ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่มีกระแสถกเถียงกันว่าอีสปอร์ตไม่ใช […]
The post ไทเลอร์ ‘นินจา’ เบลวินส์ นักกีฬาอีสปอร์ตคนแรกที่ได้ขึ้นปก ESPN appeared first on THE STANDARD.
]]>ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่มีกระแสถกเถียงกันว่าอีสปอร์ตไม่ใช่กีฬา วงการกีฬาก็มักจะมีข่าวให้การยอมรับอีสปอร์ตมากขึ้นทุกครั้ง โดยล่าสุด EPSN สื่อกีฬาชื่อดังจากสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจ เลือก ‘นินจา’ ไทเลอร์ เบลวินส์ (Tyler Blevins) นักกีฬาอีสปอร์ต และนักแคสเกม (สตรีมเมอร์) ชื่อดังที่มียอดผู้ติดตามในยูทูบสูงถึง 18 ล้านคน และยอดผู้ติดตามในทวิตช์ (Twitch) สูงถึง 11 ล้านคน ขึ้นปกนิตยสารของ ESPN
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาอีสปอร์ตได้ขึ้นปกนิตยสารสื่อกีฬาชั้นนำของสหรัฐฯ พร้อมกับแคปชันว่า ‘เกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก’
แน่นอนว่าด้วยยอดผู้ติดตามในโลกออนไลน์ที่รวมแล้วสูงกว่านักกีฬาอาชีพ อย่าง เลอบรอน เจมส์ ยอดนักบาสฯ จาก NBA และคริสเตียโน โรนัลโด ศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของยูเวนตุส และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย บวกกับรายได้ 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาน 16 ล้านบาทต่อเดือน จากสมาชิกของ ทวิตช์ ยูทูบ และผู้สนับสนุนต่างๆ
So excited to the first professional gamer to be featured on @espn the Magazine. Cover and profile will be shown on Sports Center tomorrow in the 7 AM EST hour. pic.twitter.com/gzlSJihroM
— Ninja (@Ninja) September 18, 2018
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไม ESPN ถึงตัดสินใจเลือกให้ ไทเลอร์ เป็นตัวแทนนักกีฬาอีสปอร์ตคนแรกขึ้นปกนิตยสาร
แต่เมื่อเราลงลึกไปถึงตัวตนของไทเลอร์ที่ใช้ฉายาในวงการเกมว่า นินจา ผู้นี้เรากลับได้ค้นพบตัวตน และแง่คิดที่น่าสนใจสำหรับนักกีฬาที่อาจเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของวงการอีสปอร์ตในเวลานี้
ไทเลอร์ เบลวินส์ คือใคร
ชายหนุ่มวัย 27 ปีผู้นี้ปัจจุบันมีรายได้สูงถึง 16 ล้านบาทต่อเดือน และไทเลอร์ยังเคยให้สัมภาษณ์อีกว่า เขาเคยได้รับเงินบริจาคจากแฟนคลับเพื่อให้กำลังใจในทวิตช์ครั้งหนึ่งสูงถึง 40,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาน 1.2 ล้านบาท
ไทเลอร์ เป็นนักกีฬาอีสปอร์ตและนักแคสเกม (สตรีมเมอร์) เกม Fortnine เป็นหลักโดยเกมนี้เป็นเกมที่แข่งขันกันด้วยการกระโดดออกจากรถบัสลงบนเกาะพร้อมกับผู้เล่นอีก 99 คน ซึ่งทุกคนต้องฟาร์มและต่อสู้จนเหลือเป็นคนสุดท้าย
นินจาเล่น Fortnite กับเดรก
นักกีฬาอีสปอร์ตผู้นี้ยังเคยจับคู่เล่นเกม Fortnine พร้อมกับเดรก (Drake) ศิลปินชื่อดัง ซึ่งครั้งนั้นเขาสร้างสถิติมียอดคนดูสดสูงถึง 667,000 คนผ่านทวิตช์ นอกจากนี้ยังเคยเล่นเกมกับศิลปิน ดารา และนักกีฬาชื่อดังอีกหลายคน
จุดเริ่มต้นของนินจา
https://www.instagram.com/p/Bl9c4xbhhOo/?hl=en&taken-by=ninja
เหมือนกับนักกีฬาหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตนเองเลือก ไทเลอร์ เป็นคนที่ค้นพบในสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างรวดเร็ว พ่อของไทเลอร์ ชัคก็เป็นเกมเมอร์ ซึ่งมักจะเล่นเกมค่าย Sega หลังจากที่ลูกๆ เข้านอน ขณะที่แม่ ซินเทีย ตั้งกฎไว้ว่าทุกคนต้องรักษาเกรดการเรียนให้ได้ มีงานทำเมื่อพวกเขาโตพอ และทุกชั่วโมงที่เล่นเกม พวกเขาต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกด้วยเวลาเท่ากับที่เล่น
ไทเลอร์ที่เติบโตมากับฟุตบอลและเกม เขาเริ่มพบว่าตนเองมีพรสวรรค์ด้านเกมกับพี่ชาย
“แม้ว่าเขาจะปล่อยจอย สุดท้ายเขาก็ยังชนะอยู่ดี” โจนาธาน พี่ชายของไทเลอร์รำลึกถึงวันที่พวกเขาเล่นเกมร่วมกัน
เขาเริ่มสมัครลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์แรกในปี 2009 ด้วยวัย 17 ปีกับเกม Halo 3 ในโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ พร้อมกับข้อแม้ว่าคุณพ่อต้องเดินทางไปด้วย
ไทเลอร์และทีมของเขาเล่นเกมและใช้ชีวิตในห้องใต้ดินในของบ้านเขา จนถึงจุดที่พ่อแม่เขาเริ่มไล่เด็กบางคนกลับบ้าน แต่สุดท้ายเขาก็สามารถลงแข่งขันในระดับอาชีพกับเกม Halo และเริ่มต้นสตรีมมิงในช่วงที่เรียนปีสองของมหาวิทยาลัยในปี 2011 และนั่นคือช่วงที่เขาเริ่มใช้ชีวิตลงตัวกับการเล่มเกมเป็นอาชีพ
เขาลาออกจากบริษัท Noodles & Company ลาออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนั้นได้ เพราะในเวลานั้นเขาสามารถสร้างรายได้ 80,000-90,000 เหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 3 ล้านบาทต่อปี ซึ่งฉายานินจานี้เขาได้มาจากท่าในเกม Halo นั่นเอง
ไทเลอร์ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ถึงสิ่งที่เขาตกลงกับผู้ปกครองในวันที่เขาตัดสินใจก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักกีฬาอีสปอร์ต และเกมแคสติ้งเป็นอาชีพว่า
“ผมทำงานที่ Noodles & Company และผมเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ระหว่างที่ผมกำลังทำทุกอย่างในวงการเกม
“ผมพยายามที่จะโฟกัสกับการเรียนเพื่ออนาคตของผมเช่นเดียวกับการทำงาน ทั้ง เล่นและสตรีมมิงเกม Halo
“ถ้าผมโฟกัสเรื่องการเรียนและฟุตบอล ผมจะได้รางวัลเป็นการเล่นเกมมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้
“ผมอยากบอกกับเด็กๆ ทุกคนว่า คุณไม่สามารถทิ้งทุกอย่างและโฟกัสที่การเล่นเกมเป็นอาชีพอย่างเดียวได้ เพราะในเวลานี้การแข่งขันในการเล่นเกมเป็นอาชีพก็สูงมาก และคุณต้องมั่นใจว่าคุณวางแผนสำหรับอนาคต และแบ่งเวลามาทำให้ความฝันนี้สำเร็จไปพร้อมๆ กัน”
นอกจากนี้ในวัยเด็ก ไทเลอร์ยังชื่นชอบการเลียนแบบภาพยนตร์ เวลาที่เขาออกจากโรงภาพยนตร์ เขาจะเลียนแบบประโยคจากในหนังได้ทุกคำที่นักแสดงพูด เขามีพรสวรรค์ในด้านนี้มาก จนผู้ปกครองเขาพยายามผลักดันเข้าวงการการแสดง โดยภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดคือ Interstellar ซึ่งเขาสามารถเลียบแบบ แมทธิว แม็กคอนาเฮย์ นักแสดงนำชายได้อย่างดีเยี่ยม
ซึ่งเมื่อความชื่นชอบทั้งสองอย่างมาพบเจอกัน เขาจึงค้นพบหนทางที่จะนำกิจกรรมเพื่อความสนุกมาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับเขา ด้วยการเล่นเกมไปพร้อมกับแคสติ้งเกม
