ตำนานนักวิ่งมาราธอนชาวเคนยา เอเลียด คิปโชเก้ เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ในชื่อ Kotcha เพื่อถ่ายทอดแนวคิดและเคล็ดลับการฝึกซ้อมที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักวิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

แอปนี้เป็นความร่วมมือกับ NN Running Team หนึ่งในสปอนเซอร์หลักของคิปโชเก้ และจะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีบน iPhone ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ โดย Kotcha จะพาผู้ใช้งานเข้าไปเรียนรู้เบื้องหลังการฝึกซ้อม การใช้ชีวิต และสัมผัส ‘ปรัชญาการวิ่ง’ ที่หล่อหลอมคิปโชเก้มาตลอดเส้นทางอาชีพ

“ทุกคนถามถึงความลับของผมกันไม่หยุด วันนี้ผมขอส่งต่อความลับนี้ เพราะผมภูมิใจที่จะแนะนำ kotcha.run แอปที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งปันปรัชญาการฝึกซ้อมของผมกับนักวิ่งทุกคนทั่วโลก” เอเลียด คิปโชเก โพสต์ผ่าน Instagram

แม้รายละเอียดของฟีเจอร์ในแอปยังไม่ถูกเปิดเผยทั้งหมด แต่บนหน้า App Store มีการเปิดเผย “รสชาติแรกของความสำเร็จ” ผ่านเมนู อูกาลี (Ugali) อาหารพื้นบ้านของเคนยาที่คิปโชเก้โปรดปราน เป็นอาหารคาร์บสูงที่ช่วยเติมพลังให้การวิ่งระยะไกล

โดยส่วนผสมหลักคือแป้งข้าวโพดกับน้ำร้อน คลุกและกวนจนข้น เสิร์ฟร้อนๆ ทานกับผัก ถั่ว หรือเนื้อสัตว์ และตามธรรมเนียมต้องกินด้วยมือ

สำหรับข่าวการเปิดตัวแอป Kotcha เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่คิปโชเก้จะลงแข่ง New York City Marathon 2025 ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของเขาในรายการดังกล่าว และถือเป็นสนามที่ 7 จาก 6 รายการหลักในซีรีส์ Abbott World Marathon Majors หรือกล่าวได้ว่า เหรียญ Six Star Finisher Medal กำลังอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับยอดนักวิ่งวัย 40 ปีรายนี้

อ้างอิง:

• https://www.instagram.com/p/DQEyCoiDBt_/
• https://www.worldmarathonmajors.com/content-hub/kipchoge-to-complete-six-star-journey-in-new-york
• https://www.runnersworld.com/uk/news/a69109038/eliud-kipchoge-running-app/

The post เอเลียด คิปโชเก เปิดตัวแอป Kotcha ถ่ายทอดเคล็ดลับฝึกซ้อมถึงมือคุณ appeared first on THE STANDARD.

เฟธ คิปเยกอน นักวิ่งสาวชาวเคนยาเจ้าของ 3 เหรียญทองโอลิมปิกในระยะ 1,500 เมตร เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการวิ่งด้วยการตั้งเป้าเป็นผู้หญิงคนแรกในโลกที่วิ่งระยะ 1 ไมล์ (1.61 กิโลเมตร) ด้วยเวลาต่ำกว่า 4 นาที

แคมเปญนี้ของคิปเยกอนมีชื่อว่า Breaking 4 ซึ่งดำเนินการโดย Nike และมีความคล้ายคลึงกับโปรเจกต์ Breaking 2 ของ เอเลียด คิปโชเก ที่เคยพยายามทำสถิติมาราธอนต่ำกว่า 2 ชั่วโมงในปี 2019 ทำให้ถึงแม้จะทำสำเร็จ แต่สถิติดังกล่าวจะไม่ถูกรับรองอย่างเป็นทางการ

คิปเยกอนคือเจ้าของสถิติโลกหญิงระยะ 1 ไมล์คนปัจจุบัน ด้วยเวลา 4.7.64 นาที ซึ่งเธอทำได้ในปี 2023 โดยครั้งนี้เธอต้องลดเวลากว่า 7 วินาที เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนใดในโลกทำได้มาก่อน

นักวิ่งวัย 31 ปีชาวเคนยา กล่าวว่า “ฉันคว้าแชมป์โอลิมปิก 3 สมัย ได้แชมป์โลกมาแล้ว และฉันคิดว่า ‘ทำไมจะไม่ลองฝันให้ใหญ่ขึ้นอีก?’ 

