สะเทือนวงการแฟชั่นในอิตาลี LVMH บริษัทแม่แบรนด์หรู Dior และ Giorgio Armani ถูกเปิดโปง ใช้โรงงานผลิตสินค้าที่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย แถมต้องทำงานในสภาพแวดล้อมคล้ายโรงงานทาส ทำงานหนักเกินเวลา แต่ได้รับผลตอบแทนต่ำ หนำซ้ำยังละเมิดสิทธิมนุษยชน

‘Made in Italy: shame in Italy’ หรือที่ง่ายๆ ว่า ‘ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอิตาลี กลับสร้างความอับอายให้กับประเทศอิตาลี’ ประโยคดังกล่าวเป็นคำที่กลุ่มแรงงานข้ามชาติกลุ่มเล็กๆ ตะโกนอยู่บริเวณหน้าร้านของ Montblanc ผู้ผลิตเครื่องประดับหรู เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งแรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้ยืนอยู่ห่างจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ Richemont บริษัทแม่ของ Montblanc ที่มีมูลค่า 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์เพียง 3 กิโลเมตร

จริงๆ ประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ Montblanc ออกแถลงการณ์ว่า ในช่วงต้นปี 2023 บริษัทตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ Z Production ซึ่งเป็นบริษัทซัพพลายเออร์ เนื่องจากการตรวจสอบพบว่า ผู้รับเหมารายนี้ไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• LVMH ทุ่ม 5.7 พันล้านบาท ชิงพื้นที่โอลิมปิก 2024 ตั้งแต่เหรียญรางวัลยันชุดนักกีฬา หวังปลุกตลาดหรูที่ซบเซา

• Hermès ฟอร์มแรง! ยอดขายพุ่ง 13% ทิ้งห่าง LVMH และ Kering ในภาวะที่คนรวยหันหาแบรนด์หรู ‘เหนือกาลเวลา’

• สินค้าลักชัวรีกำลังเจอแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว แบรนด์ไหนจะรอดหรือร่วง?

แต่ฝั่งของ Zain Ali วัย 23 ปี ชาวปากีสถานที่ทำงานกับ Z Production ออกมาโต้แย้งว่า สาเหตุที่ Montblanc ยุติสัญญาเป็นเพราะเราต้องการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 5 วันต่อสัปดาห์ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน แต่บริษัทไม่สามารถให้ได้

กระทั่งในปี 2024 ประเด็นดังกล่าวถูกนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย โดยอัยการเริ่มสอบสวนจนโยงไปเจอโรงงานนรกกว่า 16 แห่งใกล้กับเมืองมิลานของอิตาลี ที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ดี และโรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์หรูอย่าง Dior, Giorgio Armani และ Alviero Martini

สะท้อนให้เห็นว่าสภาพการทำงานที่โหดร้ายเช่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานสินค้าหรู โดยฝั่งผู้นำสหภาพแรงงานและกลุ่มแรงงานกล่าวว่า ไม่เพียงแค่ Z Production และโรงงานอื่นๆ ในพื้นที่นั้น ที่จ้างแรงงานข้ามชาติที่ไม่มีเอกสารและไม่มีประสบการณ์ในการทำเครื่องหนังมาก่อน เพื่อมาผลิตสินค้าให้กับ Montblanc และแบรนด์ระดับไฮเอนด์อื่นๆ ทั้งหมดถือเป็นการลดต้นทุนของธุรกิจทั้งนั้น

สอดคล้องกับ อเลสซานโดร เลสซี ชายวัย 53 ปี ซึ่งเคยทำงานเป็นพนักงานส่งของที่ Z Production ระบุว่า ตัวเขาเป็นชาวอิตาลีเพียงคนเดียวที่ทำงานในโรงงานแห่งนี้ และมีสัญญาจ้างงานปกติ ตัวเขาเลิกงาน 18.00 น. แต่แรงงานต่างชาติต้องทำงานนานกว่า และคนงานส่วนใหญ่มาจากจีน ปากีสถาน และบังกลาเทศ

หรือแม้แต่ อับบาส ชายวัย 32 ปี ตัวเขาไม่มีใบอนุญาตในการทำงาน แต่ได้ทำงานในโรงงานผลิตกระเป๋าและเครื่องหนังให้กับแบรนด์สินค้าหรู มีสัญญาจ้างงานแบบพาร์ตไทม์ มีรายได้ประมาณ 600-700 ยูโรต่อเดือน (หรือราวๆ 22,000-25,000 บาท) แต่ต้องยืนทำงานตลอด 14 ชั่วโมง ซึ่งก็เหมือนกับแรงงานข้ามชาติจากปากีสถาน อัฟกานิสถาน และจีน ประมาณ 50 คน และเมื่อทำงานมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์ พวกเขาแทบจะไม่มีเวลาออกไปช้อปปิ้ง หรือไม่มีเวลาซักผ้าเลยด้วยซ้ำ

เมื่อไม่นานมานี้ศาลในมิลาน ประเทศอิตาลี สั่งให้ควบคุม Giorgio Armani Operations และ Manufactures Dior ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มบริษัท Armani ของอิตาลีเป็นระยะเวลา 1 ปี หลังจากนั้นผู้พิพากษาจะตรวจสอบอีกครั้งว่าบริษัทเหล่านี้ได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแรงงานได้หรือไม่ และในช่วงเวลาเดียวกัน อัยการอิตาลีก็กำลังเดินหน้าสอบสวนห่วงโซ่อุปทานของแบรนด์แฟชั่นอีกประมาณ 10 กว่าแบรนด์

ในเดือนกรกฎาคม LVMH บริษัทแม่ของ Dior และ Giorgio Armani กล่าวว่า บริษัทมีแผนเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานการผลิตมากขึ้น ขณะที่แบรนด์ Dior ก็จะเข้ามาควบคุมการผลิตโดยตรงมากขึ้น

ทั้งหมดเป็นการรักษาจุดแข็งของ LVMH ที่เน้นผลิตสินค้าหายากและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนประสบความสำเร็จและช่วยผลักดันให้ LVMH กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

เมื่อย้อนกลับมาดูเอกสารของศาล ระบุว่า สภาพการทำงานที่ไม่ดีและค่าจ้างที่ต่ำ ทำให้ Pelletteria Elisabetta Yang ซึ่งเป็นผู้รับเหมาของ Dior เรียกเก็บเงินจาก Dior ได้เพียง 53 ยูโร หรือราวๆ 1,900 บาทต่อกระเป๋าหนึ่งใบ ในขณะที่ราคาขายปลีกกลับอยู่ที่ 2,600 ยูโร (หรือราวๆ 95,386 บาท) แต่ Dior ชี้แจงว่าตัดความสัมพันธ์กับผู้ผลิตรายนี้ไปแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นภายในห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าหรูซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอิตาลีนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก จากข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา Bain พบว่า แบรนด์โดยเฉลี่ยมีผู้ผลิตกว่า 7,000 ราย และถ้าผู้ผลิตแต่ละรายมีผู้ผลิตรายย่อยอีก 2 ราย ก็จะเป็นอีก 14,000 ราย แน่นอนว่ายิ่งเพิ่มความยากในการตรวจสอบและควบคุม

ด้าน อันโตนิโอ ฟรานเชสคินี จากกลุ่ม CNA Federmoda ของอิตาลี ซึ่งเป็นตัวแทนของช่างฝีมือและธุรกิจแฟชั่นขนาดเล็กกล่าวว่า ปัจจุบันสินค้าหรูแข่งขันกันอย่างรุนแรง แน่นอนว่าต้นทุนการจ้างพนักงานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมมักจะมีค่าใช้จ่ายตามมา แต่ในกรณีข้างต้นถือเป็นสัญญาณเตือนแบรนด์ใหญ่ๆ ให้ใส่ใจสิทธิมนุษยชนของแรงงานให้มากขึ้น

อ้างอิง:

• https://www.scmp.com/lifestyle/fashion-beauty/article/3279233/lvmhs-dior-giorgio-armani-other-luxury-brands-spotlight-over-workshop-conditions

The post เปิดโปงเรื่องฉาวโฉ่! วงการแฟชั่นหรู พบหลักฐาน Dior และ Giorgio Armani ใช้แรงงานผิดกฎหมายผลิตสินค้า appeared first on THE STANDARD.

