Middle East – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 19 Aug 2021 07:00:48 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ต่อจาก K-Pop และ K-Drama ตอนนี้ ‘K-Beauty’ กำลังเฟื่องฟูอย่างมากในตุรกีและตะวันออกกลาง https://thestandard.co/k-beauty-booming-in-turkey-and-the-middle-east/ Thu, 19 Aug 2021 07:00:26 +0000 https://thestandard.co/?p=526830 K-Beauty

ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมบันเทิงและวัฒนธรร […]

The post ต่อจาก K-Pop และ K-Drama ตอนนี้ ‘K-Beauty’ กำลังเฟื่องฟูอย่างมากในตุรกีและตะวันออกกลาง appeared first on THE STANDARD.

]]>
K-Beauty

ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมบันเทิงและวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้นอกจาก K-Pop และ K-Drama แล้ว ‘K-Beauty’ กำลังเฟื่องฟูอย่างมากในตุรกีและตะวันออกกลาง

 

Nikkei Asia รายงานข้อมูลที่อ้างอิงจาก Trendyol ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดของตุรกีว่า ยอดขายเครื่องสำอางเกาหลีใต้บนแพลตฟอร์มของบริษัทนั้นสูงกว่าปีที่แล้วถึงห้าเท่า

 

แม้ปีที่แล้วจะเป็นปีแห่งความสำเร็จของเครื่องสำอางเกาหลีใต้แล้วก็ตาม แต่ในปี 2021 นี้ยอดขายยังโตแบบฉุดไม่อยู่ หลังจากขายเครื่องสำอางเกาหลีใต้กว่า 665,000 รายการบนแพลตฟอร์มในปี 2020 เพิ่มขึ้นจาก 135,000 รายการในปี 2019 แต่ตัวเลขนั้นทะลุไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนของปีนี้ โดยจำนวนสินค้าที่ขายในครึ่งปีแรกสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 5 เท่า

 

แบรนด์เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ เช่น COSRX, MISSHA, Klairs และ AXIS-Y ได้แจ้งเกิดบนแผ่นดินของตุรกีแล้ว โดยความสำเร็จนี้เกิดจากอีคอมเมิร์ซที่เฟื่องฟูและอินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดียที่ช่วยกันโหมกระแส

 

กระทรวงการค้าของประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า การส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ไปยังตะวันออกกลางอยู่ที่ 7.8 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจาก 7.0 ล้านดอลลาร์ ในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และ 4.3 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายน 2019 กระทรวงฯ กล่าวว่า รองพื้นและเครื่องสำอางประเภทอื่นๆ มีส่วนแบ่งมากที่สุด รองลงมาคือผลิตภัณฑ์ล้างหน้า

 

แดนกิมจิส่งออกเครื่องสำอางมูลค่า 726 ล้านดอลลาร์ไปทั่วโลกในเดือนมิถุนายน ซึ่งหมายความว่าตะวันออกกลางยังคงเป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็กอยู่ โดยแดนมังกรเป็นจุดหมายปลายทางที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออก K-Beauty รองลงมาคือสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น โดย Allied Market Research ได้เผยการประเมินที่ระบุว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ K-Beauty ทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 1.39 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2019

 

ขณะเดียวกันไม่ใช่แค่ออนไลน์เท่านั้นที่ K-Beauty กำลังบุกหนัก ในตุรกี Watsons ซึ่งเป็นเชนร้านค้าปลีกจากฮ่องกงได้วางขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเกาหลีใต้ 11 แบรนด์ ในร้านค้าของตัวเองมากกว่า 300 สาขา จากที่มีทั้งหมด 350 สาขาในตุรกี

 

นอกเหนือจากตุรกีแล้ว เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Watsons ได้เปิดร้านสาขาแรกในตะวันออกกลางที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 100 แห่งในภูมิภาคนี้ รวมถึงในซาอุดีอาระเบียภายในสิ้นปี 2025 นั่นหมายความว่าทิศทางนี้จะช่วยกระตุ้น K-Beauty ให้เข้าถึงภูมิภาคนี้มากขึ้นด้วย

 

อ้างอิง:

