Jiwaru DAYS – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 03 Dec 2022 05:15:53 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เฌอปราง BNK48 ทบทวนความทรงจำแสนพิเศษตลอด 6 ปี ผ่านหนังสือรุ่น “Jiwaru Days” ของขวัญส่งท้ายจาก ‘รุ่น 1’ https://thestandard.co/cherprang-bnk48-jiwaru-days/ Fri, 02 Dec 2022 14:07:29 +0000 https://thestandard.co/?p=719303 เฌอปราง BNK48

หลังสิ้นสุดโชว์งานเปิดตัว BNK48 1st Generation Special […]

The post เฌอปราง BNK48 ทบทวนความทรงจำแสนพิเศษตลอด 6 ปี ผ่านหนังสือรุ่น “Jiwaru Days” ของขวัญส่งท้ายจาก ‘รุ่น 1’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เฌอปราง BNK48

หลังสิ้นสุดโชว์งานเปิดตัว BNK48 1st Generation Special Single “Jiwaru DAYS” First Performance จัดขึ้นที่ เทอร์มินอล 21 พระราม 3 ท่ามกลางแฟนคลับที่ตามมาให้กำลังใจอย่างล้มหลามในวันนั้น

 

THE STANDARD POP มีโอกาสได้ทักทาย ‘แคปเฌอ’ หรือ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวงคนเก่งแห่ง BNK48 และชวนย้อนพูดคุยถึงช่วงเวลาในการทำเพลง Special Single อย่าง Jiwaru DAYS พร้อมทบทวนการเดินทางของเหล่า BNK48 รุ่น 1 ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา และความในใจที่ ‘เฌอ’ ขอพื้นที่นี้ในการสื่อสารถึงแฟนคลับทุกคน

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ทำไมเพลงส่งท้าย BNK48 รุ่น 1 ต้องเป็น Jiwaru DAYS

เฌอปราง: เพลงนี้มาจากการที่ ‘มิโอริ’ สงสัยว่าทำไม BNK48 รุ่นอื่นถึงมีเพลงเป็นของตัวเองได้ แต่ในขณะที่รุ่น 1 ของเรานั้นไม่มี อย่าง Aitakatta (อยากจะได้พบเธอ) ถึงจะเป็นเพลงแรกของเรา แต่เรามองว่านั่นคือเพลงของวง

 

มิโอริเลยเกิดไอเดียที่อยากจะหาเพลงที่มีจำนวนเซ็มบัตสึเท่ากับจำนวนสมาชิกรุ่น 1 ของ BNK48 ที่ยังเหลืออยู่ก็คือ 22 คน ซึ่งก็ไปค้นหามาเยอะมาก สุดท้ายเจอเพลง Jiwaru DAYS ก็มีจำนวนสมาชิกในเพลงเท่ากันกับจำนวนที่รุ่น 1 เรามีอยู่พอดีเป๊ะเลย แล้วความหมายก็สื่อถึงการจากลาเพื่อแยกย้ายออกไปเติบโต เราก็เลยเลือกเพลงนี้มาเป็น Special Single ของ BNK48 1st Generation 

 

ที่มาและความหมายของ Jiwaru DAYS

เฌอปราง: Jiwaru Days เป็นเพลงจบการศึกษาของ ‘ซัชชี่’ หรือ ริโนะ ซาชิฮาระ อดีตสมาชิกวง HKT48 และ AKB48 เพลงมีความหมายว่า เมมเบอร์กำลังจะจากลากับเมมเบอร์ด้วยกัน รวมถึงแฟนคลับ เฌอชอบความหมายของเพลงนี้นะ มันมีความหมายประมาณว่า ถึงเราจะไม่อยู่แล้ว แต่เราก็จะเป็นความทรงจำของกันและกันตลอดไป ก็จะตรงกับเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่ร้องว่า “Thank you ขอบคุณที่เราได้พบเจอกัน” และ “Love you, I say, good bye my dearest!” มันเป็นเพลงที่มีความหมายเหมาะกับพวกเรา BNK48 1st Generation มากๆ

 

เล่าถึงการมาของ Pioneer และ Sakura no Ki ni Narou

เฌอปราง: ตอนนั้นพวกเราคาดหวังให้ Special Single ของเราเป็นเพียงเพลงรองของเพลงหลักใน BNK48 เท่านั้นเอง แต่ผู้ใหญ่ในวงมองเห็นว่า พวกเราในฐานะสมาชิกรุ่น 1 ได้สร้างอะไรไว้ให้วงมากมาย ปูพื้นฐานทำให้เกิด BNK48 หลายๆ รุ่นตามมา ก็เลยอยากให้มีความพิเศษเกิดขึ้นในเพลงประจำรุ่น 1 และไม่ได้มีแค่ 3 เพลง แต่มีถึง 3 เพลงด้วยกันในเซ็ตนี้

 

ด้วยความที่เราได้ Jiwaru DAYS มาเป็น Special Single เลยเกิดไอเดียว่า อยากได้อีก 2 เพลงมาเป็นเพลงรองของซิงเกิลชุดนี้ โดยหนึ่งในนั้นจะต้องมีเพลงช้า เพราะ BNK48 เราไม่ค่อยมีเพลงช้า ก็เลยได้มาเป็นเพลง Sakura no Ki ni Narou – ดั่งซากุระ ตลอดไป เพลงนี้เป็นเพลงที่ไพเพราะ มีความหมายที่ดีด้วย สื่อถึงเรื่องราวของพวกเราสมาชิกรุ่น 1 แบบชัดเจน และมีชื่อเสียงมากๆ ในเวอร์ชันออริจินัลที่ญี่ปุ่น 

 

