GM – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 08 Jun 2023 04:07:27 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เครดิตภาษี EV ของ โจ ไบเดน ได้ผล! ค่ายรถและผู้ผลิตแบตเตอรี่ญี่ปุ่น เกาหลี แห่ตั้งฐานผลิตที่สหรัฐฯ คาดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์ https://thestandard.co/joe-bidens-ev-tax-credit-works/ Thu, 08 Jun 2023 04:07:27 +0000 https://thestandard.co/?p=800603 Tesla

กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อหรือ IRA โดยเฉพาะเครดิตภาษี EV ของ […]

The post เครดิตภาษี EV ของ โจ ไบเดน ได้ผล! ค่ายรถและผู้ผลิตแบตเตอรี่ญี่ปุ่น เกาหลี แห่ตั้งฐานผลิตที่สหรัฐฯ คาดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Tesla

กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อหรือ IRA โดยเฉพาะเครดิตภาษี EV ของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ผล ล่าสุดบรรดาผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV จากฝั่งเอเชีย ทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี พากันไปลงทุนตั้งฐานผลิตตลาดสหรัฐฯ อย่างคึกคัก หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตเร็วเกินคาด 

 

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตลาดอเมริกาตอนเหนือกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และตลาดสหรัฐฯ เต็มไปด้วยผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลก โดยขณะนี้คาดว่ามีการลงทุนรวมประมาณ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ ปัจจัยหลักมาจากกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ให้เครดิตภาษีสูงถึง 7,500 ดอลลาร์ แก่ผู้บริโภคที่ซื้อรถยนต์ใหม่ รวมถึงผู้ผลิต EV ที่ประกอบในอเมริกาเหนือ 

 

นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนการลงทุนในห่วงโซ่อุปทาน EV ทั้งหมด โดยคาดว่ามาตรการที่วางไว้จะช่วยให้เกิดการลงทุนมูลค่ารวม 3.69 แสนล้านดอลลาร์ ในอีก 10 ปีข้างหน้า 

 

ในจำนวนนี้ สัดส่วนกว่า 50% จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ อย่าง GM และ Ford 20% อีก 20-30% คือ Toyota และ Honda จากญี่ปุ่น และส่วนที่เหลือเป็นของบริษัทยุโรปและเกาหลีใต้

 

ส่องบิ๊กโปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ

ตัวอย่างโครงการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น GM ตั้งเป้าที่จะลงทุน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับภายในปี 2025 พร้อมทั้งสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 4 แห่ง ในขณะที่ Ford ทุ่มลงทุน 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าและโครงการอื่นๆ ภายในปี 2025 ขณะที่ Toyota มีแผนก่อตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2025 

 

Honda วางแผนที่จะลงทุนประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงโรงงาน 3 แห่งในโอไฮโอ สำหรับการผลิต EV มูลค่ารวม 4.4 พันล้านดอลลาร์ จะลงทุนในโรงงานร่วมทุนแบตเตอรี่กับบริษัท LG Energy Solution ของเกาหลีใต้

 

นอกจากนี้ยังมีบริษัทต่างๆ ของเกาหลีใต้แสดงความสนใจที่จะลงทุนในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น Hyundai Motor ที่ระบุว่ามีแผนจะลงทุน 7.4 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 Volkswagen ของเยอรมนีจะลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงาน EV แห่งใหม่ในเซาท์แคโรไลนาภายในสิ้นปี 2026 และจะใช้เงิน 5.15 พันล้านดอลลาร์ สำหรับโรงงานแบตเตอรี่ EV แห่งใหม่ในแคนาดา

 

รายงานข่าวยังระบุอีกว่า การลงทุนในตลาดสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นตัวกำหนดสำคัญต่อการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่ากำลังการผลิตแบตเตอรี่ของสหรัฐฯ จะเพียงพอที่จะครอบคลุมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 13 ล้านคันในปี 2030 เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของโลก

 

GM, Ford, Rivian พร้อมรุกตลาดสหรัฐฯ ท้าชน Tesla 

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นอย่าง Panasonic ประกาศขยายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ Gigafactory รัฐเนวาดา เพื่อป้อนให้กับ Tesla และคาดว่าจะเริ่มสายพานผลิตในอีก 2 ปี

 

โดยเพิ่มกำลังการผลิต 10% ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ 39 กิกะวัตต์ชั่วโมง สำหรับ Tesla Model 3s จำนวน 5-7 แสนคันโดยเฉพาะ

 

แน่นอนว่าความต้องการแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นของ Tesla ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเครดิตภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนการลงทุน EV และแบตเตอรี่ในสหรัฐฯ จากกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อที่รัฐบาลจะจ่ายเครดิตภาษี 35 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สำหรับเซลล์แบตเตอรี่ที่ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งอาจลดราคารถยนต์ของ Tesla ได้ นอกจากนี้ยังรองรับการผลิตโมดูลแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ ด้วย

 

ผู้บริหารของ Panasonic ย้ำว่าบริษัทยังคงระมัดระวังการลงทุน แต่แผนเพิ่มการลงทุนโรงงาน Gigafactory ที่รัฐเนวาดาครั้งนี้ “ยิ่งเราทำแบตเตอรี่ได้มากเท่าไร เราก็ยิ่งทำเงินได้มากขึ้นเท่านั้น” เขากล่าว

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ แข่งขันสูงและเต็มไปด้วยผู้ผลิต EV เข้ามาลงทุนต่อเนื่อง แต่ไม่ได้ทำให้ GM และ Ford แผ่วลง แม้แต่ผู้เล่นรายใหม่อย่าง Rivian เองก็พร้อมที่จะเพิ่มการผลิตในตลาดสหรัฐฯ และตั้งเป้าเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่ง เขย่าเจ้าพ่อตลาดอย่าง Tesla ของ อีลอน มัสก์ 

