Luca Guadagnino – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 12 Dec 2024 09:04:10 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Austin Butler จะรับบทนำในภาพยนตร์ American Psycho เวอร์ชันใหม่ กำกับโดย Luca Guadagnino https://thestandard.co/austin-butler-luca-guadagnino-american-psycho/ Thu, 12 Dec 2024 09:04:10 +0000 https://thestandard.co/?p=1018921 Austin Butler

Variety รายงานว่า นักแสดงชื่อดัง Austin Butler จะมารับบ […]

The post Austin Butler จะรับบทนำในภาพยนตร์ American Psycho เวอร์ชันใหม่ กำกับโดย Luca Guadagnino appeared first on THE STANDARD.

]]>
Austin Butler

Variety รายงานว่า นักแสดงชื่อดัง Austin Butler จะมารับบท Patrick Bateman ในภาพยนตร์เรื่อง American Psycho จากฝีมือของผู้กำกับ Luca Guadagnino และอำนวยการสร้างโดยค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Lionsgate 

 

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Jacob Elordi จะมารับบท Patrick Bateman แต่ก็ดูเหมือนว่าการแคสต์ออกมาไม่ลงตัว ดังนั้น Austin Butler จึงมารับบทนี้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เวอร์ชันนี้จะไม่ใช่การรีเมกจากภาพยนตร์ปี 2000 ที่นำแสดงโดย Christian Bale แต่จะตีความใหม่จากนวนิยาย American Psycho ของ Bret Easton Ellis

 

ทั้งนี้ American Psycho ในเวอร์ชันของ Christian Bale จะเล่าย้อนไปยังช่วงยุค 80 ที่มีฆาตกรต่อเนื่อง แต่ในฉบับการตีความใหม่ของ Luca Guadagnino ก็อาจผสมผสานความอีโรติกเข้าไปมากกว่าที่จะเล่าเรื่องความสยองขวัญ และแน่นอนว่าจะมีการตีความอื่นๆ ที่แตกต่างออกไปจากภาพยนตร์ปี 2000 เพราะเขายึดจากนวนิยายของ Bret Easton Ellis เป็นหลัก ซึ่งก็ต้องมารอติดตามกันว่า Austin Butler ในรูปโฉมของ Patrick Bateman จะออกมาเป็นอย่างไร

 

ภาพ: Unique Nicole / FilmMagic

อ้างอิง:

 

The post Austin Butler จะรับบทนำในภาพยนตร์ American Psycho เวอร์ชันใหม่ กำกับโดย Luca Guadagnino appeared first on THE STANDARD.

]]>
Luca Guadagnino กำลังเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อกำกับภาพยนตร์เรื่อง American Psycho เวอร์ชันใหม่ https://thestandard.co/luca-guadagnino-final-talks-to-direct-american-psycho/ Tue, 22 Oct 2024 09:30:11 +0000 https://thestandard.co/?p=998905

เป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคอภาพยนตร์ เมื่อมีการประกาศว่า […]

The post Luca Guadagnino กำลังเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อกำกับภาพยนตร์เรื่อง American Psycho เวอร์ชันใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>

เป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคอภาพยนตร์ เมื่อมีการประกาศว่า Lionsgate จะสร้างภาพยนตร์เรื่อง American Psycho เวอร์ชันใหม่ และยังมีรายงานว่าผู้ที่จะมากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ Luca Guadagnino ที่มีผลงานโดดเด่นอย่าง Call Me By Your Name และ Suspiria อีกทั้งยังเพิ่งมีภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง CHALLENGERS โดยพวกเขากำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยขั้นสุดท้ายก่อนที่จะเริ่มสร้าง American Psycho อย่างเป็นทางการ

 

มีรายงานด้วยว่า American Psycho เวอร์ชันใหม่จะไม่ได้ดัดแปลงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับภาพยนตร์เวอร์ชันก่อนหน้าที่กำกับโดย Mary Harron และเปิดตัวไปในปี 2000 แต่จะเป็นการสร้างภาพยนตร์โดยดัดแปลงจากนวนิยายฉบับออริจินัลจากปี 1991 ในชื่อเดียวกัน ที่เขียนโดย Bret Easton Ellis ซึ่งก็น่าสนใจไม่น้อยว่า Luca Guadagnino จะตีความนวนิยายเรื่องนี้ออกมาอย่างไร โดยส่วนของหน้าที่เขียนบทนั้นตกเป็นของ Scott Z. Burns ที่เคยร่วมเขียนบทเรื่อง Contagion กับ The Bourne Ultimatum และอีกมากมาย

 

ภาพยนตร์ American Psycho เวอร์ชันแรกนำแสดงโดยพระเอกคนดังอย่าง Christian Bale โดยเขารับบทเป็น Patrick Bateman นายธนาคารสุดเนี้ยบที่ฉากหลังเป็นฆาตกรต่อเนื่องจอมโหด ซึ่งทั้งเวอร์ชันภาพยนตร์และนวนิยายต่างก็จบแบบปลายเปิดให้ผู้ชมและผู้อ่านตีความและสรุปกันเอาเอง รวมทั้งทำให้เกิดการถกเถียงถึงความหมายที่แท้จริงของ American Psycho กันอย่างกว้างขวางยาวนานหลายปีจนถึงทุกวันนี้

 

American Psycho จะเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ที่ Luca Guadagnino สร้างจากภาพยนตร์ที่มีเวอร์ชันก่อนหน้า หลังจากที่ได้ชิมลางกับเรื่องภาพยนตร์เขย่าขวัญเรื่อง Suspiria มาแล้วในปี 2018 โดย Suspiria ฉบับออริจินัลเป็นผลงานของผู้กำกับชาวอิตาเลียนอย่าง Dario Argento และเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1977