ส่วน Pioneer เป็นเพลงที่ผ่านการโหวตมาจากแฟนคลับ เพราะเราตั้งใจจะให้แฟนคลับมีส่วนร่วมในการร่วมเลือกเพลงให้กับรุ่น 1 อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้มีชอยส์เพลงที่เมมเบอร์เลือกกันเองเยอะมาก แต่สุดท้ายเพลงที่ส่งไปให้แฟนคลับโหวตเลือก 3 เพลงคือ GAGAGA (SDN48), Kaze wa Fuiteiru (AKB48) และ Pioneer (AKB48) โดยเพลงที่ได้รับคะแนนเยอะสุด ก็คือ Pioneer ซึ่งพวกเราก็ดีใจกัน เพราะมันเป็นเพลงที่แปลกและใหม่สำหรับเรา และพอมาอยู่ในลิสต์ 3 เพลงพิเศษมันเป็นอะไรที่ดูเข้ากันไปหมดเลย โดยเฉพาะเรื่องชุด ที่ 3 เพลงนี้สามารถใช้ชุดเดียวกันนี้ได้ทั้งหมดเลย

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ: Cherprang BNK48

 

เล่าความต่างในการทำงานเพลง Aitakatta ถึง Jiwaru DAYS

เฌอปราง: ตอนนั้น (Aitakatta) พวกเราเป็นศิลปินหน้าใหม่ทำได้เพียงแค่ฟังและเต้นตาม โดยที่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง อะไรถูก-อะไรผิด ยืนเต้นตามบล็อกกิ้งที่เขามีให้ แต่พอวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ถึงปัจจุบันประสบการณ์ตรงนี้มันทำให้เรา ‘อ๋อ’ ในหลายๆ เรื่อง จากที่คอยทำตามอย่างเดียว ก็เริ่มเสนอความคิดเห็นเป็น มีข้อแนะนำตามความเหมาะสม และความสามารถของเมมเบอร์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน นั่นจึงทำให้ Jiwaru DAYS เพลงนี้เปรียบเหมือนชิ้นงานจากเด็กที่มีประสบการณ์ แน่นอนว่ามันต่างจากตอนเพลงแรกที่เราไม่รู้อะไรเลย และความพิเศษของเพลงนี้คือเป็นครั้งแรกที่เราได้มีส่วนในการเข้าไปแก้ปรับเนื้อหาเพลงบางช่วงบางตอน 

 

เสียน้ำตาไปหลายลิตรกับ Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: เพลงนี้มันเป็นการทำงานด้วยอารมณ์ค่อนข้างสูง เพราะเราผ่านอะไรด้วยกันมานานกับเด็กกลุ่มนี้นาน 5-6 ปี หรือพูดอีกอย่างคือ เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำงานกับ ‘น้ำตา’ จริงๆ ตอนถ่ายทำมิวสิกวิดีโอก็ร้องไห้กันระนาว ร้องกันทุกคน ตอนได้ฟังเพลงครั้งแรกก็ร้องไห้ รู้สึกเศร้า ปนเหงาในใจนิดๆ 

 

เฌอปรางชอบท่อนไหนของเพลง Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: “จะเข้าใจในความหมายที่มี คำว่าเพื่อนดีๆ ที่เรามีให้กัน” 

 

เป็นท่อนที่เฌอได้ร้องเอง มันแบบว่าเข้ากับชีวิตของพวกเรามากๆ แบบก่อนหน้านี้ในบรรดาเรื่องเลวร้ายที่เราก้าวผ่านมา เราจะเข้าใจในความหมายที่มี จากความเป็นเพื่อนที่เราต่างมีให้กัน (ทำท่าฮึบกั้นน้ำตา) เพราะเราต่างเผชิญเรื่องต่างๆ มาด้วยกัน ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานแบบนี้มันทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของกันและกันแบบถ่องแท้ แต่เอาจริงๆ ก็ชอบทั้งเพลงเลยสำหรับ Jiwaru DAYS เพราะมันเป็นเพลงที่เล่าความรู้สึกของเราผ่านเพลงได้ดีมากๆ 

 

ที่มาที่ไปและคอนเซปต์มิวสิกวิดีโอเพลง Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: ธีมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้เป็นธีมที่เราชาวรุ่น 1 ได้เลือกกันให้เป็นคอนเซปต์นักเรียนจบการศึกษา โดยที่แต่ละคนกำลังจะแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง เพราะช่วงระยะเวลาที่เราใช้ด้วยกัน 6 ปี มันสามารถเทียบได้กับช่วงชั้น ม.1-6 ได้เลย 

 

พวกเราเลยเสนอกันว่าอยากให้มีกลิ่นอายความเป็น ‘ปัจฉิมนิเทศ’ เพราะมันมีความเป็นไทยและน่าจะทัชใจคนฟังไม่น้อย เพราะหลายๆ คนก็น่าจะเคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาเหมือนกัน ก็เลยได้มาเป็นภาพของกลุ่มเด็กที่วันนี้เติบโตขึ้นมา แล้วมานั่งล้อมวงมาเปิดหนังสือรุ่นเพื่อย้อนความทรงจำ ก็จะมีภาพประมาณว่าครั้งหนึ่งพวกเราใช้เวลาร่วมกันยังไงบ้าง ก็จะมีทั้งสนุก เฮฮา เล่นด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน สร้างวีรกรรมแปลกๆ ร่วมกัน 

 

และถึงแม้วันนี้เราจะแยกจากกัน เพื่อไปเดินตามเส้นทางใหม่ๆ ก็อยากจะฝากให้แฟนคลับได้คอยเป็นกำลังใจให้กับพวกเราต่อไปด้วย เพราะพวกเราเองก็ยังคงผูกพันกันอยู่ ตามภาพที่เกิดขึ้นในมิวสิกวิดีโอเลย 

 

เฌอปราง BNK48

BNK48 1st Generation “Jiwaru DAYS” Music Video Behind The Scenes

ภาพ: BNK48

 

เฌอปรางร้องไห้หนักมาก ขณะถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงนี้?

