“จริงๆ แล้วความละเมียดไม่ใช่เพียงปรัชญาการทำงานของช้าง ที่หมายถึงความละเมียด ความประณีต ในการคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ต่างๆ สู่ผู้บริโภค แต่ความละเมียดเป็นเหมือนดีเอ็นเอที่อยู่ในตัวคนไทยทุกคนอยู่แล้ว ช้างเพียงแค่ปลุกเอาความละเมียด ซึ่งเป็นดีเอ็นเอไทยให้กลับคืนมาอีกครั้ง”

โฆษิต สุขสิงห์ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย ให้คำนิยามถึงปรัชญาการทำงานของแบรนด์ช้าง ซึ่งดีเอ็นเอความ ‘ละเมียด’ นี่เองที่กลายเป็นสารตั้งต้นการทำงานที่ช้าง อีกทั้งความละเมียดยังถูกส่งต่อไปสู่ประสบการณ์ใหม่ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา อาหาร และไลฟ์สไตล์ รวมทั้งการส่งต่อมิตรภาพ และส่งความสุขสู่คนรอบข้างผ่านประสบการณ์ใหม่แบบฉบับของช้าง

ประสบการณ์สานมิตรภาพ

ประสบการณ์ใหม่แบบฉบับช้าง ถูกส่งผ่าน Experiential Platform ที่ไม่ใช่เพียงเรื่องของเครื่องดื่ม และอาหารภายใต้ชื่อ Chang Sensory Trails และถ้าไม่นับแพลตฟอร์มด้านกีฬาชื่อ Chang Football Moments ที่ทางช้างสนับสนุนมาตลอด ดนตรีคืออีกประสบการณ์ที่ช้างเดินหน้าลุยอย่างสุดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Chang Music Connection ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 ทว่าในปลายปีนี้กลับพิเศษยิ่งกว่าด้วยคอนเซปต์ใหม่ของ Chang Music Connection Musictropolis ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน คือสองความสนุกของคอนเสิร์ตใหญ่โดยศิลปินชั้นนำของเมืองไทย จะเกิดขึ้นพร้อมกันสองจังหวัดในวันเดียวกัน เพื่อให้ผู้คนในทั้งสองจังหวัด ได้เชื่อมต่อความสุขพร้อมกันผ่านประสบการณ์ดนตรีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่นที่โฆษิตได้กล่าวไว้

“ด้วยความที่ความละเมียดคือปรัชญาการทำงานของช้าง ดังนั้นในเรื่อง Experiential Platform เราก็ต้องมองด้วยความละเมียดด้วยเช่นกันว่า ทำอย่างไรถึงจะส่งต่อความสุขผ่านประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไปให้ผู้บริโภค อย่างงานดนตรีก็ไม่ใช่มาฟังดนตรีและจบ เช่นในงาน Chang Carnival Presents The Green World เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีแต่ดนตรี แต่เรายังมองไปถึงว่าคนที่มาฟังดนตรีเขาจะได้ประสบการณ์พิเศษกับเพื่อนๆ อย่างไรบ้าง

“งาน Chang Carnival Presents The Green World ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่สร้างความภาคภูมิใจในเรื่องการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ โดยงานนี้ถือว่ามีความโดดเด่นอย่างมาก เพราะเป็นการเอาสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจหรือที่สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมาสร้างเป็นเฟสติวัลนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำดีเจระดับโลกกว่า 20 ชีวิตเข้ามาสร้างความสนุกให้กับคนไทย หรือการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อป ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามจังหวัดต่างๆ เพราะผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ก็มีความสนใจ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการนำเอาความเป็นโชว์เข้ามาผสมผสาน จึงถือได้ว่างานนี้เป็นไลฟ์สไตล์เฟสติวัลอย่างแท้จริง ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร

“เรามองว่าปัจจุบันนี้ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ใกล้ชิดมากขึ้น ทำให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้ชัดเจน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคต้องการความแปลกใหม่และหลากหลาย ในขณะเดียวกันเราก็ยังคงคำนึงถึงปัจจัยเรื่องภาพลักษณ์และคุณภาพ เหล่านี้เป็นจุดที่ธุรกิจของเราพัฒนามาโดยตลอด ซึ่งก็อยู่ในปรัชญาความละเมียดของเรา อย่างที่บอกว่าความละเมียดไม่ใช่แค่การพัฒนาที่ตัวผลิตภัณฑ์แต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นทุกๆ องค์ประกอบรวมทั้งประสบการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับไปจากแบรนด์”