Beauty Roundup ในรอบสัปดาห์นี้ ขอพาผู้อ่านไปส่องไอเท็มความงามล่าสุดที่ตอบรับเทรนด์บิวตี้ปี 2024 ที่มาแรงด้วยลุคอวดผิวเนียนสวยตลอดวัน กับเมกอัพที่สามารถสร้างลุคตั้งแต่แบบมินิมัลไปจนถึงลุคจัดเต็ม เราได้รวบรวมไอเท็มเด็ดที่เพิ่งวางจำหน่ายสดๆ ร้อนๆ ทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์ ถ้าพร้อมแล้วมาอัปเดตความงามไปพร้อมๆ กันเลย

Bobbi Brown

Bobbi Brown เปิดตัว Weightless Skin Foundation SPF15 PA++ รองพื้นสูตรใหม่ที่ควบคุมความมันและให้ความชุ่มชื้นต่อเนื่องนานถึง 24 ชั่วโมง พร้อม Tri-Moisture Complex ที่ช่วยบูสต์ความชุ่มชื้นแม้บริเวณผิวแห้ง มีให้เลือกถึง 17 เฉดสีสำหรับทุกสีผิว (2,500 บาท)

Gucci Beauty

Gucci Beauty เปิดตัวน้ำหอม Gucci Flora Gorgeous Orchid Eau de Parfum กลิ่นที่ 4 ในตระกูล #GucciFlora โดยมี Miley Cyrus เป็นพรีเซนเตอร์ น้ำหอมนี้เป็นกลิ่นโอโซนฟลอรัลกูร์มองด์ขวดแรกของ Gucci ออกแบบกลิ่นโดย Marie Salamagne

HOURGLASS

HOURGLASS เปิดตัว No.15 Blush Brush แปรงปัดแก้มหัวตัด เหมาะสำหรับใช้คู่กับบลัชออนเนื้อน้ำหรือเนื้อครีม ขนแปรงออกแบบให้ช่วยลงบลัชออนอย่างไร้ที่ติ ด้ามจับทำจากอะลูมิเนียม ช่วยให้แต่งหน้าได้อย่างเบาสบายและควบคุมการใช้งานอย่างแม่นยำ  

Balmain Hair

Balmain Hair เปิดตัวป๊อปอัพสโตร์ครั้งแรกในไทยที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และชูคอลเล็กชันพิเศษ Heritage 1974 น้ำหอมสำหรับเส้นผม เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี ไฮไลต์คือ 3 กลิ่นพิเศษ ได้แก่ Ginger 1974, Cardamom 1974 และ Vetiver 1974 ที่รังสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมชื่อดังชาวฝรั่งเศส Cécile Zarokian

Giorgio Armani

Giorgio Armani เปิดตัว Prisma Glass ลิปกลอสเนื้อบางเบาที่ให้ความแวววาวดุจกระจก และบำรุงริมฝีปากด้วยเทคโนโลยี Oil-In-Gloss ผสานส่วนผสมเพิ่มความแวววาว 62% และสควาเลน 15% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง มีให้เลือก 7 เฉดสี ตั้งแต่ใสไปจนถึงสีสันสดใส

ภาพ: Courtesy of Brands

The post Beauty Roundup อัปเดตบิวตี้ไอเท็มออกใหม่ในรอบสัปดาห์ appeared first on THE STANDARD.

ทุกครั้งที่แบรนด์น้ำหอมดังเปิดตัวน้ำหอมใหม่ ทั้งแฟนตัวยงและนักสะสมน้ำหอมต่างจับตามองและรอคอยด้วยความตื่นเต้น เพราะการเปิดตัวน้ำหอมใหม่แต่ละครั้งไม่ใช่แค่การสร้างสรรค์กลิ่นหอมธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวและจินตนาการผ่านศิลปะแห่งการปรุงน้ำหอม เพื่อมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าค้นหา โดยเฉพาะเมื่อเป็นการเปิดตัวน้ำหอมจาก Giorgio Armani ซึ่งมักสร้างความประหลาดใจให้แฟนๆ เสมอ 

และครั้งนี้ Giorgio Armani ออกแบบกลิ่นโดยนักปรุงน้ำหอมระดับมาสเตอร์ Carlos Benaïm นับว่ามีความโดดเด่นและแตกต่างจากน้ำหอมกลิ่นก่อนๆ ของ Giorgio Armani ได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอแนวคิดล้ำสมัย คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ หรือออกแบบขวดน้ำหอมเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับน้ำหอมขวดใหม่ My Way Nectar Eau De Parfum ซึ่งมี 5 มิติที่เราสรุปมาฝากผู้อ่าน ดังนี้ 

1. เป็นการผสมผสานระหว่างกลิ่นของดอกไม้และผลไม้แบบฟรุตตี้-ฟลอรัล สะท้อนแง่มุมใหม่ที่อ่อนเยาว์ สดใส และเปล่งประกายของ My Way ซึ่งแตกต่างไปจากน้ำหอมดอกไม้ในแบบฉบับเดิมของ Giorgio Armani 

2. ใช้นวัตกรรมใหม่ในการสกัดกลิ่นดอกส้มในน้ำมันสกัดจากผลส้มขม เพื่อช่วยเพิ่มความละมุน น่าเย้ายวน และสร้างความพิเศษให้กับกลิ่นหอม นับเป็นการต่อยอดจากกลิ่นดอกส้มในน้ำหอมก่อนหน้านี้

3. เลือกใช้ใบไวโอเล็ตเพื่อช่วยเพิ่มความเข้มข้นของโน้ตดอกไม้ให้มีความชุ่มฉ่ำขึ้น และสร้างลูกเล่นใหม่ที่น่าสัมผัสให้กับกลิ่นกลางของน้ำหอม

4. ผสมผสานเบสโน้ตของไวต์วูดและไม้ซีดาร์ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวลที่แตกต่างไปจากโน้ตพื้นฐานที่มักใช้วานิลลาและมัสก์เพียงอย่างเดียว ทำให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายยิ่งขึ้น

5. คัดสรรส่วนผสมที่มีคุณภาพจากแหล่งที่มาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นดอกส้มจากอียิปต์ ดอกซ่อนกลิ่นจากอินเดีย หรือวานิลลาจากมาดากัสการ์ ที่ผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถัน เพื่อรักษาคุณภาพที่ดีที่สุดของกลิ่นหอม

นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่มาพร้อมสีชมพูหวาน ซึ่งแตกต่างจากโทนสีเดิมๆ ก็ช่วยสื่อถึงความสดใสและอ่อนเยาว์ที่สอดคล้องกับกลิ่นหอม ทำให้ My Way Nectar Eau De Parfum โดดเด่นและน่าค้นหายิ่งขึ้น 

จะเห็นได้ว่ามิติใหม่ของน้ำหอมจาก Giorgio Armani ในครั้งนี้มีการผสมผสานนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เข้ากับกลิ่นหอมคุณภาพเยี่ยมเป็นอย่างดี ทำให้ได้น้ำหอมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น น่าค้นหา แต่ยังคงไว้ซึ่งแก่นแท้ของความเป็น My Way อย่างลงตัว จึงน่าจะเป็นที่ถูกใจของแฟนๆ น้ำหอมจาก Giorgio Armani เป็นอย่างมาก

ภาพ: Giorgio Armani

The post เปิด 5 มิติการคิดใหม่ทำใหม่ของน้ำหอม Giorgio Armani ขวดล่าสุด appeared first on THE STANDARD.

