แบรนด์น้ำหอม Jo Malone London ประกาศแต่งตั้ง Kim Soo Hyun ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังชาวเกาหลีใต้ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด ด้วยเสน่ห์อันโดดเด่นและความสามารถในการแสดงที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ Kim Soo Hyun จึงเป็นตัวแทนที่เหมาะสมในการสื่อสารความเป็น Jo Malone London สู่แฟนๆ ทั่วโลก

Jo Dancey รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วโลกของแบรนด์เผยว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับ Kim Soo Hyun เขาคือสุดยอดนักแสดงที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทในงานของเขา ซึ่งสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ของเราอย่างลึกซึ้ง ความสามารถของเขาในการเชื่อมต่อกับผู้คนทั่วโลกทั้งในและนอกจอ ทำให้เขาเป็นตัวแทนที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ Jo Malone London ของเรา”

ด้าน Kim Soo Hyun เผยว่า “ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Jo Malone London ผมเป็นแฟนคลับของ Jo Malone London มาโดยตลอด โดยเฉพาะกลิ่น Hinoki & Cedarwood และ Wood Sage & Sea Salt กลิ่นหอมของ Jo Malone London คือสุดยอดแห่งฝีมือการรังสรรค์ ที่มีความสามารถพิเศษในการปลดล็อกความเป็นไปได้ไม่รู้จบผ่านกลิ่นหอม ผมตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Jo Malone London”

สาวๆ สามารถสัมผัสกลิ่นหอมโปรดของ Kim Soo Hyun ได้แล้ววันนี้ที่ Jo Malone London บูติกทุกสาขา หรือติดตามอัปเดตล่าสุดผ่าน LINE Official Account: @JoMaloneLondonTH และ www.JoMalone.co.th

ภาพ: Jo Malone London

The post Kim Soo Hyun ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ Jo Malone London appeared first on THE STANDARD.

Jo Malone London เปิดตัวน้ำหอมกลิ่น Orange Marmalade ที่ได้แรงบันดาลใจจากแยมส้มของหมี Paddington

เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกตื่นเต้นกับน้ำหอมกลิ่นใหม่จากแบรนด์ Jo Malone London ที่ล่าสุดประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับตัวการ์ตูนอันเป็นที่รักอย่างหมีน้อย Paddington เปิดตัวคอลเล็กชันกลิ่นหอมรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันที่ได้แรงบันดาลใจจากแซนด์วิชแยมส้มสุดโปรดของ Paddington อย่างแยมส้มมาร์มาเลด

หลายคนอาจคุ้นเคยกับเรื่องราวของ Paddington หมีน้อยจากป่าลึกในประเทศเปรู ที่เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ Paddington ในลอนดอน ด้วยป้ายที่เขียนว่า ‘โปรดดูแลหมีตัวนี้ด้วย ขอบคุณ’ ซึ่งติดอยู่ที่เสื้อโค้ต และหมีน้อยตัวนี้ก็หลงใหลแยมส้มเป็นพิเศษ โดยมักจะพกแซนด์วิชแยมส้มติดตัวไว้ใต้หมวกเสมอเผื่อยามหิว จากแรงบันดาลใจของเรื่องราวสุดน่ารักนี้ ทำให้กลิ่นหอม Orange Marmalade มีการผสานกลิ่นวูดอบอุ่นเข้ากับกลิ่นผิวส้มสดชื่น สะท้อนทั้งความชื่นชอบของ Paddington และศิลปะการถนอมอาหารแบบอังกฤษแท้ๆ

นอกจากนี้ ยังมีคอลเล็กชันของขวัญอีก 4 ชุด รวมถึงชุดที่นำเสนอในรูปแบบกระเป๋าเดินทางสไตล์ Paddington ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของแบรนด์ ทั้งน้ำหอม ของตกแต่งบ้าน และผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ในไทยเริ่มวางจำหน่ายที่บูติก Jo Malone London ทุกสาขา และเว็บไซต์ https://www.jomalone.co.th/ ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2567 เท่านั้น ใครเป็นแฟนตัวยงของเจ้าหมีน้อย Paddington ห้ามพลาดเลย

ภาพ: Jo Malone London

The post Jo Malone London เปิดตัวน้ำหอมกลิ่น Orange Marmalade ที่ได้แรงบันดาลใจจากแยมส้มของหมี Paddington appeared first on THE STANDARD.

Jo Malone London แต่งตั้ง Tom Hardy นักแสดงชาวอังกฤษขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ พร้อมเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ Cypress & Grapevine Cologne Intense ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของแบรนด์ในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ชายมากขึ้น

แต่เดิมนั้น Jo Malone London มักถูกมองว่าเป็นแบรนด์น้ำหอมที่ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าสาวๆ เป็นหลัก แม้โดยกลิ่นของน้ำหอมจำนวนมากจะออกแบบมาเป็นน้ำหอม Unisex ที่ใช้ได้กับทุกเพศ แม้แต่ชายหญิงก็ใช้กลิ่นเดียวกันได้ แต่ก็ยังมีผู้ชายหลายคนที่มองข้ามไป แต่การที่แบรนด์ตัดสินใจเลือก Tom Hardy ซึ่งมีภาพลักษณ์เป็นผู้ชายที่ดูเข้มแข็ง มีเสน่ห์ และมีสไตล์เป็นของตัวเอง มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้น้ำหอมกลิ่นใหม่นี้ ดูจะเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า Jo Malone London พร้อมจะเจาะตลาดกลุ่มผู้ชายแล้ว

สำหรับน้ำหอมกลิ่นใหม่ Cypress & Grapevine มีกลิ่นไม้จากต้นไซเปรสผสานกับกลิ่นองุ่นและหอมอำพัน ให้ความรู้สึกคลาสสิกแต่ก็แฝงกลิ่นอายธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ผู้ชายที่ชื่นชอบกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นแต่ไม่หวานจนเกินไป เหมาะจะใช้ได้ในทุกโอกาสทั้งกลางวันและกลางคืน

