วันนี้ (4 พฤศจิกายน) BBC Sport รายงานว่า เอดู กัสปาร์ ต […]
The post เอดู กัสปาร์ เตรียมลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซนอล appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (4 พฤศจิกายน) BBC Sport รายงานว่า เอดู กัสปาร์ ตัดสินใจเตรียมอำลาตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรอาร์เซนอล หลังทำงานมานานกว่า 5 ปี
โดยในรายงานระบุว่า การเจรจาระหว่างเอดูกับผู้บริหารระดับสูงของอาร์เซนอลยังคงดำเนินต่อไป และถึงแม้ว่าเหตุผลในการลาออกของเอดูจะยังไม่ชัดเจนในขณะนี้ แต่ท้ายที่สุดเขายังคงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง โดยคาดว่าจะมีรายละเอียดและแถลงการณ์จากสโมสรออกมาภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
สำหรับ เอดู กัสปาร์ ถือเป็นบุคลากรคนสำคัญของอาร์เซนอล เขามีส่วนช่วยทีมเจรจาและเซ็นสัญญากับนักเตะชื่อดัง เช่น ดีแคลน ไรซ์, มาร์ติน โอเดการ์ด, เยอร์เรียน ทิมเบอร์ และอีกหลายคน ให้เข้ามาเป็นขุมกำลังสำคัญในทีมของ มิเกล อาร์เตตา เพื่อไล่ล่าความสำเร็จกับทีมในปัจจุบัน
อ้างอิง:
The post เอดู กัสปาร์ เตรียมลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซนอล appeared first on THE STANDARD.
]]>ดีแคลน ไรซ์ กองกลางของอาร์เซนอล ก้าวเข้าสู่รันเวย์บริเว […]
The post ดีแคลน ไรซ์ เดินแบบให้แบรนด์ LABRUM ในงาน London Fashion Week appeared first on THE STANDARD.
]]>ดีแคลน ไรซ์ กองกลางของอาร์เซนอล ก้าวเข้าสู่รันเวย์บริเวณริมสนามเอมิเรตส์สเตเดียมด้วยชุดสูทสีกรมท่าประดับผ้าสีขาวในรองเท้า adidas Superstar สีดำ
แม้ไรซ์จะเป็นคนเดียวของอาร์เซนอลที่เดินแบบในครั้งนี้ แต่เขาคงไม่เหงา เนื่องจากมีเพื่อนร่วมทีมอย่าง ริคคาร์โด คาลาฟิออรี กับ ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี มานั่งดูแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ที่ที่นั่งแถวหน้าด้วย
แบรนด์ LABRUM มีรากฐานเชื่อมโยงกับฟุตบอลเสมอมา และเมื่อต้นปีนี้พวกเขาเพิ่งจับมือกับ adidas ในการออกแบบชุดเยือนสีดำของทีมปืนใหญ่
ชุดดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจจากฐานแฟนบอลชาวแอฟริกันในต่างแดน โดยเฉพาะในลอนดอน ซึ่งเสื้อชุดดังกล่าวได้ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ด้วย
อ้างอิง:
The post ดีแคลน ไรซ์ เดินแบบให้แบรนด์ LABRUM ในงาน London Fashion Week appeared first on THE STANDARD.
]]>หลังการเรียก ค็อบบี ไมนู เข้าเสริมทัพทีมชาติอังกฤษอีกคน […]
The post 3 กองกลางรุ่นใหม่ในทีมชาติอังกฤษ appeared first on THE STANDARD.
]]>หลังการเรียก ค็อบบี ไมนู เข้าเสริมทัพทีมชาติอังกฤษอีกคนเมื่อคืนที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าเราอาจจะได้เห็นกองกลางรุ่นใหม่ของทีมชาติอังกฤษที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้มาประสานงานร่วมกัน
โดย จูด เบลลิงแฮม จากเรอัล มาดริด ที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอ และจะกลายมาเป็นหัวใจในเกมรุกของทีมชาติอังกฤษ โดยเขาจะได้ประสานงานกับ ดีแคลน ไรซ์ ห้องเครื่องจากอาร์เซนอลที่จะประคองรุ่นน้องทั้ง 2 คน
ขณะที่ตัวรับโอกาสอาจตกไปอยู่กับ ค็อบบี ไมนู เจ้าหนูวัย 18 ปีจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นกับปีศาจแดง
แล้วกองกลาง 3 คนนี้ดีพอที่จะพาอังกฤษเป็นแชมป์ยูโร 2024 ได้หรือไม่?
The post 3 กองกลางรุ่นใหม่ในทีมชาติอังกฤษ appeared first on THE STANDARD.
]]>การขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนี้เหลือม้าเพียงแค […]
The post กองกลางคนสำคัญของปืนใหญ่และเรือใบ appeared first on THE STANDARD.
