หลังจากที่รอคอยความคืบหน้าของภาพยนตร์เรื่อง Avengers: Doomsday กันมาอย่างยาวนาน และภาพยนตร์เรื่อง Avengers: End Game จบมาแล้วเป็นเวลา 6 ปี ในที่สุด Marvel Cinematic Universe (MCU) ก็ประกาศแคสต์นักแสดงในภาคนี้ออกมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมยังมีเซอร์ไพรส์ด้วยการกลับมาของตัวละคร X-Men ด้วยเช่นกัน

โดยซูเปอร์ฮีโร่หลักที่จะกลับมาแสดง ได้แก่ Chris Hemsworth (Thor), Tom Hiddleston (Loki), Anthony Mackie (Captain America), Paul Rudd (Ant-Man), Letitia Wright (Black Panther), Simu Liu (Shang-Chi), Winston Duke (M’Baku) และ Danny Ramirez กับบทบาท The Falcon คนใหม่

เสริมทัพด้วยทีม Thunderbolts ที่ประกอบไปด้วย Sebastian Stan (The Winter Soldier), Florence Pugh (Yelena Belova), Wyatt Russell (U.S Agent), David Harbour (Red Guardian), Hannah John-Kamen (Ghost) และ Lewis Pullman (Robert Reynolds, Sentry)

รวมทั้งตัวละคร X-Men จากจักรวาลของ 20th Century Fox ที่มีทั้ง Patrick Stewart (Professor X), Ian McKellen (Magneto), James Marsden (Cyclops), Rebecca Romijn (Mystique), Alan Cumming (Nightcrawler), Kelsey Grammer (Beast) และ Channing Tatum ในบทบาทของ Gambit 

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแคสต์นักแสดงจาก Fantastic Four คนใหม่อีก 4 คน ได้แก่ Pedro Pascal (Mr.Fantastic), Vanessa Kirby (Invisible Woman), Ebon Moss-Bachrach (The Thing) และ Joseph Quinn กับบท Human Torch

ทั้งนี้ ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากัน เช่น Tenoch Huerta Mejía จากบทบาท Namor จากเรื่อง Black Panther และการปรากฏตัวสุดเซอร์ไพรส์ของ Robert Downey Jr. ในบท Doctor Doom ซึ่งถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของเขา หลังจากที่เกษียณจากการแสดงตัวละคร Iron Man ไปแล้วในภาค Avengers: End Game และแหล่งข่าวหลายแห่งก็กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะมีรายชื่อออกมาแล้ว แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจจะมีนักแสดงมาเพิ่มเติมอีก

Avengers Doomsday กำกับโดย 2 พี่น้อง Russo และนักเขียนบท Stephen McFeely ซึ่งเขามีผลงานการเขียนบทภาพยนตร์ Marvel มาแล้วมากมาย โดยภาพยนตร์มีกำหนดการฉายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2026 ส่วนภาคต่อที่มีชื่อว่า Avengers: Secret Wars จะมาในวันที่ 7 พฤษภาคม 227 ซึ่งต้องมารอติดตามชมกันว่า Marvel จะทำอะไรให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกันอีก 

ภาพ: Marvel

อ้างอิง:

• https://www.hollywoodreporter.com/movies/movie-news/avengers-doomsday-cast-announced-1236172556/

The post Marvel ประกาศแคสต์ Avengers: Doomsday ที่มีนักแสดง X-Men มาร่วมด้วย appeared first on THE STANDARD.

Jenna Ortega คือหนึ่งในนักแสดงที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในขณะนี้ เผยว่าก่อนที่เธอจะได้เป็นเจ้าของบท Wednesday และมีผลงานภาพยนตร์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่จริงเธอได้เคยแสดงในภาพยนตร์จักรวาล Marvel Cinematic Universe เรื่อง Iron Man 3 แต่บทพูดของเธอกลับโดนตัดออกทั้งหมด

Jenna Ortega พูดถึงประเด็นดังกล่าวผ่าน Entertainment Tonight ถึงบทเล็กๆ ที่เธอได้รับในภาพยนตร์เรื่อง Iron Man 3 ในปี 2013 เมื่อพิธีกรเผยว่าอยากเห็นนักแสดงวัย 22 ปีในหนังซูเปอร์ฮีโร่

ซึ่งเธอก็ได้ตอบไปว่า “ฉันเคยแสดงใน Marvel มาแล้วครั้งหนึ่ง มันเป็นหนึ่งในงานแรกๆ ที่ฉันได้ทำเลย แต่พวกเขาตัดบทของฉันออกไปหมด ที่จริงฉันปรากฏตัวในภาพยนตร์ Iron Man 3 ในชั่ววินาทีสั้นๆ โดยในบทนั้นฉันนั่งรถเข็น ฉันมีขาเดียว และฉันเป็นลูกสาวของรองประธานาธิบดี”

และ Paul Rudd นักแสดงรุ่นพี่เจ้าของบท Ant-Man ที่มาร่วมนั่งให้สัมภาษณ์กับ Jenna Ortega ในครั้งนี้ เพื่อโปรโมตผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ของพวกเขาจากสตูดิโอ A24 อย่าง Death Of A Unicorn จึงได้บอกกับเธอว่า คงเป็นการดีถ้าหากเธอจะได้กลับไปร่วมงานกับ MCU และให้ทางสตูดิโอครีเอตบทบาทให้กับเธอ เพราะพวกเขาคงจะโชคดีมากที่ได้ Jenna Ortega มาเป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์ด้วย แต่ Jenna Ortega คิดในทางตรงข้าม เธอเผยว่า “พวกเขาถึงขั้นเอาชื่อฉันออกจากเครดิตด้วยซ้ำ ฉันเคืองนะ แต่หลังจากนั้นก็มูฟออนแล้ว” 

Iron Man 3 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2013 และประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยสามารถกวาดรายได้จาก Box Office ทั่วโลกไป 1.2 พันล้านดอลลาร์ นับว่าเกือบจะเทียบเท่ากับรายได้จากภาคแรกและภาค 2 รวมกัน ซึ่งขณะนี้ Jenne Ortage ก็กำลังมีภาพยนตร์ Death Of A Unicorn ที่กำลังจะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาช่วงปลายเดือนมีนาคม รวมไปถึงซีรีส์ Wednesday ซีซัน 2 ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตัดต่อ และคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวภายในปีนี้

ภาพ: Mike Marsland / WireImage

อ้างอิง:

• https://variety.com/2025/film/news/jenna-ortega-iron-man-3-marvel-took-lines-out-1236338440/ 

The post Jenna Ortega เผยว่าเคยแสดงใน Iron Man 3 แต่ถูกตัดบทพูดออกทั้งหมดและไม่มีชื่อในเครดิต appeared first on THE STANDARD.