“ฉันอยากให้ความพยายามครั้งนี้ส่งสารถึงผู้หญิงทั่วโลกว่า พวกเธอก็สามารถฝัน และทำให้มันเป็นจริงได้”

นอกจาก 3 เหรียญทองโอลิมปิกแล้ว คิปเยกอนยังเป็นเจ้าของเหรียญทองในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกถึง 4 สมัยด้วย

ภาพ: Nike.com

อ้างอิง

• https://www.bbc.com/sport/athletics/articles/cvgp8kllpmko

The post คิปเยกอนตั้งเป้าทุบสถิติโลก ผู้หญิงคนแรกที่วิ่ง 1 ไมล์ต่ำกว่า 4 นาที appeared first on THE STANDARD.

การประท้วงต่อต้านการขึ้นภาษีที่ปะทุขึ้นในหลายเมืองของเคนยาทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังกลุ่มผู้ประท้วงส่วนหนึ่งในกรุงไนโรบีก่อเหตุบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาและทำลายข้าวของ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออก ขณะที่มีรายงานว่าตำรวจใช้ปืนยิงกระสุนจริงใส่ผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 คน

การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังรัฐบาลเคนยาพยายามผลักดันร่างกฎหมายการเงินฉบับใหม่ ซึ่งมีเนื้อหารวมถึงการเพิ่มการจัดเก็บภาษีหลายประเภท รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์พื้นฐาน เช่น ขนมปัง น้ำมันพืช และน้ำตาล ที่ปรับเพิ่มเป็น 16% และภาษีรถยนต์ที่เพิ่มเป็น 2.5% ของมูลค่ารถยนต์ นอกจากนี้ยังมีภาษีเชิงนิเวศ (Eco Levy) สำหรับสินค้าประเภทผ้าอนามัยและผ้าอ้อมด้วย

การผลักดันกฎหมายการเงินฉบับใหม่ดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความพยายามเพิ่มการจัดเก็บภาษีและบรรเทาภาระหนี้ของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์

ล่าสุดร่างกฎหมายการเงินดังกล่าวได้ผ่านการลงมติรับรองจากสภาแล้ว และเตรียมส่งให้ประธานาธิบดีลงนามบังคับใช้ภายใน 14 วัน

ขณะที่การประท้วงในหลายเมืองยังคงตึงเครียด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดถนน เผารถยนต์ ทำลายข้าวของ และบุกเข้าไปขโมยของในร้านค้า ซึ่งทางการได้ระดมกำลังตำรวจและทหาร เพื่อควบคุมสถานการณ์และพยายามสลายการชุมนุม

อ้างอิง:

• https://www.reuters.com/world/africa/young-kenyan-tax-protesters-plan-nationwide-demonstrations-2024-06-25/
• https://edition.cnn.com/2024/06/25/africa/kenya-protests-tax-rises-intl/index.html

The post ประท้วงขึ้นภาษีในเคนยาเดือด ตำรวจยิงผู้ชุมนุมบุกสภา เสียชีวิต 5 คน appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (18 เมษายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ ลินด์ซีย์ คิปทิเนสส์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทย และคณบดีแห่งคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกาในประเทศไทย (Dean of African Amabssadors Group) ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร

สำหรับการหารือในวันนี้ มีประเด็นความร่วมมือในหลายด้าน อาทิ ด้านสิ่งแวดล้อม เล็งจัดงานปลูกต้นไม้และบริจาคต้นไม้เนื่องในวันแอฟริกา (Africa Day) ด้านวัฒนธรรมและกีฬา หารือการร่วมจัดตั้งทูตกีฬาระหว่างไทยและเคนยา รวมถึงการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนของกรุงเทพมหานครและกรุงไนโรบี โดยมีการส่งเสริมให้นักกีฬาทั้งสองประเทศมาแข่งขันร่วมกันทั้งสองเมือง เนื่องจากประเทศเคนยานั้นขึ้นชื่อเรื่องความสามารถของนักวิ่งมาราธอน 

ด้านการศึกษา เอกอัครราชทูตฯ เคนยา มีความต้องการส่งเสริมการสอนภาษาอังกฤษของครูชาวเคนยาในประเทศไทย รวมถึงต้องการมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาชาวเคนยา เพื่อมาศึกษาในประเทศไทยในหลักสูตรระยะสั้น และโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยของไทยกับมหาวิทยาลัยเคนยาในด้านความสัมพันธ์ ที่ต่อไปภายหน้าจะได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง และการสร้างความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและกรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ต่อไป