นอกจากนี้ Jo Malone London ยังสร้างสรรค์แคมเปญโฆษณาชุดใหม่ The Exceptional and the Contradictory ที่เขียนบทโดยพ่อของ Hardy เอง เป็นการสะท้อนภาพบรรยากาศของกรุงลอนดอนในมุมมองที่แปลกใหม่ เน้นความขัดแย้งแต่ลงตัว ท้าทายการรับรู้แบบเดิมๆ เกี่ยวกับการโฆษณาน้ำหอม ซึ่งน่าจะช่วยดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น

การร่วมงานกันครั้งนี้ยังมีที่มาจากการมีแนวคิดที่ตรงกันระหว่าง Hardy และ Jo Malone London ในเรื่องการทำประโยชน์เพื่อสังคม และการสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางบวก รวมถึงการให้ความสำคัญกับการพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตอีกด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหวโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่แบรนด์มีต่อลูกค้าอีกด้วย จะเห็นว่าการสื่อสารเรื่องราวของแคมเปญใหม่ที่มีการแฝงข้อคิดสามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี จึงน่าติดตามว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดเช่นไร และจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับผู้ชายออกมาอีกหรือไม่ในอนาคต

 

อ้างอิง:

• https://www.happi.com 

The post Jo Malone London แต่งตั้ง Tom Hardy เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ เน้นดึงดูดกลุ่มลูกค้าผู้ชายมากขึ้น appeared first on THE STANDARD.

น่าสนใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เมื่อ Jo Malone London เผยโฉมคอลเล็กชันใหม่ Scented Mementos ที่มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น

Jo Malone London แบรนด์ดังจากอังกฤษ เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในวงการน้ำหอมด้วยการเปิดตัว Brit Collection-Scented Mementos ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากของสะสมล้ำค่าและหายาก มอบประสบการณ์กลิ่นหอมแห่งความทรงจำที่ไม่เหมือนใครผ่าน 4 กลิ่นหอมใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับขวดดีไซน์หรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเครื่องดื่มคลาสสิกของอังกฤษ ได้แก่

• Ginger Beer: กลิ่นสไปซีวูดดี้ที่อบอุ่นน่าหลงใหล
• Passiflora: กลิ่นฟลอรัลนุ่มนวล
• Emerald Thyme: กลิ่นซิตรัสหอมกรุ่น
• Musk Memento: กลิ่นสะอาดของมัสก์

นอกจากนี้ยังมี Dawn Musk Home Candle ที่มาในดีไซน์แสนล้ำค่า เพื่อสร้างบรรยากาศหอมกรุ่นให้กับทุกพื้นที่ในบ้าน หากใครอยากไปลองดมกลิ่นหอมๆ ของ Brit Collection-Scented Mementos ตอนนี้ทางแบรนด์จัดงานตั้งแต่ 4-12 มีนาคม 2567 ณ Siam Paragon ชั้น 1 โซน Fashion Gallery ผู้ที่มาร่วมงานจะได้สัมผัสกับน้ำหอมขนาดทดลองและสัมผัสประสบการณ์กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Jo Malone London อย่างใกล้ชิด และมีข้อเสนอพิเศษสุดคลาสสิก หากซื้อ Brit Collection ใดๆ 2 ชิ้นขึ้นไป ลูกค้าจะได้รับกล่องของขวัญกำมะหยี่สุดคลาสสิกพร้อม Cologne Pouch ไปด้วย และสำหรับลูกค้าใหม่จะได้รับของขวัญกลิ่นหอม Cologne ขนาด 9 มล. สำหรับทุกคำสั่งซื้อ โดยคอลเลกชันนี้จะวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

ภาพ: Jo Malone London

The post Jo Malone London เผยโฉมคอลเล็กชันใหม่ Scented Mementos ที่หอมเกินห้ามใจ appeared first on THE STANDARD.

วงการน้ำหอมในบ้านเรามีบรรยากาศที่คึกคักและน่าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดมีการเปิดตัว ‘Cologne Intense’ น้ำหอมคอลเล็กชันใหม่จาก Jo Malone London ที่จุดประกายความหรูหราและความเย้ายวนใจให้กับสาวกที่หลงใหลในกลิ่นของน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์ 

โดยการเปิดตัวครั้งนี้ เราได้ไปเยือนเคาน์เตอร์น้ำหอมสุดปังของ Jo Malone London ที่เอ็มโพเรียม และได้พบกับเรื่องราวจุดเริ่มต้นของการเดินทางของน้ำหอม Cologne Intense ที่รวบรวมไว้ทั้ง 10 กลิ่น แรงบันดาลใจมาจากดินแดนอันห่างไกลและพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วยส่วนผสมที่หายากมากมายและมีการรังสรรค์น้ำหอมขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้ น้ำหอม, ครีมบำรุงผิว, เทียนหอม ไปจนถึงก้านกระจายกลิ่นหอมนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

สิ่งที่ดึงดูดใจมีทั้งเรื่องของดีไซน์และแนวกลิ่นที่โดดเด่น โดยขวดน้ำหอมถูกออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยสีโทนอุ่นล้ำลึก ที่ชวนให้นึกถึงหินมีค่าและอัญมณี แต่ละกลิ่นในคอลเล็กชันนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและน่าค้นหา เช่น Red Hibiscus ที่มาพร้อมกลิ่นหอมหวานของจัสมินและวานิลลา, Myrrh & Tonka ที่มีกลิ่นของยางไม้และอัลมอนด์, Cypress & Grapevine ที่ผสมผสานกลิ่นสดชื่นของต้นไซเปรสและเถาองุ่น, Dark Amber & Ginger Lily ที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นกระวานดำและลิลลี่ และ Oud & Bergamot ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของไม้หอม Oud และมะกรูด