Sadie Sink เป็นนักแสดงคนล่าสุดที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร Marvel Cinematic Universe โดยเธอจะแสดงภาพยนตร์ Spider-Man ภาค 4 ร่วมกับ Tom Holland และ Zendaya

สำหรับบทหรือตัวละครยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Sadie Sink จะได้รับบทใดสำหรับ Spider-Man ภาคใหม่ที่แฟนๆ รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็มีการรายงานว่าตัวละครของเธอมีความสำคัญและโดดเด่นพอสมควร โดยสื่อ Deadline คาดเดาว่าเธออาจได้รับบทเป็น Jean Grey มนุษย์กลายพันธุ์สาวผู้เปี่ยมล้นด้วยพลังจากจักรวาลของ X-Men ซึ่งสองนักแสดงอย่าง Famke Jenssen และ Sophie Turner เคยรับบทดังกล่าวนี้มาแล้ว

ขณะนี้โปรเจกต์ Spider-Man ภาค 4 ยังคงอยู่ในกระบวนการโปรดักชันเบื้องต้น และทั้งพล็อตเรื่องไปจนถึงรายชื่อนักแสดงคนอื่นๆ ก็ยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีที่แล้ว Tom Holland ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขากับ Zendaya ได้อ่านสคริปต์แล้ว และมันก็ออกมายอดเยี่ยมมาก เขาเผยว่า “มันจุดประกายไฟในตัวผมขึ้นมา Zendaya กับผมนั่งอ่านสคริปต์ด้วยกัน และเราก็กระโดดโลดเต้นไปทั่วห้อง เพราะนี่คือหนังที่เหมาะสมและควรค่ากับการเคารพของแฟนๆ ที่แท้จริง”

ภาพยนตร์ภาคที่แล้วอย่าง Spider-Man: No Way Home ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2021 และทิ้งทวนเรื่องราวเอาไว้อย่างน่าติดตาม โดยสำหรับภาคใหม่นี้ ผู้กำกับอย่าง Destin Daniel เจ้าของผลงาน Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings จะมารับช่วงต่อในการกำกับภาพยนตร์ หลังจากที่ Jon Watts รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ Spider-Man เวอร์ชันของ Tom Holland ใน 3 ภาคแรก 

ภาพ: Franziska Krug / Getty Images for ARMANI Beauty

อ้างอิง: 

• https://www.nme.com/news/film/stranger-things-star-sadie-sink-joins-tom-holland-in-spider-man-4-3845742

The post Sadie Sink เตรียมแสดงภาพยนตร์ Spider-Man ภาค 4 ร่วมกับ Tom Holland และ Zendaya appeared first on THE STANDARD.

ไม่ใช่แค่เพียงแฟน MCU เท่านั้นที่รอคอยภาพยนตร์ภาคต่อเรื่อง Spider-Man แต่นักแสดงนำผู้รับบทเป็น Spider-Man อย่าง Tom Holland เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน โดยล่าสุดเขาออกมาอัปเดตว่า เขาได้อ่านสคริปต์ฉบับดราฟต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Tom Holland เผยผ่านรายการพอดแคสต์ Rich Roll ว่า เขามีโอกาสอ่านสคริปต์ฉบับร่างของ Spider-Man ภาค 4 ร่วมกับ Zendaya ผู้รับบทเป็น MJ และยังเป็นแฟนสาวในชีวิตจริงของเขาด้วย และถึงแม้ว่าเขาจะตื่นเต้นขนาดไหน แต่สำหรับ Tom Holland แล้ว บทยังต้องพัฒนาและปรับเปลี่ยนต่อไปอีก 

“มันยังต้องปรับปรุงแก้ไขอีก แต่นักเขียนทุกคนต่างก็กำลังทำงานได้ดีทีเดียว ผมอ่านเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว และมันทำให้ผมรู้สึกมีไฟมาก Zendaya กับผมนั่งอ่านด้วยกัน และเราก็กระโดดตื่นเต้นดีใจไปรอบๆ ห้อง เพราะมันเป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การให้เกียรติของแฟนภาพยนตร์ แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ต้องปรับอีกก่อนที่เราจะเริ่มต้นกันจริงๆ และมันน่าตื่นเต้นมาก” Tom Holland กล่าว

เมื่อเดือนก่อนมีการรายงานว่า MCU กำลังพูดคุยกับผู้กำกับเจ้าของผลงานเรื่อง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings อย่าง Destin Daniel Cretton ให้มากำกับภาพยนตร์ Spider-Man ภาค 4 หลังจากที่ Jon Watts สร้างผลงานที่น่าประทับใจเอาไว้กับ Spider-Man ไตรภาคชุดแรกไปแล้ว ซึ่ง Tom Holland ก็อธิบายถึงกระบวนการการพัฒนาบท Spider-Man ภาคต่อไปด้วยว่า 

“สิ่งหนึ่งที่ผมจดจำเอาไว้ในใจกับ Marvel ก็คือ ภาพยนตร์ของผมเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ ของเครื่องจักรขนาดใหญ่ เครื่องจักรนั้นก็ต้องทำงานต่อไป และผมต้องทำให้แน่ใจว่าผมเข้ากับไทม์ไลน์นั้นได้อย่างพอดีในเวลาที่ใช่ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับภาพรวมทั้งหมด นั่นคือความท้าทายที่เรากำลังเผชิญ เวลาที่เราต้องทำให้งานเสร็จคือสิ่งที่ยากที่สุด แต่แน่นอนว่าเป็นไปได้ ด้วยผู้คนที่เก่งกาจมากมายของเราที่กำลังทำงานกันอยู่ตอนนี้”

ภาพ: Juan Naharro Gimenez / WireImage

อ้างอิง: 

• https://www.hollywoodreporter.com/movies/movie-news/tom-holland-read-spider-man-4-script-zendaya-1236034546/ 

The post Tom Holland เผย ได้อ่านบท Spider-Man ภาค 4 ร่วมกับ Zendaya แล้ว appeared first on THE STANDARD.