 

ภาพ: Eric Robert / Sygma / Sygma / Getty Images

อ้างอิง:

The post Luca Guadagnino กำลังเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อกำกับภาพยนตร์เรื่อง American Psycho เวอร์ชันใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Luca Guadagnino ตอบคำถามนักข่าวว่าเป็นไปได้ไหมที่ James Bond จะเป็นเกย์ในเวอร์ชันอนาคต https://thestandard.co/james-bond-could-have-been-gay-says-director-of-new-daniel-craig/ Fri, 06 Sep 2024 02:05:25 +0000 https://thestandard.co/?p=980158 Luca Guadagnino

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 กันยายน) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดขอ […]

The post Luca Guadagnino ตอบคำถามนักข่าวว่าเป็นไปได้ไหมที่ James Bond จะเป็นเกย์ในเวอร์ชันอนาคต appeared first on THE STANDARD.

]]>
Luca Guadagnino

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 กันยายน) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ Daniel Craig อย่าง Queer ได้ฉายรอบพรีเมียร์ไปแล้วที่งาน Venice Film Festival ซึ่งแม้ว่าภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวความรักของ LGBTQIA+ จะได้รับการยืนปรบมือชื่นชมนานถึง 9 นาที แต่ประเด็นเรื่องเพศวิถีของ James Bond อันเป็นตัวละครสำคัญที่ Daniel Craig แสดงเอาไว้อย่างน่าประทับใจ ก็ยังถูกนำมาพูดถึงอีกครั้งในช่วงแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้ 

 

ในช่วงแถลงข่าว มีคนตั้งคำถามต่อผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Queer อย่าง Luca Guadagnino เจ้าของผลงานเลื่องชื่ออย่าง Call Me by Your Name และ Challengers ว่า เป็นไปได้ไหมที่สายลับ 007 จะเป็นเกย์ในเวอร์ชันอนาคต ซึ่ง Daniel Craig ก็กลอกตาพร้อมกับหัวเราะ ส่วน Luca Guadagnino ให้คำตอบว่า

 

“ทุกคนช่วยทำตัวให้เหมือนผู้ใหญ่สักวินาทีได้ไหม…โดยความเป็นจริงแล้ว เราไม่มีทางรู้หรอกว่า James Bond ชอบแบบไหน จบแค่นั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาทำภารกิจได้ถูกต้องสมบูรณ์เสมอเท่านั้นพอ”

 

Luca Guadagnino ชื่นชม Daniel Craig อีกว่า “ผมชื่นชมสุภาพบุรุษคนนี้มานานแล้ว เพราะมีชายอีกคนในห้องแคสติ้งนักแสดงที่ไม่ได้รับเลือกถามกับผมว่า “แล้ว Daniel Craig ล่ะ?” ซึ่งผมก็ตอบไปว่า “ผมนึกถึงเขาอยู่นะ แต่เขาไม่มีทางตอบตกลงเล่นบทนี้หรอก” หลังจากนั้นผมจึงไปถามเขา แล้วเขาก็ตอบตกลง และมันเป็นการตอบตกลงที่ชัดเจนและมั่นใจมาก นับเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมที่ได้ทำงานกับคนแบบเขา”

 

ภาพยนตร์เรื่อง Queer ได้รับการดัดแปลงจากหนังสือชื่อเดียวกันของ William S. Burroughs โดยว่าด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเม็กซิโกซิตี้ในช่วงยุค 1950 เมื่อชายชาวอเมริกัน (Daniel Craig) ไปตกหลุมรักด้วยความหลงใหลกับหนุ่มที่เด็กกว่า (รับบทโดย Drew Starkey) ซึ่งนักแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมี Omar Apollo, Lesley Manville และ Jason Schwartzman อีกด้วย 

 

ภาพ: Vittorio Zunino Celotto / Getty Images

อ้างอิง: 

 

The post Luca Guadagnino ตอบคำถามนักข่าวว่าเป็นไปได้ไหมที่ James Bond จะเป็นเกย์ในเวอร์ชันอนาคต appeared first on THE STANDARD.

]]>
Stars At Loewe Spring/Summer 2024 Kit, Troye, เต ตะวัน และอีกมากมายที่ฟรอนต์โรว์ของโชว์ https://thestandard.co/stars-at-loewe-spring-summer-2024/ Sat, 30 Sep 2023 07:01:23 +0000 https://thestandard.co/?p=848543 Loewe Spring Summer 2024

Jonathan Anderson ถือเป็นดีไซเนอร์อีกคนหนึ่งที่สามารถดึ […]

The post Stars At Loewe Spring/Summer 2024 Kit, Troye, เต ตะวัน และอีกมากมายที่ฟรอนต์โรว์ของโชว์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Loewe Spring Summer 2024

Jonathan Anderson ถือเป็นดีไซเนอร์อีกคนหนึ่งที่สามารถดึงคนจากหลากหลายวงการให้มาเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ที่ Loewe และในคอลเล็กชัน Spring/Summer 2024 ที่จัดขึ้นที่ Château de Vincennes ชานเมืองปารีส ก็มีคนสนิทของเขาร่วมเดินทางมาชมโชว์

 

