Eddie Howe – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 29 Nov 2023 03:41:36 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เอ็ดดี ฮาว มองผู้ตัดสินไม่ควรให้จุดโทษในช่วงท้ายเกม หลังทีมบุกเสมอเปแอสเช 1-1 ศึก UCL เมื่อคืนนี้ https://thestandard.co/eddie-howe-referees-should-not-award-penalties-late/ Wed, 29 Nov 2023 03:41:36 +0000 https://thestandard.co/?p=871174 Eddie Howe

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) หลังจบเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2023/ […]

The post เอ็ดดี ฮาว มองผู้ตัดสินไม่ควรให้จุดโทษในช่วงท้ายเกม หลังทีมบุกเสมอเปแอสเช 1-1 ศึก UCL เมื่อคืนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Eddie Howe

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) หลังจบเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม (กลุ่ม F) ที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านเสมอนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา

 

เอ็ดดี ฮาว กุนซือวัย 46 ปี ของนิวคาสเซิลฯ ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ทีมของเขาไม่ควรเสียจุดโทษในช่วงท้ายเกม หลังผู้ตัดสินมองว่าจังหวะที่อุสมาน เดมเบเล เปิดบอลไปโดนแขนของวาเลนติโน ลิฟราเมนโต ในกรอบเขตโทษเป็นจังหวะฟาล์วซึ่งนำมาซึ่งจุดโทษ และประตูตีเสมอของคีเลียน เอ็มบัปเป ในนาที 90+8

 

“ในความคิดของผม มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้อง ลูกบอลโดนหน้าอกของเขา (ลิฟราเมนโต) ก่อน แล้วจึงเด้งขึ้นมาชนมือของเขา แต่ผมไม่คิดว่ามือของเขาอยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ ผมรู้สึกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ไม่ดี 

 

“มันน่าหงุดหงิดอย่างมากสำหรับเรา เพราะคุณรู้ดีว่าในขณะนั้นเวลาในเกมเหลือน้อยเพียงใด แต่ตอนนี้เราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว” ฮาวกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม หลังจบเกมที่เปแอสเชเสมอนิวคาสเซิลฯ 1-1 ทำให้ทั้งสองทีมแบ่งไปทีมละแต้ม โดยโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่บุกไปชนะเอซี มิลาน 1-3 ในคืนเดียวกันการันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ไปก่อนแล้ว ส่วนเปแอสเช, นิวคาสเซิลฯ และเอซี มิลาน ต้องไปลุ้นในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

 

อ้างอิง:

The post เอ็ดดี ฮาว มองผู้ตัดสินไม่ควรให้จุดโทษในช่วงท้ายเกม หลังทีมบุกเสมอเปแอสเช 1-1 ศึก UCL เมื่อคืนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นิวคาสเซิลคืนสู่ UCL ในรอบ 20 ปี! ถอดรหัสความสำเร็จอันน่าทึ่งของ ‘แม็กพายส์’ https://thestandard.co/newcastle-ucl-in-20-years/ Tue, 23 May 2023 09:32:03 +0000 https://thestandard.co/?p=794186

หากมีใครบอกว่าต้นฤดูกาล 2022/23 นิวคาสเซิลจะติด Top 4 แ […]

The post นิวคาสเซิลคืนสู่ UCL ในรอบ 20 ปี! ถอดรหัสความสำเร็จอันน่าทึ่งของ ‘แม็กพายส์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

หากมีใครบอกว่าต้นฤดูกาล 2022/23 นิวคาสเซิลจะติด Top 4 และได้ไปแชมเปียนส์​ลีก บางทีคนคนนั้นอาจถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ จากคนรอบข้างได้

           

แต่ถึงตอนนี้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กำลังจะได้กลับไปเล่นฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังจากที่ทีมเสมอกับเลสเตอร์ ซิตี้ 0-0 ซึ่งทำให้แต้มเพียงพอต่อการจบฤดูกาลใน 4 อันดับแรก

 

จากทีมอันดับที่ 11 ในฤดูกาลที่แล้ว เหล่าขุนพล ‘แม็กพายส์’​ ก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? เดี๋ยวเรามาลองถอดรหัสความสำเร็จอันน่าทึ่งของพวกเขาผ่านบทความชิ้นนี้ไปด้วยกัน

 

 

กลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก

 

ย้อนกลับไปช่วงที่กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียในนาม PIF เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มทุนที่เข้ามาเทกโอเวอร์นิวคาสเซิลในเดือนตุลาคม ปี 2021 ต่อจาก ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสรคนเดิม ที่ติดอันดับเจ้าของสโมสรที่ย่ำแย่ที่สุด เพราะไม่มีการลงทุนใดๆ เพื่อความสำเร็จของทีมเลย

