Going places together – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 11 Dec 2018 02:20:21 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ไม่ใช่แค่ฟลีมาร์เก็ตใหญ่ที่สุดในยุโรป IJ-Hallen มีอะไร และทำไมไปอัมสเตอร์ดัมไม่ควรพลาด https://thestandard.co/ij-hallen/ https://thestandard.co/ij-hallen/#respond Mon, 26 Nov 2018 09:49:52 +0000 https://thestandard.co/?p=153957

“อากาศดี ของดี ผู้คนก็ดี อาจได้พบเพื่อนใหม่ หรือไม่สนใจ […]

The post ไม่ใช่แค่ฟลีมาร์เก็ตใหญ่ที่สุดในยุโรป IJ-Hallen มีอะไร และทำไมไปอัมสเตอร์ดัมไม่ควรพลาด appeared first on THE STANDARD.

]]>

“อากาศดี ของดี ผู้คนก็ดี อาจได้พบเพื่อนใหม่ หรือไม่สนใจช้อปปิ้งก็นั่งชิลดูผู้คนได้ทั้งวัน”

 

นี่เป็นคำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ในเบื้องต้น สำหรับใครที่สนใจจะไปเยี่ยมชม IJ-Hallen ฟลีมาร์เก็ตยักษ์ใหญ่แห่งอัมสเตอร์ดัม เราจะพบเห็นหนุ่มสาวของเมืองขี่จักรยานข้ามเรือเฟอร์รี่ไปช้อปปิ้ง หรือที่อยู่ต่างเมืองก็ขับรถมาเป็นพ่อค้าแม่ค้ากันอย่างสนุกสนาน และถ้าสุดสัปดาห์ไหนตรงกับวันจัดงาน IJ-Hallen ก็ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าคนเก๋ในเมืองหายไปไหนหมด ใช่แล้ว พวกเขามาอยู่กันที่นี่แหละ

 

IJ-Hallen คือฟลีมาร์เก็ตที่จัดเป็นประจำทุกเดือน โดยในแต่ละครั้งก็ยิ่งใหญ่ด้วยพื้นที่ว่างบริเวณ T.T. Neveritaweg 15 โกดังเก่าใกล้ท่าเรือเฟอร์รี่ NDSM ที่อยู่ไม่ไกลย่านเซ็นทรัลของอัมสเตอร์ดัม ซึ่งด้วยขนาดพื้นที่และปริมาณร้านค้ามากกว่า 750 ร้าน ก็นับได้ว่าที่นี่คือฟลีมาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

 

 

ตลาดเริ่มเปิดตั้งแต่ 09.00-16.30 น. ผู้ใหญ่เสียค่าเข้า 5 ยูโร ทุกร้านรับเฉพาะเงินสดล้วนๆ ดังนั้นเวลาไปถึงต้องดูให้ดีๆ ว่าแถวไหนต่อคิวเอทีเอ็ม (ที่มีอยู่เครื่องเดียว) หรือแถวไหนที่ต่อคิวจ่ายเงินเข้างาน

 

คนส่วนใหญ่นิยมไปช่วงสายๆ ด้วยอยากจับจองสินค้าเป็นคนแรกๆ เพราะที่เป็นเสน่ห์มากๆ ของตลาดนี้คือ การเปิดให้คนทั่วไปมาขาย และไม่มีสินค้าใหม่ที่มาขายปริมาณมากปะปนอย่างที่อื่น

 

แต่ละร้านมักจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ตามสไตล์เจ้าของร้าน บางร้านเป็นกลุ่มเพื่อนสาวมารวมตัวกันขายเสื้อผ้า บางร้านเป็นคู่สามีภรรยาที่สไตล์ดีมาก เปิดร้านจัดวางแบบมินิมัล หรือข้าวของแนววินเทจก็มีหลากหลายให้เลือกสรร และราคาก็ต้องบอกว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่สูงลิ่วของอัมสเตอร์ดัม อย่างเช่น แจ็กเก็ตหนังในราคา 20 ยูโร หรือแจ็กเก็ตยีนส์ 4-8 ยูโร เป็นต้น

 

 

แม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า รวมถึงกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ แต่สินค้าจำพวกของแต่งบ้าน ของเล่นเด็ก ของสะสม เครื่องใช้ในบ้าน ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ก็มีให้เลือกมากมาย เรียกว่าสามารถหยิบจับข้าวของไปแต่งบ้านได้ทั้งหลังในคราวเดียว

 

ตามคอนเซปต์เมืองรักสิ่งแวดล้อม เราจะเห็นการพกถุงผ้าไปช้อปปิ้งอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ส่วนความน่ารักอีกอย่างก็คือ เหล่าเจ้าของร้านที่จับจองพื้นที่ไว้ สามารถบริจาคเสื้อผ้าหรือสิ่งของที่เหลือจากการขายและไม่อยากขนกลับไปได้ด้วย โดยจะมีองค์กร Roteryclub Wieringermeer มาจัดการข้าวของเหล่านี้ เพื่อนำไปบริจาคยังองค์กรการกุศลต่างๆ ในภายหลัง

