Chris Rock – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 04 Oct 2023 06:16:09 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Stars at CHANEL Spring/Summer 2024 Jennie, Usher, Wang Yibo และอีกมากมายที่โชว์ใหญ่ในปารีส https://thestandard.co/stars-chanel-spring-summer-2024/ Wed, 04 Oct 2023 06:16:09 +0000 https://thestandard.co/?p=850453

ถึงช่วงโค้งสุดท้ายของ Paris Fashion Week Spring/Summer […]

The post Stars at CHANEL Spring/Summer 2024 Jennie, Usher, Wang Yibo และอีกมากมายที่โชว์ใหญ่ในปารีส appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถึงช่วงโค้งสุดท้ายของ Paris Fashion Week Spring/Summer 2024 ที่มีแบรนด์ใหญ่อย่าง CHANEL เปิด Grand Palais Éphémère ต้อนรับทั้งสื่อ อินฟลูเอ็นเซอร์ ลูกค้า และเหล่าคนดังคนสนิทที่มากันอย่างคับคั่ง

 

เริ่มด้วย Jennie เฮาส์แอมบาสเดอร์ของ CHANEL และสมาชิกวง BLACKPINK คนสุดท้ายที่หลายคนเจอในช่วงแฟชั่นวีคซีซันนี้ ตามมาด้วยนักแสดงชาวจีนอย่าง Wang Yibo ที่มีแฟนคลับมาเชียร์หน้างานเยอะไม่แพ้กัน ร่วมด้วย Paris Hilton ที่เดินสายออกงานและเดินแบบในช่วงนี้, Usher ที่มีการแสดงในปารีส ไปจนถึง Penélope Cruz, Brie Larson, Emilia Clarke, Chris Rock, Charlotte Casiraghi, Hari Nef และอีกมากมาย

 

 

ภาพ: CHANEL

The post Stars at CHANEL Spring/Summer 2024 Jennie, Usher, Wang Yibo และอีกมากมายที่โชว์ใหญ่ในปารีส appeared first on THE STANDARD.

]]>
มีคนพบ Will Smith ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานออสการ์ หลังถูกแบนไม่ให้ร่วมงานถึง 10 ปี https://thestandard.co/will-smith-oscars-2023/ Tue, 14 Mar 2023 07:39:41 +0000 https://thestandard.co/?p=762692

ในวันงาน Academy Awards ครั้งที่ 95 ที่จัดขึ้นเมื่อวานน […]

The post มีคนพบ Will Smith ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานออสการ์ หลังถูกแบนไม่ให้ร่วมงานถึง 10 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในวันงาน Academy Awards ครั้งที่ 95 ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (13 มีนาคม) หลายคนต่างก็สงสัยว่า Will Smith อยู่ที่ไหนและทำอะไร หลังจากที่องค์กร Academy ประกาศแบน Will Smith ไม่ให้ร่วมงานออสการ์เป็นเวลา 10 ปี จากเหตุการณ์ตบหน้า Chris Rock เมื่อปีก่อน

 

โดยเว็บไซต์ Entertainment Tonight รายงานว่ามีผู้พบเห็น Will Smith กำลังขับรถไปที่ไหนสักแห่งในช่วงเวลา 4 โมงเย็นตามเวลาท้องถิ่นในย่าน San Dimas ในลอสแอนเจลิส ซึ่งห่างจาก Dolby Theatre สถานที่จัดงานประกาศรางวัลไปประมาณครึ่งชั่วโมง 

 

และถึงแม้ว่าทั้ง Will Smith และ Chris Rock จะไม่ได้ร่วมงานออสการ์ในปีนี้ แต่โฮสต์ของงานอย่าง Jimmy Kimmel ก็ได้หยิบเรื่องดราม่าดังกล่าวมาล้อเลียนอย่างเจ็บแสบตลอดทั้งคืน โดยเฉพาะวิธีรับมือกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดขององค์กร Academy และมุกตลกปิดท้ายที่เริ่มนับงานออสการ์แบบที่ไม่มีเหตุดราม่าเกิดขึ้นปีนี้เป็นปีแรก

 

ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน Will Smith กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อเขาเดินขึ้นไปตบหน้านักแสดงคอเมดี้ Chris Rock บนเวทีประกาศรางวัลออสการ์อย่างอุกอาจ ท่ามกลางความตกใจและงุนงงของคนในงานและผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดทั่วโลก หลังจากที่ Chris Rock เล่นมุกฝืดเกี่ยวกับอาการป่วยด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) ของ Jada Pinkett Smith ภรรยา Will Smith ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 20 นาที เขาก็ได้ขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งเพื่อรับรางวัลสาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม จากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง King Richard

 

แม้จะได้รับรางวัลใหญ่กลับบ้าน แต่ทาง Academy ได้ตัดสินใจประกาศแบน Will Smith ไม่ให้ร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์เป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วผู้ที่ชนะรางวัลนักแสดงชายและหญิงยอดเยี่ยมจะต้องเป็นผู้เชิญรางวัลดังกล่าวในปีถัดมา แต่เมื่อ Will Smith ไม่สามารถมาร่วมงานออสการ์ด้วยตัวเองได้ สองนักแสดงอย่าง Halle Berry และ Jessica Chastain จึงรับหน้าที่แทนเขาในที่สุด โดยผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมในปีนี้ต่อจากเขาก็คือ Brendan Fraser จากภาพยนตร์เรื่อง The Whale

 

ภาพ:  David Livingston/Getty Images

อ้างอิง:

The post มีคนพบ Will Smith ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานออสการ์ หลังถูกแบนไม่ให้ร่วมงานถึง 10 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chris Rock หยอกล้อ Will Smith แบบทางอ้อม หลังเจ้าของรางวัลออสการ์ปล่อยวิดีโอขอโทษเรื่องการตบหน้า https://thestandard.co/chris-rock-joking-with-will-smith/ Sun, 31 Jul 2022 06:44:52 +0000 https://thestandard.co/?p=660777 Chris Rock

