K-Zombie – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 06 Feb 2024 06:49:30 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘ซอมบี้ฟุตบอล’ จะพาเกาหลีใต้ถึงฝันเอเชียนคัพหรือไม่? https://thestandard.co/south-korea-afc-asian-cup/ Tue, 06 Feb 2024 06:49:08 +0000 https://thestandard.co/?p=896621 ซอมบี้ฟุตบอล

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ดูเหมือนคนเกาหลีกับหนังแนวซ […]

The post ‘ซอมบี้ฟุตบอล’ จะพาเกาหลีใต้ถึงฝันเอเชียนคัพหรือไม่? appeared first on THE STANDARD.

]]>
ซอมบี้ฟุตบอล

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ดูเหมือนคนเกาหลีกับหนังแนวซอมบี้จะเป็นของที่เข้ากันได้อย่างน่าประหลาดใจ

 

จากเรื่องราวของ Train to Busan ที่เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ ‘K-Zombie’ จนนำมาสู่ซีรีส์ที่ได้รับการกล่าวขานอย่าง Kingdom และอีกมากมายหลายเรื่องตามมา นับได้ว่าเป็นความสำเร็จที่งดงามสำหรับวงการบันเทิงแดนกิมจิ

 

แต่ในวงการฟุตบอลเองดูเหมือนซอมบี้ก็เริ่มจะเข้ามามีส่วนนิดๆ ด้วยเหมือนกัน กับผลงานของทีมชาติเกาหลีใต้ในรายการเอเชียนคัพ ที่ตอนนี้เข้ามาจนถึงรอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

สถิติที่น่าสนใจคือใน 5 นัดที่ลงสนามพวกเขามาทำประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังถึง 4 ประตู

 

ความตายยากตายเย็นนี้เองที่ทำให้เกาหลีใต้ถูกขนานนามว่า ‘ซอมบี้ฟุตบอล’ 🧟‍♂️

 

รายการฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในเรื่องของคุณภาพเกมการแข่งขันที่พัฒนาขึ้นจากในอดีตมาก โดยเฉพาะการเติบโตของบรรดาทีมเล็กทีมน้อยที่เคยถูกมองว่าเป็นไม้ประดับ ก็สามารถปักหลักต่อสู้กับทีมใหญ่ได้อย่างน่าประทับใจ

 

 

แต่ในจำนวนนี้ก็มีทีมที่เล่นได้ไม่เป็นที่น่าประทับใจเหมือนกัน ซึ่งทีมที่แฟนบอลดูแล้วส่ายหัวมากที่สุดคือทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ได้ ‘ฉลามขาว’ เจอร์เกน คลินส์มันน์ ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมนี ที่เคยคุมทีม ‘อินทรีเหล็ก’ ในช่วงฟุตบอลโลก 2006 รวมถึงทีมชาติสหรัฐอเมริกามาคุมทัพ

 

จากทีมที่แข็งแกร่ง ดุดัน เล่นได้มันที่สุดทีมหนึ่ง เกาหลีใต้ในเอเชียนคัพครั้งนี้อ่อนปวกเปียก ไม่เฉียบคมเหมือนเก่า และดูไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับทีมที่มีสมญาในอดีตว่าพลังโสม (สมัยก่อนคนเฒ่าเขาแซวกันว่านักเตะเกาหลีใต้กินโสมเยอะเลยแรงดี)

 

แต่ก็อีกนั่นแหละ ขนาดเล่นแย่เกาหลีใต้ก็ทะลุเข้ามาได้ถึงรอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระหว่างทางพวกเขาผ่านด่านมหาหินอย่างซาอุดีอาระเบีย รวมถึงออสเตรเลียมาได้อย่างไม่มีใครอยากเชื่อในรอบ 16 ทีมและ 8 ทีมสุดท้าย

 

ทั้งสองนัดเริ่มและจบลงเหมือนกันประหนึ่งหนังภาคต่อ เกาหลีใต้ตกเป็นรอง และเล่นไม่เป็นโล้เป็นพายเลย จนกระทั่งมาฮึดเอาในช่วงสุดท้ายของเกม

 

ในเกมกับซาอุดีอาระเบีย พวกเขาทำประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 99 ก่อนจะยื้อกันในช่วงต่อเวลาพิเศษและเอาชนะได้ในการดวลจุดโทษ

 

ส่วนในเกมกับออสเตรเลียไม่ต้องถึงฎีกา แต่กว่าจะตีเสมอได้ก็คือนาทีที่ 6 ของการทดเวลาจากจุดโทษของฮวังฮีชาน แล้วมาพลิกแซงชนะได้จากลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษของซนฮึงมินที่โชว์ความเป็นสุดยอดนักเตะระดับโลกของแท้ยิงหลอกเข้าเสาแรกอย่างเหนือชั้น

 

 

ความตายยากของเกาหลีใต้ที่เหมือนจะถูกปลุกให้ตื่นในช่วงสุดท้ายของเกม และปลดปล่อยพลังหลังจากได้ประตูตีเสมอเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก

 