 

ถ้าจะเดินให้ทั่วก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง ดังนั้นจุดพักผ่อนอย่างร้าน Noorderlicht Cafe ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ จึงเป็นจุดแวะพักที่เหมาะมาก ทั้งวันเราจะเห็นผู้คนแวะเวียนมานั่งดื่มกิน มีเมนูให้เลือกไม่เยอะ แต่รสชาติดี จำพวกชิปส์ เบอร์เกอร์ นาโชส์ และเมนูแกล้มเบียร์อย่างบิทเทอร์บอล ดราฟต์เบียร์ที่ขึ้นชื่อของเมืองก็มีพร้อมเสิร์ฟในแบบที่เหมาะกับการใช้เวลาปล่อยผ่านไปสบายๆ ในวันหยุด

 

 

และด้วยความที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวแบบ ‘เช็กลิสต์ที่คุณต้องไปในอัมสเตอร์ดัม’ นั่นทำให้ IJ-Hallen มีแต่คนพื้นที่จริงๆ ต่อราคากันสนุกสนาน ชวนคุยเกี่ยวกับของที่ชอบเหมือนๆ กัน หลายๆ ครั้งเราจะเห็นว่าสิ่งของที่เราไม่ต้องการแล้ว กลับกลายเป็นของล้ำค่าสำหรับคนอื่นๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และการได้เห็นว่าใครที่เป็นคนรับของเหล่านั้นไปดูแลต่อ ก็เป็นเรื่องที่มีคุณค่าทางจิตใจบางประการ

 

จะบอกว่า IJ-Hallen เป็นตลาดนัดที่ไว้เฉพาะไปซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ การเดินเที่ยวตลาดก็คล้ายเป็นการศึกษาผู้คนในต่างวัฒนธรรมไปด้วย และสิ่งที่เชื่อมโยงคนทั้งโลกไว้ด้วยกันก็คือ การได้แบ่งปันความสุข ความเบิกบาน รอยยิ้ม และความรู้สึกเต็มอิ่มที่ได้พบใครสักคนที่มีความรักความชอบในแบบเดียวกัน

 

 

ภาพ: ijhallen.nl

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post ไม่ใช่แค่ฟลีมาร์เก็ตใหญ่ที่สุดในยุโรป IJ-Hallen มีอะไร และทำไมไปอัมสเตอร์ดัมไม่ควรพลาด appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/ij-hallen/feed/ 0
Barcelona Pavilion สถาปัตยกรรมสายมินิมัลเมืองบาร์เซโลนา ผลงานสถาปนิกเจ้าของประโยค ‘Less is More’ https://thestandard.co/barcelona-pavilion/ https://thestandard.co/barcelona-pavilion/#respond Mon, 01 Oct 2018 09:11:03 +0000 https://thestandard.co/?p=126526

ถือเป็นช่วงขาขึ้นของประเทศสเปนที่กลายเป็นจุดสนใจของนักท […]

The post Barcelona Pavilion สถาปัตยกรรมสายมินิมัลเมืองบาร์เซโลนา ผลงานสถาปนิกเจ้าของประโยค ‘Less is More’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถือเป็นช่วงขาขึ้นของประเทศสเปนที่กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ด้วยมู้ดยุโรปแบบสนุกๆ อาหารอร่อย ไวน์ดี จุดกำเนิดแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ แถมยังเป็นแหล่งรวมงานสถาปัตยกรรมระดับเทพอีกด้วย

 

แต่มีหนึ่งสถานที่ซึ่งสายเที่ยวยุคนี้ห้ามพลาดเลยก็คือ Barcelona Pavilion อาคารแนวโมเดิร์นสุดมินิมัลในตัวเมืองบาร์เซโลนา ที่ไม่ได้โผล่ในหนังสือนำเที่ยวทั่วๆ ไปแน่นอน

 

ภาพ: www.bauhaus100.de/de

Ludwig Mies van der Rohe, 1934

 

ก่อนจะไปรู้จักกับหนึ่งในสถานที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในเมืองบาร์เซโลนาแห่งนี้ ต้องบอกที่มาของ Barcelona Pavilion กันก่อน

 

สถาปัตยกรรมแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน-อเมริกันระดับตำนานที่พูดชื่อแล้วต้องร้องอ๋ออย่าง Ludwig Mies van der Rohe ผู้ที่นำประโยคที่ว่า ‘Less is More’ และ ‘God is in the details’ มาใช้ในงานออกแบบ จนเป็นที่ฮิตติดปากของสายมินิมัลจนถึงทุกวันนี้