 

ในช่วงเวลานั้นมีการจับตามองว่า นิวคาสเซิลจะถูกเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหน? เพราะถึง PIF จะมาพร้อมกับทุนมากมายมหาศาลไม่รู้จบ แต่ในเกมฟุตบอลที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบมากมายนั้น ต่อให้มีเงินอย่างเดียวก็ไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จ (ซึ่งเรื่องนี้เราเห็นได้ชัดจากกรณีของเชลซี หลังการเข้ามาของ ท็อดด์ โบห์ลี)

           

สิ่งแรกที่เจ้าของใหม่ทำ (ภายใต้การบริหารของ อแมนดา สเตฟลีย์ ผู้เจรจาเทกโอเวอร์และได้รับมอบหมายในการจัดการสโมสร) คือการหา ‘คนที่ใช่’ สำหรับการสร้างนิวคาสเซิลใหม่ขึ้นมาจากเถ้าถ่านก่อน

           

ในช่วงเวลานั้นมีการพูดถึงโค้ชระดับชั้นนำของวงการเป็นจำนวนมากที่ว่างงานอยู่และดูน่าสนใจ แต่คนที่สเตฟลีย์และฝ่ายบริหารของสโมสรตัดสินใจเลือกให้ทำหน้าที่นี้คือ เอ็ดดี ฮาว ผู้จัดการทีมคนรุ่นใหม่ฝีมือดีของอังกฤษ

           

แต่การแต่งตั้งฮาวก็นำมาซึ่งคำถามอยู่ไม่น้อย เพราะถึงจะเป็นหนึ่งในคลื่นลูกใหม่ที่มาแรง แต่อดีตผู้จัดการทีมบอร์นมัธเองก็ถูกมองว่าอาจมือไม่ถึงสำหรับงานนี้ และอาจเป็นแค่คนคุมทีม ‘ชั่วคราว’ ระหว่างที่รอเจอผู้จัดการทีมระดับท็อปที่เหมาะสำหรับทีมจริงๆ

           

ต่อมาเป็นคำถามเรื่องฝีมือ ฮาวพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็น ‘ตัวจริง’ ด้วยการพยายามประกอบร่างนิวคาสเซิลขึ้นมาใหม่จากศูนย์ เปลี่ยนทีมที่เล่นฟุตบอลแบบไร้ทิศทาง ไร้จิตวิญญาณ ให้ค่อยๆ กลายเป็นทีมที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งอาจจะยังเล่นได้ไม่สวยงามนัก แต่ความดุดัน ความแข็งแกร่ง และความใจสู้ คือสิ่งที่ถูกเติมเข้ามา

 

แต่ฮาวก็ไม่ได้เป็นแค่คนเดียวที่สำคัญ เพราะอีกคนที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือ การที่นิวคาสเซิลไปดึงตัว แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการสโมสรคนเก่งของไบรท์ตัน มานั่งแท่นผู้อำนวยการสโมสรของพวกเขาเอง ซึ่งแอชเวิร์ธได้รับการยกย่องในวงการจากการเป็นผู้อำนวยการสโมสรที่มีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยม จากการทำให้ทีมเล็กๆ อย่างไบรท์ตันมีแนวทางและรากฐานที่ไปสู่ความสำเร็จ (ปัจจุบันคือได้เล่นรายการสโมสรยุโรปแน่นอนแล้ว)

           

และแอชเวิร์ธคือคนที่มีส่วนตัดสินใจสำคัญในการหาผู้เล่นเข้ามาเสริมทีม

 

 

Smart Buy ฉลาดซื้อ

 

ถึงจะเป็นนกสาลิกาที่ตกถังน้ำมัน แต่ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะมีกระสุนเงินใช้ได้ไม่จำกัด เพราะกฎ Financial Fair Play มีส่วนในการควบคุมการใช้จ่ายเงินของสโมสรได้อยู่

           

สิ่งที่ฮาวและแอชเวิร์ธทำร่วมกันคือ การพยายามหานักเตะที่ดีและเหมาะสมที่สุด สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงแรกของทีมที่ชัดเจนว่ามีขุมกำลังที่ไม่ดีพอ

           

