นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ตอนรับปีใหม่ 2021 หลัง โจนา […]
The post โมเมนต์น่ารักของ Jonathan Van Ness แห่ง Queer Eye กับสามี หลังเพิ่งประกาศว่าแต่งงานกันเมื่อปีก่อน appeared first on THE STANDARD.
]]>นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ตอนรับปีใหม่ 2021 หลัง โจนาธาน แวน เนส หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม The Fab Five ของ Queer Eye รายการสุดฮิตของ Netflix ได้เผยผ่าน Instagram เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาว่า ในปี 2020 เขาได้ตัดสินใจแต่งงานกับ มาร์ก ลอนดอน ชายหนุ่มชาวอังกฤษ หลังได้เริ่มคบหากันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ซึ่งก็สร้างเซอร์ไพรส์อย่างมากให้เหล่าแฟนคลับ เพราะทางโจนาธานไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวการคบหามาร์กมาก่อนเลย
โจนาธานได้เล่าเพิ่มเติมในโพสต์เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาว่า เขาและมาร์กได้เริ่มออกเดตด้วยกันตอนที่เขาไปแสดงทัวร์เดี่ยวไมโครโฟน Jonathan Van Ness: Road to Beijing ที่ลอนดอนเมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 โดยต่อมา เมื่อโจนาธานจะพาคุณแม่กับเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัมช่วงพักทัวร์ เขาก็อยากพามาร์กไปด้วย แต่ก็กังวัลว่าจะเร็วเกินไปไหมเพราะเพิ่งออกเดตไม่กี่ครั้ง แต่ตอนหลังก็ตัดสินใจพาไป เพราะลึกๆ รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ใช่
ต่อมาทางมาร์กที่เคยเป็นนายแบบขึ้นปกนิตยสาร Men’s Health ฉบับอังกฤษมาก่อนเมื่อปี 2014 ก็ได้เล่าในโพสต์บน Instagram ของเขาว่า ตัวเองได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ ย้ายจากลอนดอนเพื่อไปอยู่ที่อเมริกากับโจนาธาน ซึ่งในช่วงเวลาที่ต้องกักตัวด้วยกัน เขาก็มีความสุขที่ได้เล่นควิซต่างๆ ผ่าน Zoom, รื้อฟื้นความรักด้านการทำสวน, เรียนขับรถใหม่เพราะพวงมาลัยอยู่ด้านซ้ายในอเมริกา, ไปรับเลี้ยงสุนัขบุญธรรมพันธุ์ Jack Russell ชื่อ Pablo, ช่วยเลี้ยงแมวอีก 4 ตัวของโจนาธาน และแน่นอน ได้แต่งงานกับคู่แท้ของเขา
หลังจากที่โจนาธานและมาร์กประกาศว่าทั้งคู่ได้แต่งงานกัน เหล่าบรรดา The Fab Five ทั้ง แทน ฟรานส์, แอนโทนี โปโรวสกี, บ็อบบี เบิร์ก และ คาราโม บราวน์ ก็ต่างคอมเมนต์แสดงความยินดี และดีใจที่สามารถพูดถึงความสัมพันธ์นี้ได้หลังเก็บความลับมานาน โดยในกลุ่มนี้เหลือแค่แอนโทนีกับคาราโมที่ยังไม่ได้แต่งงาน ส่วนรายการ Queer Eye ที่ชนะรางวัล Emmy Awards สาขา Outstanding Structured Reality Program มา 3 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2018 ก็ต้องพักการถ่ายทำซีซัน 6 ไปก่อนเพราะวิกฤตโควิด-19
ภาพ: Instagram: @jvn , @marklondon
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
The post โมเมนต์น่ารักของ Jonathan Van Ness แห่ง Queer Eye กับสามี หลังเพิ่งประกาศว่าแต่งงานกันเมื่อปีก่อน appeared first on THE STANDARD.
]]>โจนาธาน แวน เนส หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม The Fab Five ของรายก […]
The post Jonathan Van Ness แห่ง Queer Eye เผยสถานะว่าเป็น HIV appeared first on THE STANDARD.
