Jean-Jacques Guiony – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 30 Oct 2024 14:33:23 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เงินเยนอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 38 ปี ทำญี่ปุ่นกลายเป็นสวรรค์นักช้อปจีน! แต่แบรนด์หรูร้องไห้ เพราะยอดขายพุ่ง ส่วนกำไรวูบ https://thestandard.co/yen-weak-chinese-tourism-boom/ Mon, 05 Aug 2024 09:52:44 +0000 https://thestandard.co/?p=967496 เงินเยน

ญี่ปุ่น สวรรค์ของนักช้อปต่างชาติที่ร่ำรวย หลังเงินเยนยั […]

The post เงินเยนอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 38 ปี ทำญี่ปุ่นกลายเป็นสวรรค์นักช้อปจีน! แต่แบรนด์หรูร้องไห้ เพราะยอดขายพุ่ง ส่วนกำไรวูบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินเยน

ญี่ปุ่น สวรรค์ของนักช้อปต่างชาติที่ร่ำรวย หลังเงินเยนยังอ่อนค่าและซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่ซื้อสินค้าหรู ทั้งเสื้อผ้า-กระเป๋า แต่ฝั่งแบรนด์ Louis Vuitton ไม่ได้รู้สึกดีแม้ยอดขายพุ่ง เพราะสวนทางกับกำไรที่ลดลงอย่างมาก 

 

ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวเอเชียแห่เข้าญี่ปุ่นมากที่สุด ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยปัจจัยหลักคือเงินเยนอ่อนตัว ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นสวรรค์ของนักช้อปต่างชาติระดับบน โดยเฉพาะชาวจีนที่ไม่ซื้อสินค้าในประเทศตัวเอง แต่กลับพุ่งเป้าเข้ามาซื้อสินค้าแบรนด์หรูทั้งเสื้อผ้าและกระเป๋าในญี่ปุ่นแทน เพราะมีราคาถูกกว่า 

 

แต่แบรนด์สินค้าหรูระดับโลกอย่าง Louis Vuitton ไม่ได้รู้สึกยินดี เพราะสินค้าตั้งแต่รองเท้าผ้าใบ กระเป๋า ไปจนถึงวิสกี้ในญี่ปุ่น มีราคาถูกลง และเมื่อเทียบเป็นสกุลดอลลาร์แล้ว ที่สำคัญความผันผวนของค่าเงินเยนทำให้แบรนด์สินค้าหรูไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้อัตรากำไรลดลงอย่างมาก

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

จางเล่ย นักท่องเที่ยวชาวจีนวัย 29 ปี อาชีพดีเจ กล่าวว่า เขาเดินทางมาญี่ปุ่นครั้งแรก และจะเดินทางกลับมาอีกครั้งเพราะสินค้ามีราคาถูกกว่าในจีน ในขณะที่ให้สัมภาษณ์นั้นจางเล่ยถือถุง Louis Vuitton 2 ใบ และถุงรองเท้า Onitsuka Tiger อีก 1ใบ 

 

และช่วงเวลาเดียวกันในย่านกินซ่าของกรุงโตเกียวซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิต มีนักท่องเที่ยวยืนต่อแถวเพื่อรอเข้าไปซื้อสินค้าในร้าน Louis Vuitton มากกว่า 15 คน 

 

เกิดคำถามตามมาว่า สินค้าแบรนด์หรูในญี่ปุ่นถูกกว่าจีนมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่าง กระเป๋าถือ Louis Vuitton รุ่น Alma BB ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม วางจำหน่ายในจีนราคา 14,800 หยวน หรือราวๆ 72,400 บาท ส่วนในญี่ปุ่นจำหน่ายราคา 279,400 เยน หรือราวๆ 66,700 บาท ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด และสินค้าจะมีราคาเดียวกันได้ก็ต่อเมื่อเงินเยนจะต้องแข็งค่าขึ้นไปที่ 136 เยนต่อดอลลาร์

 

Jean-Jacques Guiony ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของกลุ่มแบรนด์หรู LVMH ซึ่งเป็นเจ้าของ Dior และ Fendi กล่าวในที่ประชุมผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดว่า ธุรกิจของ LVMH ในจีนได้รับผลกระทบจากภาวะเงินฝืด จนลูกค้าไม่ซื้อสินค้าภายในประเทศ แต่กลับมาซื้อที่ญี่ปุ่นแทน แน่นอนว่าค่าเงินในญี่ปุ่นมีผลต่อกำไรของบริษัท