ตลาดการซื้อ-ขายรอบแรกของนิวคาสเซิลในยุคใหม่ของตลาดฤดูหนาวในปี 2022 พวกเขาไม่ได้ซื้อแบบหว่านแห แต่มีการเลือกนักเตะเข้ามาเสริมทีมด้วยกันทั้งหมด 5 คน ได้แก่ โจ วิลล็อก กองกลางดาวรุ่งจากอาร์เซนอล, คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาประสบการณ์สูงจากแอตเลติโก มาดริด, คริส วูด กองหน้าร่างยักษ์จากเบิร์นลีย์, บรูโน กิมาไรส์ กองกลางอนาคตไกลจากโอลิมปิก ลียง และ แดน เบิร์น ปราการหลัง สายเลือดชาวจอร์ดีที่มาจากไบรท์ตัน (ซึ่งแอชเวิร์ธรู้จักดี)

           

ผลปรากฏว่า ทั้ง 5 นักเตะมีส่วนทำให้นิวคาสเซิลค่อยๆ มีผลงานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ 3 นักเตะที่กลายเป็นคนสำคัญในทีมอย่างทริปเปียร์ ที่มาเติมความเก๋าและความนิ่ง, กิมาไรส์ ห้องเครื่องที่มีความสำคัญที่สุดของทีม และเบิร์น ที่ช่วยขันชะเนาะเกมรับของทีมให้แข็งแกร่งขึ้น

           

นิวคาสเซิลจบฤดูกาลแรกในยุคใหม่ของพวกเขาด้วยอันดับที่ 11 ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจประมาณหนึ่ง

           

และความสำเร็จนั้นถูกต่อยอดในช่วงตลาดการซื้อ-ขายรอบที่ 2 ของพวกเขาในฤดูร้อน 2022 เมื่อทีมเดินหน้าต่อด้วยการคว้าตัว แมตต์ ทาร์เก็ต ฟูลแบ็กสารพัดประโยชน์, สเวน บอตแมน เสาหลักหินที่กลายเป็นคนค้ำยันแนวรับของนิวคาสเซิล ร่วมกับ นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูมือกาว

           

นิวคาสเซิลยังได้ ‘สตาร์’ คนแรกของพวกเขาคือ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าดาวเด่นทีมชาติสวีเดนที่ย้ายมาจากเรอัล โซเซียดาด ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรคือ 63 ล้านปอนด์ ซึ่งความจริงตอนแรกทีมเกือบจะถอดใจแล้ว เพราะค่าตัวที่ถูกตั้งไว้สูงถึง 80 ล้านปอนด์

           

แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในเกมที่นิวคาสเซิลสู้ยิบตาจนเสมอกับแมนฯ ซิตี้ ได้ 3-3 ในช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งประธานสโมสร ยาเซียร์ อัล-รูมายยาน เข้ามาชมเกมพอดี และได้เห็นถึงความพัฒนาอย่างรวดเร็วของทีม และได้เห็นว่าถึง คัลลัม วิลสัน จะเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยม แต่ก็มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ จนทำให้เหลือทางเลือกแค่ คริส วูด

           

การสั่งให้เดินหน้าคว้าตัวอิซัคจึงเกิดขึ้นหลังเกมนั้น

           

ทั้งหมดนี้ร่วมกับนักเตะเดิมของทีมหลายรายอย่างวิลสัน, ฟาเบียน แชร์, ฌอน ลองสตาฟฟ์ และขวัญใจของทีมอย่าง มิเกล อัลมิรอน ช่วยกันเปลี่ยนแปลงนิวคาสเซิลให้กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นแบบผิดหูผิดตา เป็นหนึ่งในทีมที่กล้าพูดได้ว่าดีที่สุดของอังกฤษตั้งแต่เริ่มปี 2022 จนถึงปี 2023 โดยแทบไม่มีนักเตะคนไหนเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าเลย

           

ถามว่าการมีเงินมีส่วนช่วยไหม? มีแน่นอน

           

แต่สิ่งที่ทำให้นิวคาสเซิลมาไกลขนาดนี้คือ การลงทุนที่ยอดเยี่ยมและเลือกตัวเลือกที่ถูกต้อง เหมาะสมกับทีม โดยที่การลงทุนทั้งหมดยังอยู่ในกฎ FFP (นิวคาสเซิลจ่ายค่าเหนื่อยนักฟุตบอลยังไม่เท่าทีมระดับท็อป 6 หรือแม้แต่เอฟเวอร์ตันในเวลานี้)

 

 

ระบบใหม่ ‘The Swarm’

 

ชื่อเสียงของ เอ็ดดี ฮาว ที่เป็นที่โจษจันกันในวงการฟุตบอลอังกฤษคือ การทำทีมเล่นฟุตบอลในสไตล์สวยงาม บอลจากเท้าสู่เท้า และเน้นการคอนโทรลเกม

           