ในถ้อยคำของคลินส์มันน์เองก็ดูเหมือนจะปล่อยทุกอย่างให้อยู่ในมือสตาร์ของทีมอย่างซนฮึงมิน, ฮวังฮีชาน รวมถึงอีคังอิน ที่จะหาหนทางเอาชัยชนะมาให้ทีมให้ได้

 

“ซนเป็นผู้นำและผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม ผมเชื่อในการตัดสินใจของเขา” คลินส์มันน์ที่ดูไม่มีสง่าราศีเหลือเลยกล่าว โดยที่แฟน ‘นักรบแทกุก’ เองก็ไม่ค่อยสนใจฟังเท่าไร เพราะไม่เชื่อมือของกุนซือชาวเยอรมันคนนี้มาสักพักแล้ว

 

ความจริงไม่มีใครคาดหวังกับศูนย์หน้าที่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1990 มาแล้วสักเท่าไร

 

คลินส์มันน์ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมชาติเกาหลีใต้เมื่อต้นปี 2023 แทนที่ของเปาโล เบนโต ที่อำลาหลังจบภารกิจในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ซึ่งปรากฏว่าการทำงานในช่วงแรกเป็นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งในสายตาของสื่อมวลชนเกาหลีใต้

 

ไม่เพียงแค่ฟอร์มการเล่นของทีมที่ย่ำแย่ การปฏิบัติกับสื่อของคลินส์มันน์ก็ไม่เป็นที่ถูกใจนัก โดยเฉพาะเรื่องของการให้สัมภาษณ์ผ่าน Zoom จากบ้านพักที่แคลิฟอร์เนีย

 

เสียงวิจารณ์ดังกระหึ่มในช่วงเวลาดังกล่าว ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับทั้งเรื่องผลงานของทีม ไปจนถึงเรื่องของการวางตัวต่างๆ เพียงแต่ในความรู้สึกลึกๆ แล้วไม่มีคนเชื่อมือหรือเชื่อใจกุนซือฉลามขาวคนนี้สักเท่าไรนัก

 

อย่างไรก็ดีในการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ ทีมที่ประสบความสำเร็จไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นทีมที่เล่นได้ดีสวยงามตั้งแต่นัดแรกเสมอไป

 

บ่อยครั้งทีมที่เริ่มต้นได้กระท่อนกระแท่น แต่ค่อยๆ เริ่มดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปแต่ละนัดก็จบด้วยถ้วยแชมป์ ตัวอย่างที่ดีล่าสุดคือในฟุตบอลโลก 2022 ที่อาร์เจนตินา เริ่มต้นด้วยการแพ้ซาอุดีอาระเบียมาก่อนจะค่อยๆ พลิกฟอร์ม ฝ่าตะลุยไปทีละรอบทีละนัดจนสุดท้ายคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ปิดตำนานเทพนิยายลูกหนังของลิโอเนล เมสซีได้

 

 

เกาหลีใต้ก็มีโอกาสจะทำได้เช่นกัน หลังจากที่ไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้เลยนับตั้งแต่ปี 1964 หรือ 50 ปีมาแล้ว โดยครั้งล่าสุดที่ได้เข้าชิงชนะเลิศคือปี 2015 แต่ก็พ่ายให้กับออสเตรเลีย (ซึ่งมี แอนจ์ ปอสเตโคกลู คุมทัพ และเป็นบอสของซนฮึงมินในสโมสร)

 

เริ่มจากเกมคืนนี้ที่จะพบกับจอร์แดน ซึ่งบู๊กันมาอย่างสนุกในเกมรอบแรกที่เสมอกัน 2-2 โดยที่จอร์แดนก็เป็นหนึ่งในความเซอร์ไพรส์ของรายการนี้

 

ถ้าหากผ่านด่านไปได้ก็จะรอพบกับผู้ชนะระหว่างแชมป์เก่าและเจ้าภาพกาตาร์ หรืออิหร่านที่หักด่านญี่ปุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม

 

คลินส์มันน์บอกเป็นนัยว่าทีมของเขาพร้อมเสมอหากเกมจะยื้อไปถึงช่วงของการต่อเวลาพิเศษ หรือแม้แต่การดวลจุดโทษ

 

ฟอร์มอาจไม่โดนใจ แต่บอกเลยไม่มีใครประมาท ‘ซอมบี้ฟุตบอล’ ได้แน่นอนในตอนนี้!

 

อ้างอิง:

The post ‘ซอมบี้ฟุตบอล’ จะพาเกาหลีใต้ถึงฝันเอเชียนคัพหรือไม่? appeared first on THE STANDARD.

]]>
All of Us Are Dead ซีรีส์ที่เอาคนดูอยู่ตั้งแต่ 15 นาทีแรก พร้อมเหตุผลชวนกดดูได้เลยถ้าคุณเป็นแฟนซอมบี้เกาหลี https://thestandard.co/all-of-us-are-dead/ Fri, 28 Jan 2022 07:17:29 +0000 https://thestandard.co/?p=587749 All of Us Are Dead

All of Us Are Dead ซีรีส์มัธยมซอมบี้ เรียกได้ว่ามาในพล็ […]

The post All of Us Are Dead ซีรีส์ที่เอาคนดูอยู่ตั้งแต่ 15 นาทีแรก พร้อมเหตุผลชวนกดดูได้เลยถ้าคุณเป็นแฟนซอมบี้เกาหลี appeared first on THE STANDARD.