เริ่มที่ฝั่งคนบันเทิงทั้งทีวีและภาพยนตร์ที่แสดงความเนิร์ดป๊อปคัลเจอร์ของ Jonathan เช่น ผู้กำกับชาวอิตาลีอย่าง Luca Guadagnino ที่นั่งติดกับ Anna Wintour และ Greta Lee จากเรื่อง Past Lives ตามมาด้วย Kris Jenner ที่มาร่วมงานคนเดียว แล้วปล่อยให้ลูกๆ ไปเฉิดฉายที่โชว์อื่น และหนุ่มน้อยดาวรุ่ง Kit Connor จาก Hearstopper ที่ตามมาสนับสนุนดีไซเนอร์ชาวไอริชตั้งแต่โชว์ JW Anderson ด้วยเช่นกัน

 

ส่วนฝั่งตัวแทนจากประเทศไทยในซีซันนี้มีถึง 2 คน ได้แก่ เต ตะวัน และ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ที่ใส่ชุดรันเวย์ของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 ที่ Loewe เพิ่งจัดงานพรีวิวคอลเล็กชันที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนก่อน

 

 

เรื่อง: เริ่มต้น เขมะเพ็ชร

ภาพ: Getty Images

The post Stars At Loewe Spring/Summer 2024 Kit, Troye, เต ตะวัน และอีกมากมายที่ฟรอนต์โรว์ของโชว์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
“ฉันจะรับบทเป็นวัยรุ่นตลอดชีวิตไม่ได้” Zendaya พูดถึงเส้นทางอาชีพนักแสดงของเธอในอนาคต https://thestandard.co/zendaya-teenage-role-opinion/ Sun, 27 Aug 2023 11:07:18 +0000 https://thestandard.co/?p=834375 Zendaya

ถึงแม้ว่า Zendaya จะโด่งดังมาจากการเป็นศิลปิน และแสดงภา […]

The post “ฉันจะรับบทเป็นวัยรุ่นตลอดชีวิตไม่ได้” Zendaya พูดถึงเส้นทางอาชีพนักแสดงของเธอในอนาคต appeared first on THE STANDARD.

]]>
Zendaya

ถึงแม้ว่า Zendaya จะโด่งดังมาจากการเป็นศิลปิน และแสดงภาพยนตร์และซีรีส์ที่ตัวละครอยู่ในช่วงวัยเยาว์ แต่นักแสดงวัย 27 ปีได้เผยกับนิตยสาร ELLE อเมริกาว่าหลังจากนี้เธออยากมองหาบทบาทที่โตขึ้นและเหมาะสมกับวัยของเธอ

 

“ฉันต้องการค้นหาสิ่งที่ผลักดันเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน เมื่อฉันอายุมากขึ้นฉันก็รู้ว่าคงไม่สามารถรับบทเป็นวัยรุ่นได้ตลอดชีวิต” เธอกล่าวกับนิตยสาร ซึ่ง Zendaya กำลังจะมีผลงานใหม่ที่ท้าทายมากขึ้นอย่างภาพยนตร์เรื่อง Challengers ของผู้กำกับ Luca Guadagnino ที่เธอรับบทเป็นอดีตแชมป์เทนนิสที่ผันตัวมาเป็นโค้ช ซึ่งร่วมแสดงกับ Josh O’Connor และ Mike Faist 

 

“ฉันรู้สึกว่ามันเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ดีขึ้น เพราะได้รับบทที่โตขึ้นเพื่อก้าวเข้าสู่ช่วงต่อไปของชีวิต” Zendaya พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ 

 

ซึ่งเธอได้เสริมเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเธอว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ที่ขึ้นแท่นฮิตติดอันดับจนทำให้เธอมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม การออกไปไหนมาไหนของเธอในที่สาธารณะจึงเป็นไปได้ยากที่จะไม่มีแฟนๆ และสื่อเข้ามารุม 

 

ภาพ: Victor Boyko / Getty Images for Louis Vuitton 

อ้างอิง:

The post “ฉันจะรับบทเป็นวัยรุ่นตลอดชีวิตไม่ได้” Zendaya พูดถึงเส้นทางอาชีพนักแสดงของเธอในอนาคต appeared first on THE STANDARD.

]]>
Loewe คว้า Luca Guadagnino มากำกับหนังสั้นสำหรับโชว์ Spring/Summer 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้น https://thestandard.co/loewe-brought-luca-guadagnino-for-short-film/ Fri, 16 Jun 2023 11:24:41 +0000 https://thestandard.co/?p=804591 Loewe

Loewe ได้คว้าตัวผู้กำกับชาวอิตาลีอย่าง Luca Guadagnino […]

The post Loewe คว้า Luca Guadagnino มากำกับหนังสั้นสำหรับโชว์ Spring/Summer 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
Loewe

Loewe ได้คว้าตัวผู้กำกับชาวอิตาลีอย่าง Luca Guadagnino มากำกับภาพยนตร์สั้นที่ชื่อว่า I Dreamt of LOEWE สำหรับแฟชั่นโชว์คอลเล็กชัน Spring/Summer 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ 

 

โดยทาง Jonathan Anderson ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ และผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่อง Call Me By Your Name ได้เดินทางไปถ่ายวิดีโอชุดนี้ที่แกลเลอรี David Zwirner ในมหานครนิวยอร์ก ท่ามกลางนิทรรศการ Echolalia, 2010 ของ Franz West ศิลปินชาวออสเตรีย ที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และอินสตอลเลชันที่ทำจากกระดาษขึ้นรูป (Papier-mâché)

 

ซึ่งในวิดีโอชุดนี้เราได้เห็นเสื้อผ้าบางชิ้นที่คาดว่าจะได้เห็นจากคอลเล็กชันฤดูร้อนปีหน้า ที่มีทั้งแว่นตากันแดดกลิตเตอร์ เสื้อไหมพรมสีเทา เสื้อเชิ้ตลายทางคอปกสีขาว และรองเท้าบู๊ตเชลซี 

 

