ESPN Magazine – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 19 Sep 2018 16:17:57 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ไทเลอร์ ‘นินจา’ เบลวินส์ นักกีฬาอีสปอร์ตคนแรกที่ได้ขึ้นปก ESPN https://thestandard.co/ninja-first-esports-player-featured-on-espn-magazine-cover/ https://thestandard.co/ninja-first-esports-player-featured-on-espn-magazine-cover/#respond Wed, 19 Sep 2018 16:14:11 +0000 https://thestandard.co/?p=122347

ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่มีกระแสถกเถียงกันว่าอีสปอร์ตไม่ใช […]

The post ไทเลอร์ ‘นินจา’ เบลวินส์ นักกีฬาอีสปอร์ตคนแรกที่ได้ขึ้นปก ESPN appeared first on THE STANDARD.

]]>

ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่มีกระแสถกเถียงกันว่าอีสปอร์ตไม่ใช่กีฬา วงการกีฬาก็มักจะมีข่าวให้การยอมรับอีสปอร์ตมากขึ้นทุกครั้ง โดยล่าสุด EPSN สื่อกีฬาชื่อดังจากสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจ เลือก ‘นินจา’ ไทเลอร์ เบลวินส์ (Tyler Blevins) นักกีฬาอีสปอร์ต และนักแคสเกม (สตรีมเมอร์) ชื่อดังที่มียอดผู้ติดตามในยูทูบสูงถึง 18 ล้านคน และยอดผู้ติดตามในทวิตช์ (Twitch) สูงถึง 11 ล้านคน ขึ้นปกนิตยสารของ ESPN

 

ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาอีสปอร์ตได้ขึ้นปกนิตยสารสื่อกีฬาชั้นนำของสหรัฐฯ พร้อมกับแคปชันว่า ‘เกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก’

 

แน่นอนว่าด้วยยอดผู้ติดตามในโลกออนไลน์ที่รวมแล้วสูงกว่านักกีฬาอาชีพ อย่าง เลอบรอน เจมส์ ยอดนักบาสฯ จาก NBA และคริสเตียโน โรนัลโด ศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของยูเวนตุส และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย บวกกับรายได้ 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาน 16 ล้านบาทต่อเดือน จากสมาชิกของ ทวิตช์ ยูทูบ และผู้สนับสนุนต่างๆ

 

 

จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไม ESPN ถึงตัดสินใจเลือกให้ ไทเลอร์ เป็นตัวแทนนักกีฬาอีสปอร์ตคนแรกขึ้นปกนิตยสาร

 

แต่เมื่อเราลงลึกไปถึงตัวตนของไทเลอร์ที่ใช้ฉายาในวงการเกมว่า นินจา ผู้นี้เรากลับได้ค้นพบตัวตน และแง่คิดที่น่าสนใจสำหรับนักกีฬาที่อาจเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของวงการอีสปอร์ตในเวลานี้

 

ไทเลอร์ เบลวินส์ คือใคร

 

 

ชายหนุ่มวัย 27 ปีผู้นี้ปัจจุบันมีรายได้สูงถึง 16 ล้านบาทต่อเดือน และไทเลอร์ยังเคยให้สัมภาษณ์อีกว่า เขาเคยได้รับเงินบริจาคจากแฟนคลับเพื่อให้กำลังใจในทวิตช์ครั้งหนึ่งสูงถึง 40,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาน 1.2 ล้านบาท

 

ไทเลอร์ เป็นนักกีฬาอีสปอร์ตและนักแคสเกม (สตรีมเมอร์) เกม Fortnine เป็นหลักโดยเกมนี้เป็นเกมที่แข่งขันกันด้วยการกระโดดออกจากรถบัสลงบนเกาะพร้อมกับผู้เล่นอีก 99 คน ซึ่งทุกคนต้องฟาร์มและต่อสู้จนเหลือเป็นคนสุดท้าย

 

นินจาเล่น Fortnite กับเดรก

 

นักกีฬาอีสปอร์ตผู้นี้ยังเคยจับคู่เล่นเกม Fortnine พร้อมกับเดรก (Drake) ศิลปินชื่อดัง ซึ่งครั้งนั้นเขาสร้างสถิติมียอดคนดูสดสูงถึง 667,000 คนผ่านทวิตช์ นอกจากนี้ยังเคยเล่นเกมกับศิลปิน ดารา และนักกีฬาชื่อดังอีกหลายคน

 

จุดเริ่มต้นของนินจา

 

https://www.instagram.com/p/Bl9c4xbhhOo/?hl=en&taken-by=ninja

 

เหมือนกับนักกีฬาหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตนเองเลือก ไทเลอร์ เป็นคนที่ค้นพบในสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างรวดเร็ว พ่อของไทเลอร์ ชัคก็เป็นเกมเมอร์ ซึ่งมักจะเล่นเกมค่าย Sega หลังจากที่ลูกๆ เข้านอน ขณะที่แม่ ซินเทีย ตั้งกฎไว้ว่าทุกคนต้องรักษาเกรดการเรียนให้ได้ มีงานทำเมื่อพวกเขาโตพอ และทุกชั่วโมงที่เล่นเกม พวกเขาต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกด้วยเวลาเท่ากับที่เล่น

 

ไทเลอร์ที่เติบโตมากับฟุตบอลและเกม เขาเริ่มพบว่าตนเองมีพรสวรรค์ด้านเกมกับพี่ชาย

 

“แม้ว่าเขาจะปล่อยจอย สุดท้ายเขาก็ยังชนะอยู่ดี” โจนาธาน พี่ชายของไทเลอร์รำลึกถึงวันที่พวกเขาเล่นเกมร่วมกัน

 

เขาเริ่มสมัครลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์แรกในปี 2009 ด้วยวัย 17 ปีกับเกม Halo 3 ในโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ พร้อมกับข้อแม้ว่าคุณพ่อต้องเดินทางไปด้วย

 

ไทเลอร์และทีมของเขาเล่นเกมและใช้ชีวิตในห้องใต้ดินในของบ้านเขา จนถึงจุดที่พ่อแม่เขาเริ่มไล่เด็กบางคนกลับบ้าน แต่สุดท้ายเขาก็สามารถลงแข่งขันในระดับอาชีพกับเกม Halo และเริ่มต้นสตรีมมิงในช่วงที่เรียนปีสองของมหาวิทยาลัยในปี 2011 และนั่นคือช่วงที่เขาเริ่มใช้ชีวิตลงตัวกับการเล่มเกมเป็นอาชีพ

 

เขาลาออกจากบริษัท Noodles & Company ลาออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนั้นได้ เพราะในเวลานั้นเขาสามารถสร้างรายได้ 80,000-90,000 เหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 3 ล้านบาทต่อปี ซึ่งฉายานินจานี้เขาได้มาจากท่าในเกม Halo นั่นเอง

 

ไทเลอร์ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ถึงสิ่งที่เขาตกลงกับผู้ปกครองในวันที่เขาตัดสินใจก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักกีฬาอีสปอร์ต และเกมแคสติ้งเป็นอาชีพว่า

 

“ผมทำงานที่ Noodles & Company และผมเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ระหว่างที่ผมกำลังทำทุกอย่างในวงการเกม

 

“ผมพยายามที่จะโฟกัสกับการเรียนเพื่ออนาคตของผมเช่นเดียวกับการทำงาน ทั้ง เล่นและสตรีมมิงเกม Halo

 

“ถ้าผมโฟกัสเรื่องการเรียนและฟุตบอล ผมจะได้รางวัลเป็นการเล่นเกมมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

 

“ผมอยากบอกกับเด็กๆ ทุกคนว่า คุณไม่สามารถทิ้งทุกอย่างและโฟกัสที่การเล่นเกมเป็นอาชีพอย่างเดียวได้ เพราะในเวลานี้การแข่งขันในการเล่นเกมเป็นอาชีพก็สูงมาก และคุณต้องมั่นใจว่าคุณวางแผนสำหรับอนาคต และแบ่งเวลามาทำให้ความฝันนี้สำเร็จไปพร้อมๆ กัน”

 

นอกจากนี้ในวัยเด็ก ไทเลอร์ยังชื่นชอบการเลียนแบบภาพยนตร์ เวลาที่เขาออกจากโรงภาพยนตร์ เขาจะเลียนแบบประโยคจากในหนังได้ทุกคำที่นักแสดงพูด เขามีพรสวรรค์ในด้านนี้มาก จนผู้ปกครองเขาพยายามผลักดันเข้าวงการการแสดง โดยภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดคือ Interstellar ซึ่งเขาสามารถเลียบแบบ แมทธิว แม็กคอนาเฮย์ นักแสดงนำชายได้อย่างดีเยี่ยม

 

ซึ่งเมื่อความชื่นชอบทั้งสองอย่างมาพบเจอกัน เขาจึงค้นพบหนทางที่จะนำกิจกรรมเพื่อความสนุกมาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับเขา ด้วยการเล่นเกมไปพร้อมกับแคสติ้งเกม