]]>
All of Us Are Dead

All of Us Are Dead ซีรีส์มัธยมซอมบี้ เรียกได้ว่ามาในพล็อตซอมบี้วัยรุ่นและการเอาชีวิตรอด ถ้าใครได้ลองกดดู EP 1-2 ก็ต้องบอกว่า เปิดเรื่องมาอย่างน่าสนใจ กับจุดเริ่มต้นไวรัสซอมบี้ที่ไม่ต้องยืดเยื้อมากความ และแค่อีพีแรกก็ซื้อให้เราดูต่อได้แล้ว 

 

สำหรับแวดวง K-Zombie ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก นับจาก Train to Busan, Kingdom, Alive และอีกมากมาย จนทำให้เกิดคำนิยาม ‘ซอมบี้เกาหลี’ ที่เป็นภาพจำชัดเจนในแบบที่ไม่ต้องอธิบายใดๆ ความรวดเร็วในการติดเชื้อและกลายร่าง,​ ท่าทางการเคลื่อนไหวที่ขยับแล้วหักผิดท่าทางที่กลายเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในซีรีส์ All of Us Are Dead ออริจินัลคอนเทนต์จาก Netflix ก็เปิดฉากมาในรูปลักษณ์ซอมบี้แบบเดียวกัน และทำให้ตัวละครในเรื่องเข้าใจได้ทันทีว่านี่แหละซอมบี้เกาหลี เราหนีกันก่อนดีกว่า ส่วนมันจะมีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร ค่อยมาคุยกันอีกที

 

นั่นเลยทำให้ All of Us Are Dead ไม่ต้องเสียเวลามาปูพื้นอธิบายการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสนี้ แล้วขยี้ความตื่นเต้นลุ้นระทึกที่คนดูต้องการได้ทันทีในยุคสมัยที่เวลาทุกวินาทีมีค่า

 

นอกจากประเด็นนี้ ยังมีอีกหลายเหตุผลที่เราอยากแนะนำ All of Us Are Dead ซีรีส์ซอมบี้เกาหลีที่ผู้กำกับและเหล่านักแสดงนำได้ให้สัมภาษณ์ถึงความตั้งใจในการสร้างซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้

 

 

ฉากหลังมากกว่า 80% อยู่ในโรงเรียน

All of Us Are Dead แข็งแรงด้วยตัวมันเองในเรื่องราวการต่อสู้หนีตายจากซอมบี้ในโรงเรียน นั่นเลยทำให้ผู้กำกับลงทุนสร้างอาคาร 4 ชั้น สูง 100 เมตร พร้อมด้วยรายละเอียดเท่าที่โรงเรียนจริงๆ ควรจะมี ทั้งห้องโสตทัศนศึกษา ห้องศิลปะ ห้องดนตรี ห้องสมุด โรงอาหาร และหอประชุม ทำให้ฉากเหมือนจริงจนนึกว่าโลเคชันอยู่ในโรงเรียนสักแห่งที่โซล

 

ผู้กำกับอีแจคยู ให้สัมภาษณ์ว่า “สถานที่เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะต้องมีรายละเอียด อย่างเช่น กองเลือดที่กระจายเต็มไปหมด เราจึงอยากสร้างฉากที่เป็นพิเศษขึ้นมาเอง ตอนที่ได้เห็นเซ็ตครั้งแรกก็ตกใจเหมือนกันครับ มันใหญ่มากๆ เรียกว่าเป็นโรงเรียนจริงๆ ได้เลย เราใช้ฉากโรงเรียนเป็นหลัก จนเรียกได้ว่าเป็นนักแสดงนำอีกคนเลย”

 

ผู้กำกับอีแจคยู รวมพลังกับนักเขียนชอนซองอิล สร้างเว็บตูนยอดฮิตให้กลายเป็นซีรีส์ All of Us Are Dead

ผู้กำกับอีแจคยู ผู้สร้างซีรีส์เกาหลียอดฮิต ไม่ว่าจะเป็น The King 2 Hearts, Beethoven Virus ร่วมมือกับนักเขียนชอนซองอิล ที่เคยสร้างผลงานซีรีส์ The Slave Hunters และภาพยนตร์เรื่อง The Pirates และ 7th Grade Civil Servant ในการนำเว็บตูนเรื่อง Now at Our School ของนักเขียนยูดองกึน ที่ฮิตมากในช่วงปี 2009-2011 ให้กลายมาเป็นเวอร์ชันซีรีส์

 

ผู้กำกับอีแจคยู ยังได้บอกเคล็ดลับที่จะรับชม All of Us Are Dead ได้เต็มอารมณ์มากขึ้นด้วยการเปิดเสียงให้ดังกว่าปกติ เพราะเขาจัดเต็มคุณภาพเสียงที่ละเอียด กระทั่งเสียงหัวใจเต้น กระดูกหัก และเสียงบางๆ เบาๆ ต่างๆ ที่ฟังแล้วอดขนลุกไม่ได้ นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องแสงที่ให้อารมณ์แปลกไป นับจากความสว่างไสวของวัยรุ่นในอีพีแรกๆ ไปสู่ความมืดทึมในอีพีถัดๆ ไป ตามเรื่องราวที่ยิ่งดาร์กขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