ที่สุดแห่งงานเฉลิมฉลอง ‘Federbräu Red Feather Club’

Federbräu Red Feather Club ปีนี้ มีความพิเศษคือ ปีนี้เป็นปีที่ฉลองครบรอบ 100 ปี สถาบันศิลปะและการออกแบบอันเก่าแก่จากประเทศเยอรมัน เบาเฮาส์ (Bauhaus) ประกอบกับการที่เราเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ของงาน Bangkok Art Biennale เราจึงนำแรงบันดาลใจนี้มาสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดพรีเมียมผ่านกิจกรรม Federbräu Red Feather Club ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ (ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561) และลานหน้าอาคารสาทร สแควร์ (ระหว่างวันที่ 17-28 ธันวาคม 2561)

ในงานนอกจากจะมีประสบการณ์ดนตรีที่ไม่ซ้ำใครแล้ว ยังมีการเปิดตัวเบียร์ เฟเดอร์บรอย ไวส์เบียร์ (Federbräu Weiss Bier) ไวส์เบียร์แบบคลาสสิกของเยอรมัน ซึ่งจะเสิร์ฟเฉพาะในงานอีเวนต์ของเฟเดอร์บรอยเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าจากปรัชญาความละเมียดสู่ Experiential Platform ที่ช้างเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในทุกรายละเอียดของทุกไลฟ์สไตล์ ส่งผลให้จากผลสำรวจของ IPSOS ‘ช้าง’ ไทยเชือกนี้ยังคงเป็นแบรนด์ที่ครองความเป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค (Top of Mind) ถึง 3 ปีซ้อน อีกทั้ง เพจช้างเวิลด์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ Best Brand Performance กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากเวที Thailand Zocial Awards 2018 โดยปัจจุบันเพจช้างเวิลด์มีแฟนเพจมีผู้ติดตามมากถึง 1,495,415 คน

แน่นอนว่าความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากช้างไม่ได้ปลุกจิตวิญญาณความละเมียดให้เกิดขึ้น ก่อนที่จะเปลี่ยนความละเมียดเป็นประสบการณ์แห่งความสุขที่ส่งผ่านทุกไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับช้าง

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post ปลุกความละเมียดในดีเอ็นเอไทย เพื่อนำสู่การสร้างประสบการณ์ใหม่แบบฉบับ ‘ช้าง’ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

     รวบรวมกิจกรรมดีๆ น่าสนใจที่ควรค่าแก่การออกนอกบ้านไปทำอะไรใหม่ๆ กันประจำวันที่ 22-28 กรกฎาคมนี้

Japanese Perspective

What: ‘Light & Black’ นิทรรศการศิลปะฝีมือศิลปินชาวญี่ปุ่น ฮาเซกาวะ ทาคุมิ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานเกี่ยวกับความหมายของชีวิต และมุมมองที่เขามองโลกใบนี้ โดยแรงบันดาลใจของเขามาจากผลงานของศิลปินคนอื่นๆ คือแจ็กสัน พอลล็อก และฮิโรชิ ซูกิโมโตะ งานนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย

When: 14-31 กรกฎาคม 2560 เวลา 10.00-22.00 น.

Where: Open House ชั้น 6 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เพลินจิต ปทุมวัน กรุงเทพฯ

Why: ถือโอกาสไปนั่งกินข้าวพลางมองการออกแบบของ Open House ไปในตัว เพราะประดับไปด้วยงานศิลปะเล็กๆ น้อยๆ ที่ชวนมองตั้งแต่พื้นถึงเพดาน

Page: www.facebook.com/openhouse.ce

Stop: BTS สถานีเพลินจิต

Let’s Get Noisy

What: ‘Noise Market’ ตลาดขายของงานคราฟต์ และที่เที่ยวเล่นสำหรับคนรักเสียงเพลงไม่เมนสตรีมโดยเฉพาะกลับมาอีกครั้ง กับคอนเซปต์ ‘pre-cycling’ เน้นการนำเสนอสินค้าและงานดีไซน์ที่มุ่งให้นำกลับมาใช้ใหม่ และแน่นอนว่าต้องมีวงดนตรีสด หนังสือ แผ่นเสียง และสินค้ามือสองให้เลือกอีกเพียบ

When: 22-23 กรกฎาคม 2560 เวลา 13.00-21.00 น.

