดเว็บไซต์ missworld.com ได้ประกาศแต่งตั้งมิสเวิลด์จากประเทศนิวซีแลนด์เป็นมิสเวิลด์ทวีปโอเชียเนีย ซึ่งจะทำให้นิโคลีนดำรงตำแหน่งมิสเวิลด์ทวีปเอเชีย โดยมิสเวิลด์ทุกทวีปและมิสเวิลด์ 2018 จะเข้าร่วมกิจกรรม Beauty with a Perpose กับองค์กรมิสเวิลด์ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง

ทำความรู้จักนิโคลีนได้จากบทสัมภาษณ์นี้ thestandard.co/nicolene-limsnukan

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• www.missworld.com/#/news/1542

The post นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ คว้าตำแหน่งรองอันดับหนึ่ง ส่วน Vanessa Ponce de León จากเม็กซิโกได้ครองมงกุฎ #MissWorld2018 appeared first on THE STANDARD.

การประกวดนางงามสำคัญกับโลกนี้อย่างไร ทำไมยังต้องมีการประกวดอยู่?

ทำไมคุณถึงควรได้รับตำแหน่งมิสเวิลด์คนต่อไป?

และอีกหลายคำถามที่ถือว่ายากที่สุดบนเวทีการประกวดที่ นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ ต้องตอบคำถามเหล่านี้โดยที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนและต้องตอบทันที

The post นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ กับคำถามที่ยากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

ผมไม่ใช่แฟนนางงาม ผมเองเคยเป็นคนหนึ่งที่มองว่าการประกวดนางงามไม่มีอะไรมากไปกว่าการแข่งขันกันที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ก็เหมือนกับทุกเรื่องในชีวิต ถ้าลองเปิดใจ เราจะพบกับความงามและบทเรียนที่ซ่อนอยู่ ผมได้เรียนรู้ว่า มองลึกลงไปจากความสวยงามของเปลือกนอก ยังมี ‘ศาสตร์แห่งมง’ อยู่

เมื่อไปถึงเวทีนางงามแล้ว ไม่มีใครหรอกครับที่ไม่สวย มันเหมือนกับการเอาคนสวยเป็นร้อยชีวิตมายืนเรียงกัน แต่คนไหนล่ะที่จะโดดเด่นขึ้นมา พวกเธอจึงต้องสร้างสปอตไลต์ให้ตัวเอง ทุกอย่างมีการวางแผนอย่างดี ทำงานกันเป็นทีม เอาทั้งความรู้ด้านแบรนดิ้ง การตลาด พีอาร์ แฟชั่น วิทยาศาสตร์การกีฬา จิตวิทยา ปรัชญา ฯลฯ มาจับ ขัดเกลาให้นางงามคนหนึ่งเปล่งประกายมากกว่าความสวย ให้กลายเป็นนักสื่อสารที่ยอดเยี่ยม มีความรู้และวิสัยทัศน์ต่อโลกที่กว้างไกล สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับประเด็นสังคมต่างๆ ได้ และนั่นแหละครับคือ ‘ศาสตร์แห่งมง’

ในบรรดาการแข่งขัน ผมชอบดูรอบการตอบคำถามมากที่สุด เพราะมันวัดอะไรหลายอย่างมากภายใต้เวลาไม่กี่นาทีซึ่งมีคนทั้งโลกจับตาดูอยู่ ทุกครั้งที่ดู ผมก็จะอดทึ่งนางงามไม่ได้ว่าพวกเธอร้อยเรียงคำตอบให้สวยงามและแสดงวิสัยทัศน์คมคายภายใต้ความกดดันได้อย่างไร แต่รอบการตอบคำถามนี่แหละครับที่เป็นรอบที่ ‘ฆ่า’ นางงามให้ดับคาเวทีได้มากที่สุด