สำหรับ Loewe ภายใต้การนำของ Jonathan Anderson ได้นำคนจากหลากหลายวงการ ทั้งอาหาร ดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ มาร่วมงานทั้งแคมเปญจนถึงร่วมชมแฟชั่นโชว์ โดย Luca Guadagnino ก็เป็นหนึ่งในวงการภาพยนตร์ที่ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษเชิญมาเป็นแขกเมื่อครั้งโชว์คอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 และได้นั่งข่าง Taylor Russell และ Timothee Chalamet สองนักแสดงนำจากเรื่อง Bones and All

 

ภาพ: Loewe

The post Loewe คว้า Luca Guadagnino มากำกับหนังสั้นสำหรับโชว์ Spring/Summer 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
STARS AT LOEWE หลากหลายศิลปินดาราที่แฟชั่นโชว์ Fall/Winter 2023 ณ ปารีสแฟชั่นวีค https://thestandard.co/stars-at-loewe-fashion-show/ Sat, 04 Mar 2023 08:11:01 +0000 https://thestandard.co/?p=758593

คงเถียงไม่ได้ว่า Loewe ได้ก้าวมาเป็นหนึ่งในโชว์ที่สำคัญ […]

The post STARS AT LOEWE หลากหลายศิลปินดาราที่แฟชั่นโชว์ Fall/Winter 2023 ณ ปารีสแฟชั่นวีค appeared first on THE STANDARD.

]]>

คงเถียงไม่ได้ว่า Loewe ได้ก้าวมาเป็นหนึ่งในโชว์ที่สำคัญที่สุดของปารีสแฟชั่นวีคทุกซีซัน เพราะวิสัยทัศน์การดีไซน์ของ Jonathan Anderson ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนเก่งที่เฉียบคม ล้ำสมัย และสามารถบาลานซ์ความคิดสรรค์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างลงตัว แต่นอกเหนือจากเสื้อผ้าอันเยี่ยมยอดแล้ว อีกหนึ่งความสามารถของ Jonathan Anderson และทีมงานฝั่งสื่อสารของแบรนด์คือการเลือกกลุ่มศิลปินดาราที่มาร่วมชมโชว์ได้แตกต่างกันในทุกซีซัน ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ Loewe ดูสนุก มีชั้นเชิง และไม่ได้ยึดติดกับการวนอยู่แต่กลุ่มคนเดิมๆ สำหรับโชว์เสื้อผ้าผู้หญิงของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 ผู้ที่มาร่วมงานก็มีทั้งพระเอก Jamie Dornan, ซูเปอร์โมเดลตลอดกาล Naomi Campbell, ผู้กำกับ Luca Guadagnino, อินฟลูเอ็นเซอร์ Heart Evangelista, สไตลิสต์ของ Rihanna อย่าง Jahleel Weaver, สไตลิสต์ของ Zendaya อย่าง Law Roach, Emily Ratajkowski, วงเกิร์ลกรุ๊ป NMIXX, Chloë Sevigny, Derek Blasberg และที่สร้างกระแสที่สุดก็ต้องเป็น TAEYONG แห่งวง NCT

 

*สำหรับเรื่องราวโชว์ Fall/Winter 2023 สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่: 

Loewe Fall/Winter 2023 คอลเล็กชันที่ Jonathan Anderson อยากให้ใช้เวลาเพ่งมองเสื้อผ้าแต่ละชิ้นมากขึ้น

 

 

ภาพ: Getty Images

The post STARS AT LOEWE หลากหลายศิลปินดาราที่แฟชั่นโชว์ Fall/Winter 2023 ณ ปารีสแฟชั่นวีค appeared first on THE STANDARD.

]]>
คอนเฟิร์มสร้างหนังภาคต่อ Call Me by Your Name! https://thestandard.co/call-me-your-name-director-luca-guadagnino-confirms-films-sequel-details-plot/ https://thestandard.co/call-me-your-name-director-luca-guadagnino-confirms-films-sequel-details-plot/#respond Tue, 06 Mar 2018 07:43:54 +0000 https://thestandard.co/?p=75250

แม้ว่าภาพยนตร์ Call Me by Your Name จะชนะรางวัลออสการ์ไ […]

The post คอนเฟิร์มสร้างหนังภาคต่อ Call Me by Your Name! appeared first on THE STANDARD.

]]>

แม้ว่าภาพยนตร์ Call Me by Your Name จะชนะรางวัลออสการ์ไปแค่ 1 สาขา กับ Best Adapted Screenplay เมื่อวานนี้ แต่ล่าสุดทางผู้กำกับ ลูกา กัวดาญิโน (Luca Guadagnino) ก็ได้ออกมาคอนเฟิร์มกับทาง USA Today บนพรมแดงงานออสการ์ว่าเขากำลังเขียนบทของหนังภาคต่อ ซึ่ง ทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet) และ อาร์มี แฮมเมอร์ (Armie Hammer) จะกลับมาเล่นแน่นอน

 

สาวกตัวจริงของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ได้อ่านหนังสือต้นฉบับของนักประพันธ์ชาวอียิปต์ André Aciman จะรู้ว่าเรื่องยังคงดำเนินต่ออีก 40 หน้า โดยเล่าเรื่องเอลิโอและโอลิเวอร์ตลอด 20 ปีต่อมา ซึ่งพวกเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งที่อเมริกา

 

