Chloé – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 04 Oct 2024 09:52:41 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 7 THINGS WE LOVE ABOUT SPRING/SUMMER 2025 BEST SHOWS โชว์ยอดเยี่ยมจาก 4 หัวเมืองใหญ่ https://thestandard.co/7-things-we-love-about-spring-summer-2025-best-shows/ Sun, 06 Oct 2024 13:00:16 +0000 https://thestandard.co/?p=991777

จบลงอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับแฟชั่นวีคซีซัน Spring/Summ […]

The post 7 THINGS WE LOVE ABOUT SPRING/SUMMER 2025 BEST SHOWS โชว์ยอดเยี่ยมจาก 4 หัวเมืองใหญ่ appeared first on THE STANDARD.

]]>

จบลงอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับแฟชั่นวีคซีซัน Spring/Summer 2025 ซึ่งเหมือนเดิมที่จัดขึ้นตามหัวเมืองยักษ์ใหญ่ นิวยอร์ก, ลอนดอน, มิลาน และปารีส โดยครั้งนี้ถือเป็นฤดูกาลที่สร้างสีสันได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเซเลบริตี้ระดับโลกที่ตบเท้านั่งฟรอนต์โรว์ รวมไปถึงคอลเล็กชันเสื้อผ้าของดีไซเนอร์หลายแบรนด์ที่หันมาเน้นประชันความคิดสร้างสรรค์กันมากขึ้น

 

ไฮไลต์ของแต่ละเมืองล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ภาพรวมของแฟชั่นวีคซีซันนี้น่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการย้ายประเทศโชว์ของทั้ง ALAÏA และ Off-White ที่นิวยอร์ก, การกลับมาของซูเปอร์โมเดล Bella Hadid ที่โชว์ของ Saint Laurent และแฟชั่นโชว์ครั้งแรกที่จัดขึ้นใน Disneyland โดยแบรนด์ Coperni ที่ได้ Kylie Jenner ในชุดเจ้าหญิงเดินปิดโชว์ รวมถึงโชว์ครั้งแรกของ Alessandro Michele ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่แห่งแบรนด์ Valentino ที่เขาได้นำความฟุ้งฝันแฟนตาซีอันโด่งดังยุค Gucci กลับมาที่บ้านใหม่ในปารีสอีกครั้ง

 

เพื่อเป็นการปิดจบแฟชั่นวีค THE STANDARD POP ขอรวบ 7 โชว์ที่ดีที่สุดจากเมืองแฟชั่นทั้ง 4 เมือง นิวยอร์ก, ลอนดอน, มิลาน และปารีส มาให้อ่านกัน 

 


 

HERMÈS IN PARIS

 

แม้ยอดขายของสินค้าลักชัวรีจะหดตัวลง แต่ยอดขายของ HERMÈS กลับสวนทางกัน ส่วนหนึ่งมาจากงานดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาและคุณภาพของสินค้า ที่สุดท้ายแล้วสามารถเอาชนะทุกอย่างได้ ซึ่ง Nadège Vanhee-Cybulski ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ HERMÈS สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้เกือบทุกข้อ และเพื่อเป็นการต่อยอดโมเมนตัมคอลเล็กชันนี้ของ HERMÈS ถือเป็นการทดลองงานดีไซน์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้ตื่นเต้น

 

สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเราคือ ‘ความเซ็กซี่’ งานดีไซน์รอบนี้ของ Vanhee-Cybulski แม้จะเป็นการนำเอายูนิฟอร์มหรือเสื้อผ้าทหารมาใช้เป็นแรงบันดาลใจ แต่กลับเซ็กซี่ผ่านการเล่นแมตทีเรียลอย่างผ้าเชียร์และเสื้อครอปเพื่อโชว์ผิวหนังมากขึ้น รวมถึงกางเกงเอวสูงเข้ารูปที่ดูตั้งใจเพื่อเรียกฐานลูกค้าที่เด็กลง เสื้อผ้าของ HERMÈS ทั้งหมดดูใส่ได้จริงบนแมตทีเรียลหรูหราคลาสสิกในราคาที่จับต้อง (ไม่) ได้ ถ้าเรามีเงินมากพอ เรายังต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก

 

 


 

BOTTEGA VENETA IN MILAN

 

หนึ่งในโชว์โดดเด่นที่สุดในมิลานคืองานดีไซน์จาก Bottega Veneta โดย Matthieu Blazy การตีความและต่อยอดซิกเนเจอร์ Intrecciato ลายหนังสานอันโด่งดังของแบรนด์ผ่านเสื้อผ้าสุด Effortless ที่ผสานงานคราฟต์ลงบนเสื้อผ้าและแอ็กเซสซอรีได้อย่างแยบยล สิ่งที่ต่างจากเดิมในซีซันนี้คือ Blazy กล้าที่จะสนุกมากขึ้น แรงบันดาลใจจากวัยเด็กอันไร้กรอบของเขาส่งผลให้งานดีไซน์ครั้งนี้ดูทดลองมากขึ้น เรามีโอกาสได้เห็นเสื้อผ้าชิ้นครีเอทีฟสุดโต่งที่ได้รับการดีไซน์เพื่อโชว์นี้โดยเฉพาะ

 

รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ อย่างการใช้สีสันฉูดฉาด แมตทีเรียล และซิลูเอต ซึ่งทั้งหมดสร้างมวลรวมให้คอลเล็กชันดูน่าสนใจและมีมิติมากขึ้นจากก่อนๆ รวมถึงการแทรกกิมมิกงานอาร์ตเหมือนทุกครั้ง โดยครั้งนี้ Bottega Veneta ได้เซ็ตเก้าอี้นั่งของแขกด้วย Beanbag รูปสัตว์ต่างๆ ไม่แปลกเลยที่โชว์นี้จะเป็นโชว์อันน่าจดจำในทุกองค์ประกอบจากมิลานครั้งนี้

 

 


 

S.S.DALEY IN LONDON

 

ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษที่น่าจับตามองมากที่สุดตอนนี้ต้องยกให้ Steven Stokey-Daley จากแบรนด์ S.S.DALEY ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักหลังจาก Harry Styles นำชุดของเขาไปสวมใส่ในมิวสิกวิดีโอ Golden และเขายังมานั่งให้กำลังใจที่คอลเล็กชัน Spring/Summer 2025 นี้ด้วยในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นของแบรนด์

 

