Kingsley Coman – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 28 Dec 2024 11:31:38 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Football Fact of the Year 2024 โลกฟุตบอลเกิดอะไรขึ้นบ้าง…ในปี 2024 https://thestandard.co/football-fact-of-the-year-2024/ Sun, 29 Dec 2024 03:00:10 +0000 https://thestandard.co/?p=1025148

ในวันที่โลกกำลังโคจรเข้าสู่ปี 2025   หากได้นั่งคิด […]

The post Football Fact of the Year 2024 โลกฟุตบอลเกิดอะไรขึ้นบ้าง…ในปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในวันที่โลกกำลังโคจรเข้าสู่ปี 2025

 

หากได้นั่งคิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล (ระดับโลก) ตลอดปี 2024 จะเห็นว่าตลอดปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น

 

  • เลเวอร์คูเซนคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกแบบไร้พ่าย
  • แมนฯ ซิตี้ แชมป์ลีก 4 สมัยติด…ก่อนเผชิญวิกฤตหนักในปัจจุบัน
  • เมสซียังท็อปฟอร์มกับอาร์เจนตินา
  • โรดรีได้บัลลงดอร์ไปครอง

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงโมเมนต์สำคัญบางส่วนเท่านั้น เพราะเหตุการณ์สำคัญๆ ที่น่าสนใจ THE STANDARD SPORT มัดรวมเอาไว้ให้ทุกท่านแล้ว

 

แมนฯ ซิตี้

 

แมนฯ ซิตี้ ทีมแรกของอังกฤษคว้าแชมป์ลีก 4 สมัยติด

 

ย้อนกลับไปช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ในฐานะแชมป์เก่า ถูกอาร์เซนอลของ มิเกล อาร์เตตา ท้าทายบัลลังก์แชมป์ลีกอย่างหนัก จนกระทั่งถึง MatchDay ที่ 33 ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ท็อปฟอร์มมาตลอดนับตั้งแต่เดือนมกราคม มาแซงขึ้นจ่าฝูงได้ในที่สุด

 

แม้ต้องไปลุ้นแชมป์ถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล แต่ชัยชนะของแมนฯ ซิตี้ เหนือเวสต์แฮม 3-1 ทำให้พวกเขาได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก และนับเป็นทีมแรกแห่งเกาะอังกฤษที่ได้แชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกัน

 

อย่างไรก็ตาม ถัดจากวันชื่นคืนสุขไม่กี่เดือน… แมนฯ ซิตี้ในทีมงานเดียวกันนี้ กลับไม่สามารถเร่งเครื่องทำผลงานได้ดีเหมือนเก่า หลังจากไร้ชัยชนะเป็นเวลาหลายนัด จนสร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำมากมาย ซึ่งยังต้องติดตามต่อไปว่าในระยะยาวนี้ เป๊ปที่เพิ่งสลัดน้ำหมึกต่อสัญญากับทีมไป จะทำทัพเรือใบให้กลับมาแล่นฉิวเหมือนเดิมได้หรือไม่

 


 

ชาบี อลอนโซ

 

ชาบี อลอนโซ เสกให้เลเวอร์คูเซนกลายเป็นแชมป์ไร้พ่าย

 

การกระชากแชมป์มาจากพี่เสือ ‘บาเยิร์น มิวนิก’ หนึ่งในทีมดังที่ครองแชมป์บุนเดสลีกามายาวนานกว่า 11 ฤดูกาลนั้นเป็นเรื่องยากมาก

 

แต่ ชาบี อลอนโซ ทำได้! และไม่ได้ทำแค่การพาไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ครองแชมป์ลีก ซึ่งนับเป็นแชมป์สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ชาบียังทำให้ทัพนายห้างขายยาทีมนี้กลายเป็นทีมไร้พ่าย กับผลงานชนะ 28 เสมอ 6 จากทั้งหมด 34 แมตช์ นับว่าสุดยอดมากๆ

 


 

สเปน

 

สเปนกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่งยุโรป!

 

ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ยูโร 2024 ทีมชาติสเปนในมือของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เป็นม้านอกสายตาของแฟนบอลพอสมควร จนถูกยกให้เป็นตัวเต็งแชมป์ลำดับ 5-6 ตั้งแต่ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม

 

แต่เมื่อเกมเริ่ม…และผ่านรอบแบ่งกลุ่มมา สเปนกลับมาอยู่ในความสนใจของแฟนๆ อีกครั้ง จนหลายคนยกให้ทัพกระทิงดุที่โดดเด่นไม่น้อยในทัวร์นาเมนต์นี้ มีโอกาสเป็นแชมป์สูงไม่แพ้ทีมใด

 

จนในที่สุดทีมชาติสเปนหักด่านอังกฤษในเกมรอบชิงฯ 2-1 พร้อมคว้าแชมป์ยูโรไปครองสุดยิ่งใหญ่

 


 

โธมัส ทูเคิล

 

โธมัส ทูเคิล นายใหญ่คนใหม่แห่งทีมชาติอังกฤษ

 

หลังจากพลาดโอกาสพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ยูโรอย่างน่าผิดหวัง ทั้งที่มาถึงนัดชิงฯ ได้ 2 ครั้งติดต่อกัน สำหรับทัพสิงโตคำรามในมือของ แกเร็ธ เซาท์เกต ซึ่งเจ้าตัวเลือกก้าวลงจากตำแหน่งกุนซือในเวลาต่อมา

 

และนับจากนั้นไม่กี่เดือน ทีมชาติอังกฤษได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิล เข้ามารับงานกุนซือคนใหม่ของทีม ทำให้กลายเป็นกุนซือชาวเยอรมนีคนแรกที่จะได้คุมทีมชาติอังกฤษ และเป็นชาวต่างชาติในรอบ 12 ปี ถัดจาก ฟาบิโอ คาเปลโล ที่ได้ขึ้นหลังสิงโตในฐานะกุนซือของทีม

 

โดยภารกิจใหญ่ของทูเคิลกับทัพสิงโตคำราม (เบื้องต้น) คือการพาทีมฝ่าด่านรอบคัดเลือกเพื่อไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม

 


 

เอ็มบัปเป

 

สานฝันประธานเป้! ในที่สุดเอ็มบัปเปก็ได้สวมเสื้อราชันชุดขาว

 

