Khaan (ขาล) – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 04 Jun 2025 11:56:35 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘อาหารไทยดั้งเดิม’ มีจริงไหม หรือความจริงแล้วเราแค่ฝันไป? https://thestandard.co/life/thai-traditional-food-real-or-myth Sat, 31 May 2025 10:00:48 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1080723 อาหารไทยดั้งเดิมมีจริงไหม หรือเป็นเพียงภาพในฝัน” บนพื้นหลังอาหารไทยแบบร่วมสมัย

อาจฟังดูเป็นคำถามที่สั้นและเรียบง่าย แต่ถ้าทุกคนลองคิดต […]

The post ‘อาหารไทยดั้งเดิม’ มีจริงไหม หรือความจริงแล้วเราแค่ฝันไป? appeared first on THE STANDARD.

]]>
อาหารไทยดั้งเดิมมีจริงไหม หรือเป็นเพียงภาพในฝัน” บนพื้นหลังอาหารไทยแบบร่วมสมัย

อาจฟังดูเป็นคำถามที่สั้นและเรียบง่าย แต่ถ้าทุกคนลองคิดตามดูดีๆ คำตอบที่ออกมาอาจตรงกันข้ามเลยก็ได้ หรือบางทีเราอาจต้องเริ่มคิดใหม่ตั้งแต่แรกว่า เสน่ห์ที่แท้จริงของอาหารไทยคืออะไร แล้วหลังจากนั้นทุกคนจึงจะได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดเป็นของตัวเอง

 

วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาฟังความคิดเห็นของ 6 นักทำอาหารเหล่านี้ดู ว่าในมุมมองของพวกเขา คำว่า ‘อาหารไทยดั้งเดิม’ มีอยู่จริงไหม? แล้วการทำอาหารไทยแบบไม่ถูกต้องตามสูตรถือว่าเป็นการไม่เคารพรากเหง้าที่แท้จริงหรือเปล่า เช่นนั้นแล้ว อาหารไทยที่เรากินอยู่ทุกวันนี้คืออะไร? มาลองคิดตามกันดู

 

อาหารไทยดั้งเดิมมีจริงไหม หรือเป็นเพียงภาพในฝัน” บนพื้นหลังอาหารไทยแบบร่วมสมัย

 

เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ เชฟอาหารไทยเจ้าของร้านไฟน์ไดนิ่ง KHAAN ในซอยสมคิด ผู้เคยคว้ารางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award ปี 2564 ในฐานะคนทำอาหารไทยมาโดยตลอดและชื่นชอบการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมากๆ รวมถึงการนำอาหารไทยที่เราอาจไม่เคยได้ยินชื่อมาตีความใหม่ให้เข้าใจง่าย เชฟอ้อมตอบคำถามนี้ว่า

 

ถ้าถามว่าอาหารไทยดั้งเดิมมีอยู่จริงไหม ขอตอบว่า ‘มี’ แต่เราต้องตีความหมายคำว่าดั้งเดิมออกมาก่อน เพราะอาหารไทยมีรากเหง้า มีวัฒนธรรม มีเหตุมีผล มีภูมิปัญญาตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องรสชาตินี้ ทำไมต้องกินกับอันนี้

 

“แต่อย่าลืมว่าอาหารไทยมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และส่วนใหญ่อาหารไทยหลายๆ ชนิดก็รับอิทธิพลมาจากต่างชาติ เช่น อินเดีย จีน มลายู เปอร์เซีย หรือชาวตะวันตก เพราะฉะนั้นคำว่าดั้งเดิมก็อาจขึ้นอยู่กับยุคสมัยด้วย แต่ความดั้งเดิมกับการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยก็ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน

 

“เช่นเมื่อก่อนแกงเขียวหวานต้องเคี่ยวให้เป็นขี้โล้ แตกมันมากๆ ข้นๆ รสชาติไม่หวานเท่าปัจจุบัน เอามากินกับข้าวในสมัยก่อนอาจจะอร่อย แต่คนยุคปัจจุบันอาจไม่ชินกับแกงเขียวหวานที่ข้นคลั่กแล้ว แต่ถามว่าแกงเขียวหวานยังอยู่ไหม? มันก็ยังอยู่ เพราะอะไร? ก็เพราะปรับให้เข้ากับคนยุคปัจจุบันมากขึ้น