ช่วงที่ผ่านมาเกิดข่าวลืออย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ว่า Kit Connor จะเข้าสู่อาณาจักร MCU ในบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ Hulkling และล่าสุดเขาก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้แล้ว

Kit Connor โด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในบทแจ้งเกิดอย่าง Nick Nelson ในซีรีส์ LGBTQIA+ เรื่อง Heartstopper ที่เขาได้แสดงคู่กับ Joe Locke ซึ่งขณะนี้ซีรีส์ Agatha All Along ที่ Joe Locke ร่วมแสดงในบทหนุ่มปริศนาผู้ถูกลงคาถาไม่ให้ใครรับรู้เรื่องราวของเขา ก็กำลังออกฉายทาง Disney+ ทีละเอพิโสด โดยผู้ชมต่างก็มั่นใจว่า ที่จริงตัวละครของเขาก็คือซูเปอร์ฮีโร่ Wiccan ผู้เป็นคู่รักของ Hulkling นั่นเอง และสิ่งนี้เองที่ทำให้แฟนๆ คาดหวังว่า Kit Connorจะมารับบทเป็น Hulkling และได้เข้าคู่กับ Joe Locke อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสำหรับ Kit Connorแล้ว ความคิดที่จะกลับไปแสดงคู่กับ Joe Locke ในอาณาจักรอื่นอีกครั้งจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก โดยเขาเผยผ่าน Omelete ว่า

“ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ Hulkling หรอกนะ ถ้าพูดกันตรงๆ แล้ว ผมคิดว่าสุดท้ายคนน่าจะเบื่อกับการเห็นผมแสดงคู่กับ Joe ในที่สุด ถ้าหากเรายังทำอะไรซ้ำๆ ต่อไปในอีกไม่กี่ปีนี้”

แม้ว่า Kit Connorอาจไม่ได้เข้าสู่ MCU แต่เขาก็เผยความรู้สึกที่มีต่อการที่ Joe Locke ได้เข้าสู่จักรวาลนี้จากการแสดงซีรีส์ Agatha All Along โดยเขารู้ข่าวครั้งแรกขณะที่พวกเขากำลังถ่ายทำ Heartstopper ซีซัน 2

Kit Connorพูดถึง Joe Locke ว่า “Joe เป็นคนที่เก่งมาก และผมว่า Agatha All Along ก็เป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบที่ผู้ชมจะได้ดูเขาโดยไม่ต้องเห็นหน้าตาขี้เหร่ของผม และได้เห็นเขาทำงานของตัวเอง โดยไม่ต้องว่อกแว่กจากการที่ผมไปทักทาย ผมคิดว่าคนดูน่าจะสนุกไปกับการเห็นความสำเร็จของ Joe อย่างที่ผมเป็น โดยที่ไม่ต้องไปแทรกแซงอะไร”

ภาพ: Swan Gallet / WWD via Getty Images / Marvel

อ้างอิง: 

• https://heroichollywood.com/kit-connor-speaks-desire-join-mcu-hulkling-rumor/

The post Kit Connor ไม่สนใจแสดงเป็น Hulkling ของ Marvel หลังมีข่าวลือออกมา appeared first on THE STANDARD.

หากใครได้ดูภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ Deadpool & Wolverine ที่กำลังเข้าฉายอยู่ในขณะนี้ คงจะเห็นว่ามีการปรากฏตัวสุดเซอร์ไพรส์ของตัวละครมากมายในจักรวาล Marvel ทั้งตัวละครจาก X-Men หรือซูเปอร์ฮีโร่ในมัลติเวิร์สอื่นๆ ซึ่งผู้เขียนบทของเรื่องนี้อย่าง Rhett Reese และ Paul Wernick เพิ่งเปิดเผยว่า อันที่จริงแล้วพวกเขาอยากให้ตัวละครอื่นๆ มาปรากฏตัวมากกว่านี้ โดยเฉพาะกับตัวละคร Iron Man ที่พวกเขาก็อยากให้มา แต่ทางนักแสดง Robert Downey Jr. ก็ปฏิเสธบทนี้ไป

ทั้งสองคนเปิดเผยว่า อยากให้ตัวละคร Iron Man มาปรากฏตัวในฉากที่ Deadpool พยายามขอเข้าทีม Avengers และพวกเขาเชื่อว่านักแสดงRobert Downey Jr. ก็ไม่น่าจะปฏิเสธด้วย 

ดังนั้นพวกเขาจึงเขียนฉาก Iron Man และส่งบทให้Robert Downey Jr. ส่วนนักแสดง Ryan Reynolds ก็ติดต่ออยู่เรื่อยๆ ทว่าเขาก็ปฏิเสธ ซึ่งนั่นก็อาจเป็นเพราะเขาเพิ่งประกาศว่าจะรับบทเป็นวายร้ายคนใหม่อย่าง Doctor Doom เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ในเวลาที่เขียนบทนั้น Rhett Reese และ Paul Wernick ก็ไม่รู้ว่าRobert Downey Jr. กำลังจะรับบทวายร้ายในภาพยนตร์ Avengers: Doomsday เช่นกัน