 

เจสสิก้า ผู้จัดการและภรรยาของไทเลอร์

 

 

แม้ว่าไทเลอร์จะมีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องมีคนคอยช่วยให้สามารถโฟกัสในสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ต่างกับนักฟุตบอลที่ต้องมีเอเจนต์คอยดูแลผลประโยชน์นอกสนามให้กับเขา

 

แต่ไทเลอร์โชคดีกว่าใคร เพราะเขาได้พบกับทั้งคู่ชีวิต และผู้จัดการในคนคนเดียวกัน และคนคนนั้นมีชื่อว่า เจสสิก้า กอช (Jessica Goch)

 

ไทเลอร์พบกับแฟนสาวเจส ครั้งแรกในปี 2010 ในการแข่งขัน Halo เธอเป็นคนที่ไม่รู้จักวงการเกมมากนัก และเดินไปขอถ่ายรูปกับไทเลอร์ พร้อมกับความคิดที่ว่า ‘เผื่อวันหนึ่งเขาจะดังขึ้นมา’

 

ปีต่อมาเธอส่งข้อความหาเขาจากทวิตเตอร์ แต่เขาไม่เคยตอบเพราะในตอนนั้นไทเลอร์มีผู้ติดตามแล้วพันกว่าคน

 

https://www.instagram.com/p/Bk-fnyKhodm/?hl=en&taken-by=ninja

 

“ฉันคิดว่าตอนนั้นถือว่าเป็นยอดที่เยอะมาก” (ตอนนี้ไทเลอร์มีผู้ติดตาม 3.3 ล้านคน)

 

จนสุดท้ายทั้งคู่ก็แต่งงานกันเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 และเดินทางไปฮันนีมูนด้วยกันเป็นเวลา 6 วันที่แคริบเบียน แต่นินจาก็ได้ทิ้งข้อความให้กับแฟนๆ ว่าระหว่างที่เขาไปพักนั้นเขาได้เตรียมวิดีโอไว้แล้วเพื่อให้แฟนๆ ได้มีคอนเทนต์ใหม่ๆ ติดตามระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่ และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้พักร้อนในเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา

 

โดยเจสจะเป็นคนคอยรับโทรศัพท์ ดูแลอาหารการกิน จัดระเบียบตารางงานและเวลา พร้อมกับทีมงานจากผู้สนับสนุนที่คอยช่วยให้ไทเลอร์สามารถโฟกัสเกมที่เขาชื่นชอบ

 

ความท้าทายของการเป็นสตรีมเมอร์

 

https://www.instagram.com/p/Bj0xfdhhUmX/?hl=en&taken-by=ninja

 

ไทเลอร์และภรรยาพบว่า สำหรับการเป็นเกมแคสเตอร์ชื่อดัง พวกเขาต้องมีความรับผิดชอบต่อฐานแฟนคลับที่สูงขึ้นทุกวัน โดยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2018 ไทเลอร์หยุดพักเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งผลกระทบที่ตามมาคือเขาเสียยอดผู้ติดตามไปถึง 40,000 คนในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง

 

“คุณอยากรู้ไหมล่ะว่าอะไรคือความท้าทายของอาชีพสตรีมมิง ผมหยุดไปแค่ 48 ชั่วโมง และเสียผู้ติดตามไปถึง 40,000 คนในทวิตช์ ผมจะกลับมาวันนี้ และสู้ต่อไป” ไทเลอร์ทวีตข้อความหลังจากที่เสียผู้ติดตามไปมหาศาลในเวลาเพียงไม่กี่วัน

 

แม้ว่าจะอยู่ในจุดที่หลายคนให้การยอมรับพร้อมกับรายได้มหาศาล ไทเลอร์กลับยอมรับว่าเขามีความกังวลตลอดเวลา ว่าเขาจะเข้าสู่ช่วงขาลงเมื่อใด

 

“เมื่อผมไม่ได้สตรีมมิง ผมจะมีเวลามองกลับไปในช่วงเวลาการเติบโตของอาชีพผม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบ เพราะผมอยากอยู่บ้านเล่นเกมมากกว่า

 

“ผมจะกังวลว่า ผมไม่ได้เล่นกับดารามาสักพักแล้วนะ ผมไม่ได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่มาสักพักแล้ว หรือเพราะว่าผมกำลังเข้าสู่ขาลง เมื่อผมอยู่บ้านผมจะไม่มีเวลาให้คิดถึงเรื่องพวกนั้น”