Giorgio Armani ประกาศแต่งตั้ง Jackson Wang ศิลปิน นักแสดง และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ขึ้นแท่นเป็น Armani Global Fragrance Ambassador คนใหม่ล่าสุด ต่อจากการดำรงตำแหน่งเป็น Fragrance Ambassador ของ Armani Beauty ประเทศจีน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2019 และขยายบทบาทไปยังภูมิภาคเอเชียตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021

ในฐานะ Global Fragrance Ambassador ในครั้งนี้ Jackson Wang จะเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่นำเสนอแคมเปญใหม่ของ Armani รุ่น Privé Haute Couture Fragrance กลิ่น SANTAL DĀN SHĀ ซึ่งเป็นน้ำหอมจากคอลเล็กชัน Les Eaux ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชวังในปักกิ่ง และมีกลิ่นหอมน่าหลงใหล

ตั้งแต่ปี 2004 แบรนด์ Giorgio Armani ได้ตีความคอลเล็กชันเสื้อผ้า Haute Couture ของ Mr. Armani เป็นกลิ่นน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งปรุงแต่งด้วยส่วนผสมหลากหลายเพื่อสร้างน้ำหอมที่สมบูรณ์แบบ Armani/Privé ประกอบไปด้วยคอลเล็กชัน Les Eaux, La Collection, Les Terres Précieuses และ Les Mille et Une Nuits ซึ่งกลายเป็นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกในเวลาต่อมา

สรุปผลงานของ Jackson Wang ในปี 2022-2023:

• ปี 2022 Jackson Wang ศิลปิน นักแสดง และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ได้เปิดตัวอัลบั้ม MAGIC MAN ที่ติดชาร์ตอันดับ 15 ใน Billboard 200 และอันดับ 3 ใน Billboard’s Top Album Sales Chart
• เดือนพฤศจิกายน 2022 เขาได้ร้องเพลง Fire to the Fuse ในงานเปิด League of Legends World Championship ที่ขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard’s Hot Trending Song Chart
• ในปีเดียวกัน จัดทัวร์คอนเสิร์ต MAGIC MAN WORLD TOUR ในเอเชียและยุโรป
• เดือนเมษายน 2023 เป็นศิลปินสัญชาติจีนคนแรกที่แสดงในงาน Coachella และเริ่ม MAGIC MAN WORLD TOUR จากอเมริกาเหนือถึงอเมริกาใต้
• เดือนกันยายน 2023 แสดงเปิดในงาน Formula 1 Singapore Grand Prix

ภาพ: Giorgio Armani

The post Giorgio Armani ประกาศแต่งตั้ง Jackson Wang เป็น Global Fragrance Ambassador คนใหม่ appeared first on THE STANDARD.

Regé-Jean Page นักแสดงชาวอังกฤษ ขึ้นแท่นเป็น New Face of Armani Code

โดย Regé-Jean Page นักแสดงชาวอังกฤษ จะมาสะท้อนและถ่ายทอดความเป็นชายยุคใหม่ของน้ำหอม Armani Code แบบยกระดับยิ่งขึ้น ถ้าพูดถึงความเป็นชาย ณ เวลานี้ไม่ใช่ความแข็งกระด้างอีกต่อไป แต่ความเป็นชายคือความแข็งแกร่งในแบบที่ไม่มุ่งทำลาย นี่คือนิยามความเป็นชายของ Regé-Jean Page ที่ตอบโจทย์ทั้งความสง่างาม ความสมดุล และความละเอียดลออ 

สำหรับ Giorgio Armani มีแนวคิดว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่เพียงทำให้สามารถเรียนรู้ความสามารถและตัวตนของเราได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เราเรียนรู้โลกที่เราอาศัยอยู่และตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่พร้อมเกิดขึ้นรอบตัวเราอย่างไม่รู้จบอีกด้วย เช่นเดียวกับน้ำหอม Armani Code ที่มาในนิยามใหม่ โดยพร้อมเผชิญหน้ากับอนาคต ความน่าสนใจอยู่ที่ Regé-Jean Page เป็นนักแสดงชายที่ได้รับการเสนอให้อยู่ในรายชื่อ TIME100 Next ประจำปี 2021 ของนิตยสาร TIME ให้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของอนาคต 

ในมุมมองของ Giorgio Armani จึงมองว่า Regé-Jean Page สืบค้นและนิยามความหมายของความอ่อนโยนและลึกซึ้งของบุรุษที่ว่าคือความไม่โอ้อวดหรือชิงดีชิงเด่น ณ เวลานี้ ผมถือว่าเขาเป็นตัวแทนของความเจริญทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เขาจะเชื่อมโยงกับความเป็นบุรุษร่วมสมัย สามารถนิยามความเป็นตัวตนของตัวเอง และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง Armani Code จึงเป็นบทนิยามใหม่แห่งความทันสมัยในโลกน้ำหอมสำหรับสุภาพบุรุษของ Giorgio Armani ซึ่งน้ำหอม Armani Code ที่ถ่ายทอดโดย Regé-Jean Page มีความโดดเด่นของท็อปโน้ตจาก Vert de Bergamot และกลิ่นมะกรูดที่มีแหล่งที่มาจากคาลาเบรีย ประเทศอิตาลี ที่มอบทั้งความสดชื่นและความเขียวขจีของมะกรูดได้อย่างยาวนาน ช่วยยกระดับกลิ่นหอม มอบสัมผัสที่ส่งพลังและการเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดนิ่ง ผสานกับมิติความหอมของคลารีเสจจากโพรวองซ์ ดินแดนตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่ช่วยเบลนเข้ากับความหอมของกลิ่นไอริสที่รังสรรค์ขึ้นจากธรรมชาติและเทคโนโลยีเรซินอยด์ไอริสจากโมร็อกโก และอัลดีไฮด์ไอริสที่เกิดจากการสังเคราะห์ ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Armani Code สะท้อนการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างส่วนผสมจากธรรมชาติและส่วนผสมสังเคราะห์ที่ล้วนดึงสิ่งที่ดีที่สุดของกันและกันออกมา หนุ่มคนไหนที่ชอบกลิ่นแนวนี้ไม่ควรพลาด 

ภาพ: Giorgio Armani

The post Regé-Jean Page นักแสดงชาวอังกฤษ ขึ้นแท่นเป็น New Face of Armani Code appeared first on THE STANDARD.

Giorgio Armani เปิดตัว Jackson Wang ขึ้นแท่นเป็น Giorgio Armani Fragrance Ambassador for Asia-Pacific โดยประเดิมภาพแคมเปญแรกด้วยการโปรโมตน้ำหอม Santal Dān Shā ที่สร้างสรรค์โดย Fabrice Pellegrin แห่ง Firmenich และด้วย 3 ส่วนผสมหลักที่ถูกดีไซน์อย่างประณีต ทำให้ Santal Dān Shā มีความลงตัวที่สุด และ Jackson Wang ก็พรีเซนต์เสน่ห์ผ่านภาพที่ดึงดูดและเปี่ยมไปด้วยความเย้ายวนอย่างสงบและสุขุมได้เป็นอย่างดี

สำหรับน้ำหอม Santal Dān Shā เริ่มด้วยกลิ่นหลักของไม้จันทน์หอม (Sandalwood) จากนิวแคลิโดเนีย เน้นความครีมมี่และเย้ายวนของกลิ่นจากผิวไม้ โดยการลดสัดส่วนของหัวน้ำหอมและเพิ่มความเป็นกลิ่นหนังเข้ามา การกลั่นน้ำหอมด้วยไอน้ำที่เป็นกรรมวิธีพิเศษเฉพาะ ช่วยเผยเอกลักษณ์แห่งกลิ่นเย้ายวนและล้ำลึกของเปลือกไม้ ตามมาด้วยกลิ่นของกระวาน (Cardamom Heart) จากกัวเตมาลา เผยกลิ่นที่อบอุ่น เปล่งประกาย มีความเป็นเครื่องเทศ บัลซามิก และพริกไทย ช่วยให้สัมผัสกับความสดชื่นที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับกลิ่นชา กรรมวิธีการกลั่นน้ำหอมด้วยไอน้ำและการแยกคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ทำให้ได้น้ำมันหอมระเหยจากกระวานที่มีความบริสุทธิ์สูง

ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมสดชื่นที่มีความพิถีพิถันจากกลิ่นมะกรูดซิตรัส (Bergamot Heart) อันซับซ้อนและละเอียดอ่อนจากอิตาลี ที่แฝงเร้นมาด้วยกลิ่นหอมหวนจากผลไม้ เผยความสดชื่น ชุ่มฉ่ำ และเปล่งประกาย ซึ่งน้ำหอมที่อยู่ในกลุ่มนี้ล้วนเป็นน้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงจำ ประสบการณ์ และความประทับใจของ Armani ทำให้ขวดน้ำหอมสื่อถึงความหรูหราที่มาจากความเลอค่าของแฟชั่นโอต์กูตูร์ของ Armani นั่นเอง

ภาพ: Giorgio Armani

The post Jackson Wang ขึ้นแท่นเป็น Giorgio Armani Fragrance Ambassador for Asia-Pacific appeared first on THE STANDARD.