Paul Wernick กล่าวว่า “พวกเราอยากให้เขามาเป็นนักแสดงรับเชิญจริงๆ แต่เบื้องหลังแล้วพวกเราไม่รู้เลยว่าเขาจะรับบท Doctor Doom ดังนั้นมันไม่มีทางเลยที่เขาจะทำสองสิ่งนี้พร้อมกัน”

สุดท้ายแล้วแม้ว่าพวกเขาจะไม่มี Iron Man แต่พวกเขาก็รู้สึกว่ามันอาจจะดีแล้ว เพราะนักเขียนบท Rhett Reese ก็กล่าวว่า “ฉากมันดีแล้วละ หมายถึงว่าเราอาจจะอยากให้เขามาก็จริง แต่ Marvel กำลังมีไพ่ใบสำคัญอยู่ในมือแล้ว ดังนั้นถ้าเราจะให้เขากลับมาเป็น Tony Stark ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขากำลังจะเป็น Doctor Doom มันก็ไม่สมเหตุสมผลเลย”

ซึ่งนอกจากไอเดียนี้ พวกเขายังเผยอีกว่า บทเวอร์ชันแรกที่พวกเขาเขียนก็คือ Deadpool จะถูกฮีโร่ทั้งทีมปฏิเสธ และเขาก็จะโกรธและด่าซูเปอร์ฮีโร่ Avengers ในแบบที่รุนแรงที่สุดด้วย แต่ฉากนี้คงเป็นไปได้ยากยิ่งกว่า เพราะตารางงานของแต่ละคนก็คงว่างไม่ตรงกัน และค่าตัวของนักแสดงแต่ละคนก็จะสูงมากด้วย ดังนั้นการปรากฏตัวของนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องจึงเป็นดังที่เห็นในภาพยนตร์นั่นเอง

ภาพ: Rich Polk / Golden Globes 2024 / Golden Globes 2024 via Getty Images

อ้างอิง: 

• https://www.digitalspy.com/movies/a61853238/robert-downey-jr-deadpool-wolverine-cameo/

The post Robert Downey Jr. ปฏิเสธที่จะเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ Deadpool & Wolverine appeared first on THE STANDARD.

Disney ปลุกปั้นค่าย MCU ให้ฟื้นคืนชีพ! จากความสำเร็จของ Deadpool & Wolverine กวาดรายได้ทั่วโลกทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ ราว 35,000 ล้านบาท แซงหน้าภาคแรกถึง 56% พร้อมทำลายแชมป์สถิติหนังเรต R อย่าง Joker ไปแล้ว

เรียกได้ว่า Deadpool & Wolverine เป็นภาพยนตร์ในค่าย Marvel Cinematic Universe ซึ่งบริหารโดย Disney และเป็นหนังเรต R เรื่องแรก ที่สามารถล้มแชมป์ภาพยนตร์ Joker ซึ่งอยู่ในกลุ่มหนังเรต R เหมือนกันได้อย่างแยบยล โดย Joker เข้าโรงภาพยนตร์ในปี 2019 ทำรายได้ไป 1,078 ล้านดอลลาร์

และนับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ Disney ที่ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านทั่วโลกในปีนี้ รองจาก Inside Out 2 ของ Pixar ที่ทำรายได้กว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• Deadpool & Wolverine บุกฉายจีน! งัดกลยุทธ์สุดครีเอทีฟ แปลงโฉมมนุษย์ปากเสีย สู่หนังฮอลลีวูดเรต R เรื่องแรกในแดนมังกร
• ธุรกิจสตรีมมิงช่วยดันรายได้ Disney ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 17% ฟากสวนสนุกและการผลิตรายการยังทรงตัว จนฉุดราคาหุ้นร่วง 10%
• Inside Out 2 ขึ้นแท่นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของปี กวาดรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท

แต่สำหรับ Deadpool & Wolverine นั้นเพิ่งเข้าฉายได้ไม่นานก็ทำรายได้ระดับ 1,029 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว และยังมีแนวโน้มทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยการดำเนินเนื้อเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นความหลากหลายทางเพศที่แทรกอยู่ในภาพยนตร์ จนได้รับการยอมรับของฐานคนดูอย่างมาก

หัวใจสำคัญของความสำเร็จส่วนหนึ่งก็มาจากฝีมือนักแสดงนำ ทั้ง ไรอัน เรย์โนลด์ส รับบทเป็น เวด วิลสัน หรือเดดพูล และ ฮิว แจ็คแมน รับบทเป็น เจมส์ โลแกน ฮาวเล็ตต์ หรือวูล์ฟเวอรีน ทั้งคู่เป็นคู่หูที่สวมบททั้งแกร่ง ทั้งเกรียน แถมทีมการตลาดโปรโมตภาพยนตร์ด้วยการแชร์ภาพถังป๊อปคอร์นบนสื่อโซเชียลจนเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์

พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์สื่ออาวุโสของ Comscore กล่าวว่า Deadpool & Wolverine หนังซูเปอร์ฮีโร่ของค่าย Marvel จะช่วยผลักดันให้ Disney มีการเติบโตขึ้นหลังจากช่วงโควิดโตได้ค่อนข้างช้า

ด้านนักวิเคราะห์ในวงการภาพยนตร์คาดการณ์ว่า Deadpool & Wolverine จะไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องเดียวที่สำเร็จในปีนี้ แต่ยังมี Moana 2 ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 ที่อาจสร้างรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านดอลลาร์เช่นกัน

ถึงกระนั้นความสำเร็จของภาพยนตร์ส่วนหนึ่งก็มาจากแผนงานของ Disney ที่ตั้งใจปลุกปั้นภาพยนตร์ในค่าย MCU ให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ หลังจากปี 2023 ภาพยนตร์ในค่าย MUT เผชิญปัญหาอยู่ในช่วงขาลง เห็นได้ชัดจากหลังเปิดตัว The Marvels ในอเมริกาที่ทำรายได้เพียง 47 ล้านดอลลาร์ ราว 1,700 ล้านบาท ต่ำสุดในบรรดาภาพยนตร์ทั้งหมดในค่าย