 

อ้างอิง:

The post เครดิตภาษี EV ของ โจ ไบเดน ได้ผล! ค่ายรถและผู้ผลิตแบตเตอรี่ญี่ปุ่น เกาหลี แห่ตั้งฐานผลิตที่สหรัฐฯ คาดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
GM คู่แข่ง Tesla ‘ระงับโฆษณาชั่วคราว’ หลัง Twitter มีเจ้าของใหม่เป็น ‘อีลอน มัสก์’ ส่วนแบรนด์อื่นขู่ถอนเช่นกันหากยกเลิกการแบน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ https://thestandard.co/gm-suspended-advert-twitter/ Sat, 29 Oct 2022 03:52:10 +0000 https://thestandard.co/?p=701716

บ่อเงินบ่อทองของ Twitter สั่นคลอนทันทีหลังจากที่มีเจ้าข […]

The post GM คู่แข่ง Tesla ‘ระงับโฆษณาชั่วคราว’ หลัง Twitter มีเจ้าของใหม่เป็น ‘อีลอน มัสก์’ ส่วนแบรนด์อื่นขู่ถอนเช่นกันหากยกเลิกการแบน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

บ่อเงินบ่อทองของ Twitter สั่นคลอนทันทีหลังจากที่มีเจ้าของใหม่เป็นชายที่ชื่อ ‘อีลอน มัสก์’ โดย GM คู่แข่ง Tesla ได้ตัดสินใจ ‘ระงับโฆษณาชั่วคราว’ ส่วนแบรนด์อื่นขู่ถอนเช่นกันหากยกเลิกการแบน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’

 

CNBC เป็นรายแรกที่รายงานว่า General Motors หรือ GM ได้ระงับการจ่ายเงินสำหรับโฆษณาใน Twitter ประเมินทิศทางใหม่ของยักษ์โซเชียลมีเดีย 

 

“เราจะร่วมมือกับ Twitter เพื่อทำความเข้าใจทิศทางของแพลตฟอร์มภายใต้การมีเจ้าของใหม่ ซึ่งนี่เป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแพลตฟอร์มสื่อ เราได้หยุดการโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่ายไว้ชั่วคราว แต่ปฏิสัมพันธ์การดูแลลูกค้าของเราบน Twitter จะดำเนินต่อไป” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมล


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ภายใต้แม่ทัพอย่าง แมรี บาร์รา บริษัทจากดีทรอยต์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ประกาศใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อแข่งขันกับ Tesla ในด้านรถยนต์ไฟฟ้า

 

สิ่งที่ต้องจับตาภายใต้เจ้าของคนใหม่อย่างมัสก์คือทิศทางการดูแลเนื้อหา มัสก์ได้เปิดเผยว่า Twitter จะไม่เป็นพื้นที่ที่เปิดให้พูดอะไรแย่ๆ ได้โดยเสรี ซึ่งเป็นการขยายความเพิ่มเติมจากการที่เขาเคยบอกไว้ว่า “Twitter เป็นเหมือนจัตุรัสกลางเมือง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ทุกคนจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย” 

 

มัสก์ได้ให้ความมั่นใจกับผู้โฆษณาถึงคำวิจารณ์ที่ผ่านมาของเขาเกี่ยวกับกฎการดูแลเนื้อหาของ Twitter โดยกล่าวในจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ลงโฆษณาว่า “เห็นได้ชัดว่า Twitter จะไม่สามารถเป็น ‘free-for-all hellscape’ ที่ใครจะสามารถทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องรับกับผลกระทบที่ตามมา!”

 

แต่กระนั้นก็มีกระแสข่าวว่า มัสก์ดำเนินการปลดล็อกให้กับบัญชีต่างๆ ที่ถูกแบนไปก่อนหน้านี้ เช่น บัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งใช้ Twitter จุดชนวนให้เกิดการจลาจลหลังจากที่เขาแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ทำให้เขาถูกระงับบัญชีอย่างถาวร “เนื่องจากความเสี่ยงที่จะมีการยุยงให้ใช้ความรุนแรงต่อไป”

 

The Wall Street Journal รายงานคำพูดที่อ้างอิง Kieley Taylor หัวหน้าฝ่ายหุ้นส่วนระดับโลกของเอเจนซีโฆษณา GroupM ว่า หาก Twitter ปลดแบนให้ทรัมป์มีลูกค้าราว 10 รายที่เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีชื่อเสียงมากมายได้ขอให้หยุดการโฆษณาชั่วคราวในทันที ส่วนลูกค้าอื่นๆ ก็จับตาดูอยู่เช่นกัน

 

ในข้อความที่ส่งถึงบรรดาผู้ลงโฆษณาต่างๆ มัสก์กล่าวว่านอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว Twitter จะต้อง ‘อบอุ่นและยินดีต้อนรับทุกคน’ และ Twitter มีเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ ‘เสริมสร้างแบรนด์ของคุณและทำให้องค์กรของคุณเติบโต’

 

การโฆษณาสร้างรายได้ 89% ของรายรับ 5.08 พันล้านดอลลาร์ของ Twitter ในปี 2021 แต่สำหรับมัสก์เป็นที่รู้กันว่าเขา ‘เกลียดโฆษณา’ ในทวีตเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเขาได้บอกว่า Twitter ควรหันไปมุ่งหารายได้จากการสมัครรับข้อมูล

 

สิ่งที่มัสก์ต้องการจะเห็นคือ การยกระดับ Twitter จากการเป็นแค่โซเชียลมีเดียแอปพลิเคชันให้เป็นซูเปอร์แอป ซึ่งคล้ายกับ WeChat ของจีน ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการได้หลากหลาย ตั้งแต่การชำระบิล สั่งสินค้า หรือสื่อสารกับเพื่อน

