องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 13 Jun 2024 09:25:14 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 AI ไม่ใช่แค่เรื่องล้ำ! เซ็นทรัล ฟู้ด กรุ๊ป นำร่องใช้ AI ลดอาหารเหลือทิ้งใน Tops 5 สาขา หวังลดขยะอาหาร 30% https://thestandard.co/central-food-group-ai-food-waste-reduction/ Thu, 06 Jun 2024 02:28:15 +0000 https://thestandard.co/?p=941788 Central Food Group

ปัญหาอาหารเหลือทิ้งเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกที่ส่งผลกระทบต […]

The post AI ไม่ใช่แค่เรื่องล้ำ! เซ็นทรัล ฟู้ด กรุ๊ป นำร่องใช้ AI ลดอาหารเหลือทิ้งใน Tops 5 สาขา หวังลดขยะอาหาร 30% appeared first on THE STANDARD.

]]>
Central Food Group

ปัญหาอาหารเหลือทิ้งเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม อย่างรุนแรง โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประมาณการว่าทั่วโลกมีอาหารถูกทิ้งหรือสูญเสียไปประมาณ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตเพื่อการบริโภคของมนุษย์ ซึ่งการผลิตอาหารที่สูญเสียไปนี้คิดเป็น 8% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก

 

ขณะที่ประเทศไทยก็เผชิญปัญหาร้ายแรงจากอาหารเหลือทิ้งคิดเป็น 64% ของขยะทั้งหมด โดยคนไทยทิ้งอาหารเฉลี่ย 254 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

 

ที่น่าสนใจคือ ภาคค้าปลีกมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการปัญหานี้ โดย ReFED (2020) พบว่า ภาคค้าปลีกในสหรัฐอเมริกามีส่วนในการสร้างอาหารเหลือทิ้งประมาณ 13% ของอาหารที่สูญเสียไปทั้งหมด ซึ่งเกิดจากการสั่งซื้อสินค้าเกินความจำเป็น การจัดการสต็อกที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการกำหนดมาตรฐานคุณภาพที่เข้มงวดเกินไป

 

ภาคค้าปลีกก็มีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาอาหารเหลือทิ้ง ซึ่งสำหรับในไทยนั้น เซ็นทรัล ฟู้ด กรุ๊ป (Central Food Group) มองเห็นเรื่องนี้และร่วมมือกับ SmartWay นำร่องทดสอบโซลูชันการจัดการอาหารเหลือทิ้งด้วยระบบดิจิทัลที่ร้าน Tops 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

โครงการนำร่องนี้มีกำหนดเริ่มในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 โซลูชันของ SmartWay ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการขับเคลื่อน ช่วยให้ทีมงานในร้านสามารถระบุสินค้าใกล้หมดอายุ กำหนดกลยุทธ์การลดราคา 20-40% และวางแผนการสั่งซื้อสินค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลดีต่อลูกค้า ช่วยเพิ่มกำลังซื้อและลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง ถือเป็นโครงการริเริ่มครั้งแรกในประเทศไทย

 

ลึกเข้าไปเหตุผลที่ธุรกิจค้าปลีกต้องให้ความสำคัญกับการจัดการอาหารเหลือทิ้งมีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 

 

  1. ลดต้นทุน: การลดอาหารเหลือทิ้งหมายถึงการลดต้นทุนในการจัดซื้อ จัดเก็บ ขนส่ง และกำจัดสินค้าที่ไม่สามารถขายได้

 

  1. สร้างรายได้: อาหารที่ใกล้หมดอายุหรือมีตำหนิเล็กน้อย สามารถนำมาขายในราคาลดพิเศษหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม

 

  1. เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม การแสดงความมุ่งมั่นในการลดอาหารเหลือทิ้งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีต่อแบรนด์

 

SmartWay ระบุว่า AI จะทำให้ทุกภาคส่วนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ร้านค้าปลีกได้ลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง เพิ่มรายได้ให้กับร้านค้า พนักงานจะสามารถทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 4 เท่า ด้วยคำแนะนำในการจัดการสินค้าใกล้หมดอายุ ส่วนลูกค้าก็จะได้รับประโยชน์ด้วยทางเลือกในการซื้อสินค้าลดราคาที่หลากหลายมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มกำลังซื้อ