 

Mies แทบจะเป็นตัวพ่อของงานออกแบบในยุค Modernism (อยู่ในแก๊งเดียวกับ Le Corbusier, Walter Gropius และ Frank Lloyd Wright) เขายังเป็นอดีตผู้อำนวยการของโรงเรียนสอนดีไซน์ Bauhaus ในช่วงปี 1930-1933 หลังจากนั้น Mies ก็ตัดสินใจย้ายออกจากเยอรมนีในปี 1937 ไปอยู่ที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ผลงานสร้างชื่ออื่นๆ ของ Ludwig Mies van der Rohe นอกจาก Barcelona Pavilion แล้วก็ยังมี The Farnsworth House (รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา) และตึก Seagram ในนิวยอร์ก

 

ภาพ: aws.amazon.com

 

ปัจจุบัน Barcelona Pavilion เป็นพื้นที่ของ The Ludwig Mies Van Der Rohe Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อส่งเสริมงานด้านสถาปัตยกรรม

 

แต่ก่อนหน้านี้ Barcelona Pavilion ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดแสดงในงาน Barcelona International Exposition ในปี 1929 ซึ่งเป็นงาน World Fair ที่ให้แต่ละประเทศมาโชว์ผลงานและนวัตกรรม ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และงานออกแบบสถาปัตยกรรม ซึ่งจัดขึ้นบริเวณ Montjuïc ในบาร์เซโลนา โดย Barcelona Pavilion ผลงานของ Ludwig Mies van der Rohe ก็ถูกใช้เป็นตึกสถาปัตยกรรมตัวแทนจากประเทศเยอรมนีในตอนนั้น

ภาพ: www.pinterest.com

แปลนอาคาร Barcelona Pavilion

 

ถ้ามานั่งคิดดูดีๆ สถาปัตยกรรมในช่วงปี 20 แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกับ Barcelona Pavilion แห่งนี้ ด้วยโครงสร้างตึกที่เรียบง่ายแต่สมบูรณ์ การใช้พื้นที่ว่างในการออกแบบ และ ‘free plan’ หรือการออกแบบภายในแบบไม่มีผนังกั้นห้อง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นผลมาจากการที่เยอรมนีเพิ่งผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่ 1 ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมในเยอรมนีเข้าสู่ยุคใหม่ โดยสถาปนิกอย่าง Ludwig Mies van der Rohe ก็ได้รับโจทย์มาประมาณว่า ให้สร้างตึกที่ ‘สะท้อนให้เห็นยุคใหม่’ ของประเทศเยอรมนีนั่นเอง และทำให้เราได้เห็น Barcelona Pavilion ที่หน้าตาล้ำยุคสุดๆ

 

ภาพ: mikeshouts.com

Barcelona Chair

 

ภาพ: miesbcn.com

Barcelona Chair ใน Barcelona Pavilion

 

 

ภายในงาน Barcelona Pavilion ยังถูกใช้เป็นห้องรับรองของ King Alfonso XII ของสเปนในตอนนั้น ซึ่งถ้าดูด้านในจะเห็นว่ามินิมัลมาก มีเพียงเก้าอี้ ‘Barcelona Chair’ ที่ถูกออกแบบโดย Ludwig Mies van der Rohe ตั้งอยู่เท่านั้น ซึ่งเขาย้ำไว้เลยว่า อาคารหลังนี้ต้องมีเฟอร์นิเจอร์แค่เก้าอี้รุ่นนี้ตั้งอยู่เท่านั้น ห้ามมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ซึ่งทำให้เก้าอี้เบาะหนังสีดำ Barcelona Chair ที่หน้าตาเรียบๆ ไม่มีที่วางแขน และรูปทรงล้ำสมัยมากในยุคนั้น ต้องกลายมาเป็นพระราชอาสน์ให้กับทั้งพระราชินีและพระราชาของประเทศสเปน ณ ตอนนั้นด้วย

 

ในปัจจุบัน Barcelona Chair กลายมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ระดับตำนานตัวแทนงานออกแบบยุค Modernism ที่ถูกก๊อบปี้ไปใช้ตกแต่งสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก (แต่ของแท้ก็ยังมีผลิตขายอยู่เช่นกัน)

 

 

นอกจากแปลนอาคารและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกที่เป็นจุดเด่นของ Barcelona Pavilion แล้ว ‘วัสดุ’ ที่ใช้สร้าง Barcelona Pavilion ก็เป็นจุดสำคัญที่ทุกคนต้องไปสัมผัส ตั้งแต่การใช้กระจก เหล็ก และหิน 4 ชนิดในการสร้าง ได้แก่ หินทราเวอร์ทีนโรมัน, หินอ่อนอัลไพน์สีเขียว, หินอ่อนโบราณสีเขียวจากกรีซและโอนิกซ์ นิลสีทองจากเทือกเขาแอตลาส ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าลายของหินที่ถูกประกอบเป็นผนังนั้นยังมีการเรียงกันให้เกิดลายสมมาตรอีกด้วย