ลูกาให้สัมภาษณ์ว่า เขาเริ่มพูดคุยและเขียนบทกับอังเดร ผู้เขียนหนังสือแล้ว โดยหนังจะมีโทนและอารมณ์ที่หนักขึ้นและแตกต่าง ซึ่งเราจะเห็นตัวละครหลักทั้งคู่เดินทางรอบโลกในช่วงปลายยุค 80s หรือราว 5-6 ปีหลังจากที่หนังภาคแรกจบ และจะมีการพูดถึงประเด็นละเอียดอ่อนทางสังคมในช่วงนั้น เช่น ปัญหาโรคเอดส์

 

ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดถ่ายทำหรือวันฉาย เพราะต้องรอให้บทเขียนเสร็จก่อน แต่ก็น่าจะต้องรออีกพักใหญ่ เพราะทิโมธีกำลังจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The King กับค่าย Netflix ที่กำกับโดย David Michôd ซึ่งทิโมธีจะรับบทนำเป็นกษัตริย์เฮนรีที่ 5 ในวัยเยาว์ ส่วนอาร์มีก็มีภาพยนตร์ 3 เรื่องในปีนี้ คือ Hotel Mumbai, On the Basis of Sex และ Sorry to Bother You

 

ด้านลูกากำลังจะมีหนังสยองขวัญเรื่อง Suspiria ที่เป็นการนำมาทำใหม่ของภาพยนตร์อิตาเลียนเวอร์ชัน 1977 ซึ่งถ่ายทำเสร็จแล้ว นักแสดงนำคือ ดาโกตา จอห์นสัน (Dakota Johnson) และทิลดา สวินตัน (Tilda Swinton) โดยมี ทอม ยอร์ก (Thom Yorke) นักร้องนำ Radiohead มาทำเพลงประกอบให้

 

สำหรับ Call Me by Your Name ของค่าย Sony Picture Classics ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แนว Coming of Age แห่งยุคที่สร้างความประทับใจให้ใครหลายๆ คน พร้อมกวาดรางวัลมากมาย โดยเฉพาะงานเขียนบทประพันธ์ดัดแปลงของเจมส์ ไอวอรี (James Ivory)

 

อ้างอิง:

The post คอนเฟิร์มสร้างหนังภาคต่อ Call Me by Your Name! appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/call-me-your-name-director-luca-guadagnino-confirms-films-sequel-details-plot/feed/ 0
Call Me by Your Name ขายบ้านที่ใช้ถ่ายทำในราคา 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ https://thestandard.co/call-me-by-your-name-house-goes-up-for-sale/ https://thestandard.co/call-me-by-your-name-house-goes-up-for-sale/#respond Fri, 16 Feb 2018 10:58:10 +0000 https://thestandard.co/?p=71047

Call Me by Your Name มีข่าวให้แฟนหนังต้องเตรียมตัวเก็บเ […]

The post Call Me by Your Name ขายบ้านที่ใช้ถ่ายทำในราคา 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ appeared first on THE STANDARD.

]]>

Call Me by Your Name มีข่าวให้แฟนหนังต้องเตรียมตัวเก็บเงินครั้งใหญ่ เมื่อบ้านสไตล์อิตาเลียน ที่ตั้งอยู่ในเมืองลอมบาร์ดี ประเทศอิตาลี ซึ่งใช้ถ่ายทำและเป็นฉากหลักในภาพยนตร์ กำลังติดประกาศขายผ่านเว็บไซต์ HouseLoft ไม่ใช่แค่ขายเฉพาะบ้านเปล่าๆ เท่านั้น ยังมีรายละเอียดการตกแต่งที่บ่งบอกความเป็นยุค 80s โดยเป็นฝีมือของผู้กำกับลูคา กัวดายีโน (Luca Guadagnino) เองด้วย เพราะฉะนั้นใครที่ซื้อไปก็คงเดินทัวร์รอบบ้านแล้วจินตนาการถึงเอลิโอ และโอลิเวอร์ ได้เลย

 

 

บ้านหลังดังกล่าวมีจำนวน 14 ห้องนอน และ 7 ห้องน้ำ จุดเริ่มต้นถูกสร้างให้เป็นป้อมปราการในช่วงศตวรรษที่ 16 ก่อนที่จะถูกปรับให้กลายเป็นบ้านสำหรับอยู่อาศัยภายหลัง ราคาขายของบ้านสุดหรูหลังนี้อยู่ที่ 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 84,375,000 บาทไทย ซึ่งแม้แต่ตัวผู้กำกับกัวดายีโนเองก็เคยจะซื้อบ้านหลังนี้ก่อนที่จะมาทำ Call Me by Your Name แต่พอได้ถ่ายทำในบ้าน ได้ตกแต่งพื้นที่ในห้องต่างๆ ลูคา กัวดายีโน ก็ได้ออกมาพูดว่า เขารู้สึกว่าบ้านหลังนี้กลายเป็นของเขาตลอดกาลไปแล้ว

 

 

Call Me by Your Name เป็นภาพยนตร์โรแมนติกสร้างจากหนังสือชื่อเดียวกัน โดย อันเดร อาซีมาน (André Aciman) นำแสดงโดย ทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet) และ อาร์มี แฮมเมอร์ (Armie Hammer) Call Me by Your Name เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม

The post Call Me by Your Name ขายบ้านที่ใช้ถ่ายทำในราคา 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/call-me-by-your-name-house-goes-up-for-sale/feed/ 0
สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพชาวไทยที่อยู่ใกล้รางวัลออสการ์มากที่สุดในเวลานี้ https://thestandard.co/sayombhu-mukdeeprom/ https://thestandard.co/sayombhu-mukdeeprom/#respond Fri, 22 Dec 2017 11:58:20 +0000 https://thestandard.co/?p=57439

สยมภู มุกดีพร้อม คือผู้กำกับภาพคู่ใจที่มีส่วนช่วยให้ชื่ […]