เมื่อมาดูทิศทางของ Disney ที่เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์ภาคต่อ เริ่มตั้งแต่แอนิเมชัน Toy Story 5, Zootopia 2, Frozen III และ Incredibles 3 รวมถึง Captain America: Brave New World, Thunderbolts, The Fantastic 4: First Steps, Blade, Avengers: Doomsday และ Avengers: Secret Wars

แสดงให้เห็นว่า Disney ให้ความสำคัญกับภาพยนตร์ภาคต่ออย่างมาก เพราะแต่ละเรื่องการันตีในแง่ของรายได้ระดับพันล้านมาแล้ว เช่น Toy Story ทำรายได้ทั่วโลก 3,200 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Frozen ทำรายได้ทั่วโลกทะลุ 2,700 ล้านดอลลาร์ รวมถึง Incredibles และ Zootopia ที่ทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา Marvel Cinematic Universe เป็นค่ายภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ด้วยมูลค่าถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ทั่วโลก โดยผลงานที่สร้างประวัติศาสตร์ก็คือ Star Wars ที่สร้างยอดได้มากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 1977

อ้างอิง:

• https://www.cnbc.com/2024/08/11/deadpool-wolverine-tops-1-billion-at-the-global-box-office.html

The post ค่ายหนัง MCU เริ่มคืนชีพ!หลัง Deadpool & Wolverine กวาดรายได้ทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ ทำลายแชมป์สถิติหนังเรต R appeared first on THE STANDARD.

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เหล่าแฟนคลับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ของอาณาจักร Marvel ต่างก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อ Robert Downey Jr. เจ้าของบทฮีโร่ในดวงใจของแฟนๆ อย่าง Iron Man ประกาศกลับสู่ Marvel Cinematic Universe (MCU) อีกครั้ง

แต่ในครั้งนี้ Robert Downey Jr. ไม่ได้กลับมารับบท Tony Stark เช่นเคย เพราะเขากลับมาในฐานะนักแสดงผู้รับบทวายร้าย Doctor Doom สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Avengers: Doomsday และภาคต่ออย่าง Avenger: Secret Wars หลังจากที่ห่างหายไปจากจักรวาล Marvel เป็นเวลา 5 ปี โดย Robert Downey Jr. เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการไปปรากฏตัวบนเวทีงาน Comic Con ที่ซานดิเอโกในชุดคลุมสีเขียวกับหน้ากากสุดไอคอนิก ตามแบบฉบับ Doctor Doom ก่อนเปิดหน้ากากเฉลยว่าเขาคือคนที่จะมารับบทดังกล่าว ท่ามกลางเสียงโห่ร้องตะโกนดีใจของเหล่าแฟนๆ ที่มาร่วมงานในวันนั้น 

แน่นอนว่าการหวนคืนสู่อาณาจักร Marvel ในบทบาทตัวร้ายกลายเป็นข่าวไวรัลในโลกออนไลน์ทันที และดูเหมือนว่าไม่ใช่เพียงแฟนภาพยนตร์เท่านั้นที่เซอร์ไพรส์และตื่นเต้นกับการกลับมาในบทบาทใหม่ของ Robert Downey Jr. แต่เพื่อนนักแสดงคนสนิทจากภาพยนตร์​ Iron Man อย่าง Gwyneth Paltrow ก็เข้ามาคอมเมนต์แซวผ่าน Instagram ของเขาด้วยว่า “ฉันสับสนแล้ว คุณจะกลายเป็นวายร้ายแล้วเหรอ?” ซึ่งคอมเมนต์ของเธอก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ติดตามเป็นอย่างมาก

สำหรับภาพยนตร์ Avenger: Doomsday และ Avengers: Secret Wars มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 1 พฤษภาคม 2026 และวันที่ 7 พฤษภาคม 2027 โดยทั้งสองเรื่องจะกำกับโดยสองพี่น้องตระกูล Russo หลังจากที่พวกเขาเคยร่วมงานกันมาแล้วในเรื่อง Captain America: Civil War, Avengers: Infinity War และ Avenger: Endgame 

ซึ่งก่อนหน้านี้ Robert Downey Jr. เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า เขายินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าหากจะได้กลับสู่อาณาจักร MCU ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าเขาจะได้กลับมารับบท Iron Man หรือไม่ เนื่องจากสตูดิโอเล่นเรื่องมัลติเวิร์สเอาไว้มากมาย ในขณะที่ประธานแห่ง MCU อย่าง Kevin Feige เผยว่า พวกเขาจะไม่มีทางทำให้จุดจบอันสวยงามของ Iron Man ต้องแปดเปื้อนโดยเด็ดขาด

ภาพ: Kevin Winter / Getty Images

อ้างอิง: 

• https://variety.com/2024/film/news/gwyneth-paltrow-robert-downey-jr-doctor-doom-marvel-1236088322/

The post “ฉันสับสนแล้ว คุณจะกลายเป็นวายร้ายแล้วเหรอ?” Gwyneth Paltrow แซว Robert Downey Jr. หลังจะแสดงเป็น Doctor Doom appeared first on THE STANDARD.

ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีข่าวไหนเขย่าวงการภาพยนตร์ไปมากกว่าการกลับมาของนักแสดงระดับตำนาน Robert Downey Jr. ที่ประกาศว่าจะมาร่วมจักรวาล Marvel อีกครั้งในงาน San Diego Comic-Con 2024 แต่คราวนี้ไม่ได้มาในฐานะฮีโร่เหมือนที่เขาเคยเป็น Iron Man แต่จะกลับมาในฐานะนักแสดงบทตัวร้าย Doctor Doom และดูเหมือนว่าการดึงเขากลับมาแสดงในภาพยนตร์ Avengers ภาคต่อๆ ไปก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ Variety เพิ่งรายงานว่า Marvel ต้องจ่ายเงินมากกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้เขามาแสดงบทบาทนี้

Variety รายงานว่า Robert Downey Jr. มีเงื่อนไขในการกลับมาแสดงภาพยนตร์ของ Marvel ว่า สตูดิโอจะต้องเตรียมเครื่องบินส่วนตัวสำหรับการเดินทาง, ทีมรักษาความปลอดภัย, รถเทรลเลอร์ที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ในขณะถ่ายทำ และเงื่อนไขสำคัญที่สุดคือต้องมี 2 พี่น้อง Russo มาเป็นผู้กำกับหนัง Avengers: Doomsday และ Avengers: Secret Wars ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2026 และ 2027 ตามลำดับ ด้วยเงื่อนไขนี้ Marvel จึงต้องทุ่มเงินกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้พวกเขาสองคนมาเป็นผู้กำกับ และต้องใช้เงินมากกว่านั้นมากสำหรับการชวนให้ Robert Downey Jr. ตกปากรับคำกลับมาแสดง 

ทั้งนี้ จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโปรดักชันอย่างอื่นอีกมากมายที่เกิดจากการทำงานร่วมกันกับ 2 พี่น้องอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้พวกเขาอาจเคยถ่ายทำ Avengers ที่สตูดิโอในแอตแลนตา แต่เรื่องใหม่นี้พวกเขาจะไปถ่ายทำที่ลอนดอน และจะใช้ทีมงานใหม่อีกหลายทีม ดังนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่างเช่นกัน

นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้กันว่า Robert Downey Jr. เป็นนักแสดงที่มีค่าตัวสูงสุดในจักรวาล Marvel โดยก่อนหน้านี้เขาเคยได้ค่าตัวในการแสดงสูงถึง 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากภาพยนตร์ทั้งหมดที่เขาเคยแสดง ไม่ว่าจะเป็น Avengers, Iron Man หรือแม้แต่การมาปรากฏตัวเป็นนักแสดงรับเชิญในระยะเวลาสั้นๆ ในภาพยนตร์ The Incredible Hulk, Captain America หรือ Spider-Man: Homecoming ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่าการที่เขามารับแสดงเป็น Doctor Doom ก็จะได้รับค่าตัวจำนวนมหาศาลด้วยเช่นกัน

ภาพ: Matt Winkelmeyer / Getty Images

อ้างอิง:

• https://variety.com/2024/film/news/robert-downey-jr-doctor-doom-avengers-pay-salary-russo-brothers-1236089512/

The post Marvel จะจ่ายเงินมากกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ Robert Downey Jr. มารับบท Doctor Doom appeared first on THE STANDARD.

Deadpool & Wolverine นับว่าเป็นภาพยนตร์จากจักรวาล MCU ที่อัดแน่นไปด้วยองค์ประกอบที่น่าสนใจมากมายจริงๆ เริ่มตั้งแต่การก้าวเข้าสู่จักรวาล MCU อย่างเป็นทางการของฮีโร่สุดเกรียนอย่าง Deadpool ที่นำแสดงโดย Ryan Reynolds หลังจากที่ Disney ได้เข้าซื้อกิจการของ 20th Century Studios ในปี 2019 และส่งให้ลิขสิทธิ์ตัวละคร Marvel ที่ Fox ถืออยู่ เช่น Deadpool, X-Men และ Fantastic Four กลับมาอยู่ในมือของ Marvel Studios

หรือจะเป็นการกลับมาสวมบทเป็น Wolverine อีกครั้งของ Hugh Jackman ที่แฟนๆ หลายคนเติบโตมาพร้อมกับบทบาทของเขา การได้ Shawn Levy ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง Real Steel (2011), Free Guy (2021) รวมถึงซีรีส์เรื่องเยี่ยมอย่าง Stranger Things มานั่งแท่นผู้กำกับ การเป็นภาพยนตร์เรต R เรื่องแรกของ MCU และอีกหลายองค์ประกอบ ที่ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นผลงานจาก MCU ที่ผู้ชมทั่วโลกตั้งตารอ หลังจากหลายผลงานของ MCU ในช่วงหลังๆ ได้กระแสตอบรับจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไปไม่ค่อยสู้ดีนัก

และเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของสองฮีโร่ที่ใครหลายคนหลงรัก THE STANDARD POP ถือโอกาสรวบรวมเกร็ดน่าสนใจของ Deadpool & Wolverine มาให้ทุกคนได้อุ่นเครื่อง ก่อนไปร่วมติดตามเรื่องราวของฮีโร่คู่หูคู่กัดพร้อมกัน วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ถ้าพร้อมแล้วก็ “Let’s f****** go!”

กว่าที่สองฮีโร่คู่กัดจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

นับเป็นเวลาร่วม 15 ปีแล้วที่สองฮีโร่ชื่อดังอย่าง Deadpool และ Wolverine ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์ร่วมกันเป็นครั้งแรกใน X-Men Origins: Wolverine (2009) ซึ่งแม้ว่าภาพยนตร์จะได้กระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะการตีความตัวละครของ Wade Wilson หรือ Deadpool ออกมาได้ค่อยไม่ลงตัว แต่ขณะเดียวกัน บาดแผลครั้งนั้นก็จุดประกายให้ Ryan Reynolds หมายมั่นที่อยากจะพา Deadpool และ Wolverine กลับมาร่วมจอกันอีกครั้งในสักวัน

ไม่กี่ปีจากนั้น Ryan Reynolds ก็ได้พาฮีโร่สุดเกรียนกลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง พร้อมกับนำเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากคอมิกต้นฉบับที่แฟนๆ ชื่นชอบ ทั้งฉากแอ็กชันเลือดสาด มุกตลกล้อเลียนยียวนกวนติ่ง การทลายกำแพงที่ 4 ที่ Deadpool มักจะหันมาพูดกับผู้ชม (และแน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะหยิบ Wade Wilson ฉบับ X-Men Origins: Wolverine มาล้อเลียนเช่นกัน) มาต่อยอดสู่จอภาพยนตร์จนเอาชนะใจผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด และส่งให้ภาพยนตร์ Deadpool (2016) และ Deadpool 2 (2018) สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกรวมกันไปกว่า 1,568 ล้านดอลลาร์ พร้อมขึ้นแท่นอันดับที่ 4 (ภาคแรก) และอันดับที่ 3 (ภาค 2) ภาพยนตร์เรต R ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลอีกด้วย