 

ภาพ: visualhouse.co

 

ภายในอาคารยังมีอีกหนึ่งจุดเด่นคือรูปปั้น ‘Dawn’ (Alba) ผลงานของ Georg Kolbe  ศิลปินชาวเยอรมัน เป็นรูปปั้นทองสำริดรูปหญิงสาวเปลือยที่ชูมือขึ้นเหนือหัว และถูกวางอยู่เหนือน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ Ludwig Mies van der Rohe คิดไว้แล้วว่าจะเป็นจุดที่มองเห็นได้หลายมุมที่สุด เพราะเราจะมองเห็นเงาสะท้อนทั้งบนผิวน้ำ บนหินอ่อน และบนกระจกได้รอบด้าน แถมด้วยรูปทรงคดโค้งของหุ่นตัวนี้ยังช่วยสร้างความขัดแย้งให้กับตึกที่มีแต่เส้นตรงได้อีกด้วย แต่ปัจจุบันหุ่น Dawn ที่ตั้งอยู่ไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็นรูปปั้นที่ทำให้เหมือนต้นฉบับอีกทีหนึ่ง

 

 

นอกจากหุ่น Dawn ที่เป็นของทำใหม่แล้ว Barcelona Pavilion ที่ตั้งอยู่ก็ไม่ใช่ของดั้งเดิมทั้งหลัง แต่เป็นการประกอบใหม่ของอาคารเก่าอีกที เพราะพอจบงานนิทรรศการในปี 1930 Barcelona Pavilion ก็ต้องถูกแยกร่าง (แต่มีการเก็บชิ้นส่วนคุณภาพดีเอาไว้ทั้งหมด)

 

จนกระทั่งในปี 1980 ที่ Oriol Bohigas หัวหน้ากรมผังเมืองของ Barcelona เห็นว่า Barcelona Pavilion เป็นทั้งงานชิ้นเอกของ Ludwig Mies van der Rohe ทั้งยังเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมในยุค Modernism ที่ควรค่าแก่การนำมาโชว์ให้คนรุ่นหลังเห็น เขาจึงสั่งให้มีการประกอบร่าง Barcelona Pavilion ขึ้นมาใหม่ พร้อมการช่วยเหลือของทีมสถาปนิกอย่าง Ignasi de Solà-Morales, Cristian Cirici และ Fernando Ramos จนทำให้ Barcelona Pavilion คืนชีพพร้อมโชว์อีกครั้งในปี 1986 จนถึงปัจจุบัน

 

Instagram-Worthy

มาถึงที่แล้ว สถาปัตยกรรมแห่งนี้ก็จะดูหลังไม่ใหญ่มาก แต่อาจจะเดินแล้วงงๆ ว่าควรจะถ่ายรูปมุมไหนถึงจะดีที่สุด เราเลยคัดมุมบังคับที่ใครไปต้องถ่ายมาให้

 

มุมจากริมบ้านที่มองเห็นบ่อน้ำและรูปปั้น Dawn

 

มุมผนังหินทราเวอร์ทีน

 

มุมสระน้ำหน้าบ้าน

 

Shop

แน่นอนว่าใครที่คลั่งไคล้งานออกแบบหรือชื่นชอบ Ludwig Mies van der Rohe อยู่แล้ว ต้องอยากได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน ในบริเวณบ้านมีร้านขายของฝากให้นักท่องเที่ยวช้อปปิ้งด้วย

 

ไอเท็มหลักๆ ที่เราคิดว่าต้องซื้อเลยก็มีทั้งถุงผ้าสกรีนข้อความอย่าง ‘I don’t want to be interesting, I want to be good.’ และ ‘god is in the details.’ หรือถ้าใครติดใจเก้าอี้ Barcelona Chair ที่ร้านก็มีโมเดลเก้าอี้ครบทุกสี (มีเก้าอี้ดังๆ รุ่นอื่นด้วย เช่น Eames Lounge Chair และ Egg Chair)

 

ภาพ: chezlorraine.wordpress.com

 

How to go

การเดินทางไป Barcelona Pavilion ง่ายนิดเดียว เพราะบ้านตั้งอยู่ติดกับจุดเด่นอย่าง Barcelona Palace สามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Espanya และออกทางออกที่มุ่งหน้าไปยัง Barcelona Palace เมื่อเดินขึ้นบันได ให้มองทางขวา ก็จะเจอกับ Barcelona Pavilion แล้ว หรือถ้านั่งรถบัส ก็สามารถนั่งรถบัส Turistic (Red Route) ไปลงสถานีหน้า Barcelona Pavilion เลยก็ได้