เฌอปราง: ใช่ค่ะ ตามที่ทุกคนเห็นในมิวสิกวิดีโอเลย ช็อตนั้นมันคือซีนของเด็กที่กำลังจะจบการศึกษากัน ถือใบปริญญานั่งล้อมวงพูดคุยกันเป็นครั้งสุดท้าย เขียนสมุดเฟรนด์ชิป เขียนเสื้อให้กัน มันทำให้หนูนึกถึงตัวเองตอน ม.6 ตอนที่เรากำลังจะแยกจากเพื่อน 

 

แม้ในช่วงชีวิตที่เราใช้ร่วมกันมันจะมีเรื่องราวทั้งดีและไม่ดี รู้ตัวอีกทีเราก็อยู่กับคนกลุ่มนี้มานานมากๆ จนถึงจุดหนึ่งไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี หรือการที่เรามองเห็นข้อดี-ข้อเสียของแต่ละคน แต่มันทำให้เราเข้าใจในความเป็นตัวตนของเขา เราต่างเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกัน 

 

แล้วตอนมองหน้าทุกคนมันก็จะมีภาพที่พวกเราได้สร้างได้ทำสิ่งต่างๆ ร่วมกันมา ภาพที่พวกเราเหนื่อยกันมาก ถึงแม้ว่าหลายอย่างจะเป็นสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่ก็ตาม ไปจนถึงภาพของการแข่งขันที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปีแรกๆ แต่ความมหัศจรรย์คือ ในขณะที่เราต้องแข่งกัน แต่เราไม่เคยปล่อยมือกันเลย ไม่ว่าเราจะแข่งขันหรือต่อสู้กันหนักหน่วงแค่ไหน สุดท้ายแล้วเราก็คือเพื่อน-พี่-น้องกัน ที่ต่อสู้ร่วมกันฝ่าฟันมาในฐานะสมาชิกรุ่น 1 แต่ ณ วันนี้มันถึงเวลาที่เราจะต้องแยกจากกันแล้ว มันจึงเกิดเป็นความเหงาในหัวใจ เราจะต้องออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ อีกแล้ว สำหรับเฌอมันเหมือนการจบ ม.6 เป็นครั้งที่ 2 

 

ซึ่งเฌอเองถึงแม้วันนี้จะยังอยู่ แต่เฌอก็มีเส้นทางของตัวเองที่เตรียมเอาไว้แล้วเหมือนกัน ก็อยากจะฝากทุกคนรอติดตามเหมือนกัน ซึ่งเฌอก็คิดว่ามันก็น่าจะสนุกไปอีกแบบหนึ่ง ถึงจะยังไม่มีระยะเวลาตายตัวที่จะบอกได้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน และส่วนตัวเฌอคิดมาเสมอว่า ถ้าเราจะต้องเห็นภาพแบบนี้จากน้องๆ ต่อไปเรื่อยๆ (สมาชิกประกาศจบการศึกษา) เฌอก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน (หัวเราะ)

 

เฌอปราง BNK48

BNK48 1st Generation “Jiwaru DAYS” Music Video Behind The Scenes

ภาพ: BNK48

 

ความรู้สึกวันที่ 22 สมาชิกรุ่น 1 รวมตัวกันอีกครั้ง

เฌอปราง: สิ่งที่เกิดขึ้นในภาพในมิวสิกวิดีโอที่ทุกคนเห็นมันคือโมเมนต์ที่ทุกคนสร้างกันเองแบบธรรมชาติ เพราะมันยากมากที่สมาชิกรุ่น 1 ที่เหลืออยู่ 22 คนจะมารวมตัวกัน เพราะแต่ละคนก็ต่างมีงานเป็นของตัวเอง มันเป็นภาพที่หายไปนานมาก นับตั้งแต่มีรุ่นที่ 2 เข้ามา จนทุกคนแยกย้ายกันไปอยู่ทีม BII, NV ของตัวเอง ซึ่งวันที่มารวมตัวเจอหน้ากัน เราก็คุยกันว่าบรรยากาศแบบนี้มันหายไปนานเหมือนกันนะ มันเป็นบรรยากาศที่ดูสีหน้าแต่ละคนแล้วจะรู้เลยว่าทุกคนคิดถึงบรรยากาศแบบนี้ ถึงแม้เราจะไม่ได้พูดมันออกมาก็ตาม เพลงนี้จึงเปลี่ยนเป็น ‘หนังสือรุ่น’ ของพวกเรา ซึ่งก็คิดว่าแฟนๆ อินไปกับพวกเราและชอบเพลงนี้เหมือนพวกเรา 

 

คอนเสิร์ตรุ่น 1 ครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เฌอปราง: เอาง่ายๆ อะไรที่เมมเบอร์อยากจะทำก็จะได้ทำในงานนี้ และอะไรที่มันไม่ได้อยู่ในคอนเสิร์ตจะไปอยู่ในสเตจแกรดของเมมเบอร์แต่ละคน แต่ละกลุ่ม 

 

แต่ด้วยความที่คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ เราก็มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดว่าอยากให้แฟนคลับได้เห็นอะไรเพื่อเป็นการส่งท้ายกัน อยากเต้นเพลงไหนกับใคร อยากเรียงเรื่องราวแบบไหน และที่สำคัญคือเราไม่อยากจะจากกันแบบเศร้าเสียใจ เราอยากให้มันเป็นการจากลาที่สนุกเฮฮาปาร์ตี้ ภายใต้ธีมดอกแดนดิไลออนที่เป็นจุดเริ่มต้นพวกเราได้เติบโตมาจากเมล็ดที่ชื่อว่า BNK48 และวันนี้เราเติบใหญ่ และกำลังจะปลิวไปตามสายลมในแบบที่ดอกแดนดิไลออนเป็น คือปลิวกระจายไปยังทิศทางของตัวเอง เพื่อไปเติบโตในที่แห่งใหม่

 

ตอนนี้ทุกอย่างถูกแพลนไว้หมดแล้ว เหลือแค่ลงมือทำ เหลือแค่ซ้อมแล้วก็ลงรายละเอียดกัน ซึ่งก็คิดว่ายังเหลืออะไรให้ทำอีกเยอะเหมือนกัน 

 

กลับไปที่ไบเทคอีกครั้ง เป็นไงบ้าง?