Where: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนพระราม 1 กรุงเทพฯ

Why: โอกาสเหมาะแก่การไปชมนิทรรศการในหอศิลปฯ ยามบ่าย ต่อด้วยการแวะชมของที่ตลาด และฟังเพลงยามเย็น

Stop: BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ

Electric Fantastic

What: Studio Lam เปิดฟลอร์วันเสาร์ให้คุณเหวี่ยงแรงๆ กับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ฟังก์ ดิสโก้ ให้เต้นไปถึงดวงดาว จากดีเจ Stargazer และ Gramaphone Children

When: 20 กรกฎาคม 2560 เวลา 21.00-2.00 น.

Where: Studio Lam ถนนสุขุมวิท 51 กรุงเทพฯ

Why: เพลงดี ไม่เสียค่าเข้า และขึ้นชื่อว่ายาดองอร่อย จะช้าอยู่ไย

Page: www.facebook.com/studiolambangkok

Stop: BTS สถานีทองหล่อ

Let Art Replace Ads

What: ก๊วนผู้จัดเทศกาล Wonderfruit จัดแคมเปญ ‘Universal Connections’ ระดมทุนออนไลน์ได้สำเร็จ โดยนำเงิน 2,608,600 บาท ที่ได้มาจากการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนกรุง ด้วยการเปลี่ยนป้ายโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอสให้เป็นงานศิลปะเคลื่อนที่ได้ไปรอบกรุง โดยผลงานนี้เป็นของอาจารย์คามิน เลิศชัยประเสริฐ ผู้ออกแบบงานภายใต้คอนเซปต์ Spiritual Fractal ที่ห่อรถไฟฟ้า และยังแทรกตัวอยู่ทั่วขบวนรถ โดยแทรกคติสอนใจอยู่ภายในผลงาน

When: 19-31 กรกฎาคม 2560 รถให้บริการเวลา 6.00-00.00 น.

Why: นับตั้งแต่การโฆษณาที่ฮาร์ดเซลถึงขนาดลามไปยังป้ายบอกสถานี คงดีไม่น้อยหากได้เห็นงานศิลปะสร้างสรรค์มาแทนที่ให้สบายสายตา ไม่รู้สึกยัดเยียดให้เสพสื่อจนเกินไปนัก และนี่คือเรื่องดีๆ ที่น่าสนับสนุน

Website: asiola.co.th/campaign/btsovertime

Stop: BTS สายสุขุมวิทและสายสีลมทุกสถานี

Thai Crossover

What: ครั้งแรกที่เหล่าศิลปินไทยและวงดนตรีบรรเลงในรูปแบบต่างๆ จะมารวมตัวอวดฝีมือกันที่งาน ‘Thai Crossover #1’ โดยครั้งแรกจะเน้นเป็นดนตรีแนวฟิวชันแจ๊ซ และแต่ละวงต่างมีประสบการณ์ผ่านเวทีระดับประเทศและระดับโลกกันมาแล้ว

When: 23 กรกฎาคม 2560 เวลา 18.30-00.00 น.

Where: Black Cabin ซอยฟาร์มวัฒนา ถนนพระรามสี่ กรุงเทพฯ

Why: หากเบื่อเพลงคัฟเวอร์ทั่วกรุงแล้ว ขอแนะให้มาฟังผลงานของแต่ละวงที่ล้วนมีผลงานของตัวเองทั้งนั้นได้ที่นี่ ไม่เสียค่าเข้าด้วยนะ

Contact: 06 1515 6989

Website: www.blackcabinbar.com

Stop: BTS สถานีเอกมัย หรือสถานีพระโขนง

Art Hours

What: ไปรังสรรค์ความอร่อยในภาพวาดกันกับ ‘เมนูใหม่สั่งได้ด้วยสีไม้’ โดย LooKs รวมกับศิลปินเจ้าของเพจ FAI ที่จัดเวิร์กช็อปสอนลงสีบนภาพอาหารด้วยสีไม้ไล่แสงและแรเงา โดยสอนตั้งแต่การเริ่มเลือกสีไม้ให้ถูก ร่างภาพ และจัดองค์ประกอบ ค่าเรียนพร้อมอุปกรณ์กลับบ้านคนละ 2,400 บาท (4,400 บาทหากมาเป็นคู่)

When: 23 กรกฎาคม 2560 เวลา 10.00-17.00 น.

