China Wave – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 04 Apr 2025 14:42:33 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 จีนตอบโต้ภาษีทรัมป์ เตรียมเก็บเท่ากันที่ 34% เริ่ม 10 เมษายนนี้ https://thestandard.co/china-retaliates-trump-tariff-2/ Fri, 04 Apr 2025 13:19:59 +0000 https://thestandard.co/?p=1060839 china-retaliates-trump-tariff

จีนประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับส […]

The post จีนตอบโต้ภาษีทรัมป์ เตรียมเก็บเท่ากันที่ 34% เริ่ม 10 เมษายนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
china-retaliates-trump-tariff

จีนประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับสินค้านำเข้าทุกประเภทจากสหรัฐฯ โดยเรียกเก็บที่อัตรา 34% เท่ากับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บกับจีนในรอบล่าสุด ส่งผลให้สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเบอร์ 1 และ 2 ตึงเครียดขึ้น และสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางอยู่แล้ว 

 

คณะกรรมาธิการภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่า การเก็บภาษีศุลกากรอัตราใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 เมษายนนี้ ซึ่งไล่เลี่ยกับช่วงเวลาที่อัตราภาษีใหม่ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจีนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน

 

คณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ ที่ประกาศมาตรการภาษีกับจีนก่อนหน้านี้ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีนอย่างร้ายแรง และถือเป็นการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว

 

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์จีนยังประกาศสอบสวนการทุ่มตลาดสินค้าหลอดเอกซเรย์ที่ใช้ในทางการแพทย์ที่มาจากสหรัฐฯ และอินเดียด้วย

 

ขณะเดียวกันจีนยังควบคุมการส่งออกสินแร่หายาก (แรร์เอิร์ธ) 7 ชนิดไปยังสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงซาแมเรียม แกโดลิเนียม และเทอร์เบียม โดยแร่เหล่านี้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง

 

อย่างไรก็ตาม มาตรการตอบโต้ของฝั่งจีนก็ทำให้เกิดคำถามว่าจะกระทบเศรษฐกิจจีนเองมากแค่ไหน เนื่องจากเวลานี้เศรษฐกิจจีนก็อยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่รัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศที่ยังอ่อนแอ และเวลานี้ยังมีแนวโน้มที่จะได้เผชิญกับสงครามการค้าระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น

 

ภาพ: Lightspring via Shutterstock

 

อ้างอิง:

The post จีนตอบโต้ภาษีทรัมป์ เตรียมเก็บเท่ากันที่ 34% เริ่ม 10 เมษายนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ดราม่า สตง. ตรวจสอบคนอื่น เจอสอบกลับ ตึกถล่มลดสเปก หรือคอร์รัปชัน? | THE STANDARD NOW https://thestandard.co/thestandardnow03042025/ Thu, 03 Apr 2025 10:34:43 +0000 https://thestandard.co/?p=1060215 thestandardnow03042025

ดราม่า สตง. ตรวจสอบคนอื่น เจอสอบกลับ ตึกถล่มลดสเปก หรือ […]

The post ชมคลิป: ดราม่า สตง. ตรวจสอบคนอื่น เจอสอบกลับ ตึกถล่มลดสเปก หรือคอร์รัปชัน? | THE STANDARD NOW appeared first on THE STANDARD.

]]>
thestandardnow03042025

ดราม่า สตง. ตรวจสอบคนอื่น เจอสอบกลับ ตึกถล่มลดสเปก หรือคอร์รัปชัน?

 

คุยกับแขกรับเชิญ 2 ท่าน

 

  • พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
  • วินท์ สุธีรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน)

 

พบกันในรายการ THE STANDARD NOW กับ อ๊อฟ ชัยนนท์ วันที่ 3 เมษายน 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทาง YouTube และ TikTok ของ THE STANDARD

The post ชมคลิป: ดราม่า สตง. ตรวจสอบคนอื่น เจอสอบกลับ ตึกถล่มลดสเปก หรือคอร์รัปชัน? | THE STANDARD NOW appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ทุนจีนเหมาสร้างโครงการใหญ่รัฐ-ขู่ย้าย รมต. ถ้าหาสาเหตุไม่ได้ ไทยอยู่ยาก! https://thestandard.co/thestandardnow02042025/ Wed, 02 Apr 2025 11:26:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1059749

ทุนจีนเหมาสร้างโครงการใหญ่รัฐ-ขู่ย้าย รมต. กับข้อพิรุธ […]

The post ชมคลิป: ทุนจีนเหมาสร้างโครงการใหญ่รัฐ-ขู่ย้าย รมต. ถ้าหาสาเหตุไม่ได้ ไทยอยู่ยาก! appeared first on THE STANDARD.