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post Barcelona Pavilion สถาปัตยกรรมสายมินิมัลเมืองบาร์เซโลนา ผลงานสถาปนิกเจ้าของประโยค ‘Less is More’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/barcelona-pavilion/feed/ 0
ทำไมคุณจึงควรลองบิน Business Class ครั้งแรกในชีวิตกับ Qatar Airways [PR NEWS] https://thestandard.co/why-everyone-should-fly-qatar-airways-business-class/ https://thestandard.co/why-everyone-should-fly-qatar-airways-business-class/#respond Mon, 24 Sep 2018 02:06:09 +0000 https://thestandard.co/?p=123348

    จริงอยู่ว่าการบินไปเที่ยวต่างประเทศเดี๋ยว […]

The post ทำไมคุณจึงควรลองบิน Business Class ครั้งแรกในชีวิตกับ Qatar Airways [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

 

จริงอยู่ว่าการบินไปเที่ยวต่างประเทศเดี๋ยวนี้ง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะ ใครๆ ก็หาโปรบินไปเที่ยวยุโรปในราคาไม่โหดได้ง่ายๆ แต่เสน่ห์ของการเดินทางไปเที่ยวทริปแบบในฝันมันไม่ใช่แค่การเดินเล่นในเมือง ถ่ายรูปติดหอไอเฟล หรือการตื่นนอนในโรงแรมเก๋ๆ อย่างเดียวเท่านั้น แต่ระหว่างการเดินทางไปถึงประเทศจุดหมายเหล่านั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเลือกได้ ก็คงไม่มีใครอยากทนนั่งอึดอัดบนเครื่องบินนานกว่าสิบชั่วโมง แล้วต้องทนลงเครื่องไปด้วยสภาพเยินๆ หัวมันๆ ก่อนจะได้เที่ยววันแรกกันหรอก

 

แต่ถ้าจะลงทุน ‘ลองนั่ง Business Class’ ครั้งแรกในชีวิตทั้งที แน่นอนว่าเราก็อยากได้ที่นั่ง Business Class ที่คุ้มค่าคุ้มกับราคาที่เราต้องจ่ายให้ได้มากที่สุด แล้วสายการบินไหนล่ะที่คู่ควรแก่การลอง

 

 

ถ้าใครกำลังเสิร์ชที่นั่ง Business Class ของสายการบินที่ดีที่สุด ก็จะเจอกับสายการบินชื่อคุ้นหูอย่าง Qatar Airways ขึ้นมาเป็นอันดับแรก ด้วยความที่ขึ้นชื่อเรื่องความสบายของที่นั่ง การบริการที่ดีเกินคาด (แม้จะที่นั่งแบบ Eco) ทำให้ Qatar Airways เป็นสายการบินที่ติดอันดับโดยองค์กรจัดอันดับสายการบินที่ได้รับการรับรองอย่าง Skytrax ให้เป็น Skytrax Airline of the Year (เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ภายในเวลาเพียง 10 ปี) และยังได้รับรางวัลอย่าง World’s Best Business Class, Best Airline in the Middle East และ World’s Best First Class Airline Lounge อีกด้วย

 

แต่จะให้เสิร์ชดูแค่รูป เราก็คงไม่สามารถเข้าถึงความสบายของ Business Class ได้ สุดท้ายเราต้องยอม ‘ทดลองนั่ง Business Class’ จาก Qatar Airways ให้รู้กันไปเลยว่า อะไรทำให้สายการบินนี้ได้รางวัลมาครอง

 

 

ตอบโจทย์คนชอบความเป็นส่วนตัว

ต้องบอกก่อนว่าถึงเราจะเลือกนั่งแบบ Business Class แต่สำหรับบางสายการบินก็อาจจะต้องนั่งติดกับคนไม่รู้จักอยู่ดี ถึงที่นั่งจะใหญ่ แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความไม่เป็นส่วนตัวระหว่างบิน จะนอนหลับก็อาจจะเขินๆ อยู่บ้าง แต่ที่นั่ง Business Class ของ Qatar ถูกดีไซน์มาให้ทุกที่นั่งเป็นส่วนตัวและเป็น Aisle Seat หมายความว่าเราจะเข้าออกที่นั่งได้แบบสะดวกสบายสุดๆ และถึงแถวกลางที่มีที่นั่งติดกัน แต่ก็มีแผงกั้นเอาไว้ขอพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสารอย่างเราๆ ด้วย (ที่น่ารักก็คือ ถ้าเราเดินทางกับเพื่อน แอร์โฮสเตสก็จะเดินมาถามก่อนว่า เดินทางด้วยกันหรือเปล่า ถ้าใช่ เขาก็จะเอาแผงกั้นตรงกลางลงให้ เผื่อจะได้เมาท์มอยกันได้บนเครื่อง) ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เราสามารถปรับระดับที่นั่งได้จนกลายเป็นแนวระนาบแบบเตียงนอนดีๆ เตียงหนึ่งได้โดยไม่ต้องกลัวใครเห็น เพราะที่นั่งที่เรานั่งจะกลายเป็นห้องนอนส่วนตัวเหมือนมีผนังกั้นรอบได้พอดิบพอดี