]]>การขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนี้เหลือม้าเพียงแค่ 3 ตัวในช่วง 10 นัดสุดท้าย นั่นคืออาร์เซนอล ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้
โดยปืนใหญ่และเรือใบเป็นสองทีมที่มีอะไรคล้ายๆ กันไม่น้อย นั่นอาจเป็นเพราะ มิเกล อาร์เตตา เคยเป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาก่อน และหนึ่งในสิ่งที่ทั้งสองทีมมีเหมือนๆ กันคือกองกลางตัวรับอันยอดเยี่ยม
สถิติของ ดีแคลน ไรซ์ กับ โรดรี ในฤดูกาลนี้แทบจะไม่ต่างกัน และทั้งคู่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญในแดนกลางของทั้งสองทีมด้วย
แล้วคุณชอบใครในสองคนนี้มากกว่ากัน?
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต
The post กองกลางคนสำคัญของปืนใหญ่และเรือใบ appeared first on THE STANDARD.
]]>ก่อนที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24 จะได้ฤกษ์เปิดฉากระเบ […]
The post เปิดโผ 10 แข้งค่าตัวแพงสุดในตลาดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซัมเมอร์ 2023/24 (9 ส.ค. 2023) appeared first on THE STANDARD.
]]>ก่อนที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24 จะได้ฤกษ์เปิดฉากระเบิดความสนุกอย่างเป็นทางการในช่วงสุดสัปดาห์นี้
THE STANDARD ขอพาแฟนบอลไปชมทำเนียบ 10 นักเตะค่าตัวแพงสุดในตลาดซื้อ-ขาย (เฉพาะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ) ซัมเมอร์ 2023/24 ว่าแข้งดังคนไหนมีราคาค่าตัวอยู่ที่อันดับเท่าไรกัน
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต
หมายเหตุ: ข้อมูลดังกล่าวอัปเดต ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2023 โดยค่าตัวดังกล่าวรวมค่าแอดออน หรือเงื่อนไขส่วนตัวที่อ้างอิงได้จากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก
The post เปิดโผ 10 แข้งค่าตัวแพงสุดในตลาดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซัมเมอร์ 2023/24 (9 ส.ค. 2023) appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (18 กรกฎาคม) มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมอาร์เซนอ […]
The post มิเกล อาร์เตตา เปรียบ ดีแคลน ไรซ์ เป็นเหมือนกับประภาคารที่ส่องแสงสว่างให้กับทีม appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (18 กรกฎาคม) มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล กล่าวถึง ดีแคลน ไรซ์ กองกลางตัวรับคนใหม่ของทีมค่าตัว 105 ล้านปอนด์ ว่า เปรียบเสมือนประภาคารของทีม และเป็นผู้เล่นที่ทีมกำลังตามหา
โดยอาร์เตตากล่าวว่า “ผมมองเขาเหมือนประภาคาร เขาพร้อมที่จะส่องแสงให้กับผู้เล่นคนอื่น ช่วยให้เพื่อนร่วมทีมและทีมเก่งขึ้น
“เขามีออร่าที่พิเศษ ประสบการณ์ของเขาในลีกจะเพิ่มมิติให้ทีมมากขึ้น และเขาเป็นผู้เล่นที่มีสรีระรูปร่างแบบที่เราไม่ได้มีมานานแล้ว
“วิธีที่เขาพูดและแสดงความเป็นตัวเอง รวมถึงความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นในฟุตบอลเป็นสิ่งที่ทีมตามหามาตลอด
“ผมเชื่อว่าเราจะสามารถคว้าแชมป์ได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการที่พวกเราต้องเล่นได้ดีและคว้าชัยชนะให้ได้ในทุกแมตช์”
สำหรับ ดีแคลน ไรซ์ ย้ายมาจากแวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมทัพครั้งใหญ่ในตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงฤดูร้อนของอาร์เซนอล เช่นเดียวกับ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ จากอาแจ็กซ์ ที่ค่าตัว 34 ล้านปอนด์ และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จากเชลซี ที่ค่าตัว 65 ล้านปอนด์
โดยอาร์เซนอลจะประเดิมเกมอุ่นเครื่องนัดแรกกับเอ็มแอลเอส ออลสตาร์ ที่มี เวย์น รูนีย์ เป็นผู้จัดการทีม ซึ่งจะแข่งขันในวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม เวลา 07.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