ภายในงานเราได้พูดคุยกับ ทิกเกอร์-อชิระ เทริโอ ศิลปิน Gen Z ที่เป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลเสน่ห์ความหอมของน้ำหอม Jo Malone London ได้เปิดใจกับ THE STANDARD POP ว่า 

“ผมกับคุณแม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ของ Jo Malone London อยู่แล้ว วันนี้ก็ได้มาอัปเดตและทดลองทำสปามือด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผมชอบด้วย รู้สึกดีมากครับ ที่บ้านผมจะใช้ทั้งสบู่ เทียนหอม น้ำหอม ด้วยครับ ตอนนี้พอมาอยู่ในงานน้ำหอมก็ยิ่งเห็นว่าเขามีหลายกลิ่นละลานตาไปหมด ก็ได้ลองดมหลายกลิ่นใหม่ๆ ด้วย ซึ่งไลฟ์สไตล์ของผมเองจะเป็นคนที่ชิล ค่อนข้างอิสระ แต่จะให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง และรู้จักโฟกัสในสิ่งที่สำคัญ เวลาผมเลือกน้ำหอมก็เลยจะเลือกกลิ่นที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง เช่นแนวกลิ่นที่มีความ Unisex ผมชอบกลิ่นที่ไม่ได้ชัดเจนว่าจะต้องเป็นเฟมินีนหรือมัสคูลินจ๋า ผมจะชอบแนวฟรุตตี้หรือฟลอรัล ที่ไม่ว่าใครก็ใช้ด้วยกันได้ ถ้าชอบก็คือชอบ อย่างของ Jo Malone London กลิ่นโปรดของผมคือ Dark Amber & Ginger Lily Cologne Intense กับกลิ่น English Pear & Freesia Cologne ครับ หอมมาก และผมก็เป็นแฟนของเทียนหอมด้วย วันนี้ก็ตั้งใจจะซื้อเทียนหอมกลิ่น Dark Amber & Ginger Lily กลับไปด้วย” 

Cologne Intense มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 100 มล. ในราคา 8,650 บาท และ 50 มล. ในราคา 6,050 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ Jo Malone London Boutique ทุกสาขา และทางออนไลน์ที่ www.JoMalone.co.th

ภาพ: Courtesy of Jo Malone London

The post ส่องความหรูหราอันเย้ายวนของ Cologne Intense จาก Jo Malone London appeared first on THE STANDARD.

แฟนของน้ำหอม Jo Malone London ที่เคยอินเลิฟกับกลิ่นหอมหวานของ English Pear & Freesia น่าจะตื่นเต้นกับการมาถึงของกลิ่นใหม่ซึ่งต่อยอดจากกลิ่นเอกลักษณ์ดังกล่าว เพื่อเป็นการร่วมฉลองให้กับความน่าหลงใหลของลูกแพร์อังกฤษ ทำให้เกิดน้ำหอมกลิ่นใหม่อย่าง English Pear & Sweet Pea ที่ว่ากันว่าเป็นแนวกลิ่นหอมที่ชวนให้ทุกคนที่ได้กลิ่นจินตนาการถึงสวนผลไม้ภายใต้แสงแดดอันอบอุ่นส่องกระทบกับผลลูกแพร์ฉ่ำ ทำให้กลิ่นนี้น่าสนใจตรงที่จะมีความเย้ายวนของกลิ่นผลไม้เพิ่มเข้ามา ทำให้สดชื่นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

โดย Top Note จะเป็นกลิ่นลูกแพร์จากพันธุ์ William ที่โชว์เสน่ห์ของกลิ่นหอมจากผลไม้ที่มีความละมุนละไม เป็นแนวกลิ่นสดชื่นแบบฉ่ำ จากนั้น Heart Note จะโดดเด่นด้วยความหอมของดอก Sweet Pea เป็นกลิ่นแนวฟลอรัลสดชื่น ผสานกับกลิ่นชุ่มฉ่ำของลูกแพร์แล้วเข้ากันดีสุดๆ สุดท้าย Base Note จะออกแนวกลิ่นหอมสะอาดแบบแป้ง ช่วยเติมความน่ารักน่าหลงใหลให้เป็นน้ำหอมที่นุ่มนวล เหมาะสำหรับทุกวัน ทั้งนี้น้ำหอมแต่ละขวดของกลิ่นหอม English Pear นั้นสร้างสรรค์และสกัดขึ้นจากลูกแพร์ธรรมชาติ 100% เทียบเท่ากับลูกแพร์ 1 ลูก

ใครอยากลองไปดมกลิ่นใหม่ของ English Pear & Sweet Pea สามารถแวะเวียนไปได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ Jo Malone London ในเครือเซ็นทรัลทุกสาขา หรือเว็บไซต์ www.JoMalone.co.th และจะเริ่มจัดจำหน่ายพร้อมกันที่ Jo Malone London Boutique ทุกสาขาในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

ภาพ: Courtesy of Brand

The post Jo Malone London ออกน้ำหอมกลิ่นใหม่ English Pear & Sweet Pea appeared first on THE STANDARD.