ณ บริเวณ One Avenue Mall ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้กลายเป็นที่ตั้งของร้านแฟลกชิปสโตร์สุดอลังการแห่งใหม่ของแบรนด์ Armani Beauty ซึ่งมีการรวมเอาเทคโนโลยีขั้นสูงมารวมไว้ที่ร้านแห่งนี้ โดยมีคอนเซปต์ในการสะท้อนภาพลักษณ์ที่แสดงถึงความสามัคคีและการใส่ใจเรื่องความงามเข้าด้วยกัน ซึ่ง Véronique Gautier ประธานระดับโลกด้านความงามของแบรนด์ Armani Beauty ได้กล่าวว่าหัวใจสำคัญของแบรนด์คือความซับซ้อนตามธรรมชาติของแบรนด์ Armani Beauty จะช่วยให้หลายๆ คนได้แสดงความงามของตัวเองออกมาจากภายใน ซึ่งการมาปักหมุดเรือธงแห่งใหม่ที่ประเทศจีนในครั้งนี้ แบรนด์ต้องการนำเสนอแนวคิดและวิธีใหม่ๆ มากมาย เพื่อให้ผู้คนสามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอกในชีวิตประจำวัน เพื่อมาเชื่อมต่อกับตัวเองอีกครั้ง ภายใต้แนวคิดที่อยากให้พวกเขาสามาถค้นหาพลังงานของตนเอง สร้างสมดุลระหว่างภายในและภายนอกได้อย่างกลมกลืนกับโลกใบนี้

การที่แบรนด์ Armani Beauty เลือกเมืองเซินเจิ้นเป็นร้านค้าแห่งใหม่ เนื่องจากที่เมืองแห่งนี้โดดเด่นเพราะได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงด้านเทคโนโลยีของจีน นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่ร่ำรวย มีกำลังซื้อ ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะเปิดตัวประสบการณ์การค้าปลีกแบบใหม่ที่นั่น ซึ่งจะมอบประสบการณ์ในการช้อปปิ้งสินค้าความงามของแบรนด์กึ่งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งเป็นการเดินทางแบบไร้รอยต่อ เพราะจะมีเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกมากมาย มีเคาน์เตอร์ Red River เปรียบดั่งสายพานความงามที่เรียงรายด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เลือกสรรอย่างจุใจ ทั้งน้ำหอม สกินแคร์ และเครื่องสำอางชิ้นเด็ดต่างๆ และยังมี Precision Lab ที่ช่วยโฟกัสเรื่องการดูแลผิว และเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่เข้ามาสามารถรับคำปรึกษาเป็นรายบุคคล ทั้งยังสามารถทดลองนวดหน้าได้ด้วยเช่นกัน 

ภาพ: Courtesy of Armani Beauty

อ้างอิง:

• https://wwd.com/beauty-industry-news/beauty-features/armani-beauty-global-flagship-china-1235450562/ 

The post Armani Beauty ปักหมุดแฟลกชิปสโตร์ขนาดใหญ่ในเซินเจิ้น ประเทศจีน appeared first on THE STANDARD.

THE STANDARD POP มีโอกาสได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการดูแลตัวเองทั้งด้านสุขภาพกาย ผิวพรรณ และเรื่องสุขภาพใจ กับหนุ่มนักแสดง เอิร์ท-พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ เขาคนนี้ผ่านผลงานการแสดงมาแล้วหลากหลายเรื่อง อาทิ บท หวาย ในภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์เรื่อง Water Boyy the Series, บท โซ่ จากภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง และที่ทำให้เขาโด่งดังสุดๆ กับบท ภูผา จากภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์เรื่อง นิทานพันดาว, ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์เรื่อง พินัยกรรมกามเทพ และปัจจุบันกับผลงานล่าสุด Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ ที่เขาเพิ่งถ่ายทำเสร็จ นอกจากนี้ยังมีงานมีตติ้งพบปะแฟนคลับอีก เห็นตารางงานแน่นขนาดนี้ แต่เอิร์ทยังคงดูดีตลอดเวลา ใครที่อยากรู้เคล็ดลับการดูแลสุขภาพในแบบของเขา ก็อ่านบทสัมภาษณ์เหล่านี้ได้เลย 

ความสนใจในวงการบันเทิงตอนแรก = 0 

ต้องบอกว่าก่อนเข้าวงการเป็นนักแสดง ผมไม่สนใจวงการบันเทิงเลย เพราะส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพที่น่าจะต้องทำงานท่ามกลางคนเยอะๆ หรือว่ามีกล้องหลายตัวที่กำลังจับภาพเราอยู่ ผมจะรู้สึกแพนิก ไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็จะตื่นเต้นง่ายเลยไม่ค่อยชอบครับ แต่พอเติบโตขึ้น ก็เริ่มอยากมีรายได้ของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งครอบครัว พอมีโอกาสให้ไปเล่นซีรีส์ผมก็ตัดสินใจลองดู แล้วก็ค้นพบว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ และสนุกดีที่ได้ทำงานตรงนี้ 

การดูแลตัวเองเน้นออกกำลังกาย

โชคดีที่ผมชอบออกกำลังกายอยู่แล้วตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการ ผมออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งว่ายน้ำ เข้าฟิตเนสทุกวัน บางวันก็เข้าสองรอบเลยทั้งฟิตเนสในมหาวิทยาลัย และฟิตเนสประจำด้วย สไตล์การออกกำลังกายที่ผมชอบจะมีทั้ง Body Weight และยก Weight ที่เป็นลูกน้ำหนัก สำหรับปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักของผมไม่มีเลยนะครับที่ต้องลดน้ำหนักอะไรอย่างนี้ ของผมมีแต่ให้เพิ่มน้ำหนักขึ้นเพื่อการทำงาน เพราะรูปร่างผมค่อนข้างบาง ผมจึงเน้นเล่น Weight เพื่อทำให้รูปร่างดูหนาและเฟิร์มขึ้น เวลาใส่เสื้อผ้าจะได้ดูดีครับ

อาชีพนักแสดงทำให้หันมาใส่ใจผิวพรรณมากขึ้น

เรื่องผิวต้องดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษครับ เพราะเมื่อเข้าวงการแล้ว เราต้องแต่งหน้าทุกวันในการทำงาน ผมก็อยากให้ดูดี ดูสุขภาพดีไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ หรือว่าเรื่องรูปร่างก็ตาม ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผมไม่ทิ้งการออกกำลังกาย และต้องหมั่นดูแลผิวให้ดี เพราะปัญหาผิวที่ผมเจอบ่อยเมื่อทำงานหนักๆ คือผิวแห้งกร้านครับ ผมก็ต้องเน้นบำรุงสุดๆ ไม่ว่าจะผิวหน้าหรือผิวกาย อย่างผิวกายนี่หลังอาบน้ำผมจะลงบอดี้โลชั่นเยอะมากๆ ถ้าผมไม่ได้ทาครีม ผมจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง มันไม่สบายตัว ผิวตัวจะดูแห้งๆ ทำให้ผมนอนไม่หลับ ส่วนผิวหน้าก็จะมีสเต็ปในการดูแล คือหลังล้างหน้าเสร็จ ผมจะลงเซรั่ม แล้วตามด้วยไนต์ครีม ถ้าเป็นตอนเช้าหลังลงเซรั่มก็จะเป็นกันแดด และจะต้องมีการสครับผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวบ้างเดือนละครั้ง เหตุผลที่ผมไม่สครับบ่อย เพราะทำให้สิวขึ้นง่าย ส่วนผิวกายก็ทาบอดี้โลชั่นปกติ แต่ผมจะค่อยข้างทาเยอะหน่อย ทาทุกวัน 