พอได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2018 ผมเลยอยากทดสอบหน่อยว่าเธอจะตอบคำถามอย่างไร สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ คำถามที่คุณกำลังจะได้อ่านนี้ ส่วนหนึ่งเป็นคำถามที่มาจากการประกวดนางงามทั่วโลก ซึ่งผมได้คัดสรรแล้วว่าเป็นคำถามที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์การประกวดนางงาม ขณะเดียวกันผมก็ตั้งคำถามขึ้นมาใหม่แบบที่คิดแล้วว่าจะเป็นการวัดเหลี่ยมคมของเธอได้มากที่สุด ที่สำคัญ ผมไม่เคยบอกให้เธอรู้มาก่อนว่าจะถามอะไร ผมทำความรู้จักกับเธอไปเรื่อยๆ แล้วยิงคำถามใส่อย่างไม่ให้เธอตั้งตัว

เธอตอบแต่ละคำถามด้วยสติ ไม่มีท่าทีตกใจหรือกดดัน ไม่มีการบ่นว่าทำไมคำถามยากจัง ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ เธอยิ้มแย้มและตอบคำถามได้หนักแน่นชัดเจน และทุกคำตอบทำให้ผมและคนในห้องแทบหยุดหายใจ และหลายครั้งเมื่อเธอพูดจบ เหล่าคนฟังในห้องพากันปรบมือให้เธอโดยไม่ได้นัดหมาย

ผมคนหนึ่งล่ะครับที่รอจะเห็นเธอในรอบตอบคำถาม อยากฟังคำตอบของเธอ และเป็นกำลังใจให้เธอจะไปถึงตำแหน่งมิสเวิลด์อย่างที่เธอและคนไทยทั้งประเทศฝันไว้

คุณเติบโตมาจากอเมริกา มีคำศัพท์ภาษาไทยคำไหนบ้างที่คุณชอบเป็นพิเศษ ขอสัก 3 คำ และเพราะอะไรถึงชอบ

มีคำว่า อัญมณี บริบท และ วิจารณญาณ นิโคลเข้าใจความหมายของทั้ง 3 คำเลยค่ะ คำแรก ‘อัญมณี’ นิโคลรู้สึกว่าแค่ฟังเสียงก็รู้สึกเพราะจังเลย สัมผัสได้ถึงความสวยงาม คำต่อมาคือ ‘บริบท’ สำหรับนิโคลมันไม่ใช่คำที่ใช้ทั่วไป แต่ใช้แล้วเป็นภาษาไทยแบบมืออาชีพ เอาไว้ใช้อธิบายในเรื่องวิชาการได้ เป็นคำศัพท์ที่แสดงว่าเราพัฒนาไปอีกระดับ ส่วนคำสุดท้าย ‘วิจารณญาณ’ นิโคลจะเห็นเวลาดูโทรทัศน์แล้วมีคำว่า ‘โปรดใช้วิจารณญาณในการดู’ แล้วเราก็พยายามจะพูดคำนี้ให้ได้ และก็ไม่เคยพูดได้เลย ฝึกอยู่หลายรอบ คิดอย่างเดียวว่าจะเอาให้ได้ ต้องพูดคำนี้ให้ได้

แสดงว่าคุณก็เป็นคนชอบการแข่งขันเหมือนกันนะครับ ขนาดคำคำเดียวคุณยังสู้เพื่อจะพูดให้ได้เสียที

ใช่ค่ะ เวลานิโคลฟังภาษาไทยแล้วไม่เข้าใจ นิโคลจะถามเดี๋ยวนั้น ต้องเอาให้เข้าใจให้ได้ จะได้มาฝึก อย่างครั้งแรกที่ฟังคำว่า ‘ลำไย’ ก็ไม่เข้าใจ ลำไยมันคือผลไม้ไม่ใช่เหรอ แล้วผลไม้เกี่ยวอะไรกับบริบทนี้ จนตอนนี้เข้าใจแล้วว่าลำไยคือสแลงนี่เอง ตอนนี้ศัพท์สแลงภาษาไทยนิโคลก็เข้าใจมากขึ้นเยอะค่ะ ที่ชอบมากๆ มีอยู่ 4 คำคือ ลำไย, บ้ง, นก, โป๊ะ (หัวเราะ)