 

“เซ็นทรัล ฟู้ด กรุ๊ป ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในการสร้างความยั่งยืนแห่งอุตสาหกรรมค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย โดยมีเป้าหมายอันท้าทาย ได้แก่ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2573 สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงนำระบบการจัดการขยะมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าหมายลดปริมาณขยะอาหารลง 30%” สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม เซ็นทรัล ฟู้ด กรุ๊ป ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ได้ดำเนินโครงการ ‘FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข’ เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและลดปริมาณอาหารส่วนเกิน โครงการนี้ได้แจกจ่ายอาหารส่วนเกินที่ยังคงคุณภาพจากร้านค้า 129 สาขาของ Tops, Tops Food Hall และ Tops Daily รวมถึงจากศูนย์กระจายสินค้าสดให้แก่ผู้ที่ขาดแคลน ปัจจุบันโครงการนี้ได้แจกจ่ายอาหารกว่า 5 ล้านมื้อให้แก่ชุมชนกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ

The post AI ไม่ใช่แค่เรื่องล้ำ! เซ็นทรัล ฟู้ด กรุ๊ป นำร่องใช้ AI ลดอาหารเหลือทิ้งใน Tops 5 สาขา หวังลดขยะอาหาร 30% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้เชี่ยวชาญชี้ เกาหลีเหนือขาดแคลนอาหารขั้นวิกฤต เชื่อมีประชากรเสียชีวิตจากความอดอยาก https://thestandard.co/north-korea-critical-food-shortage/ Sun, 05 Mar 2023 02:37:05 +0000 https://thestandard.co/?p=758793

สถานการณ์การขาดแคลนอาหารที่เรื้อรังของเกาหลีเหนือกำลังเ […]

The post ผู้เชี่ยวชาญชี้ เกาหลีเหนือขาดแคลนอาหารขั้นวิกฤต เชื่อมีประชากรเสียชีวิตจากความอดอยาก appeared first on THE STANDARD.

]]>

สถานการณ์การขาดแคลนอาหารที่เรื้อรังของเกาหลีเหนือกำลังเป็นเรื่องน่ากังวลมากยิ่งขึ้น โดยแหล่งข่าวหลายแหล่งระบุในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มว่าจะมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากความอดอยาก

 

ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า เกาหลีเหนือเข้าสู่จุดที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ทุพภิกขภัย ‘Arduous March’ เมื่อช่วงทศวรรษ 1990 ที่เกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารครั้งรุนแรง จนคร่าชีวิตผู้คนหลายแสนคน หรือประมาณ 3-5% ของจำนวนประชากรที่แข็งแรง 20 ล้านคนในเวลานั้น

 

ข้อมูลการค้า ภาพถ่ายดาวเทียม และการประเมินต่างๆ โดยองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานของเกาหลีใต้ล้วนบ่งชี้ว่า ขณะนี้ปริมาณอาหารในเกาหลีเหนือ “ลดลงต่ำกว่าปริมาณที่จำเป็นต่อการตอบสนองความต้องการขั้นต่ำของมนุษย์” ลูคัส เรนจิโฟ-เคลเลอร์ นักวิเคราะห์วิจัยแห่งสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ กล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า แม้อาหารจะถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบจะนึกไม่ถึงในเกาหลีเหนือที่ชนชั้นสูงและกองทัพได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรก แต่ถึงกระนั้นคุณก็อาจจะต้องเสียชีวิตจากความอดอยาก 

 

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เห็นด้วยกับการประเมินดังกล่าว โดยโซลเพิ่งประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตจากความอดอยากในบางพื้นที่ของเกาหลีเหนือ แม้การหาหลักฐานมาสนับสนุนข้อกล่าวอ้างเหล่านั้นทำได้ยาก เนื่องจากการแยกตัวโดดเดี่ยวของประเทศ แต่ก็แทบไม่มีใครตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

นายกรัฐมนตรีฮันด็อกซู กล่าวกับ CNN เมื่อวันพฤหัสบดี ว่า “ข่าวกรองของเราแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายลง” 

 

ขณะที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรเกาหลีเหนืออยู่ในภาวะขาดอาหารอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนการระบาดของโควิด แต่ 3 ปีของการปิดพรมแดนและการแยกตัวโดดเดี่ยวของประเทศกลับยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