พาส่องงาน The World of Jo Malone London Event นี่คืองานอีเวนต์สุดคิวต์ของน้ำหอม Jo Malone London 

ทุกครั้งที่แบรนด์น้ำหอม Jo Malone London จัดงานอีเวนต์เกี่ยวกับน้ำหอม แฟนๆ มักจะพบกับความพิเศษที่มาพร้อมธีมและคอนเซปต์สนุกๆ ให้สาวกของแบรนด์ได้ไปจอยกิจกรรมและเลือกสรรน้ำหอมกลิ่นโปรดได้อย่างเพลิดเพลินจุใจ สำหรับปีนี้ Jo Malone London จัด The World of Jo Malone London Event ซึ่ง ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล มาร่วมงานก่อนที่จะบินกลับประเทศจีนด้วย โดยเขาเดินชมและเทสต์กลิ่นน้ำหอมอย่างเพลิดเพลิน และแง้มให้ฟังว่ากลิ่นโปรดของเขาคือ Wood Sage & Sea Salt สำหรับงานนี้ทางแบรนด์จัดในธีมสนุกสนานและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีทั้งไดโนเสาร์และรถยนต์สุดลักชัวรีที่ขนเอากล่องของขวัญผ่านกลิ่นหอมมาเต็มไปหมด แฟนๆ ของ Jo Malone London สามารถเลือกกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์บริติช พร้อมชุดของขวัญมากมาย และสนุกสนานไปกับการมอบของขวัญแสนพิเศษที่มีเฉพาะภายในงาน อย่างเช่น ของขวัญสุดเอ็กซ์คลูซีฟใหม่ล่าสุดของ Jo Malone London กับ Ceramic Topper สุดน่ารักที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น และยังมี Alphabet Charm เลือกตัวอักษรห้อยขวด, Color Ribbon ริบบิ้นสีสันสดใส 

ใครที่อยากไปเยี่ยมชมงานสุดน่ารักสไตล์บริติช สามารถแวะเวียนไปได้ที่บริเวณลาน Hall of Fame สยามพารากอน ชั้น M ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 พฤษภาคมนี้  

ภาพ: Jo Malone London

The post ชวนไปปล่อยจอยที่งานน้ำหอมสุดคิวต์ของ Jo Malone London appeared first on THE STANDARD.

ถือเป็นการประกาศแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกคนใหม่ของแบรนด์ Jo Malone London ที่น่าสนใจมาก เมื่อผู้ที่ได้ขึ้นแท่นรับตำแหน่งนี้คือ Adwoa Aboah (แอดโวอา อาโบอาห์) เธอเป็นนางแบบสาวชาวอังกฤษ และเป็นทั้งนักเคลื่อนไหวด้านสุขภาพจิต รวมถึงบทบาทในฐานะผู้ก่อตั้ง Gurls Talk ได้กลายมาเป็นทูตระดับโลกคนใหม่ที่จะร่วมงานกับแบรนด์ Jo Malone London นับจากซีซันนี้เป็นต้นไป 

สำหรับการร่วมงานกันครั้งนี้ระหว่าง Adwoa Aboah และ Jo Malone London ต่างมีความมุ่งมั่นเดียวกันในการผลักดันภารกิจเพื่อสังคมผ่านแคมเปญต่างๆ อย่างจริงจัง โดยภารกิจแรกของ Adwoa Aboah จะโปรโมตน้ำหอมกลิ่น English Pear & Freesia ซึ่งเป็นกลิ่นน้ำหอมระดับ Best Seller ที่สาวๆ ทั่วโลกยกให้เป็นน้ำหอมกลิ่นโปรด โดยในแคมเปญนี้ได้ Tim Walker ช่างภาพชื่อดังมาถ่ายภาพให้ และเตรียมจะปล่อยภาพแคมเปญในช่วงปลายปีนี้  

การแต่งตั้ง Adwoa Aboah ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับแบรนด์ Jo Malone London ที่จะเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับประเด็นทางสังคม รวมถึงปัญหาสุขภาพจิตด้วย แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาแบรนด์จะเคยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกมาก่อน แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และการตลาดมากกว่าประเด็นทางสังคม ครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง 

สำหรับผลงานของ Adwoa Aboah ที่ผ่านมาเธอเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Gurls Talk ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เธอตั้งใจให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับหญิงสาวและเด็กผู้หญิง ที่ต้องการคำแนะนำหรืออยากได้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายโดยไม่เกี่ยงเพศวิถี เพื่อมุ่งเน้นให้ทุกคนได้รับโอกาสในการมีวิถีชีวิตที่ดี ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่แสวงหากำไรด้วย นอกจากนี้ Adwoa Aboah ยังเคยได้รับรางวัลนางแบบแห่งปีจากงาน Fashion Awards กรุงลอนดอนปี 2017 และเป็นทูต BFC ที่ช่วยรณรงค์เรื่องความหลากหลายของนางแบบในอุตสาหกรรมแฟชั่นนี้ และเธอผ่านการขึ้นปก British Vogue ฉบับแรกของ Edward Enninful มาแล้ว ทางด้านแบรนด์ Jo Malone London เองจะร่วมสนับสนุนงานสังคมสงเคราะห์ผ่านการขายคอลเล็กชัน Charity Candle ด้วย ซึ่งจะจำหน่ายในอังกฤษและไอร์แลนด์เป็นไอเท็ม Jo Malone London Limited ที่จะร่วมบริจาค 75% ของราคาขายปลีกเพื่อสนับสนุนบุคคลและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสุขภาพจิตผ่านโครงการของ Adwoa Aboah ด้วย 

อ้างอิง:

• https://wwd.com/beauty-industry-news/fragrance/adwoa-aboah-becoming-jo-malone-londons-first-global-ambassador-1235167373/

The post Adwoa Aboah นางแบบชาวอังกฤษและนักเคลื่อนไหวด้านสุขภาพจิต ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Jo Malone London appeared first on THE STANDARD.

เทศกาลสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทยเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมไทยที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์อันงดงามเฉพาะตัว สำหรับคนไทยแล้วถือเป็นช่วงเวลาแห่งการพบปะ รวมญาติ การแสดงความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่ ทำกิจกรรมร่วมกัน ใช้โอกาสนี้ในการส่งต่อความรักที่มีต่อคนในครอบครัว รวมถึงให้ของขวัญกับคนพิเศษในช่วงเวลานี้

จากวัฒนธรรมอันงดงามดังกล่าวทำให้แบรนด์ Jo Malone London แบรนด์แห่งของขวัญ มาพร้อมกับของขวัญชิ้นพิเศษที่มีเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น

เรื่องราวจากวัฒนธรรมแห่งการให้และศิลปะการห่อของขวัญของ Jo Malone London ที่พร้อมเป็นของขวัญให้คนพิเศษของคุณในทุกโอกาส จากจุดขายอันแสนโดดเด่นของ Jo Malone London ที่ใครหลายคนคงจะคุ้นชิน กับกล่องของขวัญสีครีมคาดด้วยริบบิ้นสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และหากเปิดกล่องของขวัญออกมา คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมซิกเนเจอร์ของแบรนด์นี้ ที่จะทำให้ผู้ที่ได้รับของขวัญชิ้นนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างแน่นอน

ในครั้งนี้ Jo Malone London ได้ทวิสต์การมอบของขวัญจากการคาดริบบิ้นสีดำมาเป็นเทคนิคการห่อของขวัญที่น่าสนใจและพิเศษสุดๆ ด้วย Jo Malone London Tie-Dyed ศิลปะผ้ามัดย้อมไทยดีไซน์ลิมิเต็ดเอดิชัน นำเสนอในรูปแบบของ Tie dyed Fabric ที่ทาง Jo Malone London ใช้ในการห่อของขวัญแทนการผูกด้วยริบบิ้นดำ และ Jo Malone London ยังมาพร้อม Jo Malone London Bag Tie ลิมิเต็ดเอดิชันคู่กันเพื่อเป็นของขวัญให้คนพิเศษในช่วงปีใหม่ไทยในครั้งนี้

ใครที่อยากสำรวจเรื่องราวของเสน่ห์การห่อของขวัญอันเป็นลักษณ์เพิ่มเติม THE STANDARD POP รวบรวมมาฝากผู้อ่านแล้ว ดังนี้ 

Jo Malone London เนรมิตชุดของขวัญจากผ้าไทยเป็นปีที่ 2 

เข้าสู่ปีที่ 2 แล้วที่ Jo Malone London นำเอาเสน่ห์ความงดงามของผ้าไทยมัดย้อมมารังสรรค์เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันปีใหม่ไทยด้วย โดยสิ่งที่ Jo Malone London เน้นมาตลอดคือเรื่องของจิตวิญญาณแห่งความเอื้อเฟื้อ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Brand Pillar ที่ Jo Malone London ให้ความสำคัญ ซึ่งในที่นี้ความเอื้อเฟื้อคือการส่งต่อความสุขให้แก่บุคคลที่เรารัก รวมทั้งการส่งต่อความปรารถนาดีนี้แก่ผู้คนในชุมชนที่อยู่รอบๆ ตัวเราด้วย

ซึ่งการเลือกใช้ผ้าไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นั้นยังแสดงถึงการเล็งเห็นคุณค่าของวิถีชุมชน นำมาซึ่งการมอบโอกาสที่ร่วมสนับสนุนชุมชน ให้ชาวบ้านที่ทอผ้าไทยได้มีอาชีพและมีส่วนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ โดยใช้ผ้าไทย วัตถุดิบที่เป็นไทย มาสร้างสรรค์เข้ากับกลิ่นอายของเสน่ห์แบบอังกฤษ กลายเป็นชุดของขวัญที่เป็นทั้งความอบอุ่น เป็นตัวแทนแห่งความรักที่ทุกคนจะใช้มอบให้แก่กันในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้

ส่องเสน่ห์ The Art of Gift Giving ฉบับ Jo Malone London 

Jo Malone London ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญในการมอบของขวัญ โดยเฉพาะในเทศกาลสุดพิเศษนี้ ศิลปะในการห่อของขวัญที่สวยงามประณีตฉบับ Jo Malone London สะท้อนความเป็น The Art of Gift Giving ที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์แห่งการให้และรับผ่านความพิเศษในแง่มุมต่างๆ ดังนี้

• Jo Malone London ถ่ายทอดคอนเซปต์ The Art of Gift Giving สะท้อนถึงวัฒนธรรมการให้ ควบคู่ไปกับศิลปะการห่อของขวัญที่ใส่ใจ เพื่อให้ลูกค้าได้มอบของขวัญแด่คนพิเศษได้ในทุกโอกาส 
• กล่องของขวัญสไตล์ Jo Malone London นั้น ปกติจะเป็นสีครีมผูกริบบิ้นดำที่เรียบหรู สื่อถึงเอกลักษณ์ผู้ดีอังกฤษ แต่ครั้งนี้ในช่วงสงกรานต์จะพิเศษยิ่งขึ้นด้วย Wrapping จากผ้ามัดย้อมไทยที่มีจำหน่ายเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น
• ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอมที่มีรสนิยม ทำให้ถูกใจทั้งคนให้และผู้รับ เพิ่มความประทับใจเมื่อเปิดกล่อง ด้วยกระดาษของขวัญสีดำที่ฉีดพรมด้วยกลิ่นหอมซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Jo Malone London แม้กระทั่งการผูกโบของแบรนด์ที่เรียกว่า Perfect Bow Tie ก็ให้ความสำคัญกับองศาในการผูกและตัดได้อย่างประณีต ใส่ใจในรายละเอียด บรรจงใส่ลงในกล่องของขวัญอย่างพิถีพิถัน
• สำหรับเทศกาลปีใหม่ไทย หรือสงกรานต์ Jo Malone London นำเสนอการมอบของขวัญในสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ผสมผสานกลิ่นอายสไตล์อังกฤษและความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ผ่านการห่อของขวัญด้วยผ้ามัดย้อมดีไซน์ลิมิเต็ดเอดิชัน โดยดีไซน์นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากกลิ่นหอมของ Nectarine Blossom & Honey ซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดอีกหนึ่งกลิ่น 
• นอกจาก Jo Malone London Tie-Dyed Scarf ที่ทาง Jo Malone London ใช้ในการห่อกล่องของขวัญอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมี Jo Malone London Bag Tie ฉบับลิมิเต็ดเอดิชัน มามอบคู่กันเพื่อเป็นของขวัญให้คนพิเศษของคุณอีกด้วย 