 

มัสก์อวดมานานแล้วว่า Tesla ไม่จ่ายค่าโฆษณาแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับแบรนด์ของผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

ในทางกลับกัน Tesla จะให้รางวัลแก่ลูกค้าและผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่โปรโมตผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการได้รับอนุญาตให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ของ Tesla ก่อนใคร เช่น ซอฟต์แวร์ Full Self Driving Beta หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่จำกัดคน

 

ในเดือนกันยายน 2020 Tesla นำข้อเสนอของผู้ถือหุ้นในการเริ่มจ่ายค่าโฆษณาเพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับรถยนต์และเครือข่ายการชาร์จ แต่คณะกรรมการของ Tesla ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และผู้ถือหุ้นโหวตให้คณะกรรมการไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับแคมเปญโฆษณาแบบเดิมๆ

 

ในรายงานประจำปีของบริษัทประจำปี 2564 Tesla เขียนว่า: “ในอดีต เราสามารถสร้างการรายงานข่าวที่สำคัญของบริษัทและผลิตภัณฑ์ของเรา และเราเชื่อว่าเราจะทำเช่นนั้นต่อไป ความครอบคลุมของสื่อและการบอกต่อเป็นแรงผลักดันหลักสำหรับสร้างโอกาสในการขาย และช่วยให้เราบรรลุยอดขายโดยไม่ต้องโฆษณาแบบเดิมๆ และมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ค่อนข้างต่ำ”

 

ทิศทางนี้เองทำให้รายงานค่าใช้จ่ายทางการตลาด การส่งเสริมการขาย และการโฆษณา ไม่ได้เป็นตัวเลขที่มีสาระสำคัญสำหรับปีงบประมาณ 2019-2021 ในรายงานทางการเงินที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ

 

อ้างอิง:

The post GM คู่แข่ง Tesla ‘ระงับโฆษณาชั่วคราว’ หลัง Twitter มีเจ้าของใหม่เป็น ‘อีลอน มัสก์’ ส่วนแบรนด์อื่นขู่ถอนเช่นกันหากยกเลิกการแบน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: สัมพันธ์มัสก์-จีน สั่นคลอน หลังจีนเข้มตรวจสอบ Tesla https://thestandard.co/morning-wealth-11022021-3/ Thu, 11 Feb 2021 06:00:11 +0000 https://thestandard.co/?p=453113 สัมพันธ์มัสก์-จีน สั่นคลอน หลังจีนเข้มตรวจสอบ Tesla

องค์กรบริหารจัดการระเบียบการตลาดจีนแถลงว่า หน่วยงานรัฐบ […]

The post ชมคลิป: สัมพันธ์มัสก์-จีน สั่นคลอน หลังจีนเข้มตรวจสอบ Tesla appeared first on THE STANDARD.

]]>
สัมพันธ์มัสก์-จีน สั่นคลอน หลังจีนเข้มตรวจสอบ Tesla
  • องค์กรบริหารจัดการระเบียบการตลาดจีนแถลงว่า หน่วยงานรัฐบาลจีน 5 แห่งได้เรียก Tesla เข้าพบเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาในรถยนต์รุ่นโมเดล 3 ด้านแถลงการณ์ของ Tesla ให้คำมั่นที่จะปรับปรุงและเดินหน้าแก้ไขจุดอ่อน รวมถึงจะปฏิบัติตามกฎหมายของจีนอย่างเคร่งครัด
  • เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) หนึ่งในค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะลงทุนในบิตคอยน์แต่อย่างใด

 

ดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: สัมพันธ์มัสก์-จีน สั่นคลอน หลังจีนเข้มตรวจสอบ Tesla appeared first on THE STANDARD.

]]>
GM เผยยังไม่มีแผนลงทุนใน ‘บิตคอยน์’ แต่ยอมรับไม่ปิดโอกาส ตามดูสถานการณ์ใกล้ชิด https://thestandard.co/gm-has-no-interest-in-following-tesla-in-investing-in-bitcoin/ Thu, 11 Feb 2021 03:17:28 +0000 https://thestandard.co/?p=453058 GM

แมรี บาร์รา (Mary Barra) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโ […]

The post GM เผยยังไม่มีแผนลงทุนใน ‘บิตคอยน์’ แต่ยอมรับไม่ปิดโอกาส ตามดูสถานการณ์ใกล้ชิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
GM

แมรี บาร์รา (Mary Barra) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แห่งเจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) หนึ่งในค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ บริษัทยังไม่มีแผนที่จะลงทุนในบิตคอยน์แต่อย่างใด ทว่าทางบริษัทจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ความต้องการของลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนนโยบายในการยอมรับสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซี สำหรับชำระค่าบริการและซื้อขายรถยนต์ของค่ายจีเอ็ม

ความเห็นของซีอีโอจีเอ็มครั้งนี้ มีขึ้นระหว่างที่เจ้าตัวเข้าร่วมงานแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัท โดยเป็นการตอบคำถามนักวิเคราะห์ของบริษัทมอร์แกน สแตนเลย์

“มัน (บิตคอยน์) เป็นสิ่งที่เราจะต้องมอนิเตอร์และประเมิน ซึ่งหากวันหนึ่งวันใดในอนาคตที่ลูกค้ามีความต้องการสกุลเงินดิจิทัลอย่างมาก ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะกีดกันเราออกจากการกระทำดังกล่าว” บาร์รากล่าว

จุดยืนของจีเอ็มครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่ทางเทสลา ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำภายใต้การบริหารงานของมหาเศรษฐีนักธุรกิจอย่าง อีลอน มัสก์ เปิดเผยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า ได้เข้าซื้อบิตคอยน์รวมมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย และเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่ทางบริษัทจะเริ่มรับชำระเงินซื้อขายรถยนต์และบริการด้วยบิตคอยน์