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมาทาง Will Smith (วิลล์ สม […]

The post Chris Rock หยอกล้อ Will Smith แบบทางอ้อม หลังเจ้าของรางวัลออสการ์ปล่อยวิดีโอขอโทษเรื่องการตบหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chris Rock

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมาทาง Will Smith (วิลล์ สมิธ) ได้ปล่อยวิดีโอที่เขาได้ออกมาพูดขอโทษ Chris Rock (คริส ร็อก) เรื่องเหตุการณ์ที่ได้เข้าไปตบหน้าเขาบนเวทีออสการ์ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้ยินจากปากของนักแสดงวัย 53 ปีเอง แทนที่จะเป็นแค่คำแถลงการณ์ โดยวิดีโอดังกล่าวก็มียอดวิวแตะ 3 ล้านครั้งแล้ว และยังคงเป็นประเด็นถกเถียงในหลายแง่มุมว่า Will Smith ควรได้รับการให้อภัยไหม และการทำวิดีโอรูปแบบนี้ถือว่าเป็นทางออกที่ถูกต้องหรือไม่

 

ล่าสุดไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังวิดีโอของ Will Smith ได้ปล่อยออกมา ทาง Chris Rock ก็ได้ขึ้นเวทีเดี่ยวไมโครโฟนของเขาที่ชื่อ Ego Death World Tour ณ โรงละคร Fox Theatre ในเมืองแอตแลนตา และยังคงหยอกล้อ Will Smith แบบทางอ้อมเรื่องเหตุการณ์ที่โดนเขาตบหน้า แต่ยังไม่ได้พูดถึงประเด็นวิดีโอขอโทษแบบตรงตัว

 

“ทุกคนชอบอ้างว่าตัวเองเป็นเหยื่อโดนกระทำความผิด (Victim) ซึ่งถ้าทุกคนพยายามที่จะเป็นเหยื่อ เราก็จะไม่มีวันได้ยินเสียงของเหยื่อจริงๆ โดยแม้ผมจะโดน Suge Smith ตบหน้า แต่ผมก็ยังไปทำงานวันต่อไป เพราะผมมีลูกๆ ที่ต้องดูแล ส่วนถ้าใครชอบบอกว่าคำพูดก็สร้างความเจ็บปวดได้ คุณก็ไม่น่าเคยโดนต่อยในหน้านะ” Chris Rock ได้พูดบนเวที ซึ่งทางเว็บไซต์ People ได้วิเคราะห์ว่า Chris Rock ได้ใช้ชื่อ Suge Smith บนเวทีเพื่อเป็นการเล่นกับการเอานามสกุลของ Will Smith มาพ่วงกับชื่อจริงของ Suge Knight ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Death Row Records ที่ขณะนี้อยู่ในคุกเพราะหลากหลายคดี รวมถึงการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาที่เกิดขึ้นทันทีทันใดโดยอารมณ์โกรธ (Voluntary Manslaughter) 

 

จนถึงตอนนี้ทาง Chris Rock ก็ยังคงเงียบและเลือกที่จะไม่ออกมาพูดถึงประเด็นการโดน Will Smith ตบหน้าที่เวทีออสการ์กับใครทั้งสิ้น ซึ่งทาง Will Smith เองก็ได้พูดในวิดีโอขอโทษเมื่อวันก่อนว่าได้รับข้อความจาก Chris Rock ว่าเขายังไม่พร้อมที่จะพูดด้วย และจะติดต่อ Will Smith เองเมื่อรู้สึกพร้อม

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

The post Chris Rock หยอกล้อ Will Smith แบบทางอ้อม หลังเจ้าของรางวัลออสการ์ปล่อยวิดีโอขอโทษเรื่องการตบหน้า appeared first on THE STANDARD.

]]>
Will Smith ถูกแบนห้ามไปงานออสการ์เป็นระยะเวลา 10 ปี แต่ไม่โดนยึดรางวัลและยังสามารถมีชื่อเสนอเข้าชิงได้ในอนาคต https://thestandard.co/will-smith-banned-from-oscars/ Sat, 09 Apr 2022 02:42:00 +0000 https://thestandard.co/?p=615887 Will Smith

หลังจากมีกระแสข่าวลือและการคาดการณ์ออกมามากมายว่าทางหน่ […]

The post Will Smith ถูกแบนห้ามไปงานออสการ์เป็นระยะเวลา 10 ปี แต่ไม่โดนยึดรางวัลและยังสามารถมีชื่อเสนอเข้าชิงได้ในอนาคต appeared first on THE STANDARD.

]]>
Will Smith

หลังจากมีกระแสข่าวลือและการคาดการณ์ออกมามากมายว่าทางหน่วยผู้จัดงานออสการ์อย่าง Academy of Motion Pictures Arts & Sciences จะมีข้อสรุปอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ Will Smith (วิลล์ สมิธ) ขึ้นเวทีงานประกาศรางวัลครั้งที่ 94 และได้ตบหน้า Chris Rock ซึ่งเล่นมุกใส่ Jada Pinkett Smith ภรรยาของ Will Smith ล่าสุดได้มีการตัดสินออกมาแล้วว่าเขาจะโดนแบนห้ามมางานออสการ์เป็นระยะเวลา 10 ปี

 

“งานออสการ์ครั้งที่ 94 ควรเป็นวันเฉลิมฉลองความสำเร็จของหลายคนในวงการของเราที่ได้ทำผลงานออกมาอย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ถูกบดบังไปด้วยการกระทำอันรุนแรงและรับไม่ได้ของ Will Smith บนเวที

 

“ช่วงการถ่ายทอดงานออสการ์ เราไม่ได้จัดแจงและดูแลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง ซึ่งเราต้องขอโทษ ณ โอกาสนี้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราควรที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีต่อแขกและคนดูทั่วโลกให้เห็นว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรให้ถูกต้อง แต่เราก็รับมือไม่ดีพอ

