Johnnie Walker – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 11 Sep 2024 06:30:23 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (11-17 กันยายน 2567) https://thestandard.co/life/calendar-11-17-september-2024 Wed, 11 Sep 2024 06:30:23 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=982224 CALENDAR

พร้อมที่จะสลัดความเหนื่อยล้าทิ้งให้หมดและเตรียมสนุกกันใ […]

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (11-17 กันยายน 2567) appeared first on THE STANDARD.

]]>
CALENDAR

พร้อมที่จะสลัดความเหนื่อยล้าทิ้งให้หมดและเตรียมสนุกกันในสัปดาห์นี้หรือยัง? 

 

หากใครยังไม่มีแพลนแฮงเอาต์ที่ไหน แต่อยากออกข้างนอกไปใช้ชีวิตชิลๆ สัปดาห์นี้เรามีกิจกรรมและอีเวนต์ที่น่าสนใจและอาจจะโดนใจคนชอบทำกิจกรรมมานำเสนอกันอีกเช่นเคย

 

ไม่ว่าจะเป็นงานไฟพร้อมของกินในย่านตลาดน้อย เทศกาลสายดื่ม หรือนิทรรศการในรอบ 3 ปีของศิลปินชาวไทยอย่าง Gongkan

 

เพราะฉะนั้น รีบแชร์ให้เพื่อนเห็น แล้วแท็กชวนกันไปทำอะไรสนุกๆ ด้วยกันเลยสัปดาห์นี้!

 

 

The Food Culture Journey by Awakening

สายกินและสายอาร์ตเราขอชวนไป The Food Culture Journey by Awakening ที่จะพาไปตะลุยกินอาหารทั่วทรงวาด ตลาดน้อย และนางเลิ้ง ทั้งวัน ก่อนตกเย็นก็มาเดินเสพผลงานศิลปะจัดแสดงไฟที่ได้แรงบันดาลใจวัฒนธรรมจีนจากในย่านกันต่อ โดยชิ้นงานมีทั้งหมด 6 ผลงานด้วยกัน ได้แก่ Lantern of Celebration, Taste of Songwat, Flavor Check(in) Interactive Lighting, To the MOON and back, Dish is lit! และ Wondrous Door of Food พร้อมตามหาผลงานลายเส้นของ Tum Ulit ที่ซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆ และมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดังให้ชมด้วย บอกเลยว่าห้ามพลาด ถ้าอยากรู้ว่าจะสนุกแค่ไหนต้องรีบตามไป!

 

When: วันนี้ – 22 กันยายน 2567 

Where: ย่านทรงวาด ตลาดน้อย และนางเลิ้ง

More Info: Awakening Festivals

 

 

No Heart Here Exhibition by Gongkan

 

นี่คือการกลับมาพร้อมนิทรรศการเดี่ยวรูปแบบเต็มครั้งแรกในรอบ 3 ปีของ Gongkan ในชื่องาน ‘No Heart Here’ ที่พร้อมจะพาทุกคนไปท่องโลกแห่งความฝันอันลึกล้ำผ่านภาพวาดลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยชิ้นงานล้วนสะท้อนถึงความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ และพาไปสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า หรือความหวัง รวมถึงสิ่งที่เก็บไว้ในใจโดยไม่กล้าเผยออกมา 

 

นิทรรศการมีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ราคา 180 บาท นักเรียนที่มีบัตรนักศึกษา ราคา 100 บาท เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 100 เซนติเมตร เข้าชมฟรี โดยแกลเลอรีเปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)

 

When: 14 กันยายน – 27 ตุลาคม 2567 

Where: พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA BANGKOK 

More Info: No Heart Here Exhibition by Gongkan

 

 

‘A Good Song is A Good Song’ Duo Art Exhibition by Ardneks & juli baker and summer

 

‘เพลง’ ไม่ใช่แค่ทำนองที่มีความไพเราะและความหมายที่ลึกซึ้ง แต่แฝงไปด้วยความรู้สึก นี่คือนิทรรศการภาพวาด A Good Song is A Good Song ที่เป็นมากกว่าบทสนทนา แต่เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้สึกดีๆ ต่อกันผ่านบทเพลงที่ส่งหากันตลอด โดยงานนี้รวบรวมมาทั้งหมด 14 บทเพลง จาก 2 ศิลปิน juli baker and summer จากประเทศไทย และ Ardneks จากอินโดนีเซีย ที่พวกเขามาจากต่างถิ่น ต่างภาษา แต่ใช่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นกำแพง เพราะไม่มีอะไรขวางกั้นความรู้สึกดีๆ ของพวกเขาทั้งคู่ได้

 

งานนี้แนะนำให้พกหูฟังมาด้วยนะ เพื่อที่จะได้ฟังเพลงแล้วเข้าถึงอรรถรสอันหวานซึ้งที่สุดในการชมงาน

 

When: วันนี้ – 3 พฤศจิกายน 2567

Where: ชั้น 2 Seacon Square Srinakarin

More Info: MunMun

 

CALENDAR

 

You & Me, a journey together

 

วันหยุดนี้ไปเสพงานศิลป์กัน! ในนิทรรศการ You & Me, a journey together ภาพวาดสีอะคริลิกอันแสนอบอุ่นและน่ารักของ ปู ระวิวรรณ เล่าเรื่องราวของเด็กผู้หญิงและหมีขาวที่เป็นเพื่อนซี้กันในห้วงเวลาแห่งความสุขบนพื้นที่เซฟโซน ให้อารมณ์เหมือนได้ย้อนกลับไปในความทรงจำดีๆ ของช่วงวัยเด็กที่สนุกสนาน ใครที่ชอบงานฮีลใจแบบนี้ก็อย่าลืมมากันนะ

 

When: วันนี้ – 30 กันยายน 2567 เวลา 11.00-20.00 น.

Where: Artists in Residence ห้อง 304 ชั้น 3 River City Bangkok

More Info: River City Bangkok

 

 

DAY BY DAYY 

 

ชวนมาชมนิทรรศการ DAY BY DAYY ที่แสดงภาพวาดสีสันอันสดใสแต่ตั้งใจเสียดสี จากศิลปิน DAYY ที่ต้องการสะท้อนการกระทำของมนุษย์ต่อธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลก และการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมจนเสื่อมโทรมหนัก ซึ่งถ่ายทอดให้เห็นถึงการมีชีวิตอยู่บนโลกที่เปลี่ยนแปลงไป 

 

นิทรรศการเปิดให้เข้าชมฟรี โดยแกลเลอรีเปิดวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 10.00-17.00 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น.

 

When: วันนี้ – 29 กันยายน 2567  

Where: ย่านทรงวาด

More Info: PLAY art house

 

CALENDAR

 

CENTURY COCKTAIL FEST WITH JOHNNIE WALKER

 

สุดสัปดาห์นี้เหล่าคนรักค็อกเทลต้องไม่พลาดงานเฟสติวัล CENTURY COCKTAIL FEST WITH JOHNNIE WALKER เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี JOHNNIE WALKER พร้อมชมเรื่องราวของแบรนด์และดื่มด่ำกับค็อกเทลมากมาย

 

และไฮไลต์สุดพิเศษที่จะทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจจากการ Guest Shift ของบาร์เทนเดอร์มือดี พร้อมเวิร์กช็อปรังสรรค์ค็อกเทลที่จะให้คุณได้ค้นหาเครื่องดื่มแก้วโปรด พร้อมฟังดนตรีสดเพราะๆ จาก Fungjai ตลอด 2 วัน ในวันที่ 14-15 กันยายนนี้ ที่ 515 Victory Hall

 

บัตรเข้างานสำหรับ Early Bird ราคา 800 บาท (Cocktail 3 แก้ว + Highball 1 แก้ว พร้อมสิทธิ์เข้าร่วม Cocktail Workshop และ Set 100 Cocktails Card by World Class Bartenders ซื้อบัตรเข้างานได้ที่ Ticketmelon

 

*ผู้เข้างานจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และต้องแสดงบัตรประชาชนยืนยันอายุ*

 

When: 14-15 กันยายน 2567

Where: 515 Victory Hall ใกล้ BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

More Info: Johnnie Walker Style

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (11-17 กันยายน 2567) appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ทุกก้าว ทุกเรื่องราว ทุกแรงบันดาลใจ100 ปีในไทย ที่ไม่เคยหยุดก้าว Keep Walking [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/johnnie-walker-100-years-2/ Wed, 29 May 2024 13:26:50 +0000 https://thestandard.co/?p=939020 Johnnie Walker

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 200 ปีของแบรนด์วิสกี้อันดั […]

The post ชมคลิป: ทุกก้าว ทุกเรื่องราว ทุกแรงบันดาลใจ100 ปีในไทย ที่ไม่เคยหยุดก้าว Keep Walking [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Johnnie Walker

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 200 ปีของแบรนด์วิสกี้อันดับหนึ่งของโลก

 

Johnnie Walker ได้ฝากรอยเท้าและ ‘ก้าว’ ที่สำคัญในประเทศไทยมาแล้ว 100 ปีพอดี เป็นการก้าวไปข้างหน้าด้วยความสนุกสนาน ย่างก้าวที่สร้างแรงบันดาลใจ ก้าวที่ทำให้แบรนด์คนไทยไปไกลถึงระดับโลก รวมทั้งก้าวใหญ่ที่พัฒนาอุตสาหกรรม CG ของประเทศไทยไปทั้งหมด