The post ต่อจาก K-Pop และ K-Drama ตอนนี้ ‘K-Beauty’ กำลังเฟื่องฟูอย่างมากในตุรกีและตะวันออกกลาง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจ้าชายวิลเลียม สร้างประวัติศาสตร์เป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์แรกที่เยือนอิสราเอล-ปาเลสไตน์ https://thestandard.co/prince-william-makes-historic-visit-to-middle-east/ https://thestandard.co/prince-william-makes-historic-visit-to-middle-east/#respond Mon, 25 Jun 2018 04:21:23 +0000 https://thestandard.co/?p=100603

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) เจ้าชายวิลเลียม ดยุ […]

The post เจ้าชายวิลเลียม สร้างประวัติศาสตร์เป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์แรกที่เยือนอิสราเอล-ปาเลสไตน์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ เดินทางถึงกรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นทริปเดินทางเยือนประเทศพันธมิตรในตะวันออกกลางเป็นเวลา 5 วัน โดยมีเจ้าชายฮุสเซน มกุฎราชกุมารแห่งจอร์แดน ถวายการต้อนรับที่สนามบิน ก่อนจะเดินทางเข้าร่วมงานด้านเทคโนโลยีที่มูลนิธิของเจ้าชายฮุสเซนทรงจัดขึ้น

 

ในโอกาสนี้ดยุกแห่งเคมบริดจ์จะเสด็จเยือนอิสราเอลและปาเลสไตน์ นับเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์แรกที่เดินทางเยือนพื้นที่ความขัดแย้งทั้งสองแห่งนี้อีกด้วย โดยในวันอังคารนี้พระองค์มีกำหนดการเข้าพบนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และประธานาธิบดีริวเวน ริฟลิน ของอิสราเอล พร้อมเข้าพบประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ที่เมืองรอมัลลอฮ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเวตส์แบงก์ในวันต่อมา

 

 

การเดินทางเยือนตะวันออกกลางอย่างเป็นทางการนี้ ดยุกแห่งเคมบริดจ์ให้ความสำคัญกับการพบปะพูดคุยกับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียนชาวจอร์แดน กลุ่มผู้อพยพ และผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย หรือแม้แต่ชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์ผู้เป็นความหวังของคนที่นี่ในอนาคตว่าเขาคิดเห็นและมองประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร

 

ทริปประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นในช่วงครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งประเทศอิสราเอลพอดี ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่แถบนั้นปะทุขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 120 คนเสียชีวิตจากการปะทะกัน โดยเมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้กำลังและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว

 

อ้างอิง:

The post เจ้าชายวิลเลียม สร้างประวัติศาสตร์เป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์แรกที่เยือนอิสราเอล-ปาเลสไตน์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/prince-william-makes-historic-visit-to-middle-east/feed/ 0
กางตัวเลขวิกฤต เหตุรุนแรงในตะวันออกกลางคร่าชีวิตเด็กเกือบร้อยในเดือนมกราคม https://thestandard.co/middle-east-violence-children-dead-injured-for-hundred-in-january/ https://thestandard.co/middle-east-violence-children-dead-injured-for-hundred-in-january/#respond Wed, 07 Feb 2018 00:36:26 +0000 https://thestandard.co/?p=68046

ขึ้นชื่อว่า ‘สงคราม’ ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียไม่ว่าฝ่ายใ […]

The post กางตัวเลขวิกฤต เหตุรุนแรงในตะวันออกกลางคร่าชีวิตเด็กเกือบร้อยในเดือนมกราคม appeared first on THE STANDARD.