 

สัญญาณที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์วิกฤตเพียงใดก็คือ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้จัดการประชุมพรรคแรงงานเป็นเวลา 4 วันในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงภาคการเกษตรของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปขั้นพื้นฐานในโครงการเกษตรกรรมและเศรษฐกิจของรัฐ และระบุถึงความจำเป็นที่รัฐจะต้องเสริมการควบคุมภาคการเกษตร

 

หน่วยงานพัฒนาชนบทของเกาหลีใต้เชื่อว่า การผลิตพืชผลของเกาหลีเหนือในปีที่แล้วต่ำกว่าปีก่อนหน้า 4% จากการประสบปัญหาน้ำท่วมและสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

 

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งชี้ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือนั้นโทษใครไม่ได้นอกจากรัฐบาล เปียงยางเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับปัญหาดังกล่าว 

 

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิดทำให้รัฐบาลเกาหลีเหนือโดดเดี่ยวตัวเองรุนแรงขึ้น โดยมีการสร้างรั้วชั้นที่สองตามแนวชายแดน 300 กิโลเมตรที่ติดกับจีน และจำกัดการค้าบริเวณชายแดน ซึ่งปกติก็มีน้อยมากอยู่แล้ว

 

ยุนลีนา นักวิจัยอาวุโสของ Human Rights Watch กล่าวว่า “มีการออกคำสั่งยิงทิ้งพวกลักลอบข้ามแดนเมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ตลอดจนคำสั่งห้ามการเดินทางและการค้า ซึ่งรวมไปถึงการค้าอย่างเป็นทางการที่ก่อนหน้านี้มีอยู่เพียงเล็กน้อย” 

 

ยิ่งไปกว่านั้นในปีที่ผ่านมาเกาหลีเหนือยังใช้ทรัพยากรอันมีค่ายิ่งไปกับการทดสอบขีปนาวุธจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ 

 

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุว่า เปียงยางยังคงให้ความสำคัญกับโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์มากกว่าการหาอาหารมาเลี้ยงประชาชน 

 

รองโฆษกอีฮโยจอง กล่าวในการบรรยายสรุปเมื่อเดือนที่แล้วว่า “ตามรายงานของสถาบันวิจัยในประเทศและต่างประเทศ หากเกาหลีเหนือนำเอางบประมาณที่ใช้กับการยิงขีปนาวุธเมื่อปีที่แล้วมาใช้กับเสบียงอาหาร ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการซื้ออาหารหลายล้านตัน”

 

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า ต้นตอของปัญหาคือการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดมานานหลายปี และความพยายามของคิมที่จะเพิ่มการควบคุมของรัฐให้มากขึ้นนั้นมีแต่จะทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลง

 

“เกาหลีเหนือจำเป็นต้องเปิดพรมแดน พวกเขาจำเป็นต้องกลับมาเริ่มต้นทำการค้าใหม่ และจำเป็นต้องนำสิ่งเหล่านี้เข้ามาเพื่อปรับปรุงการเกษตร เกาหลีเหนือต้องการอาหารเพื่อเลี้ยงประชาชน แต่ตอนนี้พวกเขาให้ความสำคัญกับการโดดเดี่ยวและการปราบปราม” ยุนกล่าว

 

พัคจิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “หนทางเดียวที่เกาหลีเหนือจะหลุดพ้นจากปัญหานี้ได้คือกลับมาสู่โต๊ะเจรจา ยอมรับข้อเสนอด้านมนุษยธรรมของเรา และเลือกทางเลือกที่ดีกว่าเพื่ออนาคต”

 

ภาพ: API / Gamma-Rapho via Getty Images

 

อ้างอิง:

The post ผู้เชี่ยวชาญชี้ เกาหลีเหนือขาดแคลนอาหารขั้นวิกฤต เชื่อมีประชากรเสียชีวิตจากความอดอยาก appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘ควายน้ำพื้นที่ทะเลน้อย’ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย https://thestandard.co/buffalo-farming-in-phatthalung-registered-world-heritage-site/ Sat, 12 Nov 2022 03:55:13 +0000 https://thestandard.co/?p=708122

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักน […]