 

ที่พีกไปกว่านั้น ถ้าคุณกำลังสนใจจะบิน Business Class ไปยังจุดหมายปลายทางอย่าง Frankfurt (FRA), London (LHR), Paris (CDG), Chicago (ORD), New York (JFK) และเมืองอื่นๆ เช็กได้ที่ www.qatarairways.com/en/onboard/qsuite.html Qatar Airways ก็ได้เพิ่มที่นั่งสำหรับ Business Class ที่หรูสุดๆ จนต้องใช้คำว่า First in Business อย่างที่นั่ง Qsuite ที่สามารถเปลี่ยนที่นั่ง Business Class ธรรมดา ให้กลายเป็นที่นั่งที่หมุนเข้าหากันได้ กลายเป็นโต๊ะประชุมแบบ 4 ที่นั่ง ที่ทำให้ผู้โดยสารสามารถพูดคุยกันเป็นกลุ่ม หรือทานข้าวด้วยกันได้ แถมยังมีดีเทลอย่างที่นั่งบุหนังจากอิตาลี ผ้าซาตินสีโรสโกลด์

 

 

ตอบโจทย์คนของเยอะ ไหนจะคอมฯ ไหนจะกระเป๋ากล้อง

ที่นั่ง Business Class ของ Qatar Airways ถูกดีไซน์มาอย่างฉลาด ทุกบริเวณที่พอจะมีช่องว่าง ก็ถูกดีไซน์ให้เป็นช่องเก็บของไปหมด นอกจากโต๊ะหน้าที่นั่ง (ที่ต้องพับเข้า-พับออกตอนกินข้าว) ก็ยังจะมีโต๊ะข้างเก้าอี้ที่วางของได้อีกหลายอย่าง (ขนาดวางโน้ตบุ๊กได้สบายๆ) และแถบด้านข้างที่นั่งที่เอาไว้วางของเล็กๆ น้อยๆ อย่างโทรศัพท์มือถือ สมุดจด หรือแก้วน้ำ ที่น่าเซอร์ไพรส์อีกอย่างคือ ถ้าโชคดีได้ที่นั่ง Business Class ตรงที่นั่งติดหน้าต่างของเครื่องบิน A380 เราจะมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ของตัวเองอยู่ข้างหน้าต่าง ซึ่งสามารถใส่สัมภาระทุกอย่างในชีวิตลงไปได้แบบไม่ต้องเอื้อมเปิด Overhead Compartment ซึ่งถือว่าถูกใจสาวตัวเล็กสัมภาระเยอะมากๆ ตอนจะบินก็ไม่ต้องมาแพลนชุดวันบินว่าต้องใช้กระเป๋าแบบไหน ไซส์ไหนถึงจะห้อย หรือเก็บใต้ที่นั่งได้ แล้วกระเป๋าคอมฯ จะแบกอย่างไร

 

 

ตอบโจทย์คนชอบกิน

อาหารบนเครื่องถือเป็นประเด็นที่ติดใจมากที่สุดสำหรับคนที่ชอบเดินทางบ่อยๆ เพราะทุกจานที่เหมือนอุ่นร้อนบนเครื่อง ห่อฟอยล์ และรสชาติที่พอทานได้ แต่สำหรับ Business Class ของ Qatar Airways เวลาของมื้ออาหารดูจะเป็นเวลาที่อลังการที่สุด เริ่มจากการนำผ้าสีขาวแบบในร้านอาหารมาปูโต๊ะให้ นำผ้าเช็ดปากมาพับวางบนตัก และยังตามด้วยเทียนตกแต่ง เพื่อให้การทานอาหารบนเครื่องบินได้ความรู้สึกแบบการนั่งในร้านอาหารระดับ 5 ดาวให้ได้มากที่สุด ภาชนะคุณภาพดี และที่สำคัญคุณภาพอาหารที่ทำให้เราตั้งคำถามว่า อาหารบนเครื่องบินก็ทำอร่อยได้ขนาดนี้เลยเหรอ ด้วยเมนูอย่าง Roast Black Cod Fillet with Bisque and Herb Sauce หรือ Black Charcoal Ravioli Filled with Spinach and Ricotta Cheese เอาเป็นว่าไม่ได้นี่คือเมนูมื้อหรือที่เปิดประสบการณ์ใหม่ทีเดียว

 

