วันนี้ (11 กรกฎาคม) เปิดใจถึงความสัมพันธ์เป็นครั้งแรกสำหรับนางเอกสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ในงานแถลงข่าว ทองประกายแสด ของค่าย โดย CHANGE2561 หลังเพิ่งมีข่าวคราวการยุติความสัมพันธ์กับพระเอกหนุ่ม นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ ซึ่งสถานะของพวกเขา ณ ตอนนี้ลดเหลือเพียงแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งใบเฟิร์นเปิดเผยถึงความรู้สึกในตอนนี้เอาไว้ว่า

“เฟิร์นก็ยังมีรอยยิ้ม แต่ต้องให้ระยะเวลาเฟิร์นในการดูแลตัวเอง ดูแลหัวใจตัวเองด้วยค่ะ แต่เชื่อว่ามันจะดีขึ้น”

และสื่อมวลชนยังถามถึงสิ่งที่เธอได้รับจากการมีความรักในครั้งที่ผ่านมานี้ โดยใบเฟิร์นเล่าว่า ความรักที่ผ่านมาเป็นความรักอีกเวอร์ชันหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน เธอและนายก็รักและหวังดีต่อกันได้เช่นเดิม

The post “เฟิร์นยังมีรอยยิ้ม” ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เปิดใจเป็นครั้งแรกหลังยุติความสัมพันธ์กับ นาย ณภัทร appeared first on THE STANDARD.

มีประเด็นดราม่าตั้งแต่ประกาศสร้างสำหรับ รากแก้ว ละครหลังข่าวที่ว่าด้วยชีวิตของเลสเบี้ยนเรื่องแรกของไทย จากการใช้คำว่า ‘วิปริตทางเพศ’ บรรยายความสัมพันธ์ตัวละครในบทคัดย่อของนิยาย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นปัจจัยให้ทีมผู้สร้างระมัดระวังเรื่องการนำเสนอมากเป็นพิเศษ ทำให้บทลดทอนเรื่องอคติทางเพศลง ในขณะเดียวกันการใส่สีสันให้ตัวละครรอบข้างหารเฉลี่ยความร้ายกาจของตัวละครหลักก็กลับทำให้แก่นของเรื่องไม่แข็งแรง

รากแก้ว เป็นบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน ที่คว้ารางวัลชมเชยจากการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี 2517 ว่าด้วยเรื่องขีวิตของ ทราย (เก้า-สุภัสสรา ธนชาต) เด็กสาววัย 19 ปี เธอเป็นลูกสาวของชาวจีนยากจนที่ครอบครัวผู้มั่งคั่งรับมาอุปการะ จนกระทั่งพ่อแม่บุญธรรมเสียชีวิต รังรอง (คริส หอวัง) พี่สาวบุญธรรมจึงกลายเป็นผู้ปกครองของเธอแต่เพียงผู้เดียว หากแต่ความรักที่รังรองมอบให้กลับไม่ใช่ในแบบพี่น้อง แต่เป็นไปในเชิงชู้สาว และพยายามควบคุมทรายทุกฝีก้าว ทำให้เธอประชดชีวิตกลายเป็นเด็กใจแตก เมื่อถูกบีบคั้นมากเข้า ทรายจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน โชคดีที่เจอผู้ชายดีๆ อย่าง กิดา (หลุยส์ สก๊อตต์) แต่ก็น่าเสียดายที่เขามีภรรยาแล้วคือ ชารวี (โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม) สำหรับกิดา ทรายเป็นเหมือนความตื่นเต้นในชีวิต ที่เข้ามาเติมเต็มในสิ่งที่ภรรยาของเขาไม่มี ในขณะเดียวกัน ริบดิน (พีช-พชร จิราธิวัฒน์) ผู้ชายที่ทั้งหล่อ รวย และหลงรักทรายอย่างจริงจัง ก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อจะได้แต่งงานกับทราย ทางออกของชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร คือเรื่องราวที่ติดตามได้ในละคร 

ถ้าได้ลองอ่านบทประพันธ์ หรือได้ชมเวอร์ชันหนังในชื่อ พิศวาส เมื่อปี 2530 ก็พอจะเข้าใจว่าความหมายของรากแก้วคือรากฐานที่ทำให้ต้นไม้เติบโตแข็งแรง ก็เหมือนการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว หากทุกอย่างบิดเบี้ยวไปก็อาจทำให้ชีวิตคนนั้นๆ ไม่สมบูรณ์ อย่างเช่นชีวิตของทรายที่กลายเป็น ‘เด็กหลงทาง’ สับสนกับนิยามของความรักในแบบครอบครัวและเชิงชู้สาว ทำให้เธอแสดงออกด้วยการทำตัวเสเพล เอาแต่ใจตัวเอง โดยทั้งในเวอร์ชันนิยายและหนัง เราจะทั้งหมั่นไส้และสงสารทรายไปพร้อมๆ กัน แต่ในเวอร์ชันละคร การปรับบทให้ทรายรู้คิด และมีเหตุบางอย่างที่ต้องทนอยู่กับรังรอง กลับทำให้ประเด็นเรื่องรากฐานอันบิดเบี้ยวดูขาดน้ำหนักไป

ความจริงผู้เขียนไม่ติดกับเรื่องการปรับบทประพันธ์ เพราะมันก็มีอายุมาถึง 48 ปี จนบริบทสังคมก็เปลี่ยนไปแล้ว ดีเสียอีกที่ผู้จัดขยายความประสบการณ์เลวร้ายจากการแต่งงานของรังรอง ทำให้เธอต้องปกป้องคนที่รักนั่นก็คือทรายให้อยู่ห่างจากผู้ชาย รวมทั้งการมีความรัก ‘เท่าชีวิต’ เพราะทรายคือสายสัมพันธ์สุดท้ายหลังจากต้องตัดขาดจากพี่น้อง และเคยช่วยชีวิตของรังรอง ก็ทำให้การกักขังหน่วงเหนี่ยวทรายเอาไว้ดูมีเหตุมีผลขึ้นมาอีกนิด 

แต่ปัญหามาจากการปรับบทของทรายจาก ‘เด็กไร้ราก’ ตัดขาดจากครอบครัวเดิมอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นมีพ่อและน้องชายที่ยังต้องอาศัยใบบุญของรังรองอยู่ ทำให้ทรายต้องทนอยู่ต่อไป จากบทเด็กใจแตกหาดีแทบไม่ได้ ทรายกลับมีความเป็น ‘นางเอก’ ที่คนดูสงสารเพราะความเสียสละทำเพื่อครอบครัว มากกว่าสงสารเพราะเธอคือผู้ถูกกระทำ 

ภาพของทรายจึงกลายเป็นเด็กผู้หญิงดีๆ ที่ทำตัวประชดชีวิต ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเด็กสาวผู้อ่อนไหว ไร้เดียงสาขนาดที่แทบไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ โดยเกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูแบบผิดๆ แต่การที่ทรายรู้คิดและมีความรับผิดชอบแบบนี้ นั่นแสดงว่า ‘รากแก้ว’ ที่ไม่สมบูรณ์ ส่งผลกระทบกับชีวิตเธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

การออกแบบคาแรกเตอร์ของทรายยังทำให้บางจุดของละครขาดความสมเหตุสมผลไป อย่างเหล่าสาวใช้ที่เอือมระอากับพฤติกรรมทราย ทั้งๆ ที่เธอก็มีแง่มุมดีๆ และจากการเล่าเรื่องทรายก็น่าจะเพิ่งมาร้ายหลังจากที่พ่อบุญธรรมเสียชีวิต หรือการใช้คำพูดจาบจ้วงของริบดินตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วทรายเองก็อยากท้าทาย เพราะเข้าใจว่านี่คือชีวิตอิสระ โดยไม่รู้ว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ 