 

“วันนี้ทางบอร์ดของหน่วยเราได้มาพูดคุยกันถึงการแก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Will Smith ที่งานออสการ์ และการที่เขาได้ลาออกจากเป็นหนึ่งในสมาชิกของเรา โดยผลตัดสินก็คือทาง Will Smith จะโดนแบนจากงานทุกรูปของหน่วย Academy of Motion Pictures Arts & Sciences ร่วมถึงงานออสการ์เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2022” ทางหน่วย Academy of Motion Pictures Arts & Sciences ได้แถลงอย่างชัดเจน

 

ต่อมาก็มีการแถลงเพิ่มเติมว่า “เราต้องขอขอบคุณ Chris Rock อย่างสุดซึ้งที่สามารถควบคุมสติอารมณ์บนเวทีหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเขา และต้องขอบคุณพิธีกร ผู้เข้าชิง พรีเซ็นเตอร์ และผู้ชนะรางวัลด้วยที่สงบอารมณ์ช่วยการถ่ายทอดสดรายการ”

 

แต่ในขณะเดียวกันทางเว็บไซต์ Variety ก็ได้รายงานว่า Will Smith จะไม่โดนยึดรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่เขาได้รับเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาตามการคาดการณ์ของนักวิจารณ์หนังหลายคน แม้จะมีการเรียกร้องให้เกิดขึ้นในวงการ แถมในอนาคตผลงานที่เขาแสดงหรือเป็นโปรดิวเซอร์ก็ยังสามารถเข้าชิงได้

 

ภาพ: Neilson Barnard / Getty Images 

อ้างอิง:

The post Will Smith ถูกแบนห้ามไปงานออสการ์เป็นระยะเวลา 10 ปี แต่ไม่โดนยึดรางวัลและยังสามารถมีชื่อเสนอเข้าชิงได้ในอนาคต appeared first on THE STANDARD.

]]>
เหตุการณ์ที่ Will Smith ตบหน้า Chris Rock ส่งผลให้มีผู้ชมงานออสการ์เพิ่มขึ้นกว่า 600,000 ครัวเรือนภายใน 15 นาที https://thestandard.co/will-smith-slap-chris-rock-oscars-2022/ Fri, 01 Apr 2022 03:25:44 +0000 https://thestandard.co/?p=612918 Will Smith

เหตุการณ์ที่ Will Smith ขึ้นเวทีงานประกาศรางวัลออสการ์ […]

The post เหตุการณ์ที่ Will Smith ตบหน้า Chris Rock ส่งผลให้มีผู้ชมงานออสการ์เพิ่มขึ้นกว่า 600,000 ครัวเรือนภายใน 15 นาที appeared first on THE STANDARD.

]]>
Will Smith

เหตุการณ์ที่ Will Smith ขึ้นเวทีงานประกาศรางวัลออสการ์ และตรงดิ่งไปยัง Chris Rock ที่เพิ่งจะปล่อยมุกฝืดเกี่ยวกับอาการป่วยด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) ของภรรยา Jada Pinkett Smith ก่อนที่จะตบหน้าเขาเข้าอย่างจัง ท่ามกลางความตกใจและงุนงงของทั้งคนในแวดวงภาพยนตร์ที่อยู่ในงาน รวมไปถึงผู้ชมจากทางบ้านทั่วโลกนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงในหลายประเด็น 

 

อีกสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ Will Smith บันดาลโทสะกลางงานออสการ์แบบเรียลไทม์เลยก็คือ การที่ผู้ชมจำนวน 511,000 ครัวเรือนที่เข้ามาดูการบรอดแคสต์งานประกาศรางวัลผ่านทาง ABC ภายในช่วงเวลา 15 นาทีหลังเกิดเหตุ สถิติของ Nielsen ยังรายงานผลอีกว่า หลังจาก 15 นาทีนั้นผู้ชมก็ลดลงเล็กน้อย ก่อนที่จำนวนคนดูจะพุ่งขึ้นมาถึง 614,000 ครัวเรือนอีกครั้งเมื่อ Will Smith เป็นผู้ที่คว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง King Richard ได้สำเร็จ และขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ทั้งน้ำตา โดยพูดถึงตัวละคร Richard Williams ของเขาปกป้องครอบครัวอย่างไรบ้าง ซึ่งก็คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ในชีวิตจริงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเพียง 20 นาที

 

นอกจากเหตุการณ์ของ Will Smith และ Chris Rock แล้ว ช่วงที่เรตติ้งงานประกาศรางวัลออสการ์สูงที่สุดก็คือตอนที่ Troy Kotsur ขึ้นรับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง CODA และกลายเป็นนักแสดงผู้ชายหูหนวกคนแรกที่สามารถทำได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ส่งผลให้เรตติ้งโดยรวมของงานออสการ์ในปีนี้เพิ่มขึ้น 58% จากปีที่แล้ว ที่เรตติ้งตกต่ำระดับดิ่งลงเหวเลยทีเดียว

 

ภาพ: Myung Chun / Los Angeles Times via Getty Images 

อ้างอิง: 

The post เหตุการณ์ที่ Will Smith ตบหน้า Chris Rock ส่งผลให้มีผู้ชมงานออสการ์เพิ่มขึ้นกว่า 600,000 ครัวเรือนภายใน 15 นาที appeared first on THE STANDARD.