อ้างอิง:
The post มิเกล อาร์เตตา เปรียบ ดีแคลน ไรซ์ เป็นเหมือนกับประภาคารที่ส่องแสงสว่างให้กับทีม appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (15 กรกฎาคม) อาร์เซนอล ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อั […]
The post สิ้นสุดการรอคอย! อาร์เซนอลเปิดตัว ‘ดีแคลน ไรซ์’ ค่าตัวแพงที่สุดในสโมสร 105 ล้านปอนด์ appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (15 กรกฎาคม) อาร์เซนอล ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศคว้าตัว ดีแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษอนาคตไกลจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในราคา 100 ล้านปอนด์ (บวกเงื่อนไขทางสัญญา 5 ล้านปอนด์) ซึ่งถือเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเดอะกันเนอร์ส โดยดีแคลนจะสวมเสื้อหมายเลข 41 ให้ทัพเดอะกันเนอร์ส
มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีม กล่าวถึงการเสริม ดีแคลน ไรซ์ มาร่วมทีมว่า “เรามีความสุขจริงๆ ที่ดีแคลนมาร่วมงานกับเรา เขาเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถมหาศาล ซึ่งทำผลงานระดับสูงในพรีเมียร์ลีกและอังกฤษมาหลายฤดูกาลแล้ว ดีแคลนกำลังนำคุณภาพที่ยอดเยี่ยมมาสู่สโมสร เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์พิเศษ
“ดีแคลนมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีกด้วยวัยเพียง 24 ปี เขาเป็นกัปตันทีมเวสต์แฮมที่ดีมาก และอย่างที่เราทุกคนเห็น เขาเพิ่งชูถ้วยรางวัลยุโรป ความรับผิดชอบและบทบาทที่เขาได้รับนั้นน่าประทับใจมาก และเราตื่นเต้นมากที่เขามาร่วมงานกับเรา”
สำหรับ ดีแคลน ไรซ์ เดิมทีเป็นนักเตะในอะคาเดมีของเชลซี ก่อนจะย้ายไปอยู่กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2013 และติดทีมชุดใหญ่ของทัพขุนค้อนในปี 2017 โดยได้โอกาสลงสนามทั้งสิ้น 245 นัด และมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรป้าคอนเฟอเรนซ์ลีกในฤดูกาลล่าสุดมาอีก 1 สมัย
อ้างอิง:
The post สิ้นสุดการรอคอย! อาร์เซนอลเปิดตัว ‘ดีแคลน ไรซ์’ ค่าตัวแพงที่สุดในสโมสร 105 ล้านปอนด์ appeared first on THE STANDARD.
]]>ระหว่างที่ตลาดนักเตะเริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในที […]
The post ไรซ์+ทิมเบอร์+ฮาเวิร์ตซ์ = อาร์เซนอลขอท้าชนแชมป์อีกครั้ง! appeared first on THE STANDARD.
]]>ระหว่างที่ตลาดนักเตะเริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในทีมที่ทำการเสริมทัพได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล
ต่อจากการเปิดตัวของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ มาจากเชลซีด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาว Gooners ได้เฮกันต่อเนื่อง เมื่ออาร์เซนอลสามารถจัดการตกลงกับเวสต์แฮมในการคว้าตัว ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์เสาหลักทีมชาติอังกฤษมาในราคา 105 ล้านปอนด์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการทุบสถิติของสโมสรแล้วยังเป็นสถิติการย้ายทีมสูงสุดของนักเตะอังกฤษในพรีเมียร์ลีก
และล่าสุดไม่น่ามีอะไรผิดพลาดพวกเขากำลังจะได้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ปราการหลังดาวรุ่งอนาคตไกลจากอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัมอีกรายในราคา 40 ล้านปอนด์
เบ็ดเสร็จอาร์เซนอลจะทุ่มเงินมากกว่า 200 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
การทุ่มมากขนาดนี้มีความหมายเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากพวกเขาต้องการที่จะท้าชนกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้อีกครั้งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ 2023/24!
