Krungsri Research รายงานข้อมูลอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ของไทยปี 2561 ผลิตทั้งสิ้น 2.1 ล้านคัน เติบโตเล็กน้อยที่ 0.4% เมื่อเทียบกับปี 2560 เป็นไปตามอุปสงค์จากตลาดภายนอกประเทศ ที่ทำให้ตลาดส่งออกไม่เติบโตนัก ขณะที่ตลาดในประเทศก็หดตัวลงเล็กน้อย โดยผลิตที่ 1.79 ล้านคัน ลดลง 1.2% จากปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับต่ำ กดดันรายได้ของเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคสำคัญของตลาดจักรยานยนต์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบอื่นอีก จากปัญหาหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยด้วย

สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย จะแบ่งเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ สัดส่วน 80% ของยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ทั้งหมด กลุ่มลูกค้าคือประชาชนทั่วไปและผู้มีรายได้น้อย มียอดจดทะเบียนใหม่ลดลง 5.5% อีกตลาดคือตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ที่มีฐานะมากกว่า คิดเป็นสัดส่วน 20% โดยมียอดจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นถึง 20.5%

แบรนด์ฮอนด้ายังเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์รวมทุกประเภท มีส่วนแบ่งตลาด 78.4% ของปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศทั้งหมด รองลงมาคือยามาฮ่า มีสัดส่วน 15.1% รถจักรยานยนต์ขนาดเล็กส่วนใหญ่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และลาว คิดเป็นสัดส่วนรวมกัน 42% ของมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กทั้งหมด ซึ่งเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้กำลังขยายตัว และผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพรถจักรยานยนต์ที่ผลิตจากไทย

Krungsri Research ประเมินทิศทางอุตสาหกรรมการผลิตรถจักรยานยนต์ในไทยช่วงปี 2562-2564 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ปริมาณการผลิตน่าจะเติบโต 2-4%อยู่ในระดับ 2.10-2.15 ล้านคัน และคาดว่าในปี 2563-2564 จะขยายตัว 0-2% หรือมีจำนวน 2.12-2.17 ล้านคัน ในปี 2563 และ 2.14-2.19 ล้านคัน ในปี 2564 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก  

สิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อจำนวนการผลิตรถจักรยานยนต์ในอนาคต คือการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถจักรยานยนต์ใหม่ ตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เริ่มผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2563 จะมีผลให้ราคาจำหน่ายรถจักรยานยนต์สูงขึ้น ประกอบกับรายได้เกษตรกรที่ยังฟื้นตัวช้า ภาวะการแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศยังคงรุนแรงจากทั้งผู้ผลิตในประเทศ และรถจักรยานยนต์นำเข้าจากอาเซียนและจีน

นอกจากนี้ การส่งออกรถจักรยานยนต์ของไทยไปสหรัฐอเมริกาอาจเผชิญความเสี่ยง เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถจักรยานยนต์จากไทยด้วย

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post Krungsri Research คาดยอดผลิตมอเตอร์ไซค์ปี 2562 โต 2-4% จับตากำลังซื้อฐานรากตก กฎหมายใหม่ดันราคาแพงขึ้น appeared first on THE STANDARD.

Krungsri Research ประเมินภาพรวมธุรกิจโรงแรมของประเทศไทยไตรมาสที่ 4/2561 พบว่า เติบโตได้ดีตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากอาเซียนและอินเดีย ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนกลับหดตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาสนี้มีจำนวน 9.7 ล้านคน ขยายตัว 4.3% ถือว่าเติบโตลดลงมากจากช่วงไตรมาส 4/2560 ที่เติบโตถึง 20.2%  

ตลาดอาเซียนมีนักท่องเที่ยว 2.8 ล้ำนคน ขยายตัว 17.8% นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียมีสัดส่วนมากที่สุด ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่ม CLMV (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) เพิ่มขึ้น 7.2% ตลาดเอเชียใต้เติบโต 13.9% จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวอินเดียที่เพิ่มขึ้นถึง 15.2% ส่วนมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ทำให้นักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มขึ้นถึง 20% ในเดือนธันวาคม 2561

อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศปี 2561 อยู่ที่ 71.1% โดยอัตราการเข้าพักในเมืองรองปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่อัตราการเข้าพักในแหล่งท่องเที่ยวหลักปรับลดลงตามนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัว ราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 1,846 บาท/ห้อง/คืน เติบโต 2.5% จึงพอสรุปภาพรวมการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 38.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.9% จากปี 2560 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทาง 164 ล้านทริป เพิ่มขึ้น 3.6% ซึ่งสะท้อนกำลังซื้อที่ทยอยฟื้นตัว ประกอบกับการขยายเส้นทางบินของสายการบินต่างๆ โดยเฉพาะในเมืองรองส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาค ส่วนธุรกิจโรงแรมปรับดีขึ้น เห็นได้จากอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ระดับที่ดีขึ้น

Krungsri Reseaarch ประเมินธุรกิจโรงแรมปี 2562 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชียคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีถึง 41 ล้านคน เติบโต 8% จากปี 2562 โดยนักท่องเที่ยวจีนกลับมาท่องเที่ยวมากขึ้น ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียนก็จะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่องและการท่องเที่ยวชายแดน ขณะที่กลุ่มประเทศยุโรปอาจชะลอตัวลง ประกอบกับทางการรัสเซียปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 18% เป็น 20% เชื่อว่าจะกระทบกำลังซื้อและอาจกระทบต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 2.21 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน  Krungsri Research คาดว่านักท่องเที่ยวชาวไทยจะเดินทางเพิ่มเป็น 171 ล้านทริป เพิ่มขึ้น 4% สร้างรายได้รวมมากกว่า 1.2 ล้านล้านบาท อัตราการเข้าพักปี 2562 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 71.5-72.5%

ปัจจัยท้าทายของธุรกิจโรงแรมปี 2562 ได้แก่ 1. อุปทานห้องพักส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวหลักและการจองห้องพักผ่านระบบออนไลน์ที่อาจทำให้การแข่งขันด้านราคารุนแรงขึ้น 2. ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีนอย่างมีนัยสำคัญ และ 3. การแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวโลก ขณะนี้ตุรกีกำลังเร่งเครื่องดึงดูดนักท่องเที่ยวจากยุโรป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ให้สิทธิพิเศษ ลดค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง และรุกตลาดกับนักท่องเที่ยวกลุ่มเข้มข้น ส่วนสิงคโปร์ก็เพิ่มเที่ยวบินและทำการตลาดเรือสำราญสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มอินเดีย ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวได้

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• Krungsri Research ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

The post ทีมวิจัยกรุงศรีประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 41 ล้านคนในปีนี้ ตลาดโรงแรมยังมีอุปทานล้นเกิน appeared first on THE STANDARD.