มีการแข่งขันครั้งไหนที่อยู่ในใจคุณบ้าง

นิโคลเป็นนักกีฬา Color Guard เป็นกัปตันทีม ตอนนั้นเราไปแข่งขันกันแล้วเพลงที่เราเตรียมมามันไม่เล่น ทุกคนตกใจมาก นิโคลเองหัวใจตกลงไปอยู่กับพื้นแล้ว คิดว่าโมเมนต์นั้นต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นทีมเราจะแพ้ นิโคลเลยใช้การนับจังหวะเป็นตัวเลขให้ทุกคนได้ยิน และทุกคนก็แสดงต่อไปจนจบโดยไม่มีเพลง ปรากฏว่าพอแสดงจบ คนดูลุกขึ้นปรบมือให้เราดังกึกก้อง มันเป็นโชว์ที่ดีที่สุดที่พวกเราเคยแสดง แม้ว่าสุดท้ายเราจะไม่ชนะ สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การเป็นผู้นำต้องตัดสินใจเร็ว เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้นิโคลเติบโตขึ้น สิ่งที่เราควรยกย่องคือ เมื่อคนล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ แม้ว่าเขาจะไม่ไปถึงจุดสูงสุดอย่างที่เขาตั้งใจไว้ แต่เราควรเคารพเขาในฐานะนักสู้ที่ลุกขึ้นมาใหม่ ก้าวต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยว

ไม่ว่าผลการแข่งขันที่ออกมาเราจะแพ้หรือชนะ แต่เราเป็นผู้ชนะเสมอ เพราะเราได้เรียนรู้ ถึงแพ้ เราก็ได้เรียนรู้ที่จะเป็นผู้แพ้ที่ดี และถ้าชนะ เราก็ประสบความสำเร็จเหมือนกัน

คุณเริ่มมาสนใจการเป็นนางงามได้อย่างไร

ตอนเด็กๆ เวลามีประกวดนางสงกรานต์ นางนพมาศ แม่จะเอาของกินมาล่อค่ะ บอกว่าถ้าไปประกวดแล้วได้รางวัลจะให้ขนม ให้ของเล่น จนนิโคลได้ประกวด Miss Thai New Year ที่แคลิฟอร์เนีย แล้วพบว่ามันไม่ใช่แค่การใส่ชุดสวยๆ เดินไปมา แต่เขาหาคนที่ฉลาดและมีพลังที่จะทำอะไรได้หลายอย่าง นิโคลเลยต่อยอดด้วยการประกวด Miss Teen Asia USA เราก็ยิ่งเห็นว่าแต่ละเวทีมองหาคนเก่ง คนที่มีความมั่นใจ มีความรู้ เราก็เลยรู้สึกว่าคนแบบนี้มีอะไรมากกว่าความสวย ไม่ใช่คนธรรมดา นิโคลมองว่ามันเป็นการท้าทายตัวเองที่จะเป็นคนประสบความสำเร็จและยืนได้ด้วยขาของตัวเอง

การประกวดนางงามมันน่าตื่นเต้นอย่างไรสำหรับคุณ

อย่างแรกเลยคือมันเป็นการแข่งขัน มันคือการมีเป้าหมายแล้วเราพยายามที่จะไปให้ถึงหรือเอาชนะให้ได้ ขณะเดียวกันสิ่งที่นิโคลชอบในการแข่งขันคือ ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซึ่งมันทำให้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าผลการแข่งขันที่ออกมาเราจะแพ้หรือชนะ แต่เราเป็นผู้ชนะเสมอ เพราะเราได้เรียนรู้ ถึงแพ้ เราก็ได้เรียนรู้ที่จะเป็นผู้แพ้ที่ดี และถ้าชนะ เราก็ประสบความสำเร็จเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นทางไหนมันก็ดีทั้งนั้น