ทั้งนี้ ประเทศไทยและสาธารณรัฐเคนยาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2510 โดยประเทศไทยได้เปิดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี เมื่อปี 2521 ส่วนสาธารณรัฐเคนยาได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตเคนยาประจำประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2549 โดยที่ผ่านมาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ราบรื่น สาธารณรัฐเคนยาถือเป็นประเทศสำคัญที่สุดประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกาสำหรับประเทศไทย โดยมีศักยภาพเป็นหุ้นส่วนหลักทางยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม

โอกาสนี้ พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร (Chief Sustainability Officer) ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักงานการต่างประเทศ ร่วมให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทย พร้อมด้วย แนนซี เอ็มวางจี รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทย โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบกุญแจเมืองจำลอง และหนังสือ Very Bangkok: In the City of the Senses แก่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทยเป็นของที่ระลึก

The post ชัชชาติต้อนรับทูตเคนยา พร้อมแลกเปลี่ยนหลายด้าน ผุดไอเดียแข่งขันมาราธอนสองเมือง กรุงเทพฯ-ไนโรบี appeared first on THE STANDARD.

ชายผู้ที่ฟ้าประทานทุกอย่างและมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่รออยู่ในวันข้างหน้า

แต่สิ่งที่ฟ้าไม่ได้บอกคือ ฟ้าให้เวลาเขาเพียงแค่นี้

ข่าวการจากไปของ เคลวิน คิปตัม สุดยอดนักวิ่งชาวเคนยา เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ถือเป็นข่าวที่สะเทือนหัวใจ ไม่ใช่เพียงเฉพาะในชุมชนของเหล่านักวิ่งเท่านั้น แต่สั่นสะเทือนถึงความรู้สึกของผู้คนทั่วโลก

เพราะเจ้าของสถิติโลกในการวิ่งมาราธอนคนล่าสุดไม่ได้เป็นแค่นักวิ่งธรรมดา หากแต่เป็น ‘ความหวัง’ ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติด้วย

เรื่องราวของ เคลวิน คิปตัม ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่เหมือนเรื่องแต่งจากปลายปากกาของใครสักคน

นักวิ่งที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยลงแข่งขันวิ่งมาราธอนมาก่อนเลยในชีวิต จู่ๆ ก็กลายเป็นเจ้าของสถิตินักวิ่งหน้าใหม่ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกด้วยเวลาที่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง กับอีก 2 นาที ในรายการวาเลนเซียมาราธอน เมื่อปี 2022

สถิติดังกล่าวทำให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิติอันดับ 4 ของโลก และทำให้โลกของนักวิ่งมาราธอนต้องหยุดและหันมามองนักวิ่งโนเนมคนนี้

เขาคือใครกันนะ?

เคลวิน คิปตัม เชอรูอิโยต (Kelvin Kiptum Cheruiyot) เป็นนักวิ่งระยะไกลชาวเคนยาที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยลงแข่งขันวิ่งมาราธอนมาก่อน ไม่เคยมีประวัติอยู่ในการแข่งขันใดทั้งนั้น เรียกได้ว่าเป็นเพชรในโคลนตมของจริง

แต่ก็เป็นเพราะแสงที่เปล่งประกายในตัวเองที่ทำให้มีคนค้นพบเขาจนได้

เคลวิน คิปตัม เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1999 ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่าเชปซาโม ซึ่งอยู่ที่เมืองเชปโคริโอ ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,600 เมตร

หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในแถบเดียวกับแคว้นเอลเกโย-มาราเกวต ซึ่งอยู่ในหุบเขา และเป็นถิ่นที่สร้างยอดมนุษย์ปอดเหล็กมามากมาย และยังถือเป็นเมกะหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่านักวิ่งชาวต่างชาติที่ทั้งอยากมาและอยากไปสู่จุดสูงสุดของการเป็นนักวิ่งด้วย

ที่แห่งนี้คือที่ที่คิปตัมเรียนรู้การวิ่ง โดยใช้เวลาว่างหลังช่วยที่บ้านเลี้ยงวัวไปวิ่งด้วยเท้าเปล่า