นักแสดงดาวรุ่ง พัคจีฮู, ยุนชานยอง, ชเวอีฮยอน, พัคโซโลมอน, ยูอินซู, อียูมี, อิมแจฮยอก 

ความสนุกของซีรีส์ All of Us Are Dead ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในแวดวงแฟนๆ ซอมบี้เกาหลีเท่านั้น แต่คนที่ไม่เคยดูซีรีส์ซอมบี้มาก่อนก็เข้าถึงอารมณ์ได้ง่ายๆ ด้วยเช่นกัน ทีมนักแสดงนำจึงเป็นแคสต์ที่ค่อนข้างใหม่ และทำให้ตัวละครสดใหม่เหมือนจริง นำทีมโดย พัคจีฮู, ยุนชานยอง, ชเวอีฮยอน, พัคโซโลมอน, ยูอินซู, อียูมี และ อิมแจฮยอก  

 

ผู้กำกับอีแจคยู เล่าว่า การถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้เขาสนุกมาก การทำงานกับนักแสดงรุ่นใหม่ทำให้เขาเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง นอกจากนี้ผู้กำกับอีแจคยู ยังย้ำประเด็นที่ว่า การกระทำที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่นของเหล่านักเรียนมีส่วนทำให้ซีรีส์ยิ่งคาดเดาไม่ได้มากขึ้น “ในสถานการณ์อันตราย ผู้ใหญ่มีแนวโน้มจะเลือกทางที่ความเสี่ยงต่ำ แต่กลับกัน วัยรุ่นจะกล้าเสี่ยงและทำตามอารมณ์มากกว่า คุณสมบัตินี้แสดงออกอย่างชัดเจนเมื่อบรรดาเด็กนักเรียนต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆ จากฝูงซอมบี้” 

 

ทีมนักแสดงเข้าคอร์สเข้ม เรียนการแสดง และซ้อมฉากแอ็กชันกว่า 3 เดือน ก่อนเริ่มถ่ายทำ

ยูอินซู และ ยุนชานยอง เพื่อนสนิทในชีวิตจริง มาร่วมแสดงซีรีส์ All of Us Are Dead ด้วยกัน และพวกเขาต้องฝึกหนักร่วมกับโซโลมอน เพราะเป็นตัวละครที่มีฉากแอ็กชันเยอะกว่านักแสดงคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังวัยรุ่น ออกกำลังกาย และเล่นกีฬากันเป็นประจำ แต่ก็ยังยอมรับว่าการฝึกนั้นหนัก โหด และเข้มมากจริงๆ

 

ยุนชานยอง: ในวันหนึ่งเราต้องฝึกกัน 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ซึ่งใน 1 ชั่วโมงนั้นเป็นการฝึกโดยไม่มีหยุดพักเลยครับ ตอนเข้าคลาสฝึกครั้งแรกเหนื่อยสุดๆ เหมือนจะทนฝึกให้ครบ 3 ชั่วโมงไม่ไหวเลยครับ

 

พัคโซโลมอน: ผมเป็นคนเล่นกีฬาเป็นประจำอยู่แล้ว เลยค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะหนักหนาสาหัสอะไร แต่พอเอาเข้าจริง หลังจากฝึกซ้อมครั้งแรก พอกลับมาบ้านผมนอนสลบไป 3 วัน แถมยังต้องไปฝังเข็มอีกด้วยครับ

 

ผู้กำกับอีแจคยู: ครูสอนศิลปะการต่อสู้เทรนอย่างเข้มงวดมากครับ ครั้งแรกที่ฝึกซ้อมเสร็จ ผมบอกกับครูฝึกว่าเด็กๆ ต้องไม่ไหวแน่ๆ แต่พอฝึกไปเรื่อยๆ พวกเขาก็ค่อยๆ พัฒนาไปตามลำดับ ขนาดที่ในตอนหลังสตาฟฟ์ถึงกับเอ่ยปากชมชานยองว่าเก่งแบบนี้ไม่ต้องใช้สตันท์แล้วก็ได้

 

All of us are Dead Cr. Yang Hae-sung/Netflix © 2021

 

สร้างสรรค์การเคลื่อนไหวของซอมบี้ที่เหนือซอมบี้กว่าเดิม

ไม่ใช่แค่นักแสดงหลักที่ต้องฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น บรรดานักแสดงซอมบี้ตัวหลักมากกว่า 60 ชีวิตที่คัดเลือกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะก็ต้องฝึกหนัก 3-4 เดือน ทั้งเรื่องการแสดงออกทางสีหน้า ศิลปะการต่อสู้ และการเคลื่อนไหวที่ชวนขนลุก 

 