รู้จักกลิ่น Nectarine Blossom & Honey ที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ

เสน่ห์ความหอมของกลิ่น Nectarine Blossom & Honey นั้น เป็นกลิ่นหอมในตระกูล Fruity (ผลไม้) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งใน Signature Scent ของ Jo Malone London โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

• ลักษณะกลิ่น Nectarine Blossom & Honey มีความหวานฉ่ำ หอมหวาน และได้ฟีลลิ่งที่ร่าเริง
• แรงบันดาลใจของ Nectarine Blossom & Honey ณ Covent Garden แห่งลอนดอนในยามเช้า นำด้วยกลิ่นหอมของ Nectarine ผลสุกใหม่ ร่วมด้วยกลิ่น Peach และ Cassis ที่แข่งขันกันเย้ายวน ชวนให้ลิ้มลอง คลอเคล้ามากับดอกไม้แห่งฤดูกาล ผสานรับกับโน้ตที่งดงาม หลอมรวมกับน้ำผึ้งจากดอก Acacia มอบความพิเศษที่ให้ความหวานฉ่ำ ล้ำรส และสนุกสนาน
• กลิ่นหอมนี้ได้ถูกนำมาถ่ายทอดออกมาเป็น Jo Malone London Tie-Dyed ในรูปแบบของสีสันและลวดลายแสนพิเศษด้วย

จุดเด่นและแรงบันดาลใจของ Jo Malone London Tie-Dyed

การตีความทั้งลวดลายและสีสันของ Jo Malone London Tie-Dyed มีที่มาจากการได้ดมกลิ่น Nectarine Blossom & Honey โดยกลิ่นแรกที่โดดเด่นขึ้นมาเลยคือ กลิ่นผลไม้ที่มีความหวานและมอบความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ราวกับว่าเพิ่งตื่นเช้าใหม่ๆ แล้วได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ และเมื่อนึกถึงความหวานโดยจินตนาการเป็นสีสัน ก็ชวนให้นึกถึงสีที่มีความหวาน สดใส เช่น สีชมพู สีส้ม และสีแดง 

Tie-Dyed Fabric ดีไซน์และเทคนิคที่ร่วมทำงานกับชุมชน 

สำหรับดีไซน์ของผ้ามัดย้อมใช้เทคนิคกั้นสีแบบญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันในชื่อ ชิโบริ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับชาวบ้านในชุมชน จ.แพร่ โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Tie-Dyed Fabric จะใช้จะเป็นผ้าฝ้าย 100% และเลือกใช้อุปกรณ์หรือวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ภายในชุมชน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด ซึ่งมาฝากฝีมือภูมิปัญญาชาวบ้านที่ยังคงเสน่ห์ของการทำงานฝีมือกันแบบครัวเรือน อีกทั้งชาวบ้านในชุมชนยังสามารถนำเทคนิคที่ได้ไปต่อยอดองค์ความรู้ให้เกิดรายได้และสร้างอาชีพเพิ่มเติม

The post Jo Malone London ดึงเสน่ห์อันงดงามของผ้ามัดย้อมไทยมารังสรรค์เป็นชุดของขวัญสุดพิเศษสำหรับเทศกาลสงกรานต์ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

ใครที่เป็นแฟนตัวยงของแบรนด์ Jo Malone London น่าจะทราบดีว่าภายใต้อาณาจักรความหอมของแบรนด์นี้ล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์ความหอมที่น่าหลงใหลจนเลือกไม่ถูก แต่มีอยู่กลิ่นหนึ่งที่เป็นดาวเด่นของกลิ่นหอมที่ขายดีตลอดกาล นั่นคือกลิ่น English Pear & Freesia กลิ่นนี้มีอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความรื่นรมย์อย่างครบครันทั้ง Cologne, Home และ Bath & Body สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ English Pear & Freesia คือเสน่ห์ของกลิ่นหอมเกินต้านทานที่เพียงได้กลิ่นครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำของความหอมในตระกูล Fruity (Ripe Pear) ที่ผสมผสานเข้ากันกับกลิ่นอายของ Floral (White Freesia) บอกเลยว่าช่างเป็นแนวกลิ่นที่บาลานซ์กันได้อย่างลงตัวระหว่างกลิ่นผลไม้สดฉ่ำกับความหอมละมุนละไมจากดอกไม้ ทำให้ทุกคนต่างตกหลุมรักกลิ่น English Pear & Freesia จนทำให้เป็นที่นิยมและติดอันดับ Best Seller อันดับ 1 ของแบรนด์ Jo Malone London ตลอดมา 

ด้วยเหตุนี้ THE STANDARD POP จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับต้นกำเนิดของเสน่ห์ความหอมอันน่าหลงใหลของกลิ่นหอม English Pear & Freesia กันแบบเจาะลึก เพื่อคลายข้อสงสัยว่า ทำไมนี่จึงเป็นกลิ่นหอมที่ได้รับความรักมากมายจากคนทั้งโลก ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย 