แต่เมื่อมาคุมทีมนิวคาสเซิล ดูเหมือนฮาวจะค้นพบตัวตนใหม่อีกด้านของการเป็นผู้จัดการทีม ด้วยการเปลี่ยนแนวมาเป็นกุนซือเจ้าแท็กติกที่วางหมากการเล่นอย่างแยบยล ไม่เป็นผู้จัดการทีมที่อ่อนต่อโลก ซึ่งสะท้อนผ่านผลงานในทีมอย่างบอร์นมัธ ที่ตกชั้นเพราะยึดมั่นกับการเล่นสวยงามอย่างเดียว

 

จุดที่น่าสนใจคือ ระบบการเล่นใหม่ของนิวคาสเซิลมีพื้นฐานอยู่ที่ ‘เกมรับ’ และเกมรับของพวกเขานั้นไม่ได้หมายถึงการลงมาแพ็กเกมในแดนของตัวเองแล้วรอสวนกลับ

           

ในทางตรงกันข้าม นิวคาสเซิลจะพยายามไล่บีบคู่แข่งตั้งแต่แดนบน ไล่กันแบบดุดันจริงจัง ไล่จนทำให้คู่แข่งไม่สามารถเล่นได้หรือเล่นได้ยากที่สุด และเสียบอลกลับมาไวที่สุด

           

ระบบการเล่นแบบนี้ไม่ใช่ระบบที่ทำได้ง่าย หากแต่ต้องเกิดจากการฝึกซ้อมกันมาเป็นอย่างดี และใช้พลังกาย-พลังใจสูงมากที่จะสามารถเล่นเพรสซิงหนักในระดับนั้นได้

           

แต่ยากแค่ไหนนิวคาสเซิลก็ทำ โดยฮาวได้ติดตั้งระบบการเล่นใหม่ที่มีชื่อเรียกกันเล่นๆ ว่า ‘The Swarm’ ให้กับนิวคาสเซิลในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาช่วงพรีซีซันมหาโหด โดยไอเดียหลักก็คือ การขึ้นไปไล่และล่าบอลจากคู่แข่งแบบเป็น ‘ฝูง’ พยายามเข้าปะทะตัดเกมแบบมีจุดหมาย และพยายามสร้างเกมบุกหลากหลายมุม มีแพตเทิร์นการขึ้นบอลที่หลากหลาย

           

ดังนั้นถึงการเล่นแบบนี้จะเหนื่อยยากแค่ไหน แต่การเตรียมทีมที่เข้มข้นในช่วงพรีซีซันทำให้สภาพร่างกายและจิตใจของนักเตะพร้อมที่จะต่อสู้ และยืนระยะในการต่อสู้ที่หนักหน่วงมาได้ตลอดทั้งฤดูกาล

           

โดยอีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เกมรับของทีมที่แข็งแกร่ง ทะลวงประตูยากสุดๆ เพราะไลน์แบ็กโฟร์และผู้รักษาประตูเหนียวแน่นอย่างมาก และเป็นกลุ่มคนปิดทองหลังพระให้ทีม

 

 

ความหวัง ความผิดหวัง พลัง และสิ่งสำคัญที่สุด

 

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิวคาสเซิลกลายเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมอย่างมากคือ ‘พลัง’ ของเหล่า ‘ทูนอาร์มี’ กองเชียร์ของพวกเขา

           

ทูนอาร์มีนั้นขึ้นชื่อลือชาในอังกฤษว่า เป็นแฟนบอลที่รักสโมสรมากที่สุดทีมหนึ่ง ทรงพลังมากที่สุด และคลั่งไคล้มากที่สุด เพียงแต่ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา พวกเขาต้องทนทุกข์กับการมีเจ้าของสโมสรที่ไม่ให้การสนับสนุนทีม ทำให้นิวคาสเซิลกลายเป็นทีมที่ไร้ซึ่งความหวัง

           

แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็กลายเป็นการจุดประกายให้พวกเขาฮึกเหิมอีกครั้ง และพลังจากกองเชียร์ที่มีความสุขกับการได้เห็นทีมที่รักต่อสู้กับทีมอื่นอย่างสุดชีวิต ก็ทำให้พวกเขายิ่งเชียร์แบบสุดหัวใจกันมากขึ้น

           

พลังที่ส่งแลกกันไปมาระหว่างนักฟุตบอลกับกองเชียร์ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิดเป็นความหวังขึ้นมา

           

ภาพของทูนอาร์มีนับหมื่นที่เดินทางจากไทน์ไซด์ไปยึดจัตุรัสทราฟัลการ์ ใจกลางลอนดอน ในช่วงก่อนเกมนัดชิงลีกคัพกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

 