 

ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า หากจีเอ็มปรับนโยบายยอมรับการซื้อรถยนต์ของค่ายด้วยบิตคอยน์จริง ก็อาจจะต้องมีกระบวนการที่ต้องจัดการมากกว่าเทสลา เพราะจีเอ็มเป็นผู้ขายรถยนต์โดยตรงให้กับลูกค้า แต่จะเป็นการขายผ่านระบบตัวแทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ ดังนั้นจีเอ็มต้องมีการพูดคุยทำความตกลง รวมถึงการแบ่งสรรรายได้ผลกำไรกับทางดีลเลอร์ให้ดีเสียก่อน

รายงานระบุว่า การซื้อขายรถยนต์ด้วยบิตคอยน์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะ ทิลแมน เฟอร์ทิตทา (Tilman Fertitta) นักธุรกิจมหาเศรษฐีพันล้าน ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ระบุว่า ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หรูของตนได้ขายรถยนต์ 17 คันให้กับผู้ซื้อด้วยบิตคอยน์ นับตั้งแต่ที่เริ่มต้นมีการยอมรับการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว

วันเดียวกัน มีรายงานว่า ทางโตโยต้า มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ชั้นนำของญี่ปุ่น ได้ประกาศเตรียมเปิดตัวรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า 2 รุ่น และรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดอีก 1 รุ่นในตลาดสหรัฐฯ ภายในปีนี้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดมากนัก โดยระบุแต่เพียงว่า หนึ่งในรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะนำมาเปิดตัวปีนี้จะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ SUV

ขณะเดียวกัน ทางโตโยต้ายังได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 40% ภายในปี 2025 และให้ได้เกือบ 70% ภายในปี 2035 รวมถึงเดินหน้าทุ่มเททรัพยากรที่มีเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

รายงานระบุว่า การประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าสะท้อนให้เห็นแนวคิดของบริษัทที่แหวกแนวแตกต่างจากค่ายรถยนต์รายอื่นๆ โดยขณะที่ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแต่เพียงอย่างเดียว ทางโตโยต้ากลับพยายามคิดค้นพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกที่นอกเหนือจากพลังงานไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความหลากหลายแทน

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

 

The post GM เผยยังไม่มีแผนลงทุนใน ‘บิตคอยน์’ แต่ยอมรับไม่ปิดโอกาส ตามดูสถานการณ์ใกล้ชิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
Microsoft จับมือ GM ลุยพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ทุ่มเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าลงทุน https://thestandard.co/microsoft-work-with-gm-on-autonomous-driving/ Wed, 20 Jan 2021 09:46:24 +0000 https://thestandard.co/?p=445313 Microsoft จับมือ GM ลุยพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ทุ่มเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าลงทุน

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า Microsoft ได้ประกาศเป็นพัน […]

The post Microsoft จับมือ GM ลุยพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ทุ่มเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Microsoft จับมือ GM ลุยพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ทุ่มเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าลงทุน

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า Microsoft ได้ประกาศเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระยะยาวกับ General Motor (GM) ค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ โดย Microsoft จะทุ่มเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน Cruise ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนารถยนต์ไร้คนขับภายใต้สังกัดของ GM เพื่อทำให้รถยนต์ไร้คนขับเกิดขึ้นได้จริง และสามารถผลิตเพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้มากขึ้น

รายงานระบุว่า ในฐานะพันธมิตร Microsoft จะถือเป็นอีกหนึ่งนักลงทุน นอกเหนือจาก GM, Honda Motor และนักลงทุนสถาบันอื่นๆ ในการสนับสนุน Cruise ซึ่งจะดันให้ Cruise มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แถลงการณ์ของ Microsoft ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กล่าวว่า ทางบริษัทจะเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับในฐานะของผู้ให้บริการระบบ Cloud รวมถึงจะร่วมมือทำงานอย่างเต็มที่ ในด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ Cloud Computing กระบวนการผลิต และระบบนิเวศ

สัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Microsoft กล่าวว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังกำหนดนิยามใหมให้กับทุกแง่มุมของชีวิตและการงานของมนุษย์ โดยรวมถึงการจัดการขนย้ายคนและสิ่งของ ก่อนระบุว่า ทาง Microsoft จะใช้ Azure ในการช่วยปรับขนาด และทำให้การขนส่งอัตโนมัติที่ครอบคลุมถึงเทคโนโลยีไร้คนขับกลายเป็นการคมนาคมกระแสหลัก

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ส่งผลให้หุ้นในตลาดของ GM ในช่วงก่อนเปิดตลาดซื้อขายขยับปรับขึ้นมากกว่า 7% ขณะที่หุ้นของ Microsoft ขยับขึ้นเล็กน้อยไม่ถึง 1%

ด้าน GM กล่าวว่า จะทำงานรวมกับ Microsoft ในฐานะผู้ให้บริการ Cloud เพื่อเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลของทาง GM ซึ่งรวมถึงระบบการจัดเก็บ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศักยภาพของ Maching Learning

ขณะที่ แมรี บาร์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของทาง GM ยังได้ยกย่อง Microsoft ที่ช่วย GM ด้วยระบบ Cloud Computing ภายใต้แผนการทุ่มงบกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระยะเวลา 5 ปี จนถึงปี 2025 ในการะบบไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 30 รุ่น

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

The post Microsoft จับมือ GM ลุยพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ทุ่มเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ เดินหน้าลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>
GM เปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 50 ปี หวังสะท้อนการเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ อย่างเต็มตัว https://thestandard.co/gm-changed-logo-reflecting-transition-of-electric-cars/ Sat, 09 Jan 2021 04:13:03 +0000 https://thestandard.co/?p=441072 GM เปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 50 ปี หวังสะท้อนการเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ อย่างเต็มตัว

