CDC – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 30 May 2023 09:26:16 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สหรัฐฯ เตือนรัฐทางเหนือระวังเจออะมีบากินสมอง หลังโลกรวนทำอุณหภูมิสูงขึ้นจนอะมีบาโตผิดถิ่น https://thestandard.co/usa-warned-northern-state-ameba/ Thu, 25 May 2023 01:09:28 +0000 https://thestandard.co/?p=794861 อะมีบา

สมาคมสาธารณสุขแห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานฉ […]

The post สหรัฐฯ เตือนรัฐทางเหนือระวังเจออะมีบากินสมอง หลังโลกรวนทำอุณหภูมิสูงขึ้นจนอะมีบาโตผิดถิ่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
อะมีบา

สมาคมสาธารณสุขแห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ Ohio Journal of Public Health ว่า ‘อะมีบากินสมอง’ ซึ่งปกติจะพบบ่อยในรัฐที่อยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ได้แพร่กระจายตัวมาเติบโตในรัฐทางเหนือแล้ว เนื่องจากภาวะโลกรวนทำให้อุณหภูมิของภูมิภาคดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปจนเอื้อต่อการดำรงอยู่ของอะมีบา

 

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า อะมีบากินสมองซึ่งมีชื่อว่า Naegleria fowleri เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่ปกติแล้วจะอาศัยอยู่ในดินและแหล่งน้ำจืดที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง หรือประมาณ 30 องศาเซลเซียสขึ้นไป รวมถึงอาจพบเจอได้ในแท็งก์น้ำ เครื่องทำความร้อน หรือในท่อ ซึ่งปกติแล้วเชื้อพวกนี้จะชอบอยู่เป็นอิสระมากกว่าไปอาศัยอยู่ในตัวคนหรือสัตว์ แต่หากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เชื้อดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ก็จะทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่มีอาการรุนแรงได้ 

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลย้ำว่าอะมีบาชนิดนี้จะเข้าสู่สมองคนได้ก็ต่อเมื่อมีการ ‘สำลักน้ำทางจมูก’ โดยเชื้อจะไม่สามารถเข้าสู่สมองได้ผ่านการดื่มน้ำที่มีอะมีบาปนเปื้อน และไม่ใช่โรคติดต่อจากคนสู่คน

 

แม้โรคอะมีบากินสมองหรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Primary amebic meningoencephalitis (PAM) จะทำให้ผู้ป่วยเป็นอันตรายจนอาจถึงแก่ชีวิตได้ แต่มีการพบเคสดังกล่าวไม่มากนัก โดยนับตั้งแต่ปี 1962 มีเคสผู้ป่วยจาก PAM ทั่วสหรัฐฯ อยู่ที่เพียง 0-8 คนต่อปีเท่านั้น ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีประวัติเคยว่ายน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในรัฐฟลอริดาและเท็กซัส แต่นับตั้งแต่ปี 2010 สหรัฐฯ กลับพบผู้ติดเชื้ออะมีบาที่อยู่ทางตอนเหนือขึ้นไปจากเดิม รวมถึงรัฐมินนิโซตา แคนซัส และอินเดียนา 

 

จากรายงานดังกล่าว สมาคมสาธารณสุขแห่งรัฐโอไฮโอจึงได้แจ้งเตือนไปยังผู้ให้บริการทางการแพทย์ในรัฐทางตอนเหนือ เพื่อให้มีการวินิจฉัยและซักประวัติอย่างแน่ชัดว่าผู้ป่วยที่มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบมีประวัติเคยไปว่ายน้ำในแหล่งน้ำจืดหรือไม่ และหากพบเชื้ออะมีบาจริงให้รีบรายงานต่อ CDC 

 

รายงานดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ภาวะโลกรวนไม่ได้ส่งผลแค่ให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้ว อย่างเช่น คลื่นความร้อนรุนแรง ฝนตก น้ำท่วม หรือภัยแล้งอย่างที่หลายคนอาจเข้าใจผิด เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างช้าๆ นั้นได้ทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า หากวันหนึ่งโลกของเรามีอุณหภูมิทะลุเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมอย่างถาวร เมื่อนั้นโลกก็จะอยู่ในจุดที่ ‘แก้ไขอะไรได้ยากแล้ว’