เคสนี้เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจ แต่เกิดขึ้นกับตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ 2024/25 เมื่อ คีเลียน เอ็มบัปเป ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ได้ฤกษ์เปิดตัวกับเรอัล มาดริด สุดยิ่งใหญ่ ในสนามซานติอาโกเบร์นาเบว หลังปฏิเสธต่อสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง นั่นทำให้การย้ายทีมครั้งนี้ของเขาเป็นการย้ายแบบไร้ค่าตัว พร้อมเซ็นสัญญายาว 5 ปี (ถึงปี 2029) ฟันค่าเหนื่อย 15 ล้านยูโรต่อปี

 


 

เจอร์เกน คล็อปป์ อำลาลิเวอร์พูล

 

ปิดฉาก 9 ปี เจอร์เกน คล็อปป์ อำลาลิเวอร์พูล เปิดทางสู่ยุคสมัยแห่งความร้อนแรงของ อาร์เน สลอต

 

นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในถิ่นแอนฟิลด์ช่วงปีที่ผ่านมา นั่นคือการอำลาทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมนีที่ตัดสินใจพักงานจากวงการฟุตบอล หลังคุมทีมหงส์แดงมายาวนานกว่า 9 ปี พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และแชมป์พรีเมียร์ลีกที่สโมสรรอคอยกันมานานกว่า 30 ปี

 

อย่างไรก็ตาม อาร์เน สลอต กุนซือชาวดัตช์วัย 46 ปี ที่ตัดสินใจแยกทางกับเฟเยนูร์ด เพื่อมาเซ็นสัญญารับงานคุมทีมลิเวอร์พูลแบบไม่ได้ถูกคาดหวัง กลับทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ชนิดที่กลายเป็นทีมที่ยากต่อการต่อกรในเวลานี้

 

เพราะอาร์เนพาทีมบินสูงด้วยการยึดอันดับ 1 ใน UCL และพรีเมียร์ลีก กับฟอร์มขั้นเทพ ทั้งที่เสริมทัพในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ไม่กี่คนเท่านั้น แต่ขุมกำลังที่เป็นมรดกจากคล็อปป์ อาร์เนสามารถปลูกปั้นและเรียกศักยภาพนักเตะในภาพรวมให้ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีกในเวลานี้

 


 

ดราม่าบัลลงดอร์

 

ดราม่าบัลลงดอร์ ที่สุดท้ายตกเป็นของโรดรี และวินิได้นักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่าท้ายปี

 

นับเป็นอีกหนึ่งการประกาศผลรางวัลบัลลงดอร์ที่มีดราม่าใหญ่ครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้

 

ท่ามกลางการลุ้นอย่างหนักว่าใครจะได้รางวัลลูกบอลทองคำไปครอง ระหว่าง ‘วินิซิอุส จูเนียร์’ แห่งเรอัล มาดริด และ ‘โรดรี’ จอมทัพผู้เป็นหัวใจของแมนฯ ซิตี้และทีมชาติสเปน

 

ที่สุดท้ายแล้วบัลลงดอร์ปี 2024 ตกเป็นของโรดรี ที่ได้รับผลโหวตเหนือวินิเพียง 41 คะแนนเท่านั้น โดยตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา กองกลางรายนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่พาแมนฯ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก (สมัยที่ 4 ติดต่อกัน), แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ, แชมป์สโมสรโลก และพาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยูโร รวมถึงรางวัลส่วนบุคคลอย่างนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์

 

และจากเหตุการณ์นี้พบปมที่ทำให้เห็นเหตุดราม่าตั้งแต่ก่อนงานประกาศรางวัล เพราะฝั่งเรอัล มาดริด ไม่ส่งนักเตะหรือคนของสโมสรเข้าร่วมแม้แต่คนเดียว เหตุเพราะไม่พอใจในเกณฑ์ตัดสิน และมองว่าผู้จัดไม่ให้เกียรติกับทีม เพราะสโมสรมองว่าหากวินิไม่ได้เป็นผู้ชนะ รางวัลนี้ก็ควรจะตกเป็นของ ดานี การ์บาฆาล ที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่าโรดรี ทั้งในนามสโมสรและทีมชาติสเปน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ วินิซิอุส จูเนียร์ เป็นผู้ชนะรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมจากเวที The Best FIFA Football Awards 2024 เช่นเดียวกับ คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือของเรอัล มาดริด ที่ซิวรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมไปครอง

 


 

เทนฮากไป อโมริมมา และวิกฤตทางผลงานที่รอวันแก้ไขของแมนฯ ยูไนเต็ด

 

เทนฮากไป อโมริมมา และวิกฤตทางผลงานที่รอวันแก้ไขของแมนฯ ยูไนเต็ด

 

นับจาก เอริก เทน ฮาก พาทีมโค่นอริร่วมเมืองคว้าแชมป์เอฟคัพ 2023/24 ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา พร้อมได้สัญญาจาก INEOS และเงินเสริมทัพจำนวนหนึ่งสำหรับคุมทัพต่อในฤดูกาลนี้

 

ผลงานของทัพปีศาจแดงในฤดูกาล 2024/25 กลับไม่สู้ดี แทบจะไม่ได้ขยับตัวออกจากโซนครึ่งล่างของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก จน เทน ฮาก ไปไม่รอด…ถูกปลดพ้นตำแหน่งหลังเกมแพ้เวสต์แฮม 1-2 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

นั่นทำให้ไม่กี่วันต่อมาทีมหันไปเซ็นสัญญากับกุนซือหนุ่มไฟแรงจากแดนฝอยทองอย่าง รูเบน อโมริม ที่กำลังไปได้สวยกับสปอร์ติง ลิสบอน เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีม ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอล ไม่ต่างจากฉากที่ซูเปอร์แมนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่รอคอยความหวังแห่งการเปลี่ยนแปลง

 

ทว่า…การเปลี่ยนแปลงทีมที่ดูเหมือนอยู่ในวงล้อมของปัญหาหลายๆ มิติจะยังเป็นงานหินไม่น้อยสำหรับอโมริม กับแผน 3-4-3 ที่หยิบมาใช้แบบไม่เผื่อใจ

 

เพราะหลังผ่านไป 9 นัดพวกเขาทำผลงานชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 4 เกม ยังหาความลงตัวไม่เจอ และทำให้อันดับในลีกจมอยู่ที่ 13 ของตารางในปัจจุบัน

 


 

แฮร์รี เคน ราชาไร้บัลลังก์

 

แฮร์รี เคน ราชาไร้บัลลังก์ ได้ทุกอย่างยกเว้นถ้วยแชมป์ และโคมันเสียสถิติชูถ้วยแชมป์ต่อเนื่อง

 

