Digital Edge – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 09 Jun 2025 11:50:08 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 บี.กริม จับมือผู้พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ วางเป้า 300 เมกะวัตต์ ใน 5 ปี มูลค่าโครงการ 1 แสนล้านบาท https://thestandard.co/b-grimm-singapore-partner-300mw/ Mon, 09 Jun 2025 11:49:40 +0000 https://thestandard.co/?p=1083378

Digital Edge B.Grimm (TH) Holding ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน […]

The post บี.กริม จับมือผู้พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ วางเป้า 300 เมกะวัตต์ ใน 5 ปี มูลค่าโครงการ 1 แสนล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

Digital Edge B.Grimm (TH) Holding ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) และ ดิจิทัล เอดจ์ (สิงคโปร์) จำกัด ประกาศโครงการลงทุนศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ไฮเปอร์สเกล รวม 300 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปี คาดมูลค่าการลงทุน 80,000-100,000 ล้านบาท 

 

นพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า การร่วมทุนครั้งนี้ BGRIM จะถือหุ้น 40% และดิจิทัล เอดจ์ ถือหุ้นส่วนที่เหลืออีก 60% 

 

ทั้งนี้ Digital Edge B.Grimm จะเริ่มลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์โครงการแรกจำนวน 96 เมกะวัตต์ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่าโครงการ 24,520 ล้านบาท จะแบ่งเป็นสองเฟส โดยเฟสแรก จำนวน 48 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนราว 1.6 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 4 ปี 2569 ส่วนเฟสที่สองอีก 48 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2571 

 

สำหรับเงินลงทุนจะแบ่งเป็นเงินกู้ 70% และอีก 30% จะมาจากเงินทุนภายในบริษัท เพราะฉะนั้นในโครงการแรก 96 เมกะวัตต์ บี.กริม จะใช้เงินลงทุนของบริษัทประมาณ 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นเฟสแรก 2 พันล้านบาท และอีก 1 พันล้านบาท ในเฟสสอง 

 

“เบื้องต้นเงินลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 8-10 ล้านดอลลาร์ต่อ 1 เมกะวัตต์ รวมใช้เงินลงทุน 80,000-100,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 300 เมกะวัตต์ใน 5 ปี” 

 

หากการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์แล้วเสร็จตามแผน 300 เมกะวัตต์ คาดว่าจะช่วยสร้างกำไรให้กับบริษัทราว 20% จากปัจจุบันที่กำไรเกือบ 100% มาจากธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้า 

 

สำหรับ ดิจิทัล เอดจ์ เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียที่ได้รับการสนับสนุนจาก Stonepeak นักลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่เปิดดำเนินการและอยู่ระหว่างการก่อสร้างรวม 24 แห่ง ครอบคลุม 9 ประเทศ และมีกำลังไฟฟ้าสำรองกว่า 1.1 กิกะวัตต์

 

จอห์น ฟรีแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ดิจิทัล เอดจ์ กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดดิจิทัลที่มีศัพยภาพสูงสุดในเอเชีย เรากำลังนำโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดมาสู่ไทย ในขนาดไฮเปอร์สเกลและความเร็วที่เร่งรัด ซึ่งจะช่วยรองรับความต้องการด้าน AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” 

 

ทั้งนี้ ตลาดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีการบริโภคข้อมูล การใช้บริการคลาวด์ และการประมวลผล AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานอุตสาหกรรมล่าสุดคาดการณ์ว่าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของไทยจะเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 25% ต่อปีจนถึงปี 2573 ขณะที่ความต้องการด้าน AI จะเป็นตัวเร่งสำคัญในการผลักดันความต้องการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่สามารถขยายตัวได้และมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน รัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์การลงทุนกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 9 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาค 

The post บี.กริม จับมือผู้พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ วางเป้า 300 เมกะวัตต์ ใน 5 ปี มูลค่าโครงการ 1 แสนล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>