ช่วยอธิบายให้คนที่ไม่สนใจนางงามเลยเข้าใจว่า การประกวดนางงามสำคัญกับโลกนี้อย่างไร ทำไมยังต้องมีการประกวดอยู่

มันคือเวทีที่ให้คนได้พูดในสิ่งที่เขาคิด และเป็นวิธีการที่ทำให้คนสนใจเรื่องต่างๆ เช่นสิ่งที่นิโคลทำอยู่ตอนนี้กับเด็กออทิสติก คนรอบตัวบางคนไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าออทิสติกคืออะไร แต่เมื่อนิโคลอยู่ในตำแหน่งนี้ ผู้คนก็เริ่มสนใจประเด็นนี้มากขึ้นค่ะ พวกเขาช่วยกันทำวิจัย หาข้อมูลต่างๆ และเมื่อพวกเขาช่วยนิโคลหาข้อมูล พวกเขาก็ได้เรียนรู้ไปด้วยในตัว มันคือการเริ่มต้นจากคนใกล้ตัว และพลังของมันจะค่อยๆ มากขึ้น จนในที่สุดเราจะได้ช่วยสังคมของเราให้ดีขึ้นค่ะ

ผมทราบมาว่าคุณมีน้องชายเป็นออทิสติก คุณได้เรียนรู้อะไรจากการมีน้องชายคนนี้บ้างครับ

เขาสอนให้นิโคลใจเย็นขึ้น นิโคลเป็นคนใจร้อนค่ะ เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจเขาและก็น้อยใจ เพราะเราคิดแต่ว่าทำไมเราไม่ได้รับการสนใจเท่าน้องชาย แต่พอโตขึ้นมา นิโคลได้เรียนรู้ว่าเราต้องมีความอดทน เพราะเขาต้องการเวลามากกว่าเราในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ เมื่อเขาช้า นิโคลก็เรียนรู้ที่จะช้าเพื่อไปพร้อมกับเขา เขามองเห็นโลกในมุมที่แตกต่างจริงๆ ค่ะ เป็นมุมที่เรียบง่าย ใสบริสุทธิ์ แบบที่ไม่มีความเลวร้าย และไม่มีอะไรทำร้ายเขาได้

นิโคลคิดว่าสังคมในปัจจุบันนี้ เป้าหมายของเราคือการแข่งขันกับคนอื่น เราต้องการจะเป็นที่หนึ่ง การที่เราจะไปให้ถึงจุดนั้น เราต้องต่อสู้กับผู้คนมากมาย นิโคลคิดว่าเหตุผลที่เราควรมีเด็กออทิสติกในสังคมก็เพราะเขาเข้ามาในชีวิตเรา และเขาไม่เคยทำร้ายเรา เขาคือคนที่จะอยู่เคียงข้าง และนิโคลรู้ว่านาธานจะอยู่เคียงข้างตลอดการประกวด

ช่วยเล่า 3 จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของคุณให้ฟังหน่อยครับ

อย่างแรกคือ ตอนที่เรียนจบจากไฮสคูล นิโคลรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว นิโคลเริ่มทำงานเต็มเวลาในร้านอาหาร มันเป็นช่วงชีวิตที่นิโคลรู้ว่านี่ไม่ใช่ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการจริงๆ มันเป็นชีวิตที่เป็น Routine ไปทำงาน ไปเรียน กลับบ้าน แล้วก็วนมาใหม่ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่นิโคลต้องการ เลยย้ายมาเมืองไทย และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่สอง เพราะนิโคลตัดสินใจย้ายออกมาจากอเมริกาซึ่งอยู่มา 18 ปี มาเมืองไทยเพื่อทำตามความฝัน นั่นคือการประกวดนางงาม ซึ่งมันเสี่ยงมาก นิโคลมาอยู่คนเดียว มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก

จุดเปลี่ยนที่ 3 คือ ตอนที่นิโคลตกรอบจากการประกวด นิโคลไม่ติดรอบ 10 คนด้วยซ้ำ มันเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ เพราะนิโคลย้ายชีวิตมาอยู่ที่ไทย และต้องรอ 6 เดือนเพื่อเตรียมตัวประกวด และนิโคลรู้ว่าคนเราต้องทำงานหนักเพื่อไปให้ถึงความฝัน แต่ปรากฏว่ามันไม่เป็นอย่างที่หวัง จุดเปลี่ยนมันเกิดขึ้นตอนที่นิโคลมองตัวเองในกระจกและบอกว่า “ลุกขึ้นมาได้แล้ว เธอมีอะไรมากไปกว่าการเป็นคนขี้แพ้ที่นอนจมอยู่กับเตียง” มันทำให้นิโคลเติบโตขึ้นมากภายในเวลาไม่กี่เดือน นิโคลได้รู้ว่าเมื่อเราล้ม เราไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว เราอยู่ก้นเหวแล้ว มันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วล่ะค่ะ นิโคลเลยมาประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ลุยมันดูสักตั้ง ในเมื่อมันยังเป็นความฝันของเราอยู่ และนิโคลจะลองทำมัน

คุณได้เรียนรู้อะไรจากความผิดหวังครั้งใหญ่ในตอนนั้น

หลังผิดหวังจากการประกวดในครั้งนั้น พอมาประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ นิโคลทำงานหนักกว่าเดิมเป็น 10 เท่าในการเตรียมตัวเพื่อมาประกวด เพราะนิโคลมีไฟ มีความอยากจะสู้มากกว่าเดิม บางครั้งเราต้องล้มก่อนเพื่อที่จะลุกขึ้นให้แข็งแกร่งกว่าเดิม

ตอนนี้มีประเด็นทางสังคมอะไรที่คุณรู้สึกว่าน่าเป็นห่วงอยู่ และมันส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง

Stereotype ค่ะ มันครอบคลุมหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น เหยียดชาติพันธุ์ เหยียดเพศ ฯลฯ ยกตัวอย่างนะคะ มันมีความคิดเหมารวมว่าเด็กออทิสติกเป็นคนก้าวร้าว พอน้องชายของนิโคลไปโรงเรียนก็เลยโดนทำร้าย เพราะคิดว่าน้องจะไปยิงคนอื่น นั่นก็เริ่มต้นมาจากการเหมารวมเหมือนกัน หรือการเหมารวมว่าเฟมินิสต์คือผู้หญิงที่ลุกขึ้นมาอยากจะดีกว่าผู้ชาย แต่มันไม่ใช่ เรายืนหยัดในความเป็นเฟมินิสต์ เพราะเราเชื่อในความเท่าเทียม เราต้องการให้มีคนได้ยินเสียงของเรา และเราเชื่อว่าเรามีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น

พูดถึงเรื่อง Stereotype แล้ว คุณเคยมีประสบการณ์โดนเหมารวมบ้างไหมครับ

มีค่ะ สมัยเรียนนิโคลจะถูกเรียกว่าเป็น ‘Chinky Asian Girl’ หรือ ‘The Nerdy Asian Girl’ เพราะภาพของคนเอเชียจากสื่อคือเป็นเด็กเนิร์ด และนิโคลไม่ชอบถูกแปะป้ายแบบนั้น ไม่ใช่เพราะนิโคลไม่ชอบเนิร์ดนะคะ แต่ที่จริงแล้วนิโคลไม่ได้เก่งขนาดนั้น นิโคลไม่ได้ A ทุกตัวแบบนั้น นิโคลคือเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แต่พอมีภาพว่าเด็กเอเชียต้องเนิร์ด ต้องฉลาด นิโคลก็ได้รับแรงกดดันไปด้วย และมีความคาดหวังว่าเด็กเอเชียจะต้องเรียนอย่างเดียวไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลย ซึ่งนิโคลคิดว่ามันเป็นการเหมารวมคนเอเชียที่ไม่ถูกต้องนัก