44 ประตูจาก 45 นัดในทุกรายการ นี่คือผลงานในฤดูกาลแรกของ แฮร์รี เคน กับบาเยิร์น มิวนิก ที่เจ้าตัวมาอยู่กับทีมได้เพียงฤดูกาลแรกเท่านั้น และทำให้เขาได้รางวัลส่วนตัวอย่างรองเท้าทองคำแห่งทวีปยุโรปและดาวซัลโวของบุนเดสลีกา

 

แต่จะด้วยวาสนาหรืออะไรก็ตามที่เล่นตลกกับเขา เพราะผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ไม่สามารถทำให้เคนคว้าแชมป์กับทีมได้เลยสักรายการเดียว

 

ขณะเดียวกัน คิงสเลย์ โคมัน แนวรุกของบาเยิร์น มิวนิก เป็นอีกคนที่เสียสถิติกับทีมเมื่อฤดูกาล 2023/24 เพราะนั่นนับเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัวที่เขาไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ หลังแชมป์บุนเดสลีกาตกเป็นไบเออร์ เลเวอร์คูเซน

 

โดยก่อนหน้านี้โคมันทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกของ 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่คว้าแชมป์ลีกได้ทุกปี นับตั้งแต่เล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อฤดูกาล 2012/13 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาลงเล่นให้ 3 ทีมดังอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง, ยูเวนตุส และบาเยิร์น มิวนิก พร้อมกวาดถ้วยแชมป์ลีกต่อเนื่องได้มากถึง 12 ใบ

 


 

เมสซี และ อาร์เจนตินา

 

ลิโอเนล เมสซี ยังไม่แผ่ว พาอาร์เจนตินาป้องกันแชมป์โคปาอเมริกาสุดยิ่งใหญ่

 

แม้จะปล่อยใจ ค้าแข้งแบบชิลๆ กับอินเตอร์ ไมอามี พร้อมด้วยผองเพื่อน (อดีตนักเตะบาร์ซา) ที่ขนทัพไปเล่นในลีกลุงแซม จนช่วยทีมคว้าแชมป์ซัพพอร์เตอร์สชิลด์ (ทีมที่มีอันดับดีที่สุดในช่วงฤดูกาลปกติ)

 

แต่ ลิโอเนล เมสซี ในสีเสื้อทีมชาติอาร์เจนตินา ยังเป็นที่พึ่งของทีมอยู่เสมอแม้อายุจะล่วงเข้าวัย 37 ปี ภายหลังสวมปลอกแขนกัปตันนำทีมป้องกันแชมป์โคปาอเมริกาได้สำเร็จในช่วงกลางปีที่ผ่านมา และนับเป็นแชมป์สมัยที่ 16 ของทัพฟ้าขาว

 

และถึงนาทีนี้เหลือเวลาไม่ถึง 2 ปีเท่านั้น ก่อนฟุตบอลโลก 2026 จะเวียนกลับมาฟาดแข้งอีกครั้ง เมสซีที่ยังคงเล่นกับสโมสรและทีมชาติต่อเนื่องแบบนี้ ทำให้แฟนๆ เริ่มมีใจและคาดหวังว่าจะได้เห็นเขาในฟุตบอลโลกอีกครั้ง แม้เจ้าตัวจะเคยประกาศว่าเล่นครั้งสุดท้ายตอนได้แชมป์โลกที่กาตาร์เมื่อปี 2022 ไปแล้วก็ตาม

The post Football Fact of the Year 2024 โลกฟุตบอลเกิดอะไรขึ้นบ้าง…ในปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
FOOTBALL FACT: คิงสเลย์ โคมัน พลาดคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในอาชีพค้าแข้ง https://thestandard.co/football-fact-kingsley-coman/ Mon, 15 Apr 2024 05:22:19 +0000 https://thestandard.co/?p=923128 Kingsley Coman

เป็นสถิติที่ถูกทำลายลงแล้วสำหรับ คิงสเลย์ โคมัน แนวรุกว […]

The post FOOTBALL FACT: คิงสเลย์ โคมัน พลาดคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในอาชีพค้าแข้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Kingsley Coman

เป็นสถิติที่ถูกทำลายลงแล้วสำหรับ คิงสเลย์ โคมัน แนวรุกวัย 27 ปีของบาเยิร์น มิวนิก เมื่อฤดูกาล 2023/24 นับเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัวที่เขาไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ หลังแชมป์บุนเดสลีกาตกเป็นไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เมื่อคืนที่ผ่านมา

 

โดยก่อนหน้านี้โคมันทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกของ 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่คว้าแชมป์ลีกได้ทุกปี นับตั้งแต่เล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อฤดูกาล 2012/13 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาลงเล่นให้ 3 ทีมดังอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง, ยูเวนตุส และบาเยิร์น มิวนิก พร้อมกวาดถ้วยแชมป์ลีกต่อเนื่องได้มากถึง 12 ใบ

The post FOOTBALL FACT: คิงสเลย์ โคมัน พลาดคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในอาชีพค้าแข้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เคน กับ โคมัน 2 สถิติที่แตกต่าง https://thestandard.co/harry-kane-vs-kingsley-coman/ Thu, 25 Jan 2024 06:08:06 +0000 https://thestandard.co/?p=891987

เป็นที่รู้กันดีว่า แฮร์รี เคน คือราชาไร้บัลลังก์ในวงการ […]

The post เคน กับ โคมัน 2 สถิติที่แตกต่าง appeared first on THE STANDARD.

]]>

เป็นที่รู้กันดีว่า แฮร์รี เคน คือราชาไร้บัลลังก์ในวงการฟุตบอลตลอดอาชีพ เขาไม่เคยได้แชมป์ใดๆ ทั้งที่เป็นยอดกองหน้าแห่งยุคคนหนึ่ง

 

ในทางตรงกันข้าม คิงสเลย์ โคมัน กลับไม่เคยจบฤดูกาลโดยไร้แชมป์นับตั้งแต่ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฤดูกาล 2013-14

 

2 สถิติที่ตรงข้ามกันอย่างสุดขั้วนั้น ในฤดูกาลนี้กำลังจะมีใครคนหนึ่งเสียสถิติไป

 

 

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

The post เคน กับ โคมัน 2 สถิติที่แตกต่าง appeared first on THE STANDARD.

]]>
11v11 ชุดนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ คิงสเลย์ โคมัน https://thestandard.co/11-v-11-de-ligt-v-coman/ Fri, 04 Aug 2023 10:08:26 +0000 https://thestandard.co/?p=825642

THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ คิ […]

The post 11v11 ชุดนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ คิงสเลย์ โคมัน appeared first on THE STANDARD.