 

ภาพ: Smith Collection / Gado / Getty Images

อ้างอิง:

The post สหรัฐฯ เตือนรัฐทางเหนือระวังเจออะมีบากินสมอง หลังโลกรวนทำอุณหภูมิสูงขึ้นจนอะมีบาโตผิดถิ่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
CDC เตือนฝีดาษลิงอาจกลับมาระบาดในสหรัฐฯ อีกครั้งช่วงฤดูร้อนนี้ https://thestandard.co/cdc-warned-monkey-pox-usa-summer/ Thu, 18 May 2023 10:15:16 +0000 https://thestandard.co/?p=792351 ฝีดาษลิง

ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริกา เตือนว่า […]

The post CDC เตือนฝีดาษลิงอาจกลับมาระบาดในสหรัฐฯ อีกครั้งช่วงฤดูร้อนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฝีดาษลิง

ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริกา เตือนว่าโรค mpox หรือฝีดาษลิง อาจกลับมาระบาดในสหรัฐฯ อีกครั้งช่วงฤดูร้อนนี้ หรือประมาณเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม เนื่องจากผู้คนมีแนวโน้มออกไปรวมตัวกันในงานเฉลิมฉลองต่างๆ มากขึ้น

 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 โลกได้พบการระบาดของ mpox ในแถบแอฟริกากลางและตะวันตก ก่อนที่จะแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่นๆ รวมถึงในยุโรป และอเมริกาเหนือ ส่งผลให้ต่อมาในเดือนกรกฎาคม องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศยกระดับให้การระบาดของ mpox เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ก่อนที่ยอดผู้ติดเชื้อจะทยอยเบาบางลงเรื่อยๆ จน WHO ยกเลิกการประกาศดังกล่าวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

สำหรับสถานการณ์ในสหรัฐฯ อัตราการติดเชื้อ mpox ไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2022 และปรับตัวลดลงหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม CDC เตือนว่าการแพร่ระบาดยังไม่สิ้นสุดลง

 

แถลงการณ์ของ CDC ระบุว่า ทางองค์กรยังคงได้รับรายงานเกี่ยวกับเคสผู้ติดเชื้อ สะท้อนให้เห็นว่ายังมีการแพร่ระบาดในชุมชนของสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยขณะนี้ ทางองค์กรกำลังตรวจสอบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อ mpox ในชิคาโกที่ได้รับการยืนยันแล้ว 12 คนด้วยกัน รวมถึงผู้ที่รอการยืนยันผลตรวจเชื้ออีก 1 คน ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ชายอายุ 24-46 ปี และมี 4 คนซึ่งได้รับการยืนยันว่าเพิ่งเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศเมื่อไม่นานมานี้ 

 

ในจำนวนดังกล่าว มีผู้ป่วย 9 คนที่ได้รับวัคซีนป้องกัน mpox ยี่ห้อ JYNNEOS ครบ 2 โดสแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ข้อมูลจากการทดสอบทางคลินิกระบุว่า วัคซีนของ JYNNEOS จำนวน 2 โดสสามารถช่วยป้องกันโรคได้อย่างน้อย 85% แต่ไม่มีข้อมูลว่าการป้องกันดังกล่าวจะอยู่ได้นานเพียงไร อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วติดเชื้อ มักพบว่าพวกเขาจะมีอาการของโรคที่รุนแรงน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือได้รับไม่ครบ 2 เข็ม

 

นับตั้งแต่ที่ mpox เริ่มระบาดทั่วโลกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2023 สหรัฐฯ มียอดผู้ป่วย mpox สะสมรวมอยู่ที่ 30,395 คน โดยส่วนใหญ่พบการแพร่ระบาดในกลุ่มชายรักชาย อาการของโรคคือผู้ป่วยจะมีไข้ ปวดตัว ปวดกระบอกตา ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกาย และมีตุ่มหนองขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า โรค mpox สามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสทางกายอย่างใกล้ชิด แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะติดเชื้อได้ผ่านฝอยละอองเหมือนเช่นโควิด 