นอกจากตัวละครหลัก รากแก้ว เวอร์ชันละครยังปรับบุคลิกตัวละครรอบข้างไปด้วย อย่างเช่นบท ชารวี ที่ผู้เขียนเห็นด้วย เพราะในนิยายเธอคือสาวเรียบร้อยที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน แต่การเติมขิงเติมข่าให้ตัวละครร้ายลึก และต้องขับเคี่ยวกับ กัทลี (ออร์แกน-ราศี ดิศกุล ณ อยุธยา) พี่สาวของกิดา กลับยิ่งแย่งความเด่น และทำให้ต้นเหตุของปัญหาคือทรายดูขาดน้ำหนักไป จริงอยู่ว่ามันช่วยเสริมในประเด็นที่ทางผู้จัดอยากพูดถึงความรักทั้งแบบผิดคนและผิดวิธี แต่สำหรับผู้เขียน มันแค่เพิ่มอรรถรสและแรงปะทะในละครให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

รากแก้ว ไม่ใช่นิยายชื่อดัง และคงไม่มีการสร้างใหม่บ่อยๆ เชื่อแน่ว่าเวอร์ชันของ CHANGE2561 จะกลายเป็นภาพจำของคอละครยุคใหม่ว่าเรื่องราวใน รากแก้ว เป็นอย่างไร ซึ่งทางผู้จัดก็ทำออกมาได้ไม่แย่ เพียงแต่ประเด็นหลักเรื่องเด็กหลงทางชีวิตจากการเลี้ยงดูผิดๆ ยังไม่หนักแน่นพอเท่านั้นเอง

The post รากแก้ว หยั่งรากยังไม่ลึก จนแก่น (เรื่อง) ไม่แข็งแรง appeared first on THE STANDARD.

กระเช้าสีดา ลาจอไปเมื่อคืนนี้ (18 พฤศจิกายน) ด้วยความฟินของคู่พระนาง ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล และนุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี ถึงแม้จะมีเสียงค่อนแคะถึงหลายๆ ประเด็นในเรื่องที่ไม่นำพาให้ตอนจบคลี่คลายอย่างที่ควรจะเป็น แต่ละครม้ามืดเรื่องนี้ก็สามารถทะยานตัวเลขเรตติ้งไปได้ที่ระดับ 6.823 เฉลี่ยทั่วประเทศ ขึ้นแท่นเป็นละครเรตติ้งสูงสุดอันดับ 2 ของช่อง one31 ตามหลังตัวเลข 7.676 ของละครเรื่อง วันทอง ที่จบไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา 

นับเป็นปรากฏการณ์ย่อมๆ เช่นกันสำหรับละครม้ามืดแห่งปี กระเช้าสีดา จากค่าย CHANGE2561 ของ ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ที่ว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของ รำนำ ผู้หญิงทะเยอทะยานที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นกับคนรอบตัวของเธอ ซึ่งนอกจากบทโทรทัศน์ที่ชวนติดตามแล้ว ต้องนับว่าเป็นละครเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงในเรื่องของการแสดงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ 3 นักแสดงหลัก ทั้ง ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล ในบทบาท อำพน, นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี ในบท น้ำพิงค์ และบทสุดแซ่บที่ต้องจดจำไปอีกนานของ กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ในบทบาท รำนำ รวมไปถึงนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องเองก็ต่างมีบทบาทและทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างพอดิบพอดีทั้ง ตู่-นพพล โกมารชุน, เจี๊ยบ-กาญจนาพร ปลอดภัย, อั๋น-วิทยา วสุไกรไพศาล และกระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล

แม้ละคร กระเช้าสีดา จะมีช่วงพักออกอากาศไปเนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ส่งผลกระทบกับการถ่ายทำ หยุดพักการออกอากาศไว้ที่เอพิโสดที่ 7 แต่การกลับมาฉายซ้ำอีกครั้งตั้งแต่ตอนแรกก็เหมือนว่าละครเรื่องนี้จะได้ฐานแฟนและผู้ชมมากขึ้นตามมาด้วยกระแสปากต่อปาก และท้ายที่สุดละครเรื่องนี้ก็สามารถทะยานตัวเลขเรตติ้งไปได้ที่ 6.823 ในตอนจบ นับเป็นตัวเลขเรตติ้งที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีและตลอดกาลในบรรดาละครช่อง one31 และยังเป็นละครที่เรตติ้งสูงที่สุดของค่าย CHANGE2561 อีกด้วย โค่นแชมป์เดิมอย่าง ใบไม้ที่ปลิดปลิว ที่เคยทำไว้ที่ 4.7 และที่น่าสนใจมากๆ คือคลิปบนแอปพลิเคชัน TikTok ที่ติดแฮชแท็ก #กระเช้าสีดา นั้น มีผู้ชมรวมทั้งหมดแตะหลัก 1 พันล้านวิว จากทั้งเพลงประกอบเอง คัตซีนต่างๆ หรือเรื่องราวของนักแสดงนำ

ทางด้านนักแสดงนำอย่าง กรีน อัษฎาพร ละครเรื่องนี้คือผลงานที่ทำเรตติ้งได้สูงที่สุดนับตั้งแต่เธอรับบทบาทเป็นนักแสดงอิสระ และยังเป็นตัวเลขเรตติ้งที่สูงมากในประวัติการทำงานของเธอนับจากละครเรื่อง ขมิ้นกับปูน ในปี 2559 ทั้งนี้ เธอยังเตรียมขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพที่ผู้ชมเชื่อในบทบาทของเธอ และต้องยอมรับว่าเธอเป็นรำนำได้อย่างน่าสนใจจริงๆ ชมบทสัมภาษณ์ของเธอกับ THE STANDARD POP ได้ที่นี่

แม้ กระเช้าสีดา จะมีหลายๆ ประเด็นที่ผู้ชมเองต่างสงสัย โดยเฉพาะเรื่องราวที่เหมือนจะคลี่คลายแต่ไม่คลี่คลายเท่าที่ควรจะเป็น แต่ด้วยกระแสของเคมีพระนางอย่าง ก๊อต จิรายุ และนุ่น วรนุช ก็ทำให้ผู้ชมส่วนหนึ่งรู้สึกสบายใจ มีความสุข ที่เห็นทางลงของละครเรื่องนี้แบบหวานๆ และตัวละครอย่าง รำนำ เองก็กลับตัวกลับใจและมีชีวิตต่อไปในแบบของตัวเอง 

คุณได้ชมละครเรื่องนี้อยู่บ้างหรือเปล่า รู้สึกอย่างไรกับ กระเช้าสีดา บอกให้เรารู้กันสักหน่อย

The post กระเช้าสีดา แม้จบแผ่วแต่เรตติ้งปัง 6.823 ขึ้นแท่นสูงสุดอันดับ 2 ของช่อง one31 ฟาก TikTok มีผู้ชมสูง 1 พันล้านวิว! appeared first on THE STANDARD.

​ในยุคที่ซีรีส์วายเฟื่องฟูจนแทบจะกลายเป็นกระแสหลัก และตัวละคร ‘ชายรักชาย’ ค่อยๆ กลายเป็นที่ยอมรับ แม้ว่าเนื้อหาในซีรีส์วายแทบจะไม่สะท้อนความเป็นจริงในโลกของเกย์เลยก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเห็นผู้ชายจู๋จี๋พะเน้าพะนอกันก็เริ่มเป็นสิ่งที่ ‘ยอมรับได้’ มากขึ้น แต่กับตัวละคร ‘หญิงรักหญิง’ ยังคงเหมือนอยู่ในแดนสนธยา เป็นเพียงองค์ประกอบให้เนื้อหาของภาพยนตร์และละครมีสีสันมากขึ้น อย่างการที่ค่าย CHANGE 2561 ประกาศสร้างละครเรื่อง รากแก้ว ซึ่งตัวละครหลักของเรื่องเป็นเลสเบี้ยน ก็เกิดกระแสดราม่าว่าจะยิ่งตอกย้ำภาพลบต่อหญิงรักหญิงเข้าไปอีก