]]>

THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ คิงสเลย์ โคมัน สองนักฟุตบอลจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิก เพื่อสอบถามว่า ทีมนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลในใจของทั้งสองคือใครบ้าง 

 

ซึ่งพบว่า ทั้งสองคนต่างมีมุมมองที่น่าสนใจจากตำแหน่งที่ตนเองเล่นทั้งจากเกมรุกและเกมรับ 

 

แฟนเพจ THE STANDARD ชอบทีมใดมากกว่ากัน และคิดว่าหากพบกันจริงทีมไหนจะเป็นฝ่ายชนะ? 

 

 

ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร

The post 11v11 ชุดนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ คิงสเลย์ โคมัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Exclusive Talk กับ คิงสเลย์ โคมัน การทำงานกับ โธมัส ทูเคิล, DNA บาเยิร์น มิวนิก, ลีกซาอุดีอาระเบีย และ ไมเคิล จอร์แดน https://thestandard.co/exclusive-talk-with-kingsley-coman/ Mon, 31 Jul 2023 10:38:47 +0000 https://thestandard.co/?p=823949 คิงสเลย์ โคมัน

เมื่อช่วงบ่ายวันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม THE STANDARD ได้ […]

The post Exclusive Talk กับ คิงสเลย์ โคมัน การทำงานกับ โธมัส ทูเคิล, DNA บาเยิร์น มิวนิก, ลีกซาอุดีอาระเบีย และ ไมเคิล จอร์แดน appeared first on THE STANDARD.

]]>
คิงสเลย์ โคมัน

เมื่อช่วงบ่ายวันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม THE STANDARD ได้รับโอกาสพิเศษเป็นหนึ่งในสื่อกีฬาจากประเทศไทยที่ได้พูดคุยกับ คิงสเลย์ โคมัน ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสของบาเยิร์น มิวนิก

 

ท่ามกลางบรรยากาศการเตรียมพร้อมของทีมแชมป์บุนเดสลีกาที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่เราจะไปเกาะติดการแข่งขันแมตช์อุ่นเครื่องระหว่างบาเยิร์น มิวนิก กับลิเวอร์พูล ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เราได้นำบทสัมภาษณ์ที่พิเศษที่สุดครั้งหนึ่งมาให้ผู้อ่านทุกท่าน 

 

โดยต้องยอมรับว่าโคมันเป็นมิตรและเป็นกันเองกับสื่อมวลชนจากไทย และพร้อมตอบทุกคำถามที่เกิดขึ้นในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ 

 

คิงสเลย์ โคมัน

 

ออกเสียงชื่อตัวเองหน่อยได้ไหม เพราะคนไทยสับสนเหลือเกินว่าชื่อคุณคือโคมันหรือโกม็องกันแน่ 

 

คิงสเลย์ โคมัน: อ่านออกเสียงแบบนี้นะ คิง-สะ-เล่-โค-มัน อ่านแบบนี้เลย

 

การเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ 

 

คิงสเลย์ โคมัน: เราทำงานอย่างหนัก ซ้อมกัน 2 ครั้งต่อวัน ลงเกม เริ่มต้นมา 2 สัปดาห์แล้ว แต่เราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดสำหรับฤดูกาลใหม่ 

 

การทำงานกับ โธมัส ทูเคิล เป็นอย่างไรบ้าง

 

คิงสเลย์ โคมัน: มันดีนะ เขาเป็นโค้ชที่เก่ง ออกแบบการซ้อมได้ดี การซ้อมส่วนใหญ่จะเล่นกับลูกบอล ใส่ใจเรื่องการครองบอลเป็นหลัก เราทำงานกับเขามาหลายเดือนแล้ว และรู้ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร 

 

คุณรู้สึกอย่างไรที่สโมสรแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิล แทน ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ แบบกะทันหัน

 

คิงสเลย์ โคมัน: ทุกคนประหลาดใจมาก ตอนนั้นเป็นช่วงพักเบรกทีมชาติ และพอข่าวออกมาเราก็ช็อกกันเลย แต่การเปลี่ยนโค้ชนั้นถือว่าโอเค เพราะเราออกสตาร์ทได้ดี เราชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่เกมแรกเลย จากนั้นมาเราก็มีช่วงสะดุด แต่หวังว่าพอเราเข้าใจแท็กติกของเขามากขึ้นแล้ว ผลงานกับทูเคิลก็จะดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

 

ทำไมฤดูกาลที่แล้ว (2022/23) มันไม่ง่ายกว่าจะคว้าแชมป์บุนเดสลีกา

 

คิงสเลย์ โคมัน: เราออกสตาร์ทได้ดีในครึ่งแรกของฤดูกาล แต่พอพักเบรกฟุตบอลโลกเป็นเรื่องที่ยาก เพราะนักเตะโดนดูดพลังงานไปหมด ครึ่งฤดูกาลหลักเราเล่นได้ไม่ดีเลย แต่ก็ยังดีที่ตอนจบเราคว้าแชมป์ลีกได้ 

 

คุณอยู่บาเยิร์น มิวนิก มา 8 ปีแล้ว ข้อแตกต่างระหว่างปีแรก 2015 กับปัจจุบันนี้คืออะไรบ้าง

 

คิงสเลย์ โคมัน: ผมอยู่ที่นี่มา 8 ปี ผมมีประสบการณ์เยอะขึ้น และกลายเป็นกลุ่มนักเตะที่อยู่กับสโมสรมานานที่สุด คือพอคุณอยู่มา 8 ปีแล้ว คุณมีประสบการณ์มากขึ้นและรู้จักสโมสรดีแล้ว เข้าใจความหมายของ Mia san Mia และเข้าใจดีเอ็นเอของสโมสร

 

ดีเอ็นเอของบาเยิร์น มิวนิก คืออะไร

 

คิงสเลย์ โคมัน: ดีเอ็นเอของบาเยิร์น มิวนิก คือไม่มีวันยอมแพ้ เราไม่เคยมองข้ามหรือละเลยอะไรเลย เราต้องทำงานหนัก และเราต้องชนะ ชนะ ชนะ เท่านั้น 

 

เราห้ามคิดว่า โอเค แพ้เกมเดียวไม่เป็นไรหรอก เราต้องมีจิตใจของผู้ชนะเสมอ การจะคว้าแชมป์ลีกให้ได้สิบปีซ้อนคุณต้องทำงานหนักมากจริงๆ