ย้อนกลับไปในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ต้องบอกว่าอาร์เซนอลภายใต้การนำของ มิเกล อาร์เตตา สามารถสร้างผลงานได้เกินกว่าความคาดหมายอย่างมาก
เพราะเดิมทีเป้าหมายหลักอยู่ที่การช่วงชิงพื้นที่ท็อปโฟร์ให้ได้เท่านั้น หลังจากที่พลาดท่าถูกท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คู่ปรับร่วมเมืองแซงหน้าไปอย่างเจ็บปวดในช่วงท้ายฤดูกาล ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาเรื่องความไม่นิ่งของทีมในช่วงโค้งสุดท้าย ทำให้ต้องเจ็บปวดในที่สุด
แต่ปรากฏว่าในฤดูกาลที่แล้วอาร์เซนอลเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม และไต่ระดับของทีมขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว สามารถเอาชนะคำสบประมาทของผู้รู้และแฟนบอลทีมอื่นมากมายว่าประเดี๋ยวพวกเขาก็จะแผ่วและอ่อนแรงกันไปเอง
ทีมของอาร์เตตาค่อยๆ ผ่านการทดสอบในระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ สร้างความน่าประทับใจได้ในหลายนัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงให้เห็นถึงธาตุทรหดเอาชนะเกมยากๆ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และพยายามอาศัยจังหวะช่วงชุลมุนที่แมนฯ ซิตี้ รวมถึงคู่แข่งทีมอื่นอยู่ในช่วงขาลงสับหนีออกไปให้ไกลที่สุด
ในช่วงเวลาดีที่สุดอาร์เซนอลเคยนำหน้าซิตี้ถึง 8 แต้ม แม้จะลงแข่งมากกว่า 1 นัด
และพวกเขารักษาตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้ถึง 248 วัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่เคยมีนับตั้งแต่มีการก่อตั้งลีกสูงสุดใหม่ของอังกฤษเมื่อปี 1992
อย่างไรก็ดี ปัญหาของอาร์เซนอลนอกจากเรื่องของประสบการณ์ที่ยังเป็นรองแมนฯ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา หลายเท่า ยังมีเรื่องของขุมกำลังที่อ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าในช่วงกลางฤดูกาลพวกเขาจะประคับประคองตัวเองจากการขาด กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้าชาวบราซิลที่เป็นหนึ่งในการเสริมทัพที่สำคัญอย่างยิ่งในช่วงปิดฤดูกาลที่แล้วร่วมกับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ที่ย้ายมาจากแมนฯ ซิตี้ด้วยกันได้ แต่ขุมกำลังในทีมที่อาร์เตตาแทบไม่ได้หมุนเวียนผู้เล่นมากนักก็ไม่สามารถประคองตัวเข้าเส้นชัยได้ไหว
โดยเฉพาะหลังการบาดเจ็บของ วิลเลียม ซาลิบา ดาวเด่นในแนวรับของทีมที่มีความสำคัญอย่างมากเกินกว่าที่ใครในทีมจะทดแทนได้ ความพยายามทุกอย่างที่ทำมาก็แตกสลาย และทำให้สุดท้ายพลาดท่าถูกซิตี้แซงหน้าคว้าแชมป์ไปครอง
แต่แทนที่อาร์เซนอลจะท้อแท้ พวกเขาดูเหมือนจะต้องการที่จะกลับมาท้าชิงแชมป์อีกครั้ง เพราะตอนนี้มั่นใจแล้วว่าทุกอย่างที่พยายามปูรากฐานมา ซึ่งต้องย้อนไปตั้งแต่การซื้อผู้เล่นอย่าง โธมัส ปาร์เตย์, เบน ไวท์, อารอน แรมส์เดล, มาร์ติน โอเดการ์ด มาจนถึงตัวอะไหล่อย่าง จอร์จินโญ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ด เป็นการเดินในเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว
สิ่งที่ต้องทำต่อคือการพยายามยกระดับทีมขึ้นมาอีกขั้น ซึ่งถึงจุดนี้นักเตะที่จะเข้ามาเสริมทีมต้องดีกว่านักเตะที่มีอยู่เดิมเท่านั้น
และนั่นทำให้อาร์เซนอลมีแผนการที่ค่อนข้างชัดเจนสำหรับช่วงปิดฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาต้องการนักเตะเข้ามาเสริมทัพอย่างน้อยจุดละ 1 คน ในตำแหน่งกองหลัง กองกลาง และกองหน้า
โดยคนแรกที่ถูกดึงตัวเข้ามาอย่างน่าเซอร์ไพรส์เล็กน้อยคือ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมนี ที่ทุ่มเงินกว่า 65 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัวมาจากเชลซี ที่มีความจำเป็นต้องโละนักเตะออกจากทีมเพราะกำลังจะประสบปัญหาติดขัดเรื่องกฎการเงิน Financial Fair Play
ฮาเวิร์ตซ์อาจจะไม่ได้ทำผลงานได้สมกับความคาดหวังนักหลังย้ายมาจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ด้วยการแปะป้าย ‘เด็กเทพ’ คนหนึ่งของวงการ และยังมีความสับสนว่าตกลงแล้วตำแหน่งที่ดีที่สุดของกองหน้าวัย 24 ปีรายนี้อยู่ตรงไหนกันแน่