]]>
Zoë Kravitz โพสต์แสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars 2022 https://thestandard.co/zoe-kravitz-will-smith-oscars-slap/ Thu, 31 Mar 2022 08:18:28 +0000 https://thestandard.co/?p=612640 Zoë Kravitz

หลังจากที่ Will Smith (วิลล์ สมิธ) สร้างโมเมนต์ช็อกโลกด […]

The post Zoë Kravitz โพสต์แสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars 2022 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Zoë Kravitz

หลังจากที่ Will Smith (วิลล์ สมิธ) สร้างโมเมนต์ช็อกโลกด้วยการลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินขึ้นไปบนเวทีงาน Academy Awards ก่อนที่จะตบหน้า Chirs Rock เข้าอย่างจัง เหตุเพราะเขาเล่นมุกล้อเลียนทรงผมของภรรยา Jada Pinkett Smith ทั้งที่เธอต้องโกนผมด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) มานานหลายปี 

 

เมื่อ Will Smith ลงมาจากเวที ทั้งแขกในงานออสการ์และผู้ชมทางบ้านทั่วโลกต่างก็ยังคงตกใจและมึนงงว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นการแสดงหรือไม่ จนเมื่อ Will Smith ตะโกนอย่างสุดเสียงใส่ Chris Rock ว่าอย่าได้พูดถึงภรรยาของเขาอีก เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงมากมายว่าสิ่งที่เขาทำเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ทันที ซึ่งก็มีทั้งนักแสดงที่มองว่าที่เขาทำไปคือการปกป้องครอบครัว ในขณะที่คนดังอีกหลายคนไม่ยอมรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยสิ้นเชิง และนักแสดงสาวเจ้าของบท Catwoman คนล่าสุดอย่าง Zoë Kravitz ก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

Zoë Kravitz โพสต์ภาพผ่าน Instagram สองภาพ โดยมีข้อความที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของ Will Smith หรือ Chris Rock ออกมาโดยตรง แต่หลายคนก็เดาไม่ยากว่าเธอกำลังพูดถึงเหตุการณ์ดราม่าที่เกิดขึ้นในงานประกาศรางวัลออสการ์กำกับอยู่ โดยภาพแรกเป็นภาพแฟชั่นพรมแดงในชุดสีชมพูอ่อนของเธอพร้อมแคปชัน “นี่คือภาพชุดของฉันในงานประกาศรางวัลที่ปรากฏว่าเราได้ทำร้ายร่างกายกันบนเวทีแล้วตอนนี้”

 

ไม่ถึงชั่วโมงถัดมาเธอก็โพสต์ภาพที่สองในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของ Vanity Fair ที่เธอปรากฏตัวในชุดสีขาวสง่าพร้อมกับข้อความที่คล้ายกับภาพแรกว่า

“และนี่คือภาพชุดของฉันในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของงานประกาศรางวัล ในที่ที่เราได้ตะโกนถ้อยคำหยาบคายและทำร้ายร่างกายคนอื่นบนเวทีกันแล้วตอนนี้”

 

ภาพ: Cindy Ord / WireImage 

อ้างอิง: 

The post Zoë Kravitz โพสต์แสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars 2022 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chris Rock ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่โดน Will Smith ตบหน้าบนเวที Oscars 2022 ครั้งแรก https://thestandard.co/chris-rock-interview-about-will-smith-issue-on-oscars-2022/ Thu, 31 Mar 2022 03:26:26 +0000 https://thestandard.co/?p=612416 Chris Rock

หลังจากที่นักแสดงตลก Chris Rock (คริส ร็อก) เงียบหายและ […]

The post Chris Rock ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่โดน Will Smith ตบหน้าบนเวที Oscars 2022 ครั้งแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chris Rock

หลังจากที่นักแสดงตลก Chris Rock (คริส ร็อก) เงียบหายและไม่ได้โต้ตอบอะไรเป็นเวลากว่า 48 ชั่วโมง หลังโดน Will Smith (วิล สมิธ) ตบหน้าบนเวทีออสการ์เพราะเขาได้ยิงมุกเกี่ยวกับ Jada Pinkett Smith ที่สร้างความไม่พอใจให้กับ Will Smith ล่าสุดทาง Chris Rock ก็ได้พูดถึงประเด็นนี้แบบสั้นๆ ขณะขึ้นเวทีโชว์เดี่ยวไมโครโฟนที่เมืองบอสตันเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (30 มีนาคม)

 

“ถ้าพวกคุณมาดูโชว์คืนนี้เพื่อที่จะได้ยินว่าอะไรเกิดขึ้น ผมยังไม่มีอะไรจะพูดขนาดนั้นเพราะผมมีโชว์ที่ได้เขียนและจัดเตรียมไว้ก่อนเหตุการณ์เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยตอนนี้ผมก็ยังคงทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและวันหนึ่งก็จะพูดถึงมัน ซึ่งจะทั้งซีเรียสและตลก” Chris Rock ได้กล่าวบนเวทีหลังได้เสียงเชียร์ทั่วโรงละคร The Wilbur ซึ่งก็มีผู้ชมคนหนึ่งได้ตะโกนออกมาว่า “F**k Will Smith”

 

ทางเว็บไซต์ Variety ยังได้รายงานว่ามีผู้สื่อข่าวกว่า 10 คน พร้อมทีมงาน มารอทำข่าวหน้าโรงละคร ซึ่งก็สร้างความแตกตื่นให้หลายคนเพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

 

นอกเหนือจากนี้ ทางเว็บไซต์ขายตั๋วรีเซล StubHub ก็ได้รายงานว่าตั๋วโชว์เดี่ยวไมโครโฟนของ Chris Rock ได้มีการถูกซื้อต่อมากขึ้นกว่า 25 เท่า ตั้งแต่เหตุการณ์บนเวทีออสการ์ ซึ่งจากเดิมที่ตั๋วราคาอยู่ที่ 49.50 ดอลลาร์ ก็กระโดดสูงขึ้นถึง 8,000 ดอลลาร์

 

คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าทาง Chris Rock จะเลือกพูดถึงเหตุการณ์นี้อย่างจริงจังตอนไหนและที่ไหน ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงมีกระแสข่าวลือออกมามากมายที่ยังไม่ได้มีการคอนเฟิร์มว่าจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า Chris Rock ได้เป็นคนเขียนมุกนั้นด้วยตัวเองหรือเป็นการเขียนของทางทีมงานออสการ์ และทางนักแสดงตลกก็พูดตามเครื่องบอกบท Telepromter ส่วนอีกกระแสก็คือทาง Chris Rock ไม่ได้พูดมุกนี้ช่วงซ้อมบนเวทีและมาพูดสดๆ แถมหลายคนก็ยังอยากรู้ว่า Chris Rock จะเลือกที่จะออกมาขอโทษ Jada Pinkett Smith ด้วยไหม ซึ่ง ณ เวลานี้เขาก็ยังไม่ได้ทำ