วิ่งไปตามหุบเขา วิ่งไปตามแนวป่า วิ่งไปตามหาฝัน

จนเขาเริ่มฝึกอย่างจริงจังเมื่อปี 2013 ในวัย 13 ปี โดยการฝึกนั้นก็ไม่ได้มีโค้ชหรือมีครูที่ไหน เขาศึกษาและฝึกฝนการวิ่งด้วยตัวเอง รวมถึงฝึกจากประสบการณ์จริงคือการลงแข่งขันด้วย

ในวัย 13 ปี คิปตัมลงแข่งประเภทฮาล์ฟมาราธอนในบ้านเกิดเป็นรายการแรก และจบด้วยอันดับที่ 10 ก่อนที่จะพยายามอีกหลายครั้งเพื่อให้ไปถึงชัยชนะ ซึ่งชัยชนะรายการแรกเกิดขึ้นในปี 2018 โดยทำเวลาได้ 62.01 นาที

หลังจากนั้นเขาเดินหน้าไปสู่เวทีในระดับนานาชาติ เริ่มจากการแข่งขันฮาล์ฟมาราธอนรายการลิสบอนฮาล์ฟมาราธอน ในเดือนมีนาคม 2019 โดยจบที่อันดับ 5 และทำเวลาได้ 59.54 นาที ซึ่งเป็น ‘PB’ หรือเวลาที่ดีที่สุดในขณะนั้น ก่อนจะตระเวนแข่งไปทั่วยุโรปในปีดังกล่าว

แววของเขาเข้าตา เกอร์เวส ฮาคิซิมานา นักวิ่งวิบากชาวรวันดา ที่ขอรับอาสาเป็นโค้ชให้ (แม้จะมีข่าวว่าทั้งคู่เป็นครู-ศิษย์กันมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วก็ตาม)

โดยที่นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา คิปตัมถูกเจียระไนเพื่อรอวันจะแจ้งเกิดบนเวทีใหญ่ที่สุดและทรงพลังต่อโลกมากที่สุด อย่างเช่น การแข่งขันมาราธอน แต่เรื่องนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับที่สุด โดยที่เขายังคงลงแข่งในประเภทฮาล์ฟมาราธอนอยู่เรื่อยๆ

จนกระทั่งถึงเวลาที่เหมาะสมที่ฮาคิซิมานาคิดว่าโลกควรจะได้รู้จักกับดาวดวงใหม่ที่สามารถจะก้าวขึ้นมาแทนที่ของ เอเลียด คิปโชเก ซึ่งกำลังเริ่มโรยราตามวัย คิปตัมจึงได้โอกาสลงแข่งขันมาราธอนรายการแรกที่เมืองวาเลนเซีย ประเทศสเปน

รายการนั้นจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2022 และเขาก็เขย่าโลกได้จริงๆ ด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 เอาชนะนักวิ่งดาวดังที่เป็นตัวเต็งของรายการอย่าง ตามิรัต โตลา แชมป์โลกมาราธอน 2022 และดาวดังคนอื่นๆ

นอกจากนี้ยังทุบสถิติของรายการ สร้างตำนานเป็นนักวิ่งหน้าใหม่ที่ทำสถิติได้เร็วที่สุดในโลก และเวลาของเขาเป็นอันดับ 4 ในทำเนียบสถิติตลอดกาล เป็นรองแค่คิปโชเก (2.01.09 และ 2.01.39 ชั่วโมง) กับ เคเนนิซา เบเกเล (2.01.41 ชั่วโมง) เท่านั้น

หลังจากนั้นคิปตัมก็กลายเป็นนักวิ่งปริศนาที่สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงให้แก่โลก

มาราธอนรายการที่ 2 ที่เขาลงแข่งคราวนี้เป็นรายการระดับเมเจอร์อย่าง ‘ลอนดอนมาราธอน’​ ในเดือนเมษายน 2023 และคว้าชัยชนะได้อย่างง่ายดายทั้งๆ ที่สภาพแวดล้อมไม่ดี มีฝนตกลงมา โดยทำเวลาได้ 2.01.25 ชั่วโมง ทุบสถิติเดิมของคิปโชเกที่เคยทำไว้ 2.02.37 ชั่วโมง ได้เร็วกว่าถึงนาทีนิดๆ