​ผู้เขียนติดตามแวดวงบันเทิงไทยมาร่วม 30 ปี ลองนึกถึงภาพยนตร์หรือละครที่มีความรักของหญิงรักหญิงเป็นเส้นเรื่องและประสบความสำเร็จ มีคนพูดถึง ก็เห็นจะมีเพียง Yes or No อยากรัก ก็รักเลย (2553) ส่วนที่ได้ดูกันทางหน้าจอทีวีเห็นจะมีแค่ซีรีส์เพียงไม่กี่ตอน ส่วนใหญ่ก็สร้างในตระกูล Club Friday The Series เช่น รักเธอ รักเขา และรักของเรา, รักแท้หรือแค่ความหวัง, รักล้ำเส้น, รักออนไลน์ และเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีดราม่าของ อังคารคลุมโปง TheSeries… ตอน มือที่สาม เมื่อทางผู้ผลิตตัดฉากหญิงจูบหญิงออกในเวอร์ชันที่ออกอากาศทางทีวี แต่ดูฉบับเต็มได้เฉพาะในบริการออนไลน์เท่านั้น จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความสองมาตรฐาน เพราะในเมื่อซีรีส์ชายรักชายออกจะโจ๋งครึ่ม แต่หญิงจูบหญิงกลับกลายเป็นเรื่องผิดศีลธรรมไปเสียได้

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Yes or No อยากรัก ก็รักเลย (2553)

ตัวละครหญิงรักหญิงคนแรกที่ผู้เขียนพอจะนึกออก ก็คือ ‘แพรว’ จากภาพยนตร์เรื่อง เพลงสุดท้าย (2528) ทอมบอยที่ต้องเสียอรทัยให้กับ บุญทิ้ง คู่รักของ สมหญิง สาวประเภทสองดาวเด่นแห่งคณะคาบาเรต์โชว์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมรักไม่สมหวังของคนเพศที่ 3 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคนั้น แม้จะให้ข้อมูลที่ไม่สมจริงของกลุ่ม LGBTQ+ สักเท่าไร แต่ก็เป็นการเบิกเนตรให้สังคมได้รับรู้ถึงความหลากหลายทางเพศมากขึ้น จากนั้นตัวละครชายรักชายก็ได้รับการพัฒนาให้เห็นแง่มุมอื่นๆ มากกว่าแค่ตลกโปกฮา อย่างที่เราได้ดูมุมละมุนๆ ในเรื่อง รักแห่งสยาม (2550) จนกลายเป็นรากฐานให้กับซีรีส์วายในปัจจุบัน ส่วนตัวละครหญิงรักหญิงก็มีเพียง Yes or No อยากรัก ก็รักเลย ซึ่งก็ยังไม่เห็นเนื้อหารักดีๆ แบบหญิงรักหญิงในภาพยนตร์และละครที่ประสบความสำเร็จอีกเลย

ภาพจากละครเรื่อง รักล้ำเส้น 

ความจริงตัวละครหญิงรักหญิงก็มีปรากฏในภาพยนตร์และละครสายแมสอยู่หลายเรื่อง แต่ก็อย่างที่บอกว่าเป็นเพียงองค์ประกอบสร้างสีสัน ไม่ได้เจาะลึกถึงชีวิต ความรู้สึกนึกคิดสักเท่าไร อย่างตัว คุณหญิงศรี ในเรื่อง คือหัตถาครองพิภพ ที่มีการพูดถึงรสนิยมทางเพศของเธออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่อง หรืออย่างตัวละคร นุช จากเรื่อง ดาวแต้มดิน (2538) เด็กสาวผู้รอดพ้นจากการ ‘ตกเขียว’ จนสะอิดสะเอียนกับสังคมชายเป็นใหญ่ และหันไปสนิทสนมกับสาวรุ่นใหญ่ โดยผู้สร้างขมวดปมทิ้งท้ายให้คนดูคาดเดากันถึงวิถีทางเพศของเธอเอง ส่วนเมื่อเร็วๆ นี้ ละครเรื่อง อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ก็มีตัวละครหญิงรักหญิงอย่าง กั้ง และ ข้าวฟ่าง ที่นำเสนอออกมาในแง่มุมน่ารัก สดใส 

ภาพจากละครเรื่อง อกเกือบหักแอบรักคุณสามี

ถ้านับกันจริงๆ ก็ต้องยอมรับว่า รากแก้ว นี่แหละคือละครยาวทางจอทีวีเรื่องแรกที่เอาเรื่องของหญิงรักหญิงมาเป็นเส้นเรื่อง แต่ด้วยเนื้อหาที่ล่อแหลม มีการพูดถึงปัญหา Child Grooming (การเลี้ยงเด็กเพื่อผลประโยชน์ทางเพศ) ทำให้หลายคนวิตกว่าจะยิ่งสร้างภาพลบให้กับหญิงรักหญิงหรือเปล่า อีกทั้งเมื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับนวนิยายนี้ ก็ได้พบกับคำนิยามให้ชวนกังวลหนักยิ่งกว่าเดิมว่า เรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเกิดมาและมุ่งหวังที่จะหนีให้พ้นจาก ‘ผู้มีพระคุณ’ ซึ่งมี ‘ความวิปริตทางเพศ’ และสร้างความบอบช้ำให้… โรยทองทราย จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนได้หรือไม่?

ภาพจากละครเรื่อง รากแก้ว 

​ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า รากแก้ว เป็นบทประพันธ์ที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ช่วงปี 2517 ในยุคที่พฤติกรรมรักร่วมเพศยังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ‘ความผิดปกติทางจิต’ อยู่เลย และแก่นแกนของเรื่องก็มีอะไรมากกว่าแค่ประเด็นหญิงรักหญิง แต่สอดแทรกปัญหาวัยรุ่นและผลกระทบจากพฤติกรรมผิดปกติในครอบครัว ผู้เขียนเองเคยได้ชม รากแก้ว ในเวอร์ชันภาพยนตร์ในชื่อ พิศวาส เมื่อปี 2530 กำกับโดย แม่หนู-สรวงสุดา ชลลัมพี (ปัจจุบันคือผู้จัดของช่อง 3) ในตอนนั้น ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบทเป็น รังรอง ผู้มีพระคุณที่เคลม โรยทองทราย ซึ่งรับบทโดย นิด-อรพรรณ (พานทอง) วัชรพล ซึ่งเป็นเหมือนลูกเลี้ยงและคู่รักไปพร้อมๆ กัน ความสับสนในใจทำให้ โรยทองทราย กลายเป็นเด็กใจแตก ก้าวร้าว เอาแต่ใจ ต่อต้านสังคม จนกระทั่งได้พบกับชายหนุ่มที่ทำให้เธอรู้ว่าจริงๆ แล้วความรักและเพศวิถีของตัวเองคืออะไร ซึ่งในเวอร์ชันเก่าก็มีตัวละครที่เป็น ‘เด็กเลี้ยง’ อีกคนหนึ่ง และความ ‘วิปริต’ ก็ไม่ใช่เรื่องวิถีทางเพศ (ตามที่คนในยุคนั้นเข้าใจ) เท่านั้น แต่คือความรักมาก หวงมาก คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของชีวิตของคนที่เลี้ยงมาด้วยต่างหาก

ตัวผู้เขียนเองได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ และยังจำได้มาจนถึงวันนี้ ก็เชื่อว่ามันต้องมีข้อดีอะไรสักอย่างที่ประทับอยู่ในใจเรา เลยอยากให้เปิดใจ ให้โอกาสทีมผู้สร้างเสียก่อน เชื่อว่าด้วยบริบทของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รากแก้ว คงไม่น่าจะทำให้เลสเบี้ยนเป็นตัวร้ายแบบเหมารวมอย่างที่หลายคนกังวล ยิ่งเมื่อทำออกมาในเวอร์ชันละครก็ย่อมมีเวลาที่จะปูพื้นฐานตัวละครได้มากขึ้น ก็น่าจะทำให้คนดูได้เข้าใจความซับซ้อนในความคิดของ รังรอง ได้ดีกว่า จากนี้ก็ลองมาลุ้นกันว่า รากแก้ว จะออกมาเป็นอย่างไร อีกไม่นานเกินรอ

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post สำรวจชีวิตหญิงรักหญิงในภาพยนตร์และละครไทยที่ยังเป็นได้แค่ตัวประกอบ appeared first on THE STANDARD.