กระทั่งโปรเจกต์ภาคต่อของ Deadpool กลับมาอยู่ในมือของ Marvel Studios อย่างเป็นทางการในปี 2019 Ryan Reynolds ก็เริ่มเดินหน้าพูดคุยถึงการพัฒนาภาคต่อของ Deadpool กับทาง Kevin Feige อย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ทางฝั่งของ Hugh Jackman จะตัดสินใจอำลาบทบาท Wolverine ลงเป็นที่เรียบร้อยในภาพยนตร์เรื่อง Logan (2017) อีกทั้งทาง Kevin Feige ยังเคยให้คำแนะนำกับ Hugh Jackman ว่าเขาได้ทิ้งทวนบทบาท Wolverine ไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ดังนั้นหากเขาตัดสินใจกลับมารับบทนี้อีกครั้งก็อาจจะเป็นการทำลายบทสรุปของ Logan ลงก็ได้ แต่ไอเดียในการพา Deadpool และ Wolverine กลับมาเจอกันอีกครั้งก็ยังไม่เคยหายไปจากความคิดของ Ryan Reynolds เช่นกัน

Ryan Reynolds เตรียมไอเดียในการสร้าง Deadpool ภาคที่ 3 ไว้มากกว่า 18 ไอเดีย ทั้งเรื่องราวการเดินทางของ Deadpool และ Wolverine ที่จะถูกนำเสนอในสไตล์ Rashomon (1950) ของผู้กำกับ Akira Kurosawa กับการเล่าเรื่อง 1 เหตุการณ์ผ่านมุมมองของ 3 ตัวละครที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หรือการทำเป็นภาพยนตร์สไตล์โรดทริปที่ใช้ทุนสร้างไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์ และเหมาะกับการนำไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์อย่าง Sundance ไปจนถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในฉบับของภาพยนตร์ฮีโร่

ขณะที่ Ryan Reynolds และทีมเบื้องหลัง กำลังค้นหาทิศทางที่ถูกต้องสำหรับ Deadpool 3 ในที่สุดผู้ที่เข้ามาช่วยให้พวกเขาพบเรื่องราวที่ใช่ก็มาถึง นั่นคือ Hugh Jackman ที่ตัดสินใจกลับมารับบท Wolverine อีกครั้ง หลังจากเขาได้มีโอกาสดู Deadpool 2 ก่อนที่วันหนึ่งเขาจะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “สิ่งที่เขาอยากทำจริงๆ คืออะไร” และคำตอบของเขาคือการกลับมารับบท Wolverine ในโปรเจกต์ภาคต่อของ Deadpool จากนั้นเขาได้ติดต่อกับ Ryan Reynolds เพื่อนคู่หูคู่กัดของเขา ว่าเขาสนใจที่จะมาร่วมโปรเจกต์นี้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างตระหนักดีถึงความรู้สึกของแฟนๆ ที่มีต่อภาพยนตร์เรื่อง Logan ดังนั้นเพื่อเป็นการเคารพต่อผลงานดังกล่าว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวของ Wolverine ในอีกเวอร์ชันหนึ่ง ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Wolverine ในฉบับของภาพยนตร์ชุด X-Men ที่แฟนๆ รู้จัก ขณะเดียวกัน เราก็จะได้มาสำรวจแง่มุมใหม่ๆ ของตัวละครนี้ที่ทุกคนอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน

Shawn Levy ผู้กำกับมากประสบการณ์ที่เข้ามาเติมเต็มให้โปรเจกต์นี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

Shawn Levy นับว่าเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับมากประสบการณ์ที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ยอดฮิตหลายเรื่อง ซึ่งนอกจากที่ผลงานของเขาจะมอบความบันเทิงครบรสแก่ผู้ชมแล้ว เขายังนำเสนอเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับความรู้สึกจนสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมได้ดีอีกด้วย เช่น Real Steel กับเรื่องราวความสัมพันธ์ของอดีตนักมวย (รับบทโดย Hugh Jackman) และลูกชายที่ถูกเชื่อมโยงด้วยหุ่นยนต์นักสู้ หรือ Free Guy กับเรื่องราวของตัวประกอบ (รับบทโดย Ryan Reynolds) ในวิดีโอเกม ที่จู่ๆ ก็ต้องกลายมาเป็นผู้กอบกู้โลกที่เขาอาศัยอยู่

ซึ่งผู้ที่แนะนำให้ Shawn Levy มารู้จักกับ Ryan Reynolds ก็คือ Hugh Jackman จากนั้น Shawn Levy และ Ryan Reynolds ก็ได้ร่วมกันสร้างสรรค์สองภาพยนตร์อย่าง Free Guy และ The Adam Project (2022) ซึ่งต่างก็ได้กระแสตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน และด้วยมิตรภาพที่ดีของทั้งคู่ Ryan Reynolds จึงตัดสินใจชวน Shawn Levy มานั่งแท่นผู้กำกับภาคต่อของ Deadpool ครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม Shawn Levy เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่านี่ไม่ใช่ Deadpool ภาคที่ 3 เสียทีเดียว เพราะสิ่งที่เขาและทีมงานเบื้องหลังอยากจะโฟกัสมากที่สุดคือเรื่องราวการผจญภัยของคู่หู Deadpool และ Wolverine มากกว่าจะเน้นที่เรื่องราวของ Deadpool เพียงคนเดียว