แท็กติกที่เขาเลือกใช้คือ Negative Split หรือการเร่งฝีเท้าในช่วงครึ่งหลังของการแข่งให้เร็วกว่าครึ่งแรก ซึ่งเป็นแท็กติกเดียวกับที่ใช้ในการแข่งรายการที่วาเลนเซีย

ในชัยชนะครั้งนี้ คิปตัมยังเอาชนะฮีโร่ที่เป็นแรงบันดาลใจของตัวเองอย่าง เจฟฟรีย์ คัมวอเรอร์ ซึ่งเป็นคนที่มาจากหมู่บ้านเดียวกันได้ด้วย

จากนั้นคิปตัมก็กลายเป็นมากกว่าแค่ฮีโร่ เพราะเขากลายเป็นซูเปอร์ฮีโรของโลกไปแล้ว เมื่อทำลายสถิติโลกได้ในการแข่งขันรายการชิคาโกมาราธอน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ด้วยเวลา 2.00.35 นาที

ทำลายสถิติโลกเดิมที่คิปโชเกทำไว้ในรายการเบอร์ลินมาราธอน เมื่อปี 2022 ได้ถึง 34 วินาที ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้คิดทำลายสถิติมาก่อน แต่มาเริ่มคิดเอาตอนครึ่งหลังของการวิ่งเท่านั้น

“แต่ผมรู้ว่าสักวันผมจะทำได้อยู่แล้ว”

ถึงตรงนี้โลกมีความหวังใหม่ คนที่จะรับไม้บาตองต่อจากคิปโชเกในการทำภารกิจ ‘Sub 2’ ในการแข่งขันจริงๆ ให้ได้ ซึ่งแม้ความจริงคิปโชเกยังคงเป็นความหวังสูงสุดอยู่ แต่ด้วยวัยที่มากขึ้น ส่งผลต่อผลงานของนักวิ่งเบอร์หนึ่งของโลกไม่น้อยในช่วงหลัง

ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เรื่องของการวิ่งมาราธอนต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เคยเป็นเรื่องนิยายวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีใครกล้าคิดมาก่อน แต่การที่จู่ๆ โลกก็มีนักวิ่งวัย 23 ปีที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนและเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการมาราธอนได้ในเวลาไม่ถึงปี นี่คือ ‘ปรากฏการณ์’ ที่ยิ่งใหญ่ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในระดับเดียวกับที่โลกเพิ่งเคยเจอกับ มูฮัมหมัด อาลี หรือ เปเล่ เลยทีเดียว

ด้วยพรสวรรค์ วัย และเวลาแล้ว คิปตัมกำลังจะเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่า (หรือเป็นไปแล้วด้วยซ้ำ) คิปโชเก

ในภาพความฝัน คิปตัมมีโอกาสจะกลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ก้าวผ่านกำแพงที่เคยถูกมองว่าไม่มีวันก้าวข้ามได้

มันจะกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนทั้งโลกในยุคที่มองหาความหวังยากขึ้นทุกเวลานาที

การจากไปก่อนวัยอันควรทั้งของเขาและโค้ชจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงเป็นเรื่องที่ทั้งยากจะเชื่อและยากที่จะทำใจ

โลกได้สูญเสียความหวังและแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ คนที่ฟ้าส่งมาให้เป็นนักวิ่งในระดับ ‘ร้อยปีจะมีสักคน’

จริงอยู่ที่สักวันเราจะมีนักวิ่งดาวดวงใหม่เกิดขึ้นมา แต่สิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจจะยังคงอยู่

ถ้า เคลวิน คิปตัม ยังอยู่ เขาจะทำให้เกิดปรากฏการณ์อะไรได้อีกบ้างนะ

แต่ ณ เข็มนาฬิกาเดินไป เรื่องนี้ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรแล้ว

หลับให้สบายนะพ่อนักวิ่ง ขอบคุณสำหรับประกายแสงที่สว่างจ้า แม้จะเพียงชั่วเวลาสั้นๆ ก็ตาม

The post โลกสูญเสียมากแค่ไหนในการจากไปของ เคลวิน คิปตัม appeared first on THE STANDARD.