]]>

ทุนจีนเหมาสร้างโครงการใหญ่รัฐ-ขู่ย้าย รมต. กับข้อพิรุธ อาจเข้าข่ายคอร์รัปชัน นายกฯ ประกาศ ถ้าหาสาเหตุไม่ได้ ไทยอยู่ยาก!

 

คุยกับแขกรับเชิญ 3 ท่าน

 

  • สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ
  • จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
  • ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

พบกันในรายการ THE STANDARD NOW กับ อ๊อฟ ชัยนนท์ วันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทาง YouTube และ TikTok ของ THE STANDARD

The post ชมคลิป: ทุนจีนเหมาสร้างโครงการใหญ่รัฐ-ขู่ย้าย รมต. ถ้าหาสาเหตุไม่ได้ ไทยอยู่ยาก! appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ตรวจเหล็กเส้น ลือมีคนวิ่งเต้น-ข่มขู่ ปมตึก สตง. ถล่ม สู่ภาพใหญ่คอร์รัปชัน | THE STANDARD NOW https://thestandard.co/thestandardnow010468/ Tue, 01 Apr 2025 10:43:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1059353 thestandardnow010468

ตรวจเหล็กเส้นแผลงฤทธิ์ ลือมีคนวิ่งเต้น-ข่มขู่ ปกปิดตึก […]

The post ชมคลิป: ตรวจเหล็กเส้น ลือมีคนวิ่งเต้น-ข่มขู่ ปมตึก สตง. ถล่ม สู่ภาพใหญ่คอร์รัปชัน | THE STANDARD NOW appeared first on THE STANDARD.

]]>
thestandardnow010468

ตรวจเหล็กเส้นแผลงฤทธิ์ ลือมีคนวิ่งเต้น-ข่มขู่ ปกปิดตึก สตง. ถล่ม สู่ภาพใหญ่คอร์รัปชัน

 

คุยกับแขกรับเชิญ 3 ท่าน

 

  • เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
  • ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส. ระยอง พรรคประชาชน
  • ศ. ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

พบกันในรายการ THE STANDARD NOW กับ ออฟ พลวุฒิ วันที่ 1 เมษายน 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทาง YouTube และ TikTok ของ THE STANDARD

The post ชมคลิป: ตรวจเหล็กเส้น ลือมีคนวิ่งเต้น-ข่มขู่ ปมตึก สตง. ถล่ม สู่ภาพใหญ่คอร์รัปชัน | THE STANDARD NOW appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดบันทึกสถิติย้อนหลัง 5 ปี ทุนจีนตั้งธุรกิจในไทย มูลค่ามากแค่ไหน เข้ามาทำธุรกิจอะไรมากที่สุด https://thestandard.co/china-business-5yr-stats/ Mon, 31 Mar 2025 11:16:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1058788 china-business-5yr-stats

นับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทา […]

The post เปิดบันทึกสถิติย้อนหลัง 5 ปี ทุนจีนตั้งธุรกิจในไทย มูลค่ามากแค่ไหน เข้ามาทำธุรกิจอะไรมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
china-business-5yr-stats

นับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) จากรัฐบาลจีน สนับสนุนการลงทุนและการค้าในหลายประเทศ ส่งผลให้เห็นคลื่นการลงทุนจากจีนหลั่งไหลมายังภูมิภาคอาเซียนและไทยมากขึ้น โดยอาเซียนมีทรัพยากรธรรมชาติ ต้นทุน และค่าแรงงานในบางประเทศในอาเซียนยังต่ำ

 

มากไปกว่านั้น จากแรงกดดันสงครามการค้า 1.0 จนมาถึงนโยบายทรัมป์ 2.0 ยิ่งกดดันภาคธุรกิจจีน โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs กว่าหมื่นราย ต้องเลี่ยงผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ทำให้สินค้าทะลักเข้ามายังอาเซียนและไทย ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นประเด็นที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจับตาและร่วมกันวางมาตรการ

 

หากดูในแง่ของการจดทะเบียนธุรกิจ THE STANDARD WEALTH ชวนติดตามบันทึกสถิติการจดทะเบียนย้อนหลังตั้งแต่ปี 2563-2567 จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า ช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีธุรกิจสัญชาติจีนเข้ามาจดทะเบียนในไทยมากแค่ไหน ซึ่งจะเห็นได้ว่าภายในปี 2567 แค่ปีเดียวมีมูลค่าทุนจดทะเบียนสูงถึง 6,582.15 ล้านบาท

 


 

5 ปี ทุนจีนตั้งธุรกิจในไทย

 

ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

 

อ้างอิง: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, ส​​.อ.ท.