สำหรับใครที่จะบิน Business Class ในเส้นทางจาก Sydney, Adelaide, Perth และ Melbourne ช่วงเดือนตุลาคมนี้ Qatar Airways จะมีเมนูใหม่จากเชฟชาวออสเตรเลีย จอร์จ คาลอมบาริส (George Calombaris) กรรมการจากรายการ MasterChef Australia มาสร้างสรรค์เมนูพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาการกรีก ตัวอย่างเช่นเมนู ซุปไข่และเลมอนแบบกรีก Avgolemono ด้วย

 

 

ตอบโจทย์คนชอบดื่ม

นอกจากอาหารการกินจะเกินมาตรฐานทั่วไปแล้ว หากคุณบิน Business Class ด้วยเครื่อง A380 ก็จะมี ‘บาร์’ แยกออกมาด้วย และไม่ใช่แค่บาร์เล็กๆ พอเป็นพิธี แต่บาร์บนเครื่อง แทบจะเหมือนกับยกบาร์ในร้านมาตั้งบนเครื่องบินจริงๆ พร้อมเคาน์เตอร์ ที่นั่งดีไซน์เนี้ยบ ผู้โดยสารสามารถสั่งค็อกเทลได้ตามใจชอบ รวมทั้งไวน์คุณภาพดีที่มีให้เลือกแทบทุกชนิด สวีทไวน์ และแชมเปญ ไปจนถึงอาหารทานเล่นแบบ Canapés (อาหารชิ้นเล็กๆ สำหรับทานคำเดียวหมด) ที่เลือกชิมได้เรื่อยๆ น่าสนใจว่าบาร์บน Business Class ของ Qatar Airways ยังถูกจัดอันดับให้เป็นบาร์ที่ดีที่สุดอันดับหนึ่งบนเว็บไซต์ Business Insider UK ด้วย

 

 

ตอบโจทย์คนชอบนอน

เมื่อเราต้องบินยาวๆ กิจกรรมที่ต้องทำแน่ๆ ก็คือการนอนหลับ เพื่อเก็บแรงเอาไว้เที่ยวต่อ แต่บางทีการหลับบนเครื่องบินก็ต้องใช้สกิลในการหาท่านอนมากๆ ตื่นมาก็ปวดคอ ปวดหลังอีก ซึ่งที่นั่ง Business Class ของ Qatar Airways เป็นที่นั่งที่ปรับได้หลายระดับ ตั้งแต่นั่งตรง เอนหลัง ไปยันปรับเป็นเตียงแบบ 180 องศา ทำให้เราไม่ต้องห่วงความสบายของที่นอนเลย

 

ที่สำคัญไปกว่านั้น Qatar ยังให้หมอนรองศีรษะ และผ้าห่มควิลต์อย่างหนาที่นุ่มสบายสุดๆ ส่วนคนที่แต่งตัวสวยมาแล้วกะจะลงเครื่องเพื่อเที่ยวต่อเลย ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเสื้อผ้ายับ เพราะแอร์โฮสเตสจะเดินนำเซตชุดนอนมาให้ (เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าสลิปเปอร์) ชุดนอนจะแบ่งเป็นไซส์ตามขนาดที่เราสวมใส่ (ขอเลือกขนาดได้) ซึ่งเป็นชุดนอนจากแบรนด์สัญชาติอังกฤษ The White Company ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของชุดนอนและเครื่องนอน ถ้าเราอยากเปลี่ยนไปใส่ชุดนอน ก็แค่เปลี่ยนชุดในห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วฝากเสื้อผ้าชุดสวยของเราไว้กับแอร์โฮสเตสได้เลย

 

 

ตอบโจทย์คนชอบของแถม

เมื่อเราไปถึงที่นั่ง สิ่งแรกที่เราจะเห็นเลยก็คือกระเป๋าขนาดพกพาดีไซน์ดียี่ห้อ Bric’s ซึ่งเป็นการจับมือกันระหว่าง Qatar Airways และแบรนด์กระเป๋าเดินทางสัญชาติอิตาเลียน Bric’s นั่นเอง โดยใน Business Class กระเป๋า Amenity Kit จาก Bric’s ถูกดีไซน์จากรูปแบบของกระเป๋าล้อลากรุ่น Sintesis ซึ่งมีรูปทรงแบบอสมมาตร ทรงแข็ง มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ดำ เทา เบอร์กันดี และสีขาว ซึ่งมีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และยังดูดีอีกด้วย

 

ถ้าเราเปิดไปข้างในก็จะเจอกับโปรดักต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ Castello Monte Vibiano Vecchio ที่มาจากอิตาลีเช่นเดียวกัน โดย Castello Monte Vibiano Vecchio เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอีโค่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีจุดเด่นเรื่องน้ำมันมะกอกซึ่งถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างในกระเป๋า  Amenity Kit จะมีทั้ง ลิปบาล์ม สเปรย์ฉีดหน้า ครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตร Anti-Aging และอื่นๆ ซึ่งเราลองใช้แล้ว บอกเลยว่าดีมากๆ แถมใครที่ผิวแพ้ง่าย ก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะโปรดักต์ของเขาเป็นสูตรธรรมชาติทั้งหมด