ความน่าสนใจครั้งนี้ของ S.S.DALEY คือคอลเล็กชันนี้เป็น Womenswear เต็มรูปแบบครั้งแรกของเขา Stokey-Daley ขึ้นชื่อเรื่องเสื้อผ้า Menswear ที่นำเอากลิ่นอายของอังกฤษมาผสมผสานเข้ากับงานเทเลอร์ของเขา เสน่ห์ที่หลายคนหลงใหลในแบรนด์ของเขารวมถึง Styles ที่มักเลือกชุดจากแบรนด์ไปสวมใส่อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสิ่งที่เรากล่าวมาได้ปรากฏบนเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยเช่นกัน การเล่นกับเนื้อผ้าที่หลากหลายรวมถึงงานตัดเย็บที่ดูไม่น่าเบื่อ ส่งให้คอลเล็กชันนี้ของเขาน่าสนใจ เราเชื่อว่าหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของเขาอย่าง Emma Corrin ที่มานั่งฟรอนต์โรว์ จะต้องนำชุดของเขาไปใส่สร้างไวรัลในเร็ววันอย่างแน่นอน

 

 


 

LOEWE IN PARIS

 

จุดเด่นที่ทำให้โชว์ของ LOEWE นั้นพิเศษในทุกๆ ซีซันคือความคิดสร้างสรรค์ของ Jonathan Anderson ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนปัจจุบัน ซึ่งกว่า 10 ปีที่ดำรงตำแหน่งนี้ เขายังไม่หยุดสร้างเซอร์ไพรส์เลยแม้แต่ครั้งเดียว และคอลเล็กชันนี้เขาได้พิสูจน์อีกครั้งว่าเขาคือพ่อมดแห่งวงการแฟชั่นตัวจริงเสียงจริง อย่างแรกเลยงานของ Anderson ไม่เคยง่าย ซึ่งเป็นจุดแข็งของเขา เสื้อผ้ารูปทรงประหลาดของเขาเปรียบได้กับงานศิลปะที่สวมใส่ได้จริง ลูกบ้าที่เขาใส่เต็มในงานดีไซน์ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถจัดการได้ แต่ Anderson ทำได้อย่างยอดเยี่ยม

 

เขาสามารถผสมผสานระหว่าง ‘งานขาย’ และ ‘งานโชว์’ ได้กำลังพอดิบพอดี แม้เดรสลายดอกทรงบอลลูนอาจจะยากไปสักนิดในชีวิตจริง แต่รองเท้าโลฟเฟอร์, ผ้าใบหุ้มข้อ, กระเป๋าทรงใหม่ และแว่นตากันแดดรูปทรงประหลาด น่าจะเป็นไอเท็มขายดีจนถูกพบเห็นบ่อยในซีซันหน้าเป็นแน่ การจะบาลานซ์สองโลกสุดขั้วได้ขนาดนี้นั้นทำไม่ง่ายเลย ซึ่ง Anderson สามารถมาสเตอร์ได้ทั้งหมด

 

 


 

ALAÏA IN NEW YORK

 

โชว์ที่สร้างเสียงตอบรับได้ดีในนิวยอร์กแฟชั่นวีครอบนี้ต้องยกให้โชว์ของ ALAÏA โดย Pieter Mulier ที่ครั้งนี้ย้ายจากปารีสมาโชว์ที่นิวยอร์กแทน โดยจากความหลงใหลในสถาปัตยกรรม Mulier จึงเลือกจัดโชว์ Spring/Summer 2025 ที่พิพิธภัณฑ์ Guggenheim ฝีมือการออกแบบของสถาปนิก Frank Lloyd Wright ซึ่งเขายังเลือกโครงสร้างของตึกมาใช้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ ผ่านการตัดเย็บและซิลูเอตที่รับกับรูปร่างของนางแบบแต่ละคน

 

Mulier ยังเลือกหยิบกลิ่นอายความเป็นสปอร์ตซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนอเมริกันที่เน้นความคล่องตัวมาใช้บนคอลเล็กชันนี้เช่นกัน เราจึงมีโอกาสได้เห็นการผสมผสานระหว่างผ้ายืดที่นำมาใช้บนเกาะอก หรือผ้าร่มที่นำมาจับจีบประกอบให้เป็นชุดจัมป์สูท นอกจากจะได้ซูเปอร์โมเดล Kendall Jenner มาร่วมเดินโชว์แล้วนั้น ยังได้เหล่าทัพซูเปอร์โมเดลยุค 80 มานั่งชมโชว์ รวมถึง Rihanna ที่มาสายตามเคย

 

 


 

CHLOÉ IN PARIS

 

หลังจากชุบชีวิตสาว Chloé ให้ลืมตาอ้าปากในคอลเล็กชันแรกได้สำเร็จ ชื่อของ Chemena Kamali ก็ได้รับการกล่าวถึงในทันที เพียงแค่ซีซันเดียว Kamali สามารถเข้าชิงรางวัล Designer of the Year จากเวที British Fashion Awards ซึ่งก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลย สื่อแฟชั่นมักกล่าวว่าการจะตัดสินว่าดีไซเนอร์จะรอดหรือไม่รอดนั้นให้ดูที่คอลเล็กชันที่ 2 ซึ่ง Kamali พิสูจน์ว่าเธอนี่แหละคือตัวจริงที่สามารถพา Chloé กลับมาได้อีกครั้ง

 

หากคอลเล็กชันแรกเราเห็นเธอดึงจิตวิญญาณดั้งเดิมของ Chloé ในเวอร์ชันสาวฮิปปี้ยุค 70 รอบนี้ Kamali ปรับโหมดให้ผู้หญิง Chloé ดูเข้าถึงง่ายขึ้นไปอีก เธอเลือกที่จะนำงานดีไซน์จากยุคทองของ Stella McCartney อย่างการใช้ลายพิมพ์มาปัดฝุ่นใหม่ และงานของ Phoebe Philo โดยการนำไอเท็มยอดฮิตอย่างกางเกงขาบานกลับมาอีกครั้ง คอลเล็กชันนี้กลมกล่อมและลงตัวทั้งในแง่ของความคิดสร้างสรรค์, ภาพลักษณ์ของผู้หญิง Chloé ในบริบทอื่นๆ ที่นอกเหนือจากฮิปปี้ และงานขายที่น่าจะขายดีอย่างแน่นอน

 

 


 

SAINT LAURENT IN PARIS

 

อีกหนึ่งดีไซเนอร์ที่ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องยกให้ Anthony Vaccarello ครีเอทีฟไดเรกเตอร์จากแบรนด์ Saint Laurent ซึ่งในซีซันนี้เขาได้เลือก Yves Saint Laurent ผู้ก่อตั้งแบรนด์ มาเป็นแรงบันดาลใจหลักผ่านงานดีไซน์ของชุดสูทสไตล์ Power Dressing แบบยุค 80 กับซิลูเอตโอเวอร์ไซส์ที่เน้นคัตติ้งและบ่าเสริมไหล่ที่ใหญ่กว่าปกติ ถือเป็นการสดุดีทั้งดีไซเนอร์และซิกเนเจอร์โค้ดของแบรนด์

 