The post เปิดบันทึกสถิติย้อนหลัง 5 ปี ทุนจีนตั้งธุรกิจในไทย มูลค่ามากแค่ไหน เข้ามาทำธุรกิจอะไรมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ร้านอาหารจีนครองเมือง การเติบโตที่ผลประโยชน์ไม่ตกถึงมือคนไทย https://thestandard.co/chinese-restaurants-growth-thailand-impact/ Sun, 30 Mar 2025 01:00:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1058217

ร้านอาหารสัญชาติจีนทยอยเปิดตัวในไทยอย่างไม่ขาดสาย มองผิ […]

The post ร้านอาหารจีนครองเมือง การเติบโตที่ผลประโยชน์ไม่ตกถึงมือคนไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>

ร้านอาหารสัญชาติจีนทยอยเปิดตัวในไทยอย่างไม่ขาดสาย มองผิวเผินร้านเหล่านี้อาจเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับคนไทย แต่เบื้องหลังกลับสะท้อนความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านั้น

 

THE STANDARD ลงไปสำรวจย่านที่แน่นขนัดไปด้วยร้านอาหารจีน หลายร้านมีระบบนิเวศเป็นจีนล้วน ตั้งแต่เจ้าของร้าน แรงงาน วัตถุดิบ ไปจนถึงระบบชำระเงิน 

 

ปรากฏการณ์จีนทั้งวงจรนี้กำลังส่งสัญญาณอะไรกับเศรษฐกิจไทย แล้วคนไทยได้อะไรจากการเติบโตของธุรกิจเหล่านี้?

 

ตัดต่อ: ชินดนัย มะลิซ้อน

The post ร้านอาหารจีนครองเมือง การเติบโตที่ผลประโยชน์ไม่ตกถึงมือคนไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ถอดแผนประทุษกรรม ‘จีนหลอกจีน’ ผ่านมือไทยดำ ทำบัตรประชาชนสวมรอยคนไทย https://thestandard.co/chinese-fraud-thailand/ Thu, 27 Mar 2025 09:36:47 +0000 https://thestandard.co/?p=1057272 chinese-fraud-thailand

เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสว […]

The post ถอดแผนประทุษกรรม ‘จีนหลอกจีน’ ผ่านมือไทยดำ ทำบัตรประชาชนสวมรอยคนไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
chinese-fraud-thailand

เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายปลอมแปลงบัตรประชาชน นำไปสู่การเปิดโปงขบวนการขนาดใหญ่ที่ใช้เงิน 1 ล้านบาท เปลี่ยนสถานะคนจีนให้กลายเป็นคนไทย

 

คดีนี้ไม่ใช่แค่การปลอมแปลงเอกสารทั่วไป แต่เผยให้เห็นถึงการร่วมมือกันระหว่างข้าราชการไทยและนายทุนจีนที่สมคบคิดก่ออาชญากรรมข้ามชาติ สะท้อนปัญหาการทุจริตและช่องโหว่ในระบบทะเบียนราษฎรของไทย

 


 

ช่องทางการทำบัตรประชาชน-พาสปอร์ต

 

ขบวนการนี้เน้นให้บริการกลุ่มชาวจีนโดยเฉพาะ ผู้ที่สนใจทำเอกสารทางราชการของไทยเพียงชำระค่าบริการและเดินทางมาตามที่นัดหมาย จากนั้นจะมีนายหน้าชาวไทยดูแลทุกขั้นตอน โดยลูกค้าไม่ต้องกรอกเอกสาร เพียงไปถ่ายภาพ สแกนนิ้วการทำบัตรประชาชน ใช้เวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้น

 

ส่วนมากชาวจีนที่ต้องการทำเอกสารทางการไทยแบบนี้ เพื่อจะได้อยู่อาศัยโดยไม่ต้องขอวีซ่า และบางส่วนเพื่ออำพรางตัวในการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย

 


 

กระบวนการตบทรัพย์

 

เมื่อกลุ่มลูกค้าชาวจีนทำบัตรประชาชนเรียบร้อยจะทำพาสปอร์ตต่อ แต่กลุ่มคนร้ายจะใช้โอกาสนี้ที่ลูกค้าชาวจีนมีเอกสารปลอมในครอบครอง จัดฉากบุกจับ โดยมีเจ้าหน้าที่ไทยที่แบ่งหน้าที่ไว้ก่อนหน้าทำแต่ละขั้นตอน (ตามข้อ 1-4) 