 

 

สายเที่ยวบ่อยคงรู้ดีว่ากิจกรรมที่เรามักทำตอนต้องบินไฟลต์ยาวๆ คือการหาหนังหรือหาซีรีส์ดู อ่านหนังสือ (พยายาม) นอนหลับ สลับกับการตื่นมานั่งดูเวลาที่เหลือว่าอีกกี่ชั่วโมงถึงจะถึงที่หมาย แต่การนั่ง Business Class กับ Qatar Airways กลับเป็นครั้งแรกที่เราแทบไม่ได้ดูเวลาเลย รู้ตัวอีกทีก็เหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงบนเครื่องเท่านั้น เพราะการใช้เวลาบนเครื่องบินตอบโจทย์ทุกอย่าง ดูแลให้เราสะดวกสบายสุดๆ แบบที่คนบินอีโคอย่างเราไม่เคยคาดคิดมาก่อน จนทำให้เราแทบหลวมตัวอยากบิน Business Class กับ Qatar Airways แบบนี้ไปเรื่อยๆ

 

เอาเป็นว่าถ้าคุณนึกอยากลองนั่ง Business Class ครั้งแรกในชีวิตเมื่อไร Qatar Airways เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและคู่ควร ในการสร้างประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่ให้กับคุณแน่นอน

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post ทำไมคุณจึงควรลองบิน Business Class ครั้งแรกในชีวิตกับ Qatar Airways [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/why-everyone-should-fly-qatar-airways-business-class/feed/ 0
เที่ยวหลายเมืองไม่ใช่เรื่องยาก [Advertorial] https://thestandard.co/qatar-airways-multi-city-travel/ https://thestandard.co/qatar-airways-multi-city-travel/#respond Tue, 24 Jul 2018 10:16:20 +0000 https://thestandard.co/?p=109649

คุยกับเจ้าของเพจ ‘ไปไง มาไง’ และ ‘Go Went Go’ ที่มีผู้ต […]

The post เที่ยวหลายเมืองไม่ใช่เรื่องยาก [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>

คุยกับเจ้าของเพจ ‘ไปไง มาไง’ และ ‘Go Went Go’ ที่มีผู้ติดตามหลายแสนคนว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นการเดินทาง ทริปสุดประทับใจคือที่ไหน และการเดินทางแบบ Multi-City ที่ทำให้การเที่ยวหลายเมืองในทริปเดียวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!

The post เที่ยวหลายเมืองไม่ใช่เรื่องยาก [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/qatar-airways-multi-city-travel/feed/ 0
กดจองทริปเลยดีไหม? ดีลดีๆ ฉลอง 20 ปี Qatar Airways https://thestandard.co/qatar-airways-celebrating-20-years-together/ https://thestandard.co/qatar-airways-celebrating-20-years-together/#respond Thu, 02 Nov 2017 03:18:44 +0000 https://thestandard.co/?p=40093

     เปิดให้จองแล้วสำหรับโปรโมชัน ‘Celeb […]

The post กดจองทริปเลยดีไหม? ดีลดีๆ ฉลอง 20 ปี Qatar Airways appeared first on THE STANDARD.

]]>

     เปิดให้จองแล้วสำหรับโปรโมชัน ‘Celebrating 20 years together’ ของสายการบินที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่งอย่าง Qatar Airways ครบรอบ 20 ปีทั้งที ทางสายการบินจึงออกโปรโมชันพิเศษเอาใจเหล่านักเดินทาง และเพื่อสนับสนุนให้ทุกคนได้เดินทางไปใช้เวลาดีๆ ร่วมกันกับคนสำคัญ มิได้ออกเดินทางเพียงลำพัง ภายใต้แคมเปญ ‘Going places together’ โปรฯ นี้จึงมอบสิทธิพิเศษ 2 ประการภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

     1. เดินทาง 2 จ่ายเพียง 1 สำหรับบัตรโดยสารชั้นธุรกิจ

     2.เดินทาง 3 จ่ายเพียง 2 สำหรับบัตรโดยสารชั้นประหยัด

     โดยเปิดให้จองได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 เท่านั้น โดยสามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้มากกว่า 150 แห่งทั่วโลกที่ Qatar Airways เดินทางไปถึง ระยะเวลาเดินทางคือตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2561

     คลิกเข้าไปจองกันได้ที่ www.qatarairways.com/en/offers/20-anniversary.html

 

Photo: Qatar Airways

The post กดจองทริปเลยดีไหม? ดีลดีๆ ฉลอง 20 ปี Qatar Airways appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/qatar-airways-celebrating-20-years-together/feed/ 0