ไม่แน่ใจว่าการเริ่มศักราชจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับ […]

The post GM เปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 50 ปี หวังสะท้อนการเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ อย่างเต็มตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
GM เปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 50 ปี หวังสะท้อนการเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ อย่างเต็มตัว

ไม่แน่ใจว่าการเริ่มศักราชจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในองค์กรหรือไม่ แต่ล่าสุดหนึ่งในค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก General Motors หรือ GM เพิ่งตัดสินใจประกาศเปลี่ยนโลโก้บริษัทแบบใหม่ในรอบ 50 ปี 

 

จากตัวหนังสือสีเงินที่ล้อมกรอบด้วยตัวหนังสือสีน้ำเงิน GM ได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่มาใช้ตัวหนังสือแบบพิมพ์เล็ก พร้อมไล่ระดับสีฟ้าสดใส ซึ่งเปรียบเสมือนท้องฟ้าในอนาคตที่ปลอดโปร่ง และปราศจากการปล่อยมลพิษ ขณะเดียวกันภายในช่องว่างของ ‘m’ ยังมีรูปร่างคล้ายปลั๊กไฟอีกด้วย 

 

โลโก้ใหม่สร้างขึ้นโดยนักออกแบบของ GM เอง และแม้แต่แบบอักษรก็ถูกสร้างขึ้นเอง GM กล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตรถยนต์เปลี่ยนโลโก้แบบยกเครื่องใหญ่จากโลโก้แบบเก่าที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 1964 

 

โลโก้จะถูกนำมาใช้พร้อมกับแคมเปญการตลาดที่มีชื่อว่า ‘Everybody In’ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการริเริ่มรถยนต์ไฟฟ้าของยักษ์ผู้ผลิตรถยนต์ ในส่วนหนึ่งของแคมเปญโฆษณาจะแสดงถึงผู้คนมากมายที่พูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของ GM 

 

GM นั้นมีความทะเยอทะยานอย่างยิ่งใหญ่ โดยประกาศแผนลงทุน 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.1 แสนล้านบาท ในรถยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์อิสระในอีก 5 ปีข้างหน้า โดย GM ได้สัญญาว่าจะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 30 รุ่นในตลาดต่างๆ ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งจะมาพร้อมกับราคาที่เหมาะสม

 

นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1908 รูปแบบธุรกิจของ GM มุ่งเน้นไปที่การขายรถยนต์ในราคาที่หลากหลาย ภายใต้แบรนด์ต่างๆ มากมายตั้งแต่ Chevrolet ไปจนถึง Cadillac คติของผู้ผลิตรถยนต์ครั้งหนึ่งคือ A car for every purse and purpose หรือการเป็นรถยนต์สำหรับทุกกระเป๋าเงินและทุกวัตถุประสงค์ ซึ่งกลยุทธ์รถยนต์ไฟฟ้าของ GM จะเป็นการสานต่อแนวคิดดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม รายงานของ CNN Business ระบุว่า โลโก้ใหม่ของ GM จะไม่ปรากฏบนรถยนต์และรถบรรทุก แต่จะเห็นเฉพาะในระดับองค์กร เช่น บนอาคารสำนักงาน หัวจดหมายและนามบัตร ขณะเดียวกันโลโก้ใหม่จะไปปรากฏบนเว็บไซต์ GM.com ซึ่งกำลังจะเปิดตัวในวันจันทร์ (11 มกราคม) ที่จะถึงนี้

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

The post GM เปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 50 ปี หวังสะท้อนการเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ อย่างเต็มตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
GM เร่งยกระดับกำลังการผลิตรถไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับ อัดเงินลงทุน 8.2 แสนล้าน ตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้า 40% ปี 2025 https://thestandard.co/gm-electric-vehicle-strategy/ Fri, 20 Nov 2020 02:19:38 +0000 https://thestandard.co/?p=423206 GM

เป็นอีกหนึ่งค่ายรถยนต์ที่ออกมาประกาศเป้าหมายชัดเจนในการ […]

The post GM เร่งยกระดับกำลังการผลิตรถไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับ อัดเงินลงทุน 8.2 แสนล้าน ตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้า 40% ปี 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
GM

เป็นอีกหนึ่งค่ายรถยนต์ที่ออกมาประกาศเป้าหมายชัดเจนในการมุ่งหน้าสู่การพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง สำหรับ GM หรือ General Motors Co. หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ แมรี บาร์รา ประธานกรรมการบริหาร GM ได้ออกมาประกาศแผนการลงทุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งตั้งเป้าจะบรรลุผลให้สำเร็จภายในปี 2025

 

โดย GM ได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาจะอัดฉีดเงินลงทุนมากกว่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 8.2 แสนล้านบาท จนถึงปี 2025 เพื่อเร่งยกระดับกำลังการผลิตรยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มตัว โดยมุ่งมั่นที่จะเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ให้ได้มากกว่า 30 โมเดลในทุกตลาดประเทศทั่วโลกในช่วงเวลาดังกล่าว

 

ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรถยนต์ค่าย GM ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ มากกว่า 40% ในปี 2025 กลายเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

 

“ปัญหาสภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เราต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชันด้วยการช่วยให้ทุกคนได้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า เรากำลังเปลี่ยนผ่านจากจุดที่มั่นคง แข็งแกร่ง ไปสู่การเปลี่ยนพอรต์โฟลิโอรถยนต์บริษัทให้เป็นรถ EV เต็มตัว เราโฟกัสไปที่การเติบโต

 