เมนูเพื่อสุขภาพในแบบของเอิร์ท

ผมมีเมนูโปรดครับ สัปดาห์ไหนที่เรามีแพลนจะตั้งใจเล่นฟิตเนสให้อยู่ใน Schedule ที่เราวางไว้ ผมจะเลือกกินอาหารที่เน้นโปรตีนเยอะๆ และผักผลไม้เยอะๆ อัดๆ ไปเลย ผมจะไม่กินไขมันสัตว์ ไขมันที่ไม่ดี ไม่กินไขมันทรานส์อะไรพวกนี้ แต่ถ้าวันไหนที่ไปทำงานออกกองแล้วเลี่ยงเรื่องอาหารไม่ได้ ผมก็จะกินตามที่เขามี แค่พยายามเลือกกินสิ่งที่ดีต่อร่างกาย อะไรที่ไขมันเยอะๆ ที่ไม่มีประโยชน์ก็จะไม่กิน ซึ่งเรื่องโภชนาการต่างๆ เหล่านี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว และรู้ว่าควรจะกินอะไรที่ดีต่อสุขภาพ เป็นเมนูที่เหมาะกับคนออกกำลังกาย ซึ่งแต่ก่อนจะคิดเอง แต่ตอนนี้ไม่ไหวครับ เพราะรู้สึกว่าพองานเยอะ ผมจัดตารางการเล่นฟิตเนสได้ไม่ดี ผมเลยเพิ่งมีเทรนเนอร์ส่วนตัว ให้เขาช่วยในเรื่องการจัดตารางฟิตเนสในการออกกำลังกาย และช่วยจัดตารางการกินให้เราครับ 

เรื่องสุขภาพใจก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย

ผมทำงานทุกวันเลยก็จริง แต่ผมเป็นคนที่พยายามหาเวลาว่างให้ตัวเองอยู่เสมอ เพื่อจะพักผ่อน เพราะตอนนี้เรื่องการพักผ่อนให้เพียงพอคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้เลย เพราะการทำงานในวงการบันเทิง เราควบคุมเวลาไม่ได้ มันไม่แน่นอน แต่ถ้าวันไหนได้หยุด ผมจะไม่ออกไปไหนเลย ผมจะพักผ่อนอยู่บ้าน นอนให้เต็มอิ่ม แต่ถ้าได้หยุดสองวัน ผมจะเลือกวันหนึ่งพักผ่อน และอีกวันหนึ่งก็ออกไปข้างนอกบ้าง ไปนั่งชิล ไปดื่มกาแฟ ไปพบปะพูดคุยกับเพื่อน และใช้ชีวิตกับคนรอบข้างมากขึ้น

ดูแลตัวเองดีทั้งผิวพรรณและรูปร่าง จนได้ร่วมงานกับ Giorgio Armani 

ผมบอกเลยว่าผมดีใจมาก ดีใจจริงๆ ตอนแรกยังไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าผมได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Giorgio Armani เพราะผมเป็นแฟนตัวยงของเขาอยู่แล้ว และใช้น้ำหอมบางตัวของเขาอยู่แล้วตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย พอผมเป็นคนที่ถูกเลือกให้ร่วมงานด้วยก็ตื่นเต้นมากๆ ผลงานชิ้นนี้จึงตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด ผมโชคดีด้วยที่ได้ร่วมงานกับทั้งแบรนด์ Giorgio Armani ระดับโลก และได้ร่วมงานกับทีมงานมืออาชีพ ทำให้การทำงานผ่านไปอย่างราบรื่น และผมก็ชื่นชอบน้ำหอมของเขาจริงๆ 

ผมใช้เกือบจะหมดแล้ว ตอนนี้เรียกว่าผมติดกลิ่นหอมของ Giorgio Armani Si Si Passione EDP ไปแล้ว ผมดมครั้งแรกมันไม่ได้หวานจ๋า ถ้าเปรียบเป็นผู้หญิง ผมนึกภาพผู้หญิงที่กระฉับกระเฉง เป็นผู้หญิงเก่งที่ทำงานดีไซน์ มีความครีเอทีฟ ซึ่งเป็นน้ำหอมที่ผู้ชายก็สามารถใช้ได้ เป็น Unisex เวลาผมฉีดออกไปทำงานคนจะถามทุกครั้งว่าฉีดน้ำหอมของอะไร เป็นน้ำหอมที่หอมติดทนนานมากด้วยครับ 

ฝากถึงผู้อ่าน THE STANDARD POP และแฟนคลับที่ติดตามผลงาน

ผมอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้ดีนะครับ สิ่งที่สำคัญอันดับแรกในความคิดของผมคือการดูแลสุขภาพใจ เราควรหาเวลาว่างให้ตัวเองให้ได้ ถ้าใครที่ทำงานหนักๆ ผมอยากให้หาเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองรักบ้าง มันจะช่วยให้เรามีพลังในการใช้ชีวิตต่อไป ส่วนด้านร่างกายก็อยากให้ทุกคนตรวจเช็กสุขภาพประจำปี และออกกำลังกายเป็นประจำนะครับ กินอาหารดี มีประโยชน์ ก็อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพครับ เพราะร่างกายของเรา เราใช้งานเขาหนักโดยไม่คำนึงว่าเขาต้องพักผ่อน ต้อง Recovery เพื่อจะได้คงความแข็งแรง และมีพลังในการใช้ชีวิตต่อไป หันมาดูแลสุขภาพกันนะครับ

The post เปิดเคล็บลับดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจในแบบของ เอิร์ท-พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ appeared first on THE STANDARD.

สุดสัปดาห์แบบนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะชวนผู้อ่านไปสำรวจเคล็ดลับการดูแลตัวเอง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนอยากลุกขึ้นมาทำอะไรดีๆ เพื่อตัวเองในวันหยุดสุดสัปดาห์บ้าง THE STANDARD POP มีโอกาสได้พูดคุยกับนักแสดงดาวรุ่งอย่าง เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ ที่กำลังจะบินไปร่วมงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศญี่ปุ่นกับแฟนๆ ที่นั่น ด้วยความฮอตขนาดนี้ เราจึงไม่พลาดที่จะชวนเขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง Self-Care สำหรับแฟนๆ ที่อยากรู้ว่าหนุ่มหน้าใสคนนี้เขามีไลฟ์สไตล์ในการรักษาสุขภาพอย่างไรให้แข็งแรง แนวทางการออกกำลังกายในแบบที่เขาชอบ รวมไปถึงน้ำหอมกลิ่นโปรดที่เขาขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน

คำจำกัดความของเก้า นพเก้า “ผมเป็นคนเซอร์ๆ ลุยๆ” 

ผมเป็นคนเซอร์ๆ ลุยๆ ครับ กิจกรรมที่ชอบคือการออกกำลังกาย เดินป่า ทุกอย่างที่เป็นกิจกรรมลุยๆ ผมชอบหมดเลย ผมไม่ใช่คนเจ้าสำอางอะไรเลย ก่อนเข้าวงการผมไม่เคยสนใจเรื่องการดูแลผิวหน้าหรือผิวตัวมาก่อน ด้วยความที่เป็นคนชอบเล่นกีฬา ชอบผจญภัย เลยไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ ที่บ้านผมไม่มีครีมเลยนะ ทุกวันนี้ผมได้ทาครีมหรือกันแดดก็ตอนที่พี่ๆ ช่างแต่งหน้าทาให้ก่อนแต่งหน้า 

พอเข้ามาวงการบันเทิง ทำอาชีพนี้ ว่ากันตามตรงมันก็คงต้องดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ผมให้ความสำคัญเรื่องออกกำลังกายมากนะครับ แต่ว่าหลังๆ มานี้ผมไม่ค่อยมีเวลาได้ออกไปเตะบอลกับเพื่อนๆ เหมือนช่วงก่อนเข้าวงการเลย เพราะเวลาไม่ค่อยมี แต่ผมก็พยายามหาเวลาออกกำลังกาย ช่วงไหนที่ตารางงานไม่ถี่มากก็จะต้องกลับไปเตะบอล ส่วนเรื่องการดูแลตัวเองด้านอื่นๆ ก็จะมีพี่ๆ คอยแนะนำ เช่น แนะนำคลินิก ซึ่งผมก็ไปบ้างครับ ล่าสุดตอนนี้ก็กำลังจัดฟันอยู่ แค่นี้เลย (หัวเราะ) 