เฌอปราง: ก็ดีใจค่ะ จริงๆ เราไปจัดงานมาหลายที่แล้ว ที่อิมแพ็ค อารีนา ก็เคยตอน BNK48 Space Mission Concert, ที่ราชมังฯ เราก็เคยขึ้นโชว์เพลง ‘Shonichi’ ด้วย ถึงจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ประทับใจมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าถึงจุดหนึ่งที่ไบเทคก็ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ลงตัวกับพวกเราด้วยเหตุของช่วงเวลาและปัจจัยต่างๆ 

 

ย้อนกลับไปหลายปีก่อนทั้งเมมเบอร์และแฟนคลับน่าจะมีความทรงจำร่วมกันที่ไบเทคเยอะมากๆ ทั้งอีเวนต์จับมือ และ 2-Shot และเราก็เคยจัดคอนเสิร์ต BNK48 1st Concert “STARTO” ที่นั่นมาแล้วด้วย ดังนั้นมันเหมือนเรากลับมาจบเรื่องราวที่จุดเริ่มต้นเพื่อเป็นการส่งท้ายของพวกเรา ซึ่งเฌอก็ตั้งตารอให้ถึงวันนั้นเหมือนกัน

 

ฟังน้ำเสียงเหมือนเฌอรู้สึกคอมพลีตกับหน้าที่ตรงนี้แล้ว บอกเราหน่อยได้ไหม ว่า ‘เฌอ’ ยังอยากทำอะไรกับการยืนตรงนี้อีก?

เฌอปราง: จริงๆ ยังอยากกลับไปจัดคอนเสิร์ตที่ราชมังฯ อีกสักครั้ง แต่ด้วยความที่เราเคยไปโชว์เพลง ‘Shonichi’ ก็ถือว่าเราได้ไปเยือนมาแล้ว ก็ดีใจมากๆ แล้ว ส่วนสิ่งที่ยังอยากทำอาจจะยังนึกไม่ออกว่ายังเหลืออะไรอีก แต่ภาพที่คิดได้ทันทีคืออยากเห็นวง BNK48 ไปต่อได้เรื่อยๆ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนจะไปต่อได้ แม้ไม่มีพวกเรา (รุ่น 1) ก็เชื่อว่าวงไปต่อได้แน่ๆ องค์ประกอบโดยรวมของวงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และผู้ใหญ่ของวงก็พร้อมที่จะปั้นเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน

 

และเฌอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยังยืนอยู่ ณ ตรงนี้ เป็นช่วงส่งไม้ต่อให้น้องๆ และเฌอก็จะเข้าไปคุยกับน้องๆ เหมือนกันว่า หลังจากนี้วงกำลังจะเข้าสู่รุ่นใหม่เต็มตัว ตอนนี้รุ่น 2 และ 3 ก็พร้อมแล้วในระดับหนึ่ง หลังจากสั่งสมประสบการณ์มานานแล้ว และวงเราก็ค่อนข้างพร้อม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบมากๆ ซึ่งเฌอก็ยังแอบตื่นเต้นนะว่า เส้นทางหลังจากนี้จะเป็นยังไง ก็ยังหวังว่าเราจะไปได้ไกลอีกมากๆ อาจจะไม่ได้ขอให้ดังแบบพลุแตก แต่ขอให้วงอยู่ได้นานๆ เป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ เข้ามาทำตามความฝัน ยกตัวอย่างน้องรุ่น 4 ที่เพิ่งเข้ามา ก็จะเห็นได้ว่า หลายคนเคยพยายามออดิชันเข้ามาแล้วหลายครั้ง ก็แอบลุ้นและเอาใจช่วยว่าเด็กรุ่นใหม่จะเข้ามาทำให้ BNK48 ไปทิศทางไหน แต่ที่แน่ๆ New Era กำลังเริ่มขึ้นแล้ว

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ:Cherprang BNK48

 

คุยเรื่อง เพลง-คอนเสิร์ต-เพื่อน มาสักพักแล้ว ขอย้อนกลับมาคุยเรื่อง ‘เฌอปราง’ กันบ้าง ช่วงนี้งานวง-งานส่วนตัวเยอะมากๆ เราจึงอยากรู้ว่าเฌอมีวิธีดูแลหรือจัดการชีวิตตัวเองอย่างไรบ้าง

เฌอปราง: โชคดีที่เรียนจบแล้วค่ะ ถ้ายังเรียนไม่จบคิดว่าน่าจะหนักกว่านี้มากๆ ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ของวงที่เปิดโอกาสเส้นทางทำงานด้านอื่นๆ อย่าง ‘การแสดง’ ให้เฌอด้วย ส่วนงานวงเฌอก็ยังได้อยู่เบื้องหลังดูการเติบโตของน้อง รุ่น 3 รุ่น 4 ก็อยากเข้าไปดูให้เยอะกว่านี้ แต่อย่างที่เห็นคือติดงานหนักมาก แต่คิดว่าถ้าละครทยอยถ่ายจบน่าจะเริ่มกลับมาเต็มเหนี่ยวกับตรงนี้มากขึ้น

 

เฌอจัดการงานส่วนตัวด้วยการโน้ตแพลนตารางงานล่วงหน้าค่ะ ก็คือพวกปฏิทินในมือถือตามปกติ เฌอจะลิสต์ทุกงานไว้ทั้งหมด มันทำให้เฌอเห็นแพลนงานตัวเอง จะได้มีเวลาเตรียมตัวกับงานที่ต้องทำในแต่ละอีเวนต์ ในแต่ละวัน และมีวันหยุดให้พักผ่อนวันไหนบ้าง เฌอจะเปิดดูตัวปฏิทินทุกวัน มันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้ว ซึ่งช่วงท้ายปีแบบนี้ตารางแน่นมาก (หัวเราะ)

 