เจสสิก้า ผู้จัดการและภรรยาของไทเลอร์
แม้ว่าไทเลอร์จะมีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องมีคนคอยช่วยให้สามารถโฟกัสในสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ต่างกับนักฟุตบอลที่ต้องมีเอเจนต์คอยดูแลผลประโยชน์นอกสนามให้กับเขา
แต่ไทเลอร์โชคดีกว่าใคร เพราะเขาได้พบกับทั้งคู่ชีวิต และผู้จัดการในคนคนเดียวกัน และคนคนนั้นมีชื่อว่า เจสสิก้า กอช (Jessica Goch)
ไทเลอร์พบกับแฟนสาวเจส ครั้งแรกในปี 2010 ในการแข่งขัน Halo เธอเป็นคนที่ไม่รู้จักวงการเกมมากนัก และเดินไปขอถ่ายรูปกับไทเลอร์ พร้อมกับความคิดที่ว่า ‘เผื่อวันหนึ่งเขาจะดังขึ้นมา’
ปีต่อมาเธอส่งข้อความหาเขาจากทวิตเตอร์ แต่เขาไม่เคยตอบเพราะในตอนนั้นไทเลอร์มีผู้ติดตามแล้วพันกว่าคน
https://www.instagram.com/p/Bk-fnyKhodm/?hl=en&taken-by=ninja
“ฉันคิดว่าตอนนั้นถือว่าเป็นยอดที่เยอะมาก” (ตอนนี้ไทเลอร์มีผู้ติดตาม 3.3 ล้านคน)
จนสุดท้ายทั้งคู่ก็แต่งงานกันเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 และเดินทางไปฮันนีมูนด้วยกันเป็นเวลา 6 วันที่แคริบเบียน แต่นินจาก็ได้ทิ้งข้อความให้กับแฟนๆ ว่าระหว่างที่เขาไปพักนั้นเขาได้เตรียมวิดีโอไว้แล้วเพื่อให้แฟนๆ ได้มีคอนเทนต์ใหม่ๆ ติดตามระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่ และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้พักร้อนในเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา
โดยเจสจะเป็นคนคอยรับโทรศัพท์ ดูแลอาหารการกิน จัดระเบียบตารางงานและเวลา พร้อมกับทีมงานจากผู้สนับสนุนที่คอยช่วยให้ไทเลอร์สามารถโฟกัสเกมที่เขาชื่นชอบ
ความท้าทายของการเป็นสตรีมเมอร์
https://www.instagram.com/p/Bj0xfdhhUmX/?hl=en&taken-by=ninja
ไทเลอร์และภรรยาพบว่า สำหรับการเป็นเกมแคสเตอร์ชื่อดัง พวกเขาต้องมีความรับผิดชอบต่อฐานแฟนคลับที่สูงขึ้นทุกวัน โดยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2018 ไทเลอร์หยุดพักเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งผลกระทบที่ตามมาคือเขาเสียยอดผู้ติดตามไปถึง 40,000 คนในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง
“คุณอยากรู้ไหมล่ะว่าอะไรคือความท้าทายของอาชีพสตรีมมิง ผมหยุดไปแค่ 48 ชั่วโมง และเสียผู้ติดตามไปถึง 40,000 คนในทวิตช์ ผมจะกลับมาวันนี้ และสู้ต่อไป” ไทเลอร์ทวีตข้อความหลังจากที่เสียผู้ติดตามไปมหาศาลในเวลาเพียงไม่กี่วัน
แม้ว่าจะอยู่ในจุดที่หลายคนให้การยอมรับพร้อมกับรายได้มหาศาล ไทเลอร์กลับยอมรับว่าเขามีความกังวลตลอดเวลา ว่าเขาจะเข้าสู่ช่วงขาลงเมื่อใด
“เมื่อผมไม่ได้สตรีมมิง ผมจะมีเวลามองกลับไปในช่วงเวลาการเติบโตของอาชีพผม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบ เพราะผมอยากอยู่บ้านเล่นเกมมากกว่า
“ผมจะกังวลว่า ผมไม่ได้เล่นกับดารามาสักพักแล้วนะ ผมไม่ได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่มาสักพักแล้ว หรือเพราะว่าผมกำลังเข้าสู่ขาลง เมื่อผมอยู่บ้านผมจะไม่มีเวลาให้คิดถึงเรื่องพวกนั้น”