เราสามารถเร่งกระบวนการของแผนงานพัฒนารถยนต์ EV ได้ เนื่องจากเราได้ยกระดับการสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันด้านแบตเตอรี, ซอฟต์แวร์, การประยุกต์ใช้งานในตัวรถ,​ โรงงานการผลิต และประสบการณ์ของผู้บริโภค ผู้ขับขี่” บาร์รากล่าว

 

ก่อนหน้านี้ GM เคยประกาศเอาไว้ว่า พวกเขาจะทุ่มงบลงทุนพัฒนานเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตเป็นจำนวนเงินกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่เนื่องจากนโยบายการบริหารประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป (ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 อย่าง โจ ไบเดน ให้ความสำคัญกับนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก) นักวิเคราะห์จึงเชื่อกันว่ามีผลไม่น้อยที่ทำให้ GM ต้องปรับการเดินหมากและกลยุทธ์ใหม่

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ปัจจุบัน เพนพอยต์และสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาจำหน่ายสูงเป็นผลมาจากตัว ‘แบตเตอรีไฟฟ้า’ โดย GM ได้พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรีรูปแบบใหม่เป็นของตัวเองในชื่อ ‘The New Ultium Battery System’ ซึ่งในปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ และคาดว่าจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ GM สามารถทำรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาให้มีราคาจำหน่ายในราคาที่ถูก ใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปในปัจจุบันเลยทีเดียว

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

The post GM เร่งยกระดับกำลังการผลิตรถไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับ อัดเงินลงทุน 8.2 แสนล้าน ตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้า 40% ปี 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผลิตรถไม่ได้ก็ผลิต ‘เครื่องช่วยหายใจ’ แทน GM หนุน Ventec เร่งผลิตอุปกรณ์แพทย์ช่วงโควิด-19 ระบาด https://thestandard.co/general-motors-ventilators-ventec-coronavirus-spread/ Mon, 23 Mar 2020 07:03:52 +0000 https://thestandard.co/?p=345261

การระบาดหนักของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้โรงงานหล […]

The post ผลิตรถไม่ได้ก็ผลิต ‘เครื่องช่วยหายใจ’ แทน GM หนุน Ventec เร่งผลิตอุปกรณ์แพทย์ช่วงโควิด-19 ระบาด appeared first on THE STANDARD.

]]>

การระบาดหนักของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งจำต้องชะลอสายพานการผลิตของตัวเองลงชั่วคราว ไม่เว้นแม้แต่ GM (เจนเนอรัล มอเตอร์ส: General Motors) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศปิดฐานทัพการผลิตทุกแห่งในประเทศตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 30 มีนาคมนี้เป็นการชั่วคราว

 

อย่างไรก็ดี แม้จะหยุดสายพานการผลิตรถเอาไว้ชั่วคราว แต่ GM ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้ประกาศความร่วมมือกับ Ventec Life Systems ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ในประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการเดินหน้าผลิตเครื่องช่วยหายใจ สำหรับใช้ในทางการแพทย์ และช่วยเหลือผู้ป่วยในช่วงที่โควิด-19 ระบาด

 

ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้ 3 องค์กร ประกอบด้วย GM, Ventec Life Systems และ StopTheSpread.org ซึ่งทาง GM จะเป็นฝ่ายสนับสนุนภาคโลจิสติกส์ การจัดซื้อและความชำนาญด้านการผลิตเพื่อให้ Ventec สามารถผลิตเครื่องช่วยหายใจได้ในจำนวนที่เร็วและมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อรองรับความต้องการของผู้ติดเชื้อในประเทศได้อย่างทันท่วงที

 

แมร์รี บาร์รา (Mary Barra) ซีอีโอและประธานบริษัท GM ระบุว่า “เราทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับ Ventec เพื่อยกระดับกำลังการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เครื่องช่วยหายใจเพื่อสนับสนุนให้ประเทศของเราสามารถต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ให้ได้ เราจะดำเนินการหาวิธีการต่างๆ ในการช่วยเหลือสหรัฐฯ ในช่วงวิกฤตเช่นนี้”

 

ด้านซีอีโอของ Ventec Life Systems เผยว่า ภายใต้การช่วยเหลือและความเชี่ยวชาญในสายพานการผลิตของ GM จะช่วยให้พวกเขาสามารถยกระดับการผลิตเครื่องช่วยหายใจได้มากกว่าเดิม และจะสามารถส่งต่ออุปกรณ์ดังกล่าวให้กับโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น เพื่อต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาด

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

The post ผลิตรถไม่ได้ก็ผลิต ‘เครื่องช่วยหายใจ’ แทน GM หนุน Ventec เร่งผลิตอุปกรณ์แพทย์ช่วงโควิด-19 ระบาด appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้จัก Great Wall Motors เป็นใคร เก่งมาจากไหนถึงซื้อโรงงานของ GM และมีอะไรมาขายบ้าง https://thestandard.co/who-is-great-wall-motors-that-bought-gm-factory/ Mon, 24 Feb 2020 09:19:22 +0000 https://thestandard.co/?p=334466

ทันทีที่ข่าวยุติการทำตลาดพร้อมขายโรงงานผลิตรถยนต์ของแบร […]

The post รู้จัก Great Wall Motors เป็นใคร เก่งมาจากไหนถึงซื้อโรงงานของ GM และมีอะไรมาขายบ้าง appeared first on THE STANDARD.