เฌอจะทำแบบนี้ไว้เพื่อให้เห็นตารางงานล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ถ้าช่วงไหนมีวันว่างก็จะใช้เวลาในการไปดูแลตัวเอง ใช้เวลาในการเข้าหอไปดูน้องๆ แต่โชคดีที่เฌอได้อยู่หอ BNK48 ด้วย มันทำให้เฌอได้ดูแลตัวเองอย่างเต็มที่แบบไม่ต้องไปรบกวนที่บ้าน เพราะช่วงหลังเฌอออกกองแทบทุกวัน และการอยู่หอมันมีข้อดีอย่างหนึ่งคือมันมีน้องๆ อยู่ด้วย ถ้าเฌอกลับไปอยู่บ้านก็แทบจะไม่ได้เจอใครเลย แต่การอยู่ตรงนี้มันทำให้เฌอได้เข้าไปเห็นน้องซ้อมร้องซ้อมเต้น ได้อัปเดตชีวิต ได้พูดคุยกัน บางทีก็ลากยาวไปตี 2 ตี 3 ไปดูน้องซ้อมก็ได้เห็นพัฒนาการของพวกเขา อย่างน้องรุ่น 4 ก็เริ่มเห็นบ้างแล้วถึงจะไม่ได้เข้าไปดูแบบจริงจัง แต่ก็ยังได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา 

 

ผลงานละครจะออนแอร์ให้แฟนๆ รับชมช่วงไหน

เฌอปราง: คาดว่า ละครทั้ง 2 เรื่อง ‘บุษบาลุยไฟ’ กับ ‘Thank You Teacher’ จะได้ออนแอร์ช่วงต้นปีหน้า แต่ที่อยากให้ทุกคนติดตามคือ ทั้ง 2 เรื่อง เฌอได้แสดงเป็น 2 ตัวละครในลุคที่ต่างขั้วมากๆ ทุกคนน่าจะจำไม่ได้เลย (หัวเราะ) 

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ: Cherprang BNK48

 

อะไรคือสิ่งที่ฮีลใจเฌอในยามเหนื่อยได้ดีที่สุด

เฌอปราง: นอนค่ะ คิดว่าการพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอน และการได้กินของหวาน ซึ่งน้องๆ ที่หอจะซื้อมาให้บ่อยมาก บางทีก็บอกไปว่าพี่กินไม่ทันจริงๆ (หัวเราะ) และเอาจริงๆ การได้อยู่หอกับน้องๆ มันเหมือนเป็นการฮีลกำลังใจของเฌอด้วยนะ มันได้พูดคุยกัน นั่งเฮฮาหน้าทีวี ได้เล่นเกมกับน้องๆ มันก็เป็นการพักผ่อนไปในตัว 

 

ฝากผลงานเพลง Jiwaru DAYS 

เฌอปราง: ฝากเพลง Jiwaru DAYS ด้วยนะคะ รวมถึง 2 เพลงใน Special Single BNK48 1st Generation อย่าง Pioneer และ Sakura no Ki ni Narou – ดั่งซากุระ ตลอดไป ทั้ง 3 เพลงนี้เป็นงานที่พวกเราตั้งใจทำกันอย่างเต็มที่มากๆ เพราะเป็นงานส่งท้ายให้กับเมมเบอร์ 1st Generation หลายคน 

 

และหวังว่าจะสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ทุกคน ที่ติดตามพวกเรามาตั้งแต่วันที่ทำอะไรก็ไม่เป็น แต่งหน้าไม่เป็น ดูแลตัวเองไม่เป็น เต้น-ร้องก็ไม่ได้ จนมาถึงงานเปิดตัวครั้งนี้ หนูพูดได้เลยว่ามันเป็นงานที่เราซ้อมกันเพียง 2 วันแล้วขึ้นโชว์เลย ส่วนเพลงเก่าๆ ที่หยิบขึ้นมาร้องบนเวทีผ่านการซ้อมเมื่อวานนี้เอง จากเมื่อก่อนที่ใช้เวลาเป็นสัปดาห์ โดยเฉพาะเพลง Oogoe Diamond ที่พวกเราเข้ามาแรกๆ ใช้เวลาเดือน 2 เดือน เพื่อเต้นเพลงเดียว แต่การทำงานของพวกเราทุกวันนี้คือแค่มองตากันก็รู้ใจ มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ ถึงกับตกใจตัวเองกันอยู่เหมือนกัน ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่พวกเราภูมิใจที่อยากจะบอกกับแฟนคลับว่า พวกเราเติบโตขึ้น พวกเราตั้งใจกับหน้าที่ตรงนี้มาโดยตลอด เราได้เรียนรู้การอยู่ตรงนี้ มันทำให้พวกเรามีสกิลที่หลากหลายมากขึ้น 

 

แล้วก็อยากจะถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสพวกเรา สนับสนุนวงของพวกเรามาโดยตลอด ทำให้พวกเรามีพื้นที่ตรงนี้ ได้เห็นแฟนคลับมาชมโชว์พวกเราเต็มพื้นที่ เต็มเวที ได้มีคอนเสิร์ต ได้มีรุ่นน้องสมาชิกใหม่ๆ เข้ามา ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นของตัวเอง เพราะวันแรกพวกเราไม่มีอะไรอย่างนี้เลย (เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ) 

 

สิ่งที่เฌอมองเห็นคือ 6 ปีก่อน ช่วงแรกๆ ที่ประเทศไทยมี BNK48 พอมีแล้วก็ไม่รู้ว่าวงจะดังไหม มันจะเป็นยังไง แต่เรามีวันนี้ได้เพราะแฟนคลับที่สนับสนุนเราในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะสนับสนุนสมาชิกคนใดคนหนึ่ง หรือสนับสนุนวงแบบเป็นภาพรวม วงเราจะดำเนินต่อไปไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มีการซัพพอร์ตจากแฟนคลับทุกคน พวกเราอาจมาไม่ถึงวันนี้ก็ได้

 

เฌอปราง BNK48

ภาพ: Cherprang BNK48

 

ความในใจถึงแฟนคลับของเฌอ

เฌอปราง: ส่วนตัวเฌออยากจะขอบคุณพวกเขามากๆ ขอบคุณที่เข้าใจเฌอ ขอบคุณที่รู้ว่าเฌอเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้เพราะอะไร เข้าใจตัวตนของเฌอและยังเลือกที่จะสนับสนุนเฌอมาตลอด หลายคนยังตามถือป้ายไฟเชียร์เรามาเสมอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ 

 