อีกหนึ่งคนที่เป็นแรงบันดาลใจในคอลเล็กชันนี้คือ Loulou de la Falaise เพื่อนสนิทและมิวส์ของ Saint Laurent กับสไตล์โบฮีเมียน อีกหนึ่งโค้ดสำคัญของ Saint Laurent ก่อนจะปิดท้ายด้วยพาเหรดเดรสสั้นหลากสีและแจ็กเก็ตงานปัก คอลเล็กชันนี้ของ Vaccarello เหมือนเป็นการย้อนกลับสู่รากเหง้าอันแข็งแรงของแบรนด์ โดยนำมาปรับใหม่ให้ร่วมสมัยผ่านการเลือกใช้แมตทีเรียลและรูปทรงที่ต่างไปจากเดิม ในแง่ของการนำ DNA แบรนด์มาใช้นั้น Vaccarello สอบผ่านฉลุย เพราะนอกจากจะเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วนั้น เขายังสามารถต่อยอดได้อย่างยอดเยี่ยม และบวกเพิ่มอีกหนึ่งคะแนนที่สามารถพาซูเปอร์โมเดล Bella Hadid กลับมาเดินแบบได้อีกครั้งหลังจากหายไป 2 ปี

 

 

ภาพ: Getty Images, Courtesy of Brands

The post 7 THINGS WE LOVE ABOUT SPRING/SUMMER 2025 BEST SHOWS โชว์ยอดเยี่ยมจาก 4 หัวเมืองใหญ่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chloé ฉลองอาณาจักรความหอมแห่งใหม่ที่ EMSPHERE https://thestandard.co/chloe-parfum-store-emsphere/ Sun, 28 Apr 2024 02:44:49 +0000 https://thestandard.co/?p=927524 Chloé

แฟนๆ น้ำหอมห้ามพลาด! Chloé แบรนด์น้ำหอมจากปารีส เปิดตัว […]

The post Chloé ฉลองอาณาจักรความหอมแห่งใหม่ที่ EMSPHERE appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chloé

แฟนๆ น้ำหอมห้ามพลาด! Chloé แบรนด์น้ำหอมจากปารีส เปิดตัวร้าน Parfum Store สาขาใหม่ล่าสุดที่ EMSPHERE ศูนย์การค้าสุดยิ่งใหญ่บนถนนสุขุมวิท พร้อมต้อนรับคุณสู่โลกของกลิ่นหอมที่จะทำให้คุณเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่ง Chloé Parfum Store แห่งใหม่นี้ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ The Art of Bouquet Composition โดยนำความหอมของดอกไม้และการจัดช่อมาเป็นแรงบันดาลใจ ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น พร้อมแสดงน้ำหอมในคอลเล็กชัน Atelier des Fleurs และ Classic บนรถเข็นดอกไม้สุดคลาสสิก เผยความหรูหรา ละเอียดอ่อน แต่ก็กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว อ่อนโยน และสง่างาม ตามแบบฉบับผู้หญิง Chloé

 

ที่นี่สาวกคนรักน้ำหอมจะได้สัมผัสกับทั้ง Signature Line อย่าง Signature Eau De Parfum น้ำหอมโบครีมในตำนาน ต่อด้วย Nomade Line น้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความอิสระ รวมถึง Atelier des Fleurs น้ำหอมตระกูลดอกไม้สุดละมุนที่เชิญชวนให้ผสมผสานกันเพื่อให้ได้กลิ่นเฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Atelier des Fleurs ที่รังสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมชั้นนำ นำกลิ่นจากดอกไม้กว่า 20 ชนิดมาสร้างสรรค์เป็นน้ำหอมที่พิเศษ ทั้ง Cedrus โทนไม้หอมสโมกกี้อบอุ่น, Magnolia Alba ดอกแมกโนเลียและเลมอนสดชื่น, Jasminum Sambac กลิ่นมะลิอ่อนโยนผสานหยาดน้ำค้าง และ Rosa Damascena กลิ่นกุหลาบดามัสเซนาหอมสะอาดแต้มความสไปซ์ และที่นี่ยังมีบริการพิเศษอย่าง Engraving Service แกะสลักชื่อบนขวดน้ำหอมเพิ่มความเป็นคุณ พร้อมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมสัมผัสประสบการณ์น้ำหอม ดื่มด่ำเครื่องดื่ม และร่วมเวิร์กช็อปจัดดอกไม้แห้งอีกด้วย 

 

สัมผัสกลิ่นหอมอันเป็นตัวตน และสร้างสรรค์กลิ่นในแบบของคุณเองได้แล้ววันนี้ ที่ ‘Chloé Parfum Store’ EMSPHERE ชั้น M

 

The post Chloé ฉลองอาณาจักรความหอมแห่งใหม่ที่ EMSPHERE appeared first on THE STANDARD.

]]>
7 THINGS WE LOVE ABOUT CHLOÉ แบรนด์ลักชัวรีผู้ขับเคลื่อนสไตล์ Boho Chic https://thestandard.co/7-things-we-love-about-chloe/ Sat, 09 Mar 2024 08:14:25 +0000 https://thestandard.co/?p=909192 CHLOÉ

How It All Started    จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Ch […]

The post 7 THINGS WE LOVE ABOUT CHLOÉ แบรนด์ลักชัวรีผู้ขับเคลื่อนสไตล์ Boho Chic appeared first on THE STANDARD.

]]>
CHLOÉ

How It All Started 

 

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Chloé มาจากดีไซเนอร์สาวหัวก้าวหน้าชื่อ Gaby Aghion จริงๆ แล้ว Aghion มีเชื้อสายเป็นชาวอียิปต์ แต่ภายหลังเธอได้แต่งงานกับคนฝรั่งเศสและย้ายสัญชาติเนื่องจากปัญหาเรื่องชาตินิยมในประเทศอียิปต์ หลังจากเดินทางมาที่ฝรั่งเศส Aghion เลือกที่จะประกอบอาชีพในฐานะดีไซเนอร์จากความชื่นชอบและฝีมือการตัดเย็บที่เธอได้เรียนรู้ตั้งแต่สมัยยังเด็ก เธอเลือกตั้งชื่อแบรนด์ว่า Chloé ซึ่งเป็นชื่อของเพื่อนสนิทของเธอ เพียงเพราะฟังแล้วดูเพราะมากกว่าชื่อของเธอ และเปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกในปี 1952 โดยมุมมองของ Aghion นั้นแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในยุคนั้น เธอชอบเสื้อผ้าที่ดูอ่อนหวานและรับกับสรีระของผู้หญิงมากกว่าเสื้อสไตล์ 50 ที่เน้นขับทรวดทรงเกินจริง ดีไซน์ที่สร้างชื่อให้กับ Chloé ต้องยกให้กับ ‘Shirt Dress’ ชุดกระโปรงที่อิงดีไซน์มาจากเสื้อเชิ้ต Shirt Dress ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเผยทัศนคติทันสมัยใหม่ให้กับแบรนด์ Chloé จนสามารถฉีกตัวเองออกจากแบรนด์อื่นๆ ได้

 

 


 

Chloé Under Karl Lagerfeld 

 

อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของ Chloé สร้างอิทธิพลในวงการแฟชั่นมาจากงานดีไซน์ของ Karl Lagerfeld ที่เข้ามารับช่วงต่อจาก Aghion ในปี 1965 เพียงแค่ 1 ปีเขาสามารถสร้างซิกเนเจอร์ให้กับแบรนด์ Chloé ผ่านชุด Tertulia เสื้อผ้าที่ใช้ลวดลายศิลปะสไตล์ Art Nouveau วาดมือลงบนชุด ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้และลายกราฟิก จนกลายเป็นภาพจำของแบรนด์และส่งให้แบรนด์นี้ขึ้นแท่นผู้นำสไตล์ ‘Bohemian’ หรือโบโฮนั่นเอง รวมถึงเสื้อโค้ตสไตล์พลิ้วไหวในช่วงปี 1974 ที่ Lagerfeld ตั้งใจให้เสื้อโค้ตของ Chloé ไม่แข็งทื่อ แต่มีมูฟเมนต์เช่นเดียวกับการสวมใส่เดรสนั่นเอง เสื้อโค้ตสไตล์นี้ยังกลายเป็นไอเท็มหลักของ Chloé จวบจนทุกวันนี้ และเดรส Angkor เดรสที่ได้แรงบันดาลใจจากไวโอลิน ถือเป็นอีกหนึ่งงานดีไซน์ระดับมาสเตอร์พีซของเขา โดยต่อมา Lagerfeld ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งดีไซเนอร์ในปี 1984 เพื่อไปโฟกัสงานออกแบบให้กับ Chanel แต่เขาก็ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญมากๆ ที่ช่วยทำให้แบรนด์ Chloé เป็นที่ยอมรับในฐานะแบรนด์แฟชั่นและสร้างไอคอนิกไอเท็มภาพจำมากมายให้กับแบรนด์ โดย Martine Sitbon มาเป็นผู้รับช่วงต่อจากเขา 

 

 


 

Two Great Brits at Chloé

 

ในปี 1997 ชื่อของ Stella McCartney ถูกเลือกให้เข้ารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับ Chloé ด้วยวัยเพียง 25 ปี McCartney ถือเป็นดีไซเนอร์อายุน้อยที่สุดที่ทางแบรนด์เคยจ้างให้รับตำแหน่งนี้ มุมมองของ McCartney แตกต่างจากดีไซเนอร์คนก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง เธอนำเอาความโรแมนติกมาผสมผสานเข้ากับความเซ็กซี่และสไตล์ร็อกแอนด์โรล ทำให้ Chloé ในเวอร์ชันของเธอฉูดฉาด ยั่วยวน และดูมั่นใจ โดยหลังจาก McCartney ลาออกในปี 2001 แบรนด์ Chloé ได้ดัน Phoebe Philo ผู้ช่วยมือขวาของ McCartney ขึ้นรับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์แทน การมาของ Philo พลิกให้ Chloé ขึ้นแท่นแบรนด์ระดับโลก ส่งแบรนด์ให้พีคเทียบเท่ากับยุคของ Lagerfeld ที่เคยทำไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน งานดีไซน์ของ Philo ต่างจาก McCartney ตรงที่ผู้หญิงของ Chloé ในเวอร์ชันของเธอดูเท่และ Effortless กว่า ซึ่งตรงกับจริตของสไตล์ French Chic รากฐานของแบรนด์แฟชั่นเฮาส์ในฝรั่งเศส 

 

 


 

The ‘It’ Bag

 

การที่ Philo ทำให้ Chloé ประสบความสำเร็จ นอกจากมุมมองการออกแบบที่เข้าใจ DNA ของแบรนด์และยุคสมัยแล้วนั้น เธอยังสามารถออกแบบกระเป๋า ‘It Bag’ ได้สำเร็จ ในปี 2005 เธอส่งกระเป๋าในชื่อ Paddington กระเป๋าหนังสะพายไหล่ดีไซน์กะทัดรัดที่มีจุดเด่นตรงแม่กุญแจขนาดไซส์ XXL กระเป๋ารุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และยังกลายเป็นไอเท็มโปรดของเซเลบริตี้หลายต่อหลายคน เช่น Sienna Miller, Nicole Richie, Kate Bosworth, Lindsay Lohan และอีกมากมาย โดยในปี 2006 เธอต่อยอดกระเป๋าใบดังอีกครั้งกับรุ่น Edith ซึ่งปรากฏการณ์ It Bag ของแบรนด์ Chloé กลายเป็นต้นแบบของแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ ให้พยายามสร้าง It Bag ของตัวเองออกมาให้ได้ เพราะการที่ Philo ทำสำเร็จสามารถพลิกแบรนด์ให้เป็นที่นิยมได้ทันตาเห็น 

 

 


 

See by Chloé

 

ในปี 2001 ทาง Chloé ได้ตัดสินใจเปิดแบรนด์น้องสาว หรือที่เรียกกันในศัพท์เฉพาะวงการแฟชั่นว่า Diffusion Line ในชื่อ See by Chloé โดยมีจุดประสงค์จับตลาดแฟชั่นที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่า ซึ่ง See by Chloé จะเน้นงานดีไซน์ที่ไม่ซับซ้อนเท่า Chloé แต่ยังคงไว้ซึ่งวิสัยทัศน์แบบ French Chic และกลิ่นอายแบบโบฮีเมียน โดย See by Chloé ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดด้วยงานดีไซน์ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าและราคาที่จับต้องได้มากขึ้น แถมไลน์นี้ยังมีไอเท็มครบในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และแอ็กเซสซอรี ซึ่งในปี 2019 ทางแบรนด์ได้ดึง Emily Harris เข้ามาดูแลเรื่องงานดีไซน์ทั้งหมดให้กับแบรนด์ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ภายในปี 2026 ทาง Richmont เครือบริษัทผู้ดูแลแบรนด์ Chloé ในปัจจุบันประกาศจะยุบแบรนด์นี้ เพื่อหันไปโฟกัสที่แบรนด์หลักอย่าง Chloé แทน 

 

 


 

Female Domination 

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม แต่อีกหนึ่งความพิเศษของ Chloé คือเป็นแหล่งรวมตัวของดีไซเนอร์ผู้หญิงเก่ง นอกจาก Lagerfeld แล้วนั้น ดีไซเนอร์ที่ได้รับการยอมรับเป็นที่พูดถึงที่แบรนด์ Chloé ล้วนเป็นผู้หญิงเกือบจะทั้งหมด หลังจาก Philo มีดีไซเนอร์ผู้หญิงอีกหลายคนที่มารับช่วงต่อและสามารถต่อยอด Chloé ในเวอร์ชันของตัวเองจวบจนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Hannah MacGibbon ในปี 2008 กับภาพลักษณ์สาว 70 เวอร์ชันแกลม, Clare Waight Keller ในปี 2011 นำเสนอสาว Chloé สไตล์โบโฮสุดโรแมนติก, Natacha Ramsay-Levi ในปี 2017 กับสไตล์ผสมผสานระหว่างโบโฮและฟิวเจอริสติก และ Gabriela Hearst ในปี 2020 กับ Chloé ในเวอร์ชันโฟกัสความยั่งยืน 