 

“เพราะฉะนั้น คำว่าดั้งเดิมสำหรับอ้อมไม่ได้แปลว่าต้องครบถ้วน ทั้งหมดต้องตามตำราเป๊ะๆ แต่หมายถึงคือการรักษาราก วัฒนธรรม และปรับให้เข้ากับยุคสมัย เพราะตัวเราเองเชื่อมาตลอดว่าอะไรที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคปัจจุบันได้ ในที่สุดมันก็จะสูญหายไปตามกาลเวลา”

 

 

เชฟดีแลน โจนส์ ชาวออสเตรเลียผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง Bo.lan ร่วมกับภรรยา เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ อีกทั้งพวกเขายังเปิดโปรแกรมสอนทำอาหารไทยร่วมกันด้วย ในฐานะคนทำอาหารไทยมานานหลายสิบปี เชฟดีแลนบอกว่า

 

“นี่เป็นคำถามที่ยากนะ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าคุณตีความคำว่าดั้งเดิมอย่างไร ถ้าหากเรานิยามว่าอาหารไทยคืออาหารที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วประเทศไทยว่าเป็น ‘อาหารไทย’ คำตอบก็คือ ใช่ เพราะมีอาหารไทยต้นตำรับอยู่มากมายแน่นอน

 

“แต่ถ้าคุณลองขุดลึกลงไปถึงรากเหง้าของอาหารไทยจริงๆ คุณจะพบว่าอาหารไทยคือการหลอมรวมวัฒนธรรมที่หลากหลายมาตลอดหลายร้อยหลายพันปี อย่างเช่น คนไทยรู้จักพริกจากชาวโปรตุเกส ซึ่งทุกวันนี้เราคงจินตนาการอาหารไทยที่ไม่มีพริกไม่ออก ทว่าในอดีต เครื่องปรุงที่เผ็ดที่สุดที่คนไทยใช้กันคือ พริกไทยดำ ในยุคนั้นรสชาติของอาหารไทยอาจใกล้เคียงกับอาหารเขมรในปัจจุบันมากกว่า

 

“เพราะฉะนั้น อาหารไทยต้นตำรับมีอยู่จริงไหม? คำตอบสั้นๆ คือ ‘มี’ แต่มันคือสิ่งที่มีชีวิตและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาผ่านประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และความชอบส่วนบุคคล แต่ถ้าจะให้ผมตอบยาวๆ ก็คือ ‘ไม่มีครับ’”

 

 

เชื่อว่าคนในวงการอาหารทุกคนต้องรู้จัก เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เจ้าของร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งอย่าง Le Du และ Nusara ที่เป็นเหมือนประตูต้อนรับชาวต่างชาติที่สนใจและอยากชิมอาหารไทย สำหรับเชฟต้นแล้วเขาบอกว่า

 

“ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีวิวัฒนาการของมันเองทั้งหมด โดยเฉพาะอาหาร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทยซึ่งมีความผสมผสานมากๆ เนื่องจากเราได้รับอิทธิพลมาจากหลายประเทศ ทุกอย่างเรารับมาหมด แล้วเอามาทำให้เป็นของตัวเอง ซึ่งผมมองว่านี่คือจุดแข็งและทำให้อาหารไทยมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

 

“เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าอาหารไทยแท้คืออะไร ผมว่าอาหารไทยแท้ไม่มีอยู่จริง คนที่บอกว่าอาหารไทยแท้มีอยู่จริง คือคนที่ไม่รู้จักอาหารไทย ไม่รู้จักรากเหง้าของอาหารไทย ตัวอย่างเช่น อาหารผัดต่างๆ ล้วนมาจากชาวจีนอพยพ ก่อนเราเอามาพัฒนาจนกลายเป็นอาหารไทย นี่คือเสน่ห์ของอาหารไทยเลย มันคือการปรับเปลี่ยนที่ไม่สิ้นสุด ถ้าใครคิดว่าอาหารไทยควรหยุดนิ่งอยู่กับที่ผมว่าผิดแล้ว อาหารไทยมาได้ไกลขนาดนี้ก็เพราะบรรพบุรุษของเราไม่เคยหยุดคิด ไม่เคยหยุดพัฒนาเอาสิ่งใหม่ๆ มาใช้กับอาหารไทย ใช้กับวัตถุดิบที่มีอยู่ มันคือความร่วมสมัย

 

“ผมว่าไม่มีใครมีสิทธิ์ตัดสินใจทั้งนั้นว่าอะไรผิดอะไรถูก คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจคือคนไทยเอง อาหารไทยในอดีตถึงปัจจุบัน เมนูที่หลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้คืออาหารที่คนชอบ พอมีคนชอบก็มีคนทำ อาหารที่ไม่มีคนกิน ไม่ว่าจะแท้หรือเทียม สุดท้ายมันก็จะหายไปเอง ผมว่าเราต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิ์ทำอาหารไทยในแบบที่ตัวเองอยากทำมากกว่า โดยเฉพาะเชฟรุ่นใหม่ ถ้าเราบอกว่าอาหารไทยต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น แล้วจะมีเชฟรุ่นใหม่ที่ไหนอยากเรียนทำอาหารไทย เพราะว่ามันไม่สนุก

 

“ผมไม่ได้บอกว่าคนชอบทำอาหารไทยเก่าๆ ผิด แต่มันต้องมีผสมกัน Cuisine ถึงจะแข็งแรง เราไม่ควรขวางการพัฒนาหรือความคิดสร้างสรรค์ของเด็กรุ่นใหม่ ผมอยากให้ทั้งวงการเชฟของเราคิดกันแบบนี้มากกว่า เพื่อจะให้อาหารไทยไปได้ไกล”

 

อาหารไทยดั้งเดิมมีจริงไหม หรือเป็นเพียงภาพในฝัน” บนพื้นหลังอาหารไทยแบบร่วมสมัย

 

เชฟอู๋-สิทธิกร จันทป เชฟรุ่นใหม่เจ้าของร้านอาหารไทย AKKEE ในย่านปากเกร็ด และเจ้าของตำแหน่ง MICHELIN Guide Young Chef Award เมื่อปีล่าสุด เชฟเล่าให้ฟังว่าเขาศึกษาการทำอาหารไทยมานานหลายปี รวมถึงชอบออกตามหาวัตถุดิบท้องถิ่นทั่วประเทศแทบทุกซีซันเพื่อนำมาใช้ในจานอาหารไทยที่เขาแกะสูตรออกมาจากตำราเก่าๆ ฉะนั้น สำหรับเชฟอู๋แล้วขอตอบว่า

 

“มันพูดค่อนข้างยากนะ เพราะไม่มีใครระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนว่ามันต้องกี่ปีถึงจะเรียกว่าดั้งเดิม ยกตัวอย่างเช่น ผัดไทย เมนูนี้เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 80 ปีที่แล้วเอง เพราะประเทศไทยได้รับอิทธิพลการบริโภคเส้นก๋วยเตี๋ยวมาจากคนจีน จึงเกิดการคิดค้นผัดของคนไทยขึ้นมาเพื่อโชว์ความเป็นไทย ถ้ามองว่าผัดไทยเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน มันก็อาจจะไม่ใช่อาหารดั้งเดิม แถมยังได้รับอิทธิพลจากประเทศอื่นอีก

 