 

ภาพ: Myung Chun / Los Angeles Times via Getty Images 

อ้างอิง:

The post Chris Rock ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่โดน Will Smith ตบหน้าบนเวที Oscars 2022 ครั้งแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘นี่คือช่วงเวลาแห่งการเยียวยา’ Jada Pinkett Smith โพสต์ข้อความหลังเหตุการณ์ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars https://thestandard.co/jada-pinkett-smith-posted-message-after-will-smith-incident/ Wed, 30 Mar 2022 07:25:27 +0000 https://thestandard.co/?p=612123 ‘นี่คือช่วงเวลาแห่งการเยียวยา’ Jada Pinkett Smith โพสต์ข้อความหลังเหตุการณ์ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars

Jada Pinkett Smith (เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ) นักแสดงวัย 50 […]

The post ‘นี่คือช่วงเวลาแห่งการเยียวยา’ Jada Pinkett Smith โพสต์ข้อความหลังเหตุการณ์ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘นี่คือช่วงเวลาแห่งการเยียวยา’ Jada Pinkett Smith โพสต์ข้อความหลังเหตุการณ์ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars

Jada Pinkett Smith (เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ) นักแสดงวัย 50 ปีที่กำลังเผเชิญโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) มานานหลายปี ได้ออกมาเคลื่อนไหวแล้วหลังจากที่สามี Will Smith สร้างโมเมนต์ช็อกโลกด้วยการขึ้นไปตบหน้า Chris Rock ถึงบนเวทีออสการ์ เพราะคอเมเดียนชื่อดังปล่อยมุกว่าเขารอชมเธอในภาพยนตร์เรื่อง G.I. Jane ภาค 2 ที่ในภาพยนตร์ต้นฉบับปี 1997 นำแสดงโดย Demi Moore ที่มีทรงผมคล้ายกับเธอ

 

หลังจากที่ Will Smith ออกมาขอโทษ Chris Rock อย่างเป็นทางการผ่านสื่อ ล่าสุด Jada Pinkett Smith โพสต์ผ่าน Instagram ของตัวเองด้วยรูปที่มีข้อความว่า ‘นี่คือช่วงเวลาแห่งการเยียวยา และฉันพร้อมแล้วสำหรับสิ่งนั้น’ และไม่ได้เขียนแคปชันใดๆ กำกับไว้ ซึ่งหลายคนก็โยงโพสต์ของเธอไปถึงเหตุการณ์ดราม่าที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 Jada Pinkett Smith ออกมาเปิดเผยถึงการต่อสู้กับโรคผมร่วงเป็นหย่อมของเธอเป็นครั้งแรกผ่านรายการ Red Table Talk โดยเธอเล่าว่าเธอมีอาการครั้งแรกขณะที่กำลังอาบน้ำ และเส้นผมของเธอก็หลุดออกมาทั้งกำมือ ซึ่งเธอก็เล่าอีกว่าตอนนั้นเธอตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัวจับใจว่าตัวเองจะต้องกลายเป็นคนหัวล้าน หลังจากที่รักษาหลายวิธีซึ่งรวมไปถึงการฉีดสเตียรอยด์ เธอก็ตัดสินใจโกนผมจนเกลี้ยงในปี 2021 โดยมีลูกสาว Willow Smith เป็นผู้ผลักดันอยู่เบื้องหลัง โดย Willow Smith ได้กล่าวกับคุณแม่ว่าถึงเวลาที่ต้องปล่อยวางแล้ว

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมา Jada Pinkett Smith ก็ออกมาพูดถึงผมทรงใหม่ของตัวเองด้วยรอยยิ้มอยู่บ่อยครั้งว่าเธอสามารถหัวเราะไปกับมันได้แล้ว และเธอก็รักหัวล้านของตัวเองโดยไม่สนคำพูดแง่ลบของผู้อื่นอีกด้วย

 

ภาพ: Mike Coppola / Getty Images 

อ้างอิง: 

The post ‘นี่คือช่วงเวลาแห่งการเยียวยา’ Jada Pinkett Smith โพสต์ข้อความหลังเหตุการณ์ Will Smith ตบหน้า Chris Rock บนเวที Oscars appeared first on THE STANDARD.

]]>
มองกระแสสังคมต่อการกระทำของ ‘วิลล์ สมิธ’ บนเวทีออสการ์ ปกป้องภรรยาหรือแสดงด้านลบความเป็นชายเกินขอบเขต? https://thestandard.co/reaction-will-smith-slaps-chris-rock-oscars-2022/ Tue, 29 Mar 2022 08:38:27 +0000 https://thestandard.co/?p=611731 Will Smith

กรณีของ วิลล์ สมิธ หนึ่งในนักแสดงชายผู้โด่งดังที่สุดแห่ […]

The post มองกระแสสังคมต่อการกระทำของ ‘วิลล์ สมิธ’ บนเวทีออสการ์ ปกป้องภรรยาหรือแสดงด้านลบความเป็นชายเกินขอบเขต? appeared first on THE STANDARD.