 

 


 

The New Hope: Chemena Kamali 

 

เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Chloé ได้ประกาศว่า Chemena Kamali จะเข้ามารับบทบาทครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ต่อจาก Hearst สำหรับ Kamali นั้นมีประวัติการทำงานที่น่าสนใจมากๆ เธอเคยเป็นหนึ่งในทีมของ Philo ช่วงที่ยังทำงานให้กับ Chloé ก่อนจะกลับมาที่แบรนด์อีกครั้งในฐานะดีไซน์ไดเรกเตอร์ในยุคของ Waight Keller และในปี 2016 ตำแหน่งเดียวกันที่แบรนด์ Saint Laurent ดังนั้นการมาทำงานที่ Chloé ของเธอจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ชวนช็อกแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม Kamali อยู่ในยุคพีคของ Chloé ทั้งสองช่วงเวลา โดยคอลเล็กชันแรกของเธอที่เพิ่งโชว์ไปที่ปารีสช่วง Fashion Week ที่ผ่านมาจึงถือเป็นการรำลึกถึงรากเหง้าของ Chloé ที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี นำกลับมาทำใหม่ในบริบทที่ร่วมสมัยมากขึ้น เดรสพลิ้วไหว รองเท้าบู๊ตสูง รวมถึงเสื้อโค้ตและแจ็กเก็ต ซิกเนเจอร์ของ Chloé ล้วนถูกนำกลับมาอีกครั้งที่ Fall/Winter 2024 คอลเล็กชันของ Kamali ได้รับการพูดถึงและชื่นชมอย่างล้นหลามในความพยายามจะรื้อฟื้นตัวตนของแบรนด์ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ซึ่งเธอก็สามารถทำสำเร็จตั้งแต่คอลเล็กชันแรกเลย 

 

The post 7 THINGS WE LOVE ABOUT CHLOÉ แบรนด์ลักชัวรีผู้ขับเคลื่อนสไตล์ Boho Chic appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้จัก L’Eau de Parfum Lumineuse น้ำหอมกุหลาบอันเป็นสัญลักษณ์ของ Chloé https://thestandard.co/chloe-leau-de-parfum-lumineuse/ Tue, 05 Mar 2024 01:21:19 +0000 https://thestandard.co/?p=907178

Chloé ฉลองการเปิดตัวน้ำหอมสุดประทับใจ L’Eau de Pa […]

The post รู้จัก L’Eau de Parfum Lumineuse น้ำหอมกุหลาบอันเป็นสัญลักษณ์ของ Chloé appeared first on THE STANDARD.

]]>

Chloé ฉลองการเปิดตัวน้ำหอมสุดประทับใจ L’Eau de Parfum Lumineuse ที่ผสมผสานกลิ่นหอมอ่อนโยนของดอกกุหลาบกับวานิลลาอย่างลงตัว

 

ต้องยอมรับว่าในวงการน้ำหอม หนึ่งในแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนำเสนอสิ่งที่เหนือกว่าคือ Chloé ล่าสุดกับการเปิดตัวน้ำหอมใหม่ L’Eau de Parfum Lumineuse ผลิตภัณฑ์นี้ถ่ายทอดความเป็นดอกกุหลาบอันเป็นสัญลักษณ์ของ Chloé ผสานความหวานของวานิลลาเข้ากับความเปล่งประกายอย่างลงตัว สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยอิสระและความงดงามตามธรรมชาติ 

 

L’Eau de Parfum Lumineuse นี้ยังเป็นน้ำหอมวีแกนที่ประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีสารหรือสีสังเคราะห์ และผสานกลิ่นหอมอบอุ่นจากวานิลลากับความสดชื่นของดอกกุหลาบ พร้อมเผยกลิ่นหอมแบบฟลอรัลแอมเบอร์ที่เป็นเอกลักษณ์

 

การออกแบบขวดน้ำหอมได้แรงบันดาลใจจากวินเทจที่งดงามเหนือกาลเวลา โดยมีรายละเอียดสีเงินเรืองรองและริบบิ้นสีเบจผูกด้วยมือ ซึ่งสะท้อนถึงรหัสแฟชั่นเฉพาะของ Chloé. นอกจากนี้ ตัวขวดผลิตจากแก้วรีไซเคิล 25% และริบบิ้นจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% ย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในเรื่องความยั่งยืน 

 

น้ำหอม Chloé L’Eau de Parfum Lumineuse วางจำหน่ายแล้วที่ Chloé Siam Paragon, Chloé Emsphere, Chloé เซ็นทรัล ลาดพร้าว และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป  

 

ภาพ: Chloé

The post รู้จัก L’Eau de Parfum Lumineuse น้ำหอมกุหลาบอันเป็นสัญลักษณ์ของ Chloé appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chloé จะเป็นแบรนด์แรกที่ร่วมทำคอลเล็กชันกับ Atelier Jolie แบรนด์ของ Angelina Jolie https://thestandard.co/chloe-atelier-jolie-from-angelina-jolie/ Tue, 06 Jun 2023 07:41:39 +0000 https://thestandard.co/?p=799787 Chloé

Chloé เผยว่า ทางแบรนด์จะร่วมงานกับ Angelina Jolie ในการ […]

The post Chloé จะเป็นแบรนด์แรกที่ร่วมทำคอลเล็กชันกับ Atelier Jolie แบรนด์ของ Angelina Jolie appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chloé

Chloé เผยว่า ทางแบรนด์จะร่วมงานกับ Angelina Jolie ในการออกแบบเสื้อผ้าคอลเล็กชันแรกสำหรับแบรนด์ของนักแสดงคนดังที่ใช้ชื่อว่า Atelier Jolie ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่นานมานี้ 

 

Chloé เผยผ่านแถลงการณ์ว่าคอลเล็กชัน Ready-to-Wear ของ Atelier Jolie จะได้รับการออกแบบเพื่อสรรเสริญความเป็นเฟมินีนในยุคปัจจุบัน ด้วยแนวคิดที่ต้องการเฉลิมฉลองให้กับสายสัมพันธ์ของ ‘ผู้หญิงถึงผู้หญิง’ อย่างแท้จริง โดย Angelina Jolie จะทำงานดีไซน์ ร่วมกับครีเอฟทีฟไดเรกเตอร์ของ Chloé อย่าง Gabriela Hearst ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ทั้ง 2 แบรนด์มีร่วมกัน นั่นคือเป้าหมายในการยกระดับสังคม และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมด้วยความโปร่งใส

 