 

THE STANDARD POP ชวน วี-วิโอเลต วอเทียร์, ก้อ-ธัชวีร์ สนธิระติ จาก Indigoskin และ สาธิต กาลวันตวานิช จาก Propaganda และ Studio Avocado ศิลปินไทย 3 รุ่นที่เคยร่วมโปรเจกต์กับ Johnnie Walker มาพูดคุยถึงความประทับใจ แรงบันดาลใจ ที่กลายเป็น ‘ก้าว’ สำคัญในชีวิต รวมทั้งทุกผลงานที่ต้อง ‘ก้าว’ ต่อไปด้วยกัน

 

Johnnie Walker 100 Years in Thailand
Keep Walking

 

#JohnnieWalkerSTYLE #JW100YEARSInThailand #KeepWalking

The post ชมคลิป: ทุกก้าว ทุกเรื่องราว ทุกแรงบันดาลใจ100 ปีในไทย ที่ไม่เคยหยุดก้าว Keep Walking [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ย้อนรอย ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ กับก้าวที่ไม่เคยหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตลอด 100 ปี [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/johnnie-walker-100-years/ Thu, 25 Apr 2024 12:00:30 +0000 https://thestandard.co/?p=926589 Johnnie Walker

ใครกันจะไม่รู้จัก ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ (Johnnie Walker […]

The post ย้อนรอย ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ กับก้าวที่ไม่เคยหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตลอด 100 ปี [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Johnnie Walker

ใครกันจะไม่รู้จัก ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ (Johnnie Walker) แบรนด์วิสกี้อันดับหนึ่งของโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี และมีความสัมพันธ์อันยาวนานร่วมศตวรรษกับประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924)

 

ตลอด 100 ปี ทุกก้าวย่างของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในประเทศไทย ภายใต้ปรัชญา ‘Keep Walking’ ได้สร้างแรงบันดาลใจในการก้าวไปข้างหน้าในแบบของตัวเอง

 

ก้าวที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบหรือดีที่สุด อาจเป็นก้าวที่พลาด แต่การก้าวออกไปนั้นต้องมีจุดหมายที่ชัดเจน เพราะ ‘ทุกก้าวที่พาเราไปข้างหน้า คือก้าวที่มีความหมาย’ นี่คือความหมายที่แบรนด์ซ่อนไว้ในทุกก้าว

 

สำหรับจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คำว่า ‘Keep Walking’ ยังหมายถึงการพาสังคมก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าที่จะก้าวออกมาทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่ทำจะสำเร็จหรือล้มเหลวไม่อาจรู้ แต่ก็เลือกที่จะก้าวออกไปลองทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้เห็นว่า ‘การก้าวนำ’ เป็นอย่างไร

 

ในวาระครบรอบ 100 ปีของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในเมืองไทย THE STANDARD ขอพาย้อนรอยแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดก้าว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเรื่องราวในเมืองไทยตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน สู่อนาคต

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

จากยอนนี่วอล์คเกอร์ ตราดำ ตราแดง’ สู่ ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ แบรนด์สกอตช์วิสกี้อันดับหนึ่งของไทย

 

ปี 1924 เป็นปีแรกที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบรนด์สกอตช์วิสกี้สัญชาติสกอตแลนด์ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่ประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกแบบไทยๆ ว่า ‘ตราดำ’ หมายถึง Johnnie Walker Black Label และ ‘ตราแดง’ ใช้เรียกแทน Johnnie Walker Red Label

เนื่องจากในยุคสมัยนั้นการโฆษณาเหล้ายังไม่ถูกควบคุม ป้ายโฆษณาที่เห็นจึงมีภาพขวดจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ และเขียนด้วยคำทับศัพท์ว่า ‘ยอนนี่วอล์คเกอร์’

 

 

ยุค 30-50 เสรีภาพในการโฆษณาทำให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้ไปปรากฏอยู่ในนิยาย สามเกลอ พล นิกร กิมหงวน ในรูปเมนูของห้องอาหารโรงแรมราชธานีของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังได้พื้นที่โฆษณาบนหนังสือพิมพ์ศรีกรุง ป้ายโฆษณาตามท้องถนนหลายแห่ง รวมไปถึงภาพยนตร์ เงิน เงิน เงิน ที่นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา 

 

ยุค 90 ถือเป็นยุคที่มีจุดเปลี่ยนของแบรนด์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกลับด้านของโลโก้ The Striding Man จากเดิมที่เคยหันซ้ายก็เปลี่ยนมาหันขวา เพื่อสื่อถึงการเดินไปข้างหน้าสู่สหัสวรรษใหม่ และให้สอดคล้องไปกับแคมเปญ ‘Keep Walking’

 

สำหรับประเทศไทย ปี 1990 ยังเป็นปีแรกที่เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด ‘ศักดิ์ศรีผู้ชายที่แท้จริง’ ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์แรกๆ ในยุคนั้นที่ทำโฆษณาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ถือเป็นตัวอย่างความกล้าของแบรนด์ที่จะก้าวออกไปค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง 

 

แคมเปญ ‘Will You Keep Walking?’ ในปี 2013 ที่กลายเป็น Talk of the Town กลับมาตอกย้ำดีเอ็นเอของแบรนด์อีกครั้ง ด้วยการนำเสนอภาพยนตร์ชุดพิเศษเฉลิมฉลองชีวิตอันเป็นที่สุดของ เรวัต พุทธินันทน์ ผู้พลิกตำนานวงการธุรกิจเพลงไทย ตัวอย่างของคนที่มุ่งมั่นที่จะตามความฝันของตัวเอง กล้าทำในสิ่งที่ท้าทาย ไม่ยอมแพ้ สื่อให้เห็นถึงคนที่ไม่กลัวที่จะ ‘ก้าว’ เพื่อไปถึงฝัน เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ  

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

ปี 2015 แบรนด์เริ่มต้นก้าวใหม่อีกครั้งผ่านโลโก้ The Striding Man สุภาพบุรุษบนขวดจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ซึ่งเป็นโลโก้ที่ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดย แกรี เรดฟอร์ด ได้นำเอารอยยิ้มบนในหน้ากลับคืนมาให้กับบุรุษในชุดทักซิโดที่กำลังก้าวเดินพร้อมไม้เท้าคู่ใจ โดยมือข้างหนึ่งกำลังจับที่ปลายหมวกทรงสูง แสดงถึงความเป็นมิตร อบอุ่น มองโลกในแง่ดี ตอกย้ำว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่หยุดก้าวต่อไปข้างหน้า 

 

 

ในปีเดียวกัน แบรนด์รังสรรค์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ยกระดับปาร์ตี้แห่งปีที่ทุกคนรอคอย ‘THE BLACKLIST’ ให้กลายเป็นประสบการณ์การเฉลิมฉลองเหนือระดับในชื่อ THE BLACKLIST ‘THE NEW SHADE OF BLACK’ ด้วยการร่วมมือกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตทุกวินาทีโดยมีแพสชันเป็นพลังขับเคลื่อน เนรมิตปาร์ตี้ที่มีแต่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เท่านั้นที่ทำได้ 

 

 

และเป็นครั้งแรกที่ ‘House of Walker’ แคมเปญสุดยิ่งใหญ่ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เวียนมาจัดที่เมืองไทย หลังจากตระเวนจัดมาแล้วทั่วทุกมุมโลก ในชื่อ ‘House of Walker 4D Sensory’ ที่นำนวัตกรรม 4D Sensory มากระตุ้นทุกประสาทสัมผัส พร้อมเทคโนโลยี Digital Projection Mapping และการแสดงในรูปแบบ Theatrical Performance

 

ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ยังถูกจารึกผ่านการพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และแพ็กเกจจิ้งที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ สะท้อนตัวตนของแบรนด์ที่ทันสมัยและไม่หยุดนิ่ง

 

ปี 2016 แบรนด์เปิดตัวจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล ลิมิเต็ด เอดิชั่น (Johnnie Walker Black Label Limited Edition) ขวดสีขาว ผลงานการออกแบบของ มัตติอา บิอาจิ ศิลปินชาวอิตาลี ที่ได้แรงบันดาลใจจากตำนานการเกิดจันทรุปราคา วางจำหน่ายเพียง 2 ประเทศ คือ ประเทศไทยและเลบานอน

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ 

 

เข้าสู่ปี 2017 คงจะเป็นปีที่น่าจดจำ เพราะเป็นปีที่แบรนด์ลุกขึ้นมาปรับภาพลักษณ์ใหม่ในหลายมิติ ตั้งแต่การปรับลุคและจุดยืนของแบรนด์ให้ดูวัยรุ่น มีความสนุกสนาน ทันสมัย ตอบโจทย์วิถี Socialize ที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมคิกออฟแคมเปญ ‘Taste of Black ครบทุกมิติแห่งรสชาติ’ สลัดภาพจำของป้าย Black Label สีดำ แทนที่ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ภายใต้สีสัน 4 แบบ เพื่อสะท้อน 4 มิติแห่งรสชาติ ได้แก่ Refreshing, Bold, Mysterious และ Vibrant ตามมาด้วยกิจกรรมความสนุกตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ผ่านประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมกับมิติต่างๆ ของการใช้ชีวิต