]]>โจนาธาน แวน เนส หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม The Fab Five ของรายการสุดฮิต Queer Eye ได้เผยอย่างหมดเปลือกในหนังสือชีวประวัติเล่มใหม่ที่ชื่อ Over The Top ว่าเขามีเชื้อ HIV พร้อมเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตด้านมืดต่างๆ ที่พัวพันมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งมีทั้งเรื่องการติดเซ็กซ์และติดยาเสพติด
ก่อนหนังสือ Over The Top ของ แวน เนส จะวางขายในวันที่ 24 กันยายนนี้ที่สหรัฐอเมริกา เขาก็ได้พูดคุยกับ The New York Times ถึงประเด็นต่างๆ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ตอนที่ แวน เนส เพิ่งเป็นเด็กวัยรุ่นและถูกล่วงละเมิดทางเพศจากผู้ชายคนหนึ่งในโบสถ์ที่เมืองควินซี รัฐอิลลินอยส์ ที่เขาเกิดและเติบโตภายในครอบครัวที่เป็นเจ้าของกิจการสื่อ โดยเหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ แวน เนส เสียหลักและติดการมีเซ็กซ์กับผู้ชายแบบลับๆ ซึ่งเขามักจะติดต่อและนัดเจอกันผ่านห้องแชต AOL ที่ใช้กันในยุค 90 โดยในตอนนั้นพ่อเลี้ยงของเขาที่สนิทด้วยก็เสียชีวิต ทำให้ แวน เนส เริ่มหันไปกินแต่อาหารฟาสต์ฟู้ดจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่า 40 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน
แต่ปัญหาก็ลุกลามมากขึ้นเมื่อ แวน เนส ได้เรียนต่อที่ University of Arizona และใช้เงินเดือนกว่า 200 ดอลลาร์ที่ได้จากทางบ้านหมดไปกับการเสพโคเคนในช่วงวันหยุด เพราะความละอายใจที่จะต้องขอเงินเพิ่มจากที่บ้าน แวน เนส จึงตัดสินใจหาเงินเพื่อเสพโคเคนด้วยการขายบริการผ่านเว็บไซต์ Gay.com
ต่อมา แวน เนส ก็ถูกรีไทร์ออกจากมหาวิทยาลัยหลังจากเรียนไปได้แค่ 1 ปี และเขาตัดสินใจไปเข้าคอร์สด้านความงามที่ Aveda Institute โดยหลังได้ใบรับรองเขาก็ย้ายไปลอนแอนเจลิส และได้เป็นผู้ช่วยที่ร้านเสริมสวยชื่อดัง Sally Hershberger
แต่ถึงแม้การงานจะดูไปได้ดีในช่วงวัย 20 ต้นๆ แต่ แวน เนส ก็ยังติดยาเสพติดและการมีเซ็กซ์ ซึ่งมันก็ทวีคูณขึ้นหลังจากที่เขาได้เจอคู่ผ่านแอปพลิเคชัน Grindr และถูกชักชวนให้ลองเสพยาไอซ์ โดย แวน เนส ก็พยายามไปศูนย์บำบัดถึง 2 ครั้งเพื่อรักษาตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
เมื่ออายุ 25 ปี แวน เนส เป็นลมในร้านเสริมสวยขณะกำลังทำสีผมให้ลูกค้าคนหนึ่ง เขาจึงไปตรวจเลือดที่ Planned Parenthood และพบว่าตัวเองมีเชื้อ HIV เมื่อได้ทราบข่าวนี้เขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตและหยุดการใช้ยาเสพติด (ยกเว้นกัญชาที่ยังเสพอยู่) ซึ่งจนถึงวันนี้เขาก็ยังแข็งแรงดี
แวน เนส ได้บอกกับ The New York Times ว่าต่อไปเขาอยากจะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงสำคัญให้กลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV เพื่อไม่ให้ถูกเหยียดหยามในสังคม โดยเฉพาะในยุคที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี และสิทธิของ LGBTQ+ ในสหรัฐอเมริกาถูกปิดกั้นและเดินถอยหลัง โดยเราเชื่อว่าต่อไปทั้งในรายการ Queer Eye หรือตอนที่ แวน เนส ไปให้สัมภาษณ์ตามรายการต่างๆ เขาก็จะเริ่มพูดถึงประเด็น HIV มากยิ่งขึ้น และทำให้เห็นว่าประเด็นนี้ควรมีการพูดถึงอย่างกว้างขวางในกระแสหลักแบบไม่ต้องเกรงกลัว และควรสนับสนุนเพื่อนมนุษย์ที่อาจทำผิดพลาด แต่ก็ยังต้องสู้ชีวิตต่อไป
ภาพ: Charley Gallay / Getty Images for Netflix
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
The post Jonathan Van Ness แห่ง Queer Eye เผยสถานะว่าเป็น HIV appeared first on THE STANDARD.