The post ‘ควายน้ำพื้นที่ทะเลน้อย’ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า ภูมิปัญญาการเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยของจังหวัดพัทลุง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ให้เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย (Globally Important Agricultural Heritage Systems: GIAHS)  

 

รัชดากล่าวว่า เกณฑ์การพิจารณาการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร ประกอบด้วย 

 

  1. ความมั่นคงทางอาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ดี
  2. ความหลากหลายทางชีวภาพเกษตร
  3. ระบบความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีมาแต่ดั้งเดิม
  4. วัฒนธรรม ระบบคุณค่า และองค์กรทางสังคม
  5. ลักษณะภูมิทัศน์และภูมิทัศน์ทางทะเล

 

การเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมามากกว่า 250 ปีแล้ว การที่พื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจในท้องถิ่นเติบโต ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพเอาไว้ได้

 

“นายกรัฐมนตรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของไทย ที่เป็นมรดกตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษได้รับการยอมรับ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การสหประชาชาติ สะท้อนให้เห็นว่ามรดกและภูมิปัญญาของไทยนั้นทรงคุณค่า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ดำเนินงานตอบรับตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการพัฒนามรดกภูมิปัญญาของไทยจนได้รับรางวัลนี้ รวมทั้งขอบคุณประชาชนทุกคนที่ได้ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันดีงามของไทยเอาไว้เรื่อยมา” รัชดากล่าว

 

ภาพ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

The post ‘ควายน้ำพื้นที่ทะเลน้อย’ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชวีตงยวี่ ชนะการเลือกตั้ง นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ คนแรกของจีน https://thestandard.co/qu-dongyu-becomes-first-chinese-to-head-un-food-agency-fao/ Mon, 24 Jun 2019 04:07:31 +0000 https://thestandard.co/?p=264774 Qu Dongyu

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 มิ.ย.) ชวีตงยวี่ รัฐมนตรีช […]

The post ชวีตงยวี่ ชนะการเลือกตั้ง นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ คนแรกของจีน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Qu Dongyu

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 มิ.ย.) ชวีตงยวี่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรของจีน ชนะการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการ FAO เป็นคนแรกของจีน โดยได้รับคะแนนเสียง 108 คะแนนจากสมาชิกทั้งหมด 194 ประเทศ คว้าชัยเหนือ แคเธอรีน จีลอง-ลาเนลล์ อดีตประธาน European Food Safety Authority (EFSA) จากฝรั่งเศส (71 คะแนน) และ ดาวิต กีร์วาลิดซ์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของจอร์เจีย ที่ได้รับเพียง 12 คะแนน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคะแนนเสียงสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา

 

หลังจากนับคะแนนแล้วเสร็จ ชวีตงยวี่กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียง พร้อมใช้ประสบการณ์ในการทำงานด้านการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีด้วยการเกษตรกว่า 30 ปีในการมุ่งมั่นกำจัดความหิวโหยให้หมดไปจากพลเมืองโลก ซึ่งคาดการณ์ว่า จำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 7.7 พันล้านคน เป็น 9.7 พันล้านคนภายในปี 2050

 

ปัจจุบันผู้แทนระดับสูงของจีนต่างก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เพิ่มมากขึ้น นอกจาก FAO ที่กำลังจะมีผู้อำนวยการคนใหม่เป็นชาวจีนแล้ว องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO), องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO), สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และแผนกเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ (UN DESA) ก็ล้วนแล้วแต่มีประธาน ผู้อำนวยการ หรือเลขาธิการองค์กรเป็นชาวจีนแทบทั้งสิ้น

 

โดยชวีตงยวี่จะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคนที่ 9 ของ FAO ซึ่งรับไม้ต่อจาก โฆเซ กราเซียโน ดา ซิลวา ผู้อำนวยการคนปัจจุบันที่จะปฏิบัติหน้าที่ครบ 4 ปีในวาระที่ 2 ในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งผลการเลือกตั้งจะมีผลอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป

 

ภาพ: Vincenzo Pinto / AFP / Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

The post ชวีตงยวี่ ชนะการเลือกตั้ง นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ คนแรกของจีน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ในแต่ละปีมนุษย์เสียชีวิตเพราะสัตว์ชนิดใดมากที่สุด https://thestandard.co/human-killed-by-animal-number/ https://thestandard.co/human-killed-by-animal-number/#respond Wed, 07 Nov 2018 07:30:48 +0000 https://thestandard.co/?p=143257