 

ภาพ: QINQIE99 Via Shutterstock

อ้างอิง:

The post CDC เตือนฝีดาษลิงอาจกลับมาระบาดในสหรัฐฯ อีกครั้งช่วงฤดูร้อนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
วิจัยชี้ โลกร้อนทำให้เชื้ออะมีบากินสมองแพร่ระบาดมากกว่าเดิม https://thestandard.co/sustain-update-global-warming-amoeba/ Thu, 22 Sep 2022 09:24:52 +0000 https://thestandard.co/?p=685205 เชื้ออะมีบากินสมอง

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาชื่อของ ‘เชื้ออะมีบากินสมอง’ […]

The post วิจัยชี้ โลกร้อนทำให้เชื้ออะมีบากินสมองแพร่ระบาดมากกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชื้ออะมีบากินสมอง

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาชื่อของ ‘เชื้ออะมีบากินสมอง’ ได้กลับมาเป็นที่สนใจของสื่อต่างประเทศอีกครั้ง เนื่องจากมีรายงานข่าวว่ามีเด็กชาวอเมริกันคนหนึ่งเสียชีวิตด้วยโรคสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบา หลังจากที่ลงไปเล่นในแม่น้ำแห่งหนึ่งที่รัฐเนแบรสกา ซึ่งล่าสุดผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอาจเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เชื้ออะมีบาแพร่ระบาดได้ดีกว่าเดิม

 

แม้การติดเชื้ออะมีบาจะเป็นกรณีที่พบได้ยาก แต่ก็สามารถก่อให้เกิดอาการป่วยที่ร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า จากสถิติของปี 1962-2020 พบผู้ติดเชื้อดังกล่าวเพียง 151 คน แต่ผู้ที่รอดชีวิตมาได้มีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น

 

เชื้ออะมีบาชนิดนีเกลอเรีย (Naegleria fowleri) เป็นสัตว์เซลล์เดียวที่เจริญเติบโตได้ดีในน้ำจืดที่มีอุณหภูมิอุ่น หรือประมาณ 30 องศาเซลเซียสขึ้นไป และสามารถทนต่ออุณหภูมิได้ถึง 46 องศาเซลเซียส โดยปกติแล้วในสหรัฐฯ มักจะพบเชื้อชนิดนี้แค่ในรัฐทางใต้ที่มีอากาศอบอุ่น แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิโลกได้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พบว่าเชื้ออะมีบาได้แพร่กระจายตัวไปทางเหนือมากขึ้นด้วย โดยปี 2021 มีรายงานว่ารัฐมินนิโซตาก็พบเชื้อดังกล่าวด้วยเช่นกัน

 

นอกจากภาวะโลกรวนจะก่อให้เกิดเหตุสภาพอากาศสุดขั้ว (Extreme Weather Events) เช่น ฝนตกหนัก น้ำท่วมใหญ่ และคลื่นความร้อนรุนแรงอย่างที่เราทราบกันดีแล้วนั้น นักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวด้วยว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นยังเสี่ยงทำให้เชื้อโรคเข้าถึงตัวมนุษย์ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่แห้งแล้ง เชื้อโรคจะกระจุกตัวกันอยู่ในแหล่งน้ำที่มีน้อยนิด ซึ่งมนุษย์ที่จำเป็นต้องใช้แหล่งน้ำดังกล่าวก็อาจติดเชื้อได้ หรืออย่างในกรณีน้ำท่วม น้ำก็อาจเป็นสื่อกลางที่พาเชื้อโรคเข้าไปในสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น อาจพัดพาเชื้อโรคในดินหรือแหล่งน้ำเสียให้เข้าไปสู่บ้านเรือนของประชาชนได้ 

 