สตรีมเมอร์เปลี่ยนชีวิตพวกเขาเป็นคอนเทนต์ ถ้าคุณดูพวกเขานานพอคุณจะรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นเพื่อนคุณ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่หากคุณไม่หาจุดที่พอดี สุดท้ายอาจจะส่งผลเสียต่อตัวคุณเองได้
นอกจากนี้ด้วยบุคลิกของไทเลอร์ที่สนุกสนานและเป็นกันเอง ในการทำงานสตรีมมิงของเขา ไทเลอร์ไม่ได้เลือกจำมุกที่เขาจะใช้ แต่เขาซึมซับมันมาจากภาพยนตร์ ทีวี และเพลง จนเขาสามารถนำมาปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ ซึ่งแม้เขาจะมีไหวพริบมากแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ยังเคยหลุดพูดคำหยาบเหยียดสีผิว ระหว่างที่กำลังแรปสดออกสตรีม จนอีกวันหนึ่งเขาต้องออกมาขอโทษ และสัญญาว่าจะไม่พูดคำหยาบอีกเลย
ด้านมืดของอินเทอร์เน็ตสำหรับเกมแคสเตอร์
“ผมจะไม่เล่นกับสตรีมเมอร์ผู้หญิง”
เป็นประโยคที่อาจนำพาเขาสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและสังคมได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากหากฟังครั้งแรกทุกคนจะคิดทันทีว่า ไทเลอร์นั้นเหยียดเพศ แต่แท้จริงแล้วเขาต้องการที่จะปกป้องชีวิตคู่ของเขา เพราะไทเลอร์เข้าใจดีว่าอินเทอร์เน็ตคือพื้นที่ที่มีการสร้างข่าวลือเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเป็นพื้นที่ที่เป็นพิษ และมีหลายคนปลดปล่อยด้านมืดที่สุดของพวกเขาออกมา
https://www.youtube.com/watch?v=TiW-BVPCbZk&ab_channel=Crowbcat
ตัวอย่างการโทรแจ้งตำรวจจับสตรีมเมอร์
ในช่วงเวลาที่ไทเลอร์ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ปกครอง เขาต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่บ้านถูกล้อมด้วยตำรวจพร้อมกับอาวุธปืน เนื่องจากมีคนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ซึ่งไทเลอร์ก็ยืนยันว่าสาเหตุที่เขาไม่อยากเล่นกับสตรีมเมอร์ผู้หญิง เนื่องจากเขาอยากปกป้องชีวิตคู่ของเขา
“นี่คือคู่ชีวิตของผม นี่คือคนที่ผมสาบานว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนวันตาย นั่นคือความจริงที่ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาสามารถตัดสินวิธีการที่ผมเลือกใช้ปกป้องความสัมพันธ์ของผม และพยายามทำให้มันเป็นเรื่องการเมือง จะเอาแบบนั้นจริงๆ เหรอ”
ขณะที่ฝั่งเจส แม้ว่าจะไม่มีปัญหาว่าไทเลอร์จะสตรีมกับใคร แต่เธอก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีไม่ต่างกัน
“อินสตาแกรมของฉันเต็มไปด้วยคอนเมนต์เพี้ยนๆ ฉันโพสต์ภาพกับเพื่อนสนิทหรือพี่เขย ก็มีคอมเมนต์มาทันทีว่า เธอกำลังนอกใจ”
คำแนะนำสำหรับเกมเมอร์และแคสเตอร์ที่ดีในมุมมองของไทเลอร์
https://www.instagram.com/p/Bj6BBxbhQjP/?hl=en&taken-by=ninja
ไทเลอร์ได้ให้คำแนะนำว่าเกมเมอร์ที่ดีควรฝึก ไม่ใช่เล่น เขาเล่น 50 เกมทุกวัน ซึ่งเขาวิเคราะห์ทุกเกมที่เล่นโดยไม่เคยเบื่อ และเมื่อใดที่เขาแพ้เขาจะหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ ดังนั้นในหนึ่งวันเขาต้องเก็บชัยชนะให้ได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง (ค่าเฉลี่ยชัยชนะอยู่ที่ 15 ครั้ง และสูงสุดที่ 29 ในหนึ่งวัน)