“แต่สำหรับผมการใช้คำว่าดั้งเดิม อย่างน้อยมันต้องมีวัตถุดิบที่เหมือนสูตรต้นตำรับ เราต้องแยกทั้งวัตถุดิบและชื่อเมนูให้ถูกต้อง ถ้าเราปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงจะถือว่าเป็นการร่วมสมัย แต่สุดท้ายอาหารก็เป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคล จะบอกว่าอันนั้นผิดอันนี้ถูก หรือห้ามทำบางอย่างก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะบางเมนูตามตำราดั้งเดิมก็ไม่มีบอก เราต้องทำขึ้นมาบ้างเพื่อให้อาหารสมดุล เช่น ของผัด ของทอด ร้านของเราทำตามตำราโบราณก็จริง แต่ผมก็มีการประยุกต์บ้างเพื่อให้เข้ากับสำรับอาหาร

 

“ถ้าเราเอาสูตรในหนังสือมาเป็นมาตรฐานและไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลยเพื่อคงความดั้งเดิมเอาไว้ มันจะยากมากๆ เนื่องจากรสชาติอาหารไทยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา พริกสมัยก่อนอาจจะไม่เผ็ดเท่าสมัยนี้ ต่อให้เขามีมาตราชั่งตวงวัดมาให้ แต่ถ้าเราทำตามนั้นจริงๆ รสชาติก็อาจไม่ถูกปากคนในสมัยนี้เท่าไหร่ ซึ่งบางเมนูอาจกินไม่ได้ด้วยซ้ำ”

 

ภาพ: อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา / MICHELIN Guide Thailand

 

 

เชฟดีแลน อิทธะรงค์ ชาวไทย-อเมริกันผู้เติบโตในประเทศสหรัฐฯ แต่กลับมาเปิดร้านอาหารไทยบรรยากาศสนุกๆ อย่าง HAAWM (หอม) เพื่อเสิร์ฟอาหารไทยที่เขาร่ำเรียนมาจากตำรา เชฟดีแลนบอกว่าเขาตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก เพราะนี่คือสิ่งที่เขาอยากพูดถึงสุดๆ ในฐานะลูกครึ่งที่เสิร์ฟอาหารไทยให้คนไทยชิม แต่หลายคนกลับบอกว่า…นี่ไม่ใช่อาหารแบบที่คนไทยกินสักหน่อย

 

“ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าขันเหมือนกันนะ มันฟังดูค่อนข้างใจแคบไปหน่อยถ้ามีใครสักคนบอกว่าอาหารไทยต้องเป็นแบบไหน ในฐานะที่ผมเป็นคนเชื้อสายไทย-อเมริกันและทำอาหารไทยดั้งเดิมมานาน ผมคิดว่าคำว่าดั้งเดิมขึ้นอยู่กับการตีความส่วนบุคคล แน่นอนว่าการทำอาหารดั้งเดิมมีขอบเขตบางอย่างที่เราไม่ควรก้าวข้าม แต่มันก็ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ถ้าใครจะกำหนดว่าอาหารไทยดั้งเดิมต้องเป็นแบบไหน

 

“ลูกค้าบางคนที่มาร้านผม ถ้าหากผมเสิร์ฟบางอย่างที่พวกเขาเคยกินหรือรู้จัก ตัวอย่างเช่น มัสมั่น แต่มันเป็นมัสมั่นอีกแบบที่พวกเขาไม่คุ้นเคย เพราะใช้ถั่วหิมพานต์แทนถั่วลิสง พวกเขาจะบอกว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง คนไทยไม่ทำแบบนี้ ผมไม่เถียงหรอก แม้ว่าผมจะนำสูตรอาหารไทยมาจากตำราอาหารไทยร้อยปีก็ตาม

 