แต่ความไม่ชัดเจนตรงนี้เองที่เป็นสิ่งที่อาร์เตตาชื่นชอบ เพราะนั่นหมายถึงฮาเวิร์ตซ์สามารถที่จะลงเล่นได้หลายตำแหน่ง ตั้งแต่กองหน้าตัวเป้า กองหน้าตัวริมเส้น ไปจนถึงกองหน้าตัวต่ำหรือกองกลางตัวรุกที่สนับสนุนกองหน้าอีกที
จุดเด่นของเขานอกจากรูปร่างสูงใหญ่ ขายาว มีทักษะการเล่นที่ดีมาก ยังเป็นนักเตะที่เคลื่อนตัวได้ดี หาตำแหน่งที่ว่างเก่ง สามารถสอดขึ้นมาหาโอกาสทำประตูได้ดีมาก และยังเป็นนักเตะที่มีไหวพริบดีด้วย ซึ่งน่าจะช่วยทำให้แนวรุกของอาร์เซนอลมีความอันตรายหรือมีทางเลือกที่ดีขึ้นไปจากฤดูกาลที่แล้ว
ขณะที่ ดีแคลน ไรซ์ ใครก็รู้ว่าอาร์เตตาต้องการได้มิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดของอังกฤษในเวลานี้มายืนเป็นเสาหลักให้กับทีม
ที่ผ่านมาอาร์เตตาค่อนข้างพอใจกับการใช้งาน โธมัส ปาร์เตย์ แต่ปัญหาคือในระยะหลังฟอร์มการเล่นของอดีตมิดฟิลด์จอมแกร่งแอตเลติโก มาดริดเริ่มดรอปลง และมีส่วนไม่น้อยในผลงานที่ตกต่ำช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
ทีนี้ลองหลับตาแล้วจินตนาการว่าหากเปลี่ยนจากปาร์เตย์เป็นไรซ์ ซึ่งเป็นนักเตะ ‘หมายเลข 6’ ที่แข็งแกร่งและครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งที่สามารถแบกเวสต์แฮมได้ทั้งทีม (และแทบไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บด้วย) อาร์เซนอลจะแกร่งขึ้นแค่ไหน?
อย่างไรก็ดี หากปาร์เตย์ที่มีข่าวว่าอาจจะย้ายออกยังไม่ได้ย้ายไปไหน ก็มีโอกาสที่ไรซ์จะปรับเปลี่ยนบทบาทจากหมายเลข 6 เป็น ‘หมายเลข 8’ เพื่อแทนที่ของ กรานิต ชากา มิดฟิลด์จอมบู๊ที่ใกล้จะย้ายไปเลเวอร์คูเซน (ไรซ์จะยังไม่เปิดตัวจนกว่าชากาจะได้ย้ายออกไป)
โดยมีการวิเคราะห์ว่าในช่วงหลังไรซ์เองก็เริ่มที่จะทดลองในการขยับเติมเกมขึ้นมาช่วยเกมรุกของทั้งเวสต์แฮมและทีมชาติอังกฤษมากขึ้น และด้วยพละกำลังมหาศาลในตัวที่วิ่งขึ้นวิ่งลงได้ทั้งเกมไม่มีหมด ก็เป็นไปได้เหมือนกันที่อาร์เตตาจะมองเขาในฐานะ ‘Engine’ ของทีมมากกว่าเป็นแค่ตัวคุมเกม
ส่วนทิมเบอร์นั้นสามารถเล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลางและแบ็กขวา ซึ่งจะเติมเต็มแนวรับของทีมได้เป็นอย่างดีในฐานะตัวสอดแทรกของทั้งซาลิบาหรือไวท์ ซึ่งยังเป็นจุดที่ถูกมองว่าเป็นจุดบอดอยู่โดยเฉพาะหากสองคนนี้เจ็บขึ้นมา
เรียกได้ว่า 3 คนนี้จะทำให้อาร์เซนอลแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าไม่ได้เป็นนักเตะในแบบที่มีความจำเพาะเจาะจงว่าจะต้องเล่นในตำแหน่งเดียว แต่ทุกคนสามารถที่จะสลับบทบาทได้ ซึ่งก็เป็นเทรนด์ของนักฟุตบอลสมัยใหม่
ตลาดนักฟุตบอลในยุคนี้เรื่องของตำแหน่งหรือบทบาทถูกมองว่ากำลังเริ่มมีความสำคัญน้อยกว่าเรื่องของคุณสมบัติ (Attribute) นักเตะต้องพร้อมและดีพอที่จะถูกโยกหรือสลับตำแหน่งเพื่อเอาตัวรอดในแท็กติกการเล่นที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขึ้นกว่าในอดีต และมีรายละเอียดเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก
ที่ต้องชื่นชมคือฝ่ายบริหารของสโมสร โดยเฉพาะ เอดู ผู้อำนวยการสโมสรที่นับว่าเป็นผู้เข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงให้อาร์เซนอลกลับมาเป็นทีมฟุตบอลที่ดีอีกครั้ง และแน่นอนว่าต้องยกเครดิตให้เจ้าของสโมสรอย่าง สแตน โครเอนเก ที่แม้จะเคยถูกมองว่าเป็นศัตรูของแฟนๆ แต่ในช่วง 2-3 ปีหลังได้ให้การสนับสนุนอาร์เตตาอย่างเต็มที่ในการสร้างทีมเพื่อความสำเร็จ
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาร์เตตาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทีมกำลังเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จจริงๆ (และภาพลักษณ์ที่ดีของทีมทำให้อาร์เซนอลสามารถขายนักเตะได้ราคาดีขึ้นด้วย โดยคาดว่าอาจจะขายนักเตะทำทุนได้มากถึง 200 ล้านปอนด์ แทบจะแทนเงินที่ซื้อฮาเวิร์ตซ์, ไรซ์ และทิมเบอร์ได้เลย!)