]]>คาราโม บราวน์ (Karamo Brown) จากทีม Fab Five ในรายการเม […]
The post ซับไม่ตรง! Karamo Brown จากซีรีส์ Queer Eye ขอแก้ซับไตเติลให้เป็นมิตรต่อผู้พิการทางการได้ยิน appeared first on THE STANDARD.
]]>คาราโม บราวน์ (Karamo Brown) จากทีม Fab Five ในรายการเมกโอเวอร์สุดฮิตอย่าง Queer Eye ได้ออกมาสนับสนุนแฟนๆ ของ Netflix ที่ทวีตแจ้งข้อสังเกตว่า Netflix ใส่ซับไตเติลในรายการไม่ตรงกับสิ่งที่พิธีกรหรือคนในโชว์นั้นๆ พูด แต่กลับเป็นการย่อยข้อความให้สั้นลง และเข้าใจง่ายขึ้น ตัดข้อความบางอย่างออกไปอย่างชัดเจนจนคนดูจับได้
Photo: pa1.narvii.com
ข่าวนี้เริ่มต้นจาก โลกัน แชนนอน (Rogan Shannon) แฟนรายการ Queer Eye ที่เป็นผู้พิการทางการได้ยินออกมาทวีตว่า “ผมอยากรู้ว่าทำไม Netflix ถึงไม่ใส่ซับให้ครบทุกคำ ผมมองเห็นว่าสิ่งที่คนพูดกับสิ่งที่แคปชันเขียนมันไม่ตรงกัน แล้วก็ขอโทษทีนะ แต่อย่าเซนเซอร์พวกเขาเด็ดขาด ผมอยากรู้สิ่งที่พวกเขาพูดทุกคำ ไม่งั้นจะมีซับไตเติลไปทำไม” ซึ่งทวีตนี้ได้รับการรีทวีตไปกว่า 2,000 ครั้ง และไลก์อีกเก้าพันกว่าไลก์
นอกจากนี้ยังมีทวีตอื่นๆ ที่ยกตัวอย่างจากในโชว์ Queer Eye โดยตรงว่ามีซีนที่ โจนาธาน ฟาน เนสส์ (Jonathan Van Ness) พูดในรายการว่า “Except for one that didn’t get canceled and break everyone’s heart” แต่ในซับไตเติลที่ขึ้นโชว์กลับขึ้นแค่ครึ่งเดียว “Except for one that didn’t get canceled” เท่านั้น หรือกรณีที่ ABC News ยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างว่า หนึ่งในผู้ร่วมรายการ Queer Eye พูดว่า “Shit, I look sexy” แต่ซับไตเติลกลับเขียนว่า “Darn, I look sexy”
Okay, @netflix. I want to know why you don’t caption every single word. I can see what people are saying not matching up with the captions. Also, pardon me, but DO NOT FUCKING CENSOR PEOPLE. I want to know what is said word. for. word. That’s the whole fucking point of captions.