จากกรณีเหตุฉลามโจมตีชายคนหนึ่งจนเสียชีวิตในออสเตรเลีย เ […]

The post ในแต่ละปีมนุษย์เสียชีวิตเพราะสัตว์ชนิดใดมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>

จากกรณีเหตุฉลามโจมตีชายคนหนึ่งจนเสียชีวิตในออสเตรเลีย เป็นเหตุการณ์ที่พบได้ค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเสียชีวิตจากสัตว์ชนิดอื่นๆ องค์การอนามัยโลกเคยระบุว่า ในแต่ละปีมนุษย์เสียชีวิตเพราะยุงมากที่สุดถึงราวปีละ 725,000 คน กว่า 600,000 คนในจำนวนนี้เสียชีวิตเพราะโรคมาลาเรีย ซึ่งมียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ตามมาด้วยการเสียชีวิตจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองและพิษงู โดยออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องงูอันตรายอันดับต้นๆ ของโลก

 

ในขณะที่สัตว์พาหะนำโรคชนิดอื่นๆ อย่างสุนัข (โรคพิษสุนัขบ้า) แมลงดูดเลือด (โรคเหงาหลับ) มวนเพชฌฆาต (โรคชากาส ที่เกิดจากปรสิตในตัวแมลงชนิดนี้ มักอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวาย) และหอยทาก (โรคพยาธิใบไม้ในเลือด หรือไข้หอยทาก) คร่าชีวิตมนุษย์หลายหมื่นคนทั่วโลกในแต่ละปี

 

โดยฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่คร่าชีวิตมนุษย์ ราว 500 คนต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา ในขณะที่สถิติการเสียชีวิตจากหมาป่าหรือฉลาม มีเพียงราวๆ 10 คนต่อปีเท่านั้น

 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn R.

The post ในแต่ละปีมนุษย์เสียชีวิตเพราะสัตว์ชนิดใดมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/human-killed-by-animal-number/feed/ 0
ไข้หวัดหมูแอฟริกันระบาดในจีน ฆ่าหมูทิ้งไปแล้วกว่า 38,000 ตัว ยังไม่พบการติดเชื้อในคน https://thestandard.co/china-slaughters-38000-pigs-stop-spread-swine-fever/ https://thestandard.co/china-slaughters-38000-pigs-stop-spread-swine-fever/#respond Mon, 03 Sep 2018 05:01:25 +0000 https://thestandard.co/?p=118189

ประเทศที่เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคเนื้อหมูรายใหญ่ที่สุดใน […]

The post ไข้หวัดหมูแอฟริกันระบาดในจีน ฆ่าหมูทิ้งไปแล้วกว่า 38,000 ตัว ยังไม่พบการติดเชื้อในคน appeared first on THE STANDARD.

]]>

ประเทศที่เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคเนื้อหมูรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างประเทศจีน กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตโรคไข้หวัดหมูแอฟริกัน (African Swine Fever: ASF) ระบาดครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ทางการต้องสั่งฆ่าหมูที่ติดเชื้อไปแล้วกว่า 38,000 ตัวทั่วประเทศ

 

ทางการจีนเผยว่า มีรายงานตรวจพบการติดเชื้อไข้หวัดหมูแอฟริกันครั้งแรกในจีน ช่วงราวๆ ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่มณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ก่อนที่จะระบาดลุกลามไปอีกหลายๆ มณฑล

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประกาศเตือนว่า ไข้หวัดชนิดดังกล่าวนี้อาจจะแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของทวีปเอเชีย แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนี้เชื้อ ASF นี้ยังไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และยังไม่พบรายงานการติดเชื้อหรือแพร่ระบาดสู่คน แต่อาจทำให้เกิดอาการป่วยและท้องร่วงในหมู และตามมาด้วยการตายในอีกไม่กี่วันต่อมา ซึ่งยังไม่มีวัคซีนหรือยาป้องกัน การฆ่าหมูคือวิธีการเดียวที่จะยับยั้งและควบคุมโรคได้ในขณะนี้