สำหรับเสื้อผ้าคอลเล็กชันนี้จะลดการใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น และมากกว่าที่ Chloé เคยทำมา โดยเน้นไปที่ดีไซน์ชุดซิลูเอตพลิ้วไหวกับดีเทลของเนื้อผ้า ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นของ Angelina Jolie โดยเฉพาะชุดที่สวมใส่เวลากลางคืน และหลายชุดจะทำจากผ้าค้างสต๊อก ตามหลักการของแบรนด์ Atelier Jolie 

 

นอกจากนั้นทั้ง 2 แบรนด์ยังส่งเสริมช่างฝีมือด้วยกระบวนการส่งเสริมการพัฒนาระบบการค้าที่เป็นธรรม และจะโฟกัสไปที่การร่วมงานกับบริษัทที่นำโดยนักธุรกิจหญิงอีกด้วย

 

Gabriela Hearst พูดถึงการทำงานกับ Angelina Jolie ในครั้งนี้ว่า “ตั้งแต่ตอนที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของ Angelina ในการทำแบรนด์ Atelier Jolie ฉันก็เชื่อมั่นในแบรนด์นี้ทันที นี่คือวิถีแห่งการส่งเสริมผู้อื่น ผ่านความสวยงามของการทำเสื้อผ้าภายใต้ความนับถือต่อสิ่งแวดล้อมของเธอ และมันเป็นเกียรติสำหรับฉันและ Chloé ที่ได้เป็นแบรนด์แรกที่ได้ร่วมงานกับ Atelier Jolie ในฐานะที่เราทั้งสองมีความคิดที่อยากจะให้มนุษย์ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ด้วย”

 

ภาพ: Chloé

อ้างอิง: 

The post Chloé จะเป็นแบรนด์แรกที่ร่วมทำคอลเล็กชันกับ Atelier Jolie แบรนด์ของ Angelina Jolie appeared first on THE STANDARD.

]]>
SUPERMODELS AT MET GALA 2023 ลุคไฮไลต์ของเหล่านางแบบที่เคยเป็นมิวส์สำคัญของ Karl Lagerfeld https://thestandard.co/supermodels-at-met-gala-2023/ Tue, 02 May 2023 03:04:51 +0000 https://thestandard.co/?p=783817 SUPERMODELS AT MET GALA 2023

จนถึงปี 2019 ตอนที่ Karl Lagerfeld จากโลกนี้ไป หนึ่งในค […]

The post SUPERMODELS AT MET GALA 2023 ลุคไฮไลต์ของเหล่านางแบบที่เคยเป็นมิวส์สำคัญของ Karl Lagerfeld appeared first on THE STANDARD.

]]>
SUPERMODELS AT MET GALA 2023

จนถึงปี 2019 ตอนที่ Karl Lagerfeld จากโลกนี้ไป หนึ่งในความใฝ่ฝันและจุดสูงสุดของนางแบบในวงการแฟชั่นก็คือ การได้รับเลือกจากดีไซเนอร์ระดับตำนานผู้ล่วงลับให้มาร่วมงานเดินแบบและขึ้นแคมเปญของแบรนด์ที่เขาเคยเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ ทั้ง CHANEL, Fendi, Chloé หรือ Karl Lagerfeld ซึ่งหากนางแบบหน้าใหม่คนไหนได้ร่วมงานกับเขาก็สามารถแจ้งเกิดชั่วข้ามคืนก็ว่าได้

 

เลยไม่น่าแปลกใจที่งาน Met Gala 2023 เราเห็นเหล่าซูเปอร์โมเดลหลากหลายยุคที่เคยร่วมงานกับ Karl Lagerfeld มาร่วมเดินพรมสีครีมเพื่อยกย่องบุคคลสำคัญของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็น Cara Delevingne, Gigi Hadid, Naomi Campbell, Kate Moss, Gisele Bündchen, Amber Valletta, Karlie Kloss, Adut Akech และ Anok Yai เป็นต้น

 

SUPERMODELS AT MET GALA 2023 SUPERMODELS AT MET GALA 2023 SUPERMODELS AT MET GALA 2023 SUPERMODELS AT MET GALA 2023 SUPERMODELS AT MET GALA 2023 SUPERMODELS AT MET GALA 2023 SUPERMODELS AT MET GALA 2023

 

ภาพ: Getty Images

The post SUPERMODELS AT MET GALA 2023 ลุคไฮไลต์ของเหล่านางแบบที่เคยเป็นมิวส์สำคัญของ Karl Lagerfeld appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chloé เตรียมสร้างความยั่งยืน เพิ่ม Digital ID ลงไปในสินค้า ที่จะรวบรวมข้อมูลทุกขั้นตอนของสายพานการผลิต https://thestandard.co/chloe-vertical-digital-id/ Mon, 20 Feb 2023 01:57:43 +0000 https://thestandard.co/?p=752631 Chloé Vertical

แบรนด์แฟชั่นจากฝรั่งเศสอย่าง Chloé เตรียมเพิ่มการระบุตั […]

The post Chloé เตรียมสร้างความยั่งยืน เพิ่ม Digital ID ลงไปในสินค้า ที่จะรวบรวมข้อมูลทุกขั้นตอนของสายพานการผลิต appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chloé Vertical

แบรนด์แฟชั่นจากฝรั่งเศสอย่าง Chloé เตรียมเพิ่มการระบุตัวตันระบบดิจิทัลหรือ Digital ID ชื่อว่า Chloé Vertical ลงไปในสินค้า ทั้งกระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า Ready-to-Wear ที่จะเป็นตัวบอกข้อมูลที่มาของวัสดุและกระบวนการผลิต พร้อมร่วมกับ Vestiaire Collective ในการเชื่อมต่อและยืนยันสินค้าสำหรับการขายต่อที่ง่ายดายยิ่งขึ้น

 

ซึ่งภายใน Digital ID ที่ Chloé รวบรวมข้อมูลตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำของสายพานการผลิตที่ทางแบรนด์ได้ร่วมกับซัพพลายเออร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหนังที่ชื่อว่า Haas ในฝรั่งเศส หรือผ้าไหมที่รับการรับรอง Global Organic Textile Standard หรือ GOTS

 

ส่วนผ้าลินินที่ร่วมงานกับโรงงานผลิตชื่อ Terre de Lin ที่ปลูกต้นแฟลกซ์อย่างยั่งยืน และเข้ากระบวนการปั่นด้ายแบบครัวเรือน เช่นเดียวกับวัสดุวูลที่มาจากฟาร์มของ Gabriela Hearst ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ และส่งต่อมายังโรงงานในอิตาลีเพื่อทำการทอ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ลูกค้าสามารถสแกนได้ผ่าน QR Code และแท็ก NFC 

 

Chloé กล่าวว่า “ลูกค้าสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตทั้งหมด ดูวิธีถนอมและซ่อมแซมสินค้า และสามารถยืนยันสินค้าผ่านใบรับรองสินค้าที่เป็นของจริงที่มีเลขเฉพาะติดมาด้วย” และจะเริ่มใช้ในทุกๆ ไลน์สินค้าภายในปี 2025 เป็นต้นไป