 

คิงสเลย์ โคมัน

 

คุณย้ายมาสู่สโมสรและมักจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับหลายๆ ทีม เคล็ดลับคืออะไร 

 

คิงสเลย์ โคมัน: ผมคิดว่ามีโชคเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อีกส่วนคือผมทำงานหนักตลอดเวลา บางคนบอกว่าบาเยิร์น มิวนิก คว้าแชมป์ได้ง่ายกว่าที่นี่ แต่มันไม่ง่ายที่จะทำได้ต่อเนื่องทุกปี ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตอนผมอยู่ก็ชนะต่อเนื่อง แต่หลังจากเขาไม่ได้แชมป์ฤดูกาลหนึ่งก็ยาก และหลังจากชัยชนะอย่างต่อเนื่อง คุณก็สูญเสียความกระหายไป แต่ที่บาเยิร์น มิวนิก เรากระหายชัยชนะตลอดเวลา 

 

ความสำคัญของการปรับตัวและเรียนภาษาในประเทศที่เราจะเดินทางไปทำงาน? 

 

คิงสเลย์ โคมัน: ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องแสดงความเคารพในการพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมจากคนอื่น ผมคิดว่าเป็นการให้ความเคารพ ทั้งเข้าใจวัฒนธรรมและเรียนรู้ภาษา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับประเทศและวัฒนธรรมนั้น 

 

แน่นอนว่าภาษาก็มีทั้งยากและง่าย ในอิตาลีผมใช้เวลาหนึ่งปีในการเรียนรู้  ในเยอรมนีผมใช้เวลา 2-4 ปีก็พยายามพูดได้นิดหน่อย แต่หลังจาก 7 ปีผมก็พูดได้คล่อง แต่ก็ยังเป็นภาษาที่ยากอยู่  

 

คิงสเลย์ โคมัน

 

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ปี 2020 ที่ลิสบอน บาเยิร์นเจอกับเปแอสเช ที่เป็นทีมเก่าของคุณ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

 

คิงสเลย์ โคมัน: บอกตรงๆ ว่าผมไม่สนใจเลยนะ ผมคิดแค่ว่าเราจะเจอกับทีมคู่แข่งสักทีมหนึ่งแค่นั้นเลย ผมตัดทุกความรู้สึกออกไปหมดและโฟกัสแค่ชัยชนะเท่านั้น แต่พอจบเกมแล้วความรู้สึกมันก็ค่อยๆ เข้ามา เพราะผมเติบโตมาตั้งแต่เด็กที่สโมสรแห่งนั้น คือก่อนเกมคุณต้องตัดความรู้สึกทุกอย่างให้หมด และโฟกัสตรงหน้าเท่านั้น

 

ตอนคุณยิงประตูใส่เปแอสเชที่พาร์กเดอแพรงซ์ คุณไม่ดีใจเพื่อให้เกียรติ แต่พอยิงนัดชิงฯ​ แชมเปียนส์ลีกที่ลิสบอน คุณเฮคลั่งไปเลย

 

คิงสเลย์ โคมัน: นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก คุณไม่สามารถห้ามตัวเองได้หรอกนาทีนั้น คือเกมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่พาร์กเดอแพรงซ์ ถ้าผมดีใจต่อหน้าแฟนๆ เปแอสเชมันก็เกินไปหน่อย แต่กับนัดชิงแชมเปียนส์ลีกไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้อีกแล้ว 

 

ไปที่ฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศบ้าง คุณลงเล่นเป็นตัวสำรองนาทีที่ 60 กว่าๆ ตอนนั้นอาร์เจนตินานำ 2-0 ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ คุยอะไรบางอย่างกับคุณข้างสนาม เขาพูดอะไร เพราะพอคุณลงปุ๊บ ฝรั่งเศสก็ตีเสมอเป็น 2-2 ได้ทันที

 

คิงสเลย์ โคมัน: ผมจำไม่ได้ แต่เขาบอกว่าลงไปสร้างความแตกต่างในสนาม ใส่ความบ้าที่คาดเดาไม่ได้ลงไปให้กับทีม เมื่อคุณได้ลงเล่นในเกมแบบนี้ คุณต้องใช้พลังทั้งหมดที่คุณมีในชีวิตอยู่แล้ว 

 

เกมนั้นจริงๆ ผมเล่นได้ดีนะ ประตูที่ 2 ของฝรั่งเศส ผมเป็นคนแย่งบอลจาก ลิโอเนล เมสซี ได้จนเราได้สวนแล้วยิงตีเสมอได้ ผมเล่นได้ดีจนถึงช่วงยิงจุดโทษนั่นแหละ

 

คิงสเลย์ โคมัน

 

คุณยังเศร้าอยู่ไหมที่ยิงจุดโทษพลาดไปโดน เอมิเลียโน มาร์ติเนซ เซฟเอาไว้ได้ 

 

คิงสเลย์ โคมัน: ไม่อีกแล้ว ตอนแรกๆ มันก็ทำใจยากจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็เหมือนทุกอย่างในชีวิต คุณต้องกลืนความเจ็บปวดเข้าไป และเอาความเจ็บปวดนั้นมาทำให้ตัวเองกระหายที่จะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

วิธีเดียวที่จะลืมความเจ็บปวดคือต้องชนะทุกรายการที่ขวางหน้า ผมจึงอยากชนะให้หมดทั้งระดับสโมสรและระดับทีมชาติ

 

หลังจบเกม พอยิงจุดโทษพลาด มีข่าวว่าคุณโดนเหยียดผิวใช่ไหม 

 

คิงสเลย์ โคมัน: ผมได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้เห็นกับตาตัวเองนะ คือแบบนี้ ผมไม่เล่นโซเชียลมีเดีย คือดูผ่านๆ และจะอัปรูปบ้างถ้าเป็นเรื่องงาน แต่ผมจะไม่ทุ่มเทเวลากับมัน 

 

เฟซบุ๊กของคุณอัปเดตครั้งสุดท้ายเดือนที่แล้ว?