]]>

ขึ้นชื่อว่า ‘สงคราม’ ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียไม่ว่าฝ่ายใด และผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมย่อมหนีไม่พ้นประชาชนและเด็กผู้บริสุทธิ์ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนท่ามกลางดงกระสุน สะเก็ดระเบิด และไฟความขัดแย้งที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้น

 

องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF เปิดเผยรายงานว่า เฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว มีเด็กผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตในพื้นที่สู้รบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือมากถึง 83 คน โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กในซีเรีย ประเทศที่กำลังติดหล่มสงครามกลางเมืองยืดเยื้อระหว่างฝ่ายรัฐบาลที่มีรัสเซียหนุนหลัง ฝ่ายกบฏต่อต้านระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และกลุ่มนักรบชาวเคิร์ดที่มีสหรัฐฯ หนุนหลัง ตลอดจนกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) และกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงอื่นๆ

 

 

เดือนทมิฬแห่งการนองเลือด

Geert Cappelaere ผู้อำนวยการ UNICEF ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ออกมาแสดงความกังวลกับตัวเลขที่น่าวิตกว่า ในทุกๆ วัน มีเด็กถูกเข่นฆ่าจากปัญหาขัดแย้งหรือเสียชีวิตจากการถูกโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย หรือหนาวตายในระหว่างลี้ภัยจากพื้นที่สู้รบเป็นจำนวนมาก

 

เฉพาะเดือนมกราคมเดือนเดียว มีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 83 คนในเหตุรุนแรงที่อิรัก, ลิเบีย, ปาเลสไตน์, เยเมน และซีเรีย ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็น ‘เดือนแห่งความมืดมนและนองเลือด’

 

ผอ. UNICEF ระบุว่า เป็นเรื่องรับไม่ได้ที่เด็กๆ จะต้องมาล้มตายและบาดเจ็บทุกวันแบบนี้

 

 

สงครามในซีเรียทำร้ายเด็กๆ แสนสาหัส

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีเด็กเสียชีวิตในเหตุรุนแรงมากถึง 59 คน และนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรียในปี 2011 มีเด็กมากกว่า 8 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง โดยจำนวนนี้ 2.4 ล้านคนได้กลายเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้าน

 

ขณะที่เด็กอย่างน้อย 3 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหรือมีระเบิด โดยเด็ก 2 ใน 3 ได้รับความสูญเสียจากสงคราม เช่น สูญเสียคนในครอบครัว บ้านถูกระเบิดเสียหาย หรือได้รับบาดเจ็บ

 

นอกจากนี้ปัญหาขัดแย้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการเติบโตตามช่วงวัยของเด็กด้วย โดยเด็ก 25% มีความเสี่ยงเกิดความผิดปกติทางจิตอย่างรุนแรง ขณะที่เด็กจำนวน 1.75 ล้านคนกลายเป็นผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา

 

ขณะเดียวกันเด็กส่วนใหญ่ยังมีความเสี่ยงถูกกลุ่มติดอาวุธเรียกใช้งาน เช่น ทำอาหาร หรือทำความสะอาดในค่ายทหารหรือป้อมจุดผ่านแดน ก่อนจะบรรจุเข้าเป็นทหารหรือนักรบเมื่อเติบโตขึ้น

 

 

เยเมนมีเด็กตายและหิวโหยทุกวัน

ที่เยเมน บ้านเมืองมีความเสียหายอย่างหนักนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2015 โดยในเดือนที่แล้วมีเด็ก 16 คนเสียชีวิตจากเหตุปะทะกันระหว่างฝ่ายกองทัพรัฐบาลเยเมนที่จับมือกับกองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุดีอาระเบีย และฝ่ายกบฏฮูตีที่หนุนหลังโดยอิหร่าน ประเทศคู่อริของซาอุดีอาระเบีย

 

นอกจากนี้รายงานของ UNICEF ยังพบว่า ในแต่ละวันมีเด็กถูกฆ่าตายหรือทำให้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยยอดเสียชีวิตหรือบาดเจ็บล่าสุดมีจำนวนกว่า 5,000 คน หรือมีเด็กตายและบาดเจ็บเฉลี่ยวันละ 5 คนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตความขัดแย้งในปี 2015 ขณะที่เด็กจำนวน 400,000 คนป่วยเป็นโรคขาดสารอาหารและต้องต่อสู้ชีวิตอย่างกระเสือกกระสน

 

รายงานยังระบุว่า เด็กมากกว่า 3 ล้านคนถือกำเนิดขึ้นในพื้นที่ขัดแย้ง ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับผลกระทบจากปัญหาความรุนแรง การย้ายถิ่นฐาน โรคภัยไข้เจ็บและภาวะพร่องทางโภชนาการ ความยากจน รวมถึงไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการพื้นฐานของรัฐได้