เกิดเหตุเพลิงไหม้เนื่องจากก๊าซระเบิดที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 271 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน

ภาพจากวิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นเปลวเพลิงขนาดมหึมาโหมกระหน่ำที่บริษัท Kentainers ซึ่งอยู่ใกล้กับแฟลตที่พักของประชาชนในภูมิภาคเอมบากาซี โดยโฆษกรัฐบาลรายงานว่า พนักงานกำลังบรรจุก๊าซลงถังตอนที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้นก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี (1 กุมภาพันธ์) แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งจะต้องรอการสืบสวนต่อไป ขณะชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกเล่ากับสื่อท้องถิ่นว่า พวกเขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนตอนที่เกิดเหตุระเบิดด้วย

ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่รายงานว่าอาคารของบริษัท Kentainers ได้รับความเสียหายรุนแรง โดยขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้ามาในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยและจัดส่งรถดับเพลิงเข้าไปในพื้นที่ โดยเพลิงนั้นได้ลามไปยังอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้เคียงด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดถูกนำตัวส่งสถานพยาบาลแล้ว

ภาพ: Thomas Mukoya / Reuters

อ้างอิง:

• www.bbc.com/news/world-africa-68176857

The post เกิดเหตุก๊าซระเบิดในเคนยา เจ็บทะลุ 200 คน ตาย 2 คน appeared first on THE STANDARD.

ทางการเคนยาประกาศให้วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันหยุดพิเศษที่เปิดโอกาสให้ประชาชนช่วยกันปลูกป่าทั่วประเทศ เพื่อรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามส่วนหนึ่งของรัฐบาลเคนยาที่ต้องการจะปลูกต้นไม้ให้ได้ 1.5 หมื่นล้านต้นภายในปี 2032

คิทูรี คินดิกิ รัฐมนตรีมหาดไทยของเคนยา ระบุว่า “รัฐบาลเคนยาได้ประกาศวันหยุดพิเศษขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ประชาชนชาวเคนยาได้แสดงออกถึงความรักชาติด้วยการร่วมกันปลูกต้นไม้ เพื่อช่วยกันปกป้องประเทศของเราจากผลกระทบที่ร้ายแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

ปัจจุบันเคนยามีพื้นที่ป่าไม้อยู่ราว 7% โดยรัฐบาลเคนยาได้จัดสรรงบประมาณกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 พันล้านบาท) เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปริมาณต้นไม้ในเคนยาลดจำนวนลง และส่งผลต่อปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศด้วย

ขณะนี้เคนยาและอีกหลายประเทศในแอฟริกากำลังเผชิญปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและวิกฤตโลกร้อน ที่ส่งผลให้เกิดวิกฤตภัยแล้งรุนแรง ปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าเกณฑ์นานถึง 5 ปีติดต่อกัน รัฐบาลเคนยาจึงสนับสนุนการปลูกต้นไม้อย่างจริงจัง โดยมุ่งหวังว่า แคมเปญปลูกต้นไม้ทั่วประเทศนี้จะมีส่วนช่วยทำให้สถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมโลกดีขึ้นไม่มากก็น้อย 

ทางด้าน วิลเลียม รูโต ประธานาธิบดีเคนยา ได้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศนับตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อเดือนกันยายน 2022 โดยเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ให้ได้ 1.5 หมื่นล้านต้นภายในปี 2032 นั้น สะท้อนความพยายามอย่างยิ่งยวดจนได้รับคำชมจากคิงชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ที่ทรงสนใจประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ในโอกาสที่พระองค์เสด็จฯ เยือนเคนยาอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

แฟ้มภาพ: James Wakibia / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

อ้างอิง: 

• www.theguardian.com/world/2023/nov/07/kenya-makes-13-november-nationwide-tree-planting-day-a-public-holiday 
• www.independent.co.uk/climate-change/news/climate-crisis-trees-kenya-planting-holiday-b2442983.html
• https://abcnews.go.com/International/wireStory/kenya-declares-surprise-public-holiday-national-campaign-plant-104683306 

The post เคนยาประกาศวันหยุดพิเศษ 13 พฤศจิกายนนี้ เตรียมปลูกป่าทั่วประเทศ ตั้งเป้า 1.5 หมื่นล้านต้นภายในปี 2032 appeared first on THE STANDARD.