ผมจำได้ว่าเคยมีมุกตลกอยู่อันหนึ่ง เป็นการแบ่งเกรดการเรียนเป็น F, D, C, B, A และขั้นบนสุดคือ Asian
ใช่ค่ะ มันจะมี A หรือ A+ คือ Asian ส่วน B คือ Basic, C คือ C’mon! You can do better และ D คือ Don’t go home! (หัวเราะ) ฟังดูมันตลกนะคะ แต่ถ้าไปอยู่ในจุดนั้นที่คนคาดหวังหรือแปะป้ายให้เราว่าต้องเป็นแบบที่เขาคิดไว้ มันทั้งน่าเศร้าและเครียดอยู่ตลอดเวลานะคะ

ปีนี้คุณอายุ 20 แล้ว อะไรคือบทเรียนสำคัญที่สุดที่คุณได้เรียนรู้ตอนอายุ 20
การยอมแพ้ต่อตัวเองคือสิ่งที่แย่ที่สุด เพราะคุณไม่รู้ศักยภาพของตัวเอง คนอื่นๆ มองเห็นศักยภาพในตัวคุณ แต่มันอยู่ที่คุณจะเอามันออกมาให้คนอื่นเห็นได้ไหม นิโคลพูดอยู่หลายครั้งว่า “อย่ายอมแพ้ต่อตัวเอง คุณทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ และต่อให้ล้มกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็จงอย่ายอมแพ้”

ในฐานะรุ่นพี่ คุณมีอะไรอยากบอกกับนักเรียนที่กำลังจะเรียนจบถึงการใช้ชีวิต

อย่างแรก ใช้เวลาให้มากขึ้นกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และจงสนุกกับชีวิตวัยรุ่น เพราะชีวิตของเราผ่านไปเร็วมากค่ะ มีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เยอะแยะที่นิโคลคิดถึงอย่างการเต้นรำ การมีปาร์ตี้ไอศกรีม มันเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เคยมองข้าม แต่นิโคลอยากบอกว่า “ใช้เวลาของพวกคุณ เพราะทุกคนมีเวลาของตัวเอง” เรามีช่วงเวลาของตัวเองค่ะ มีแผนการดำเนินชีวิตของเราเอง และทุกคนก็มีความแตกต่างกัน บางคนอาจจะประสบความสำเร็จและซื้อบ้านได้ตั้งแต่อายุ 18 แต่ตอนที่อายุ 18 นิโคลยังทำงานอยู่ที่ร้านอาหารอยู่เลย เพราะฉะนั้นเราทุกคนมีไทม์ไลน์ชีวิตที่แตกต่างกัน อย่ากดดันตัวเองมากนักเลย เพราะเดี๋ยวเวลาของคุณก็จะมาถึงเอง

ความบริสุทธิ์คือสิ่งที่บอกคุณค่าของผู้หญิงอยู่หรือเปล่า

ไม่เลยค่ะ นิโคลไม่คิดว่าจะมีอะไรมาเป็นคำจำกัดความของผู้หญิงได้ นิโคลคิดว่าพรหมจรรย์เป็นความคิดที่เราต้องการเก็บผู้หญิงไว้ในกรอบ อยู่ในระเบียบ แต่เมื่อเราทำลายกฎนั้น มันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นผู้หญิงร่าน แต่เราแค่ออกจากกรอบที่ผู้คนสร้างไว้ให้ และเรากำลังข้ามขีดจำกัดหรือสิ่งที่ตีตราตัวเราอยู่ มันไม่เกี่ยวว่าเธอไม่บริสุทธิ์แล้วเธอจะไม่มีคุณค่า ความบริสุทธิ์วัดคุณค่าของผู้หญิงไม่ได้ ไม่มีอะไรบ่งบอกถึงคุณค่าของเธอได้นอกจากตัวเธอเอง สิ่งที่เธอทำ การกระทำของเธอ และสิ่งที่เธอพูด นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่บอกคุณค่าของผู้หญิง ไม่ใช่ความบริสุทธิ์