ช่วงหนึ่งของการใช้ชีวิตในวงนี้ สมาชิกทุกคนต่างเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่า ‘การแข่งขัน’ และในหลายๆ พื้นที่แข่งขัน ถ้าพวกเขาไม่สนับสนุนเฌออย่างที่เป็นมา มันอาจจะทำให้เฌออาจจะไม่สามารถพูดอะไรได้เยอะกับผู้ใหญ่เหมือนกัน แต่ก็เพราะพวกเขา (แฟนคลับของเฌอปราง) ที่คอยส่งกำลังใจให้เฌอทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มที่ สิ่งที่เฌอได้รับจากพวกเขาในงาน General Election 1 มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ตัวเฌออย่างดีที่สุดแล้ว เชื่อไหมว่าจนถึงวันนี้เฌอยังจำโมเมนต์ ณ วันนั้นได้ไม่ลืมเลย 

 

เฌอดีใจมาก จากวันที่เราร้องเพลงไม่เก่ง เต้นไม่เก่ง สมัครเข้าวงเพราะความชอบล้วนๆ ถ้าไม่มีแรงสนับสนุนจากตรงนี้ ไม่มีแรงซัพพอร์ตจากพวกเขาเข้ามา ที่เลือกจะซัพพอร์ตเฌอโดยตรง เลือกเราเป็นคามิโอชิของพวกเขา รวมถึงคนอื่นๆ ที่ซัพพอร์ตเราอยู่ข้างๆ เฌอก็รับรู้ได้ แล้วก็อยากจะขอบคุณน้องๆ ในวงด้วยที่เชื่อฟังเฌอมาโดยตลอด นั่นแหละพวกเขามีส่วนสำคัญกับชีวิตเฌอมากๆ 

 

สถานที่แห่งนี้มอบโอกาสให้เฌอเยอะมาก ได้เฌอเดินตามความฝันของตัวเอง จากเด็กที่ชอบ 48Groups ได้สร้าง BNK48 ร่วมกับเพื่อนๆ และยังได้รับโอกาสให้เป็นกัปตันวงด้วย แม้มันจะเป็นงานที่เหนื่อย แต่เฌอก็ภูมิใจและพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดเสมอมา เพราะเราอยากให้วงได้ยืนในวงการต่อไปเรื่อยๆ ได้มีสมาชิกหน้าใหม่เข้ามาเติมเต็มอยู่ตลอด ให้เด็กๆ ได้รับโอกาสในแบบที่เฌอเคยได้ 

 

ท้ายที่สุดก็อยากจะขอบคุณแฟนคลับทุกคน ทุกคนจริงๆ ที่ร่วมสร้างและผลักดันวง BNK48 มาเสมอ ณ วันนี้ก็ถึงเวลาเติบโตของสมาชิกรุ่น 1 แต่ละคนกำลังจะได้ออกไปเดินตามความฝันและใช้ชีวิตของตัวเอง ก็ยังอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ทั้งเหล่ารุ่น 1 และน้องๆ ที่ยังอยู่ในวง สำหรับ Chapter ต่อไปด้วย ก็อยากให้ทุกคนรอชมพวกเขาเหมือนกัน ก็หวังว่าเป็นแฟนคลับจะยังเอ็นดู คอยดูและคอยติดตาม BNK48 ต่อไป

 

“ฝากวง BNK48 ด้วยนะคะ”

 

ฟังเพลง Jiwaru DAYS – BNK48

 

The post เฌอปราง BNK48 ทบทวนความทรงจำแสนพิเศษตลอด 6 ปี ผ่านหนังสือรุ่น “Jiwaru Days” ของขวัญส่งท้ายจาก ‘รุ่น 1’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Jiwaru DAYS สมุดบันทึกความทรงจำ 6 ปี ที่เอ่อล้นไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคำบอกลา https://thestandard.co/jiwaru-days-bnk48/ Wed, 23 Nov 2022 04:35:33 +0000 https://thestandard.co/?p=714091 Jiwaru DAYS

“พวกเรา BNK48!”   เป็นเวลาร่วม 6 ปีแล้วที่ใครหลายค […]

The post Jiwaru DAYS สมุดบันทึกความทรงจำ 6 ปี ที่เอ่อล้นไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคำบอกลา appeared first on THE STANDARD.

]]>
Jiwaru DAYS

“พวกเรา BNK48!”

 

เป็นเวลาร่วม 6 ปีแล้วที่ใครหลายคนได้รู้จักกับไอดอลกรุ๊ป BNK48 ซึ่งประกอบด้วยเหล่าหญิงสาวหลายสิบชีวิตที่ร่วมออกเดินทางสร้างความสุขให้แก่แฟนๆ ผ่านผลงานเพลง โชว์สุดพิเศษ และอีเวนต์มากมายที่พาแฟนๆ มาพบเจอกับพวกเธอ จับมือ พูดคุย และส่งมอบกำลังใจให้แก่กัน 

 

แน่นอนว่าทุกการเดินทางย่อมมีจุดสิ้นสุด เช่นเดียวกับเหล่าสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 1 ได้แก่ เฌอปราง, จ๋า, เจน, เจนนิษฐ์, จิ๊บ, แก้ว, ไข่มุก, เคท, ก่อน, มายด์, มิโอริ, น้ำหนึ่ง, น้ำใส, เนย, อร, เปี่ยม, ปัญ, ซัทจัง, ตาหวาน, ปูเป้ โมบายล์ และ มิวสิค ที่มีสมาชิกหลายคนกำลังจะก้าวออกจากบทบาทไอดอล เพื่อแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางใหม่ที่แต่ละคนเลือกเดิน 

 

และนั่นจึงกลายเป็นที่มาของเพลง Jiwaru DAYS ซิงเกิลพิเศษของสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 1 บทเพลง ‘สุดท้าย’ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น ‘จดหมายบอกลา’ ที่มอบให้แก่แฟนคลับ รวมถึงเพื่อนๆ ทั้ง 22 คนที่ออกเดินทางมาด้วยกัน 

 

 