แรงบันดาลใจเริ่มต้นของกลิ่นหอม English Pear & Freesia

Jo Malone London: ย้อนกลับไปในปี 2010 นับเป็นต้นกำเนิดครั้งแรกของกลิ่น English Pear & Freesia ที่คิดค้นขึ้นมาโดยทีม Perfumer ที่ตอนนั้นตอนนั้น Jo Malone London ยังไม่มีน้ำหอมที่มีกลิ่นผลไม้เป็นหลักเลย นอกจาก Nectarine Blossom & Honey ซึ่งมอบกลิ่นหอมที่ขี้เล่นและหอมหวานแบบพีช โดยแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังกลิ่น English Pear & Freesia คือทางแบรนด์ต้องการสร้างสรรค์กลิ่นหอมที่คาดไม่ถึง และสำรวจถึงผลไม้หลากหลายชนิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงมิติของความหวาน เพื่อนำมาผสมผสานกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่สง่างาม ดังนั้นแรงบันดาลใจของกลิ่น English Pear & Freesia จึงมาจากเสน่ห์ของสวนผลไม้สไตล์อังกฤษในช่วงเวลาฤดูร้อนที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ฤดูใบไม้ร่วงแบบพอดิบพอดี ทำให้แบรนด์ได้แรงบันดาลใจจากภาพของผลไมที่มีลูกสดฉ่ำ ลูกแพร์ที่เพิ่งสุกใหม่ๆ และยังได้แรงบันดาลใจจากบทกวีอันโด่งดังของ จอห์น คีตส์ ซึ่งกล่าวถึงฤดูใบไม้ร่วงที่ผลไม้สุกและดอกไม้ต่างก็กำลังให้ผลผลิตราวกับกำลังร่ายมนตร์ในช่วงเวลานี้ของปีนั่นเอง

สำรวจจุดเด่นที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของกลิ่น English Pear & Freesia 

Jo Malone London: การที่กลิ่น English Pear & Freesia กลายเป็นกลิ่นที่ขายดีอันดับ 1 ของแบรนด์ Jo malone London นั้น เนื่องจากเสน่ห์ของกลิ่นแนว Fruity ที่หอมอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งแต่ละกลิ่นหอมที่หลอมรวมกันเป็นกลิ่น English Pear & Freesia นั้นมีเอกลักษณ์ในแต่ละ Note ของแนวกลิ่น ที่กลายเป็นสไตล์อันโดดเด่นที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้ เพราะมันคือความเป็น Jo Malone London Twist ที่เล่นกับความเซอร์ไพรส์ของกลิ่นหอมที่เป็นจุดแข็งสำคัญ แถมยังเป็นกลิ่นหอมของน้ำหอมในสไตล์ Chypre

ซึ่งมีส่วนสำคัญมากที่ทำให้กลิ่นของ English Pear & Freesia ของ Jo Malone London นั้นมีกลิ่นผลไม้หรือแนวฟรุตตี้ชีพร่า ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่มีใครเหมือน ในแง่ของแนวกลิ่นจัดได้ว่าผสานกันไว้อย่างลงตัวระหว่างกลิ่นของผลไม้และดอกไม้ ซึ่ง Note ของกลิ่น English Pear & Freesia จำแนกออกมาเป็นกลิ่นในแต่ละ Note กลิ่นสัมผัสแรกคือ King William Pear กลิ่นสัมผัสกลางคือ Freesia และกลิ่นสัมผัสสุดท้ายคือ Patchouli 

โดยท็อปโน้ตแรกที่เราจะได้กลิ่นนำมาเลยคือ English Pear Accord ที่มีกลิ่นของผลไม้และความชุ่มฉ่ำที่ลงตัว มีความนุ่มนวลที่ได้จากกลิ่นหอมของดอก Freesia สีขาวที่ละเอียดอ่อน ซึ่งมีบุคลิกกลิ่นหอมแบบดอกไม้ป่ามากกว่าที่จะเป็นกลิ่นหอมแบบดอกไม้ที่หอมจรุงและคลาสสิก ภายในกลิ่นหอมหลักของน้ำหอมนี้คือโมเลกุลของอำพันและ Patchouli หรือพิมเสนจากธรรมชาติ ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มเสน่ห์อันน่าหลงใหลให้กับกลิ่น English Pear & Freesia มากขึ้น โดยทำให้ได้สัมผัสที่มีความหอมอย่างบางเบา ไม่รู้สึกหนัก นอกจากนี้ก็ยังมีกลิ่นของ Rose Accord บางๆ ที่ใจกลางของน้ำหอม ทำให้รู้สึกถึงแนวกลิ่น Chypre (ชีพ-ร่า) ที่มีความทันสมัย ซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่ผสมผสานกันระหว่างกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำกับกลิ่นดอกไม้ ท่ามกลางความอบอุ่นและความรู้สึกเย็นสบายของตัวเบสโน้ตหรือฐานโครงสร้างน้ำหอมด้วย English Pear & Freesia กลิ่นหอมที่เหมาะกับ Unisex

We Say: เสน่ห์ของน้ำหอม Jo Malone London ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือความเป็นน้ำหอมที่เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใดก็สามารถใช้น้ำหอมของ Jo Malone London ได้ เพราะมีแนวกลิ่นหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคน กลิ่น English Pear & Freesia ก็เป็นหนึ่งในกลิ่นที่ใช้ได้ในทุกวันและทุกวัย เสน่ห์ที่มากกว่าความหอมคือความสนุกของการใช้ผลิตภัณฑ์ Crossed-Category กันได้หมด โดยเฉพาะน้ำหอมนั้นมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นในการเป็น Scent Pairing ที่ผู้ใช้สามารถ สร้างสรรค์กลิ่นหอมในแบบของตัวเอง

จนก่อเกิดเป็นแนวกลิ่นใหม่ที่ถูกใจเฉพาะบุคคลให้ได้มิกซ์แอนด์แมตช์กันอย่างเพลิดเพลิน ยกตัวอย่างเช่น หนุ่มคนไหนที่ชื่นชอบเสน่ห์ความหอมแบบฉ่ำสดชื่นของ English Pear & Freesia แต่ไม่อยากให้ดูหวานเกินไป ก็สามารถเบรกความหวานให้ดูแมนขึ้นด้วยการ Pair กับกลิ่น Wood Sage & Sea Salt ได้ หรืออาจเลือกแนวกลิ่นเดียวที่เป็นกลุ่มความหอมแบบ Woody ซึ่งจะสตรองขึ้นมาอีกระดับ 