“เพราะฉะนั้น อาหารไทยที่แท้จริงอาจไม่ใช่สิ่งที่หลายๆ คนรู้จักมาตลอดชีวิตก็เป็นได้ คนที่พยายามพัฒนาบางสิ่งให้ดีขึ้นไม่ผิดเลย แต่ผมจะไม่ทำอะไรมั่วๆ ขึ้นมาแล้วบอกว่านี่คืออาหารไทย ผมว่าการทำให้สิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นมันคือวิวัฒนาการที่ดี ชาวต่างชาติบางคนที่ได้กินอาหารไทยและพยายามกลับไปทำอาหารไทยบ้าง พวกเขาอาจใช้วัตถุดิบตามที่มี ทำรสชาติให้ใกล้เคียงที่สุด หรือบางคนอาจปรับให้เข้ากับรสนิยมของตัวเอง สำหรับผมมันก็ไม่ผิดอยู่ดี (แม้อาหารไทยในต่างประเทศจะไม่อร่อยเลยก็ตาม) ทุกคนแค่พยายามทำอาหารในแบบที่ตัวเองชอบ ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้อาหารไทยมีความหลากหลายและมีเสน่ห์ตามภูมิภาคด้วย ผมว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าความดั้งเดิม”

 

 

เมแกน ลีออน ชาวอเมริกันที่ย้ายมาอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 10 ปี และด้วยความรักในอาหารไทย เธอเคยเรียนทำอาหารไทยอย่างจริงจัง รวมถึงเคยเป็นเชฟในครัวอาหารไทย ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักเขียนที่มีเพื่อนเชฟอยู่ในวงการอาหารไทยไม่น้อย

 

“ในฐานะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เรียนทำอาหารไทย และเขียนถึงอาหารไทยบ่อยๆ ฉันเชื่อว่าคำว่า ‘ดั้งเดิม’ หรือ ‘ต้นตำรับ’ เป็นเรื่องของมุมมองส่วนบุคคล เพราะมันตีความได้กว้างมาก แม้แต่ในภูมิภาคใกล้เคียงกันเองในประเทศไทย หรือแม้แต่เพื่อนข้างๆ บ้านของคุณ ทุกคนล้วนมีภูมิหลังและความทรงจำเฉพาะตัวเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้หล่อหลอมมุมมองที่แต่ละคนมีต่อคำว่าความดั้งเดิม และนั่นคือสิ่งที่ทำให้อาหารเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีความเฉพาะบุคคลและหลากหลายมาก

 

“สำหรับฉัน ความดั้งเดิมสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ด้วย แต่มันก็สามารถปรับเปลี่ยนไปตามอิทธิพลที่ได้รับและวัตถุดิบที่มี แม้การเคารพสูตรอาหารและเทคนิคดั้งเดิมจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ฉันก็เชื่อว่าอาหารควรมีการพัฒนาด้วย เพราะการเปิดรับนวัตกรรมใหม่ๆ ช่วยให้เราค้นพบรสชาติใหม่ๆ และเป็นการรักษาจิตวิญญาณของอาหารให้คงอยู่ต่อไป แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ อย่าลืมว่าอาหารคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขและช่วยสร้างความสัมพันธ์ ไม่ว่าใครจะนิยามความดั้งเดิมอย่างไรก็ตาม”

The post ‘อาหารไทยดั้งเดิม’ มีจริงไหม หรือความจริงแล้วเราแค่ฝันไป? appeared first on THE STANDARD.

]]>
Khaan ร้านอาหารไทยแห่งใหม่โดยเชฟอ้อม สุจิรา ที่นำเสนอรสชาติของวัตถุดิบได้ลึกและโดดเด่น https://thestandard.co/life/khaan Fri, 15 Dec 2023 06:17:09 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=877052

ไม่ใช่บ่อยๆ ที่เราจะได้เจอร้านอาหารที่กินแล้วไม่นึกเปรี […]

The post Khaan ร้านอาหารไทยแห่งใหม่โดยเชฟอ้อม สุจิรา ที่นำเสนอรสชาติของวัตถุดิบได้ลึกและโดดเด่น appeared first on THE STANDARD.