โดยได้ กุกจุงอี นักออกแบบท่าเต้นที่สร้างซอมบี้เกาหลีให้โดดเด่นมาตั้งแต่ Kingdom 2, The Cursed: Dead Man’s Prey มานำเสนอแง่มุมที่พิสดาร มีลักษณะทางกายภาพที่เหนือกว่ามนุษย์ ทั้งยังแสดงออกได้ว่ามีความคิดและคำพูดได้เหมือนมนุษย์อีกต่างหาก

 

ผู้กำกับอีแจคยู ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราได้ทีมผู้ออกแบบท่าทางที่เป็นนักออกแบบท่าเต้นชื่อดังและนักแสดงฝีมือดีมาช่วยสร้างสรรค์ท่าทางที่ดูมีชีวิตชีวา ผมคิดว่าท่วงท่าของซอมบี้ในซีรีส์และความรู้สึกสิ้นหวังที่ตัวละครกลัวที่จะต้องทำร้ายซอมบี้ในขณะที่ฝูงซอมบี้จ้องแต่จะเอาชีวิตพวกเขาเป็นสิ่งที่ทำให้ All of Us Are Dead โดดเด่นจากผลงานซอมบี้เรื่องอื่นๆ”

 

 

All of Us Are Dead ซีรีส์ซอมบี้ในโรงเรียนมัธยม คือความท้าทายใหม่ของ K-Zombie กับจุดกำเนิดไวรัสซอมบี้ที่สร้างขึ้นจากความเจ็บปวด ความกลัว ความต้องการล้างระบบความแตกต่างและไม่เท่าเทียม ปลุกด้านมืดของมนุษย์เพื่อลุกขึ้นต่อสู้และเอาตัวรอด

 

ออกอากาศทั้งหมด 12 อีพี วันที่ 28 มกราคมนี้ ผ่านทางแพลตฟอร์ม Netflix กำกับโดย อีแจคยู, เขียนบทโดย ชอนซองอิล นำแสดงโดย พัคจีฮู, ยุนชานยอง, ชเวอีฮยอน, พัคโซโลมอน, ยูอินซู, อียูมี และ อิมแจฮยอก 

ดูเบื้องหลังซีรีส์ All of Us Are Dead ได้ที่

 

 

ภาพ: Netflix

The post All of Us Are Dead ซีรีส์ที่เอาคนดูอยู่ตั้งแต่ 15 นาทีแรก พร้อมเหตุผลชวนกดดูได้เลยถ้าคุณเป็นแฟนซอมบี้เกาหลี appeared first on THE STANDARD.

]]>
All of Us Are Dead สัมภาษณ์พิเศษ พัคจีฮู, ยุนชานยอง, ชเวอีฮยอน, พัคโซโลมอน และผู้กำกับอีแจคยู กว่าจะมาเป็นซีรีส์มัธยมซอมบี้ https://thestandard.co/all-of-us-are-dead-special-interview/ Thu, 27 Jan 2022 07:07:16 +0000 https://thestandard.co/?p=587296 All of Us Are Dead

All of Us Are Dead ซีรีส์ซอมบี้มัธยม เป็นผลงานออริจินัล […]

The post All of Us Are Dead สัมภาษณ์พิเศษ พัคจีฮู, ยุนชานยอง, ชเวอีฮยอน, พัคโซโลมอน และผู้กำกับอีแจคยู กว่าจะมาเป็นซีรีส์มัธยมซอมบี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
All of Us Are Dead

All of Us Are Dead ซีรีส์ซอมบี้มัธยม เป็นผลงานออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix ที่จะออกอากาศในวันที่ 28 มกราคมนี้แล้ว และน่าสนใจทีเดียวว่า ในฐานะผู้สร้างสรรค์คำเรียก K-Zombie จนกลายเป็นซอมบี้เกาหลีที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง All of Us Are Dead จะมีอะไรที่แปลกใหม่ แตกต่าง และยังต่อยอดจากการเป็นซอมบี้เกาหลี ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น เราน่าจะหาคำตอบได้จากบทสัมภาษณ์พิเศษชิ้นนี้

 

อย่างย่นย่อ All of Us Are Dead หรือชื่อภาษาไทย มัธยมซอมบี้ เป็นเรื่องของเหล่านักเรียนที่ถูกขังอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ขณะมีการแพร่กระจายของไวรัสซอมบี้ พวกเขาต้องช่วยกันเอาชีวิตรอดจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง

 

พัคจีฮู, ยุนชานยอง, ชเวอีฮยอน, พัคโซโลมอน นักแสดงนำ All of Us Are Dead  และผู้กำกับอีแจคยู พร้อมอยู่แล้วกับการสัมภาษณ์สื่อจากเอเชียแปซิฟิก สดจากโซล เกาหลีใต้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นผลงานการแสดงแรกๆ ของพวกเขา แต่กลับเต็มไปด้วยความมั่นใจและความสนุกสนานในการตอบคำถาม

 

 