 

ลูกค้าจีนที่ตกเป็นเหยื่อ หากไม่ต้องการถูกดำเนินคดีจะต้องจ่ายเงินโดยสแกนจ่ายผ่านเครือข่ายคริปโตในสกุล USDT เงินจะเข้าสู่ Wallet ก่อนถูกโอนต่อไปอีกทอดหนึ่ง

 

ในการเปิดโปงครั้งนี้เกิดจากที่ลูกค้าชาวจีนรายหนึ่งซึ่งถูกตบทรัพย์เมื่อปี 2567 ตัดสินใจแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นตำรวจสอบสวนกลางจึงขยายผลและจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการได้ และยังต้องมีการขยายผลต่อ

 


 

ผู้ก่อเหตุ

 

ตำรวจสอบสวนกลางออกปฏิบัติการตรวจค้น 11 จุด ใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ และออกหมายจับ 6 หมาย สามารถควบคุมตัวลีและเอ้ (ภรรยาลี) โดยแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชนแล ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

 

นอกจากนี้ยังพบเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวในขบวนการ เฉพาะตำรวจในกลุ่มนี้เคยมีประวัติอุ้มรีดไถชาวจีน มีบางรายถูกดำเนินคดีฐานกรรโชกทรัพย์อยู่ในเรือนจำก่อนมีหมายจับคดีนี้

 


 

‘ลี’ หัวหน้าแก๊ง

 

หลังจากที่ลีมีบัญชีธนาคารและเอกสารแสดงตัวตนของประเทศไทยจึงเริ่มเปิดบริษัท โดยใช้ที่ตั้งในจังหวัดสมุทรปราการ ปรากฏชื่อนอมินีคนไทยประกอบกิจการในบริษัท แต่ไม่มีการดำเนินกิจการจริง ไม่มีพนักงาน พร้อมเปิดอีก 14 บริษัท โดยใช้ที่ตั้งเดียวกัน

 

ลีสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีบริษัทที่คล้ายกันอีกกว่า 100 บริษัท ใน 1 ปีมีเงินหมุนเวียนกว่า 400-500 ล้านบาท

 

ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา

The post ถอดแผนประทุษกรรม ‘จีนหลอกจีน’ ผ่านมือไทยดำ ทำบัตรประชาชนสวมรอยคนไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: นิคมจีนศูนย์เหรียญ ปัญหาใหญ่ที่ไทยต้องแก้ | KEY MESSAGES #190 https://thestandard.co/zero-dollar-chinese-estate-thailand-issue/ Sun, 23 Mar 2025 07:35:06 +0000 https://thestandard.co/?p=1055311 zero-dollar-chinese-estate-thailand-issue

การย้ายฐานการผลิตของโรงงานจีนมายังไทยส่งผลต่อเราหลายด้า […]

The post ชมคลิป: นิคมจีนศูนย์เหรียญ ปัญหาใหญ่ที่ไทยต้องแก้ | KEY MESSAGES #190 appeared first on THE STANDARD.

]]>
zero-dollar-chinese-estate-thailand-issue

การย้ายฐานการผลิตของโรงงานจีนมายังไทยส่งผลต่อเราหลายด้าน ทั้งประโยชน์ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้า การถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือความหลากหลายของสินค้าที่มากขึ้น 

 

แต่ในเวลาเดียวกัน การเข้ามาของโรงงานจีนจำนวนมากก็สร้างข้อกังวลให้กับหลายฝ่าย โดยเฉพาะกับคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เมื่อพบว่าโรงงานจีนจำนวนมากอาจไม่ได้ใช้แรงงานไทย ไม่ได้ใช้สินค้าและบริการของไทย หรือแม้กระทั่งไม่ได้มีส่วนร่วมกับระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งที่พวกเขาทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย

 

สำรวจนิคมอุตสาหกรรมไทยที่ถูกรุกด้วยทุนจีนไปพร้อมกันได้ในรายการ KEY MESSAGES

 

ตัดต่อ: ศุภอาฒย์ มั่นสิงห์

The post ชมคลิป: นิคมจีนศูนย์เหรียญ ปัญหาใหญ่ที่ไทยต้องแก้ | KEY MESSAGES #190 appeared first on THE STANDARD.