 

คิงสเลย์ โคมัน: ใช่เลย! เพราะผมไม่สนใจโซเชียลมีเดีย คือผมไม่ได้ว่านักเตะบางคนที่ชอบเล่นนะ มันก็วิถีชีวิตของเขา แต่ผมเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไปซ้อมฟุตบอลหรืออยู่กับครอบครัวดีกว่า ผมไม่อยากเข้าอินเทอร์เน็ตไปแล้วจิตตกกับคอมเมนต์จากใครก็ไม่รู้

 

เวลาแข่งจบแต่ละนัด คุณย้อนกลับมาดูไฮไลต์ของตัวเองไหม

 

คิงสเลย์ โคมัน: ดูทุกนัด ที่บาเยิร์น มิวนิก จะมีทีมงานที่ตัดวิดีโอของนักฟุตบอลทุกคนในทุกเกม คุณจะเห็นเลยว่าตัวเองสัมผัสบอลกี่ครั้ง เลี้ยงผ่านกี่หน จ่ายเสียกี่หน ถ้าเป็นเกมที่ผมเล่นดีผมจะไม่ค่อยซีเรียส จะเปิดดูสักวันสองวันหลังแข่งจบ แต่ถ้าเกิดเป็นเกมที่ผมเล่นไม่ดี ผมจะเปิดดูคลิปวันนั้นทันที เพื่อหาคำตอบว่าทำไมผมถึงเล่นแย่และจะได้ปรับปรุงไม่ให้ตัวเองเล่นพลาดซ้ำแบบเดิมอีก

 

นักเตะในดวงใจเพียงหนึ่งเดียวของคุณคือใคร

 

คิงสเลย์ โคมัน: โรนัลดินโญ นี่คือนักเตะพรสวรรค์สูงสุดเท่าที่คุณจะนึกถึง เขาเคยอยู่เปแอสเชมาก่อนด้วย คือผมพยายามจะฝึกเทคนิคแบบเขานะ สับขาหลอก ท่าแปลกๆ คือบางท่าผมก็เลียนแบบได้ แต่ถ้าเอาไปใช้ที่บาเยิร์น มิวนิก คงโดนโค้ชด่าแน่!

 

คิงสเลย์ โคมัน

 

ใครเป็นกองหลังที่ดีที่สุดที่เคยเจอ 

 

คิงสเลย์ โคมัน: ฤดูกาลที่ผ่านมาผมมองว่า คนที่ผมเจอแล้วรู้สึกว่าเล่นได้ลำบากที่สุดคือการเจอกับ นาธาน เอเก ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

 

จัดทีมออลสตาร์ XI นักเตะเก่งที่สุดตลอดกาลในความคิดของคุณ

 

คิงสเลย์ โคมัน: โอ้โห ยากนะ ผมต้องคิดก่อน ผู้รักษาประตูก็ต้องนอยเออร์ 

 

แบ็กขวาผมให้คาฟู ส่วนเซ็นเตอร์แบ็กผมอยากตอบ ฟรานซ์ เบ็กเคนบาวเออร์ แต่ผมไม่เคยเห็นเขาเล่นกับตา ดังนั้นขอเลือก เปาโล มัลดินี กับ ลิลิยอง ตูราม

 

แบ็กซ้ายผมอยากตอบ โรแบร์โต คาร์ลอส แต่ขอเลือกคนที่ผมเคยปะทะมาจริงๆ นั่นคือมาร์เซโลของเรอัล มาดริด นี่เป็นแบ็กซ้ายที่เก่งกาจที่สุด เขาฉลาดและเล่นดีมาก ผมเคยปะทะเขาในสนามและรู้สึกว่าเล่นด้วยยากมากๆ 

 

กองกลางแน่นอนต้องมีซีดาน ส่วนอีกคนคือ ปาทริก วิเอรา แนวรุกผมเอา ดิเอโก มาราโดนา ยืนเป็นหมายเลข 10 แล้วด้านบน 3 คน เอา ลิโอเนล เมสซี, โรนัลดินโญ และโรนัลโด R9 

 

ตอนนี้คุณได้แชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแล้ว เป้าหมายต่อไปคือยังไงต่อ?

 

คิงสเลย์ โคมัน: ผมมีสัญญากับบาเยิร์น มิวนิก ถึงปี 2027 ตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนจะไปไหน ส่วนสิ่งที่ผมอยากทำคือ คว้า 3 แชมป์ให้ได้อีกรอบ หลังจากที่เราเคยทำมาได้แล้วในฤดูกาล 2019/20

 

แต่ครั้งนั้นความรู้สึกของผมมันยังไม่สมบูรณ์เพราะเป็นช่วงโควิด เราคว้าแชมป์ได้โดยไม่มีแฟนๆ ร่วมเชียร์ในสนามด้วย ดังนั้นผมอยากให้แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมกับความสำเร็จนี้อีกรอบ ถ้าได้ 3 แชมป์อีกครั้งก็คงดี 

 

คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของบาเยิร์น มิวนิก ในบุนเดสลีกาของฤดูกาลนี้คือใคร 

 

คิงสเลย์ โคมัน: น่าจะเป็นโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

 

ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกล่ะ?

 

คิงสเลย์ โคมัน: ทุกทีม!

 

ใครคืออาจารย์คนสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ และคำสอนไหนที่คุณจดจำมาจนถึงวันนี้

 

คิงสเลย์ โคมัน: แท้จริงแล้วผมไม่มีอาจารย์คนใดคนหนึ่ง ผมหมายถึงผมมีคนที่ชอบอยู่บ้าง เช่น ไมเคิล จอร์แดน ผมชอบจิตวิญญาณของเขา แต่ผมก็ไม่ได้ชอบเขาทุกๆ อย่าง ผมหยิบจับเอาข้อดีบางอย่างของแต่ละคนมารวมกันและปรับจูนให้มันเข้ากับชีวิตผมที่สุด

 

ผมเคยถูกขอนะว่า “ช่วยให้คำแนะนำเด็กรุ่นใหม่หน่อย” แต่ผมรู้สึกว่ามันยากมากนะที่เราจะไปให้คำแนะนำกับใครสักคน เพราะแต่ละคนเกิดมาไม่เหมือนกัน มีนิสัยก็ต่างกัน 

 

คิงสเลย์ โคมัน

 

คำแนะนำบางอย่างคุณอาจทำตามได้ง่ายๆ แต่อีกคนอาจทำตามได้ยากมากๆ ดังนั้นผมคิดว่าเราไม่ควรจะเดินตามใครคนใดคนหนึ่งเป๊ะๆ ขนาดนั้น 

 

วิธีของผมตอนเด็กคือ เอาสิ่งดีๆ มาจากแต่ละคนอย่างละนิดอย่างละหน่อย แล้วเอามาผสมให้เป็นสไตล์เฉพาะของตัวเอง 

 