คุณคงต้องเล่าถึงเหตุผลในการกำกับ All of Us Are Dead 

ผู้กำกับอีแจคยู: ที่ผ่านมา มีผลงานที่เกี่ยวกับซอมบี้มากมายเลยครับ ในหลายๆ เรื่องมักมีผู้ใหญ่เป็นคนดำเนินเรื่อง มีการใช้อาวุธปืน มีกองทัพทหารเข้ามาช่วยกวาดล้างฝูงซอมบี้ แต่ความพิเศษของ All of Us Are Dead เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียน สิ่งที่เราจับต้องได้มีแค่อุปกรณ์เครื่องใช้ที่อยู่ในโรงเรียน เช่น โต๊ะเรียน และเก้าอี้ 

 

การที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับกลุ่มนักเรียนที่ยังไม่มีมีวุฒิภาวะ ผมอยากแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะเลือกตัดสินใจอย่างไรเพื่อเอาชีวิตรอด และการที่มีกลุ่มวัยรุ่นเป็นตัวแสดงนำน่าจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับผลงานแนวซอมบี้ครับ

 

ยุนชานยอง: All of Us Are Dead มีซอมบี้โผล่ออกมาจากทุกทั่วทิศเลยครับ ผมว่าความแตกต่างอีกอย่างคือ ซอมบี้แต่ละตัวจะมีรอยกัดทั้งที่ใบหน้าบ้าง หรือที่แขนบ้าง อยากให้รอติดตามชมว่าในซีรีส์จะแตกต่างอย่างไรบ้างครับ

 

อย่างที่หลายคนทราบ All of Us Are Dead สร้างจากเว็บตูนที่ดังมาก มีคนคาดหวังกับซีรีส์เรื่องนี้หนักมากเช่นกัน คุณเตรียมพร้อมรับแรงกดดันอย่างไรบ้าง 

ผู้กำกับอีแจคยู: แน่นอนครับ ผมรู้สึกกดดันอยู่ตลอดเวลา เพราะดัดแปลงมาจากเว็บตูนระดับตำนานที่ผ่านการเรียบเรียงมาแล้วอย่างดี ผมคิดว่าทีมนักแสดงเองก็น่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน 

 

ก่อนการทำงาน ผมได้ปรึกษาและแลกเปลี่ยนไอเดียกับนักเขียนว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้เรื่องราวดูมีชีวิตชีวา เราต้องการสื่อให้เห็นว่ามนุษย์ควรมีความหวังในการใช้ชีวิต ผมอยากให้ทุกคนได้แง่คิดจากซีรีส์ในประเด็นนี้ครับ

 

All of us are Dead (L to R) Yoon Chan-young as Lee Cheong-san, Park Ji-hu as Nam On-jo in All of us are Dead Cr. Yang Hae-sung/Netflix © 2021

 

ช่วยอธิบายเกี่ยวกับตัวละครของพวกคุณใน All of Us Are Dead ให้ฟังหน่อย

พัคจีฮู:  ฉันรับบทเป็น นัมอนโจ นักเรียนชั้น ม.5 เป็นเด็กฉลาด และเพื่อนๆ รักเธอ ความที่พ่อเป็นนักดับเพลิง เธอจึงได้เรียนรู้ทักษะการเอาชีวิตรอด และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ในสภาวะวิกฤตค่ะ

 

ยุนชานยอง: ชองซานเป็นเพื่อนกับอนโจตั้งแต่เด็กๆ และแอบรักอนโจข้างเดียวครับ เขาเป็นเด็กใสซื่อ จิตใจดี และวิ่งหนีซอมบี้ได้อย่างว่องไว พ่อแม่ของทำธุรกิจเปิดร้านขายไก่ทอด เขาไม่ค่อยชอบใจที่แม่เอาหน้าเขาไปเป็นโลโก้ร้านสักเท่าไรครับ

 

ชเวอีฮยอน: ฉันรับบทเป็น นัมรา หัวหน้าห้อง ที่สอบได้ที่หนึ่งของห้อง นอกเวลาเรียนเธอมักจะใส่หูฟังอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่อยากพูดคุยหรือสุงสิงกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ไวรัสซอมบี้ระบาด เธอก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนค่ะ

 

พัคโซโลมอน: ซูฮยอก ตัวละครของผมมีความฝันอยากเป็นทหาร เขายืนหยัดเผชิญหน้าต่อสู้กับฝูงซอมบี้ และยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อปกป้องเพื่อนๆ ครับ

 

อนโจ เป็นตัวละครที่มีความกล้าหาญ ตัวจริงของคุณกับบทบาทที่คุณแสดงเหมือนกันอย่างไรบ้าง คุณเป็นนักแสดงที่มีอายุน้อยที่สุดของกลุ่มนักแสดงในเรื่อง เคมีระหว่างนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง 

พัคจีฮู: ฉันและตัวละครอนโจเหมือนกันมากค่ะ มีความซุ่มซ่าม สดใส ชอบเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ เหมือนกัน มีหลายครั้งที่ฉันคิดว่าถ้าฉันเป็นอนโจ ฉันก็คงตัดสินใจแบบนี้เหมือนกัน พวกพี่ๆ ก็บอกว่าฉันเหมือนกับตัวละคร ‘อนโจ’ มาก ถึงฉันจะเป็นน้องเล็กในกองถ่ายแต่ก็สนิทกับพี่ๆ และมีนัดเจอกันตอนก่อนเริ่มถ่ายทำ พูดคุยเกี่ยวกับบทด้วยกัน พี่ๆ ทุกคนเป็นกันเองมาก และช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย และการใช้ชีวิตด้วยค่ะ