]]>
Will Smith

กรณีของ วิลล์ สมิธ หนึ่งในนักแสดงชายผู้โด่งดังที่สุดแห่งวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่เดินไปตบหน้า คริส ร็อก ดาวตลกชื่อดัง ระหว่างทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก กลายเป็น Talk of the Town หรือประเด็นร้อนที่ทุกคนต้องพูดถึงเมื่อวานนี้ (28 มีนาคม)

 

การกระทำของสมิธมีชนวนเหตุจากความไม่พอใจมุกตลกล้อเลียนของร็อก ที่กล่าวพาดพิงถึง เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ ภรรยาของเขา ด้วยคำพูดว่า “รอไม่ไหวแล้วที่จะเห็นเจดาในภาพยนต์ G.I. Jane 2” ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการล้อเลียนทรงผมของเจดาที่ต้องโกนศีรษะจากอาการป่วยด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม หรือโรค Alopecia areata เนื่องจากตัวละครหลักในภาพยนต์ G.I. Jane ที่นำแสดงโดย เดมี มัวร์ นั้นโกนผม 

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดคอมเมนต์หลากหลายในโลกออนไลน์ มีทั้งที่ไม่พอใจ ‘มุกตลกที่ไม่ตลก’ ของร็อก และสนับสนุนการปกป้องภรรยาของสมิธ รวมถึงไม่เห็นด้วยกับการที่สมิธใช้กำลังจัดการเรื่องนี้แบบเกินขอบเขต และทำให้เกิดการถกเถียงและตั้งคำถามมากมายว่า การตัดสินใจใช้กำลังเพื่อจัดการกับผู้ที่ล้อเลียนหรือดูหมิ่นบุคคลที่ตนเองรัก แบบเดียวกับที่สมิธทำนั้น ‘ถูกหรือผิด’  ‘เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม’ และการตัดสินใจที่ถูกต้องคืออะไร? 

 

ซึ่งเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ ทั้งสมิธและร็อกต่างได้บทเรียนจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปไม่มากก็น้อย

 

กระแส #ToxicMasculinity

 

สื่อหลายสำนักมีการเผยแพร่บทความที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของสมิธ โดยใช้ถ้อยคำในการพาดหัวข่าวว่า เป็นการแสดงออกถึง ‘ความเป็นชายที่เป็นพิษ’ หรือ ‘Toxic masculinity’ หรือการแสดงค่านิยมความเป็นชายในแง่ลบที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่อันตรายต่อบุคคลและสังคม ซึ่งในกรณีของสมิธ คือการใช้ความรุนแรงในการจัดการกับปัญหา

 

ภายหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แฮชแท็ก #ToxicMasculinity กลายเป็นกระแสที่พูดถึงและติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยมีผู้ติดแฮชแท็กในทวีตข้อความประเด็นนี้กว่า 7,000 ทวีต ภายในช่วงไม่กี่ชั่วโมง

 

อแมนดา ปาร์ริส ผู้ประกาศข่าวและนักเขียนชาวแคนาดา ทวีตในประเด็นนี้ โดยมองว่าการใช้กำลังทำร้ายร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แม้ว่าโรคผมร่วงของเจดาจะเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด ที่ผู้หญิงผิวสีหลายคนต้องเผชิญและไม่ควรนำมาพูดล้อเล่น แต่แนวคิดของการเป็น ‘ผู้พิทักษ์’ แบบที่สมิธทำนั้น สามารถกลายเป็นรูปแบบของความเป็นชายที่เป็นพิษได้ ซึ่งเธอยังมองว่า ผู้หญิงผิวสีนั้นมักไม่ค่อยได้รับการปกป้อง และสมควรที่จะได้รับการปกป้อง”

 

ลิซา เฮนดริกส์ นักเคลื่อนไหวและผู้สนับสนุนการป้องกันความรุนแรงจากอาวุธปืน ทวีตข้อความเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยยกข้อความที่สมิธกล่าวขอโทษต่อการกระทำของเขาทั้งน้ำตา ภายหลังขึ้นเวทีรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมว่า “ความรักจะทำให้คุณทำในสิ่งบ้าๆ” ซึ่งเฮนดริกส์กล่าวว่า “ไม่ใช่เลย” และมองว่าการแสดงความองอาจปกป้องคนรักแบบ ‘ทาร์ซานปกป้องเจน’ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ค่านิยมความเป็นชายที่เป็นพิษคงอยู่ต่อไป

 

หลากหลายมุมมองต่อการกระทำของสมิธ

 

บรรดาเซเลบหรือบุคคลมีชื่อเสียงที่เห็นข่าวนี้หรืออยู่ในงานประกาศรางวัลออสการ์ต่างแสดงความตกตะลึง และมีการแสดงความเห็นที่หลากหลาย ต่อทั้งการกระทำของสมิธและมุกตลกร้ายของร็อก

 

เดนเซล วอชิงตัน นักแสดงดังเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์ ซึ่งเป็นคนแรกๆ ที่ดึงสมิธออกมา และเข้าไปปลอบเจดา ได้เตือนสติสมิธว่า “ในจุดที่สูงที่สุดของคุณ จงระวังไว้ นั่นคือตอนที่ปีศาจร้ายจะมาเยือนคุณ” 

 

นิกกี้ มินาจ นักร้องดังชาวอเมริกัน ทวีตข้อความหลายครั้ง โดยแสดงความสนับสนุนสมิธ และบอกว่าเธอนั้นรักร็อกเช่นกัน แต่คิดว่ามุกตลกของเขานั้นล้ำเส้น

 

เลียม เพย์น นักร้องชื่อดังชาวอังกฤษ ซึ่งบอกว่าเคยเป็นเพื่อนบ้านของสมิธ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในรายการ Good Morning Britain ว่า “อะไรก็ตามที่สมิธทำ เขามีสิทธิ์ที่จะทำ”

 

ขณะที่ จาเดน สมิธ ลูกชายของวิลล์และเจดา ทวีตข้อความหลังเกิดเหตุ โดยบอกว่า “นั่นคือวิธีที่เราทำ” และโพสต์ว่า “สุนทรพจน์ของพ่อนั้นทำให้เขาร้องไห้”

 