ที่เหลือก็เป็นงานของอาร์เตตาและลูกทีมแล้ว
20 ปีนับจากแชมป์ไร้พ่าย ‘The Invincible’ นี่คือฤดูกาลที่อาร์เซนอลดูดีและพร้อมที่สุดแล้ว
อ้างอิง:
The post ไรซ์+ทิมเบอร์+ฮาเวิร์ตซ์ = อาร์เซนอลขอท้าชนแชมป์อีกครั้ง! appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (28 มิถุนายน) เป็นอีกวันที่ข่าวเกี่ยวกับตลาดซื้อ […]
The post อาร์เซนอลทุ่ม 105 ล้านปอนด์ หวังเร่งปิดดีล ดีแคลน ไรซ์ ด้านแมนฯ ซิตี้ ถอนตัวแล้ว appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (28 มิถุนายน) เป็นอีกวันที่ข่าวเกี่ยวกับตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ 2023/24 ยังมีประเด็นใหญ่ให้ติดตามกัน โดยหนึ่งในนั้นคือดีลของ ดีแคลน ไรซ์ ซึ่ง BBC Sport รายงานว่า อาร์เซนอล ทีมรองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด ตัดสินใจยื่นข้อเสนอที่ 3 กับเม็ดเงินจำนวน 105 ล้านปอนด์ ให้กับบอร์ดบริหารของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้พิจารณาแล้ว
หลังจากก่อนหน้านี้ข้อเสนอทั้งสองครั้งของอาร์เซนอล รวมถึง 1 ครั้งจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกปัดตกทั้งหมด เนื่องจากเป็นที่เข้าใจว่าทัพขุนค้อนต้องการค่าตัวสำหรับแข้งหนุ่มวัย 24 ปีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์
ขณะที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน เหยี่ยวข่าวคนดัง ให้น้ำหนักเพิ่มเติมว่า ทัพเดอะ กันเนอร์ส เข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงปิดดีล ดีแคลน ไรซ์ มาร่วมทัพหลังการยื่นข้อเสนอที่ 3 กับจำนวน 105 ล้านปอนด์ อีกทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยร่วมวงยื่นข้อเสนอแข่งกับทัพปืนใหญ่ก่อนหน้านี้ ได้ตัดสินใจถอนตัวจากดีลนี้แล้ว
เพียงแต่ขั้นตอนปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเจรจากันของบอร์ดบริหารอาร์เซนอลกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เกี่ยวกับโครงสร้างข้อตกลงทางสัญญาและเงื่อนไขรายละเอียดการชําระเงิน
ทั้งนี้ หากดีลระหว่าง ดีแคลน ไรซ์ กับอาร์เซนอล เกิดขึ้นจริง จะทำให้กองกลางทีมชาติอังกฤษรายนี้กลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรอาร์เซนอล โดยสถิติค่าตัวแพงที่สุดเดิมเป็นของ นิโคลัส เปเป ย้ายจากลีลล์ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์
บทความที่เกี่ยวข้อง:
อ้างอิง:
The post อาร์เซนอลทุ่ม 105 ล้านปอนด์ หวังเร่งปิดดีล ดีแคลน ไรซ์ ด้านแมนฯ ซิตี้ ถอนตัวแล้ว appeared first on THE STANDARD.
]]>แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นข้อเสนอ 90 ล้านปอนด์ให้กับเวสต์แฮ […]
The post แมนฯ ซิตี้ยื่นแล้ว! แต่ทำไม ดีแคลน ไรซ์ ถึงน่าจะไปอาร์เซนอลมากกว่า? appeared first on THE STANDARD.
]]>แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นข้อเสนอ 90 ล้านปอนด์ให้กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพื่อขอซื้อ ดีแคลน ไรซ์!
เรื่องนี้ถือเป็นข่าวใหญ่และเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงฟุตบอลอังกฤษเมื่อคืนที่ผ่านมา และเป็นสัญญาณการเปิดศึกชิงนาง (ไรซ์) อย่างเป็นทางการระหว่างแมนฯ ซิตี้กับอาร์เซนอล หลังจากที่มีกระแสข่าวมาหลายวัน
เพียงแต่ในการวิเคราะห์ทางลึกแล้ว บรรดาผู้รู้ในแวดวงลูกหนังจำนวนมากยังคงเชื่อว่า ทีมที่จะเป็นฝ่ายได้ไรซ์ไปร่วมทีมน่าจะเป็นอาร์เซนอล ซึ่งแสดงออกชัดเจนว่าแอบชอบ มิดฟิลด์ กัปตันทีมเวสต์แฮม มายาวนาน
อะไรจะเป็นเหตุผลที่ดีพอสำหรับไรซ์ ที่จะเลือก มิเกล อาร์เตตา มากกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา?