 

ในชีวิตจริง คุณมีประสบการณ์เกี่ยวกับซอมบี้อย่างไรบ้าง คุณชอบหรือสนใจผลงานแนวซอมบี้หรือไม่ และช่วยเล่าถึงการเตรียมตัวและความยากของการถ่ายทำให้ฟังหน่อยได้ไหม

ยุนชานยอง: ปกติผมชื่นชอบผลงานแนวซอมบี้อยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง World War Z, ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง (Train to Busan) และซีรีส์โดย Netflix เรื่อง Black Summer พอได้ร่วมแสดงในผลงานเกี่ยวกับซอมบี้ผมจึงรู้สึกดีใจมากครับ 

 

สำหรับการถ่ายทำฉากแอ็กชันในห้องสมุด ผมฝึกซ้อมท่าทางและแนวการแสดงก่อนถ่ายทำจริงทั้งวันร่วมกับสตาฟฟ์และนักแสดงคนอื่นๆ และใช้เวลาถ่ายทำนานนานถึง 4 วันสำหรับฉากนั้นฉากเดียวครับ ฉากนั้นเป็นฉากที่ชองซานและกวีนัมต้องปะทะกัน ต่างคนต่างข่มขู่และหลบเลี่ยงกันและกัน

 

All of us are Dead Cr. Yang Hae-sung/Netflix © 2021

นัมรา เป็นหนึ่งในตัวละครที่แกร่งที่สุดในเรื่อง คุณมีแนวทางในการถ่ายทอดบทบาทตัวละครของคุณอย่างไรบ้าง

ชเวอีฮยอน: ในระหว่างที่เพื่อนคนอื่นๆ กำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์สุดระทึก นัมราเป็นคนที่ควบคุมสติได้ดีที่สุด และฉันคิดว่านั่นเป็นเสน่ห์ของเธอ สำหรับการเตรียมตัวสำหรับฉากที่ต้องแสดงเป็นครึ่งคนครึ่งซอมบี้ ฉันได้เข้าคลาสที่โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ และตั้งใจฝึกฝนการใช้นิ้ว ท่าทาง และการแสดงสีหน้าแบบซอมบี้ด้วยค่ะ

 

คุณได้เรียนรู้อะไรจากตัวละครของคุณบ้างในแง่ของการเอาชีวิตรอด ในบรรดาฉากเอาตัวรอดทั้งหมด คุณชอบฉากไหนมากที่สุด 

พัคโซโลมอน: ทั้งผมและชานยองมีฉากแอ็กชันที่มากกว่าคนอื่น พวกเราจึงต้องเข้าคลาสเพื่อฝึกซ้อมก่อนเริ่มถ่ายทำจริงถึง 3 เดือน และหมั่นฝึกซ้อมกันส่วนตัวด้วยครับ ในการแสดงผมพยายามจินตนาการอยู่เสมอว่า ถ้าผมเป็นเด็กมัธยม หรือเป็นซูฮยอกผมจะตัดสินใจอย่างไร แล้วโรมนในชีวิตจริงจะเลือกทางไหน โชคดีที่ผมและตัวละครของผมเหมือนกันในหลายๆ เรื่อง ทำให้ผมโฟกัสกับตัวละครได้ดีขึ้นครับ 

 

ส่วนฉากที่ผมชื่นชอบมากที่สุด คือฉากแอ็กชันในตัวอย่างอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นฉากจาก EP.2 และเป็นฉากแอ็กชันครั้งแรกของผม หลังจากที่ฝึกซ้อมอย่างหนักมาสามเดือน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นผลงานแนวซอมบี้ แม้แต่เมกอัพก็ยังสมจริง ช่วยทำให้ผมแสดงได้อย่างมีชีวิตชีวาครับ

 

ถ้าคุณถูกขังอยู่ในโรงเรียนที่รายล้อมไปด้วยฝูงซอมบี้เหมือนในซีรีส์ คุณคิดว่าคุณจะมีชีวิตรอดออกมาได้ไหม คุณคิดว่าใครในบรรดาพวกคุณจะจากไปเป็นคนแรก และใครที่จะอยู่รอดจนถึงตอนสุดท้าย

ชเวอีฮยอน: ฉันไม่แน่ใจว่านัมราจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับโจอีฮยอนในชีวิตจริง ฉันเป็นคนขี้กลัว และคงจะแอบหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ คงไม่คิดจะออกไปต่อสู้กับฝูงซอมบี้ 

 

ส่วนคนที่น่าจะตายเป็นคนแรกๆ เลยคิดว่าเป็นโรมนค่ะ เพราะนิสัยเขาเหมือนตัวละครซูฮยอก ที่มีความเป็นผู้นำและชอบออกตัวช่วยเหลือคนอื่น ในระหว่างที่ต่อสู้กับฝูงซอมบี้อาจจะโดนกัดตายก่อนได้ค่ะ

 