การดูแลรูปร่างในแบบของเก้า นพเก้า 

เอาจริงๆ เมื่อก่อนผมมีน้ำหนักที่เยอะกว่านี้มาก เพราะออกกำลังกาย เตะบอลเป็นประจำ และพอเตะบอลเยอะมันก็กินเยอะตาม แต่ว่ามันก็ไม่ได้ถึงกับอ้วนหรือตัวใหญ่ มันอาจจะมี Baby Fat ตามอายุบ้าง ทำให้ช่วงนั้นหน้าผมจะกลมๆ หน่อย แต่ว่าพอเริ่มอายุมากขึ้น ผมจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองแล้วว่ารูปหน้ามันชัดขึ้น แต่ไม่ได้มีอะไรที่กังวลมาก ส่วนเรื่องรูปร่าง ผมจะโดนสั่งให้เพิ่มน้ำหนักทุกวันเลยครับ (หัวเราะ) คนอื่นอาจจะถูกบอกให้ลดน้ำหนักบ้าง แต่ของผมเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้น เพื่อให้ลุคและรูปร่างดูเหมาะสมกับงาน แต่ละงานที่ได้รับ เขาก็อยากให้เราดูเป็นผู้ชายที่มาดแมน ดูแข็งแรง อะไรอย่างนี้ครับ แต่ตัวผมการเพิ่มน้ำหนักด้วยการกินมันยากอยู่นะ พอผมทำงานหนักมากๆ ผมจะกินไม่ลง ยิ่งวันไหนที่เจอพี่ๆ แฟนคลับเขาก็จะบอกว่า “ผอมลงอีกแล้วนะ” 

อาหารของเก้า นพเก้า เน้นโปรตีนเยอะๆ 

ถ้าถามว่าผมเป็นคนที่กินอาหารสายเฮลตี้ไหม? ผมตอบเลยว่าไม่ใช่ครับ (หัวเราะ) แต่โดยมากผมจะเน้นกินอาหารที่มีโปรตีน มีเนื้อสัตว์ มากกว่าข้าวหรือแป้ง เมนูโปรดของผมคือก๋วยเตี๋ยวครับ ผมชอบกินของร้อนๆ เป็นน้ำซุปที่ซดร้อนๆ รู้สึกว่าถูกปาก กินง่าย และอร่อยด้วย 

ประสบการณ์ร่วมงานกับ Giorgio Armani ครั้งแรก 

รู้สึกดีใจมากๆ เลยครับ จำได้ว่าตอนที่แบรนด์ติดต่อมายังไม่อยากเชื่อเลย แล้วก็เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกๆ ของไทยด้วย เลยยิ่งดีใจครับ ผมบอกเลยว่าแบรนด์ Giorgio Armani เป็นแบรนด์ที่ผมรู้จักมานานมาก เวลาจะซื้อของขวัญให้คุณพ่อสักชิ้น Giorgio Armani จะเป็นแบรนด์แรกที่ผมนึกถึง พอตอนได้ร่วมงานกับแบรนด์นี้ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ผมดีใจมากจนต้องรีบโทรไปบอกให้พ่อฟัง หลังจากได้ทำงานกับแบรนด์ ได้รู้จักกับน้ำหอมของแบรนด์ ผมก็กลายเป็นใช้น้ำหอมของเขาตลอดเลยจนถึงทุกวันนี้

อะไรคือเสน่ห์ของน้ำหอม Giorgio Armani หลังจากได้ใช้ในชีวิตประจำวัน

แต่ก่อนผมเป็นคนไม่ใช้น้ำหอมเลย ออกจะมั่นใจในตัวเองมากด้วยซ้ำว่าผมเป็นคนไม่มีกลิ่นตัว จะเหงื่อออกแค่ไหน จะเตะบอลทั้งวันอย่างไร ผมก็รู้สึกว่าผมไม่มีกลิ่นตัวเลยนะ อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นยังเด็กและไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเครื่องสำอางหรือน้ำหอมมาก่อน แต่พอได้ใช้น้ำหอม Si Passione Eclat de Parfum ตั้งแต่ทำงานด้านนี้ ผมก็รู้สึกได้เลยว่าการใช้น้ำหอมมันคือการเพิ่มความมั่นใจเวลาออกไปเจอผู้คน ออกไปทำงานเจอลูกค้า แม้ว่าเราจะมั่นใจว่าเราไม่มีกลิ่นตัว แต่น้ำหอมคือตัวเสริมที่ยิ่งทำให้มีเสน่ห์มากขึ้นอีก ผมชอบที่ Si Passione Eclat de Parfum เป็นน้ำหอมที่กลิ่นหวานในแบบที่ผู้ชายก็ใช้ได้ และแมตช์เข้ากับการแต่งตัวได้หลากหลายลุคดีครับ 

ปิดท้ายด้วย Morning Tip เพื่อการมีสุขภาพดีในแบบของเก้า นพเก้า

ช่วงนี้ผมชอบสิ่งนี้มากเลย มันอาจจะดูเหมือนคนแก่นะ แต่ผมชอบมากๆ เลย มันคือการยืดเหยียดร่างกายในตอนเช้าหลังตื่นนอนครับ มันดีมากจริงๆ นะครับ มันจะมีท่าของผมคือก่อนเวลาลุกมา ผมจะคุกเข่า ก้มหน้า และเหยียดแขนตรงวางบนที่นอนแล้วก้มให้แผ่นหลังและแขนตึงที่สุด ค้างไว้ แล้วทำซ้ำ มันจะช่วยให้ร่างกายได้ยืดผ่อนคลาย บางท่าก็จะเงยหน้าให้หลังแอ่นตึง มันสบายมากๆ เลยครับ ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าก่อนหน้านี้ผมทำงานเยอะ บางวันยืนทั้งวัน แล้วมันปวดหลังมากๆ จนไม่มีแรงจะทำอะไรต่อ พอกลับมาบ้านคือปวดหลังมากจนรู้สึกไม่มีความสุข แล้วผมก็ไปค้นเจอวิธีนี้มาจากเว็บไซต์หนึ่ง เขาบอกให้ทำแบบนี้แล้วผมก็ลองทำดู ปรากฏว่าตั้งแต่ทำการยืดเหยียดหลังตื่นนอนเป็นประจำ ผมไม่มีปัญหาปวดหลังอีกเลย ทุกวันนี้เวลาทำงานหลายวันติดๆ กันก็ไม่ปวดหลังเลยครับ 

ภาพ: numberx9th / Instagram 

The post ชวน เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ คุยเรื่อง Self-Care และน้ำหอมกลิ่นโปรด appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่ อแมนด้า ออบดัม เฉิดฉายและทำผลงานได้ดีที่สุดจากการผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายของเวทีการประกวด Miss Universe 2020 ซึ่งเป็นครั้งที่ 69 ณ Seminole Hard Rock Hotel & Casino Hollywood รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ชื่อของผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคยหายไปจากพื้นที่สื่อรวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ เพราะเธอคือหนึ่งในผู้หญิงที่มีพลังบวกอันล้นเหลือ และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่เป็นแบบอย่างให้กับนางงามรุ่นน้อง รวมถึงการเคลื่อนไหวอย่างมีอุดมการณ์ทางสังคม และที่สำคัญเธอเป็นหนึ่งในคนที่เชิดชูนิยามของความงามแบบ Beautifully Confident ที่เชื่อว่า คนที่มีความมั่นใจจากภายในว่า “ฉันเองนี่แหละสวย” โดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอก นี่แหละคือคนที่สวยที่สุดในมุมมองของเธอ

ซึ่ง THE STANDARD POP มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้หญิงที่ทั้งสวย เก่ง และมีมายด์เซ็ตยอดเยี่ยมในทุกมิติของความงาม ที่พร้อมจะส่งต่อพลังบวกดีๆ ให้กับทุกคนได้กล้าที่จะมั่นใจในความสวยที่เป็นตัวของตัวเอง 