และแม้ว่าผู้กำกับจะมีวัตถุดิบมากมายจากจักรวาล MCU และ X-Men ให้เลือกสรร รวมถึงผู้ชมหลายคนก็น่าจะจับตามองว่าการมาถึงของ Deadpool, Wolverine, X-Men และเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ ครั้งนี้จะส่งผลต่ออนาคตของจักรวาล MCU อย่างไร แต่ในมุมของผู้กำกับและทีมสร้างก็เชื่อว่าเรื่องราวการเผชิญหน้ากับอดีตอันขมขื่นของ Deadpool และ Wolverine คือหัวใจสำคัญของเรื่องมากกว่าจักรวาล MCU โดยรวม นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ Deadpool & Wolverine นั่นเอง

เมื่อฮีโร่สุดเกรียนและฮีโร่ขี้โมโหต้องร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจครั้งสำคัญ

Deadpool & Wolverine จะเล่าเรื่องราวห่างจากเหตุการณ์ในภาคที่ 2 ประมาณ 6 ปี เมื่อ Wade Wilson ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตธรรมดาๆ เช่นเดียวกับคนทั่วไป และหาเลี้ยงชีพจากการทำงานเป็นพนักงานขายรถมือสอง กระทั่งวันหนึ่งเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ Time Variance Authority หรือ TVA ที่นำโดย Mr.Paradox (Matthew Macfadyen) จับตัวไป และมอบหมายให้เขาออกตามหาหนึ่งในตัวแปรของ Wolverine ที่ไม่สามารถปกป้องโลกของเขาไว้ได้ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะสูญเสียผู้คนที่เขารักไป

ทีมงานเบื้องหลังและทัพนักแสดงมากฝีมือ

นอกจากชื่อของผู้กำกับ Shawn Levy แล้ว Deadpool & Wolverine ยังได้ Rhett Reese และ Paul Wernick สองมือเขียนบทจาก Deadpool สองภาคแรก, Zeb Wells จากซีรีส์ She-Hulk: Attorney at Law (2022) และ Ryan Reynolds เจ้าของบท Deadpool มารับหน้าที่เขียนบทร่วม พร้อมด้วย George Richmond จาก Free Guy มารับหน้าที่กำกับภาพ, Shane Reid จาก Ghostbusters: Frozen Empire (2024) และ Dean Zimmerman จากซีรีส์ Stranger Things มารับหน้าที่ตัดต่อ, Ray Chan จาก Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves (2023) มารับหน้าที่ออกแบบงานสร้าง, Mayes C. Rubeo จาก Thor: Ragnarok (2017) และ Graham Churchyard จาก Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022) มารับหน้าที่ออกแบบเครื่องแต่งกาย และ Rob Simonsen จาก Ghostbusters: Afterlife (2021) มารับหน้าที่ประพันธ์ดนตรีประกอบ

พร้อมด้วยทีมนักแสดงจาก Deadpool สองภาคแรกที่จะกลับมาร่วมรับบทเดิมอีกครั้ง ทั้ง Morena Baccarin, Karan Soni, Leslie Uggams, Shioli Kutsuna, Brianna Hildebrand, Lewis Tan, Randal Reeder และ Stefan Kapičić

เสริมทัพด้วยนักแสดงชุดใหม่อย่าง Emma Corrin นักแสดงมากฝีมือจากซีรีส์ The Crown มารับบทเป็นตัวร้ายหลัก (?) ของเรื่องอย่าง Cassandra Nova พี่น้องฝาแฝดของ Charles Xavier ซึ่งกำเนิดขึ้นมาจากปรสิตจากต่างดาว และ Matthew Macfadyen จากซีรีส์ Succession (2018) มารับบทเป็นเจ้าหน้าที่ TVA คนใหม่อย่าง Mr.Paradox

นอกจากนี้ ยังมีบรรดานักแสดงจากภาพยนตร์ชุด X-Men ที่จะกลับมาสวมบทเดิมอีกครั้งให้แฟนๆ หายคิดถึง เช่น Tyler Mane จาก X-Men (2000) กลับมารับบทเป็น Sabretooth, Aaron Stanford จาก X2: X-Men United (2003) และ X-Men: The Last Stand (2006) กลับมารับบทเป็น Pyro, Kelly Hu จาก X2: X-Men United กลับมารับบทเป็น Lady Deathstrike, Ray Park จาก X-Men กลับมารับบทเป็น Toad รวมถึง Jennifer Garner จาก Daredevil (2003) ที่จะกลับมารับบทเป็น Elektra อีกครั้ง ไปจนถึงบรรดาตัวละครที่แฟนๆ คาดเดากันว่า “อาจจะ” มีโอกาสมาปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกมากมาย ทั้ง Owen Wilson ในบท Mobius จากซีรีส์ Loki (2021), Patrick Stewart และ Ian McKellen จากภาพยนตร์ชุด X-Men ในบทของ Professor X และ Magneto ฯลฯ

Deadpool & Wolverine มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

รับชมตัวอย่างได้ที่: https://youtu.be/2hLrI54r3T4?si=P-1i_e66u0dA2IIQ

ภาพ: Marvel, IMDb

อ้างอิง:

• https://ew.com/deadpool-and-wolverine-cover-story-cameos-future-marvel-mutants-ryan-reynolds-hugh-jackman-8672079
• www.boxofficemojo.com/chart/mpaa_title_lifetime_gross/?area=XWW&by_mpaa=R
• www.empireonline.com/movies/news/deadpool-wolverine-hugh-jackman-sides-we-havent-seen-before-exclusive/
• https://variety.com/2022/film/news/hugh-jackman-wolverine-deadpool-3-logan-timeline-1235466229/
• https://screenrant.com/deadpool-and-wolverine-not-deadpool-3-shawn-levy-explained/
• https://collider.com/deadpool-3-release-date-cast-mcu-debut/
• www.imdb.com/title/tt6263850/fullcredits?ref_=tt_ov_wr_sm

The post Deadpool & Wolverine การพบกันอีกครั้งในรอบ 15 ปีของสองฮีโร่ต่างขั้ว appeared first on THE STANDARD.