 

ปีต่อมาจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ก็เปิดตัวจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล ‘เจน วอล์กเกอร์ เอดิชั่น’ (Johnnie Walker Black Label ‘Jane Walker Edition’) จำนวนจำกัดเพียง 250,000 ขวดทั่วโลก เป็นการปรับภาพลักษณ์ให้มีความเฟมินีนและสื่อถึงความเป็นผู้หญิง เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและยกย่องสตรีทั่วโลก

 

 

ต่อเนื่องด้วยการจับมือกับ HBO ผู้ผลิตซีรีส์ Game of Thrones ในปี 2019 เปิดตัว White Walker by Johnnie Walker ‘ไวท์ วอล์กเกอร์ บาย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ และ The Game of Thrones Single Malt Whisky Collection ‘เกมออฟโธร์น ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้คอลเลคชั่น’ นำแรงบันดาลใจของฤดูหนาวมาถ่ายทอดเป็นวิสกี้ที่เหมาะกับการดื่มแบบเย็นเจี๊ยบจากฟรีซเซอร์ อุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส ออกแบบลวดลายบนขวดด้วยเทคนิคพิเศษ ใช้โทนสีฟ้า-ขาวราวกับพื้นที่ซึ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ตกแต่งสัญลักษณ์ The Striding Man ให้เข้ากันด้วยการสวมชุดเกราะ อีกทั้งหมึกพิเศษสีฟ้าที่จะมองเห็นเมื่อแช่แข็งในอุณหภูมิเยือกเย็น เป็นลวดลายกราฟิกทั่วทั้งขวด และปรากฏคำว่า ‘Winter is Here’ 

 

ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ได้ออกแคมเปญ Keep Walking มากมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนก้าวออกมาตามความฝันของตัวเอง โดยเชื่อมโยงกับประเด็นสำคัญต่างๆ ในสังคม 

 

ปี 2023 หนึ่งในภารกิจ Keep Walking ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ โครงการ ‘STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง’ ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกของดิอาจิโอที่มุ่งลดการใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแบรนด์ต่างๆ ในเครือ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หรือ Take a Bold Stride ภายใต้ปรัชญา Keep Walking ของแบรนด์

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

ประเทศไทยต่อยอดการ ‘ถอดกล่อง’ ครั้งแรกเมื่อปี 2022 ในต่างประเทศ ด้วยการตั้งเป้าลดมลพิษจากการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ลดขยะจากการสังสรรค์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่องใน 1 ปี และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนกว่า 2.5 ล้านกิโลกรัมภายในระยะเวลา 10 ปีผ่านความร่วมมือกับ EcoMatcher ในการปลูกป่า Keep Walking Forest

 

ประเดิมต้นปี 2023 เดินเครื่องการผลิตจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ล็อตใหม่แบบไม่มีกล่องในประเทศไทย ถือเป็นอินเตอร์แบรนด์รายแรกในไทยที่ปรับขายสินค้าแบบไร้บรรจุภัณฑ์ (กล่อง) นำร่อง Johnnie Walker ทั้ง Red Label, Black Label และ Double Black เป็นกลุ่มแบรนด์แรก  

 

 

อีกหนึ่งแคมเปญที่ส่งพลังใจให้กับคนรุ่นใหม่อย่างมากก็คือแคมเปญ KEEP  WALKING ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ ‘ทุกก้าวที่พาเราไปข้างหน้า คือก้าวที่มีความหมาย’ เปิดตัว นลิน-กัญญ์นลิน เสถียรุจิกานนท์ ในฐานะ The Walker โดยเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เป็น 1 ใน 5 ตัวแทนของแคมเปญระดับโลกอย่างประเทศไทย สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก บราซิล และออสเตรเลีย ให้มาเป็นผู้นำในการก้าว 

 

ความพิเศษของแคมเปญนี้คือ การเชิญชวนทุกคนได้ลองมาก้าวต่อไปในแบบของตัวเองผ่านป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ใจกลางสยามสแควร์ โดยมีกิมมิกที่ป้ายโฆษณาดังกล่าวจะฉายภาพเคลื่อนไหวของผู้คนที่กำลังก้าวเดินอยู่ในบริเวณนั้นผ่านจอแบบเรียลไทม์

 

The Legacy ยุคสมัยแห่ง ‘ก้าวที่กล้า’

 
ระยะเวลากว่า 100 ปี ย่อมต้องมีเรื่องราวมากมายให้เล่าขาน แต่ถ้าให้หยิบยกที่สุดของผลงานที่เป็นตำนานและควรถูกเล่าขานในแง่ของการเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดกรุยทาง เพื่อค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาด จนสามารถสร้างอิมแพ็กต์ให้กับผู้คนแล้วละก็ นี่คือ 3 ผลงานที่ THE STANDARD ขอแปะป้าย The Legacy of Mind

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

1. Winter in Bangkok: เป็นไปไม่ได้…ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ 

 

ใช่…แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ในปี 2004 จะมีใครกล้าทุ่มทุนใช้งบโฆษณาไปกับการเนรมิตกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเมืองหิมะ เปลี่ยนแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นน้ำแข็งด้วย CG ในยุคที่ยังไม่ค่อยถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่ในฐานะแบรนด์ที่กล้าก้าวออกไปลองทำสิ่งใหม่ๆ และกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ คำว่าเป็นไปไม่ได้มันก็แค่ยังไม่ได้ทำต่างหาก

 

หลังจากที่ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ปรากฏสู่สายตาคนไทย มันกลายเป็น Talk of the Town ทันที และส่งผลให้ สาธิต กาลวันตวานิช ผู้กำกับโฆษณามือรางวัลระดับโลก เจ้าของบริษัท Phenomena กลายเป็นที่จับตามอง ไม่เพียงเท่านั้น แรงกระเพื่อมนี้ยังก่อให้เกิดความหวังว่าวงการโปรดักชันเฮาส์เมืองไทยเป็นไปได้ที่จะเทียบชั้นวงการระดับโลก และยังอิมแพ็กต์ไปถึงวงการอื่นๆ ได้เห็นว่า ‘อะไรก็เป็นไปได้’ เหนือสิ่งอื่นใด Winter in Bangkok ยังถูกพูดถึงในฐานะผลงานที่ทำให้ปรัชญา ‘Keep Walking’ ของแบรนด์ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

2. WALK FESTIVAL #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม

 

ที่โหวตให้ WALK FESTIVAL เป็นผลงานที่ควรค่ากับตำแหน่งแคมเปญในตำนานของแบรนด์ เพราะเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เข้าถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

WALK FESTIVAL เทศกาลดนตรี ศิลปะ และรสชาติ ภายใต้สโลแกน #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม จัดขึ้นใน 3 จังหวัด คือ WALK ขอนแก่น, WALK เชียงใหม่ และ WALK กรุงเทพฯ ที่ตั้งต้นมาจากความเชื่อที่ว่า หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่คือฟันเฟืองสำคัญที่จะนำพาความเป็นไทยไปสู่ระดับโลกได้ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินไทยคนรุ่นใหม่ เป็นที่มาของการฮุกอินไซต์ท้องถิ่นแบบจริงจังของแบรนด์ นำศิลปินท้องถิ่นมาร่วมสร้างสรรค์ความเป็นไทย เช่น ปลุกจังหวะไทยๆ ด้วยดนตรีไทยให้เท่ไม่เหมือนใคร 

 

ยกระดับศิลปะไทยกับ Visual Artists ไทย เพื่อสร้างสรรค์บรรกาศไทยๆ ในฟีลลิ่งใหม่ๆ อาทิ Interactive Installation ที่หยิบจับเอาความเป็นไทยของภาคเหนือ ใต้ อีสาน และกลาง ครีเอตออกมาเป็นโชว์เจ๋งๆ ไปจนถึงการเปิดสัมผัสรสชาติเสน่ห์ไทยที่รังสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์ไทยระดับโลก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์ ‘ความเป็นไทย’ ที่ใหม่และแตกต่าง เพื่อสร้างสรรค์ความเป็นไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ตั้งใจ

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

3. Keep Walking Thailand & Awakening Bangkok: กลับสู่ยุคที่ต้องลุกเดินอีกครั้ง!

 

ขอยกตำแหน่งให้กับสองผลงานที่สร้างอิมแพ็กต์ต่อเนื่องกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และน่าจะเป็นแคมเปญที่สร้างการจดจำให้กับคนไทยอย่างมาก เริ่มจาก ‘Keep Walking Thailand’ ในปี 2022 ในเวลานั้นแบรนด์เลือกที่จะปลุกแรงบันดาลใจให้กับไทย ด้วยการชวนคนไทยก้าวออกไปใช้ชีวิตบนท้องถนนที่คนไทยรักและผูกพันอีกครั้ง โดยมี วี-วิโอเลต วอเทียร์ ทำหน้าที่เป็น The Walker หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คนแรกของเมืองไทย ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและจัดกิจกรรมต่างๆ บนถนนข้าวสาร เจริญกรุง นานา เรื่อยมาจนถึงการรวมเป็นพลังสำคัญในเทศกาลไฟ Awakening Bangkok ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน 