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวเตือนว่า ภาวะโลกรวนซึ่งมีแนวโน้มเกิดรุนแรงขึ้นอีกในอนาคตอาจทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองหนาวเจอกับอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น และพบเชื้อโรคชนิดอื่นๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนในภูมิภาค นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณอันตรายที่กระตุ้นเตือนให้มนุษย์ต้องตระหนักแล้วว่า ธรรมชาติเอาจริง ซึ่งเราทุกคนควรเริ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายลงอีกในอนาคต

 

ภาพ: Smith Collection/Gado/Getty Images

อ้างอิง:

The post วิจัยชี้ โลกร้อนทำให้เชื้ออะมีบากินสมองแพร่ระบาดมากกว่าเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
CDC สหรัฐฯ ประกาศปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ หลังล้มเหลวรับมือโควิด https://thestandard.co/cdc-covid-reorganization/ Thu, 18 Aug 2022 04:33:03 +0000 https://thestandard.co/?p=668634 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค

ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรั […]

The post CDC สหรัฐฯ ประกาศปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ หลังล้มเหลวรับมือโควิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค

ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) ประกาศต่อเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเมื่อวานนี้ (17 สิงหาคม) เกี่ยวกับแผนการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ โดยชี้ถึงสาเหตุจากความล้มเหลวในการรับมือกับโควิด และความจำเป็นเพื่อทำให้การทำงานมีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น

 

โดย ดร.วาเลนสกี เรียกแผนปฏิรูป CDC ครั้งนี้ว่าการ ‘Reset’ หรือ ‘เริ่มต้นใหม่’ ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่องค์กรเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความล้มเหลวในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด ฝีดาษลิง และภัยคุกคามทางสาธารณสุขอื่นๆ ซึ่งรายละเอียดการปฏิรูปองค์กรจะรวมถึงการโยกย้ายพนักงานภายใน และการเพิ่มความเร็วในการเผยแพร่ข้อมูล

 

ขณะที่เธอชี้ว่า การปฏิรูปองค์กรดังกล่าวเป็นข้อริเริ่มของทาง CDC และไม่ได้ถูกสั่งการจากทำเนียบขาวหรือหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ

 

“เป็นเวลา 75 ปีที่ CDC และสาธารณสุข ได้เตรียมพร้อมสำหรับโควิด และในช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของเรา ผลการดำเนินงานของเรากลับไม่เป็นไปตามความคาดหวังอย่างน่าเชื่อถือ” ดร.วาเลนสกี กล่าวกับเจ้าหน้าที่ CDC

 

ขณะที่ CDC ซึ่งได้งบประมาณสนับสนุนกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 11,000 คน มีหน้าที่ในการปกป้องชาวอเมริกันจากโรคระบาดและภัยคุกคามทางสาธารณสุขต่างๆ 

 

ซึ่งการยกเครื่ององค์กรนั้นถือเป็นเรื่องปกติของผู้อำนวยการ CDC แต่ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสเรียกร้องอย่างกว้างขวางจากประชาชนที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

 

โดยที่ผ่านมา CDC ถูกวิจารณ์ว่าเป็นหน่วยงานที่อุ้ยอ้ายและล่าช้า และมุ่งเน้นการทำงานไปที่การเก็บรวบรวมข้อมูลผลวิเคราะห์ แต่กลับไม่ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการรับมือกับภัยคุกคามทางสาธารณสุขใหม่ๆ 

 

ทั้งนี้ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบและความไม่พอใจของประชาชนอเมริกันที่มีต่อ CDC นั้นเพิ่มขึ้นมากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 

 

โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า CDC นั้นเชื่องช้า ทั้งเรื่องการยอมรับกรณีการแพร่ระบาดของโควิดจากยุโรปเข้าสู่สหรัฐฯ และการแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงการแจ้งเตือนประชาชนว่าไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ในอากาศ ตลอดจนการเพิ่มการทดสอบอย่างเป็นระบบสำหรับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ต่างๆ

 

 

แฟ้มภาพ: Kevin C. Cox / Getty Images

อ้างอิง:

The post CDC สหรัฐฯ ประกาศปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ หลังล้มเหลวรับมือโควิด appeared first on THE STANDARD.

]]>