กรณีการย้ายทีมของ ดีแคลน ไรซ์ เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ความลับอะไร เพราะกระแสข่าวนั้นชัดเจนมาตลอดว่า ไม่ว่าผลงานกับเวสต์แฮมในฤดูกาลที่ผ่านมา (2022/23) จะเป็นอย่างไรก็ตาม นี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของกัปตันทีม The Hammers
ไรซ์ถือเป็นสายเลือดและความภาคภูมิใจของสโมสร แม้ว่าสโมสรแรกที่เขาอยู่และอยู่มานานตั้งแต่เด็กคือเชลซีก็เถอะ (ปี 2006-2014) แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายของวัยรุ่น ก่อนจะเข้าสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพเต็มตัว เด็กหนุ่มจากย่าน Kingston upon Thames ก็เดินทางไปอำเภอเพื่อแจ้งเกิดในฐานะนักเตะของเวสต์แฮม
สิ่งที่ดีสำหรับทั้งตัวเขาและสโมสรคือ การที่ทีมสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์ฟุตบอลยุโรปรายการแรกของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1965 ในยุคของ บ็อบบี มัวร์ อดีตกัปตันผู้ยิ่งใหญ่ของเวสต์แฮมและทีมชาติอังกฤษ นั่นทำให้การปิดฉากเส้นทางของเขากับทีมขุนค้อนเป็นไปอย่างสวยงาม และลาจากแฟนบอลด้วยดี
ที่เหลือก็คือไรซ์จะได้ย้ายไปอยู่ทีมใดเท่านั้น?
เรื่องที่น่าแปลกใจคือ มีสโมสรระดับชั้นนำไม่กี่แห่งที่ให้ความสนใจในตัวเขา ซึ่งเดิมมีทั้งหมด 3 ทีมด้วยกัน
ทีมแรกคือ อาร์เซนอล ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการไรซ์มาร่วมทีมให้ได้ในช่วงปิดฤดูกาลนี้
ทีมต่อมาคือ บาเยิร์น มิวนิก แชมป์บุนเดสลีกา ที่ต้องการผ่าตัดทีมอย่างเร่งด่วน โดยที่โค้ชคนปัจจุบันอย่าง โธมัส ทูเคิล ก็เป็นที่รู้จักกันดีกับไรซ์ และมีโอกาสได้เล่นร่วมกับโค้ชที่เคยพิชิตยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมาแล้ว อีกทั้งยังมีโอกาสประสบความสำเร็จมหาศาลในเยอรมนี ก็คือสิ่งที่สโมสรดังจากแคว้นบาวาเรียเสนอให้
และทีมสุดท้ายคือ แมนฯ ซิตี้ ‘Treble Champ’ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งต้องการหาตัวแทนของ อิลคาย กุนโดกัน กัปตันทีมที่อำลาไปอยู่กับบาร์เซโลนา
แต่ในเวลาไม่นานบาเยิร์นก็มีข่าวว่าถอนตัว เพราะไม่สามารถสู้ค่าตัวที่ทางเวสต์แฮมต้องการได้ อีกทั้งนักเตะเองก็ต้องการที่จะอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไปมากกว่า
โดยระหว่างนั้น ทีมที่แสดงออกชัดเจนว่าต้องการตัวจริงๆ คืออาร์เซนอล และได้ยื่นข้อเสนอมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน แต่ข้อเสนอถูกปฏิเสธทั้ง 2 ครั้ง
ก่อนที่ล่าสุดแมนฯ ซิตี้ ซึ่งถูกมองว่าไม่ได้ให้ความสนใจจริงจัง แต่ถูกนำชื่อมาใช้อ้างเพื่อ ‘ปั่นราคา’ ของไรซ์ให้อาร์เซนอลจ่ายสูงขึ้น จะยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการครั้งแรก ตามการเปิดเผยของสำนักข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง The Times, Telegraph และ The Athletic
ข้อเสนอของแมนฯ ซิตี้ที่ยื่นเมื่อคืนนี้อยู่ที่ 90 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับข้อเสนอจากอาร์เซนอลที่ยื่นเป็นครั้งที่ 2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แต่ข้อเสนอก็มีความแตกต่างกัน และเรื่องนี้ก็มีนัยสำคัญ