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

Awakening Bangkok ไม่เพียงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่อยู่ในแคมเปญ Keep Walking ชวนคนไทยก้าวต่อไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ทำให้คนไทยได้เห็นก้าวสำคัญอีกครั้งของแบรนด์ผ่านงานออกแบบสุดล้ำที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ปี 2020 ออกแบบประติมากรรมแสงไฟสุดอลังการทั่วย่านเจริญกรุง Interactive Design กว่า 36 ชิ้นจากศิลปินไทยและเทศในธีม Re/Wind/Fast/Forward 

 

หรือในปี 2022 ดึงเสน่ห์ของถนนไทยออกมาให้ชมผ่าน Johnnie Walker Light Installation ที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก สนุกไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอาย Modernized Chinese ที่ Johnnie Walker Hub @Yellow House

 

 

 

100 ปีที่ไม่เคยหยุดก้าว ถูกถ่ายทอดผ่าน ‘Johnnie Walker 100th Year Limited Edition’

 

ในฐานะแบรนด์ที่มีเรื่องราวความผูกพันกับคนไทยมามากกว่า 100 ปี ไม่ง่ายเลยที่จะรักษาความเป็นผู้นำและเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง 

 

แต่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ทำได้ สามารถครองใจผู้บริโภคและรั้งตำแหน่งผู้นำในหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องยาวนานถึง 22 ปีจากผลสำรวจของ Thailand’s Most Admired Brand 2022 

 

ก้าวย่างสู่ศตวรรษที่ 2 ของแบรนด์ เราคงได้เห็นแคมเปญการตลาดที่ยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่า Keep Walking ซึ่งเป็นปรัชญาของแบรนด์อย่างแน่นอน 

 

และสิ่งที่จะได้เห็นแน่ๆ จากการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีประเทศไทย คือ ‘Johnnie Walker Limited Edition ฉลอง 100 ปีประเทศไทย’ งานดีไซน์สุดคลาสสิกที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ 100 ปีที่ผ่านมาของแบรนด์ในประเทศไทย ผ่านลวดลายกราฟิกตั้งแต่ชื่อเรียก ‘ยอนนี่วอล์คเกอร์’ โลโก้ The Striding Man ดีไซน์แรกสุดจากปี 1908 ที่ออกแบบโดย ทอม บราวน์ มีการนำไอคอนิกของกิจกรรมและแคมเปญที่ผ่านมามาใส่ อย่างเช่น สัญลักษณ์ที่ปรากฏในภาพยนตร์โฆษณาชุด Winter in Bangkok และสัญลักษณ์ของ Blacklist Party รวมถึงตัวแทนของ Walk Thai

 

ทั้งหมดนี้ถูกผสมผสานเข้ากับเรื่องราวอีก 100 ปีข้างหน้าที่นำเสนอไอคอนิกแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจจิ้ง โลโก้ The Striding Man ที่มีความล้ำสมัย และแน่นอนว่ายังคงใช้โทนสีทองเป็นสีหลัก

 

ถือเป็น Special Edition ฉบับประวัติศาสตร์ 100 ปีที่คนไทยควรเก็บสะสม เพราะจะมีวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเท่านั้น 

 

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ได้แล้ววันนี้ที่ The Mall, Tops, Foodland และ Villa Market ทุกสาขา

The post ย้อนรอย ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ กับก้าวที่ไม่เคยหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตลอด 100 ปี [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
มาดูวิธีฉลองความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนทำงานของ Johnnie Walker https://thestandard.co/johnnie-walker-pocket-win-awards/ Tue, 14 Jan 2020 06:41:52 +0000 https://thestandard.co/?p=319166

ทำงานมาทั้งปี มันก็ต้องอยากเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จกัน […]

The post มาดูวิธีฉลองความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนทำงานของ Johnnie Walker appeared first on THE STANDARD.

]]>

ทำงานมาทั้งปี มันก็ต้องอยากเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จกันบ้าง Johnnie Walker จึงขอเสนอวิธีมอบรางวัลให้กับคนทำงานด้วยการแจกเซตรางวัล Pocket Win Awards ให้กับออฟฟิศต่างๆ เพื่อสร้างกำลังใจและร่วมฉลองให้กับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ของพวกเขา หลังมุมานะทำงานจนผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปี

 

Johnnie Walker

 

ในช่วงที่ผ่านมาเราจึงมีโอกาสได้เห็น Pocket Win Awards ในสื่อโซเชียลต่างๆ ที่ยกย่องคนทำงาน โดยแบ่งเป็น 5 ประเภท มีทั้ง The Office Jukebox รางวัลสำหรับคอเพลงที่คอยอัปเดตเพลงใหม่ๆ ที่ทันกระแสให้คนในออฟฟิศได้เปิดประสาทหู The Ultra Fashionista รางวัลที่มอบให้แฟชั่นนิสต้าผู้สร้างสีสันประจำออฟฟิศ ‘The Barely Made It’ Employee รางวัลสำหรับคนที่จบงานแบบเส้นยาแดงผ่าแปด คอยทำให้ชาวคณะต้องหวาดเสียวอยู่เรื่อย รางวัลคนโปรดของเจ้านายที่ไม่ว่าจะทำอะไรนายก็เอ็นดูอย่าง The Boss’ Favorite และสุดท้าย The Trend Reporter รางวัลสำหรับพนักงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าว คอยรายงานข่าวสารและกระแสต่างๆ ให้คนในออฟฟิศรับรู้ จะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง ซึ่งทาง THE STANDARD เองก็ได้รับรางวัล The Trend Reporter จาก Johnnie Walker มาด้วย

 

 

ถือเป็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความสุขให้กับคนทำงานในฐานะสื่อมวลชนอย่าง THE STANDARD ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นคงไม่ผิดนักหากเมื่อใดที่หันไปเห็นรางวัลนี้แล้วเราจะนึกครึ้มใจอยากจะลุกขึ้นมาเฉลิมฉลองให้กับวันดีๆ อย่างนี้ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม

 

#JWPocket #RedPocket #BlackPocket #JohnnieWalker #CelebrateLittleWins #ทุกวันมีเรื่องให้ฉลอง

The post มาดูวิธีฉลองความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนทำงานของ Johnnie Walker appeared first on THE STANDARD.

]]>
Festival ดีๆ ไม่ได้มีบ่อยๆ มา #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม ไปกับ WALK FESTIVAL เทศกาลดนตรี ศิลปะ และรสชาติ [Advertorial] https://thestandard.co/johnnie-walker-walk-festival/ Fri, 30 Aug 2019 12:30:21 +0000 https://thestandard.co/?p=283025 WALK FESTIVAL

อีเวนต์คูลๆ ที่เรา Highly Recommend ว่าต้องไปให้ได้กับแ […]

The post Festival ดีๆ ไม่ได้มีบ่อยๆ มา #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม ไปกับ WALK FESTIVAL เทศกาลดนตรี ศิลปะ และรสชาติ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
WALK FESTIVAL

อีเวนต์คูลๆ ที่เรา Highly Recommend ว่าต้องไปให้ได้กับแคมเปญ ‘WALK’ โดย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ (Johnnie Walker) สกอตช์วิสกี้แบรนด์ชั้นนำของโลกที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ที่ปีนี้จะมาชวนหนุ่มสาวยุคมิลเลนเนียลมา #WALKไทย ให้ไกลกว่าเดิมในงาน WALK FESTIVAL เทศกาลดนตรี ศิลปะ รสชาติ ที่จะจัดขึ้นใน 3 จังหวัดคือ ขอนแก่น เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ พร้อมกับประสบการณ์เจ๋งๆ ที่รอคุณไปสัมผัส

 

Johnnie Walker WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม

 

โยกให้สุดไปกับดนตรีไทยในมุมมองใหม่

มาโยกตัวไปด้วยกันกับดนตรีไทยเท่ๆ โดยเหล่าศิลปินไทยที่ฮอตสุดในตอนนี้อย่าง Maiyarap, Blacksheep, Ben Bizzy และรายชื่อเหล่าศิลปินอีกยาวเหยียดที่พร้อมใจกันออกมา WALK ปลุกจังหวะไทยๆ ให้เท่ไม่เหมือนใคร และโชว์มันๆ ที่จัดกันตลอดคืนแบบไม่มียั้ง แถมยังมีแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์ที่ขออุบไว้ก่อนว่าเป็นใคร ซึ่งในแต่ละจังหวัดจะมีเหล่าศิลปินหมุนเวียนมามอบความมันแตกต่างกันไป

 

อาร์ตให้สุดไปกับเหล่าไทยอาร์ทิสต์เจ๋งๆ 

ยกระดับความเป็นไทยโดยทัพ Visual Artists ไทย ฟังแค่ชื่อธีมก็ดูสนุกแล้ว แต่ความเท่จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เมื่อได้เหล่าไทยอาร์ทิสต์ตัวพ่อทั้ง Kor.Bor.Vor, Jorra, Electrobacillus, Wanpracha และ PABAJA มาแท็กทีมกันสร้างสรรค์บรรยากาศไทยๆ ในฟีลลิ่งใหม่ที่กล้าพูดเลยว่าหาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว 

 

ความเท่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในงานจะมี Interactive Installation ที่หยิบจับเอาความเป็นไทยของภาคเหนือ ใต้ อีสาน และกลาง ครีเอตออกมาเป็นโชว์ ไม่ว่าจะเป็นร่มบ่อสร้าง Mapping, ผีตาโขน Glow in the Dark, หนังตะลุง Shadow Art และสาวรำวง Dance on the Floor ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าจะเจ๋งแค่ไหน ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองใน WALK Festival เท่านั้น รับรองความว้าวแน่นอน เราคอนเฟิร์ม!