]]>

ไม่ใช่บ่อยๆ ที่เราจะได้เจอร้านอาหารที่กินแล้วไม่นึกเปรียบเทียบถึงร้านอื่น เพราะว่าเชฟทำรสชาติได้มีเอกลักษณ์ นำเสนอเมนูได้แตกต่าง แถมน่าคุยต่อว่าแต่ละจานมีที่มาที่ไปอย่างไร กว่าจะตกตะกอนความคิดสร้างสรรค์ออกมาเป็นอาหารจานนี้ได้

 

‘Khaan (ขาล)’ ร้านอาหารไทยแห่งใหม่โดย เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ จึงทำให้เราตื่นเต้นมาก เพราะตลอดเวลาที่นั่งชิมเมนู 11 คอร์ส เราสนุกกับการฟังที่มาของวัตถุดิบและที่มาของแต่ละเมนูจริงๆ

 

‘Khaan (ขาล)’ ร้านอาหารไทยแห่งใหม่โดย เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ ‘Khaan (ขาล)’ ร้านอาหารไทยแห่งใหม่โดย เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ

 


 

The Vibe

 

Khaan เปิดอยู่ในซอยสมคิด มาถึงแล้วทุกคนจะได้เห็นโซนห้องครัวซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าก่อนใครเพื่อน และเนื่องจากตั้งชื่อร้านตามปีเกิดของเชฟ รวมถึงเป็นคำที่ฟังดูหนักแน่น มีพลัง ร้านจึงมาในโทนสีแดงสุขุม ไม่ร้อนแรง มีความเรียบหรูตามสไตล์

 

โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่นั่งชั้น 2 ที่มีให้เลือกหลายมุม หลายบรรยากาศ หากเป็นด้านนอกห้องจะได้นั่งชมท้องฟ้ายามเย็น หรือในห้องก็มีความส่วนตัวดีเหมือนกัน

 

‘Khaan (ขาล)’ ร้านอาหารไทยแห่งใหม่โดย เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ

 

The Taste

 

เราชิมฝีมือเชฟอ้อมครั้งแรกตอนเชฟอยู่ร้านเก่า และติดใจมาตั้งแต่ตอนนั้น Khaan จึงเป็นร้านที่เราเฝ้ารอมากๆ เพราะอยากรู้ว่าเชฟจะกลับมาด้วยรสชาติแบบไหน แน่นอนว่าเชฟอ้อมยังทำอาหารไทยเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมเลยคือ ‘ความลึกของรสชาติ’ ขอใช้คำนี้ตามเชฟเลยแล้วกัน เพราะตอนเราชิมครั้งแรกก็บอกไม่ถูกว่านี่คือรสชาติอาหารไทยสไตล์ไหน รู้สึกแค่ว่านี่คือรสชาติที่ใหม่ หาไม่ได้จากที่อื่น

 

“อาหารที่ร้าน Khaan จะมีความท้าทายขึ้นเยอะ เพราะเราปรับเมนูตามวัตถุดิบที่ได้มา ส่วนรสชาติเป็นรสที่เรารู้สึกว่าแบบนี้อร่อย มีความรสจัดประมาณหนึ่ง หรือเป็นรสชาติที่เราไปเจอมาแล้วรู้สึกชอบ ถ้าเอามากินแบบนี้แล้วน่าจะอร่อยขึ้นนะ” เชฟอ้อมบอก

 

 

เมนูแรกของ Khaan มีทั้งหมด 11 คอร์ส เริ่มด้วยของกินเล่น 4 คำที่มาจาก 4 ภาค คำที่เราชอบที่สุดคือ ‘ไข่ตุ๋นแกงคั่วเนื้อปู’ เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟที่เจอเมื่อไร ที่ไหน ก็ทำเอาน้ำลายสอ ทั้งความเข้มข้นของเครื่องแกง ความครีมมี่ของไข่ ทุกอย่างลงตัวมาก

 

‘หอยเชลล์ลาบเมือง’ ได้แรงบันดาลใจมาจากลาบเมืองของภาคเหนือ เชฟนำหอยจากฮอกไกโดไปหมักมะแขว่น ทำซอสราดจากเครื่องเทศเมืองเหนือและผักแพ้ว ก่อนต่อด้วย ‘มันปูนาข้าวเหนียวย่าง’ อีกเมนูซิกเนเจอร์ โดยเชฟนำมันปูนาไปย่างผสมพริกแกง ส่วนข้าวเหนียวผสมกะทินำไปย่างถ่าน