 

UNICEF เตือนด้วยว่า การสู้รบที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วประเทศเยเมน อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก

 

 

ลิเบียเกิดวิกฤตละเมิดสิทธิเด็กอย่างรุนแรง

ที่เบงกาซี เมืองใหญ่อันดับ 2 ของลิเบียบนดินแดนกาฬทวีป เกิดเหตุน่าสลดใจขึ้นในเดือนที่แล้ว เมื่อเด็ก 4 คนที่กำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานถูกระเบิดโจมตีอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่จนเสียชีวิต 3 คน ขณะที่เด็กอีกคนบาดเจ็บสาหัส

 

ความขัดแย้ง 6 ปีในลิเบียนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ลุกฮือโค่นล้มระบอบการปกครองของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ทำให้ประเทศเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง มีเด็กได้รับผลกระทบจากการสู้รบและถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวน 378,000 คน

 

นอกจากนี้ลิเบียยังเกิดวิกฤตผู้อพยพด้วย โดยปัจจุบันลิเบียได้เปิดรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัยต่างชาติประมาณ 400,000 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 33,000 คน ซึ่งเด็กเหล่านี้มีความเสี่ยงถูกทารุณข่มเหงและละเมิดสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังเสี่ยงตกเป็นเหยื่อของกลุ่มติดอาวุธที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายลักลอบขนยา ค้ามนุษย์ และการแสวงหาประโยชน์จากเด็กด้วย

 

 

สถานการณ์ในอิรักยังน่าเป็นห่วง

ในเดือนที่แล้วเช่นกัน มีเด็กอิรักคนหนึ่งเสียชีวิตจากทุ่นระเบิดที่ซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งในเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรักซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ยึดครองมานาน 3 ปี

 

ถึงแม้กลุ่ม IS จะถูกกองกำลังฝ่ายรัฐบาลอิรักขับไล่ออกจากเมืองโมซุลตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว แต่สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในอิรักยังคงน่าวิตกอยู่ โดยรายงานของ UNICEF ระบุว่า ปัจจุบันมีเด็กต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากถึง 5.1 ล้านคน

 

นอกจากนี้ยังมีเด็กอิรักอีกจำนวนมากที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา แม้ว่าในปี 2017 จะมีเด็ก 44,437 คนที่สามารถเรียนหนังสือในสถานที่สอนชั่วคราวได้แล้วก็ตาม

 

นอกจากประเทศข้างต้นแล้ว ในเดือนที่แล้วยังมีเด็กชาวซีเรีย 4 คนหนาวตายท่ามกลางพายุหิมะในระหว่างลี้ภัยจากซีเรียไปยังเลบานอนด้วย

 

ส่วนที่เมืองรามาเลาะห์ในเขตเวสต์แบงก์ มีเด็กวัยรุ่นชาวปาเลสไตน์อายุ 16 ปี ถูกทหารอิสราเอลยิงเสียชีวิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นปัญหาความบาดหมางที่ฝังรากลึกระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์

 

Cappelaere ย้ำว่า ทุกวันนี้มีเด็กในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจำนวนหลายล้านคนที่ถูกพรากช่วงชีวิตในวัยเด็กไป หลายคนได้รับความบอบช้ำทางจิตใจ ขณะที่หลายคนถูกทำให้พิกลพิการหรือบาดเจ็บ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวจนไร้อิสรภาพแม้กระทั่งเดินไปโรงเรียนหรือไปรับสวัสดิการพื้นฐานจากรัฐ สิ่งเหล่านี้สะท้อนปัญหาเรื้อรังที่น่าวิตก ซึ่งทั่วโลกจะต้องหันมาใส่ใจแก้ปัญหาหรือยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

 

Photo: AFP

อ้างอิง:

The post กางตัวเลขวิกฤต เหตุรุนแรงในตะวันออกกลางคร่าชีวิตเด็กเกือบร้อยในเดือนมกราคม appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/middle-east-violence-children-dead-injured-for-hundred-in-january/feed/ 0