]]>
สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยชี้ ยอดขายรถยนต์ไทยลดไม่ได้เป็นผลจากปัญหารถ EV จีนล้น https://thestandard.co/thai-auto-sales-decline-not-related-to-chinese-ev-overflow/ Thu, 20 Mar 2025 12:22:55 +0000 https://thestandard.co/?p=1054413 กฤษฎา อุตตโมทย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสาเหตุยอดขายรถยนต์ไทยลดลงไม่เกี่ยวกับรถ EV จีนล้นตลาด

กฤษฎา อุตตโมทย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้า […]

The post สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยชี้ ยอดขายรถยนต์ไทยลดไม่ได้เป็นผลจากปัญหารถ EV จีนล้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
กฤษฎา อุตตโมทย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสาเหตุยอดขายรถยนต์ไทยลดลงไม่เกี่ยวกับรถ EV จีนล้นตลาด

กฤษฎา อุตตโมทย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ให้สัมภาษณ์ THE STANDARD เกี่ยวกับภาพรวมของสถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย กับผลกระทบจากปัญหาการผลิตรถ EV ที่ล้นเกินจากจีน ซึ่งทำให้ผู้ผลิตรถ EV สัญชาติจีนหลายค่าย ต้องหันมาระบายรถส่งขายในต่างประเทศ รวมถึงไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

กฤษฎา กล่าวอย่างชัดเจนว่า “ภาพจำแรกของรถ EV ในไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องของปัญหาการผลิตที่ล้นเกินในจีน แล้วจึงเล็งเป้ามาที่ไทย เพราะเดิมทีไทยเองก็มีแผนดึงดูดให้จีนเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว”

 

ในช่วงที่ไทยเริ่มประกาศมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าระยะแรก หรือ แพ็กเกจ EV 3.0 เมื่อปี 2565 ขณะนั้น EV กำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างมาก และไทยเองเล็งเห็นโอกาสที่จะดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและ Supply Chain ที่เกี่ยวข้อง มาในไทย โดยในตอนนั้นยังไม่มีใครพูดถึงปัญหา การผลิตที่ล้นเกินของรถ EV เพราะเทรนด์ของโลกกำลังปรับเปลี่ยนเข้าสู่เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนไปจากเดิม โดยที่ผ่านมา ทุกๆ ปี ยอดการผลิตรถ EV จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เช่น ในปี 2568 นี้ ไทยมีเป้าหมายตาม นโยบาย 30@30 ที่จะผลิตรถยนต์ EV ประมาณ 10% ของยอดการผลิตทั้งหมด หรือเทียบเท่าราว 225,000 คัน แต่ปีที่แล้ว ยอดการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน จึงยังไม่ใกล้เคียงเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ราวๆ 2.25 ล้านคันภายในปี 2568 หมายความว่า ภาพรวมการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตรถ EV ใน 3-4 ปีข้างหน้า อาจจะยังไม่เติบโตไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ แต่ในขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่าจะมีรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี ปลั๊กอินไฮบริด และ Range-Extended EV ที่ใช้เครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้า มาทำตลาดมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับใช้ไลน์การผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ กฤษฎามองว่า ต่อให้ไม่มีการเข้ามาของรถ EV อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก็มีแนวโน้มยอดขายปรับลดลง ซึ่งเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง โดยในส่วนของรถสันดาป โดยเฉพาะในส่วนของรถกระบะนั้น กำลังการซื้อของลดลง และการปล่อยสินเชื่อก็ไม่คล่องอย่างในช่วงที่ผ่านมา ด้วยความกังวลของสัดส่วนหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นผลโดยตรงมาจากปัญหาการผลิต

 

ค่ายรถ EV จีนทะลัก โอกาสของไทยคืออะไร?

 

ในมุมมองของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กฤษฎาคิดว่า มีโอกาสสำหรับไทยในการรับมือการเข้ามาของค่ายรถ EV จีน พร้อมทั้งนำเสนอให้ภาครัฐพิจารณานโยบายที่เสนอให้มีการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนต่างชาติ กับซัพพลายเออร์ในประเทศ ในลักษณะที่เป็น Joint Venture มากขึ้น

 

โดยอาจมีการสร้างกฎระเบียบ เช่น ถ้าจะมาลงทุนในซัพพลายที่เป็นชิ้นส่วนรถยนต์ ควรเกิดการลงทุนร่วมกันกับซัพพลายเออร์ในประเทศที่มีอยู่ เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานไทย และถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันมากขึ้น หรือถ้าอยากได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มขึ้น ก็ต้องมาลงทุนร่วมกับไทย ด้วยการทำเทรนนิ่ง ทำวิจัยกับไทย รวมถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สำหรับการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า เช่นสนับสนุนการผลิตและการใช้เครื่องอัดประจุไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ ด้วยมาตรฐาน มอก. ให้ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย เป็นต้น