— ?️? Rogan Shannon ?️? (@shan_no_nosays) 24 มิถุนายน 2561
as a short example, what @jvn says is “except for one that didn’t get canceled and break everyone’s heart.”Netflix only captioned half of that, for no real reason at all. It’s more than just bleeping profanity,it’s almost every single line in this show.He deserves his whole line! pic.twitter.com/wSqBgtfkRu
— alley (@alley_mason_) 28 มิถุนายน 2561
เมื่อเรื่องถึงหู คาราโม บราวน์ วัย 37 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายคัลเจอร์ในทีม Fab 5 เขาก็รีบออกมาพูดผ่านทางทวิตเตอร์ทันที “พอได้อ่านคอมเมนต์จากทุกคนมันทำให้ผมใจสลายมาก ผมไม่รู้ว่าผมมีอำนาจมากพอรึเปล่า แต่ครั้งหน้าที่ผมมีโอกาสไป Netflix ผมจะพูดถึงประเด็นนี้ และจะไม่หยุดพูดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง”
Reading everyone’s comments breaks my heart. I don’t know how much power I have but know, the next time I’m at Netflix I’m going to bring up this issue internally & wont stop until something changes. Deaf & HOH people should have the same experience as everyone else! #TypoFixed https://t.co/AQ4emvgUBv
— Karamo Brown (@KaramoBrown) 28 มิถุนายน 2561
ไม่นานหลังจากการทวีตของ คาราโม บราวน์ ทาง Netflix ก็ออกมาแสดงความรับผิดชอบผ่านทางทวิตเตอร์หลักทันทีว่า “เรารับทราบถึงปัญหาของซับไตเติลบนแพลตฟอร์มของเราแล้ว โดยเฉพาะในรายการ @QueerEye หลังจากที่ได้ตรวจสอบก็พบว่ามีหลายบทสนทนาของ Fab Five ที่ถูกตัดออกไปอย่างไม่จำเป็น เรากำลังแก้ไขมัน โดยเราขอเซนเซอร์คำหยาบบางคำในบางกรณีด้วย”
We’ve heard about the caption issues on the service, specifically for @QueerEye. After looking into it, there’s lots of dialogue missing from the Fab 5 that shouldn’t be. We’re fixing it. In some cases, we do bleep incidental profanity from our unscripted series.
— Netflix CS (@Netflixhelps) 28 มิถุนายน 2561
นอกจากนี้ Netflix ยังแจ้งเพิ่มเติมว่า “การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชมที่มีปัญหาในการได้ยินเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเรา”
สองเดือนก่อนหน้านี้ คาราโม บราวน์ เพิ่งโพสต์วิดีโอลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา พร้อมกับซับไตเติลสิ่งที่เขาพูด คลิปวิดีโอเขาได้กล่าวว่า ในสังคมที่เราต้องอยู่ร่วมกับผู้พิการในด้านต่างๆ เราอาจไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไรได้บ้าง ส่วนตัวเขาเองได้เลือกทำสิ่งง่ายๆ อย่างการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ใส่แคปชันสิ่งที่เขาพูด “ผมทำสิ่งนี้เพื่อเพื่อนของผมที่หูหนวก หรือมีปัญหาทางการได้ยิน ผมไม่ได้กล่าวหาว่าคนหูหนวกเป็นคนพิการที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แต่ผมจะบอกว่านี่คือสิ่งที่ผมไม่เคยคิดถึงมาก่อน ทั้งๆ ที่ตัวเองเคยโพสต์วิดีโอมาหลายวิดีโอ ดังนั้นผมเลยต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในชีวิตของผม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้อื่น และผมอยากสนับสนุนให้พวกคุณทำเช่นกัน”
นอกจาก Netflix จะอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาเรื่องซับไตเติลให้ครบถ้วนเหมาะสมเพื่อผู้พิการทางการได้ยินแล้ว Netflix ยังมีส่วนที่เรียกว่า Audio Description ซึ่งเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนปี 2015 Audio Description นั้นจะช่วยให้การดู Netflix ของผู้พิการทางการมองเห็นสมบูรณ์มากขึ้น แม้ว่าในตอนนี้จะยังมีไม่ครบทุกโชว์ แต่โชว์หลักๆ ของค่ายอย่าง 13 Reasons Why, Daredevil, The Crown, Stranger Things และภาพยนตร์สำหรับเด็กบางเรื่อง ก็จะมีโหมด Audio Description ที่บรรยายสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ สีหน้าของนักแสดง หรือบรรยากาศของซีน เพื่อให้คนตาบอดอินกับหนังได้มากยิ่งขึ้น
The post ซับไม่ตรง! Karamo Brown จากซีรีส์ Queer Eye ขอแก้ซับไตเติลให้เป็นมิตรต่อผู้พิการทางการได้ยิน appeared first on THE STANDARD.
]]>