“เมื่อผมตายในเกมผมจะหงุดหงิด คุณสามารถเล่นเกมได้ทุกวัน แต่ถ้าคุณไม่ฝึกฝนคุณก็ตาย และก็ต้องเริ่มเกมต่อไป
“เมื่อคุณฝึกฝน นั่นหมายถึงคุณจริงจังกับทุกเกมที่เล่น ทำให้คุณไม่มีข้ออ้างเมื่อคุณตายในเกม
“คุณอาจจะอ้างว่า เราน่าจะเปลี่ยนตรงนั้น เดินเกมตรงนี้ หรือควรถอย
“การฝึกซ้อมคือสิ่งที่หลายคนไม่ค่อยทำ”
ขณะที่การแคสเกมนั้น ไทเลอร์เข้าใจดีว่าคนดูเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ดังนั้นเขาจะไม่ทำให้เกิดข้ออ้างที่จะทำให้คนดูเลิกติดตามเขา แม้ว่าเขาจะมีรายได้มหาศาล และชื่อเสียงอันโด่งดังในวันนี้ก็ตาม
“หลายคนมีคอนเทนต์ในมือ หลายคนหยุดเมื่อพวกเขาถึงจุดสูงสุด พวกเขาปล่อยให้คนอื่นแทนที่พวกเขา เพราะพวกเขาชะล่าใจ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้น”
อนาคตที่ไม่แน่นอน สำหรับ 15 นาทีแห่งความดังที่อาจดับลงได้ทุกเมื่อ
ไทเลอร์รู้ดีว่าการทำงานลักษณะนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาคุณภาพให้กับครอบครัว แต่เช่นเดียวกัน ไทเลอร์ก็ไม่ใช่คนที่วางแผนล่วงหน้า 5 ปี แต่เขามีเป้าหมายเดียวเท่านั้นคือเขาจะหยุดก็ต่อเมื่อเขาสามารถดูแลครอบครัวเขาได้เป็นอย่างดีแล้ว
“ผมจะทำต่อไปจนกว่าครอบครัวของผมจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สมมติว่าพรุ่งนี้ผมหยุด เราจะไม่เหลือเงินพอสำหรับชีวิตที่เหลือของเรา ผมบอกกับเจสว่า เราจะไม่มีเวลาคุณภาพร่วมกันในปีนี้ หรือแม้กระทั่งปีหน้า
“แต่ถ้าเราทำในสิ่งที่ต้องทำ และผมต่อสู้ต่อไปอีกไม่กี่ปี เราจะสามารถตั้งตัว และครอบครัวของเราได้ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่”
สิ่งที่ไทเลอร์พบเจอไม่ต่างกับนักกีฬาอาชีพหลายชนิดที่เขามีความเข้าใจดีว่า ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จนั้นมีไม่นานนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเก็บออมและลงทุนเพื่ออนาคตที่ไม่มีเขาอยู่ในวงการเกมแล้ว
ที่สำคัญคือการแข่งขันมักจะสูงขึ้นทุกเมื่อ และหากเขาไม่พัฒนาตัวเอง ก็จะมีคนอีกหลายล้านคนที่พร้อมจะแทนที่และแย่งสิ่งที่มีไปจากเขา
สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากโอกาสขึ้นปก ESPN ของไทเลอร์ อาจไม่ใช่คำตอบของข้อถกเถียงว่าอะไรใช่หรือไม่ใช่กีฬา แต่หากเป็นการหาคำตอบว่า หากคุณเป็นเกมเมอร์หรือสตรีมเมอร์ คุณต้องเข้าใจความเสี่ยง และต้องเสียสละอะไรบ้าง หากคุณจะเลือกเดินทางสายเดียวกับไทเลอร์ ซึ่งความสำเร็จก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครสามารถรับรองได้ ไม่ว่าอีสปอร์ตจะใช่หรือไม่ใช่กีฬาก็ตาม
และที่สำคัญคือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมอีสปอร์ตภายในประเทศไทย จำเป็นต้องมีความเข้าใจกับแนวทางการสนับสนุนเยาวชนสำหรับส่งเสริมการแข่งขันอีสปอร์ตทั้งวงการ
เพราะหากเราติดกับอยู่กับคำถามเพียงแค่ว่า อีสปอร์ตใช่หรือไม่ใช่กีฬา สุดท้ายคำตอบที่เราได้มา อาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลยก็เป็นได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
The post ไทเลอร์ ‘นินจา’ เบลวินส์ นักกีฬาอีสปอร์ตคนแรกที่ได้ขึ้นปก ESPN appeared first on THE STANDARD.
]]>