The post สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพชาวไทยที่อยู่ใกล้รางวัลออสการ์มากที่สุดในเวลานี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

สยมภู มุกดีพร้อม คือผู้กำกับภาพคู่ใจที่มีส่วนช่วยให้ชื่อของ เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล พาหนังเรื่อง สุดเสน่หา (2002) และ ลุงบุญมีระลึกชาติ (2010) เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

 

หลังจากนั้นตัวสยมภูเองก็ได้รับโอกาสในการเป็นผู้กำกับภาพจากผู้กำกับต่างชาติหลายคน จนชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะกับผลงานล่าสุด Call Me by Your Name ของผู้กำกับชาวอิตาลีอย่าง ลูคา กัวดายีโน (Luca Guadagnino) ที่กระแสตอบรับดีถึงขนาดได้รับการ Standing Ovation (การที่ผู้ชมทั้งโรงภาพยนตร์ลุกขึ้นปรบมือเมื่อดูภาพยนตร์จบ) ยาวนานที่สุดจากเทศกาลภาพยนตร์ที่นิวยอร์ก จนสื่อและนักวิจารณ์ระดับโลกมองว่าเขาจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขากำกับภาพยอดเยี่ยมในปี 2017 (ประกาศผลผู้เช้าชิงในวันที่ 23 มกราคม 2018)

 

วันนี้ THE STANDARD มีโอกาสนั่งคุยกับเขา เกี่ยวกับเบื้องหลังการทำงาน และมุมมองที่เขามีต่อวงการภาพยนตร์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาหรี่เล็ก ในฐานะคนไทยที่อยู่ใกล้รางวัลออสการ์มากที่สุดในเวลานี้

 

 

ตามปกติคุณต้องมีเกณฑ์อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าในการรับเป็นผู้กำกับภาพแต่ละเรื่อง เพราะถ้าดูจากผลงานที่ผ่านมาจะเห็นว่าหนังของคุณมีหลายรูปแบบมาก

เกณฑ์แรกคือเรื่องมีเงินหรือไม่มีเงินก่อนเป็นอันดับแรก (หัวเราะ) มันคือเรื่องปกติในการทำงาน อย่างถ้าในบ้านเราอย่างน้อยทำหนังปีละ 2 เรื่องต่อปี เพราะฉะนั้น 2 เรื่องอย่างน้อยต้องทำให้เราอยู่ได้ใน 1 ปี มันคือเกณฑ์แรกแต่ไม่ใช่เกณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดนะ เพราะนอกจากนั้นมันยังมีเรื่องทัศนคติของหนัง ที่ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนผมอ่านบท แล้วผมต้องรู้สึกสนใจทัศนคติของหนังเรื่องนั้น

 

ซึ่งผมไม่สามารถจำกัดความได้นะว่าไอ้ทัศนคติของหนังมันเป็นยังไง อาจจะไม่ใช่คำว่าดีด้วยซ้ำ แต่ว่าอย่างน้อยมันน่าสนใจ ผมคิดว่าศิลปะในโลกนี้มันมีเยอะแยะไปหมดเลย และผมเปิดรับโอกาสที่เข้ามาเสมอ เพราะฉะนั้นถ้าบทที่อ่านมันทำรีแอ็กชันบางอย่างได้มันก็จบเท่านั้นเอง

 

บทเรื่องไหนที่อ่านแล้วรู้สึกว่าทัศนคติของหนังเรื่องนั้นน่าสนใจที่สุด

สุดเสน่หา ของเจ้ย ผมอ่านจบใน 3 ชั่วโมง ไม่รู้เหมือนกันว่ายังไง แต่ผมอ่านแล้วโคตรสนุกเลย แล้วก็รับถ่ายเรื่องนั้นทันที ผมคิดว่าหนังหลายๆ เรื่องต้องมีบทที่เป็นแบบนั้น บทที่ดีต้องมีพลังพอที่จะทำให้ยอมทนไปอยู่กับใครสักคนที่เราเหม็นขี้หน้าได้ประมาณ 3 เดือน เพราะการถ่ายหนัง 1 เรื่อง มันคือเอาชีวิตเราทั้งหมดไปอยู่ในนั้นเลยนะ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมดามากที่เราจะไม่ชอบหน้าใครสักคน แต่เราจะยอมไปอยู่กับเขาเพราะว่าเราอยากถ่ายทำบทหนังเรื่องนั้นให้ได้

 

 

ผู้กำกับมีผลกับการตัดสินใจรับงานมากขนาดไหน

เกี่ยวนะ แต่ผมคิดว่าไม่มาก เพราะถ้าถามผมตอนนี้ว่าอยากทำงานกับผู้กำกับคนไหนในโลกมากที่สุด ผมตอบไม่ได้เหมือนกันนะ เพราะผมเลือกดูจากบทหนังเป็นหลัก หลังจากนั้นค่อยมาดูผู้กำกับว่าเคมีเขาไปกับเราได้ไหม มีมุมมองที่จะนำพาเราไปได้ไหม เพราะยังไงผมก็ยังคิดว่าเราเป็นลูกน้องของเขา ผู้กำกับเป็นนายของเรา ถ้าเขามีทัศนคติหรืออะไรบางอย่างที่ทำให้เราเชื่อไม่ได้ ก็จะทำงานกันได้ยาก

 

เวลาหนังเสร็จสมบูรณ์ออกมาแล้วประสบความสำเร็จ หรืออย่าง Call Me by Your Name ที่ได้รับการ Standing Ovation คุณคิดว่าผู้กำกับภาพมีสิทธิ์ที่จะได้รับความดีความชอบตรงนั้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์

ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ผม แต่ทุกคนที่อยู่ใน ‘กรรมะ’ ของการทำหนังเรื่องนั้นๆ มีสิทธิ์ที่จะดีใจ เพราะทุกคนได้ให้เวลาส่วนหนึ่งในชีวิตกับสิ่งนี้ไปแล้ว แต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันไปเป็นธรรมชาติ แต่ด้วยตัวภาพยนตร์ที่เป็น Collaborative Art ทุกคนต้องทำร่วมกัน เพราะฉะนั้นในความคิดของผมผู้กำกับก็ไม่สามารถเคลมได้ 100% เพียงคนเดียว เพราะทุกคนควรเคลมได้ 100% เหมือนกันหมด เพราะไม่ว่าคนนั้นจะเป็นส่วนที่เล็กขนาดไหนของหนัง แต่ในขณะที่ทำงานเขาให้ทุ่มกับงานนั้นไป 100% เหมือนเราเอา 100% ของทุกยูนิตมารวมกันจนกลายเป็นหนังขึ้นมา ไม่ใช่ผู้กำกับ 20% นักแสดง 20% ผู้กำกับภาพ 20% มันคือ 100% ของทุกคนที่มาอินเตอร์เซคกันอยู่เท่านั้นเอง

 

 

เมื่อปิดกล้อง ถ่ายหนังเสร็จเรียบร้อย ส่งฟุตเทจต่อไปให้ฝ่าย Post-Production คุณเป็นผู้กำกับภาพที่เป็นกังวลกับฟุตเทจที่ส่งต่อไปมากแค่ไหน

ไม่รู้สึกอะไรนะ เพราะอย่างแรกคือผมไม่ได้ทรีตฟุตเทจเป็นอะไรที่พิเศษเลย มันคือผลงานอย่างหนึ่งที่ผมตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุดแค่นั้น แล้วก่อนที่จะส่งไปกระบวนการตัดต่อ ณ วันนั้นผมต้องรู้สึกว่ามันโอเคแล้ว ถ้าไม่โอเคหน้าที่ของผู้กำกับภาพคือจะต้องรีบบอกทุกคนว่า ฉิบหายแล้วครับ แล้วก็ต้องพยายามถ่ายจนกว่าจะได้แบบที่เราคิดจริงๆ นั่นคือกรรมะของเราในตอนนั้น หลังจากนั้นมันคือกรรมะของคนอื่นแล้ว เขาจะเอาสิ่งที่ผมถ่ายมาไปกระทำอย่างไรไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องกังวล

 

กรรมะของผู้กำกับภาพคืออะไร

ส่วนใหญ่คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ณ วันถ่ายทำ เพราะบางทีสิ่งที่เห็นตรงหน้ามันอาจจะไม่เอื้อให้กับสิ่งที่เราคิดเอาไว้ในหัวเลยก็ได้ เหมือนใน Call Me by Your Name ที่ฝนตกฟ้าครึ้มมาเลย แต่ต้องถ่ายออกมาให้เหมือนแดดออก สว่างๆ นั่นก็เป็นกรรมะของผมที่ต้องจัดการให้ได้

 

การที่ต้องถ่ายหนังด้วยฟิล์มอย่างเดียวก็ถือว่าเป็น ‘กรรมะ’ อย่างหนึ่งของคุณด้วยหรือเปล่า

ผมเป็นคนแรกๆ ในเมืองไทยนะที่เคยศึกษาและเข้าใจเรื่องกล้องดิจิทัล เริ่มศึกษาตั้งแต่กล้อง Viper Thompson ยุคแรกๆ เลย แต่ว่าสุดท้ายผมเลือกที่จะไม่ถ่ายด้วยกล้องดิจิทัล และถ่ายด้วยฟิล์มภาพยนตร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเหตุผลมันไม่มีอะไรเลยนะ ผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นเครื่องมือที่สื่อสารกับตัวผมได้ดีกว่าดิจิทัล ฟิล์มคุยกับผมได้ และมันเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผมสื่อสารกับสิ่งแวดล้อม กับภาพยนตร์ได้ดีกว่าเท่านั้นเอง

 

 

ถ้ามีโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ หรือโปรเจกต์ที่น่าสนใจมากๆ ติดต่อมา แต่เขาขอให้คุณถ่ายด้วยกล้องดิจิทัลเท่านั้น

ผมปฏิเสธไปตั้งหลายเรื่องแล้ว (หัวเราะ) ล่าสุดเพิ่งมีหนังฮอลลีวูดติดต่อมา จอห์นนี เดปป์ แสดงนำ ผมอ่านบทแล้วก็ชอบเลยนะ แต่เขาบอกว่าขอให้ผมถ่ายดิจิทัลได้ไหม กลับมาคิดอยู่ 3 วัน ก็กลับไปบอกเขาว่าตอนนี้ผมยังไม่พร้อม เดี๋ยวปีหน้าค่อยว่ากันอีกที

 

พูดแบบนี้บางคนอาจจะคิดว่าปฏิเสธไปทำไม แค่ยอมถ่ายดิจิทัลแค่นั้นเอง แต่สำหรับผมมันไม่ใช่แค่นั้นเองนะ เพราะนั่นมันคือเครื่องมือในการสร้างงานของผม ถ้าผมไม่รู้สึกสบายใจ ไม่มั่นใจ แล้วผมจะสร้างงานออกมาได้ยังไง เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่พร้อมก็อย่าเพิ่งดีกว่า

 