 

Johnnie Walker WALK FESTIVAL

 

สัมผัสรสชาติความเท่ เสน่ห์ไทย และสะสมขวด Johnnie Walker WALK ลาย Limited Edition

ใครที่พลาดขวด Johnnie Walker WALK Limited Edition จากปีที่แล้ว ขอเตือนว่าครั้งนี้ห้ามพลาดอีก เพราะความลิมิเต็ดกำลังกลับมาให้ได้สะสมกันอีกครั้ง นอกจากดีไซน์ขวดที่ดึงเอกลักษณ์ความไทยของแต่ละภาคมาวาดลวดลายแล้ว ในงาน WALK FESTIVAL ยังจะได้ลอง Johnnie Walker ในรสชาติใหม่ๆ สร้างสรรค์สูตรโดยบาร์เทนเดอร์ไทยระดับโลก กับค็อกเทลพิเศษเฉพาะในงานเพื่อให้ทุกคนได้ดื่มและสะสมกันใน WALK FESTIVAL เท่านั้น 

 

Johnnie Walker WALK FESTIVAL

Johnnie Walker WALK FESTIVAL

 

‘Keep Walking’ ไปให้สุดกับ Thai Nightlife Experience

โยกกันสุดตัวใน WALK FESTIVAL จบแล้ว อย่าลืมไปอัปเดตความเท่อีกเลเวลกับคอมมูนิตี้ที่ Johnnie Walker ภูมิใจทำและนำเสนอผ่านอินสตาแกรม @WALKTHAIFESTIVAL ที่รวมไอเดียและมุมมองความเป็นไทยที่แปลกใหม่จากเหล่าครีเอเตอร์มานำเสนอผ่าน Thai Nightlife Experience จะได้รู้กันไปว่าความเป็นไทยนั้น Keep Walking ไปได้ไกลกว่าที่เราคิด ขอบอกว่าชาวอินสตาแกรมเมอร์ต้องกดหัวใจรัวๆ ให้กับไอเดียสุดบรรเจิดเหล่านี้แน่นอน

 

Johnnie Walker WALK FESTIVAL

 

รู้อย่างนี้แล้ว เตรียมพุ่งตัวไปซื้อบัตรกันด่วน WALK กันที่แรก WALK FESTIVAL ขอนแก่น ในวันที่ 13 กันยายนนี้ ที่เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น และ

  • บัตร Early Bird ราคาพิเศษ 299 บาท โดยจะจำหน่ายวันที่ 31 สิงหาคมนี้ วันเดียวเท่านั้น
  • บัตร Regular ราคา 399 บาท และบัตร Door Sale ราคา 500 บาท

 

ซื้อบัตรได้ที่ Event Pop: www.eventpop.me/e/6465-walkfest_khonkaen2019  

และติดตามรายละเอียดได้ที่ IG: WALKTHAIFESTIVAL และ Facebook.com/JohnniewalkerTH

 

งานดีๆ แบบนี้ คนไทยรุ่นใหม่รอช้าไม่ได้ 

มา #WALKไทย ให้ไกลกว่าเดิม

#WALKTHAIFESTIVAL

#JohnnieWalker #KeepWalking

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post Festival ดีๆ ไม่ได้มีบ่อยๆ มา #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม ไปกับ WALK FESTIVAL เทศกาลดนตรี ศิลปะ และรสชาติ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Let’s RED+SODA มิกซ์วิสกี้อย่างไรให้ ‘ถูกใจสิ่งนี้’ [Advertorial] https://thestandard.co/red-soda/ Mon, 13 May 2019 10:30:42 +0000 https://thestandard.co/?p=247530

วัฒนธรรมการดื่มในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เครื่องดื่มขวัญใจ […]

The post Let’s RED+SODA มิกซ์วิสกี้อย่างไรให้ ‘ถูกใจสิ่งนี้’ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>

วัฒนธรรมการดื่มในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เครื่องดื่มขวัญใจสายปาร์ตี้นั้นก็หลากหลายมากขึ้น อย่าง ‘วิสกี้’ ที่เคยเป็นเครื่องดื่มราคาแพง และนิยมดื่มในช่วงเวลาสำคัญ ก็กลายมาเป็นเครื่องดื่มขาประจำที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง หรือแม้แต่ ‘มิกเซอร์’ ที่นับวันผู้คนจะมีไอเดียที่หลากหลายสุดๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละวัฒนธรรมและรสนิยม ไม่ต้องมีรูปแบบในการดื่มที่ยึดติดตายตัวอีกต่อไป #อยากดื่มต้องได้ดื่ม!

 

Red Label จาก Johnnie Walker คือวิสกี้ตัวท็อปที่ขายดีอันดับ 1 ของโลก ขวัญใจคนที่รักในการดื่ม ด้วยรสชาติที่ทั้งเข้มข้น หวาน นุ่ม และเผ็ดร้อนในคราวเดียวกัน กลายเป็นความกลมกล่อมที่จะช่วยให้ช่วงเวลาสังสรรค์ของเรานั้นน่าประทับใจ และแตกต่างจากการดื่มแก้วใดๆ ที่เราเคยยก และว่ากันแล้ว วัฒนธรรมการดื่มของไทยคือการมิกซ์ที่หลากหลายเสียเหลือเกิน และ Red Lebel นั้นก็แทบจะเป็นหนึ่งในวิสกี้ไม่กี่ชนิดที่ไม่ว่าจะดื่มเพียว จะมิกซ์กับเครื่องดื่มอื่นๆ หรือเติมน้ำแข็งลงไปสักก้อนสองก้อน ก็ไม่ได้บั่นทอนรสและกลิ่นของวิสกี้ไปเลย หรือจะนำไปผสมเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลในรูปแบบที่เราชอบก็รสเลิศอย่าบอกใคร นับว่ามี Red Label เพียงขวดอยู่บนโต๊ะ ก็สามารถเติมแต่งรสชาติที่หลากหลายตามใจ ไม่ว่าจะมีรสนิยมการดื่มแบบไหน ดื่มกับใคร ก็สามารถนั่งด้วยกันได้ยาวๆ ตลอดคืน

 

 

โดยเฉพาะยุคนี้ เราสามารถดื่มกันได้ในทุกวัน โดยไม่ต้องรอเทศกาลหรือเฉลิมฉลองในโอกาสที่ยิ่งใหญ่อีกต่อไป ไม่ว่าเราจะแค่เบื่อ เศร้า เหงา อินเลิฟ อกหัก แค่เลือก Red Label ก็เหมือนมียานพาหนะที่จะพาเราทะยานออกจากคอมฟอร์ตโซนแสนน่าเบื่อได้ ใครไม่เชื่อต้องลองดูสักครั้ง

 

 

แล้วเรา ‘มิกซ์’ อะไรดีสุด… ก็ได้แต่บอกว่า ใครชอบแบบไหนก็เลือกมิกเซอร์แบบนั้นดีกว่า แต่ในบ้านเรา ‘โซดา’ แทบจะยืนหนึ่ง เป็นมิกเซอร์ตัวเลือกแรกๆ สำหรับวิสกี้รสเข้ม เพราะแทนที่จะเป็นน้ำเปล่า หรือน้ำที่มีรสหวานเกินไป แต่โซดานั้นไม่มีกลิ่นและรสชาติที่จะไปทำลายวิสกี้ให้เสียรสชาติ แต่ช่วยเพิ่มเลเวลพิเศษสุดซาบซ่า ทั้งยังทำให้รสชาติเครื่องดื่มไม่เข้มเกิน เพื่อดื่มได้อย่างคล่องคอ โดยไม่รู้สึกร้อนผ่าวจนเกมจบตั้งแต่แก้วแรกๆ ถือว่ายืดเวลาแห่งความสุขได้นานขึ้นอีกหน่อย ยิ่งถ้าบีบมะนาวเพิ่มความจี๊ดจ๊าด และเติมน้ำแข็งเข้าไปสักก้อนสองก้อน จะช่วยรีเฟรชร่างกายให้สดชื่น และไล่ความเหนื่อยล้าออกไปได้ด้วย

 

 

มาสำรวจดู ‘วิถีการดื่ม’ ของที่อื่นกันบ้าง เผื่อจะเป็นทางเลือก ข้อมูลจากเว็บไซต์ Theculturetrip.com เว็บไซต์รวบรวมวัฒนธรรมทั่วโลกเอาไว้บอกว่า ในสเปน เราอาจได้เห็นมิกเซอร์เป็นน้ำอัดลมหรือน้ำส้ม และอัดแน่นด้วยน้ำแข็งปริมาณมาก ในขณะที่เซี่ยงไฮ้ก็นำชาเขียวมาเป็นส่วนผสม ส่วนที่โตเกียว ผสมน้ำเปล่าจนค่อนข้างเจือจางทีเดียว และหากข้ามไปฝั่งนิวยอร์ก เราอาจจะได้เจอเครื่องดื่มค็อกเทลจำนวนมากที่ใช้วิสกี้เป็นเพียงส่วนผสมเท่านั้น และเชื่อว่า ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังดื่มด่ำกับวิสกี้เพียวๆ อย่างเด็ดเดี่ยวกันถ้วนหน้า ส่วนวิธีการดื่มแบบ On the Rock หรือการใส่น้ำแข็งเพียงหนึ่งก้อนนั้น ก็เป็นที่นิยมแพร่หลาย โดยเฉพาะในฝั่งยุโรป ที่ใครๆ ก็บอกว่า ช่วยให้เครื่องดื่มวิสกี้ของเรามีกลิ่นที่ชัดขึ้น

 

 

ทำไมการเลือกเครื่องดื่มสักขวด ไปจนถึงมิกเซอร์ จึงกลายเป็นวาระสำคัญของทุกครั้ง เราเปิดโต๊ะ นั่นเพราะไม่ว่าใครต่างก็รักและหวงแหนช่วงเวลาแห่งปาร์ตี้กันทั้งนั้น เราจึงต้องมีเครื่องดื่มที่ถูกใจมากที่สุด ดังนั้น โปรดเลือก ‘ขวดที่ใช่ มิกเซอร์ที่ชอบ’ เพื่อให้ค่ำคืนนี้ของคุณแฮปปี้ยาวๆ ไป อะ…ชน!