]]>

ทันทีที่ข่าวยุติการทำตลาดพร้อมขายโรงงานผลิตรถยนต์ของแบรนด์ Chevrolet ในประเทศไทยกลายเป็นหัวข้อที่ทุกคนกล่าวถึงและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จะมีช่วงหนึ่งของเนื้อข่าวกล่าวถึงคำว่า ‘Great Wall Motors’ เสมอ 

 

ด้วยบริบท ‘เป็นผู้ซื้อโรงงาน’ ซึ่งทำให้ใครหลายคนคิดว่า Great Wall น่าจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยสานต่อลูกค้าให้ไม่เคว้งคว้างหลังการจากไปของ General Motors เจ้าของแบรนด์ Chevrolet

 

ความจริงคือที่ Great Wall เข้ามานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดูแลรถยนต์ Chevrolet แต่อย่างใด ย้ำกันอีกครั้ง General Motors ยังคงให้ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินกิจการดูแลรถยนต์ Chevrolet ต่อไป 

 

แล้วแบบนี้ Great Wall เข้ามาทำอะไร  

 

ยังจำ Great Wall ได้ไหม 

ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงยานยนต์อยู่อย่างสม่ำเสมออาจจะเคยได้ยินชื่อของ Great Wall ในประเทศไทยมาแล้ว เพราะเมื่อปี 2013 Great Wall เคยขึ้นหน้าหนึ่งและเป็นข่าวหลักในหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจของไทย

 

ด้วยการประกาศลงทุนกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย พร้อมกับการนำรถหลากหลายรุ่นมาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ที่จัดในช่วงต้นปีนั้นด้วย 

 

แต่แล้วจู่ๆ เรื่องราวต่างๆ ของ Great Wall ก็เงียบหายไปเหมือนไฟไหม้ฟาง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งโรงงานที่ระบุว่าจะสร้างที่จังหวัดระยอง ทุกอย่างเป็นศูนย์ ไม่มีคำตอบใดๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้จากผู้ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นมาดูกันดีกว่าว่า Great Wall เป็นใคร มาจากไหน 

 

 

Great Wall คือใคร

แค่ดูจากชื่อก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่า Great Wall เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากจีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1984 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการสร้างรถยนต์ประเภทปิกอัพและเอสยูวี ภายใต้แบรนด์ Great Wall ซึ่งเป็นรถปิกอัพ, Haval รถอเนกประสงค์เอสยูวี และ WEY รถอเนกประสงค์ระดับหรู และกำลังขยายไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยแบรนด์ Ora 

 

ความน่าสนใจของ Great Wall อยู่ที่ความเชี่ยวชาญในการผลิตรถปิกอัพและเอสยูวี โดยเป็นบริษัทเอกชนที่ผลิตรถยนต์รายแรกที่จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน (บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในจีนส่วนใหญ่จะถือครองหุ้นโดยรัฐ)

 

ดังนั้นการบริหารงานจึงมีความคล่องตัวกว่าแบรนด์อื่นๆ เห็นได้จากการเป็นแบรนด์แรกที่บุกทำตลาดในยุโรปและได้รับการตอบรับที่ดี 

 

 

ทุนหนาแค่ไหน

จากรายงานของ Great Wall ที่ส่งให้ตลาดหลักทรัพย์เพื่อเปิดเผยต่อสาธารณชน ระบุตัวเลขสินทรัพย์ระดับ 5 แสนล้านบาท โดยรายได้มาในช่วง 2-3 ปีล่าสุด ปีละประมาณ 50,000 ล้านบาท 

 

และไตรมาส 3 ของปีที่แล้วมีกระแสเงินสดในมือพร้อมหมุนเวียนกว่า 40,000 ล้านบาท กำไรสะสมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท

 

ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งดังกล่าวเกิดจากภาพรวมยอดขายในแต่ละปีของ Great Wall ที่ไต่จากระดับ 4-5 แสนคันในทศวรรษ 2000 มาอยู่ที่ระดับ 1 ล้านคันใน 3 ปีหลังจนถึงปัจจุบัน เทียบให้เห็นภาพ นี่คือยอดขายที่เท่ากับทั้งตลาดรวมทุกแบรนด์ของประเทศไทย

 

Great Wall มีเป้าหมายที่จะขายให้ถึงระดับ 2 ล้านคันในปี 2025 ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายเช่นนั้นได้จำเป็นต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศในการเพิ่มยอดขาย โดย Great Wall วางแผนขยายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง 

 

ปัจจุบัน Great Wall มีฐานการผลิตในจีน 7 แห่ง และอยู่นอกจีน 5 แห่ง ได้แก่ เอกวาดอร์, มาเลเซีย, บัลแกเรีย, ตูนิเซีย และรัสเซีย ส่วนล่าสุดคือข่าวการเข้าซื้อกิจการโรงงานประกอบรถยนต์สองแห่งของ General Motors ที่อินเดียและไทย

 

 

เก่งมาจากไหน 

ความเชี่ยวชาญในการสร้างรถยนต์ปิกอัพและเอสยูวีของ Great Wall นั้นต้องยอมรับว่าเกิดจากนโยบายของจีนที่บังคับให้บริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในจีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ รวมถึงเริ่มต้นด้วยการลอกเลียนแบบและการหยิบเอาเทคโนโลยีเก่าที่แบรนด์อื่นเลิกผลิตแล้วมาทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดความชำนาญ 

 

จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ Great Wall ต้องยกให้ปิกอัพรุ่น Deer ที่หยิบเอาโครงร่างของ Toyota Hilux Mighty-X ที่เลิกผลิตไปแล้ว (ไม่มีรายงานใดยืนยันว่าเป็นการซื้อเทคโนโลยีหรือการลอกเลียนแบบ) นำมาขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จนแบรนด์ Great Wall ครองอันดับหนึ่งยอดขายปิกอัพทั้งในประเทศจีนและส่งออกได้ 21 ปีซ้อน

 

เมื่อเริ่มเชี่ยวชาญในการผลิตจึงได้เริ่มสร้างแบรนด์อย่าง Haval และ WEY ตามออกมา โดย Haval ได้รับรางวัลแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดของแบรนด์รถยนต์จีนในปี 2018