สำหรับ Jiwaru DAYS เป็นการหยิบนำผลงานจากวงรุ่นพี่ AKB48 ในซิงเกิลหลักที่ 55 และยังเป็นจบการศึกษาของ ริโนะ ซาชิฮาระ อดีตสมาชิกวง HKT48 และ AKB48 มาดัดแปลงเป็นฉบับภาษาไทย โดยได้ ครูแมน-ตนุภพ โนทยานนท์ ที่คอยฝึกสอนและเฝ้ามองสมาชิกรุ่นที่ 1 มาตลอด เป็นผู้รับหน้าที่แปลเนื้อเพลงภาษาไทย 

 

ส่วนผู้ที่มารับตำแหน่งทริปเปิลเซ็นเตอร์ ได้แก่ มิวสิค, โมบายล์ และ ปูเป้ ซึ่งการเลือกตำแหน่งเซ็นเตอร์และตำแหน่งแถวหน้าในครั้งนี้ จะมาจากการโหวตลงคะแนนของสมาชิกรุ่นที่ 1 ทั้ง 22 คน

 

 

ตัวเพลงมาพร้อมกับสไตล์ดนตรี J-Pop ที่โดดเด่นด้วยเปียโนเมโลดี้เพราะๆ และซาวด์ดนตรีฟังสนุก เป็นเพลงที่แม้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการจากลา แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยสีสัน เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกทั้งสุข เศร้า และยินดีไปพร้อมกัน

 

ขณะที่เนื้อหาของเพลงก็เปรียบเสมือนเป็นการบรรยายเรื่องราวของพวกเธอทั้ง 22 คน ที่กำลังจะต้องแยกจากกันในอีกไม่ช้า ทำให้ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่เคยมีร่วมกันค่อยๆ หวนคืนกลับมาอีกครั้ง แต่แม้ว่าวันนี้เราอาจจจะรู้สึกเสียใจที่ต้องแยกย้ายกันไปทำตามความฝันของตัวเอง พวกเราทุกคนก็จะยังเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอ แล้วสักวันหนึ่งพวกเราจะกลับมาพบกันใหม่อีกครั้ง 

 

อีกหนึ่งไฮไลต์ของเพลงนี้เห็นจะเป็นมิวสิกวิดีโอที่กำกับโดย พุฒิโรจน์ เทวกุล ณ อยุธยา ซึ่งนำเนื้อหาของเพลงมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวที่อัดแน่นไปด้วยมวลความรู้สึก โดยบอกเล่าผ่านเรื่องราวของมิวสิค โมบายล์ และ ปูเป้ ที่ได้กลับมายังโรงเรียนที่พวกเธอเคยอยู่อีกครั้ง ก่อนที่ภาพจะย้อนเวลากลับไปยังช่วงเวลาที่พวกเธอยังเป็นนักเรียนและใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนๆ ซึ่งเนื้อหาในส่วนนี้ก็ได้สมาชิกรุ่นที่ 1 มาร่วมออกไอเดียเพื่อใส่กิมมิกสนุกๆ มาให้แฟนๆ ได้ร่วมกันค้นหา

 

 

 

ไม่ว่าจะเป็นซีนแปรงฟันของเหล่าแก๊งยาสีฟัน ซีนกินข้าวสุดวุ่นวายของแก๊ง 7 อรชร ซีนที่เปี่ยมและจิ๊บกำลังเล่นเกมอย่าง ‘หัวร้อน’ และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมายที่ฉายภาพให้เราเห็นถึงมิตรภาพและความผูกพันของพวกเธอที่มีให้กันมาตลอด 6 ปี 

 

 

ก่อนที่เรื่องราวจะสลับมาที่ปัจจุบัน เมื่อสมาชิกทุกคนได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้ง เพื่อเปิดดูสมุดเฟรนด์ชิปที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำมากมายเอาไว้ และหนึ่งในนั้นคือภาพถ่ายของสมาชิกรุ่นที่ 1 ทั้ง 29 คน (เดิม BNK48 รุ่นที่ 1 มีสมาชิกทั้งหมด 29 คน โดยมีสมาชิกที่ประกาศจบการศึกษาไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ คิตแคต, ซินซิน, แจน, น้ำหอม, แคนแคน, เมษา และ นิ้ง) พร้อมฉายภาพวันที่พวกเธอกำลังนั่งถ่ายภาพร่วมกันในวัน ‘จบการศึกษา’ ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่าพวกเธอได้เว้นที่ว่างไว้สำหรับเพื่อนๆ ที่จบการศึกษากันไปก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการระลึกถึงเพื่อนๆ ที่เคยร่วมออกเดินทางมาด้วยกันตั้งแต่ ‘วันแรก’ 

 

ซึ่งภาพเหล่านี้ก็ได้แสดงให้เราเห็นว่า ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ไม่ว่าเส้นทางที่พวกเธอเลือกเดินจะแตกต่างกันไปอย่างไร พวกเธอก็จะยังคงคิดถึงและเป็นกำลังใจให้กันเสมอ และในสักวันหนึ่งเราจะได้กลับมาพบหน้าและพูดคุยถึงเรื่องราวในอดีตด้วยกันอีกครั้งอย่างแน่นอน  

 

“แล้ววันหนึ่ง ถ้าเธอเลือกมีชีวิตใหม่ ทุกอย่างที่ตัดสินใจไป จะมีฉันที่คอยเฝ้ามองเธอ ด้วยรอยยิ้มไกลๆ ได้รู้จักกับเธอ ไม่เสียใจเลยที่เจอวันนั้น Thank you ขอบคุณที่เราได้พบเจอกัน”

 

 

 

เอาเข้าจริงๆ แล้ว มิวสิกวิดีโอ Jiwaru DAYS ที่มีความยาวประมาณ 6 นาทีเศษ อาจไม่ได้เป็นบทเพลงที่เล่าถึงมิตรภาพและการจากลาเท่านั้น แต่ยังเป็น 6 นาทีที่พาเหล่าสมาชิกและแฟนคลับมาร่วมย้อนนึกถึงช่วงเวลา 6 ปีที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำมากมายไปพร้อมกันอีกด้วย 

 