กระเช้าสีดา ละครใหม่จากช่อง one31 ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาให้ชมแล้ว พร้อมทีมนักแสดงเคมีใหม่ๆ ทั้ง นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี ที่จะได้ประกบกับ ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล เป็นครั้งแรก หรือการรับบทร้ายสุดขั้วของ กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล รวมถึงยังเป็นการกลับมาทำละครให้ช่อง one31 อีกครั้งของค่าย CHANGE2561 เตรียมจ่อคิวฉายเร็วๆ นี้

ช่อง one31 เตรียมปล่อยละครเรื่องใหม่ลงจอ หลังจากผลงานละครหลังข่าวที่กำลังออนแอร์อยู่ในตอนนี้ทั้ง วันทอง และ เล่ห์ลวง ต่างได้กระแสและตัวเลขเรตติ้งเป็นที่น่าพอใจ ช่องเลยปล่อยตัวอย่างละครใหม่ยั่วน้ำลายผู้ชมอย่าง กระเช้าสีดา จากบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน ที่หยิบขึ้นมารีเมกอีกครั้งหลังเวอร์ชันเดิมทางช่อง 3 ในปี 2537 เรื่องราวโฟกัสไปที่ตัวละคร รำนำ (รับบทโดย กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล) เด็กรับใช้ในบ้านของสองสามีภรรยา ลือ (รับบทโดย ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) และ น้ำพิงก์ (รับบทโดย นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี) ผู้หญิงที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากมีคุณค่าในสายตาของคนอื่นบ้าง และทะเยอทะยานไปให้สูงที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ละครเรื่องนี้จึงคล้ายจะเป็นเรื่องราว Coming of Age ของตัวละครรำนำนี้กลายๆ

ความน่าสนใจของ กระเช้าสีดา คือการกลับมาทำละครให้ช่อง one31 อีกครั้งของ CHANGE2561 ภายใต้การดูแลของ พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หลังจากเคยส่งละครอย่าง ใบไม้ที่ปลิดปลิว ลงจอฉายไปเมื่อปี 2562 กวาดเรตติ้งในระดับปรากฏการณ์ และส่งให้ชื่อของ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ได้รับการยอมรับในเรื่องการแสดงมากขึ้นไปอีกขั้น การหยิบบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน ขึ้นมาทำในครั้งนี้มีนักแสดงหญิงมาประชันฝีมือปล่อยพลังท่วมจอ จึงคล้ายจะเป็นการดำเนินรอยตามสูตรสำเร็จบางอย่างที่ค่ายนี้เคยทำได้ และไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นละครที่ไม่มีนักแสดงในสังกัดช่องร่วมอยู่ในทีมนักแสดงหลักเลย!

จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา หากใครเคยอ่านบทประพันธ์หรือเคยชมละครเวอร์ชันก่อนหน้านี้จะพบว่า กระเช้าสีดา ในปี 2021 นี้ช่างแตกต่างลิบลับจากสิ่งที่เคยเห็นไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างตัวละครน้ำพิงก์ ที่เวอร์ชันก่อนได้ ตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา แสดงไว้ จากคาแรกเตอร์ผู้หญิงนิ่งขรึม เข้มแข็ง กลายมาเป็นผู้หญิงรสแซ่บ ต่อปากต่อคำ ลุกขึ้นมาแสดงอำนาจอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งในเวอร์ชันนี้เราจะได้ชม นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี รับผิดชอบบทบาทนี้ นับเป็นการกลับมาร่วมงานกับช่อง one31 ในรูปแบบละครยาวอีกครั้งในรอบ 5 ปี ตั้งแต่บทบาทคุณอุบลจาก พิษสวาท ในปี 2559 บทบาทที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอ

แต่หนึ่งตัวละครที่เราควรจับตามองคงหนีไม่พ้นบทบาทรำนำ ที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก จากบทเดิมของ หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์ ครั้งนี้เราจะได้เห็นอดีตนักแสดงหญิงจากช่อง 7HD อย่าง กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล กระโดดมารับบทนี้ และเป็นรำนำที่ถูกตีความใหม่ให้ดูเข้มข้นขึ้น น่าเกรงขามมากขึ้น และดูจะเย้ายวนมากกว่าเวอร์ชันก่อนจนแปลกตา ซึ่งจากตัวบทประพันธ์นั้นเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง อยากได้ดิบได้ดี หัวรั้น และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น หลังจากที่กรีนตัดสินใจเดินเส้นทางนักแสดงอิสระแล้ว ดูเหมือนว่าบทบาทนี้จะค่อนข้างฉีกไปจากบทเดิมๆ ที่เธอเคยเล่น และเราคาดหวังว่าละครเรื่องนี้จะส่งให้เธอได้แสดงศักยภาพทางการแสดงอย่างเต็มที่อีกครั้ง เฉกเช่นบทบาทผู้หญิงฝาแฝดใน คีตโลกา เมื่อปี 2557 หรือบทพลอยใน ชีช้ำกะหล่ำพลอย ในปีที่ผ่านมา

นอกเหนือจากพลังนักแสดงหญิงแล้ว กระเช้าสีดา ยังได้ ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล มารับบทนำ และเป็นการปรากฏตัวของเขาเป็นครั้งแรกในฐานะนักแสดงอิสระกับช่อง one31 อีกด้วย ซึ่งเขาจะมารับบท อำพน เพื่อนหนุ่มตัวละครสำคัญ ส่วนบท ลือ สามีจอมเจ้าชู้ที่ต้องตรอมใจหลังภรรยาขอหย่า ได้ ปีเตอร์-คอร์ป ไดเรนดัล มารับบทนี้ไปครอง

สิ่งที่แฟนละครต้องติดตามชมคือการพลิกภาพของ กระเช้าสีดา ไปในทิศทางใหม่ ที่เราอยากจะรับรู้รสชาติเช่นกันว่าหากตีความตัวละครให้แข็งกร้าวขึ้น เพิ่มรสชาติเรื่องราวให้เผ็ดร้อนขึ้น ละครจะยังสามารถส่งแก่นหลักของเรื่องที่น่าสนใจอย่างการขวนขวายหาคุณค่าของตัวเองจากตัวละคร ‘รำนำ’ มันจะยังแข็งแรงมากพอให้เราสนุกไปกับชีวิตของเธอได้หรือไม่ ต้องรอชม

กระเช้าสีดา ยังมีนักแสดงร่วมจออีกคับคั่งทั้ง เจี๊ยบ-กาญจนาพร ปลอดภัย, ตู่-นพพล โกมารชุน, ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม, อั๋น-วิทยา วสุไกรไพศาล, หนุ่ม-คงกะพัน แสงสุริยะ เป็นต้น และได้ โอ๋-คฑาเทพ ไทยวานิช จาก หลงไฟ, เมียน้อย, ทะเลแปร และ ตะวันตกดิน ที่เตรียมลงจอฉายทางช่อง AmarinTV34 มากำกับละครเรื่องนี้

กระเช้าสีดา เตรียมลงจอฉายทางช่อง one31 เร็วๆ นี้ สามารถรับชมตัวอย่างแรกของละครได้ที่นี่

The post ‘กระเช้าสีดา’ เวอร์ชันใหม่ นุ่น วรนุช ฟาดพลังกับ กรีน อัษฎาพร พลิกจากบทประพันธ์และเวอร์ชันเดิมอย่างแปลกตา appeared first on THE STANDARD.

