Nolan Church ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการสรรหาบุคลากรมานานกว่าทศวรรษในบริษัทชื่อดังอย่าง Google และ DoorDash ได้พบเห็นทุกสิ่งในการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลเชิงลึกของเขาเผยให้เห็นสิ่งที่สามารถสร้างหรือทำลายการสัมภาษณ์ และวิธีที่ผู้สมัครสามารถสร้างความประทับใจอย่างแท้จริง

สิ่งหนึ่งที่เขาสังเกตเห็นคือผู้สมัครมักจะซ้อมการตอบคำถามมา ซึ่งมักจะยาวเป็น ‘นำ้ท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง’ แต่ขาดใจความสำคัญ ซึ่งสำหรับเขา ความถูกต้องและความสามารถในการสื่อสารเนื้อหาที่มีความหมายมีความสำคัญสูงสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• พนักงานชาวเอเชียมักต้องทำตัวให้ ‘ยุ่ง’ เข้าไว้ มากกว่าได้ทำงานจริงที่มีประสิทธิภาพ เพราะถูก ‘เจ้านาย’ จับตาดูอยู่จากสิ่งที่เห็น ไม่ใช่ผลลัพธ์! 
• นักจิตวิทยาจากฮาร์วาร์ด แนะ 9 ประโยคเพิ่ม ‘ความยืดหยุ่นทางอารมณ์’ เปลี่ยนสถานการณ์ไม่เป็นดั่งใจให้เป็นบทเรียน
• ยุคที่ความเก่งไม่ใช่ตัวชี้วัด! เปิด 3 นิสัย ‘ผู้นำ’ ที่ต้องไม่ติดกับดักความสำเร็จ-ไม่เลือกอยู่กับคนตรงใจ-ลดความเห็นแก่ตัว

“ผู้สมัครที่ดีที่สุดและโดดเด่นไม่เพียงแต่จากความรู้เท่านั้น แต่ยังโดดเด่นจากความสามารถในการสอนสิ่งใหม่ๆ ให้กับฉันอีกด้วย” เขากล่าวเสริม

Church เล่าถึงการสัมภาษณ์ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของแพลตฟอร์มการจัดการทุน Carta โดยอธิบายว่าปฏิสัมพันธ์ดังกล่าวเป็น ‘มาสเตอร์คลาส’ ชั้นดี เพราะผู้สมัครได้จัดเตรียมกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสำหรับการเปลี่ยนแปลงโมเดลซอฟต์แวร์ในรูปแบบบริการระหว่างธุรกิจกับธุรกิจของ Carta ซึ่งสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับ Church 

การแลกเปลี่ยนอย่างแท้จริงซึ่งเต็มไปด้วยความเชี่ยวชาญคือสิ่งที่ Church และผู้จัดหางานจำนวนมากแสวงหาในการสัมภาษณ์ แต่ผู้สมัครจะสามารถรวมองค์ประกอบ ‘การสอน’ นี้เข้ากับการสัมภาษณ์ได้อย่างไรโดยไม่ฟังดูโอ้อวด

ดังนั้น Church จึงแนะนำศิลปะแห่งการเล่าเรื่อง แทนที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงและตัวเลข ผู้สมัครสามารถสานต่อประสบการณ์ของตนเป็นเรื่องเล่าได้ ซึ่งพวกเขาสามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์โดยใช้กรอบการทำงานที่ชัดเจน

เพื่อใช้เทคนิคนี้อย่างมีประสิทธิผล Church แนะนำแนวทางต่อไปนี้

• สร้างบริบทของเรื่องราว: เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจภูมิหลังได้ชัดเจน
• เน้นย้ำความเชื่อหรือข้อสันนิษฐานเบื้องต้น: สิ่งนี้ทำให้คุณมีความเป็นมนุษย์ โดยแสดงให้เห็นว่าคุณเองก็มีแนวโน้มที่จะมีความเข้าใจได้ผิดเช่นกัน
• รายละเอียดกระบวนการเรียนรู้: แบ่งปันว่ามีความเข้าใจหรือข้อมูลเชิงลึกใหม่ได้อย่างไร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและการเติบโต
• อภิปรายเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้: ความรู้ที่เพิ่งค้นพบนี้ส่งผลต่องานของคุณในภายหลังอย่างไร

ตามที่ Church กล่าวไว้ แม้ว่าทักษะและประสบการณ์จะมีความสำคัญ แต่ส่วนที่ 2 และ 3 ก็พลาดไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้แสดงถึงกรอบความคิดในการเติบโตของผู้สมัครและความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เป็นที่ปรารถนาอย่างสูงในโลกแห่งการทำงาน 

อ้างอิง: 

• https://www.cnbc.com/2023/05/10/former-google-recruiters-no-1-job-interview-tip-teach-him-something.html 

The post ศิลปะแห่งการสัมภาษณ์งาน: ตอบคำถามอย่างไรไม่ให้เป็น ‘น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง’ แต่เผย ‘กึ๋น’ ที่มีมากกว่าทักษะและประสบการณ์ appeared first on THE STANDARD.

ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ โดยนครนิวยอร์กได้ตัดสินใจขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสำหรับพนักงานส่งอาหารผ่านแพลตฟอร์ม เช่น Uber Eats และ DoorDash ซึ่งจะได้รับสิทธิ์รับรายได้อย่างน้อย 17.96 ดอลลาร์ หรือ 623 บาทต่อชั่วโมง

นี่เป็นก้าวบุกเบิกในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำสำหรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเห็นการขยายตัวที่สำคัญในช่วงการระบาดของโควิด

การปรับขึ้นค่าจ้างนี้คาดว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสภาเมืองในการปรับปรุงสภาพการทำงานสำหรับพนักงานส่งของที่ใช้แอปเหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นเกือบสองปีหลังจากที่สภาเมืองผ่านร่างกฎหมาย

แต่นักวิจารณ์แย้งว่าการเพิ่มขึ้นนี้ไม่ได้ไปไกลพอที่จะจัดการกับความท้าทายต่างๆ ที่พนักงานเหล่านี้ต้องเผชิญ ในฐานะผู้รับจ้างอิสระ พนักงานจัดส่งต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากมาย ตั้งแต่การซื้อและบำรุงรักษาอุปกรณ์ของตนเองไปจนถึงการดูแลเรื่องประกันสุขภาพ

กลุ่มอุตสาหกรรมต่างแสดงความกังวลเช่นกัน โดยบ่งชี้ว่าภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นนี้อาจจำกัดโอกาสสำหรับพนักงานบางคน พวกเขายังกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะส่งต่อไปยังผู้บริโภคและร้านอาหาร ซึ่งจ่ายค่าธรรมเนียมจำนวนมากในการใช้แอปจัดส่งอยู่แล้ว

มีพนักงานจัดส่งมากกว่า 60,000 คนในนครนิวยอร์ก พวกเขาส่งทุกอย่างตั้งแต่อาหารซื้อกลับบ้านไปจนถึงร้านขายของชำ โดยเฉลี่ยแล้วพนักงานเหล่านี้มีรายได้ประมาณ 11 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หลังจากพิจารณาจากทิปและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปของนิวยอร์กที่ 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้พนักงานส่งของยังต้องรับผิดชอบค่าประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ และภาษีเพิ่มเติม

กฎหมายค่าจ้างฉบับใหม่มีเป้าหมายที่จะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับพนักงานส่งของเป็นอย่างน้อย 19.96 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ภายในปี 2025 โดยจำนวนเงินที่แน่นอนจะปรับตามอัตราเงินเฟ้อ การเพิ่มขึ้นนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีความมั่นคงทางการเงินเพิ่มมากขึ้นสำหรับพนักงานเหล่านี้และครอบครัว โดยตระหนักถึงบทบาทสำคัญที่พวกเขามีต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน

เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อย่าง Flex ซึ่งเป็นตัวแทนของแอปจัดส่ง เช่น DoorDash, Uber Eats และ Instacart ได้คัดค้านกฎหมาย โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจนำไปสู่ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภค และอาจถึงขั้นลดหรือเลิกทิปสำหรับพนักงาน

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยจากกรณีที่มีการขึ้นค่าแรงในลักษณะเดียวกันในอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่าในนิวยอร์กในปี 2019 ชี้ให้เห็นว่าข้อกังวลเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้นจริง โดยการศึกษาพบว่าค่าจ้างคนขับเพิ่มขึ้น 9% และค่าโดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 5.9% ในขณะที่เวลารอของลูกค้าลดลง

ท้ายที่สุดแล้วกฎหมายฉบับนี้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบที่เท่าเทียมกันมากขึ้นใน Gig Economy

ภาพ: Dia Dipasupil / Getty Images

อ้างอิง:

• https://www.nytimes.com/2023/06/12/nyregion/nyc-delivery-workers-minimum-wage.html?smtyp=cur&smid=tw-nytimes
• https://edition.cnn.com/2023/06/11/business/nyc-delivery-workers-pay/index.html

The post เพื่อความเท่าเทียม! นครนิวยอร์กออกกฎหมายที่กำหนดให้ ‘พนักงานส่งอาหาร’ ของแอปเดลิเวอรีจะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 623 บาทต่อชั่วโมง appeared first on THE STANDARD.