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังเป็นเด็กหญิงอแมนด้า 

อแมนด้า: ตอนเป็นเด็ก ด้าเติบโตมาด้วยการเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะรักสวยรักงามเท่าไรเลยค่ะ อาจเป็นเพราะว่าด้าเติบโตมาบนเกาะภูเก็ตที่ล้อมรอบด้วยทะเลและธรรมชาติ ด้าก็เลยไม่ได้ไปเดินห้างสรรพสินค้า ไม่ใช่เด็กที่รักสวยรักงาม แต่จะเป็นเด็กผู้หญิงที่ชอบทะเล ชอบออกไปเที่ยวกลางแจ้ง ไปเดินบนเขา เข้าป่า อะไรทำนองนี้ค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ด้าชอบมากกว่าการเข้าเมือง กว่าจะเริ่มรู้จักเครื่องสำอางและเริ่มใช้เป็นก็ตอนอายุประมาณ 15-16 ปีเลย เป็นวัยเรียน ซึ่งเครื่องสำอางที่ซื้อเองชิ้นแรกก็หนีไม่พ้นลิปสติก เพราะตอนนั้นตัวเองยังไม่มีทักษะการแต่งหน้า เลยยังไม่ซื้อดินสอเขียนคิ้ว จะใช้เป็นแค่ลิปสติกหรือลิปทินต์นิดหน่อย 

Beauty ในมุมมองของอแมนด้า

อแมนด้า: มันคือความมั่นใจค่ะ เพราะด้าเองถ้าย้อนไปตอนเด็กๆ ก็จะเติบโตมากับค่านิยม Beauty Standard ของประเทศไทย ก็ต้องเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ผมยาว ผิวขาว ทำนองนี้ แต่พอเราเริ่มโตขึ้นมา ได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น ก็รู้เลยว่า Standard ด้านความงามของแต่ละประเทศไม่เหมือนกันหรอกนะ ถ้ายกตัวอย่างที่ด้าเห็นชัดเจนคือ ตอนไปประกวด Miss Universe 2020 ซึ่งเวทีนี้เขาจะคัดเลือกผู้หญิงที่สวยที่สุดของแต่ละประเทศมาประกวดกัน แล้วพอสาวๆ จากประเทศต่างๆ มาอยู่รวมกัน เราได้เห็นความแตกต่างชัดเจนเลยว่าทุกคนล้วนมีความงามในแบบฉบับของตัวเอง บางคนผิวขาว บางคนผิวแทน บางคนผิวสี ซึ่งความสวยเหล่านี้มันไม่จำเป็นจะต้องจำกัดว่าต้องเป็นแบบโน้นหรือแบบนี้ถึงจะสวย เพราะ Beauty สำหรับด้ามันมาจากข้างในมากกว่า โดยเฉพาะความมั่นใจ 

สำหรับอแมนด้า อะไรคือ Beautifully Confident ที่เป็นสโลแกนเปลี่ยนใหม่ของกองประกวด Miss Universe 2022 ล่าสุด

อแมนด้า: จริงๆ ก็รู้สึกดีใจนะคะที่ทางกองประกวด Miss Universe 2022 เขาได้เปลี่ยนจาก Confidently Beautiful มาเป็น Beautifully Confident เปลี่ยนจากการเน้นความสวยมาเป็นการเน้นความมั่นใจมากกว่า เพราะอย่างที่บอกไปเลยค่ะว่าคนที่มีความมั่นใจเราจะเห็นว่าเขามีออร่าบางอย่างออกมาจากข้างใน โดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องมากังวลเรื่อง Beauty Standard ของเขา แต่เขาคิดว่าเป็นตัวเองในแบบของเขาที่มีความมั่นใจจากภายใน ฉันเองนี่แหละสวย โดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอก นี่แหละคือคนที่สวยที่สุด  

คุณคิดว่าผู้หญิงสวยที่สุดตอนไหน

อแมนด้า: ด้ามองว่าการที่เราได้ลงมือทำอะไรเพื่อคนอื่น เช่น ทำงานจิตอาสา การที่เราไม่ได้คิดว่าจะต้องทำอะไรเพื่อตัวเอง สามารถทำอะไรเพื่อคนอื่นได้ ซึ่งมันก็มีให้ทำอยู่เยอะมากๆ อย่างตัวด้าเองเริ่มจิตอาสาตั้งแต่อายุ 14-15 ปีหลังจากสึนามิที่เกิดในไทยปี 2547 ตอนนั้นด้าก็เริ่มทำงานจิตอาสามาตลอด ไปสอนเด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ เช่น เด็กที่พ่อแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ ซึ่งพอทำอะไรแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถเป็นผู้ให้แก่คนอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินเลย 

ชวนแบ่งปันทิปความงาม 3 ข้อจากประสบการณ์แต่งหน้า  

อแมนด้า: เวลาแต่งหน้าแต่ละครั้ง สิ่งแรกที่ด้าต้องพิจารณาคือเรื่องของกาลเทศะ เราต้องรู้ว่าเราจะแต่งหน้าไปงานแบบไหน เช่น ถ้าต้องแต่งหน้าไปงานกาล่าก็จะต้องแต่งหน้าให้เข้มขึ้น หรือถ้าไปวัด ไปเจอผู้ใหญ่ ก็จะเบาหน้าลงมาให้ดูสุภาพ ซึ่ง Beauty Tips ของด้าที่อยากแบ่งปันก็จะมี 

1. การเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิวของเรา อันนี้สำคัญมาก อย่างตัวด้าเองมีอันเดอร์โทนค่อนข้างเหลือง ดังนั้นเวลาเลือกรองพื้นก็จะถาม BA ว่ารองพื้นรุ่นไหนมีอันเดอร์โทนเหลืองบ้าง เพราะว่าสีผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราเลือกรองพื้นที่เข้ากับผิวที่สุด มันจะดูเนียน ไม่วอกไป ไม่คล้ำไป มันจะดูดีที่สุด
2. อยากแนะนำเรื่องคิ้วค่ะ เพราะคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า เราจะต้องลองจนเจอเทคนิคการเขียนคิ้วที่เหมาะกับเรา เรื่องการแต่งหน้ามันเป็นการทดลองอย่างหนึ่ง ด้าคิดว่าไม่มีแบบไหนผิดหรือถูก เราต้องเลือกว่าแบบไหนถูกใจเราที่สุด คิ้วก็เหมือนกัน เราต้องลองดู เพราะเทรนด์คิ้วแต่ละปี แต่ละซีซัน เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เราต้องเลือกแบบที่เราชอบและเหมาะสมกับใบหน้าของเราเอง แม้ว่าคนอื่นจะไม่ชอบ แต่เราชอบ ก็ไม่เห็นเป็นไร
3. เลือกเฉดลิปสติกที่เข้ากับตัวเรามากที่สุด ชอบแบบไหนก็ทาแบบนั้น ถ้าเป็นเรื่องการแต่งหน้า ด้าคิดว่ามันคือการทดลอง แต่ต้องระวังว่าการแต่งหน้าโดยรวมเราไม่จำเป็นต้องถมให้หนาที่สุด เพราะการแต่งหน้าเบาๆ ก็สวยได้เหมือนกัน