 

ความสำเร็จดังกล่าวในปัจจุบันของ Great Wall ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามาจากพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำสัญชาติยุโรปอย่าง Continental, Bosch, Webasto, Ricardo, BorgWarner, ZF และ Hella  

 

เหนืออื่นใด ล่าสุดปลายปี 2019 Great Wall ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับ BMW ในการเป็นหุ้นส่วนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Mini ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานที่คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการผลิตได้ในปี 2022 

 

โดยรถที่ผลิตจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด คาดว่ารุ่นแรกจะเป็น Mini Electric ที่เพิ่งจะเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อปีที่แล้ว และเปิดตัวในไทยไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เอง 

 

 

มีอะไรมาขายในไทย

จากแถลงการณ์ของ General Motors ระบุว่า Great Wall จะใช้โรงงานดังกล่าวของ General Motors เป็นฐานในการผลิตเพื่อทั้งขายในไทยและส่งออกไปยังอาเซียนและออสเตรเลีย ซึ่งรถรุ่นต่างๆ ในปัจจุบันของ Great Wall ได้แก่ ปิกอัพรุ่น Wingle Series และ P Series ส่วนเอสยูวีภายใต้แบรนด์ Haval ได้แก่ รุ่น F Series และ H Series เรียกได้ว่ามีไลน์การขายครบทุกขนาด 

 

ด้วยความที่ไทยนั้นเป็นตลาดปิกอัพขนาด 1 ตันที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นอันดับ 2 ของตลาดปิกอัพรวมทั่วโลก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Great Wall ตั้งท่าจะเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่อาจจะด้วยข้อจำกัดบางประการในห้วงเวลานั้นทำให้ต้องยกเลิกไป 

 

ดังนั้นการมาในครั้งนี้ของ Great Wall น่าจะมีการเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี เพราะต้องไม่ลืมว่าขนาด General Motors ยังต้องถอยทัพไป 

 

 

หากให้เปรียบ Great Wall เวลานี้ ดุจดั่งจอมยุทธที่อ่านคัมภีร์ยุทธแล้วฝึกในถ้ำลับจนเก่งกล้า พร้อมจะออกมาท่องยุทธภพได้ 

 

ส่วนจะมีวรยุทธ์เพียงพอจะประมือกับเหล่าจอมยุทธในไทยได้หรือไม่นั้น คงต้องจับตาตามดูกันต่อไป 

 

และหวังว่า Great Wall จะมีอะไรน่าตื่นเต้นมาให้คนไทยบ้าง

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post รู้จัก Great Wall Motors เป็นใคร เก่งมาจากไหนถึงซื้อโรงงานของ GM และมีอะไรมาขายบ้าง appeared first on THE STANDARD.

]]>
บีโอไอแจง เกรท วอลล์ฯ ซื้อโรงงานจีเอ็มในไทย เป็นฐานผลิตรถยนต์ส่งออก https://thestandard.co/boi-announce-great-wall-motor-buy-gm-in-thailand/ Wed, 19 Feb 2020 08:52:55 +0000 https://thestandard.co/?p=332745

บีโอไอแจง จีเอ็มยุติการผลิตรถยนต์เชฟโรเลตในไทย เพื่อเปล […]

The post บีโอไอแจง เกรท วอลล์ฯ ซื้อโรงงานจีเอ็มในไทย เป็นฐานผลิตรถยนต์ส่งออก appeared first on THE STANDARD.

]]>

บีโอไอแจง จีเอ็มยุติการผลิตรถยนต์เชฟโรเลตในไทย เพื่อเปลี่ยนมือให้เกรท วอลล์ มอเตอร์สรับช่วงต่อ โดยมีเป้าหมายขยายการลงทุนและใช้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกในกลุ่มอาเซียนและออสเตรเลีย พร้อมเตรียมหารือสองบริษัท หวังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในอนาคต

  

ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ชี้แจงกรณีบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม ประกาศจะยุติการผลิตและจำหน่ายเชฟโรเลตในประเทศไทยว่า ตามที่จีเอ็มประกาศจะยุติการผลิตและจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทยภายในปี 2563 นั้น บริษัทจีเอ็มเป็นบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ตั้งโครงการอยู่ในจังหวัดระยอง โดยบริษัทใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลตสำหรับตลาดในประเทศไทย และรถยนต์ยี่ห้อโฮเด้น สำหรับตลาดประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แต่ด้วยสภาพการตลาดปัจจุบัน ซึ่งยอดขายทั้งในประเทศและส่งออกไม่เป็นไปตามคาด บริษัทจึงตัดสินใจประกาศหยุดการผลิตรถยนต์และการขายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทย พร้อมกับการหยุดจำหน่ายรถยนต์โฮเด้นในประเทศออสเตรเลีย

  

แม้ว่าบริษัทจีเอ็มจะยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย แต่บริษัทเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (SUVs) และรถบรรทุกชั้นนำของประเทศจีน ได้ประกาศแผนที่จะเข้ารับช่วงธุรกิจในประเทศไทยต่อจากบริษัทจีเอ็ม รวมทั้งมีแผนจะขยายการลงทุนในไทย และใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ เพื่อส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนและออสเตรเลีย อีกทั้งมีแผนการจ้างแรงงาน รวมถึงการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทย เพื่อให้รองรับกับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์

  

บีโอไอจะหารือกับทั้งสองบริษัทอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในระยะต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

เรียบเรียง: จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช 

ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com  

 

The post บีโอไอแจง เกรท วอลล์ฯ ซื้อโรงงานจีเอ็มในไทย เป็นฐานผลิตรถยนต์ส่งออก appeared first on THE STANDARD.

]]>