อย่าง ไมเคิล จอร์แดน ผมชอบจิตใจเป็นผู้ชนะของเขา แต่ถ้าเราไปดูประวัติก็จะเห็นว่า จอร์แดนเห็นชัยชนะอยู่เหนือทุกอย่างบนโลก ส่วนผมไม่คิดแบบนั้น ผมว่ามีบางอย่างสำคัญกับชีวิตมากกว่า

 

ใช่ ผมทำงานหนัก แต่พอถึงจุดหนึ่งผมก็อยากพัก อยากเล่นกับลูกสาว ผมไม่สามารถใช้ปรัชญาแบบจอร์แดนร้อยเปอร์เซ็นต์กับชีวิตของผมได้ 

 

สรุปคือทุกคนต้องหาให้เจอว่าสิ่งใดสำคัญที่สุดกับชีวิตของคุณ และหาส่วนผสมที่จะทำให้คุณมีความสุขให้ได้

 

คุณคิดว่า ลีกซาอุดีอาระเบียจะกลายเป็นหนึ่งในลีกที่ดีที่สุดในโลกได้หรือไม่? 

 

คิงสเลย์ โคมัน: ไม่มีทางเป็นไปได้ ตอนนี้ต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถึงตอนนั้นผมอาจเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว คุณจะซื้อนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกได้ แต่คุณก็ยังไม่มีทีมที่ดีที่สุดในโลก เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลาสร้าง 

 

เงินซื้อนักเตะได้ แต่ไม่สามารถซื้อทีม สร้างระบบ และซื้อประวัติศาสตร์ไม่ได้ 

 

เพราะประวัติศาสตร์ใช้เวลาสร้าง 

 

แน่นอนว่าตอนนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการดึงนักเตะระดับโลกไป แต่ต้องดึงนักเตะที่อายุน้อยไปด้วย แต่ก็ต้องใช้เวลาสร้างอีกนานกว่าจะได้ระดับที่ใกล้กับยุโรปอย่างแน่นอน

The post Exclusive Talk กับ คิงสเลย์ โคมัน การทำงานกับ โธมัส ทูเคิล, DNA บาเยิร์น มิวนิก, ลีกซาอุดีอาระเบีย และ ไมเคิล จอร์แดน appeared first on THE STANDARD.

]]>
โกม็องซัดโทน! บาเยิร์น มิวนิก 10 คนบุกเฉือนเปแอสเช 1-0 นัดแรก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2022/23 https://thestandard.co/kingsley-coman-bayern-munich/ Wed, 15 Feb 2023 04:29:50 +0000 https://thestandard.co/?p=750639

วันนี้ (15 กุมภาพันธ์) การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ล […]

The post โกม็องซัดโทน! บาเยิร์น มิวนิก 10 คนบุกเฉือนเปแอสเช 1-0 นัดแรก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2022/23 appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (15 กุมภาพันธ์) การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2022/23 ระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พบกับ บาเยิร์น มิวนิก ที่พาร์กเดส์แพร็งส์

 

โดยนัดนี้ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เล่นด้วยระบบ 4-4-2 ส่วนตัว 11 ผู้เล่น ประกอบด้วย จานลุยจิ ดอนนารุมมา (GK), เซร์คิโอ รามอส, มาร์ควินญอส, อัชราฟ ฮาคิมี และ นูโน เมนเดส, ดานิโล เปเรรา, มาร์โก แวร์รัตติ, วาร์เรน ซายาร์-เอเมอรี, เนย์มาร์, การ์ลอส โซแลร์ และ ลิโอเนล เมสซี

 

ด้านบาเยิร์น มิวนิก ผู้มาเยือนมาในระบบ 3-4-2-1 ประกอบด้วย ยานน์ ซอมเมอร์ (GK), ดาโยต์ อูปาเมกาโน, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, เบนจามิน ปาวาร์, ชูเอา คันเซโล, คิงสลีย์ โกม็อง, ลีออน กอเร็ตซ์กา, โจชัว คิมมิช, จามาล มูเซียลา, เลรอย ซาเน และ ชูโป-โมติง

 

เกมครึ่งแรกภาพรวมเป็นทางบาเยิร์น มิวนิก บุกได้น้ำได้เนื้อกว่า มีโอกาสเข้าทำหลายจังหวะ ขณะที่เปแอสเชเน้นจังหวะสวนกลับเป็นหลัก แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่ยังใส่สกอร์ไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกที่ 0-0

 

ครึ่งหลังเกมเริ่มมาได้ 8 นาที ทีมเยือนออกนำก่อนจากจังหวะที่ อัลฟอนโซ เดวีส์ เปิดบอลจากทางขวาเข้ากรอบเขตโทษมาให้ คิงสลีย์ โกม็อง ได้ยิง บอลผ่านตัว ดอนนารุมมา เข้าไปช่วยบาเยิร์น มิวนิก ออกนำ 1-0

 

นาทีที่ 61 บาเยิร์น มิวนิก บุกขึ้นมาเป็น โกม็อง ได้ผ่านบอลให้ ชูโป-โมติง ได้ลองตวัดยิงในกรอบเขตโทษ แต่ ดอนนารุมมา ยังเซฟไว้ได้

 

ถัดมานาทีเดียว มูเซียลา พาบอลจี้กรอบเขตโทษ ก่อนเปิดให้ ชูโป-โมติง ได้แปลเน้นๆ แต่บอลชนเสาออกไป ทำให้ยังไม่ได้สกอร์เพิ่มเติม

 

นาทีที่ 76 จากจังหวะเตะมุมของเปแอสเช มาร์ควินญอส ได้ลุ้นขึ้นโหม่ง แต่ ยานน์ ซอมเมอร์ ยังรับไว้ได้

 

นาทีที่ 84 นูโน เมนเดส โชว์สเต็ปพาบอลหนีผู้เล่นบาเยิร์น มิวนิก ได้ถึง 2 คน ก่อนจ่ายตัดเข้าในให้ เมสซี ที่ยืนอยู่ได้ยิงแบบเน้นๆ แต่บอลไปโดน ปาวาร์ ข้ามคานออกไป

 

นาทีที่ 90+1 ทัพเสือใต้มาเหลือผู้เล่น 10 คน หลังจาก ปาวาร์ สกัดฟาวล์ใส่ เมสซีทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

 

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกมบาเยิร์น มิวนิก บุกมาเอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-0 

 

สำหรับนัดที่ 2 ทั้งคู่จะกลับมาแข่งกันอีกครั้ง วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม เวลา 03.00 น. ที่สนามอลิอันซ์ อารีนา

The post โกม็องซัดโทน! บาเยิร์น มิวนิก 10 คนบุกเฉือนเปแอสเช 1-0 นัดแรก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2022/23 appeared first on THE STANDARD.