โซเฟีย บุช นักแสดง นักเคลื่อนไหว และผู้กำกับชาวอเมริกัน กล่าวต่อทั้งสองคู่กรณีของเรื่องนี้ว่า “ความรุนแรงนั้นไม่โอเค การทำร้ายร่างกายไม่เคยเป็นคำตอบ” และบอกว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่คริสล้อเลียนเจดาในเวทีออสการ์ และคืนนี้เขาล้อเลียนโรคผมร่วงของเธอ การวิจารณ์โรคภูมิต้านทานผิดปกติของผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่ผิด การทำเช่นนั้นโดยเจตนานั้นเป็นเรื่องโหดร้าย พวกเขาทั้งคู่ต้องหยุด” 

 

จัดด์ อพาโทว์ ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และนักเขียนบทชาวอเมริกัน ทวีตข้อความที่กลายเป็นไวรัลเกี่ยวกับความโกรธเกรี้ยวแบบไร้การควบคุมของสมิธว่า อาจถึงขนาดทำให้เขาฆ่าร็อกได้ 

 

“เขา (สมิธ) อาจจะฆ่าเขา (ร็อก) ได้ นั่นเป็นความโกรธและความรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ พวกเขาเคยได้ยินเรื่องตลกมาเป็นล้านเรื่องในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาไม่ใช่น้องใหม่ในโลกแห่งฮอลลีวูดและการแสดงตลก เขาเสียสติไปแล้ว” อพาโทว์กล่าว และมองว่าการที่ร็อกล้อเลียนเจดา โดยเปรียบกับ G.I. Jane ที่แสดงโดย เดมี มัวร์ ว่าเป็นสิ่งที่งดงามมากกว่าการดูหมิ่น

 

ขณะที่ เคธี กริฟฟิน นักแสดงตลกเจ้าของรางวัลเอ็มมี่และแกรมมี่ มองว่าการกระทำของสมิธ ที่ขึ้นไปทำร้ายนักแสดงตลกบนเวที นั้นก่อให้เกิดความกังวลว่า ใครจะทำแบบสมิธอีกในอนาคต

 

บทเรียนสำคัญสำหรับ ‘สมิธ’ และ ‘ร็อก’

 

สิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนประกาศรางวัลออสการ์ครั้งนี้ แทบจะทำให้อุบัติเหตุบนเวทีออสการ์อื่นๆ เช่น กรณีประกาศรางวัลผิดในปี 2017 กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยทีเดียว แต่สิ่งสำคัญที่ได้จากเหตุการณ์นี้ คือ ‘บทเรียนสำคัญ’ ที่ทั้งสมิธและร็อกต่างต้องจดจำไปตลอดชีวิต 

 

สำหรับร็อก การเล่นมุกตลกที่ออกมาดูแย่จนหลายคนมองว่าโหดร้าย ที่ล้อเลียนอาการป่วยของเจดาในรายการสดที่ออกอากาศไปทั่วโลก จนถึงขนาดที่อาจทำให้เกิดความบอบช้ำทางจิตใจ ซึ่งที่ผ่านมาเจดาเคยออกมาพูดเรื่องการที่ต้องสูญเสียผมที่เธอรักและทะนุถนอมจากโรคผมร่วงนี้ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้มากในผู้หญิงผิวสี ว่าเป็นสิ่งน่ากลัวที่เธอต้องพยายามรับมือ 

 

การเล่นมุกล้อเลียนซึ่งเป็นการซ้ำเติมเจดานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และร็อกเองเป็นหนึ่งในคนที่ควรจะรู้ถึงความสำคัญสำหรับผมของผู้หญิงผิวสีมากที่สุด เนื่องจากเขาเป็นผู้สร้างสารคดีเรื่อง ‘Good Hair’ ที่เจาะลึกเรื่องราวในอุตสาหกรรมการจัดแต่งทรงผมสำหรับผู้หญิงอเมริกันผิวสี และผลกระทบต่อผมของผู้หญิงผิวสี

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มุกตลกของร็อกจะแย่แค่ไหน แต่การที่สมิธเลือกใช้ทางแก้ด้วยการทำร้ายร่างกายนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเขาสามารถเลือกหนทางอื่นๆ เช่น การโต้กลับด้วยคำพูด หรือขึ้นเวทีบอกว่าการกระทำของร็อกนั้นไม่เหมาะสม และประณามการหยิบเอาอาการป่วยของผู้อื่นมาล้อเล่น หรือแม้แต่นิ่งเฉยไม่ต้องสนใจ 

 

ซึ่งทันทีที่สมิธตัดสินใจเหวี่ยงมือไปตบหน้าร็อก เพราะการล้อเลียนหรือดูหมิ่นภรรยาของเขา ก็ทำให้สมิธตกเป็นฝ่ายผิดในการใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น แม้จะมีเหตุผลในการปกป้องภรรยาก็ตาม

 

แต่ถึงกระนั้น การกระทำของสมิธทำให้เห็นถึงการแสดงออกในการปกป้องผู้หญิงผิวสี โดยเฉพาะในเรื่องผม ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญต่อโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่เจดาเผชิญอยู่

 

คำขอโทษของสมิธ สายเกินไปไหม?

 

หลังจากเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 24 ชั่วโมง สมิธได้โพสต์แถลงการณ์ผ่านอินสตาแกรม แสดงความขอโทษอย่างเป็นทางการต่อการกระทำของเขา โดยยอมรับว่า เขาเป็นฝ่ายผิดและรู้สึกละอาย และยอมรับว่าการใช้กำลังนั้นไม่เคยเป็นทางออกของปัญหา ซึ่งเขาควรรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ดีกว่านี้ แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเขา ที่ต้องได้ยินมุกตลกล้อเลียนอาการป่วยของภรรยา ซึ่งเขาแสดงปฏิกิริยาออกมาตามอารมณ์

 

“ความรุนแรงในทุกรูปแบบเป็นพิษและเป็นอันตราย พฤติกรรมของผมในงานเมื่อคืนนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และให้อภัยไม่ได้ การเล่นตลกกับผมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของงาน แต่การเล่นตลกเกี่ยวกับอาการป่วยของเจดานั้นมากเกินกว่าที่ผมจะรับได้ และผมก็แสดงปฏิกิริยาไปตามอารมณ์”