 

ขอบคุณสถานที่ HAF Wanghin

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post Let’s RED+SODA มิกซ์วิสกี้อย่างไรให้ ‘ถูกใจสิ่งนี้’ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
หน้าหนาวกำลังมา! Johnnie Walker ชวน Game of Thrones ปล่อยวิสกี้รุ่นพิเศษ ‘White Walker’ https://thestandard.co/game-of-thrones-johnnie-walker-white-walker/ https://thestandard.co/game-of-thrones-johnnie-walker-white-walker/#respond Thu, 04 Oct 2018 13:45:34 +0000 https://thestandard.co/?p=128340

แบรนด์วิสกี้ชื่อดัง Johnnie Walker จับมือกับ HBO ผลิตเค […]

The post หน้าหนาวกำลังมา! Johnnie Walker ชวน Game of Thrones ปล่อยวิสกี้รุ่นพิเศษ ‘White Walker’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

แบรนด์วิสกี้ชื่อดัง Johnnie Walker จับมือกับ HBO ผลิตเครื่องดื่มรุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ชื่อดังอย่าง Game of Thrones

 

เครื่องดื่มรุ่นพิเศษนี้คือ ‘White Walker’ ที่ตั้งชื่อตามไวต์วอล์กเกอร์ สิ่งมีชีวิตนอกกำแพงจากแดนที่หนาวนานนิรันดร์ในตำนาน จากหนังสือดังของ จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน (George R. R. Martin) โดยมีกลิ่นของคาราเมล วานิลลา และพืชพันธุ์ผลไม้อย่างเบอร์รีสีแดง เป็นต้น

 

รุ่น White Walker นี้ เป็นวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ที่มาจากโรงกลั่นไคลเนลิช (Clynelish) และคาร์ดู (Cardhu) ในสกอตแลนด์ โดยแบรนด์แนะให้นักดื่มทั้งในและนอกอาณาจักรทั้ง 7 ดื่มคู่กับน้ำแข็งเย็นเจี๊ยบสดๆ จากช่องแช่แข็ง เพื่อสุนทรีย์ของการจิบ และเพื่อได้ลิ้มรสของความหนาวเย็นในแดนของเหล่าไวต์วอล์กเกอร์

 

 

เว็บไซต์ Hypebeast รายงานว่า จอร์จ ฮาร์เปอร์ (George Harper) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิสกี้และนักดื่มวิสกี้ตัวยงร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญและนักเบลนด์วิสกี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังวิสกี้ขวดพิเศษรุ่นนี้ นอกจากนั้น Hypebeast ยังรายงานอีกว่า กำลังจะมีสกอตช์วิสกี้ธีม Game of Thrones ที่เตรียมปล่อยออกมาอีก 8 ตัวด้วยกัน ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ตัวซีรีส์ Game of Thrones ซีซัน 8 กำหนดฉายต้นปี 2019

 

Johnnie Walker รุ่น White Walker วางขายแล้วในสหรัฐอเมริกาในราคา 36 เหรียญ หรือราวๆ 1,175 บาท

 

ใครพร้อมจุดเตาผิงเตรียมรับไอเย็นยะเยือกกันได้เลย เพราะ Winter is coming!

 

ภาพ: Courtesy of Johnnie Walker

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

The post หน้าหนาวกำลังมา! Johnnie Walker ชวน Game of Thrones ปล่อยวิสกี้รุ่นพิเศษ ‘White Walker’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/game-of-thrones-johnnie-walker-white-walker/feed/ 0
“ไม่ได้จะบอกว่าเราคือคนดี แค่อยากทำธุรกิจอย่างยั่งยืน” ฟังเรื่องเล่าจากขวดเหล้าของ อัลแบร์โต อิเบอัส ผู้บริหาร Diageo https://thestandard.co/alberto-ibeas-diageo/ https://thestandard.co/alberto-ibeas-diageo/#respond Mon, 01 Oct 2018 09:53:37 +0000 https://thestandard.co/?p=126623

“คำเตือน: สุราเป็นเหตุก่อมะเร็ง เซ็กซ์เสื่อม พิการ เสีย […]

The post “ไม่ได้จะบอกว่าเราคือคนดี แค่อยากทำธุรกิจอย่างยั่งยืน” ฟังเรื่องเล่าจากขวดเหล้าของ อัลแบร์โต อิเบอัส ผู้บริหาร Diageo appeared first on THE STANDARD.

]]>

“คำเตือน: สุราเป็นเหตุก่อมะเร็ง เซ็กซ์เสื่อม พิการ เสียชีวิต ทะเลาะวิวาท ก่ออาชญากรรม ทำร้ายครอบครัว และทำลายสังคมได้”

 

เป็นข้อความที่คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กำหนดให้บริษัทจำหน่ายเครื่องดื่มมึนเมาทั้งหลาย เตือนผู้บริโภคทุกครั้งที่สื่อถึงภาพลักษณ์หรือสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้อง ท่ามกล่างความเห็นที่แตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับธุรกิจดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหยิบยกประเด็นเหล่านี้มาพูดคุย

 

สำนักข่าว THE STANDARD สัมภาษณ์ อัลแบร์โต อิเบอัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด องค์กรระดับโลกที่เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มที่หลายคนรู้จักดีอย่าง Johnnie Walker และแบรนด์อื่นๆ ในเครือ และถ่ายทอดสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการทำงานในอุตสาหกรรมนี้ตลอด 20 ปี ผ่านบทความนี้

 

 

ความท้าทายในการมัดใจนักดื่มไทยในตลาดสกอตช์วิสกี้ระดับโลก

“ก็เพราะชีวิตมันไม่เคยง่ายน่ะสิ ทุกๆ วันคือเรื่องมหัศจรรย์ เราจึงฉลองได้ตลอด

 

เมื่อเริ่มทำงานกับ Diageo ในปี 1998 อัลแบร์โตไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะอยู่องค์กรแห่งนี้นานต่อเนื่องถึง 20 ปี เขาเป็นคนหนุ่มที่เติบโตในหน้าที่การงานเร็ว ได้เลื่อนตำแหน่งทุก 2-3 ปี ได้ออกไปเจอโลกและเห็นความหลากหลายรวมทั้งสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในโลกธุรกิจด้วย เช่นเดียวกับบทบาทกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของตลาดประเทศไทย ที่มารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT ก่อตั้งในปี 2550 เป็นการดำเนินธุรกิจระหว่าง Diageo และ Moet Hennessy บริษัทในเครือของ Louis Vuitton Moet Hennessy (LVMH) เจาะตลาดผู้บริโภคระดับกลางถึงบน ดิอาจิโอมีสำนักงานใน 180 ประเทศ และจำนวนพนักงานกว่า 3.2 หมื่นคนทั่วโลก Forbes ประเมินมูลค่าตลาด (Market Cap) ขององค์กรแห่งนี้สูงถึง 8.94 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 3 ล้านล้านบาท

 

“สำหรับประเทศไทย ตลาดที่นี่เปลี่ยนแปลงเร็วกว่ายุโรปเสียอีก ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง ตัวเราก็ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์เหมือนกัน”

 

ดิอาจิโอชูประเด็นเรื่อง ‘Celebrating life, every day, everywhere and for everyone’ ซึ่งไม่ใช่สำหรับการสื่อสารการตลาดเท่านั้น แต่ยังส่งข้อความนี้ไปถึงคนในองค์กรด้วย THE STANDARD ประเมินว่า เป็นการสื่อสารเพื่อเพิ่มโอกาสในการบริโภคสินค้าซึ่งตามมาด้วยยอดขายที่มากขึ้น อัลแบร์โตอธิบายแนวคิดดังกล่าวได้น่าสนใจทีเดียว เขามองว่า ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกวันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ จึงต้องเต็มที่กับชีวิต

 

 

สำหรับผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา กลุ่มดิอาจิโอเติบโตทั่วโลกเฉลี่ย 2% ในด้านปริมาณการขาย ส่วนมูลค่ายอดขายเติบโต 5% ขณะที่ผลกำไรเติบโต 8% ถือเป็นบริษัทในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีอัตราการบริโภคสูง (FMCG) ที่เติบโตแข็งแกร่งที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับตลาดในไทย แม้จะถือว่าดี แต่ก็ยังไม่ดีพอสำหรับอัลแบร์โต เขาเชื่อว่า ต้องทำให้มากขึ้นอีก

 

 

ด้วยข้อจำกัดที่มี อัลแบร์โตไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการสำคัญของตลาดประเทศไทยได้ สกอตช์วิสกี้ยังเป็นสินค้าหลักของธุรกิจในทุกตลาดของโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมียอดขายสูงติดอันดับที่ 4 ของโลก สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวม แบรนด์ Johnnie Walker ส่วนที่ยอดขายสูงสุดคือ Black Label รองลงมาคือ Red Label และ Gold Label เมื่อถามถึงเครื่องดื่มโปรดของเขา ก็ได้คำตอบแทบจะทันที

 

“ผมชอบดื่ม Blue Label ครับ”

 

เขาบรรยายกระบวนการผลิตเครื่องดื่มให้ฟังโดยละเอียด แสดงถึงความเชื่อมั่นในสินค้าสกอตช์วิสกี้ที่ยากจะหาคู่แข่งอื่นเทียบได้ การเลือกนั้นถือเป็นรสนิยมส่วนบุคคล นอกจากการดื่มเครื่องดื่มที่ดีแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การดื่มอย่างเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมา Diageo มีโปรมแกรมต่างๆ ที่รณรงค์เรื่องการดื่มอย่างรับผิดชอบนับร้อยโปรแกรม บางโครงการก็ออกหน้า บางโครงการก็สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเงียบๆ

 

“เราลงทุนทำโปรแกรมเพื่อสังคมเยอะเลย เราให้ความรู้ไปถึงผู้ปกครอง คุณครู เพื่อสอนคนรุ่นใหม่เรื่องการดื่มไม่ขับ สิ่งที่เราทำถ่ายทอดความรู้ออกไป 5 ล้านคนทั่วโลก ผ่านทุกช่องทางที่เรามี เรารณรงค์ให้นักดื่ม 50 ล้านคน ตั้งปณิธานที่จะดื่มไม่ขับได้ อย่างประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ 2 ของโลกที่เราใช้เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ในการให้ความรู้กับประชาชน ผลตอบรับค่อนข้างดี ส่วนใหญ่เราจะพูดผ่านองค์กรอื่นที่เราสนับสนุน”

 

ค่านิยมเรื่อง ‘กินแบล็ก’ หรือสินค้าอื่นๆ ของ Diageo ยังคงถูกตีความเป็นสินค้าหรูหรา (Luxury Goods) ซึ่งอัลแบร์โตก็ยอมรับตามนั้น สิ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญคือ คุณภาพที่ดีของสินค้า บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ และทุกองค์ประกอบที่รวมเข้าไว้ด้วยกัน ความหรูหราสำหรับคนทั่วไปอาจเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ใช้กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงก็ได้

 

“ธุรกิจของเราไม่ค่อยได้รับผลกระทบกับเรื่อง Digital Disruption เท่าไร ระบบโลจิสติกส์ก็ยังคงเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ รูปแบบการติดต่อกับลูกค้า เราใช้สื่อโซเชียลฯ เยอะมาก แต่ในไทยก็จะมีข้อจำกัดอยู่พอควร อย่างผมทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ เข้าถึงข้อมูลได้จากจุดไหนของโลกก็ได้ ตอนนี้มันต่างกับ 10 ปีก่อนมากเลย”

 

 

กระบวนการหลังบ้านที่น้อยคนจะทราบคือ Diageo ปรับปรุงการผลิตอย่างต่อเนื่องในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ได้ลดน้ำเสียจากกระบวนการผลิตได้ถึง 30% และตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ในปี 2020 ขณะเดียวกันก็เข้มงวดเรื่องการใช้ขวดน้ำพลาสติก ลดการใช้หลอด หรือกระทั่งบรรจุภัณฑ์ก็จะใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ด้วย

 

“สิ้นปีนี้ (2018) ผมหวังว่า เราจะเติบโตขึ้นไปอีก สิ่งที่สำคัญคือเรื่อง Drink Better ไม่ใช่ Drink More ต้องดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ เราจะรุกตลาดสินค้าพรีเมียมให้มากขึ้น ตอนนี้มีแผนการลงทุนอยู่ แต่ยังบอกไม่ได้ครับ เรายังมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ จากทั่วโลก อย่างล่าสุดก็ไปที่จีนมา”

 

ธุรกิจเครื่องดื่มมึนเมานั้นไม่เคยห่างจากพื้นที่สีเทาบนมาตรวัดทางจริยธรรม แต่ก็ต้องยอมรับว่า ธุรกิจเหล่านี้มีขนาดใหญ่ และดูท่าจะเติบโตขึ้นอย่างน่าจับตา แม้เราจะคุ้นชินกับคำว่า ‘ภาษีบาป’ หรือ ‘ผิดศีล’ กันอยู่ทุกวัน แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องหยิกเล็บเจ็บเนื้อที่แตะทีไรก็ร้อนทุกที

 

 

สำนักข่าว THE STANDARD เจาะประเด็นเรื่องส่วนตัวที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ด้วยความสงสัยที่ว่า ขายเหล้าแล้วจะเตือนลูกเรื่องกินเหล้าได้อย่างไร นอกจากบทบาทของผู้บริหาร อัลแบร์โตคือคุณพ่อลูกสามที่ยังเป็นห่วงคนที่ตัวเองรัก แม้จะทำธุรกิจแอลกอฮอล์ระดับโลก สิ่งที่เขาสอนลูกก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ

 

“ลูกคนโตของผมตอนนี้อายุ 18 แล้วครับ คนรองอายุ 16 ส่วนคนเล็กอายุแค่ 11 ปี จะว่าไปก็โตๆ กันหมดแล้ว ผมสอนพวกเขามาโดยตลอดครับ สอนว่าเวลาที่ลูกดื่ม สมองของลูกจะไม่เหมาะกับการตัดสินใจหรือทำอะไรที่ต้องจดจ่อใช้สมาธินะ พวกเขาก็รู้ ถามว่าตอนนี้พวกเขาดื่มไหม ถ้าเขาดื่มก็คงไม่บอกผมหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่า พวกเขาเองก็ตระหนักรู้เรื่องการดื่มอย่างรับผิดชอบดี ถ้าอายุไม่ถึง ดื่มแล้วผิดกฎหมาย ก็ไม่ควรทำ การให้ความรู้คือสิ่งที่สำคัญมากจริงๆ”

 

เป็นเรื่องยากที่จะชี้วัดใครหรือธุรกิจใดว่าเป็นคนดีหรือคนไม่ดี เราต่างทราบว่า โลกใบนี้ไม่ได้มีอะไรที่ดำสนิทหรือขาวบริสุทธิ์ หากแต่เป็นส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไปเท่านั้น

 

จะทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่นทั้งนั้น

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post “ไม่ได้จะบอกว่าเราคือคนดี แค่อยากทำธุรกิจอย่างยั่งยืน” ฟังเรื่องเล่าจากขวดเหล้าของ อัลแบร์โต อิเบอัส ผู้บริหาร Diageo appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/alberto-ibeas-diageo/feed/ 0
‘Taste of The World’ ดื่มด่ำไปกับวิสกี้ที่ชนะใจคนทั่วโลก [Advertorial] https://thestandard.co/johnnie-walker-gold-label-world-whiskies-awards-2018/ https://thestandard.co/johnnie-walker-gold-label-world-whiskies-awards-2018/#respond Tue, 12 Jun 2018 11:34:03 +0000 https://thestandard.co/?p=97116

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่ตอกย้ำความเป็นที่สุดของวิสกี […]

The post ‘Taste of The World’ ดื่มด่ำไปกับวิสกี้ที่ชนะใจคนทั่วโลก [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่ตอกย้ำความเป็นที่สุดของวิสกี้จากงาน เวิลด์ วิสกี้ อวอร์ด 2018 (World Whiskies Awards 2018) ที่จัดขึ้นทุกปีโดยนิตยสารวิสกี้ (Whisky Magazine)โรงแรมวอลดอร์ฟ ฮิลตัน ประเทศอังกฤษ ซึ่งการแข่งขันปีนี้เป็นไปอย่างดุเดือด เพราะวิสกี้กว่า 1,000 แบรนด์จากทั่วโลกถูกส่งมาเพื่อคัดเลือกและตัดสินโดยวิธีปิดตาเพื่อชิม (Blind Test) โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิสกี้จากทั่วโลกกว่า 40 คน ซึ่ง จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล รีเสิร์ฟ (Johnnie Walker Gold Label Reserve) ก็ได้คว้าแชมป์ในสาขารางวัล ‘วิสกี้เบลนด์ที่ดีที่สุดในโลก’ (World’s Best Blended) ประจำปี 2018 มาครองได้สำเร็จ

 

ซึ่งวิสกี้ที่ดีนั้นโดยทั่วไปจะดูจาก Color, Nose, Palate, Finish หรือที่เรียกทั่วไปว่า ‘ดู ดม อม กลืน’ ทีมงานเลยขอเอาแชมป์วิสกี้ของปีนี้มาลองวิเคราะห์ให้เห็นชัดๆ ว่า วิสกี้ที่ดีต้องมีลักษณะอย่างไรกันบ้าง