แต่ถึงพวกเขาจะต้องพบกับความผิดหวังในวันนั้น (แพ้ต่อแมนฯ ยูไนเต็ด 0-2) แต่นิวคาสเซิลก็เปลี่ยนความผิดหวังให้เป็นพลัง เพราะพวกเขารู้ดีว่าทีมมีโอกาสที่จะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด อย่างเช่น การติดกลุ่มไปรายการสโมสรยุโรป โดยเฉพาะในรายการใหญ่อย่างยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

           

ในขณะเดียวกัน เอ็ดดี ฮาว รู้ดีว่าพลังอันยิ่งใหญ่นั้นต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง และงานของเขาคือ การพยายามทำให้ทีมยังคงรักษาสมาธิไปกับการทำหน้าที่ในสนาม ไม่อ่อนไหวไปกับเสียงเชียร์หรือเสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้นจากแฟนบอลที่พร้อมจะสวิงไปมาตลอดเวลา

           

นิวคาสเซิลต้องแบกรับความหวังและพลังของแฟนบอลแบบมีสติ เพราะฮาวรู้ดีว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่จะพาทีมไปสู่จุดสูงสุดเท่าที่จะไปได้คือ ‘ความสม่ำเสมอ’ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า นิวคาสเซิลเป็นหนึ่งในทีมที่รักษามาตรฐานการเล่นเอาไว้ได้ตลอดทั้งฤดูกาล ต่อให้มีวันที่พลาด พวกเขาก็จะไม่สะดุดนาน จะรีบลุกขึ้นมาใหม่ เพื่อเดินหน้าต่อไป

           

ดังนั้นความสำเร็จด้วยการเป็น ‘Top 4’ นั้น แม้มันอาจจะดูเร็วมากสำหรับทีมที่เมื่อ 18 เดือนก่อนยังมองไม่เห็นอนาคตอยู่เลย แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ หากแต่เป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

           

การกลับไปแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง จึงเป็นรางวัลตอบแทนที่เหมาะสมและคู่ควรกับความพยายามที่เหนื่อยยากมาตลอดทั้งฤดูกาล

           

แต่มันจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางของพวกเขา ในทางตรงกันข้าม มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางการไปสู่ความยิ่งใหญ่เท่านั้น

           

นิวคาสเซิลยังไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก และมีโอกาสจะเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลอังกฤษอีกทีมในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ถ้าพวกเขายังรักษาแนวทางที่ดีแบบนี้ไว้ได้ต่อไป

 

อ้างอิง:

The post นิวคาสเซิลคืนสู่ UCL ในรอบ 20 ปี! ถอดรหัสความสำเร็จอันน่าทึ่งของ ‘แม็กพายส์’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เอ็ดดี ฮาว กุนซือคนใหม่ของนิวคาสเซิล พลาดคุมทีมลงสนามในเกมแรกพบกับเบรนท์ฟอร์ด หลังถูกตรวจพบเชื้อโควิด https://thestandard.co/eddie-howe-newcastle-united-boss-to-miss-first-game/ Sat, 20 Nov 2021 02:42:31 +0000 https://thestandard.co/?p=562080 Eddie Howe

เอ็ดดี ฮาว ผู้จัดการทีมคนใหม่ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด พลา […]

The post เอ็ดดี ฮาว กุนซือคนใหม่ของนิวคาสเซิล พลาดคุมทีมลงสนามในเกมแรกพบกับเบรนท์ฟอร์ด หลังถูกตรวจพบเชื้อโควิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
Eddie Howe

เอ็ดดี ฮาว ผู้จัดการทีมคนใหม่ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด พลาดประเดิมคุมทีมข้างสนามในศึกพรีเมียร์ลีกพบกับเบรนท์ฟอร์ด วันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ หลังถูกตรวจพบเชื้อโควิด 

 

โดย เจสัน ทินดอล และ แกรม โจนส์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม จะทำหน้าที่คุมทีมข้างสนามแทนที่ฮาวที่จะพลาดคุมทีมลงสนามพบกับอาร์เซนอลในเกมถัดไปด้วย 

 

“ผมผิดหวังมากที่ไม่สามารถไปร่วมกับพวกคุณได้ที่เซนส์เจมส์ปาร์กในวันพรุ่งนี้” ฮาวกล่าว 

 

“แม้ว่าข่าวการติดเชื้อจะเป็นข่าวที่เราไม่ต้องการ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกโอเค และผลการติดเชื้อครั้งนี้ไม่ได้ทำให้แผนในการเตรียมทีมสำหรับเกมสำคัญต้องหยุดลง 

 