 

ส่วนกระบวนการขายต่อหรือ Resale ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมในระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนใน Digital ID จะมีการยืนยันสินค้าตัวจริงเพื่อเป็นการรับประกันตอนส่งต่อ ซึ่งลูกค้าสามารถแลกเป็นบัตรกำนัลเพื่อใช้ซื้อสินค้าในเว็บไซต์ Vestiaire Collective หรือจะมอบเงินที่ได้ให้กับ Gender Action Plan ของ UNICEF เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ

 

ภาพ: Edward Berthelot / Getty Images 

อ้างอิง:

The post Chloé เตรียมสร้างความยั่งยืน เพิ่ม Digital ID ลงไปในสินค้า ที่จะรวบรวมข้อมูลทุกขั้นตอนของสายพานการผลิต appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดตัว Pop-Up Counter ของน้ำหอมในคอลเล็กชัน Chloé Atelier des Fleurs ที่มาพร้อม 3 กลิ่นใหม่ https://thestandard.co/chloe-atelier-des-fleurs-pop-up-counter/ Fri, 12 Aug 2022 06:52:28 +0000 https://thestandard.co/?p=666392 น้ำหอม Chloé

แฟนน้ำหอม Chloé ที่ชอบเดินช้อปปิ้งใน CentralWorld มีเฮ […]

The post เปิดตัว Pop-Up Counter ของน้ำหอมในคอลเล็กชัน Chloé Atelier des Fleurs ที่มาพร้อม 3 กลิ่นใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
น้ำหอม Chloé

แฟนน้ำหอม Chloé ที่ชอบเดินช้อปปิ้งใน CentralWorld มีเฮ เมื่อแบรนด์ Chloé เปิดตัว ADF Pop-Up Counter ที่นี่เป็นครั้งแรก ซึ่งนำเสนออาณาจักรน้ำหอมเดิมที่มีอยู่แล้ว 12 กลิ่น พร้อมกับต้อนรับการมาถึงของ 3 กลิ่นใหม่ในคอลเล็กชัน Chloé Atelier des Fleurs ที่พิเศษยิ่งขึ้น เพราะสร้างสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมชื่อดังของวงการ ประกอบด้วยกลิ่น Narcissus Poeticus ปรุงโดย Philippine Courtière, กลิ่น Iris ปรุงโดย Steve Guo และกลิ่น Ylang Cananga ปรุงโดย Serge De Oliveira

 

น้ำหอมในคอลเล็กชัน Chloé Atelier des Fleurs เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์กลิ่นเฉพาะตัวตามต้องการได้ เช่นเดียวกับการเลือกดอกไม้ที่ชื่นชอบเพื่อจัดเป็นช่อดอกไม้ในร้านดอกไม้ ซึ่งบอกเลยว่าในแต่ละกลิ่นของคอลเล็กชันนี้ ล้วนมีส่วนผสมของดอกไม้ สารประกอบอโรมาติก (Aromatic) หรือกลิ่นไม้หอมผสมอยู่ จึงสามารถใช้แยกได้ราวกำไลดอกไม้ประดับข้อมือ หรือนำมาผสมผสานกันให้เกิดความหลากหลายได้ไม่รู้จบ ใครที่อยากรู้จักกับ 3 กลิ่นใหม่ มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้ 

 

กลิ่น Narcissus Poeticus เป็นแนวกลิ่นที่สดชื่นและมีกลิ่นแป้งจางๆ Narcissus Poeticus คือความทรงจำอันแสนสุขของฤดูใบใม้ผลิ จากความทรงจำของนักของปรุงน้ำหอม Philippine Courtière และดอกนาร์ซิสซัส คือดอกไม้แรกที่เธอหลงรัก และความรักนั้นเริ่มตั้งแต่ยังเยาว์วัย เมื่อเธอไปเดินเล่นที่สวน Jardin du Luxembourg กับคุณยาย แล้วเก็บดอกไม้ที่มีกลิ่นน้ำผึ้งอ่อนโยนนี้มาทำช่อดอกไม้

 

ดอกนาร์ซิสซัสของเราเก็บเกี่ยวมาจากประเทศฝรั่งเศส ด้วยกรรมวิธีที่เน้นความมีจริยธรรมและยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

 

กลิ่น Iris ได้แรงบันดาลใจมาจากกลางเทือกเขาแอตลาส (Atlas Mountains) ในประเทศโมร็อกโก คือสถานที่ที่ Steve Guo ค้นพบความงามและความซับซ้อนในกลิ่นของดอกไอริสเป็นครั้งแรก แนวกลิ่นจึงหอม หวาน น่าหลงใหล และดอกไอริสถูกเก็บเกี่ยวมาจากประเทศโมร็อกโก ด้วยกรรมวิธีที่เน้นความมีจริยธรรมและยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมด้วย 

 

กลิ่น Ylang Cananga แรงบันดาลใจมาจากบนเกาะโนซีบี (Nosy Be) ในประเทศมาดากัสการ์ ที่นั่นมีทุ่งดอกกระดังงาที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา Serge De Oliveira จำกลิ่นของมันได้ดี กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ Serge De Oliveira นำมาต่อยอดเป็นกลิ่นน้ำหอมสุดพิเศษ  

 

สำหรับแฟนน้ำหอมชาวไทย สามารถพบกับคอลเล็กชัน Chloé Atelier des Fleurs Naturelle อย่างเป็นทางการได้แล้วในประเทศไทย ที่เคาน์เตอร์น้ำหอม Chloé สยามพารากอน, ดิ เอ็มโพเรียม, สยาม ทาคาชิมายะ และร้าน Sephora สาขาสยามเซ็นเตอร์ หรือช้อปออนไลน์ได้ทาง M Online และ Sephora Online (ขนาด 50 มิลลิลิตร ราคา 5,500 บาท และขนาด 150 มิลลิลิตร ราคา 10,500 บาท)  

 

น้ำหอม Chloé น้ำหอม Chloé น้ำหอม Chloé

The post เปิดตัว Pop-Up Counter ของน้ำหอมในคอลเล็กชัน Chloé Atelier des Fleurs ที่มาพร้อม 3 กลิ่นใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบรนด์น้ำหอม Chloe’ เปลี่ยนไดเร็กชันใหม่เป็นสาย Go Green และเปิดตัวน้ำหอม Vegan Perfume ขวดแรกออกมาแล้ว https://thestandard.co/chloe-vegan-perfume/ Wed, 17 Nov 2021 09:08:39 +0000 https://thestandard.co/?p=560858 Chloé Eau de Parfum Naturelle

ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของแบรนด์น้ำหอม Chloé […]

The post แบรนด์น้ำหอม Chloe’ เปลี่ยนไดเร็กชันใหม่เป็นสาย Go Green และเปิดตัวน้ำหอม Vegan Perfume ขวดแรกออกมาแล้ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Chloé Eau de Parfum Naturelle

ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของแบรนด์น้ำหอม Chloé นับตั้งแต่ปี 1952 ที่ Gaby Aghion (กาบี อากียง) แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งแบรนด์ Chloé ผ่านยุคสมัยต่างๆ มาแล้วมากมาย ล่าสุดเมื่อโลกในปัจจุบันที่ไม่ว่าใครต่างก็ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ทำให้แบรนด์ Chloé เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยการเปลี่ยนไดเร็กชันใหม่เป็นสาย Go Green ที่หันมาใส่ใจโลกอย่างจริงจัง โดยการให้ความสำคัญต่อการสร้างผลกระทบเชิงบวกทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของน้ำหอม Vegan Parfume ขวดแรกของแบรนด์ภายใต้ชื่อ Chloé Eau de Parfum Naturelle ออกมาแล้ว ซึ่งได้กลายเป็นซิกเนเจอร์คอลเล็กชันใหม่ล่าสุดในทันที

 

ความโดดเด่นของ Chloé Eau de Parfum Naturelle ไม่เพียงแค่เป็นน้ำหอมวีแกนขวดแรกเท่านั้น แต่ยังมีการตอกย้ำคอนเซปต์รักษ์โลกด้วยการออกแบบขวดซิกเนเจอร์ที่เราเคยคุ้นตาผ่านการตีความใหม่ และผ่านการใช้วัสดุรีเคลมร่วมด้วย นั่นคือ 25% ของขวดแก้วนี้ผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล ใครที่เห็นขวดน้ำหอมของจริงจะต้องกรี๊ดมาก เพราะมันมุ้งมิ้งน่ารักด้วยโทนสีเขียวเทาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในไลน์น้ำหอมของ Chloé แม้แต่กล่องและริบบิ้นสุดไอคอนิกที่ผูกประดับขวดน้ำหอม ก็ทำมาจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% และตัวกล่องกระดาษก็มีการผลิตจากวัสดุรีไซเคิลถึง 40% เช่นกัน

 

มาถึงแนวกลิ่นกันบ้าง ขอบอกว่าหลังจากได้ดมกลิ่น Chloé Eau de Parfum Naturelle จากขวดจริงมาแล้ว สิ่งที่โดดเด่นของความเป็นน้ำหอมวีแกน 100% คือเป็นกลิ่นแนววูดดี้ฟลอรัลที่หอมสดชื่นมาก มีความเป็นเฟมินีนที่ชัดและหวานละมุน นักปรุงน้ำหอมอย่าง Michel Almairac (ไมเคิล อัลเมรัค) ได้นำเอาความหอมของดอกกุหลาบออร์แกนิกที่ปลูกจากฟาร์มในบัลแกเรียมาเป็นหัวใจหลัก จึงเชื่อได้เลยว่าสาวๆ ที่หลงใหลในโทนกลิ่นฟลอรัล โดยเฉพาะดอกกุหลาบจะต้องชอบแน่นอน นำ้หอมวีแกนขวดแรกอย่าง Chloé Eau de Parfum Naturelle ในประเทศไทยเริ่มวางจำหน่ายแล้ว ขนาด 30 มิลลิลิตร ราคา 3,300 บาท ขนาด 50 มิลลิลิตร ราคา 5,200 บาท และขนาด 100 มิลลิลิตร ราคา 7,200 บาท พบได้ที่เคาน์เตอร์น้ำหอม Chloé  และช้อปออนไลน์ได้ที่ Central Online

 

ภาพ: Courtesy of Chloé 

The post แบรนด์น้ำหอม Chloe’ เปลี่ยนไดเร็กชันใหม่เป็นสาย Go Green และเปิดตัวน้ำหอม Vegan Perfume ขวดแรกออกมาแล้ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Paris Fashion Week ปลายเดือนกันยายนนี้ จะกลับมาจัดเต็มสตรีมอีกครั้งกับ 37 แบรนด์ https://thestandard.co/paris-fashion-week-ss2022-full-come-back-again/ Thu, 02 Sep 2021 00:34:26 +0000 https://thestandard.co/?p=532033 Paris Fashion Week

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหพันธ์โอต์กูตูร์และแฟชั่นของฝร […]

The post Paris Fashion Week ปลายเดือนกันยายนนี้ จะกลับมาจัดเต็มสตรีมอีกครั้งกับ 37 แบรนด์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Paris Fashion Week

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหพันธ์โอต์กูตูร์และแฟชั่นของฝรั่งเศส (Fédération de la Haute Couture et de la Mode) ได้ประกาศแบรนด์ที่เข้าร่วมการนำเสนอคอลเล็กชันใหม่ประจำฤดู Spring/Summer 2022 ใน Paris Fashion Week ที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วงวันที่ 27 กันยายน ถึง 5 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยมีแบรนด์กลับมาจัดแฟชั่นโชว์ในสถานที่จริงมากถึง 37 แบรนด์ พร้อมมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนและผลตรวจที่เป็นลบก่อนเข้างาน

 

โดยแบรนด์ที่จะประเดิมเปิดสัปดาห์แฟชั่นเป็นแบรนด์แรกคือ Kenneth Ize แบรนด์ของดีไซเนอร์ขาวไนจีเรีย หนึ่งในผู้เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายจากรางวัล LVMH Prize เมื่อปี 2019 ตามมาด้วยแบรนด์ไฮไลต์มากมาย ทั้ง Marine Serre, Christian Dior, Balmain, Chloé, Valentino, Loewe, Hermès, Balenciaga, Maison Margiela, Givenchy, Chanel, Miu Miu และอีกมากมาย พร้อมกับการถ่ายทอดสดเช่นเคย

 

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีแบรนด์ใหญ่ที่ไม่ได้เข้าร่วมสัปดาห์แฟชั่นครั้งนี้เยอะอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น Alexander McQueen, Comme des Garçons, Sacai, Celine และ Saint Laurent ที่พักหลังเริ่มปรับมาจัดโชว์นอกปารีสและนอกตารางมากขึ้น เช่นเดียวกับ Off-White ที่เพิ่งจัดไปในช่วงใกล้เคียงกับ Paris Men’s Fashion Week ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

 

ส่วนความพิเศษของครั้งนี้คือ จากเดิมที่มีธรรมเนียมปิดสัปดาห์ด้วยแฟชั่นโชว์จากแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Louis Vuitton เปลี่ยนมาเป็นการปิดด้วยแบรนด์ AZ Factory ของดีไซเนอร์อิสราเอลที่เสียชีวิตจากโรคโควิดด้วยวัย 59 ปีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับงานรำลึกถึงนักออกแบบผู้ล่วงลับ

 

ภาพ: Peter White / Getty Images 

อ้างอิง:

The post Paris Fashion Week ปลายเดือนกันยายนนี้ จะกลับมาจัดเต็มสตรีมอีกครั้งกับ 37 แบรนด์ appeared first on THE STANDARD.

]]>