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงที่ค่าเงินมีความผันผวน เราไม่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากค่าเงินเยนสามารถย้อนกลับได้เร็ว สะท้อนได้จากในวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินเยนพุ่งสูงขึ้น

 

ด้าน Luca Marotta ซีเอฟโอของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม Rémy Cointreau กล่าวว่า แบรนด์สินค้าในญี่ปุ่นสร้างการเติบโตในแง่ของยอดขายได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยวและเงินเยนที่อ่อนค่าลง แต่ในแง่ของกำไรนั้นไม่ได้สูงตามไปด้วย

 

สอดคล้องกับที่แบรนด์ Cartier รายงานว่า ในไตรมาสแรกของปียอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 60% รายได้ส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวชาวจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกา

 

เมื่อมาดูตัวเลขในเดือนมิถุนายน ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 3.1 ล้านคน และรัฐบาลคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายสูงถึง 8 ล้านล้านเยน (5.474 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นการเติบโตที่หายาก ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากประชากรสูงอายุมายาวนาน

 

อ้างอิง:

The post เงินเยนอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 38 ปี ทำญี่ปุ่นกลายเป็นสวรรค์นักช้อปจีน! แต่แบรนด์หรูร้องไห้ เพราะยอดขายพุ่ง ส่วนกำไรวูบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เมื่อชาวอเมริกันที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่ปรารถนาเป็นเจ้าของสินค้าฟุ่มเฟือยได้ลดการซื้อ ‘แบรนด์เนม’ กระทบยอดขายเครือ Louis Vuitton ลดลงในสหรัฐฯ https://thestandard.co/luxury-spending-suddenly-slow-in-us/ Thu, 27 Jul 2023 08:17:41 +0000 https://thestandard.co/?p=822796 LVMH

เมื่อเราพูดถึงสินค้าฟุ่มเฟือย เรามักนึกภาพภาคเศรษฐกิจที […]

The post เมื่อชาวอเมริกันที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่ปรารถนาเป็นเจ้าของสินค้าฟุ่มเฟือยได้ลดการซื้อ ‘แบรนด์เนม’ กระทบยอดขายเครือ Louis Vuitton ลดลงในสหรัฐฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>
LVMH

เมื่อเราพูดถึงสินค้าฟุ่มเฟือย เรามักนึกภาพภาคเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีภูมิต้านทานต่อการขึ้นและลงของกำลังซื้อในวงกว้าง เพราะท้ายที่สุดแล้วสินค้าฟุ่มเฟือยมีกลุ่มลูกค้าที่ร่ำรวยกว่าซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ กระนั้นผลประกอบการล่าสุดของบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยรายใหญ่ที่สุดของโลกได้กระตุ้นให้ต้องกลับตั้งคำถามอีกครั้ง

 

LVMH บริษัทข้ามชาติของฝรั่งเศสและกลุ่มบริษัทในเครือที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าฟุ่มเฟือย ได้รายงานยอดขายในสหรัฐอเมริกาที่ลดลงอย่างคาดไม่ถึงในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 พอร์ตโฟลิโอของ LVMH ประกอบด้วยแบรนด์ที่โดดเด่นกว่า 70 แบรนด์ เช่น Louis Vuitton, Dior, Bulgari, Fendi และ Moët & Chandon ด้วยเหตุนี้ประสิทธิภาพการขายของพวกเขามักจะทำหน้าที่เป็นบารอมิเตอร์สำหรับสุขภาพโดยรวมของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือย

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

LVMH รายงานว่ายอดขายในสหรัฐฯ ลดลง 1% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวที่ค่อนข้างแข็งแกร่งหลังการแพร่ระบาดในกลุ่มสินค้าหรูหรา

 

นอกจากนี้ Richemont ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่อีกรายหนึ่งในตลาดสินค้าหรูหรา ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Cartier และ Montblanc ได้รายงานว่ายอดขายในสหรัฐฯ ลดลง 4% เมื่อต้นเดือนนี้

 

สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นในตลาดสินค้าหรูหราของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาหุ้นของแบรนด์สินค้าหรูหรา