 

อย่างไรก็ตาม คำขอโทษของสมิธที่ดูเหมือนจะค่อนข้างช้า ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์มากมายในโซเชียลมีเดีย แฟนคลับและผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าเขาแสดงความขอโทษด้วยความจริงใจ 

 

แต่ในอีกมุม ก็มีผู้ที่ไม่เชื่อและมองว่าเป็นการออกมาขอโทษของทีมประชาสัมพันธ์ของสมิธ หรือเป็นการขอโทษเพียงเพราะถูกกดดันให้ปกป้องตัวเองจากผลกระทบและความเสียหายที่จะตามมา เช่น การถูกแบนหรือถอดรางวัลออสการ์ หรือผลกระทบด้านรายได้ของภาพยนต์ที่เขาเล่น ตลอดจนข้อครหาในแง่ลบที่อาจกลายเป็น ‘ความด่างพร้อย’ ในอาชีพของเขา

 

นอกจากนี้ ยังมีเสียงวิจารณ์จากการที่สมิธไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ในการกระทำครั้งนี้ แม้จะยอมออกมาขอโทษ เนื่องจากร็อกเองก็ตัดสินใจไม่แจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจ ขณะที่สมิธยังคงได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และยังไม่ถูกถอดรางวัล แม้ว่าผู้จัดงานประกาศรางวัลออสการ์จะแสดงท่าทีไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกชนิด

 

ซึ่งชาวเน็ตรายหนึ่งมองว่าสมิธนั้นขอโทษได้ดี แต่ตั้งคำถามว่าหากคนที่ก่อเหตุเดินขึ้นไปตบหน้าพิธีกรบนเวทีออสการ์ไม่ใช่บุคคลมีชื่อเสียงเช่นสมิธ การออกมาขอโทษเพียงอย่างเดียวนั้นคงไม่เพียงพอที่จะทำให้คดีทำร้ายร่างกายนี้ยุติลง

 

ภาพ: Myung Chun / Los Angeles Times via Getty Images

อ้างอิง:

The post มองกระแสสังคมต่อการกระทำของ ‘วิลล์ สมิธ’ บนเวทีออสการ์ ปกป้องภรรยาหรือแสดงด้านลบความเป็นชายเกินขอบเขต? appeared first on THE STANDARD.

]]>
Will Smith ออกมาขอโทษ Chris Rock อย่างเป็นทางการ เรื่องการขึ้นไปตบหน้าบนเวที Oscars 2022 https://thestandard.co/will-smith-apologize-to-chris-rock/ Tue, 29 Mar 2022 00:45:34 +0000 https://thestandard.co/?p=611520 Will Smith

ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและติดตา […]

The post Will Smith ออกมาขอโทษ Chris Rock อย่างเป็นทางการ เรื่องการขึ้นไปตบหน้าบนเวที Oscars 2022 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Will Smith

ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและติดตามความเคลื่อนไหว สำหรับเหตุการณ์ที่ Will Smith ได้ขึ้นไปตบหน้า Chris Rock บนเวทีออสการ์เมื่อวานนี้ (28 มีนาคม) หลังทาง Chris Rock ได้ยิงมุกเกี่ยวกับ Jada Pinkett Smith ที่สร้างความไม่พอใจต่อ Will Smith อย่างมาก

 

ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 มีนาคม) ทางนักแสดงวัย 53 ปีที่เพิ่งชนะออสการ์ตัวแรกในชีวิตในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากผลงานในภาพยนตร์ King Richard ก็ได้โพสต์ข้อความขอโทษ Chris Rock อย่างเป็นทางการผ่านโซเชียลมีเดียของเขา

 

“การใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบเป็นพิษและสร้างแต่ความอันตราย โดยการกระทำของผมเมื่อวานที่งานออสการ์เป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ การที่คนจะหยอกล้อและเล่นมุกกับผมก็เป็นสิ่งที่มาพร้อมกับบทบาทหน้าที่ในวงการ แต่การมาเล่นมุกเกี่ยวกับโรคประจำตัวของ Jada มันเกินจะทน และทำให้ผมใช้อารมณ์เป็นการตัดสินการกระทำ

 

“ผมอยากจะขอโทษ Chris Rock แบบเปิดเผยต่อสาธารณชน สิ่งที่ผมทำไปถือว่าข้ามเส้นและผิด ผมรู้สึกละอายใจกับการกระทำของตัวเองที่ไม่สะท้อนความเป็นแบบอย่างผู้ชายที่ผมอยากจะเป็น การใช้ความรุนแรงไม่ควรมีอยู่ในโลกนี้ที่เต็มไปด้วยความรักและความเมตตา

 

“ผมอยากขอโทษทางหน่วยผู้จัดงานออสการ์ โปรดิวเซอร์รายการ แขกทุกคน และคนทั่วโลกที่กำลังรับชมการประกาศรางวัล ผมอยากขอโทษทางครอบครัว Williams และครอบครัวภาพยนตร์ King Richard ผมผิดหวังกับพฤติกรรมตัวเองอย่างมาก และรู้ว่ามันกลับจะสร้างความเจ็บช้ำในช่วงเวลาที่เราได้สร้างอย่างมีคุณค่าด้วยกัน ผมยังต้องปรับปรุงตัวเองต่อไป” ทาง Will Smith ได้เขียน

 

ล่าสุดทางหน่วยผู้จัดงานออสการ์อย่าง Academy of Motion Pictures Arts and Sciences ก็ได้มีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาว่าควรรับมือกับสถานการณ์อย่างไรต่อไปตามหลักกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย

 

ภาพ: Myung Chun / Los Angeles Times via Getty Images 

อ้างอิง:

The post Will Smith ออกมาขอโทษ Chris Rock อย่างเป็นทางการ เรื่องการขึ้นไปตบหน้าบนเวที Oscars 2022 appeared first on THE STANDARD.

]]>