ยุนชานยอง: ผมน่าจะตายก่อนเพื่อนเลยครับ เพราะซอมบี้ว่องไวและอันตรายมากกว่าที่คิดไว้ ถ้าสู้โดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนก็อาจจะโดนกัดโดยไม่รู้ตัว ส่วนตัวผมคิดว่าจีฮูน่าจะเอาตัวรอดได้นานที่สุดครับ เพราะเธอเฉลียวฉลาดและเรียนหนังสือเก่ง น่าจะหาทางหนีรอดได้จนถึงที่สุด

 

 

คุณผ่านการร่วมงานกับนักแสดงชั้นนำมาแล้วมากมาย ช่วยเล่าถึงประสบการณ์ใหม่ๆ จากการได้ร่วมงานกับนักแสดงวัยรุ่นใน All of Us Are Dead แตกต่างกับการร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างไรบ้าง

ผู้กำกับอีแจคยู: ปกติเวลาร่วมงานกับทีมนักแสดงในเรื่องอื่น ทุกเช้าตอนไปกองถ่ายผมจะกังวลว่าวันนี้จะผ่านไปด้วยดีไหมนะ แต่พอได้ร่วมงานกับเด็กๆ ผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น กลับตื่นเต้นที่จะได้ตื่นเช้าไปพบกับเด็กๆ ที่กองถ่าย ตื่นเต้นในทุกช่วงเวลาที่ร่วมงานกับพวกเขา สนุกที่ได้พูดคุย บรรยากาศการถ่ายทำก็ครึกครื้นมากครับ

 

All of Us Are Dead ไม่ใช่แค่ซีรีส์ซอมบี้ธรรมดาทั่วไป แต่มีการพูดถึงปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เช่น การกลั่นแกล้ง และการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพราะอะไรคุณจึงรวมปัญหาทั้งหมดเหล่านี้เข้ากับธีมซอมบี้

ผู้กำกับอีแจคยู: เพราะฉากหลังของเราเป็นโรงเรียน หลายคนเลยคิดว่าเป็นเรื่องในโรงเรียนเท่านั้น แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่แห่งหนใดบนโลก คุณก็สามารถประสบปัญหาเรื่องแตกต่างระหว่างชนชั้น วัย หรือศาสนาได้ทั่วไป มัธยมซอมบี้ (All of Us Are Dead) แค่รวมปัญหาเหล่านั้นมาไว้ในฉากหลังที่เป็นโรงเรียน 

 

ตอนเริ่มดูแรกๆ คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องราวในโรงเรียน แต่ถ้าติดตามชมไปเรื่อยๆ ก็จะสัมผัสได้ว่ามันเป็นประเด็นปัญหาที่กว้างมาก และเป็นเรื่องที่อาจเกิดได้กับพวกเราทุกคน ซึ่งผมคิดว่าผู้ชมทั่วโลกน่าจะเพลิดเพลินและสัมผัสได้ถึงความแปลกใหม่ครับ 

 

ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือตอนผมเป็นเด็กๆ เวลามีเพื่อนตกน้ำ เราก็จะพากันกระโจนลงไปเพื่อช่วยเพื่อน เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นสิบปีก่อนหรือในตอนนี้ แต่พอเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราต้องเลือกหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับครอบครัวและเพื่อนของเรา เพราะฉะนั้นถ้าเห็นใครตกน้ำก็คงไม่มีใครยอมกระโดดลงน้ำเพื่อไปช่วย แต่เด็กๆ ไม่ใช่อย่างนั้น การกระทำมักมาก่อนความคิด มีเด็กวัยรุ่นจำนวนมากที่ยืนยันจะช่วยเหลือเพื่อนก่อนไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม 

 

พอได้เห็นเช่นนั้นแล้วมันทำให้เราตั้งคำถามว่า วิถีของผู้ใหญ่คืออะไร และสิ่งที่เราถูกปลูกฝังนั้นส่งผลกับการใช้ชีวิตในสังคมอย่างไรบ้าง ถ้าคุณได้เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นใน All of Us Are Dead เลือกที่จะตัดสินใจเช่นไรเพื่อเอาชีวิตรอด และปกป้องเพื่อนๆ อย่างไร คุณน่าจะให้แง่คิดอะไรหลายๆ อย่างกับผู้ใหญ่ครับ

 

อยากให้ทุกคนช่วยติดตามไปพร้อมกันว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับ All of Us Are Dead ในวันที่ 28 มกราคมที่จะถึงนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของความสิ้นหวัง หรือเป็นการเริ่มต้นของความหวังครับ

 

All of us are Dead Yoon Chan-young as Lee Cheong-san in All of us are Dead Cr. Yang Hae-sung/Netflix © 2021

All of us are Dead Cr. Yang Hae-sung/Netflix © 2021

 

ตัวอย่างซีรีส์ All of Us Are Dead

 

The post All of Us Are Dead สัมภาษณ์พิเศษ พัคจีฮู, ยุนชานยอง, ชเวอีฮยอน, พัคโซโลมอน และผู้กำกับอีแจคยู กว่าจะมาเป็นซีรีส์มัธยมซอมบี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>