 

สตรีมเมอร์เปลี่ยนชีวิตพวกเขาเป็นคอนเทนต์ ถ้าคุณดูพวกเขานานพอคุณจะรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นเพื่อนคุณ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่หากคุณไม่หาจุดที่พอดี สุดท้ายอาจจะส่งผลเสียต่อตัวคุณเองได้

 

นอกจากนี้ด้วยบุคลิกของไทเลอร์ที่สนุกสนานและเป็นกันเอง ในการทำงานสตรีมมิงของเขา ไทเลอร์ไม่ได้เลือกจำมุกที่เขาจะใช้ แต่เขาซึมซับมันมาจากภาพยนตร์ ทีวี และเพลง จนเขาสามารถนำมาปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ ซึ่งแม้เขาจะมีไหวพริบมากแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ยังเคยหลุดพูดคำหยาบเหยียดสีผิว ระหว่างที่กำลังแรปสดออกสตรีม จนอีกวันหนึ่งเขาต้องออกมาขอโทษ และสัญญาว่าจะไม่พูดคำหยาบอีกเลย

 

ด้านมืดของอินเทอร์เน็ตสำหรับเกมแคสเตอร์

“ผมจะไม่เล่นกับสตรีมเมอร์ผู้หญิง”

 

เป็นประโยคที่อาจนำพาเขาสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและสังคมได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากหากฟังครั้งแรกทุกคนจะคิดทันทีว่า ไทเลอร์นั้นเหยียดเพศ แต่แท้จริงแล้วเขาต้องการที่จะปกป้องชีวิตคู่ของเขา เพราะไทเลอร์เข้าใจดีว่าอินเทอร์เน็ตคือพื้นที่ที่มีการสร้างข่าวลือเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเป็นพื้นที่ที่เป็นพิษ และมีหลายคนปลดปล่อยด้านมืดที่สุดของพวกเขาออกมา

 

https://www.youtube.com/watch?v=TiW-BVPCbZk&ab_channel=Crowbcat

ตัวอย่างการโทรแจ้งตำรวจจับสตรีมเมอร์

 

ในช่วงเวลาที่ไทเลอร์ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ปกครอง เขาต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่บ้านถูกล้อมด้วยตำรวจพร้อมกับอาวุธปืน เนื่องจากมีคนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ซึ่งไทเลอร์ก็ยืนยันว่าสาเหตุที่เขาไม่อยากเล่นกับสตรีมเมอร์ผู้หญิง เนื่องจากเขาอยากปกป้องชีวิตคู่ของเขา

 

“นี่คือคู่ชีวิตของผม นี่คือคนที่ผมสาบานว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนวันตาย นั่นคือความจริงที่ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาสามารถตัดสินวิธีการที่ผมเลือกใช้ปกป้องความสัมพันธ์ของผม และพยายามทำให้มันเป็นเรื่องการเมือง จะเอาแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

 

ขณะที่ฝั่งเจส แม้ว่าจะไม่มีปัญหาว่าไทเลอร์จะสตรีมกับใคร แต่เธอก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีไม่ต่างกัน

 

“อินสตาแกรมของฉันเต็มไปด้วยคอนเมนต์เพี้ยนๆ ฉันโพสต์ภาพกับเพื่อนสนิทหรือพี่เขย ก็มีคอมเมนต์มาทันทีว่า เธอกำลังนอกใจ”

 

คำแนะนำสำหรับเกมเมอร์และแคสเตอร์ที่ดีในมุมมองของไทเลอร์

 

https://www.instagram.com/p/Bj6BBxbhQjP/?hl=en&taken-by=ninja

 

ไทเลอร์ได้ให้คำแนะนำว่าเกมเมอร์ที่ดีควรฝึก ไม่ใช่เล่น เขาเล่น 50 เกมทุกวัน ซึ่งเขาวิเคราะห์ทุกเกมที่เล่นโดยไม่เคยเบื่อ และเมื่อใดที่เขาแพ้เขาจะหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ ดังนั้นในหนึ่งวันเขาต้องเก็บชัยชนะให้ได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง (ค่าเฉลี่ยชัยชนะอยู่ที่ 15 ครั้ง และสูงสุดที่ 29 ในหนึ่งวัน)

 

“เมื่อผมตายในเกมผมจะหงุดหงิด คุณสามารถเล่นเกมได้ทุกวัน แต่ถ้าคุณไม่ฝึกฝนคุณก็ตาย และก็ต้องเริ่มเกมต่อไป