]]>
โกม็อง ฮีโร่โขกประตูชัยให้บาเยิร์นเฉือนเปแอสเช 1-0 คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีก https://thestandard.co/kingsley-coman-shot-last-goal-for-psg-champions-league/ Mon, 24 Aug 2020 00:21:01 +0000 https://thestandard.co/?p=391003 โกม็อง ฮีโร่โขกประตูชัยให้บาเยิร์นเฉือนเปแอสเช 1-0 คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีก

คิงสลีย์ โกม็อง สวมบทฮีโร่โหม่งทำประตูชัยให้ ‘เสือใต้’ […]

The post โกม็อง ฮีโร่โขกประตูชัยให้บาเยิร์นเฉือนเปแอสเช 1-0 คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
โกม็อง ฮีโร่โขกประตูชัยให้บาเยิร์นเฉือนเปแอสเช 1-0 คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีก

คิงสลีย์ โกม็อง สวมบทฮีโร่โหม่งทำประตูชัยให้ ‘เสือใต้’ บาเยิร์น มิวนิก เฉือนเอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือเปแอสเชได้อย่างหวุดหวิด 1-0 คว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ไปครอง

 

ศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นการปิดฉากฤดูกาล 2019-20 อย่างเป็นทางการ เป็นการพบกันระหว่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เพิ่งผ่านเข้าชิงชนะเลิศรายการนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และบาเยิร์น มิวนิก เจ้าของแชมป์ 5 สมัยในรายการนี้ ในเกมที่สนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ รังเหย้าของทีมเบนฟิกา ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งรับหน้าที่จัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์รอบสุดท้ายเป็นการเฉพาะกิจแทนที่สนามอตาเติร์ก สเตเดียม ในกรุงอิสตันบูล เมืองเจ้าภาพสำหรับนัดชิงชนะเลิศเดิม

 

ออกสตาร์ทมาเกมเป็นไปอย่างสูสีอย่างมาก ต่างฝ่ายต่างทันกันในจังหวะการเล่น และมีโอกาสใกล้เคียงที่จะได้ประตูพอๆ กัน โดยเปแอสเชซึ่งเกมนี้ได้ เคย์เลอร์ นาวาส นายทวารมือหนึ่งหายเจ็บกลับมาทันเวลามีจังหวะลุ้นก่อนจากลูกที่เนย์มาร์ สตาร์อันดับหนึ่งได้หลุดทะลุเข้าเขตโทษก่อนซัดยิงด้วยซ้ายแต่ติดเซฟของ มานูเอล นอยเออร์ จากนั้นบาเยิร์น ซึ่งวันนี้ให้ คิงส์ลีย์ โกม็อง ลงมาแทน อิวาน เปริซิช ในแนวรุกมีจังหวะบ้างจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ดาวยิงตัวเก่งที่พักบอลในเขตโทษก่อนตวัดยิงไปชนเสาเข้าอย่างจัง

 

แต่เมื่อเกมผ่านไป บาเยิร์นแม้จะเสีย เฌอโรม บัวเต็ง ปราการหลังจอมเก๋าที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ได้ และให้ นิคลาส ซูเล ลงสนามแทน กลับเป็นฝ่ายที่เริ่มครองเกมเหนือกว่าได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังเจาะไม่ได้ ก่อนที่เกมจะมาตื่นเต้นอีกครั้งในช่วงก่อนหมดครึ่งแรก

 

โดยแชมป์เยอรมนีเกือบจะเสียท่าก่อนจากจังหวะการผิดพลาดของแนวรับที่จ่ายบอลพลาดในกรอบเขตโทษตัวเอง สุดท้ายนำไปสู่โอกาสทองของ คีเลียน เอ็มบัปเป ที่ได้โอกาสซัดระยะเผาขนแค่ไม่กี่หลา แต่กลับยิงเบาและตรงตัวนอยเออร์ จากนั้นบาเยิร์นมีจังหวะลุยของ แซร์จ นาบรี ที่ไปถึงสุดเส้นก่อนเปิดวัดใจเข้ามาแต่ติดเซฟของนาบาส และอีกครั้งโกม็องพาบอลหนี ธิโล เคห์เรอร์ ก่อนจะโดนเหนี่ยวล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษ และเกมจบครึ่งแรกโดยยังไม่มีสกอร์

 

ครึ่งหลังกลับมาลงสนามกันใหม่ บาเยิร์นยังเป็นฝ่ายที่ครองเกมมากกว่า และที่สุดแล้วมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 59 จากการเปิดบอลแบบจับวางของ โจชัว คิมมิช ให้โกม็องซึ่งเคยเป็นเด็กฝึกหัดของเปแอสเชได้โหม่งเต็มศีรษะเข้าประตูไป

 

หลังได้ประตูนำ บาเยิร์นยังมีโอกาสปั่นป่วนจากโกม็องที่เผาแบ็กขวาอย่างเคห์เรอร์ จนเกรียม แต่เปแอสเชยังรอดตัวได้ ก่อนจะพยายามตั้งหลักกลับมาและมีโอกาสใกล้เคียงจะตีเสมอได้เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย จ่ายจากกราบขวาเข้าเขตโทษมาถึงมาร์ควินญอส ได้สอดขึ้นมายิงแต่ยังไม่ผ่านนอยเออร์ที่ใช้ขาเซฟเอาไว้ได้

 

จากนั้นบาเยิร์นพยายามรักษาสกอร์นำเอาไว้ โดยเปแอสเชไม่สามารถจะตั้งเกมกลับมาได้ และเมื่อมีโอกาสทองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็พลาดไป เมื่อเนย์มาร์เปิดมาให้ เอริก มักซิม ชูโป โมติง ได้ลุ้นแล้วแต่หัวหอกแคเมอรูนสะกิดบอลไม่ถึง ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยชัยชนะของทีม ‘เสือใต้’ ที่คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ไปครอง และสร้างสถิติคว้า ‘เทรเบิลแชมป์’ กวาดแชมป์ทุกรายการทั้งบุนเดสลีกา เดเอฟเบ โพคาล และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เป็นสมัยที่ 2 หลังเคยทำได้มาแล้วในปี 2013

The post โกม็อง ฮีโร่โขกประตูชัยให้บาเยิร์นเฉือนเปแอสเช 1-0 คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>