รากแก้ว คือโปรเจกต์ละครใหม่จากค่าย CHANGE2561 ของพี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ที่ครั้งนี้สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งยิ่งใหญ่ พาละครรสชาติแบบฉบับของตัวเองลงจอช่อง 3 เป็นครั้งแรก และยังได้นักแสดงในสังกัดช่องอย่าง เก้า-สุภัสสรา ธนชาต และ พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ประกบคู่กันเป็นครั้งแรก พร้อมส่งบทสำคัญ ‘รังรอง’ เลสเบี้ยนสาวสะพรั่งให้ คริส หอวัง ได้พิสูจน์ศักยภาพทางการแสดงอีกครั้ง เตรียมลงจอฉายภายในปีนี้

หลังจากปล่อยให้แฟนละครไทยคาดเดาไปต่างๆ นานาถึงโปรเจกต์ละคร รากแก้ว ของ CHANGE2561 จะตกไปอยู่ในมือของช่องไหน หรือนักแสดงคนใดจะมารับบทในเรื่องนี้ และล่าสุดก็ได้ฟิตติ้งและเปิดเผยภาพแคสต์หลักเรียบร้อย และแน่นอนว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์พอสมควรที่ละครสไตล์ ‘พี่ฉอด’ จะขึ้นออนแอร์บนช่อง 3 ทั้งยังเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของนักแสดงหลายๆ คนอีกด้วย

รากแก้ว เป็นบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน ที่เคยได้รับรางวัลชมเชยจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในปี 2517 ว่าด้วยเรื่องของสองตัวละครหญิงคนสำคัญ รังรอง (รับบทโดย คริส หอวัง) เลสเบี้ยนสาวที่ชุบชูเลี้ยงดู โรยทองทราย (รับบทโดย เก้า-สุภัสสรา ธนชาต) มาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งยังอยู่ในสถานะบางอย่างที่ไม่ชัดเจน ก่อนจะเกิดเรื่องราวพลิกผันเมื่อเด็กสาวในปกครองดิ้นรนหาอิสรภาพเพื่อไปมีชีวิตที่ตัวเองต้องการ 

บทประพันธ์เรื่อง รากแก้ว นี้ยังไม่เคยถูกนำมาทำเป็นละครแม้แต่ครั้งเดียว และนี่จะเป็นครั้งแรกที่เหล่าตัวละครจะออกมาโลดแล่นบนจอ ซึ่งค่อนข้างเป็นพล็อตที่แหวกขนบหลายๆ อย่างในยุคที่ตีพิมพ์ โดยเฉพาะการมีตัวละครหลักเป็นเลสเบี้ยนที่ปรารถนา และรักเด็กสาวในดูแลของตนเองเกินกว่าผู้ปกครอง ซึ่งค่อนข้างล่อแหลมมากๆ หากหยิบจับประเด็นนี้ขึ้นมาดัดแปลงเป็นบทละคร

ต้องมารอชมการตีความว่าจะสอดคล้องไปกับบริบทในปัจจุบันได้มากเท่าไร เพราะโลกและผู้ชมในยุคนี้เปลี่ยนแปลงการรับรู้ของความหลากหลายทางเพศไปมากแล้ว ฉะนั้นการจะต้องมีบทเลสเบี้ยนเป็นตัวละครนำ ผู้เขียนบทต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อให้ตัวละครนี้ออกมามีชีวิตมากที่สุด และต้องสร้างแง่มุมอื่นๆ ที่ไม่เข้าข่ายการเหยียดเพศ หรือบ่งบอกว่าการเป็นเลสเบี้ยนเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากในบริบทสังคมของบทประพันธ์นั้นค่อนข้างเก่ามากๆ ตั้งแต่ราว 50 ปีก่อน

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการตัดสินใจครั้งสำคัญของช่อง 3 เองที่เลือกละครจากค่าย CHANGE2561 มาลงจอ นับเป็นการร่วมงานอย่างเป็นทางการ และยังเป็นโทนละครไทยที่ช่อง 3 ยังไม่เคยหยิบจับขึ้นมาฉายอีกด้วย ทั้งตัวพล็อตที่ค่อนข้างหวือหวา หรือภาพจำของคอละครที่มีต่อละคร CHANGE2561 ก็ช่างห่างไกลจากช่อง 3 มากนัก ฉะนั้นนี่จะเป็นรสชาติใหม่ๆ ของวงการบันเทิงไทยที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ละครหลายเรื่องก่อนหน้าของค่ายจะเคยได้รับทั้งดอกไม้และก้อนหินก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาสามารถสร้างละครเรตติ้งท่วมๆ ได้เสมอ และอาจเป็นโอกาสของช่อง 3 ที่จะได้กู้ตัวเลขกลับคืนมาให้กับตัวเอง

ฟากนักแสดงหลัก เราจะได้เห็น คริส หอวัง คืนจอช่อง 3 อีกครั้งหลังสิ้นสุดสัญญาในฐานะนักแสดงของช่องไปเมื่อ 2 ปีก่อน และกับละคร รากแก้ว นี้จะยังเป็นการกลับมาทำงานร่วมกับ CHANGE2561 อีกครั้งหลังบท ‘เข็มเพชร’ ส่งเธอและละครเรื่อง เนื้อใน ให้กลายเป็นละครเรตติ้งสูงสุดของช่อง GMM25 มาแล้ว ส่วนอีกคนที่เราต้องจับตามองคือ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต ที่ต้องรับอีกบทสำคัญในเรื่องนี้ และจากตัวบทประพันธ์เอง โรยทองทราย ค่อนข้างเป็นบทที่ซับซ้อนทั้งภาวะทางอารมณ์ ปูมหลัง และความคิดความอ่าน น่าจะเป็นการแสดงที่ต้องใช้เสน่ห์และทักษะสูง และเราอยากจับตาดูเธอมากๆ

รากแก้ว ยังมีนักแสดงคนอื่นๆ มาร่วมจอทั้ง พีช-พชร จิราธิวัฒน์, หลุยส์ สก๊อตต์ และ น้ำฝน-พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์ ส่วนอีกนักแสดงที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์มากๆ คือ ออร์แกน-ราศี วัชราพลเมฆ เพราะนี่จะเป็นการปรากฏตัวบนจอละครช่อง 3 เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีของเธอ! และยังได้ กู่-เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข ผู้กำกับคู่บุญของค่ายนี้ที่เคยทำละครเรตติ้งปังๆ ทั้ง ใบไม้ที่ปลิดปลิว, เนื้อใน และ บังเกิดเกล้า มานั่งแท่นกำกับ เตรียมลงจอฉายเร็วๆ นี้

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post รากแก้ว ละครใหม่ของ CHANGE2561 บนจอช่อง 3 ส่ง คริส หอวัง ประชัน เก้า สุภัสสรา ในบทเลสเบี้ยนผู้มีพระคุณ และเด็กสาวในปกครอง appeared first on THE STANDARD.

ไม่รู้ว่าก่อนตายจะได้ชมละครเรื่อง ‘เมียหลวง’ อีกสักกี่สิบเวอร์ชัน เพราะล่าสุดทางค่าย CHANGE2561 ของพี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ได้ฤกษ์ฟิตติ้งซีรีส์ เมียหลวง 2021 จากบทประพันธ์ในตำนานของ กฤษณา อโศกสิน ที่นำมาทำเวอร์ชันใหม่ ปลุก ดร.อนิรุทธิ์ ดร.วิกันดา และอรอินทร์ คืนจออีกครั้งบนแพลตฟอร์ม WeTV และนับเป็นการกลับมารีเมกของละครเรื่องนี้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด เพราะเวอร์ชันก่อนหน้าเพิ่งจะฉายไปเมื่อ 4 ปีก่อน

เมียหลวง เวอร์ชัน 2021 นี้ได้แคสต์นักแสดงหลักกันครบ และฟิตติ้งเผยภาพแรกออกมาแล้ว โดยบทสำคัญของเรื่องอย่าง ดร.วิกันดา และอรอินทร์ คุณพี่เมียหลวง และเมียน้อยรสแซ่บนั้นตกเป็นของสองนักแสดงต่างวัยที่จะโคจรมาประชันฝีมือกันครั้งแรกทั้ง ตั๊ก-บงกช คงมาลัย และพิม-พิมประภา ตั้งประภาพร ส่วนบทนำฝ่ายชายตกเป็นของ นิว-วงศกร ปรมัตถากร ที่พักหลังมักจะได้รับคาแรกเตอร์ผู้ชายมากรักอยู่บ่อยครั้ง