คุณคิดว่าผู้ชายเรียนรู้อะไรได้จากผู้หญิง

นิโคลคิดว่าที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ ผู้หญิงส่งเสริมผู้ชายมาตลอด และนั่นคือสิ่งที่ผู้ชายเรียนรู้ได้จากผู้หญิงในการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ผู้ชายและผู้หญิงเรามีสิ่งที่ไม่ตรงกันอยู่ตลอดเวลา และก็บอกว่า เธอต้องเป็นแบบนั้นนะ เธอต้องเป็นแบบนี้สิ แต่เราเรียนรู้ได้ว่า แทนที่จะอยู่ตรงข้ามกัน เราไปได้ไกลกว่าด้วยการส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพราะว่าเราอยู่บนโลกใบเดียวกัน เราแชร์กันได้ แทนที่จะทะเลาะกัน ทำไมเราจะไม่อยู่ด้วยกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวล่ะคะ

แล้วผู้หญิงเรียนรู้อะไรได้จากผู้ชาย

สิ่งที่นิโคลได้เรียนรู้จากผู้ชายก็คือ บางครั้งเราต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เราต้องพูดในสิ่งที่เรารู้สึก พูดในสิ่งที่เราคิด และนิโคลรู้ว่ามีผู้หญิงมากมายที่กำลังเรียนรู้เรื่องนี้ว่า ยิ่งเราพูดออกมา ยิ่งเราฟังมากขึ้น ฟังตัวเราเอง และพูดสิ่งที่เราต้องการ มันทำให้เรามีพลังมากขึ้น เราจะยิ่งมีความคิดเห็นที่ชัดเจนกว่าเดิม และสามารถพัฒนาจิตใจและเห็นสิ่งต่างๆ จากมุมมองที่แตกต่างได้ค่ะ

คุณคิดอย่างไรกับกฎหมายยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน

นิโคลเชื่อว่าทุกที่ควรมีกฎหมายสนับสนุนการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ความรักก็คือความรักค่ะ ไม่มีอะไรขีดกรอบให้กับความรักได้ ถ้าคุณรู้สึกรักใครหรือรักอะไร ทำไมจะต้องมีกฎหมายมาขัดขวางความรักล่ะ

คุณคิดอย่างไรถ้าจะมี Transgender มาประกวดบนเวทีเดียวกับผู้หญิง

ทำไมเราจะต้องห้ามพวกเธอขึ้นบนเวทีเดียวกับผู้หญิงคนอื่นๆ ด้วยล่ะ เรามาเพื่อส่งเสริมสิ่งที่เธอเป็น และสิ่งที่เธออยากเป็น เรามาเพื่อส่งเสริมเสียงและเป้าหมายในชีวิตของพวกเธอ ไม่ใช่ดูจากเรื่องภายนอก เราให้คุณค่ากับสิ่งที่อยู่ข้างในและจิตวิญญาณของพวกเธอต่างหาก ถ้าเธอคือผู้หญิง ต้องการประกวดและเป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ นิโคลอยากเชิญชวนให้มาประกวด และมันจะเป็นก้าวสำคัญของประเทศชาติเราด้วย

ทุกที่ควรมีกฎหมายสนับสนุนการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ความรักก็คือความรักค่ะ ไม่มีอะไรขีดกรอบให้กับความรักได้

อะไรคือ Social Movement ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของคุณ

เรื่องความเท่าเทียมค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวของเฟมินิสต์ หรือกลุ่ม LGBTQ ก็ตาม เพราะนิโคลเชื่อว่าตอนนี้คนเริ่มกล้าส่งเสียงออกมาแล้วว่าเขาคิดอย่างไร เขาเป็นคนอย่างไร และพยายามจะขับเคลื่อนสังคมให้ไปสู่ความเท่าเทียมกันอยู่ เราอาจจะยังไม่ได้ไปถึงจุดที่เท่าเทียมกันโดยสมบูรณ์แบบ แต่เรากำลังพยายามอยู่และกำลังพยายามยิ่งกว่าเดิมอีก มันคือการยอมรับ เปิดใจ และเชื่อมั่นในกันและกัน เมื่อเราศรัทธาในคนอื่นก่อน เขาก็จะรู้สึกดี ใช้ชีวิตในทางที่ดี และมอบสิ่งดีๆ กลับมายังสังคม