จะเห็นได้ว่าความแตกต่างในรายละเอียดมีไม่มากนัก แต่ตามทิศทางข่าวแล้วข้อเสนอจากแมนฯ ซิตี้ ดีต่อใจกับฝ่ายเวสต์แฮมมากกว่า ในเรื่องของโครงสร้างของข้อตกลง โดยเชื่อว่าตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับตัวเลขที่เวสต์แฮมคาดหวังคือ การได้เงินก้อนแรก 85 ล้านปอนด์เป็นหลัก ส่วนตัวเลขการจ่ายเพิ่มตามเงื่อนไขนั้นไม่ใช่สาระสำคัญของการเจรจา
ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายเวสต์แฮมว่าตอบรับหรือปฏิเสธแมนฯ ซิตี้ แต่เชื่อว่าจะปฏิเสธเพื่อทำให้เกิดสงครามราคากันขึ้น และมีการคาดหมายว่าอาร์เซนอลจะยื่นข้อเสนออีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ อย่างน้อยหลังการเปิดตัว ไค ฮาเวิร์ตซ์ ว่าที่กองหน้าคนใหม่จากเชลซี ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ (อาจจะเป็นวันนี้เลยก็ได้)
อย่างไรก็ดี ในแวดวงยังเชื่อว่าอาร์เซนอลจะเป็นทีมที่ได้ตัวไรซ์ไปร่วมทีมมากกว่า เพราะในช่วงที่ผ่านมาเชื่อว่ามีการพูดคุยกันระหว่างเจ้าตัวกับฝ่ายของ มิเกล อาร์เตตา นายใหญ่ และเอดู ผู้อำนวยการสโมสรของอาร์เซนอล เป็นที่เรียบร้อย
พูดง่ายๆ คืออาร์เซนอล ‘ปิดการขาย’ กับไรซ์เรียบร้อย และเจ้าตัวยินดีที่จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่จะเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ หลังจากที่ Gunners พัฒนาอย่างรวดเร็วจนเกือบได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่แล้ว
โดยจุดที่อาร์เซนอลใช้เพื่อปิดการขายนั้น Telegraph ได้วิเคราะห์เอาไว้ ดังนี้
ขณะที่ THE STANDARD ขอวิเคราะห์เพิ่มเติมเอง (เอาหน่อย!) ว่ายังมีเรื่องความท้าทายของการเป็นผู้ท้าชิงมันเร้าใจกว่า อีกทั้งอาร์เตตาคาดว่าจะอยู่กับอาร์เซนอลไปอีกนานหลายปี
และอีกปัจจัยสำคัญมากคือ ไรซ์และครอบครัวจะไม่ต้องย้ายถิ่นฐานด้วย เขาจะได้อยู่ในลอนดอนต่อไปเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่ต้องปรับตัวกับชีวิตใหม่
เหตุผลเหล่านี้ถือว่าดีพอที่จะทำให้ไรซ์เลือกอาร์เซนอล ซึ่งดูเหมือนเขาจะเลือกมานานแล้ว จนทำให้ไม่มีข่าวว่าหวั่นไหวกับแมนฯ ซิตี้เลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่หากเป็นนักเตะคนอื่น การได้ไปอยู่ทีมใหญ่ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงและต่อเนื่อง รวมถึงการได้เล่นให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถือเป็นโอกาสดีในชีวิตที่หลายคนไม่ปล่อยให้หลุดมือ
มีเหตุผลเดียวที่จะทำให้เขาไม่เลือกอาร์เซนอล ก็คือการที่อาร์เซนอลตกลงค่าตัวกับเวสต์แฮมไม่ได้ ซึ่งแบบนั้นก็เหมือนเจ้าตัวไม่มีสิทธิ์เลือก และจะเป็นโอกาสของแมนฯ ซิตี้ที่จะเดินหน้าอย่างจริงจัง ซึ่งมองว่าเป๊ปต้องการไรซ์เพื่อมาเป็นตัวแทนของ อิลคาย กุนโดกัน ในระยะยาว แม้ว่าจะได้ มาเตโอ โควาซิช มาจากเชลซีแล้วคนหนึ่งก็ตาม
ทุกอย่างยังอยู่ในเกมของอาร์เซนอล อยู่ที่ฝ่ายบริหารของสโมสรจะสนับสนุนดีลนี้แค่ไหน ซึ่งจากทิศทางที่ผ่านมา แม้ ‘แท็กติก’ ในการยื่นข้อเสนอต่ำๆ เพื่อลองใจก่อน จะดูเข้าใจได้ยาก แต่เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนในสโมสรพร้อมจะเดินหน้าเต็มกำลัง เพราะเชื่อว่ามีโอกาสที่ทีมจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
และไรซ์จะเป็น ‘กุญแจสำคัญ’ ของทีมในภารกิจนี้
อ้างอิง:
The post แมนฯ ซิตี้ยื่นแล้ว! แต่ทำไม ดีแคลน ไรซ์ ถึงน่าจะไปอาร์เซนอลมากกว่า? appeared first on THE STANDARD.
]]>