Where: The CENT อารีย์ ถนนพหลโยธิน 9 กรุงเทพฯ

Why: ใครคิดเมนูเอาไว้ในหัว จัดขึ้นมาให้เป็นจริงได้เลย แถมงานนี้คนกำลังไดเอตก็ร่วมได้!

Contact: 09 2669 0045

Stop: BTS สถานีอารีย์

Play Time

What: เบียร์ Federbräu Red Feather Club ร่วมกับนิตยสาร Time Out Bangkok เสกโถงตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ให้อบอวลไปด้วยความสนุก กลายเป็นสถานที่แฮงก์เอาต์หลังเลิกงานของคนทำงานย่านสาทร โดยนำภาพยนตร์สั้นจากเยอรมนีที่สถาบันเกอเธ่คัดเลือกมาให้แล้วว่าโดดเด่นและการันตีด้วยรางวัลมาฉาย บูธขายอาหารจากร้าน Hyde & Seek, All Six to Twelve ฯลฯ และยังมีมินิคอนเสิร์ตจากป๊อบ ปองกูล, สิงโต นำโชค, ETC. รวมไปถึงวงหน้าใหม่อย่าง My Life as Ali Thomas, Gym and Swim ฯลฯ

When: 24-27 กรกฎาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

Where: Em Hall ตึกเอ็มไพร์ ถนนสาทร กรุงเทพฯ

Why: เลิกแกร่วกับฝนตกรถติดระหว่างกลับบ้าน มาแอ่วกับก๊วนเพื่อนที่นี่สนุกกว่าเป็นไหนๆ

Page: www.facebook.com/Federbrauofficial

Stop: BTS ช่องนนทรี

Wednesday Fun

What: จิบข้าวบาร์เลย์รสอร่อยกว่า 20 ชนิด เคล้าเสียงดนตรีจาก Lipta วงดนตรีอาร์แอนด์บี-ป๊อป ที่จะมาขับร้องเพลงเพลงดังอย่าง ไม่เป็นไร, ยัง ฯลฯ ให้ฟังกันในวันพุธ บัตรราคา 500 บาท

When: 26 กรกฎาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป

Where: Beer Belly ชั้น G 72 Courtyard ทองหล่อ ซอยสุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Why: แค่ได้มาจิบเบียร์เย็นๆ หลังเลิกงานวันพุธ แค่นี้ก็ทำให้อีกสองวันของสัปดาห์ที่เหลือสนุกขึ้นแล้ว

Contact: 0 2392 7700

Stop: BTS สถานีทองหล่อ

Throw Back Everyday!

What: สวมแว่นตาระยับกับเสื้อคอตั้ง แล้วออกมาซ่าย้อนเวลากับดนตรีเรโทรที่จะพาคุณกลับไปสู่ยุค 80s ที่งาน ‘Back to the 80s’ ที่กลิ่นอายดิสโก้และเพลงหวานเลี่ยนยังเพราะไม่สิ้น เคล้ากับค็อกเทลเก๋าจากเหล่าบาร์เทนเดอร์มือดี และไม่เสียค่าเข้าตลอดคืน

When: 28 กรกฎาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

Where: Revolucion Cocktail Bangkok  ถนนสาทร 10 (ซอยศึกษาวิทยา) บางรัก กรุงเทพฯ

Why: หากคุณยังโหยหาลูกบอลกระจกและเพลงแสนจะเลี่ยน ศุกร์นี้แหละที่คุณจะเต้นไม่หยุด!

Contact: 0 2235 4823, 0 2235 4822

Stop: BTS สถานีช่องนนทรี

The post THE STANDARD Calendar: กิน ดื่ม เที่ยว กิจกรรมน่าทำระหว่าง 22-28 กรกฎาคม 2560 appeared first on THE STANDARD.