ความน่าสนใจของละครเรื่องนี้คงเป็นการกลับมาทำในรูปแบบซีรีส์ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถตีความใหม่แตกต่างไปจากเดิมได้มากแค่ไหน หรืออาจจะเป็นการดีที่ผู้ชมเข้าใจเรื่องราว หรือรับรู้ชีวิตและคาแรกเตอร์ของตัวละครนี้กันมาอย่างครบถ้วนแล้ว ที่เหลือก็เพียงแค่จับวางนักแสดงลงไปเพื่อให้รสชาติที่สมบูรณ์ ซึ่งบทหลักๆ ที่ต้องจับตาดูก็คงเป็น ดร.วิกันดา ที่ได้ ตั๊ก-บงกช คงมาลัย มาเล่น โดยจะเป็นผลงานที่เธอคัมแบ็กการแสดงเต็มตัวในรอบ 9 ปี ถัดจากบท มารศรี ในละครเรื่องสาวน้อย เมื่อปี 2555 และคาดว่าผู้ชมอาจจะได้เห็นเธอใน เมียหลวง 2021 นี้ก่อน ลายกินรี อีกผลงานคัมแบ็กของเธอที่จะออกฉายภายในปีนี้เช่นกัน

ส่วนอีกบทสำคัญอย่าง อรอินทร์ ได้นักแสดงและศิลปินสาววัย 28 ปี พิม-พิมประภา ตั้งประภาพร มารับบทนี้ หลังจากผันตัวเป็นนักแสดงอิสระแบบเต็มตัว โดยต้องนับว่าเป็นก้าวสำคัญของเธอที่จะต้องพิสูจน์ทั้งฝีมือ และเสน่ห์ของตัวเองบนจออีกครั้ง หลังจากหมดสัญญากับสังกัดเก่า ต้องคอยจับตาการแสดงของเธอไว้ให้ดี เพราะบทนี้อาจทำให้เธอกลายเป็นที่พูดถึงได้ในวงกว้างในฐานะนักแสดงมากฝีมือ หากสามารถประคับประคองบทบาทนี้ได้ตลอดรอดฝั่ง

เมียหลวง เป็นบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน รวมเล่มและตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512 ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์อันร้าวฉานของสามี-ภรรยา ดร.อนิรุทธิ์ และ ดร.วิกันดา ที่มีปัญหาครอบครัวรุมเร้าจากความเจ้าชู้จัดจ้านของฝ่ายสามี และการเข้ามาของ อรอินทร์ ในฐานะเมียน้อยที่กลายเป็นเงื่อนไขหลักของชีวิตคู่ โดยเนื้อหาทั้งหมดคือการตีแผ่ และนำเสนอภาพของความสัมพันธ์ที่การแต่งงาน ลงหลักปักฐานมีครอบครัว อาจไม่ใช่ปลายทางที่สวยงามเสมอไป

บทประพันธ์เรื่องนี้ถูกนำมาดัดแปลงทั้งในรูปแบบภาพยนตร์และละครแล้วถึง 8 ครั้ง โดยในครั้งแรกคือทางช่อง 4 บางขุนพรหม ในปี 2512 และเวอร์ชันที่เรียกว่าเป็นที่จดจำของแฟนละครไทยก็ได้แก่เวอร์ชันปี 2542 ทางช่อง 3 ที่ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา รับบทเป็นอรอินทร์ได้ถึงใจ และทรงผมซอยสไลด์ขั้นบันไดของเธอก็นับเป็นคาแรกเตอร์ที่น่าจดจำหนึ่งในประวัติการทำงาน ส่วนอีกเวอร์ชันที่ถึงเครื่องไม่แพ้กันคือ เมียหลวง ปี 2552 ทางช่อง 7 ที่ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ ในบท ดร.วิกันดา มาประชันฝีปากกับ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ในบทอรอินทร์ ทำให้ไดอะล็อกของพวกเธอกลายเป็นที่จดจำไปทั่วบ้านทั่วเมือง และยังพาเรตติ้งขึ้นไปสูงสุดถึง 20 ได้ในตอนอวสาน

ส่วนเวอร์ชันล่าสุดที่ลาจอไปคือ เมียหลวง ในปี 2560 ที่ได้ คริส หอวัง มารับบทอรอินทร์ แต่ด้วยจังหวะเวลาการฉาย และรสชาติความสนุกที่อาจไม่ถึงใจผู้ชมพอ จึงไม่เป็นที่พูดถึงมากนัก และกับเวอร์ชันใหม่นี้คงถูกใจแฟนละครทำนองนี้ได้ไม่ยากหากอยู่ในมือของค่าย CHANGE2561 แต่เราต้องมาคอยดูกันว่า เมียหลวง 2021 จะมีอะไรให้เราดูมากกว่าการตบตีแย่งชิงสามี หรือจะสามารถสร้างบทโทรทัศน์เยี่ยมๆ ที่แสดงให้เห็นถึงก้นบึ้งความรู้สึกได้อย่างเวอร์ชันปี 2552 หรือไม่ต้องติดตาม

เมียหลวง 2021 จาก CHANGE2561 นี้ จะได้ผู้กำกับ หนุ่ย-ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์ ที่เคยมีผลงานอย่างซีรีส์ Princess Hours เวอร์ชันไทย, กรุงเทพมหานครซ้อนรัก และกำกับ Club Friday the Series ตอนโลกใบที่สอง ที่กำลังออนแอร์อยู่ มานั่งแท่นกำกับ และยังมีรายชื่อนักแสดงคนอื่นๆ ที่น่าสนใจทั้ง ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ ที่กลับมารับงานแสดงอีกครั้งเช่นกัน, เจนิส-เจณิสตา พรหมผดุงชีพ ในบท นวล, กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล และซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ เตรียมออกฉายพร้อมกันทั่วโลกผ่านแอปพลิเคชัน WeTV กลางปีนี้

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post เมียหลวง 2021 ฟิตติ้งแล้ว ตั๊ก บงกช คืนจอในบท ดร.วิกันดา พิม พิมประภา คว้าบทอรอินทร์ หลังเป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว appeared first on THE STANDARD.

หลังจากประกาศลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท GMM Grammy ของ พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา เพื่อมานั่งเก้าอี้บริหารบริษัท CHANGE2561 แบบเต็มตัวในฐานะทีม Content Creator บันเทิงที่ผลิตป้อนช่องต่างๆ พวกเขาต่างมีผลงานที่โดดเด่นมากมายเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

นอกเหนือจากซีรีส์ Club Friday The Series ที่สร้างมาเนิ่นนาน และคว้ารางวัลนาฏราชแทบทุกปี ยังมีละครอีกมากมายที่น่าจดจำ และเราขอรวมลิสต์สั้นๆ มาให้คุณได้ทบทวนความจำ ก่อนที่ในปี 2564 นี้ จะยังมีผลงานของ CHNAGE2561 ออกมาอีกเพียบ และยังคงหยิบเอาบทประพันธ์ชั้นครูมากมายมาดัดแปลงทั้ง กระเช้าสีดา, เพลงบินใบงิ้ว, ตะวันตกดิน ฯลฯ 

ความน่าสนใจที่สุดสำหรับ CHANGE2561 ในปีนี้คือ นักแสดงอิสระจำนวนมากมาร่วมงาน และเพิ่มรสชาติใหม่ในการแสดงให้กับพวกเขา รวมถึงเดินหน้าร่วมมือกับพาร์ตเนอร์หน้าใหม่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างละครลงแพลตฟอร์ม WeTV หรือการสร้างละครให้ช่อง 3 ก็ตาม ที่เรากำลังรอการยืนยันจาก CHANGE2561 ว่า โปรเจกต์เหล่านี้จะออกมาในทิศทางไหน ต้องรอชม

อ่านข่าวได้ที่นี่ SHORT NEWS: ฉอด สายทิพย์ ยื่นลาออกจากแกรมมี่ นั่งบริหาร CHANGE2561 บริษัทย่อยในเครือ 

ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post ลิสต์ละครระดับปรากฏการณ์บนหน้าจอโทรทัศน์จาก CHANGE2561 appeared first on THE STANDARD.

ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ และศรราม เทพพิทักษ์ สองนักแสดงเจ้าบทบาท เตรียมโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกในละครรีเมก ‘บังเกิดเกล้า’ ละครดราม่าปัญหาครอบครัวที่พร้อมให้ทั้งคู่ได้ฟาดพลังการแสดงใส่กันไม่ยั้ง ซึ่งเป็นผลงานของค่าย CHANGE2561 ที่เพิ่งจะมีละครอย่าง ‘เนื้อใน’ ลงจอไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ไม่น่าเชื่อว่าตลอดระยะเวลาในวงการบันเทิงที่ผ่านมา สองนักแสดงทั้ง ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ และศรราม เทพพิทักษ์ จะไม่เคยพบเจอกันในจอละคร และพวกเขาจะโคจรมาเจอกันจริงๆ สักทีในละครใหม่ของค่าย CHANGE2561 เรื่อง ‘บังเกิดเกล้า’ และเป็นอีกครั้งที่ ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หยิบเอาบทประพันธ์ชื่อดังในอดีตมาทำละคร เช่นที่เธอเคยหยิบ เมียน้อย, กลับไปสู่วันฝัน, เนื้อใน, ใบไม้ที่ปลิดปลิว, ทะเลแปร มาทำไปแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้

บังเกิดเกล้า เป็นบทประพันธ์ของ แมน สุปิติ ซึ่งเป็นนามปากกาของ นพคุณ จิตตะยโศธร นักเขียนและบรรณาธิการรางวัลนราธิป ปี 2552 ผู้ล่วงลับ เติบโตมาจากการเป็นนักเขียนรุ่นแรกๆ ที่ตีพิมพ์บทประพันธ์ลงนิตยสารสกุลไทย โดย บังเกิดเกล้า นั้นตีพิมพ์เมื่อปี 2537 โดยเนื้อหาของเรื่องจะว่าด้วยสองสามีภรรยาที่กำลังเผชิญกับชีวิตคู่ที่ระหองระแหง และคำว่า ‘บังเกิดเกล้า’ ที่เป็นชื่อเรื่องได้ตั้งคำถามกับคนเป็นพ่อเป็นแม่ว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตหรือเป็นตัวอย่างแบบไหนให้ครอบครัวของเขาในฐานะ ‘พ่อแม่บังเกิดเกล้า’ และภาพจำของเรื่องนี้คือตัวนำฝ่ายหญิงจะต้องเป็นสาวหัวสมัยใหม่ ทำงานศิลปะ แต่งตัวฉูดฉาด ซึ่งเป็นการลบล้างและท้าทายสังคมชายเป็นใหญ่อย่างมากในตอนนั้น

บทบาทหลักอย่าง ชัชรินทร์ และสมสุข คือสองตัวละครที่ป๊อก ปิยธิดา และศรราม จะต้องมารับหน้าที่ถ่ายทอดตัวละคร และนี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นปิยธิดาบนจอช่อง 34 อีกด้วย ซึ่งการแสดงของสองนักแสดงนี้ต้องเรียกว่าเป็นสิ่งที่ผู้ชมมั่นใจอยู่แล้วว่าพวกเขาจะสามารถโลดแล่นอยู่ในเรื่องราวนี้ได้อย่างน่าสนุก ซึ่งต้องมาดูในเรื่องของบทและโปรดักชันอีกที ที่คาดว่าไม่น่าจะผิดแผกจากละครก่อนๆ ของค่ายนี้เท่าไรกับลายเซ็นที่เป็นของตัวเองชัดเจน

ถึงแม้เมื่อ 22 ปีก่อนละครเรื่องนี้จะสร้างความฮือฮาในเรื่องการเป็นละครที่ดูสมจริง ด่ากันไฟแลบ และการแสดงที่ถึงพริกถึงขิง ทั้งยังไม่ประนีประนอมกับตัวละครใดๆ ในช่วงท้ายเรื่องที่ต่างมีจุดจบแบบไม่เอาใจคนดูเท่าไร รวมถึงฉากประเภทการใช้ความรุนแรงที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น ผัวต่อยหน้าเมียซึ่งๆ หน้า หรือเมียเอาหมวกกันน็อกฟาดหัวเมียน้อย ล้วนเป็นภาพจำหากพูดถึงละครเรื่องนี้

แต่หากมองในบริบทสังคมปัจจุบัน กลายเป็นว่าเราอาจคาดหวังให้ละครเรื่องนี้ใช้ความละเอียดลออกับบทที่อาจไม่ต้องใช้ความรุนแรงจนเกินไป หรือคาดหวังให้แก่นของการตั้งคำถามกับสังคมเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถาบันครอบครัวนั้นออกมาชัดเจน ก็น่าจะเหมาะเจาะจะเป็นละครที่น่าสนใจอีกเรื่อง

บังเกิดเกล้า ได้ กู่-เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ และขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างเตรียมงานสร้าง และรอคอยจะให้คุณได้ชมกันทางช่องอมรินทร์ทีวี 34 เร็วๆ นี้

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post ป๊อก ปิยธิดา – ศรราม เตรียมฟาดพลังการแสดงด้วยกันครั้งแรกในละครรีเมก บังเกิดเกล้า appeared first on THE STANDARD.

“หาเงินเดือนให้ได้มากกว่าเมียก่อน ไม่ใช่กินเงินเดือนเท่ากับค่ารองเท้าของเข็ม”

คำพูดเชือดเฉือนห้ำหั่นความรู้สึกแบบนี้ดูจะเป็นบทประเภทที่หาได้ทั่วไปในละครไทยปัจจุบัน โดยเฉพาะกับละครจากค่าย CHANGE2561 ของ ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญและช่ำชองในเรื่อง ‘การเขียนบทอย่างไรให้คนแชร์คลิปไฮไลต์’ หรือ ‘ทำละครอย่างไรให้คนบอกว่าแรง!’ ซึ่งก็ถือว่าพวกเขาทำได้ประสบความสำเร็จมาตลอด และกับละครเรื่องล่าสุดของพวกเขาอย่าง ‘เนื้อใน’ เองก็ดูจะเป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามองในชั่วโมงนี้ หลังจากที่เพิ่งปล่อยตัวอย่างเต็มๆ ออกมา และอาจจะกลายเป็นละครที่ผู้ชมให้ความสนใจก็เป็นได้

“เปลือกที่สวยงามของมนุษย์บางประเภทอาจซ่อนซากเน่าของปีศาจร้ายไว้ภายใน” คือคำโปรยบนปกหนังสือ เนื้อใน งานประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน นักเขียนชั้นครูที่มีผลงานมากมายตลอดระยะเวลา 60 ปีในวงการ กับผลงานนวนวนิยายกว่า 140 เรื่อง ที่หลายต่อหลายเรื่องถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครให้เราได้ชมกันอยู่หลายครั้ง ถ้าคุณยังพอจำชื่อของ สวรรค์เบี่ยง, เมียหลวง, ข้ามสีทันดร, น้ำเซาะทราย หรือ เพลิงบุญ ได้ ผลงานเหล่านี้คือการจรดปลายปากกาของ กฤษณา อโศกสิน แทบทั้งสิ้น และสำหรับละครเรื่อง ‘เนื้อใน’ ก็เป็นผลงานการเขียนของเธอเช่นกัน ซึ่งนี่จะเป็นการหยิบมาดัดแปลงเป็นละครครั้งแรกหลังจากตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2539 