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเคนยาตรวจพบหลุมศพขนาดใหญ่ที่มีศพจำนวนมากอยู่ในป่าชากาโฮลาทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเคนยา ใกล้กับโบสถ์ของลัทธิ Good News International Church ทางการเชื่อว่า ศพเหล่านี้เกี่ยวพันกับลัทธินี้ที่เชื่อว่า อดอาหารจนตายก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึงจะได้ขึ้นสวรรค์ 

ล่าสุด ทางการเคนยายังขุดพบร่างผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้สูงกว่า 300 คนแล้ว โดยเชื่อว่ายังมีผู้สูญหายอีกราว 600 คน นับเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ เบื้องต้น นักบวชพอล แมคเคนซี ผู้นำลัทธิดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งยังให้การปฏิเสธและยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตเหล่านี้ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด 

นอกจากนี้ยังมีรายงานระบุว่า สมาชิกลัทธิบางส่วนที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเคนยาพยายามที่จะอดอาหารจนเสียชีวิตตามความเชื่อของพวกเขา ขณะที่อยู่ภายในศูนย์พักฟื้นแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง

The post ชมคลิป: เปิดปมโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในเคนยา ลัทธิอดอาหารจนตาย จะได้ขึ้นสวรรค์? | GLOBAL FOCUS #29 appeared first on THE STANDARD.

ทางการเคนยาเผย จำนวนร่างผู้เสียชีวิตของสมาชิกลัทธิความเชื่อ ‘อดอาหารจะได้ขึ้นสวรรค์’ ที่ขุดพบในป่าชากาโฮลาทางตะวันออกเฉียงใต้ของเคนยา ใกล้กับโบสถ์ของลัทธิ Good News International Church ขณะนี้พุ่งสูงเกิน 300 ศพแล้ว นับเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศแห่งนี้

โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า บรรดาผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นสมาชิกของโบสถ์ Good News International Church ที่มีนักบวชพอล แมคเคนซี เป็นผู้เผยแพร่ชุดความเชื่อที่ว่า หากบรรดาสมาชิกลัทธิและลูกๆ ของพวกเขาอดอาหารจนตาย พวกเขาจะได้ขึ้นสวรรค์ ก่อนวันสิ้นโลกจะเดินทางมาถึง

โดยทางการเคนยาเผยว่า ขณะนี้ยังมีรายงานผู้สูญหายอีกกว่า 600 คน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ผู้สูญหายบางส่วนอาจเป็นเหยื่อของลัทธิแห่งนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้ขยายพื้นที่การค้นหาให้ครอบคลุมส่วนต่างๆ ของภูมิภาคนี้ยิ่งขึ้น เพื่อพยายามค้นหาเหยื่อและร่างผู้เสียชีวิตจากคดีสะเทือนขวัญครั้งนี้

สื่อท้องถิ่นของเคนยารายงานว่า มีสมาชิกของลัทธิราว 65 คนพยายามที่จะฆ่าตัวตาย หลังจากที่พวกเขาอดอาหารระหว่างวันที่ 6-10 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะกำลังอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือและพักพิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง

ทางด้าน คิทูรี คินดิกิ รัฐมนตรีมหาดไทยของเคนยา ได้แสดงความกังวลใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น หลังจากมีผู้ติดตามนักบวชแมคเคนซีบางส่วนเลือกที่จะอดอาหารตามแนวทางที่พวกเขาเชื่อ ซึ่งหนึ่งในนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ขณะที่แมคเคนซีถูกจับกุมตัวตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทางการปฏิเสธที่จะให้การประกันตัว ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยถูกจับกุมตัวฐานตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมเด็ก 2 คน ด้วยการปล่อยให้อดอาหารและทำให้หายใจไม่ออกเมื่อช่วงต้นปีนี้ ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวในท้ายที่สุด 

ส่วนแมคเคนซีระบุว่า ตัวเขาได้ปิดโบสถ์ลัทธิดังกล่าวไปแล้วเมื่อปี 2019 พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้เป็นคนสั่งให้บุคคลเหล่านี้ต้องอดอาหารจนตายเพื่อไปพบพระผู้เป็นเจ้าบนสรวงสวรรค์ พร้อมทั้งระบุว่า การอดอาหารจนเสียชีวิตนั้นไม่ได้เกิดจากการถูกขู่บังคับแต่อย่างใด 

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบวิดีโอเทศนาคำสอนที่เพิ่งอัปโหลดและเผยแพร่บนโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ของแมคเคนซี อีกทั้งบรรดาญาติของของสมาชิกลัทธิที่เสียชีวิตไปแล้วระบุว่า แมคเคนซีกลับมาที่ป่าแห่งนี้อีกครั้ง และเดินหน้าทำตามคำทำนายวันสิ้นโลก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 จนถึง 15 เมษายนที่ผ่านมา