Beauty Routine ของอแมนด้า 

อแมนด้า: ด้าเป็นคนผิวแห้ง จึงให้ความสำคัญกับสกินแคร์มากค่ะ บางทีเวลาผิวแห้งมากๆ มันส่งผลให้เวลาแต่งหน้าหรือลงรองพื้นมันจะติดไม่ทนสักเท่าไร เพราะฉะนั้นก็จะบำรุงหนักๆ เลย ด้าจะเลือกเซรั่มต่างๆ ที่เหมาะกับสภาพผิวเรา และชอบใช้สกินแคร์ที่ไม่ใส่น้ำหอมเลย เน้นเกี่ยวกับการบำรุง ก่อนนอนก็จะโปะให้หนาๆ เลยค่ะ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการทาครีมกันแดดนะคะ เพราะว่าบ้านเราแดดร้อนมาก มันจะทำให้ผิวเราเสียได้ด้วย เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้นวัตกรรมความงามก็ช่วยให้เราสะดวกมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ตอนนี้มีสเปรย์กันแดดที่เราสามารถใช้เหมือน Mist Spray หรือ Setting Spray ที่หากเราเลือกดีๆ บางแบรนด์เขาจะมีใส่ SPF มาให้ด้วย เพราะการทาครีมกันแดดจะต้องทาบ่อยๆ อย่างเวลาไปทะเลหรือออกกลางแจ้งเราก็ต้องทาก่อนลง รออีกกี่นาทีก็ตามก็ต้องมาทาใหม่ แต่เวลาที่เราแต่งหน้าเสร็จ จะให้กลับมาทาครีมกันแดดอีกมันก็จะไม่สะดวก ด้าเลยชอบใช้แบบสเปรย์กันแดดระหว่างวันที่ฉีดทับเมกอัพได้เลย

ช่วยเล่าถึงการร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Giorgio Armani

อแมนด้า: เวลานึกถึง Giorgio Armani ด้าจะนึกถึงภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่มีความทันสมัย มีความมั่นใจ และแน่นอนว่าต้องนึกถึงน้ำหอมของเขาด้วย เพราะด้าเองก็ทำงานกับแบรนด์ของน้ำหอม Giorgio Armani ก็จะรู้สึกว่าแบรนด์นี้คือตัวแทนของ

ผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความอ่อนหวานซุกซ่อนอยู่ในนั้นด้วย การที่ด้าได้ร่วมงานกับแบรนด์ Giorgio Armani ก็รู้สึกดีใจมากค่ะ เพราะรู้จักตั้งแต่เด็ก ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาร่วมงานกับแบรนด์ พอมีโอกาสมาร่วมงานก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นไปอีก ต้องขอบคุณแบรนด์ Giorgio Armani ด้วยค่ะที่เลือกด้ามาทำงานด้วย 

ไอเท็มโปรดของแบรนด์ Giorgio Armani 

อแมนด้า: ในชีวิตประจำวันด้าก็ใช้น้ำหอมของเขานะ เพราะด้าชอบให้ตัวเองตัวหอม เวลาออกไปไหนก็ตามก็ต้องมั่นใจว่าตัวเองฉีดน้ำหอมแล้วและมีกลิ่นที่หอม เอาจริงๆ ด้าจะมีแฟนคลับที่ไม่ว่าจะเจอกันครั้งไหนๆ เขาก็จะบอกว่าอุ๊ย กลิ่นตัวหอมอีกแล้ว ใช้ของอะไร ซึ่งด้าจะชอบมากเวลามีคนมาบอกว่ากลิ่นตัวเราหอมจังเลย เรารู้สึกว่ากลิ่นหอมๆ มันช่วยให้คนจดจำเราได้เหมือนกันค่ะ

น้ำหอมของ Giorgio Armani ที่ด้าชอบมากที่สุดจะเป็น Giorgio Armani Si Passione Eau De Parfum ค่ะ ได้มีโอกาสไปถ่ายแบบกับแบรนด์ด้วยนะคะ ตัวนี้เลย ทุกครั้งที่ฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้จะทำให้ด้ามีความมั่นใจมากขึ้น เหมือนเราเป็นผู้หญิงที่สามารถทำอะไรก็ได้บนโลกนี้ เหมือน Nothing Impossible เลยค่ะ จริงๆ นะ (หัวเราะ) ซึ่งเป็นกลิ่นแบบผู้หญิง Independent มีความมั่นใจ แต่ก็ยังมีความหวานซ่อนอยู่ด้วย ด้าว่าเป็นน้ำหอมที่เพอร์เฟกต์มากๆ สำหรับผู้หญิงยุคนี้

เทคนิคการฉีดน้ำหอมให้ติดทนนาน

อแมนด้า: ด้าก็จะฉีดน้ำหอมเหมือนที่ทุกคนรู้นะคะ ตามที่เราเห็นเขาฉีดกัน ไม่ว่าจะในทีวีหรือโฆษณาก็ตาม เขามักจะฉีดน้ำหอมกันตามแขนหรือบริเวณคอ ตามข้อพับจุดชีพจรต่างๆ ใช่ไหมคะ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ด้ารู้สึกว่าทำให้นำ้หอมติดทนนานคือด้าจะชอบฉีดหลังทาโลชั่นแล้ว เวลาทาโลชั่นเสร็จแล้วฉีดน้ำหอมตามลงไปตามจุดต่างๆ จะทำให้น้ำหอมติดทนนานขึ้น 

คิดอย่างไรกับเรื่องสิ่งแวดล้อมโลก

อแมนด้า: ยุคนี้คนให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นเยอะค่ะ และหนึ่งในเรื่องที่คนพูดถึงมากๆ เลยในยุคนี้ก็คือ Fast Fashion ตามแบรนด์ต่างๆ ที่หลายๆ คนอาจซื้อมาใส่ครั้งเดียวแล้วจบไป หรือว่าการผลิตเสื้อผ้าที่มันไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตของเราที่สามารถมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้าก็จะเลือกซื้อเสื้อผ้าที่รู้สึกว่าถ้าเราซื้อมาแล้วเราจะใส่มันได้หลายๆ ครั้ง หรือว่าชิ้นที่เราชอบมากๆ เราสามารถใส่ได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นยีนส์หรือเป็นเดรสก็ตาม ถ้าเป็นการช่วยลดโลกร้อนในสายของเมกอัพหรือสกินแคร์ เราก็สามารถทำได้เหมือนกัน สมัยนี้มีตัวเลือกให้เราเลือกเยอะมากๆ ที่เขาเขียนระบุเลยว่าผลิตมาเพื่อความ Sustainable นะ เราก็จะเลือกซื้อแบบนั้นมากกว่า ถ้าเราสามารถทำอะไรที่แม้คนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้หรอก แต่ถ้าร่วมมือกันทำสิ่งเล็กๆ นี้ จะทำให้เกิดความยิ่งใหญ่ได้ค่ะ

สิ่งที่อยากบอกใครก็ตามที่ยังติดกับดัก Beauty Standard เดิมๆ 

อแมนด้า: ด้าอยากบอกว่า Beauty Standard ถูกสร้างขึ้นมาโดยใครก็ไม่รู้ มันไม่ใช่สิ่งที่คือที่สุดนะ สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ด้าเสริมความมั่นใจมากๆ เลย ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ใน Beauty Standard ของคนไทย อย่างตอนเด็กๆ เราก็ไม่ได้ผิวขาว เพราะชอบออกไปทะเล แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้มากๆ คือเสียงที่อยู่ในหัวของเรา คนอื่นอาจใจร้ายกับเรามาก แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองใจร้ายกับตัวเองด้วย อันนี้อยากจะให้ใช้น้ำเสียงที่ใจดีและใช้การพูดที่ใจดีกับตัวเอง ลองยืนมองตัวเองในกระจกนะคะ แล้วบอกว่า เออ วันนี้ฉันสวยแล้ว ฉันเป็นแบบนี้ นี่คือร่างกายที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นเราควรขอบคุณเขามากกว่าที่จะไปตัดสินตัวเองว่าทำไมไม่สวยเลย อย่าเอาเรื่อง Beauty Standard มาทำให้เราขาดความมั่นใจหรือทำให้เราเสียใจหรือน้อยใจ เพราะอย่างที่ด้าบอกไปว่า Beauty Standard ในแต่ละประเทศ หรือทั้งโลกนี้ มันสวยไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เราอาจไม่ตรงกับ Beauty Standard ของที่นี่ แต่เมื่อเราไปประเทศอื่นเราอาจจะตรงกับประเทศนั้นๆ ก็ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันไม่มีจุดที่เป็นที่สุดของชีวิต ไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหน อยากให้มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นดีกว่าค่ะ

ภาพ: Courtesy of Brand 

The post ชวน อแมนด้า ออบดัม คุยเรื่องความงามในแบบฉบับสาว Beautifully Confident appeared first on THE STANDARD.