The post สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยชี้ ยอดขายรถยนต์ไทยลดไม่ได้เป็นผลจากปัญหารถ EV จีนล้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ‘จีน’ บุกตลาดเดลิเวอรีไทย โต 600% ใน 3 ปี! https://thestandard.co/chinese-brands-expand-thai-food-delivery-market/ Wed, 19 Mar 2025 11:43:33 +0000 https://thestandard.co/?p=1054002 แบรนด์จีน

การบุกตลาดครั้งใหญ่ของแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มสัญช […]

The post แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ‘จีน’ บุกตลาดเดลิเวอรีไทย โต 600% ใน 3 ปี! appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบรนด์จีน

การบุกตลาดครั้งใหญ่ของแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติจีนในประเทศไทยกำลังสร้างความน่าจับตาอย่างมาก ชนิดที่กะพริบตาทีเดียวก็เห็นร้านเหล่านี้อยู่ทั่วทุกพื้นที่ในระยะสายตา

 

ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงคลื่นการเข้ามาของแบรนด์เหล่านี้ตั้งแต่ปี 2021 และการขยายสาขาออนไลน์บนแพลตฟอร์มก็พุ่งทะยานอย่างน่าตกใจถึง 600% ภายในปี 2024 ปัจจุบันมีทัพแบรนด์จีนกว่า 16 แบรนด์ พร้อมปักธงสาขารวมกันกว่า 500 แห่งทั่วผืนแผ่นดินไทย

 

และที่น่าจับตายิ่งกว่านั้น สอดคล้องกับรายงานจาก Nikkei Asia ที่ระบุว่าในช่วงเวลาเพียง 2 ปีที่ผ่านมา กองทัพแบรนด์จีนกว่า 60 แบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น MIXUE ผู้ครองบัลลังก์ร้านเครื่องดื่ม, Luckin Coffee เชนกาแฟสุดฮิต และ Haidilao ราชาแห่งชาบูหม้อไฟ เร่งเครื่องขยายสาขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมกันกว่า 6,100 แห่ง ณ สิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2022

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง MIXUE ได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอันมองข้ามไม่ได้บน LINE MAN ด้วยยอดสั่งซื้อที่ทะยานขึ้นถึง 20 เท่าในปี 2024 และกวาดตำแหน่งแบรนด์ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดกว่า 300 แห่งทั่วประเทศไทย นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าแบรนด์จีนกำลังเข้ามาเขย่าตลาดอย่างแท้จริง

 

เบื้องหลังการรุกคืบครั้งนี้มีปัจจัยสำคัญ นั่นคือการแข่งขันที่ดุเดือดในสมรภูมิอาหารและเครื่องดื่มของจีนเอง ทำให้บรรดาบริษัทต่างต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ ในตลาดที่มีศักยภาพแต่ยังมีการแข่งขันไม่สูงนัก ซึ่งภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศไทยของเราก็กลายเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง

 

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่ความสำเร็จในตลาดไทยและอาเซียนก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แบรนด์เหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ตั้งแต่การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมและรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้บริโภคชาวไทย ไปจนถึงการต่อสู้กับบรรดาแบรนด์ท้องถิ่นที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

 

ถึงแม้การไหลบ่าเข้ามาของแบรนด์จีนเหล่านี้อาจสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้ประกอบการรายย่อยและแบรนด์ไทย แต่ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Momentum Works ตอกย้ำว่า ในที่สุดแล้วทุกภาคส่วนจะต้องปรับตัวและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เพราะไม่มีผู้เล่นรายใดสามารถครองตลาดนี้ได้แต่เพียงผู้เดียวอย่างแน่นอน

 

ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ตลาดอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการแข่งขันที่ร้อนระอุยิ่งขึ้นจากการเข้ามาของคลื่นแบรนด์ต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแดนมังกร 

 

ไม่เช่นนั้นเราคงไม่พบร้านที่มีป้ายเป็น ‘ภาษาจีน’ ในทุกที่ที่เราไป ใช่หรือไม่?

 

The post แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ‘จีน’ บุกตลาดเดลิเวอรีไทย โต 600% ใน 3 ปี! appeared first on THE STANDARD.

]]>