แฟ้มภาพ: Yasuyoshi Chiba / AFP

อ้างอิง:

• https://www.reuters.com/world/africa/death-toll-kenyan-doomsday-cult-crosses-300-2023-06-13/ 
• https://www.yahoo.com/news/death-toll-kenyan-doomsday-cult-172507905.html 
• https://www.voanews.com/a/death-toll-from-kenyan-doomsday-cult-crosses-300/7135432.html 

The post จำนวนร่างผู้เสียชีวิตของลัทธิความเชื่อ ‘อดอาหารจะได้ขึ้นสวรรค์’ ในเคนยา พุ่งสูงเกิน 300 ศพแล้ว appeared first on THE STANDARD.

การสืบสวนสอบสวนกรณีขุดพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากในป่าแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของเคนยา ใกล้กับโบสถ์ของลัทธิ Good News International Church ที่เชื่อว่า การอดอาหารจนเสียชีวิตจะทำให้ได้ขึ้นสวรรค์นั้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดขุดพบร่างผู้เสียชีวิตมากถึง 201 รายแล้ว

ตีตัส คาตานา อดีตผู้ช่วยนักบวชในลัทธิดังกล่าว ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเคนยาในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ว่า ลัทธิจะมุ่งเป้าที่ไปเด็กๆ ก่อน แล้วจึงจะตามด้วยผู้หญิงและผู้ชายเป็นลำดับถัดๆ ไปตามแผนการของลัทธิ โดยลัทธิจับเด็กๆ ขังไว้ในกระท่อม ไม่ให้กินอาหารและน้ำนานกว่า 5 วันจนเสียชีวิต ก่อนที่จะนำร่างของเด็กๆ ห่อในผ้าห่มและฝังดิน แม้จะมีเด็กบางคนที่ยังคงหายใจรวยรินอยู่ก็ตาม

ทางการเคนยาเผยว่า ยังมีสมาชิกลัทธิกว่า 600 คนที่เชื่อและศรัทธาในคำสอนของลัทธิตามที่ นักบวชพอล แมคเคนซี พร่ำสอน แต่ยังไม่พบร่างหรือได้รับการยืนยันสถานะการเสียชีวิต

ขณะนี้นักบวชแมคเคนซีอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเคนยา โดยให้การว่า ตนเองปิดตัวลัทธิดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่ 4 ปีก่อน หลังเปิดทำการมานานกว่า 20 ปี พร้อมทั้งยืนยันว่า การอดอาหารจนเสียชีวิตนั้นไม่ได้เกิดจากการถูกขู่บังคับแต่อย่างใด แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะยังคงพบวิดีโอเทศนาคำสอนที่เพิ่งอัปโหลดและเผยแพร่บนโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม

โดยคาตานายังได้เผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจออกจากโบสถ์ดังกล่าวว่า คำสอนของนักบวชแมคเคนซีแปลกและผิดเพี้ยนขึ้นเรื่อยๆ นอกจากความเชื่อที่ว่าอดอาหารจนเสียชีวิตจะได้ขึ้นสวรรค์และกลับสู่อ้อมอกของพระเจ้าแล้ว เขายังสอนให้บรรดาแม่ๆ ในลัทธิไม่ต้องกินยาบำรุงใดๆ ขณะตั้งครรภ์ รวมถึงไม่แนะนำให้พาเด็กๆ ไปรับวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ อีกด้วย เนื่องจากเขาเชื่อว่าวิทยาศาสตร์คือสิ่งอันตราย รวมถึงยังเชื่อในวันสิ้นโลกอีกด้วย 

นับเป็นหนึ่งในคดีสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ และสร้างความเศร้าสลดใจให้กับชาวเคนยาและผู้คนที่รับรู้ถึงเรื่องราวนี้เป็นอย่างมาก

ภาพ: Yasunoshi Chiba / AFP

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/news/world-africa-65588273
• https://www.aljazeera.com/news/2023/5/13/kenya-starvation-cult-death-toll-climbs-to-201  
• https://www.pbs.org/newshour/world/kenya-cult-death-toll-surpasses-200-more-than-600-people-reported-missing 

The post นักบวชเคนยาเผย ลัทธิความเชื่ออดอาหารจนตายจะได้ขึ้นสวรรค์ จับเด็กขังในกระท่อม ไม่ให้กินอาหารและน้ำจนตาย appeared first on THE STANDARD.