เริ่มตั้งแต่ ‘วันแรก’ กับบทเพลงแห่งการพบเจออย่าง Aitakatta (อยากจะได้พบเธอ) ซิงเกิลเดบิวต์ที่เปี่ยมไปด้วยความสดใสและพลังอันล้นเหลือ วันที่แฟนคลับและสมาชิกทุกคนได้เดินทางมาพบหน้าและพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดในงานจับมือ วันที่ได้เห็นภาพปรากฏการณ์ คุกกี้เสี่ยงทาย ที่มีผู้คนมากมายเดินทางมาชมการแสดงของพวกเธอกันอย่างเนืองแน่น และจุดกระแสให้วงการไอดอลในเมืองไทยเริ่มเดินเครื่องอีกครั้ง หรือจะเป็นวันที่ได้เห็นพวกเธอขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองเป็นครั้งแรก และอีกหลากหลายเรื่องราวที่อาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของแต่ละบุคคล 

 

ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าใครหลายคนจะนึกถึงเหมือนกันคือ ภาพของรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่แฟนคลับและสมาชิกรุ่นที่ 1 ส่งมอบให้กันและกันเสมอ รวมไปถึงถ้อยคำแห่งกำลังใจและพลังบวกที่ช่วยผลักดันให้ทุกคนข้ามผ่านอุปสรรค และแรงบันดาลใจมากมายที่จุดประกายให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาทำตามความฝันของตัวเอง ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าภาพและความรู้สึกดีๆ เหล่านี้จะประทับอยู่ในความทรงจำของสมาชิกรุ่นที่ 1 และแฟนคลับทุกคนตลอดไปอย่างแน่นอน  

 

 

มาถึงตรงนี้ เราก็ขอกล่าวคำอวยพรสั้นๆ ให้กับพวกเธอสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ที่ใกล้จะมาถึง 

 

“ขอบคุณสำหรับ 6 ปีที่ผ่านมา และขอให้ได้พบเจอกับความสุขบนเส้นทางใหม่ที่เลือกเดิน” 

 

รับชมมิวสิกวิดีโอได้ที่ 

 

The post Jiwaru DAYS สมุดบันทึกความทรงจำ 6 ปี ที่เอ่อล้นไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคำบอกลา appeared first on THE STANDARD.

]]>
โมบายล์-มิวสิค-ปูเป้ BNK48 รับตำแหน่งทริปเปิลเซ็นเตอร์ในซิงเกิลพิเศษของสมาชิกรุ่นที่ 1 Jiwaru DAYS https://thestandard.co/mobile-music-pupe-bnk48-jiwaru-days/ Sun, 23 Oct 2022 05:08:29 +0000 https://thestandard.co/?p=698891 BNK48

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ไอดอลกรุ๊ป BNK48 ได้มีกา […]

The post โมบายล์-มิวสิค-ปูเป้ BNK48 รับตำแหน่งทริปเปิลเซ็นเตอร์ในซิงเกิลพิเศษของสมาชิกรุ่นที่ 1 Jiwaru DAYS appeared first on THE STANDARD.

]]>
BNK48

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ไอดอลกรุ๊ป BNK48 ได้มีการประกาศรายชื่อเพลงและสมาชิกที่ได้รับตำแหน่งเซ็นเตอร์ ในซิงเกิลพิเศษของสมาชิกรุ่นที่ 1 หรือ 1st Generation Special Single ออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตาม ภายในงาน 12th Single ‘Believers’ Handshake Event

 

Jiwaru DAYS

 

สำหรับซิงเกิลพิเศษของสมาชิกรุ่นที่ 1 จะประกอบด้วยซิงเกิลหลัก 1 เพลง และซิงเกิลรอง 2 เพลง ส่วนรูปแบบการเลือกตำแหน่งเซ็นเตอร์และตำแหน่งแถวหน้าในแต่ละเพลง จะมาจากการโหวตลงคะแนนของสมาชิกรุ่นที่ 1 ทั้ง 22 คน ประกอบด้วย เฌอปราง, ปัญ, เจนนิษฐ์, ตาหวาน, ปูเป้, จ๋า, เจน, จิ๊บ, แก้ว, ไข่มุก, เคท, ก่อน, มายด์, มิโอริ, โมบายล์, มิวสิค, น้ำใส, น้ำหนึ่ง, เนย, อร, เปี่ยม และ ซัทจัง

 

Jiwaru DAYS

 

เริ่มต้นด้วยซิงเกิลหลักในชื่อ Jiwaru DAYS จะได้โมบายล์ มิวสิค และปูเป้ มารับตำแหน่งทริปเปิลเซ็นเตอร์ โดยเป็นผลงานจากวงรุ่นพี่ AKB48 ในซิงเกิลหลักที่ 55 ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 2019 โดยมี ซาชิฮาระ ริโนะ รับตำแหน่งเซ็นเตอร์ และยังเป็นเพลงจบการศึกษาของเธออีกด้วย 

 

ต่อเนื่องด้วยซิงเกิลรองที่ 1 Pioneer ซึ่งเป็นเพลงที่มาจากการโหวตลงคะแนนของแฟนๆ ผ่านการใช้ BNK Token พร้อมได้ปัญและเจนนิษฐ์รับตำแหน่งดับเบิลเซ็นเตอร์ โดยเพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ถูกใช้ในการแสดงสเตจของ AKB48 Team A และเป็นหนึ่งในเพลงประกอบอนิเมะ AKB0048 (2012)

 

และปิดท้ายด้วยซิงเกิลรองที่ 2 อย่าง Sakura no Ki ni Narou จะได้แก้วมารับตำแหน่งเซ็นเตอร์ โดยเพลงนี้เป็นผลงานจากวงรุ่นพี่ AKB48 ในซิงเกิลหลักที่ 20 ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 2011 และได้ มาเอดะ อัตสึโกะ รับตำแหน่งเซ็นเตอร์ 

 

สามารถรับชมคลิปประกาศได้ที่นี่ 

 

 

อ้างอิง:

The post โมบายล์-มิวสิค-ปูเป้ BNK48 รับตำแหน่งทริปเปิลเซ็นเตอร์ในซิงเกิลพิเศษของสมาชิกรุ่นที่ 1 Jiwaru DAYS appeared first on THE STANDARD.

]]>