 

Jean-Jacques Guiony ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน LVMH กล่าวว่า ‘ลูกค้าที่มีความทะเยอทะยาน’ ผู้ที่ไม่ได้ร่ำรวยเป็นพิเศษ แต่ปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของสินค้าฟุ่มเฟือยนั้นไม่ได้จับจ่ายซื้อของมากเท่าที่เคยเป็นมา ลูกค้าเหล่านี้ซึ่งมักเลือกซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในระดับราคาเริ่มต้นดูเหมือนจะลดการใช้จ่ายลง 

 

แม่ทัพการเงินเครือ LVMH ตั้งสมมติฐานว่าการจ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่จางหายไปหลังจากเกิดโควิดอาจเป็นปัจจัยสนับสนุน เนื่องจากผู้บริโภคเหล่านี้อาจเคยได้รับประโยชน์จากเงินอุดหนุนในช่วงที่เกิดโรคระบาด

 

ที่น่าสนใจคือยอดขายที่ลดลงนี้ไม่ได้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ LVMH ในสหรัฐฯ สินค้าระดับไฮเอนด์จากแบรนด์พรีเมียมของ LVMH นั้นยังคงทรงตัว ข้อสังเกตนี้ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าที่มั่งคั่งขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปไม่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ยังคงซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจไวน์และสุราของ LVMH โดยเฉพาะคอนญัก ได้รับผลกระทบอย่างหนักในสหรัฐฯ อาจเป็นเพราะปัญหาสินค้าคงคลังและห่วงโซ่อุปทานที่ยืดเยื้อจากโรคระบาด

 

ยอดขายที่ตกต่ำในสหรัฐฯ ได้รับการชดเชยบางส่วนจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันในยุโรป Guiony ตั้งข้อสังเกตว่ายอดขายส่วนใหญ่ของ LVMH ที่เพิ่มขึ้น 18% ในยุโรปในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 มาจากนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จากปีที่แล้ว เมื่อมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศผ่อนคลายลง นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันจึงจับจ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในเมืองต่างๆ ในยุโรป เช่น ปารีส โรม และลอนดอนมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในประเทศลดลง

 

ในอีกด้านหนึ่งของโลก ตลาดเอเชียกำลังวาดภาพที่ต่างออกไป แม้จะมีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดจีนในวงกว้าง แต่การใช้จ่ายที่หรูหรายังคงแข็งแกร่ง ยอดขายโดยรวมของ LVMH เพิ่มขึ้น 17% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 โดยได้แรงหนุนอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 34% ในเอเชีย ซึ่งไม่รวมในญี่ปุ่น

 

ก่อนเกิดโรคระบาด เอเชีย โดยเฉพาะจีน ถือเป็นกลไกหลักในการเติบโตสำหรับอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การล็อกดาวน์ทั่วโลกผ่อนคลายลง สหรัฐฯ ก็กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดสินค้าหรูหรา การเปลี่ยนแปลงในการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกทำให้ชาวอเมริกันมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจาก 22% ในปี 2019 เป็นระหว่าง 32-34% ในปี 2022

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลบัตรเครดิตเมื่อเร็วๆ นี้บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในหมู่นักช้อปอายุน้อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของฟุ่มเฟือยในเดือนมิถุนายนลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

แม้จะมีความท้าทายในตลาดสหรัฐฯ แต่ภาพรวมของ LVMH ยังคงเป็นบวก บริษัทรายงานยอดขายทั่วไปเพิ่มขึ้น 17% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 สำหรับครึ่งปีแรก LVMH สร้างรายได้ 4.224 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ 30%

 

สิ่งที่ต้องจับตาคือเมื่อ ‘ลูกค้าที่มีความทะเยอทะยาน’ มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจมากขึ้น อุตสาหกรรมสินค้าหรูหราอาจเผชิญกับความผันผวนในระดับที่ไม่คาดคิดมาก่อน

 

ภาพ: Cindy Ord / Getty Images

อ้างอิง:

The post เมื่อชาวอเมริกันที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่ปรารถนาเป็นเจ้าของสินค้าฟุ่มเฟือยได้ลดการซื้อ ‘แบรนด์เนม’ กระทบยอดขายเครือ Louis Vuitton ลดลงในสหรัฐฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>