 

“เมื่อคุณฝึกฝน นั่นหมายถึงคุณจริงจังกับทุกเกมที่เล่น ทำให้คุณไม่มีข้ออ้างเมื่อคุณตายในเกม

 

“คุณอาจจะอ้างว่า เราน่าจะเปลี่ยนตรงนั้น เดินเกมตรงนี้ หรือควรถอย

 

“การฝึกซ้อมคือสิ่งที่หลายคนไม่ค่อยทำ”

 

ขณะที่การแคสเกมนั้น ไทเลอร์เข้าใจดีว่าคนดูเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ดังนั้นเขาจะไม่ทำให้เกิดข้ออ้างที่จะทำให้คนดูเลิกติดตามเขา แม้ว่าเขาจะมีรายได้มหาศาล และชื่อเสียงอันโด่งดังในวันนี้ก็ตาม

 

“หลายคนมีคอนเทนต์ในมือ หลายคนหยุดเมื่อพวกเขาถึงจุดสูงสุด พวกเขาปล่อยให้คนอื่นแทนที่พวกเขา เพราะพวกเขาชะล่าใจ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้น”

 

อนาคตที่ไม่แน่นอน สำหรับ 15 นาทีแห่งความดังที่อาจดับลงได้ทุกเมื่อ

ไทเลอร์รู้ดีว่าการทำงานลักษณะนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาคุณภาพให้กับครอบครัว แต่เช่นเดียวกัน ไทเลอร์ก็ไม่ใช่คนที่วางแผนล่วงหน้า 5 ปี แต่เขามีเป้าหมายเดียวเท่านั้นคือเขาจะหยุดก็ต่อเมื่อเขาสามารถดูแลครอบครัวเขาได้เป็นอย่างดีแล้ว

 

“ผมจะทำต่อไปจนกว่าครอบครัวของผมจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สมมติว่าพรุ่งนี้ผมหยุด เราจะไม่เหลือเงินพอสำหรับชีวิตที่เหลือของเรา ผมบอกกับเจสว่า เราจะไม่มีเวลาคุณภาพร่วมกันในปีนี้ หรือแม้กระทั่งปีหน้า

 

“แต่ถ้าเราทำในสิ่งที่ต้องทำ และผมต่อสู้ต่อไปอีกไม่กี่ปี เราจะสามารถตั้งตัว และครอบครัวของเราได้ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่”

 

สิ่งที่ไทเลอร์พบเจอไม่ต่างกับนักกีฬาอาชีพหลายชนิดที่เขามีความเข้าใจดีว่า ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จนั้นมีไม่นานนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเก็บออมและลงทุนเพื่ออนาคตที่ไม่มีเขาอยู่ในวงการเกมแล้ว

 

ที่สำคัญคือการแข่งขันมักจะสูงขึ้นทุกเมื่อ และหากเขาไม่พัฒนาตัวเอง ก็จะมีคนอีกหลายล้านคนที่พร้อมจะแทนที่และแย่งสิ่งที่มีไปจากเขา

 

สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากโอกาสขึ้นปก ESPN ของไทเลอร์ อาจไม่ใช่คำตอบของข้อถกเถียงว่าอะไรใช่หรือไม่ใช่กีฬา แต่หากเป็นการหาคำตอบว่า หากคุณเป็นเกมเมอร์หรือสตรีมเมอร์ คุณต้องเข้าใจความเสี่ยง และต้องเสียสละอะไรบ้าง หากคุณจะเลือกเดินทางสายเดียวกับไทเลอร์ ซึ่งความสำเร็จก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครสามารถรับรองได้ ไม่ว่าอีสปอร์ตจะใช่หรือไม่ใช่กีฬาก็ตาม

 

และที่สำคัญคือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมอีสปอร์ตภายในประเทศไทย จำเป็นต้องมีความเข้าใจกับแนวทางการสนับสนุนเยาวชนสำหรับส่งเสริมการแข่งขันอีสปอร์ตทั้งวงการ

 

เพราะหากเราติดกับอยู่กับคำถามเพียงแค่ว่า อีสปอร์ตใช่หรือไม่ใช่กีฬา สุดท้ายคำตอบที่เราได้มา อาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลยก็เป็นได้

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

The post ไทเลอร์ ‘นินจา’ เบลวินส์ นักกีฬาอีสปอร์ตคนแรกที่ได้ขึ้นปก ESPN appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/ninja-first-esports-player-featured-on-espn-magazine-cover/feed/ 0