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

The post ไข้หวัดหมูแอฟริกันระบาดในจีน ฆ่าหมูทิ้งไปแล้วกว่า 38,000 ตัว ยังไม่พบการติดเชื้อในคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/china-slaughters-38000-pigs-stop-spread-swine-fever/feed/ 0
กรมปศุสัตว์เตือนผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนกปมสุ่มตรวจเนื้อไก่ เผยเจ้าหน้าที่ออกตรวจมาตรฐานทุกขั้นตอน https://thestandard.co/dld-sampling-chicken/ https://thestandard.co/dld-sampling-chicken/#respond Fri, 20 Jul 2018 02:58:18 +0000 https://thestandard.co/?p=108801

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์แล […]

The post กรมปศุสัตว์เตือนผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนกปมสุ่มตรวจเนื้อไก่ เผยเจ้าหน้าที่ออกตรวจมาตรฐานทุกขั้นตอน appeared first on THE STANDARD.

]]>

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์และโฆษกกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยมีการพัฒนาทั้งด้านอาหารสัตว์ การเลี้ยง-การจัดการฟาร์ม และการป้องกันโรคมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกรมปศุสัตว์ยังมีระบบการรับรองและกำกับดูแลให้สถานประกอบการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยอาหารทั้งห่วงโซ่การผลิต โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ดำเนินการตรวจสอบและติดตาม ทั้งที่โรงงานอาหารสัตว์ที่มีการควบคุมการใช้อาหารสัตว์ผสมยาโดยสัตวแพทย์ การเลี้ยงที่ฟาร์มมาตรฐาน การเชือดชำแหละที่โรงฆ่าที่ถูกสุขอนามัยและถูกกฎหมาย จนถึงการจัดจำหน่ายทั้งที่ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ ที่สำคัญยังมีการเฝ้าระวังยาปฏิชีวนะและสารตกค้างอย่างเข้มงวดทั้งวงจร

 

“จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่มีการสุ่มเก็บตัวอย่างครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศรวมกว่า 30,683 ตัวอย่างต่อปี และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์ที่ได้รับรองตามมาตรฐานสากล ISO17025 เป็นที่ยอมรับในระดับโลก พบว่าสินค้าปศุสัตว์ของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยสอดคล้องตามมาตรฐานสากลที่นานาชาติยอมรับ ซึ่งเป็นผลมาจากการเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน”

 

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ย้ำว่าขอให้ผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนกกับข้อมูลข่าวสารต่างๆ เนื่องจากกระบวนการผลิตไก่เนื้อในอุตสาหกรรมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวดของกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการบริโภคเนื้อสัตว์อย่างปลอดภัย กรมปศุสัตว์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจซ้ำอีกครั้ง และขอแนะนำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์จากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์จะมีการเก็บตัวอย่างสินค้าและตรวจสอบเป็นประจำ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเฝ้าระวังสารตกค้างต่างๆ ในสินค้าปศุสัตว์ ดังเช่นสัญลักษณ์ Q หรือสัญลักษณ์ปศุสัตว์ OK ที่กรมปศุสัตว์มอบให้กับร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มีมาตรฐาน เป็นต้น

 

นอกจากนี้กรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการ ‘การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564’ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยา และกำกับดูแลการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมในภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังจัดทำโครงการร่วมกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งประชาชาติ (FAO) ในการวิเคราะห์และจัดการความเสี่ยงของเชื้อดื้อยาในกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ ภาคเอกชน และเกษตรกร ในการส่งเสริม สนับสนุน แนะนำให้จัดทำระบบการเลี้ยงที่สามารถป้องกันโรคได้เพื่อให้เกษตรกรเกิดความมั่นใจและลดการใช้ยาปฏิชีวนะ

 

ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันเป็น ‘สายตรวจปศุสัตว์’ หากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับภาคปศุสัตว์ สามารถแจ้งเบาะแสผ่านแอปพลิเคชัน ‘DLD 4.0’ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการตรวจสอบได้อย่างทันท่วงที

The post กรมปศุสัตว์เตือนผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนกปมสุ่มตรวจเนื้อไก่ เผยเจ้าหน้าที่ออกตรวจมาตรฐานทุกขั้นตอน appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/dld-sampling-chicken/feed/ 0