เนื้อใน คือนิยายดราม่าที่นำเสนอเรื่องราวของตัวละครหลักๆ อย่าง เข็มเพชร และปลี ผู้หญิงสองคนที่พื้นเพแตกต่างกันมากๆ โดยฝ่ายแรกนั้นเป็นผู้หญิงในแวดวงสังคมชั้นสูง เจ้าของร้านจิวเวลรีชื่อดังที่เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคม เธอรวย ฉลาด เก่งกาจ และปากกัดตีนถีบมาแต่ไหนแต่ไรเพื่อเอาชนะและได้มาซึ่งความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเธอมี ปลี เป็นเสมือนผู้ช่วยข้างกาย หญิงสาวไม่สู้คน หัวอ่อน ผู้โอนอ่อนไปตามทุกสิ่งที่เข็มเพชรบอก ซึ่งเธอสองคนนี้จะมีส่วนอย่างมากในเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะตัวนิยายจะพาคุณไปสำรวจชีวิตของเธอทั้งสอง พัฒนาการของตัวละคร อุปนิสัย พฤติกรรมที่มีมูลเหตุจากอดีต และส่งผลให้เรื่องราวดำเนินไปจากการเปิดเผยธาตุแท้ของตัวละครออกมาทีละเล็กละน้อย

“เป็นเรื่องที่ คุณอัญชัน นักเขียนซีไรต์คนหนึ่ง เขาอยู่อเมริกา เขาส่งเรื่องย่อมาให้ดิฉันอ่าน พร้อมกับบอกว่าคนที่เขียนได้คือดิฉัน เราก็อ่านเรื่องย่ออยู่ 3 หน้า มันยากมาก วางไว้เป็นปี แล้วบอกว่าเขียนไม่ได้ ตอนนั้น คุณนันทวัน หยุ่น เป็นบรรณาธิการ ก็ให้คุณนันทวันดู เขาบอกว่ายาก มันเหมือนกับการขุดสันดานดิบของมนุษย์ขึ้นมาตีแผ่ มันยากมาก เหมือนน้ำอมฤตกับน้ำกรดสาดเข้าหากัน เราจะเขียนอย่างไรให้คนอ่านอ่านตามแล้วรู้สึกเกิดความซาบซึ้งไปพร้อมๆ กับตัวเราซึ่งเป็นนักเขียน คุณนันทวันจึงให้ดิฉันเขียน ดิฉันจึงตั้งชื่อเรื่องว่า เนื้อใน เพราะมันชัดเจนมาก ประเภทดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด” เจ้าของบทประพันธ์ กฤษณา อโศกสิน เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนวนิยายเรื่อง ‘เนื้อใน’ ไว้ในนิตยสาร Mix 

คำว่า ‘ดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด’ คงเป็นการอธิบายเรื่องราวของตัวละครทั้งหมดที่ต้องมาประสบพบพานกันได้เป็นอย่างดี และตัวละครหลักอย่าง เข็มเพชร นิยายได้สร้างความแข็งแรงให้กับตัวละครไว้ระดับหนึ่ง เธอเป็นลูกสาวคนกลางในตระกูลคนจีนที่ไยดีแต่ลูกชาย เธอจึงต้องแอบไปทำงานพิเศษ ส่งตัวเองเรียน และทำให้เธอกลายเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง ด้วยความเก่งกาจที่เธอมี ไม่พึ่งพาใคร เธอคือคนที่ถูกต้องเสมอ และปมในใจนี้ทำให้เธอกลายเป็นคนที่พยายามจะเอาชนะคนอื่น และอยากเห็นคนอื่นๆ ทุกข์ทรมานอย่างที่เธอเคยเป็นเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ว่าคนอย่างเธอจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร และเธอจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ชีวิตของใครคนหนึ่งย่อยยับ ซึ่งการพา คริส หอวัง มารับบทนี้ก็นับว่าเป็นแคสต์ที่ถูกต้อง เหมือนเราจะได้ชมชีวิตของ เหมยลี่ จาก รถไฟฟ้า มาหานะเธอ เวอร์ชันทุลักทุเล ปากกัดตีนถีบ และทะเยอทะยาน ตัวแทนของปีศาจที่ฉาบความงามไว้ภายนอก

นอกจากตัวละครหลักๆ อย่างสองสาวที่กล่าวถึงไปแล้ว ยังมีตัวละครสำคัญอื่นๆ อีกอย่าง ‘สกุล’ สามีผู้ภักดีและแสนดีของเข็มเพชร ตัวแทนของผู้ชายในอุดมคติที่ต้องมาประมือกับภรรยาจอมบงการ และ ‘ราเชน’ คู่กัดของเข็มเพชรที่เธอยัดเยียดให้ปลีแต่งงานด้วยเพียงหวังเพื่อจะเอาชนะ แต่จะเรียกว่าเป็น ‘นรกของปลี’ ก็ว่าได้ เพราะราเชนคือหนุ่มเจ้าอารมณ์ที่พร้อมจะพังทุกสิ่งอย่างตรงหน้า และยิ่งปลีเป็นผู้หญิงหัวอ่อนแกมขี้ขลาด ดูแล้วไม่มีทางจะไปสู้อะไรเขาได้ ขนาดที่ในนิยายมีช่วงหนึ่งที่เธอเพียงย่องเท้าเบาๆ เข้าห้องนอนที่สามีหลับอยู่แล้วเผลอปัดนาฬิกาข้อมือตกจากโต๊ะ เธอก็แทบขาดใจตายเพราะกลัวสามีตื่นมาอาละวาด คิดดู!

ภาระอันหนักอึ้งของผู้สร้างและการนำนิยายเรื่องนี้มาทำเป็นละครคือการตีความตัวละครทั้งหมดให้ดูร่วมสมัย อีกทั้งยังต้องเก็บรายละเอียดของตัวละครให้ครบถ้วนรอบด้านที่สุด เพื่อให้ผู้ชมได้รู้สึกว่าถึงแม้ละครจะดูฉาบเคลือบด้วยความร้ายๆ แรงๆ แต่อย่างน้อยที่สุดขอให้เราได้รับรู้หน่อยได้หรือไม่ว่าเหตุใดตัวละครจึงพัฒนาลักษณะนิสัยแบบนั้นขึ้นมา เพราะฉะนั้นบทโทรทัศน์เองก็สำคัญมากเช่นกันที่จะทำให้ละครเรื่องนี้พาผู้ชมคล้อยตามไป ซึ่งนั่นหมายถึงความสำเร็จที่พวกเขาพึงจะได้รับจากผู้ชม หากมันสมเหตุสมผล สนุก และน่าติดตาม

นอกเหนือจาก คริส หอวัง แล้ว หนึ่งในตัวละครที่น่าจับตามองในละครเรื่องนี้คือ ‘ปลี’ ที่ได้ รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ มารับบทดังกล่าว เธอห่างหายจากการรับบทบาทเด่นๆ ไปพักหนึ่ง และบทนี้ที่ดูจะเป็นผู้หญิงอ่อนต่อโลก แต่แข็งกร้าวและพร้อมจะลุกขึ้นมาสู้กับความไม่ถูกต้องก็ดูเหมาะกับเธออย่างมาก ส่วนแคสต์ฝ่ายชายแม้จะไม่โดดเด่นเท่า แต่ก็คาดว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ทั้ง อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม ในบท ราเชน และกอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา ในบท สกุล สามีผู้แสนดีของเข็มเพชร นอกจากนี้ยังมี แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์, กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล และดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ร่วมแสดงด้วย

เนื้อใน ได้ กู่-เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข มารับหน้าที่กำกับ (ใบไม้ที่ปลิดปลิว, I Wanna Be Sup’Tar: วันหนึ่งจะเป็นซุปตาร์) ร่วมกะเทาะเปลือกนอกที่สวยหรูเพื่อสัมผัสธาตุแท้เนื้อในของมนุษย์บางประเภทที่เป็นดั่งปีศาจเดินเท้าได้พร้อมกันตอนแรกในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 20.10 น. ทางช่อง GMM 25

ชมตัวอย่างได้ที่นี่

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

• เลื่อมลายสายรุ้ง ภาพสะท้อนสังคมในนิยายปัจจุบัน (อิงอร สุพันธ์วณิช, 2547)
• https://th.wikipedia.org/wiki/กฤษณา_อโศกสิน
• https://www.mixmagazine.in.th/00000178

The post ‘เนื้อใน’ ละครกะเทาะเปลือกสวยหรูเพื่อดูธาตุแท้ข้างใน นี่มนุษย์หรือปีศาจเดินเท้า appeared first on THE STANDARD.