มันไม่ฟังดูเหมือนไม่ยอมพัฒนา ไม่ยอมปรับตัวกับยุคสมัยใหม่ไปหน่อยเหรอ

แล้วแต่ใครจะมองนะ แต่ผมไม่คิดแบบนั้น เพราะถ้าเป็นงานที่หาเงิน 100% เหรอ เอามาสิ งานโฆษณา ขายของแบบนี้มาเลย แต่หนังไม่ใช่แบบนั้นสำหรับผม เพราะว่ามันใช้เวลาอยู่กับมันนานเกินไป เราตั้งใจกับมันมากเกินไป ไม่เหมือนกับโฆษณาที่ถ่าย 3 วันจบ หนังนี่ 3 เดือนจะจบหรือเปล่ายังไม่รู้ มันคือชีวิตของเราในช่วงนั้นเลยนะ เพราะฉะนั้นถ้ากับหนังใหญ่จริงๆ ผมยังเลือกฟิล์มที่ผมถนัดมากกว่า

 

ณ วันนี้ที่มีคนเรียกว่า ‘ผู้กำกับภาพฮอลลีวูด’ หรืออีกหน่อยอาจจะพ่วง ‘ผู้กำกับภาพชิงออสการ์’ ฯลฯ คำเรียกเหล่านี้ส่งผลกับชีวิตและการทำงานของคุณมากขนาดไหน

ไม่มีผลเลยนะ เพราะเวลาผมรับงานผมก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นหนังฮอลลีวูด ต้องชิงออสการ์หรือว่าอะไร แล้วถ้านับจริงๆ ผมเพิ่งจะทำงานที่เป็นสเกลระดับฮอลลีวูดก็แค่ Call Me by Your Name เรื่องเดียวเท่านั้นเอง อย่าง Arabian Nights ก็ยังไม่ถึง หรือ Antonia ก็เป็นหนังอินดี้มาก แต่มันเปิดทางให้ผมรู้จักกับลูคา กัวดายีโน ที่ชวนให้ผมมาถ่ายทำ Call Me by Your Name ซึ่งตอนแรกยังไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่ามันคือหนังฮอลลีวูด มันกลับไปสู่เกณฑ์เดิมที่ว่า ทัศนคติของบทมันน่าสนใจเพียงพอสำหรับผมหรือเปล่า แล้วเรื่องนี้ทำได้ ผมก็รับถ่ายหนังเรื่องนี้แค่นั้นเอง

 

จนพอเห็นแล้วว่ามันเป็นหนังฮอลลีวูด และค่อยๆ ประสบความสำเร็จไปไกลขึ้นเรื่อยๆ จนอาจเป็นไปได้ว่าผมอาจจะได้ชิงออสการ์ ถามว่าผมสนใจกับมันมากขึ้นไหมก็ไม่นะ ไม่ได้ทรีตมันแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เท่าไร ไอ้ความตื่นเต้นดีใจมันมีอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็อีกตั้งเป็นเดือนกว่าเขาจะประกาศรางวัลจริงๆ

 

 

คิดว่าคนในอุตสาหกรรมหนังไทยมีความพร้อมที่จะโกอินเตอร์ หรือไปยืนจุดเดียวกับคุณได้มากน้อยขนาดไหนแล้วในตอนนี้

ถ้าถามผมคิดว่าได้หมดทุกคนนะ มันไม่มีลิมิตอยู่แล้ว ผมคิดว่าที่คนไทยยังมาถึงตรงนี้ไม่ได้เหตุผลง่ายๆ คือยังไม่มีใครเห็นเขาเท่านั้นเอง ด้วยความเป็นหนังจากแดนไกลมันก็เห็นยากอยู่แล้ว แล้วบ้านเราก็ไม่เอื้อโอกาสให้เราได้ทำหนังแบบที่คนระดับฮอลลีวูดหรืออินเตอร์เนชั่นแนลเห็นอีก มันยังมีกรอบในการทำหนังหลายๆ อย่างที่มันอาจจะใช้ได้ในบ้านเรา แต่ก็จะกลายเป็นว่าเราจะเห็นกันเอง แต่ในระดับที่กว้างกว่านั้น เขาอาจจะไม่ได้มามองเห็นในสิ่งเดียวกับเรา

 

อย่างผมมีคนเริ่มเห็นจากหนังหลายๆ เรื่องของเจ้ย ที่เขาได้ไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ซึ่งตรงนั้นเขามองเห็นหนังแบบนี้ แต่ในบ้าน หนังของเจ้ยก็ยังไม่ได้มีคนมองเห็นมากขนาดนั้น เพราะฉะนั้นผมคิดว่าปัญหามันอาจไม่ได้อยู่ที่ฝีมือ แต่เป็นที่โอกาสในการมองเห็นนี่ล่ะที่สำคัญ

 

ในช่วงหลังๆ มีหนังไทยเรื่องไหนที่คุณรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษบ้างไหม

ล่าสุดผมชอบ ฉลาดเกมส์โกง นะ (นัฐวุฒิ พูนพิริยะ) เป็นหนังที่ดูจบแล้วรู้สึกว่ารีบยกหูโทรศัพท์หาพี่เก้ง (จิระ มะลิกุล ผู้บริหารค่าย GDH) เลย ผมว่ามันมีคุณภาพและสาระเพียงพอที่จะเข้าถึงคนยุคใหม่ได้จริงๆ

 

ตอนนี้ยังรับงานกำกับภาพของหนังไทยได้อยู่ไหม

ถ่ายได้ แต่เงื่อนไขเดิมคือ ต้องเป็นภาพยนตร์และถ่ายด้วยฟิล์มเท่านั้นนะ (หัวเราะ)

The post สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพชาวไทยที่อยู่ใกล้รางวัลออสการ์มากที่สุดในเวลานี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/sayombhu-mukdeeprom/feed/ 0