“ผมยังคงสื่อสารกับทีมโค้ชอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักเตะ ในการเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้และสัปดาห์หน้า และผมรู้ว่าพวกเขาพร้อมที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสนาม” 

 

สำหรับ เอ็ดดี ฮาว ก้าวเข้ามาคุมทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่กลุ่มทุนซาอุดีอาระเบียเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสร แต่เขาจะยังไม่สามารถคุมทีมลงสนามในเกมแรกได้ เนื่องจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 

 

โดยคู่มือของรัฐบาลอังกฤษระบุว่า ใครก็ตามที่ถูกตรวจพบเชื้อจะต้องแยกกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 10 วัน นั่นหมายความว่า ฮาวจะพลาดเกมลีกกับเบรนท์ฟอร์ด รวมถึงอาร์เซนอลที่จะลงแข่งในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้อีกด้วย 

 

อ้างอิง: 

The post เอ็ดดี ฮาว กุนซือคนใหม่ของนิวคาสเซิล พลาดคุมทีมลงสนามในเกมแรกพบกับเบรนท์ฟอร์ด หลังถูกตรวจพบเชื้อโควิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
เอ็ดดี ฮาว เปิดตัวคุมนิวคาสเซิลอย่างเป็นทางการ ขอพาทีมอยู่รอดด้วยสไตล์เกมบุกที่กล้าหาญ https://thestandard.co/eddie-howe-promises-entertainment-but-says-newcastle-is-not-an-easy-job/ Thu, 11 Nov 2021 01:38:17 +0000 https://thestandard.co/?p=558489 เอ็ดดี ฮาว

สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดตัว เอ็ดดี ฮาว รับบท […]

The post เอ็ดดี ฮาว เปิดตัวคุมนิวคาสเซิลอย่างเป็นทางการ ขอพาทีมอยู่รอดด้วยสไตล์เกมบุกที่กล้าหาญ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เอ็ดดี ฮาว

สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดตัว เอ็ดดี ฮาว รับบทผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมคำมั่นสัญญาว่าจะพาทีมให้อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก ด้วยสไตล์การเล่นฟุตบอลเกมรุกบุกอย่างเร้าใจและกล้าหาญ

 

ภายหลังจากที่มีข่าวว่านิวคาสเซิลได้ตกลงที่จะแต่งตั้งฮาว อดีตผู้จัดการทีมบอร์นมัธเป็นกุนซือคนใหม่ของทีมแทนที่ สตีฟ บรูซ ที่ยอมแยกทางไปจากสโมสรหลังจากผลงานในฤดูกาลนี้เลวร้ายยังไม่ชนะใครเลย ล่าสุดได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สนามเซนต์เจมส์พาร์กแล้ว

 

ฮาวเผยความรู้สึกหลังรับตำแหน่งว่า “ทุกอย่างมันดูใช่ไปหมด แรงดึงดูดของสโมสรมันมหาศาล ทั้งความเป็นทีมใหญ่ และประวัติศาสตร์ของสโมสร และแน่นอนรวมถึงแผนที่ทะเยอทะยานด้วย ผมคิดว่ามันเหมาะสมกับผมทุกอย่าง”

 

อดีตผู้จัดการทีมบอร์นมัธยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเทกโอเวอร์ของกลุ่มทุนจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่มีกรณีเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมองว่านี่เป็นเรื่องของเกมฟุตบอล ก่อนจะให้คำมั่นว่าจะนำนิวคาสเซิลกลับมาเล่นฟุตบอลเกมรุกบุกสนุกอีกครั้ง

 

“ถ้าเคยดูบอร์นมัธเล่น เราเล่นเปิดเกมใส่ เล่นฟุตบอลเกมบุกอย่างกล้าหาญ ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะทำในสิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ผมคิดว่าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และน่าจะเป็นฟุตบอลในแบบที่แฟนนิวคาสเซิลต้องการจะเห็น”

 

อย่างไรก็ดี ฮาวยอมรับว่างานหลักคือการพาทีมรอดพ้นจากการตกชั้นให้ได้ โดยเวลานี้นิวคาสเซิลอยู่อันดับที่ 19 ห่างจากโซนหนีตกชั้น 5 คะแนน “งานนี้ยากมาก เป็นความท้าทายที่ยาก ผมไม่ได้หลอกตัวเอง ในเดือนธันวาคมเรามีโปรแกรมที่หนักมาก”

 

อ้างอิง:

The post เอ็ดดี ฮาว เปิดตัวคุมนิวคาสเซิลอย่างเป็นทางการ ขอพาทีมอยู่รอดด้วยสไตล์เกมบุกที่กล้าหาญ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นิวคาสเซิล แต่งตั้ง เอ็ดดี ฮาว คุมทัพสัญญาถึงปี 2024 https://thestandard.co/newcastle-united-appoint-eddie-howe-as-head-coach/ Tue, 09 Nov 2021 01:07:48 +0000 https://thestandard.co/?p=557673 Eddie Howe

วันนี้ (8 พฤศจิกายน) สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แต่ […]

The post นิวคาสเซิล แต่งตั้ง เอ็ดดี ฮาว คุมทัพสัญญาถึงปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Eddie Howe

วันนี้ (8 พฤศจิกายน) สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แต่งตั้ง เอ็ดดี ฮาว เป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยเซ็นสัญญาจนถึงปี 2024

 

หลังนิวคาสเซิลได้แยกทางกับ สตีฟ บรูซ ทางกลุ่มเจ้าของสโมสรใหม่พยายามเฟ้นหาคนที่จะมาทำหน้าที่ร่วม 3 สัปดาห์ โดยมีกุนซือมีชื่ออย่าง เปาโล ฟอนเซกา อดีตโค้ชโรมา และ อูไน เอเมรี โค้ชบียาร์เรอัลที่เคยคุมอาร์เซนอลมาก่อน แต่การเจรจาไม่เป็นผล

 

อย่างไรก็ดี ล่าสุดนิวคาสเซิลแต่งตั้ง ฮาว อดีตผู้จัดการทีมบอร์นมัธขึ้นเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยกุนซือคนหนุ่มวัย 43 ปี กล่าวว่า “การได้เป็นโค้ชของสโมสรที่มีสถานะสูงและมีประวัติศาสตร์อย่างนิวคาสเซิลถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง นี่คือวันที่น่าภาคภูมิใจสำหรับผมและครอบครัว”

 

ฮาวยังกล่าวว่า นี่คือโอกาสแสนวิเศษสำหรับเขา แต่ยังมีสิ่งที่ต้องจัดการอีกมากมาย และพร้อมจะทำงานทันทีร่วมกับนักเตะซึ่งยังไม่ชนะใครเลยในเกมลีกฤดูกาลนี้ ก่อนจะกล่าวขอบคุณผู้บริหารสโมสรที่ให้ความเชื่อมั่น รวมถึงแฟนบอลที่ต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วย

 

ภาพ: nufc.co.uk

อ้างอิง

The post นิวคาสเซิล แต่งตั้ง เอ็ดดี ฮาว คุมทัพสัญญาถึงปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เอ็ดดี ฮาว จ่อรับข้อเสนอคุมนิวคาสเซิล ฝ่าวิกฤตโซนตกชั้น https://thestandard.co/eddie-howe-agrees-deal-in-principle-to-become-newcastle-manager/ Fri, 05 Nov 2021 04:31:39 +0000 https://thestandard.co/?p=556467 Eddie Howe

หลังจากผ่านไปเพียง 10 นัดของการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลี […]

The post เอ็ดดี ฮาว จ่อรับข้อเสนอคุมนิวคาสเซิล ฝ่าวิกฤตโซนตกชั้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
Eddie Howe

หลังจากผ่านไปเพียง 10 นัดของการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบปัญหาอย่างหนักในแง่ของผลงานในสนาม โดยเก็บได้เพียง 4 คะแนนจาก 10 เกม และจมอยู่รองบ๊วยของตาราง เป็นเหตุให้ สตีฟ บรูซ ต้องปลิวหลุดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเซ่นผลงานที่ย่ำแย่ไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

 

ลิสต์รายชื่อผู้ที่จะเข้ามารับเผือกร้อนตำแหน่งนี้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ถูกพูดถึงและโยงเป็นข่าวอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่ ลูเซียง ฟาฟร์ อดีตโค้ชของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่กำลังไปได้สวยกับกลาสโกว์ เรนเจอร์ส รวมถึง อูไน เอเมรี ของบียาร์เรอัล แต่ทั้งหมดได้ออกมาปฏิเสธรับงานที่เซนต์เจมส์พาร์กทั้งหมด

 

ล่าสุด สื่อกีฬาต่างประเทศทั้ง Sky Sports และ BBC Sport ตีข่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า เอ็ดดี ฮาว อดีตผู้จัดการทีมของบอร์นมัธ ได้เข้าเจรจากับบอร์ดบริหารของนิวคาสเซิลแล้ว และหากข้อเสนอทุกอย่างลุล่วง คาดว่ากุนซือหนุ่มวัย 43 ปีจะได้รับสัญญาทำทีมเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง 

 