แม้แต่ Nick Carvell นักเขียนเกี่ยวกับน้ำหอม ยังแนะนำให้ผู้ชายทุกคนลองมาใช้น้ำหอมกลิ่น Floral

Nick Carvell: ผู้ชายส่วนใหญ่อาจจะห่างไกลกับการใช้น้ำหอมกลิ่น Fruity และ Floral นับว่าเป็นกลิ่นที่เราแทบไม่เคยได้สัมผัสเลย เนื่องจากสังคมและการตลาดกระแสหลักจะตีตราว่าน้ำหอมกลิ่นดอกไม้และผลไม้นั้นมีไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กลิ่นหอมเหล่านี้ก็ควรค่าที่เราจะลองสำรวจ เพราะไม่เพียงจะทำให้เราสามารถออกนอกกฎเกณฑ์ของกลิ่นหอมเดิมๆ สำหรับผู้ชายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะว่าในฤดูร้อนกลิ่นของดอกไม้และผลไม้จะให้สัมผัสที่สามารถปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศที่อบอุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย เช่น น้ำหอม English Pear & Freesia Cologne ของ Jo Malone London เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจน้ำหอมกลิ่น Fruity และ Floral เพราะเป็นแนวกลิ่นที่มอบสัมผัสความหอมที่สะอาดและสง่างาม ใช้แล้วทำให้คุณรู้สึกราวกับกำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดในอิตาลี เป็นการยากมากที่คุณจะไม่นึกถึงสวนผลไม้ในอังกฤษเมื่อได้สัมผัสกับน้ำหอมกลิ่นนี้ คุณจะนึกถึงต้นไม้ที่พัดไสวอยู่ในท่ามกลางสายลมเย็น ในขณะที่คุณนั่งปิกนิกอยู่บนเสื่อบนพื้นสนามหญ้าภายใต้ดวงอาทิตย์ยามบ่าย เป็นความรู้สึกรื่นรมย์และมีความสุข 

เทคนิคการ Scent Pairing & Layering ที่ควรรู้

Jo Malone London: ทุกกลิ่นหอมของ Jo Malone London นั้นรังสรรค์ขึ้นด้วยส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นหนึ่งในเอกลักษณ์ของแบรนด์คือการผสมผสานกลิ่นหอมใหม่ออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเรียกสิ่งนี้ว่า Scent Pairing ซึ่งสามารถทำได้กับผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Cologne + Cologne หรือ Home + Home นอกจากนี้ยังสามารสร้างประสบการณ์กลิ่นหอมพิเศษผ่านการทำ Scent Layering หรือการใช้ผลิตภัณฑ์เลเยอร์ลงบนผิวกายร่วมกัน ซึ่งมักจะทำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันเช่น Bath & Body + Cologne 

สำหรับกลิ่น English Pear & Freesia เป็นกลิ่นหอมที่เข้าได้กับทุกกลิ่นของ Jo Malone London เพื่อให้เกิดเป็นกลิ่นที่มีมิติมากขึ้น ดังนี้

• หากทำ Scent Pairing คู่กับกลิ่นในตระกูลอื่น เช่น Citrus, Floral หรือ Woody จะเข้าไปเพิ่มมิติความหอม สดใส ให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
• หากทำ Scent Layering ใน English Pear & Freesia Family กันเอง กลิ่นที่ได้นั้นจะมีความติดทนยาวนาน หอมกรุ่นมากขึ้น และผ่อนคลายที่สุด

ส่อง Collection สุดพิเศษของ English Pear & Freesia 

We Say: สำหรับเสน่ห์ความหอมของ English Pear & Freesia Family นั้นมีให้เลือกหลากหลาย บอกเลยว่าตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Cologne หรือจะเป็นสาย Work from Home ที่อินกับการอยู่บ้านและสร้างบรรยากาศของการทำงานให้ผ่อนคลายและมีความสุขภายในที่พักอาศัยก็เหมาะกับกลุ่ม Home Fragrance ที่ประกอบด้วย  Home Candle และ Diffuser หรือใครอยากเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความรื่นรมย์ตอนอาบน้ำและประทินผิวก็มี Bath & Body ที่ประกอบไปด้วย Body & Hand Wash, Body & Hand Lotion และ Body Crème อย่างครบครัน 

แต่ความพิเศษสุดๆ ของ English Pear & Freesia Collection ล่าสุดที่เราอยากให้โฟกัสตอนนี้คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ English Pear & Freesia Limited Edition ที่จะวางจำหน่ายเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น ตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2564 โดยจะมาพร้อมกับดีไซน์พิเศษ Fluted Edition ที่โดดเด่นด้วยขอบเหลี่ยมตามบริเวณแพ็กเกจจิ้งที่สื่อถึงความหรูหราในสไตล์ของ Jo Malone London 

ผลิตภัณฑ์ที่กำหนดวางจำหน่ายในเดือนกันยายนมีดังนี้ 

• English Pear & Freesia Cologne – Fluted Bottle Edition ขนาด 30 มล. 2,800 บาท
• English Pear & Freesia Cologne – Fluted Bottle Edition ขนาด 50 มล. 3,800 บาท
• English Pear & Freesia Cologne – Fluted Bottle Edition ขนาด 100 มล. 5,600 บาท
• English Pear & Freesia Body & Hand Wash Limited Edition ขนาด 500 มล. 3,500 บาท

ภาพ: Jo Malone London

The post รู้จักต้นกำเนิดสุดปังของ English Pear & Freesia กลิ่นหอมขายดีอันดับ 1 ของแบรนด์ Jo Malone London [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.