ถามตรงๆ คุณคิดอย่างไรกับการเมืองไทย

เราจำเป็นต้องเปิดกว้างมากกว่านี้ นิโคลไม่อยากจะเลือกข้าง เพราะนิโคลไม่มีข้าง แต่อยากบอกว่า เราต้องเป็นมากกว่านั้น ไม่อนุรักษ์นิยมจ๋า ไม่ลิเบอรัลจ๋า แต่เราต้องเปิดใจกว้าง พร้อมที่จะรับความคิดใหม่ๆ ตลอดเวลา เพราะประเทศไทยตอนนี้เราเป็นประเทศกำลังพัฒนา เราไม่ใช่ประเทศโลกที่หนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ประเทศโลกที่สาม เรากำลังเติบโต ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้เรามีโครงการประเทศไทย 4.0 ซึ่งมันเป็นความก้าวหน้า การเมืองของเราต้องเปิดกว้างพอที่จะรับความคิดจากประเทศอื่นๆ หรือจากคนอื่นๆ ทั้งจากคนที่ไม่ได้ชอบการเมืองเลยด้วยซ้ำ เพราะพวกเขามีความคิด ถ้าเรากลั่นกรองความคิดต่างๆ และนำมันมาพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ ก็น่าจะทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันได้

ถ้าคุณสามารถทำอะไรแหกกฎได้หนึ่งวัน คุณจะทำอะไร

มันอาจจะฟังดูแปลกนะคะ แต่นิโคลคิดว่ามันสำคัญมากก็คือ อยากให้ราคาที่อยู่อาศัยถูกลง เพราะราคาที่อยู่อาศัยที่แพงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดคนไร้บ้าน ถ้าเราทำให้ราคาที่อยู่อาศัยถูกลงได้ เราจะทำให้เขามีที่อยู่ได้ คนเราต้องการบ้าน เพราะบ้านคือที่ที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น บ้านทำให้เราได้เรียนรู้ สอนให้เราได้เรียนรู้ทักษะชีวิตและคุณค่าของครอบครัว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่หลายคนไม่มีในทุกวันนี้ มันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องบ้าบอหรือเล็กน้อย แต่มันคือสิ่งที่เราน่าจะทำให้มันเป็นจริงได้

ทำไมคุณถึงควรได้รับตำแหน่งมิสเวิลด์คนต่อไป

นิโคลทำให้คนร่วมมือกันได้ ด้วยความที่ชื่อ ‘World’ (โลก) ด้วยแหละค่ะ มันคือการเชื่อมโยงสองสิ่งเข้าด้วยกัน คือคนที่ได้รับโอกาสน้อย และคนที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ มิสเวิลด์เป็นตัวเชื่อมทุกสิ่ง เราจะรวบรวมผู้คนที่มีความสามารถในการช่วยเหลือผู้อื่นได้ แค่คนเล็กๆ คนเดียวเชิญชวนให้ทุกคนช่วยเหลือคนอื่นได้หมด

และถ้านิโคลจะช่วยผู้อื่นได้ ทั้งก่อตั้งโครงการต่างๆ ที่ช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบภัย นิโคลก็อยากจะใช้ตำแหน่งนี้ในการทำให้เสียงของคนดังขึ้น ช่วยให้ผู้คนได้พูดสิ่งที่เขาคิด และช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคนมากมาย เพราะว่ามันมีช่องว่างระหว่างผู้คนที่มีโอกาสและผู้คนที่ไม่มีโอกาส และมิสเวิลด์นี่แหละค่ะคือผู้ที่เชื่อมโยงช่องว่างนั้นได้

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ เมื่อมิสไทยแลนด์เวิลด์ต้องตอบคำถามที่ยากที่สุด appeared first on THE STANDARD.