 

‘ข้าวพันผัก’ เป็นเมนูจากภาคเหนือเช่นกัน รสชาติน่าสนใจมาก เพราะแผ่นแป้งด้านบนเกิดจากยีสต์ธรรมชาติ โดยเชฟนำข้าวสังข์หยดไปหมัก ส่วนด้านล่างเป็นผักต่างๆ มีหัวไชเท้าดรายเอจผัดเนยถั่ว มันแกว มันเทศ มันม่วง เผือก ผสมซอสสมุนไพร รสชาติออกมันๆ เปรี้ยวๆ คล้ายน้ำพริกขนมจีน

 

 

หลังจาก ‘ต้มข่าหอยนางรม’ ที่ใช้ทั้งพันธุ์ไทยและอเมริกา ก็ตามด้วยเมนูล้างปากที่เราติดใจอย่างไม่น่าเชื่อ เป็น น้ำพริกอ่อง’ ที่ทำจากมะเขือเทศผสมผงโอ้เอ๋ว มีเนื้อมะเขือเทศอบแห้ง มะเขือเทศหมักถั่วเน่า และสเปรย์วอดก้าหมาใจดำเพิ่มอรรถรสนิดๆ

 

 

เริ่มเข้าเมนคอร์สด้วย ‘ปลาย่างตามใจชาวประมง’ ที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะเชฟอ้อมอยากซัพพอร์ตชาวประมงท้องถิ่นที่จับปลาด้วยเบ็ด ปลาในแต่ละวันจึงไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับการเตรียมปลาด้วยที่เชฟต้องปรับไปตามเนื้อปลา นี่แหละความท้าทายที่เชฟพูดถึง แถมเมนูนี้เชฟยังพยายามใช้ทุกส่วนไม่ให้เหลือเลย

 

‘แกงบุ่มไบ่’ เสิร์ฟมาอย่างราชา เป็นแกงโบราณที่เห็นแล้วนึกถึงอาหารอินเดีย เชื่อว่ามีมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 เชฟอ้อมเสิร์ฟเป็นเนื้อแกะตุ๋น แกะกรอบ ผักดอง ข้าวบาสมาติ คู่กับน้ำแกงรสเผ็ดแต่ไม่ทำลายลิ้น เวลากินให้คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นเมนูที่รสชาติสมบูรณ์แบบ เราชอบจานนี้มากๆ

 

เข้าสู่ของหวานด้วย สับปะรดกับส้มมะปี๊ด และ ‘ฟักท๊อง ฟักทอง’ เชฟอยากเสิร์ฟฟักทองทั้งร้อนและเย็น จึงนำส่วนหนึ่งไปตุ๋นน้ำเชื่อม ส่วนหนึ่งทำเค้ก ไอศกรีม และพิวเร รวมถึงนำเปลือกไปอบกรอบด้วย

 

 

Good for

 

Khaan เป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่ต้องจับตามอง เราเชื่อว่าจะต้องเป็นร้านอาหารมาแรงในปีหน้าแน่ๆ ทั้งรสชาติ วัตถุดิบ และการนำเสนอต่างๆ ที่แตกต่าง มีความเป็นเชฟอ้อมชัดเจน ถ้าใครเป็นนักชิมและชื่นชอบอาหารไทยอยู่แล้ว นี่คืออีกร้านที่ต้องไปชิมให้ได้ 

 

 


 

Khaan Bangkok

Address: ซอยสมคิด

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-01.00 น.

Contact: Khaan Bangkok (แท็ก: https://www.facebook.com/profile.php?id=61550875410314)

Budget: คอร์สละ 3,850++ บาทต่อคน

Map: https://maps.app.goo.gl/cUADAxMWANts2XD46 

 

 

The post Khaan ร้านอาหารไทยแห่งใหม่โดยเชฟอ้อม สุจิรา ที่นำเสนอรสชาติของวัตถุดิบได้ลึกและโดดเด่น appeared first on THE STANDARD.

]]>