 

  • สี (Color) โดยวิสกี้แต่ละชนิดจะมีสีที่แตกต่างกันเนื่องจากส่วนผสมหลัก แค่ชื่อของโกลด์ เลเบิ้ล ก็บอกได้ชัดเจนอยู่แล้วว่ามีสีเหลืองทองอำพัน
  • กลิ่น (Nose) ที่เป็นกลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งผสมกับกลิ่นคาราเมล และเกสรดอกไม้ ตบท้ายด้วยกลิ่นกล้วยหอมสุกละมุนที่โดนใจ
  • รสชาติ (Palate)  ซึ่งจุดเด่นของโกลด์ เลเบิ้ล อยู่ตรงความใส ลื่น แต่เต็มไปด้วยรสชาติของความหวานหอมของน้ำผึ้ง ได้รสเผ็ดปลายลิ้นแบบเครื่องเทศ และยังอบอวลไปด้วยกลิ่นวานิลลาภายในปาก
  • Finish หรือที่เรียกว่ากลิ่น After Taste คือหลังจากที่เรากลืนวิสกี้ลงคอไปแล้ว สิ่งที่ยังติดอยู่ในปากนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งรสชาติของ โกลด์ เลเบิ้ล จะมีรสชาติหวานค้างอยู่ในปากยาวนานเป็นพิเศษคล้ายกับบอมลูกอมอยู่ก็ว่าได้

 

Photo: whiskynewtestament.blogspot.com / juiceonline.com

 

เมื่อมีวิสกี้ดีๆ อยู่ในมือแล้ว ก็ไม่ควรพลาด 4 วิธีดึงรสชาติของวิสกี้ระดับแชมป์ออกมา เพื่อให้คุณฟินไปกับรสชาติของโกลด์ เลเบิ้ล ขึ้นอีกขั้น

 

1. Extra Freeze

วิธีที่โปรวิสกี้แนะนำ คือการนำวิสกี้ไปแช่ฟรีซข้ามวัน นำออกจากตู้ รินใส่แก้วแล้วดื่มทันที เมื่อวิสกี้อุณหภูมิเย็นจัดเข้าไปปะทะกับอุณหภูมิในปากที่มีความอุ่นกว่า จะส่งให้กลิ่นหอมหวานและเกสรดอกไม้ต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์นั้นยิ่งอบอวลอยู่ในปากมากยิ่งขึ้น

        

Photo: whiskynewtestament.blogspot.com

 

2. Gold & Chocolate

อีกวิธีดึงรสชาติที่ซ่อนอยู่ในขวดออกมาได้อย่างละมุน โดยปราศจากการปรุงแต่งเพิ่มเติม คือการค่อยๆ จิบทีละน้อย (หรือที่เรียกว่าการจิบแบบ Neat)  ตบท้ายด้วยการหาช็อกโกแลตเกรดดี จะทำให้คุณรับรู้ถึงรสชาติออริจินัลของวิสกี้ ทั้งกลิ่น สี และรสสัมผัสแบบเต็มๆ

 

Photo: us.thebar.com

 

3. Gold with Honey Comb

สูตรนี้เหมาะกับนักดื่มที่ชื่นชอบรสชาติความหวานของน้ำผลไม้ต่างๆ นำน้ำแอปเปิ้ล เลมอน และฮันนีไซรัปมาผสมกัน พ่นละอองน้ำมันเปลือกเลมอน และวางรังผึ้งชิ้นเล็กๆ ไว้ทานคู่กัน กลิ่นหอมละมุนน้ำผึ้งและความหวานของวิสกี้จะดับเบิลความนุ่มลึกของรสชาติไปอีกขั้น

 

 

4. Cinnamon Gold

วิธีสุดท้ายคือการดึงกลิ่นและรสชาติที่ซ่อนอยู่ในวิสกี้ถึง 14 ชนิด ที่ผสมอัดแน่นอยู่ในขวดออกมา เพียงแค่ผสมน้ำแอปเปิ้ล น้ำมะนาวเขียว (Lime) และน้ำเชื่อมซินนามอนเข้าด้วยกัน รสหวานน้ำผึ้งและกลิ่นหอมของเกสรดอกไม้จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

 

The post ‘Taste of The World’ ดื่มด่ำไปกับวิสกี้ที่ชนะใจคนทั่วโลก [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/johnnie-walker-gold-label-world-whiskies-awards-2018/feed/ 0
ครั้งแรกของโลก! ชาวไทยจะได้สัมผัส ‘Taste of Black’ ก่อนใคร [Advertorial] https://thestandard.co/johnnie-walker-taste-of-black/ https://thestandard.co/johnnie-walker-taste-of-black/#respond Thu, 16 Nov 2017 11:50:35 +0000 https://thestandard.co/?p=46066

     Cheers!      ขอแสดงค […]

The post ครั้งแรกของโลก! ชาวไทยจะได้สัมผัส ‘Taste of Black’ ก่อนใคร [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>

     Cheers!

     ขอแสดงความยินดีกับคอวิสกี้ชาวไทย เพราะเราได้ข่าวว่า จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบรนด์วิสกี้ที่ได้รับการยอมรับอันดับหนึ่งจากผู้คนทั่วโลก เพิ่งปล่อยแคมเปญ ‘Taste of Black ครบทุกมิติแห่งรสชาติ’ เป็นครั้งแรกของโลกที่นี่! เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หลากหลาย ซับซ้อน และเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นทุกวัน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ จึงขอร่วมกระตุ้นการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และร่วมค้นหามิติที่หลากหลายของวิสกี้ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนด้วยกิจกรรมสนุกๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปีนี้

 

ความสำเร็จเกือบ 200 ปี มีที่มาจากปรัชญา Keep Walking

     หลายคนอาจสงสัยว่ามิติของรสชาติที่ลุ่มลึกและซับซ้อนของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ นั้นมีที่มาจากไหน แน่นอนว่าที่นักดื่มทั่วโลกหลงรักนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญ แต่เพราะความพิถีพิถันตามสไตล์ของมาสเตอร์เบลนเดอร์ ดร.จิม เบเวอริดจ์ ที่คัดเลือกวิสกี้ชั้นดีหลายล้านถังจากโรงกลั่นทั่วสกอตแลนด์มาผสมผสานเพื่อสร้างสรรค์มิติของวิสกี้ที่หลากหลาย รวมไปถึงการนำกลิ่นคลาสสิกอย่างกาแฟ ช็อกโกแลต หรือผลไม้ มาเสริมรสชาติจนได้เบลนด์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ตามปรัชญาของแบรนด์ ‘Keep Walking’ ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนก้าวข้ามอุปสรรคเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จนับตั้งแต่ปี 1820 จนถึงปัจจุบัน

 

 

‘Taste of Thonglor’ โอกาสแรกของการค้นพบ 4 มิติแห่งรสชาติ

     พิเศษสุดๆ สำหรับคอวิสกี้ชาวไทยที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ ‘Taste of Black ครบทุกมิติแห่งรสชาติ’ เป็นครั้งแรกของโลกที่ BEAMFEST 2017 Powered by Johnnie Walker เทศกาลที่ผสมผสานความเป็นที่สุดด้านศิลปะ ดนตรี แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ รวมไว้ใจกลางย่านทองหล่อ

 

 

     ซึ่งทางจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้ร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมภายใต้คอนเซปต์ ‘Taste of Thonglor’ โดยการจับมือกับบาร์ชั้นนำจากสิงคโปร์อย่าง Jigger & Pony บาร์สุดเท่ที่ติดอันดับ Asia’s 50 Best Bars ถึง 2 ปีซ้อน รวมถึงบาร์สุดเท่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั่วกรุง เช่น Backstage Cocktail Bar, Pakalolo, Thaipioka, Locker Room x Nutmeg & Clove และ Tropic City เพื่อรังสรรค์เครื่องดื่มสูตรพิเศษกว่า 20 สูตรที่จะช่วยชูมิติแห่งรสชาติอันหลากหลายของวิสกี้ชั้นดีให้ผู้ร่วมงานได้ลิ้มรสก่อนใคร ได้แก่

  • Refreshing สร้างความสดชื่นด้วย J.W. Spindrift, Peach & Ginger และ Good Old Fashioned Highball
  • Bold ลุ่มลึกหนักแน่นไปกับ Red Jade, Chocolate & Elderflower และ De Basalto
  • Mysterious ความซับซ้อนในรสชาติที่รอให้คุณค้นพบจาก Black Spinel, Earl Grey & Pear และ Jungle Letter 23
  • Vibrant เพิ่มสีสันให้ค่ำคืนด้วยเครื่องดื่มอย่าง Gold Diamond, Queen B Swizzle และ Golden Smash

 

     ทั้งหมดนี้รอคุณอยู่ที่ Beam @72 Courtyard ซอยทองหล่อ ระหว่างวันที่ 17-19 และ 24-26 พฤศจิกายนนี้ เวลา 16.00-02.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/JohnniewalkerTH

The post ครั้งแรกของโลก! ชาวไทยจะได้สัมผัส ‘Taste of Black’ ก่อนใคร [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/johnnie-walker-taste-of-black/feed/ 0