ทั้งนี้ สื่อนอกยังให้ความเห็นอีกว่า การมาของฮาวดูจะตอบโจทย์กับการกู้วิกฤตของทีมไม่น้อย เนื่องจากผู้เล่นตัวหลักของทีมชุดนี้เคยร่วมงานกันที่บอร์นมัธ ไม่ว่าจะเป็น แมตต์ ริตชี, ไรอัน เฟรเซอร์ และกองหน้าคู่บุญอย่าง คัลลัม วิลสัน รวมถึงการเข้ามาของกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียน่าจะมีกำลังด้านเม็ดเงินให้ฮาวได้ใช้เงินปรับแต่งทัพในช่วงตลาดหน้าหนาวอีกไม่น้อย

 

สำหรับการแข่งขันนัดถัดไปของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะเป็นการออกไปเยือนไบรท์ตัน ทีมอันดับ 8 ของตาราง ในคืนวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 00.30 น. 

 

อ้างอิง:

The post เอ็ดดี ฮาว จ่อรับข้อเสนอคุมนิวคาสเซิล ฝ่าวิกฤตโซนตกชั้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘เอ็ดดี ฮาว’ ไขก๊อกลาออกจากบอร์นมัธ ยุติ 25 ปีที่รับใช้สโมสร https://thestandard.co/eddie-howe-resign-from-bournemouth/ Sun, 02 Aug 2020 03:32:58 +0000 https://thestandard.co/?p=385154

เอ็ดดี ฮาว ตัดสินใจอำลาทีม ‘เดอะ เชอร์รี’ บอร์นมัธ หลัง […]

The post ‘เอ็ดดี ฮาว’ ไขก๊อกลาออกจากบอร์นมัธ ยุติ 25 ปีที่รับใช้สโมสร appeared first on THE STANDARD.

]]>

เอ็ดดี ฮาว ตัดสินใจอำลาทีม ‘เดอะ เชอร์รี’ บอร์นมัธ หลังจากที่ได้มีการหารือกับฝ่ายบริหารของสโมสรตลอดช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยุติตำนาน 25 ปีในการรับใช้สโมสร ตั้งแต่เป็นผู้เล่นจนถึงผู้จัดการทีม ที่ชุบชีวิตสโมสรจากทีมที่ใกล้ล้มละลายสู่การเป็นทีมที่ได้รับการยอมรับในพรีเมียร์ลีก

 

จากการที่บอร์นมัธไม่สามารถรอดพ้นจากการตกชั้นไปสู่เดอะ แชมเปียนชิปได้ในฤดูกาลนี้ และเป็นการตกชั้นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ได้ขึ้นชั้นมาอยู่ลีกสูงสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทางด้านฮาวได้มีการหารือกับสโมสรก่อนจะตัดสินใจที่จะอำลาทีม ซึ่งสร้างความช็อกให้แก่แฟนฟุตบอล นักเตะ และสตาฟฟ์ของทีมอย่างมาก

 

ฮาวในวัย 42 ปี เป็นสายเลือดของบอร์นมัธเต็มตัวตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชน ก่อนจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี 1994 ต่อมาได้ย้ายไปปอร์ทสมัธในปี 2002 และกลับมาเล่นกับทีมอีกครั้งในปี 2004 ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2007 ได้ขึ้นเป็นผู้จัดการทีมครั้งแรกในปี 2009-2011 ซึ่งทีมอยู่ในวิกฤตในอันดับที่ 91 ของ 92 สโมสรฟุตบอลในลีกอาชีพ ไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างนักเตะหรือจ่ายค่าไฟสนาม โดยสามารถกอบกู้ทีมได้ก่อนจะย้ายไปคุมเบิร์นลีย์ 1 ฤดูกาล 

 

จากนั้นฮาวได้กลับมาคุมบอร์นมัธอีกครั้งในปี 2012 และนำทีมไต่ชั้นมาลีกสูงสุดได้ด้วยฟุตบอลสไตล์สวยงาม รวมระยะเวลาในการรับใช้บอร์นมัธยืนยาวถึง 25 ปี ซึ่งกุนซือคนหนุ่มที่ประกาศว่าจะขอพักจากการทำงานในวงการฟุตบอลสักระยะเพื่อใช้เวลากับครอบครัว ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต ได้ส่งจดหมายถึงแฟนๆ ว่า รู้สึกภูมิใจกับผลงานที่ผ่านมา

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

The post ‘เอ็ดดี ฮาว’ ไขก๊อกลาออกจากบอร์นมัธ ยุติ 25 ปีที่รับใช้สโมสร appeared first on THE STANDARD.

]]>