Cartier – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 17 Jan 2025 08:02:59 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Richemont บริษัทแม่ของ Cartier เห็นยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 https://thestandard.co/richemont-sales-increase-2024/ Fri, 17 Jan 2025 09:00:32 +0000 https://thestandard.co/?p=1031416 Richemont บริษัทเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีอย่าง Cartier, Van Cleef & Arpels, Chloé, Montblanc, Piaget, Dunhill และอีกมากมาย รายงานผลประกอบการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 10% สวนทางกับบริษัทเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ อย่าง LVMH และ Kering ช่วง 3 เดือนก่อนสิ้นปีนับเป็นเวลาสำคัญที่เหล่าบริษัทแบรนด์ลักชัวรีจะทำยอดขายได้ดีที่สุด ซึ่งการที่ Richemont มียอดขายเพิ่มขึ้น 10% ในช่วงเวลาดังกล่าวก็เป็นดั่งสัญญาณที่ดีต่อบริษัทแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ ด้วย เพราะมันอาจชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มหันกลับมาซื้อของแบรนด์เนมกันมากขึ้นแล้ว หลังจากที่ยอดขายสินค้าลักชัวรีของเกือบทุกบริษัทตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดตลอดปี 2024 Business of Fashion รายงานว่า ตลาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปมียอดขายสินค้าเครื่องประดับชั้นสูงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการถ่วงดุลกับยอดขายของนาฬิกาที่ลดลงมากกว่าปกติถึงแม้ว่ายอดขายสินค้าลักชัวรีในเอเชียจะยังคงตกลง โดยเฉพาะประเทศจีนที่อดีตเคยเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งตามผลการรายงานนี้ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบของ Richemont ผู้เป็นบริษัทเจ้าของแบรนด์นาฬิกาและจิวเวลรีสุดหรูทั้ง Cartier และ Piaget เพราะทั้งสองแบรนด์คือปัจจัยหลักที่ทำบริษัท Richemont ยังคงประสบผลสำเร็จในช่วงเวลาที่การจับจ่ายสินค้าลักชัวรีของลูกค้าชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ LVMH และ Kering ขายสินค้าอย่างเครื่องหนัง กระเป๋า และเสื้อผ้า เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามการรายงานผลประกอบการของ LVMH ที่จะเปิดเผยในวันที่ 28 มกราคมนี้ด้วยว่าจะลดลง หรือเพิ่มขึ้นเหมือนกับ Richemont ภาพ: Cartier อ้างอิง: https://hypebeast.com/2025/1/richemont-sales-increase-10-percent-luxury-outlook-stocks-rise-cartier-chloe

Richemont บริษัทเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีอย่าง Cartier, Van […]

The post Richemont บริษัทแม่ของ Cartier เห็นยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Richemont บริษัทเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีอย่าง Cartier, Van Cleef & Arpels, Chloé, Montblanc, Piaget, Dunhill และอีกมากมาย รายงานผลประกอบการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 10% สวนทางกับบริษัทเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ อย่าง LVMH และ Kering ช่วง 3 เดือนก่อนสิ้นปีนับเป็นเวลาสำคัญที่เหล่าบริษัทแบรนด์ลักชัวรีจะทำยอดขายได้ดีที่สุด ซึ่งการที่ Richemont มียอดขายเพิ่มขึ้น 10% ในช่วงเวลาดังกล่าวก็เป็นดั่งสัญญาณที่ดีต่อบริษัทแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ ด้วย เพราะมันอาจชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มหันกลับมาซื้อของแบรนด์เนมกันมากขึ้นแล้ว หลังจากที่ยอดขายสินค้าลักชัวรีของเกือบทุกบริษัทตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดตลอดปี 2024 Business of Fashion รายงานว่า ตลาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปมียอดขายสินค้าเครื่องประดับชั้นสูงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการถ่วงดุลกับยอดขายของนาฬิกาที่ลดลงมากกว่าปกติถึงแม้ว่ายอดขายสินค้าลักชัวรีในเอเชียจะยังคงตกลง โดยเฉพาะประเทศจีนที่อดีตเคยเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งตามผลการรายงานนี้ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบของ Richemont ผู้เป็นบริษัทเจ้าของแบรนด์นาฬิกาและจิวเวลรีสุดหรูทั้ง Cartier และ Piaget เพราะทั้งสองแบรนด์คือปัจจัยหลักที่ทำบริษัท Richemont ยังคงประสบผลสำเร็จในช่วงเวลาที่การจับจ่ายสินค้าลักชัวรีของลูกค้าชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ LVMH และ Kering ขายสินค้าอย่างเครื่องหนัง กระเป๋า และเสื้อผ้า เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามการรายงานผลประกอบการของ LVMH ที่จะเปิดเผยในวันที่ 28 มกราคมนี้ด้วยว่าจะลดลง หรือเพิ่มขึ้นเหมือนกับ Richemont ภาพ: Cartier อ้างอิง: https://hypebeast.com/2025/1/richemont-sales-increase-10-percent-luxury-outlook-stocks-rise-cartier-chloe

Richemont บริษัทเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีอย่าง Cartier, Van Cleef & Arpels, Chloé, Montblanc, Piaget, Dunhill และอีกมากมาย รายงานผลประกอบการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 10% สวนทางกับบริษัทเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ อย่าง LVMH และ Kering

 

ช่วง 3 เดือนก่อนสิ้นปีนับเป็นเวลาสำคัญที่เหล่าบริษัทแบรนด์ลักชัวรีจะทำยอดขายได้ดีที่สุด ซึ่งการที่ Richemont มียอดขายเพิ่มขึ้น 10% ในช่วงเวลาดังกล่าวก็เป็นดั่งสัญญาณที่ดีต่อบริษัทแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ ด้วย เพราะมันอาจชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มหันกลับมาซื้อของแบรนด์เนมกันมากขึ้นแล้ว หลังจากที่ยอดขายสินค้าลักชัวรีของเกือบทุกบริษัทตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดตลอดปี 2024

 

Business of Fashion รายงานว่า ตลาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปมียอดขายสินค้าเครื่องประดับชั้นสูงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการถ่วงดุลกับยอดขายของนาฬิกาที่ลดลงมากกว่าปกติถึงแม้ว่ายอดขายสินค้าลักชัวรีในเอเชียจะยังคงตกลง โดยเฉพาะประเทศจีนที่อดีตเคยเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งตามผลการรายงานนี้ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบของ Richemont ผู้เป็นบริษัทเจ้าของแบรนด์นาฬิกาและจิวเวลรีสุดหรูทั้ง Cartier และ Piaget เพราะทั้งสองแบรนด์คือปัจจัยหลักที่ทำบริษัท Richemont ยังคงประสบผลสำเร็จในช่วงเวลาที่การจับจ่ายสินค้าลักชัวรีของลูกค้าชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ LVMH และ Kering ขายสินค้าอย่างเครื่องหนัง กระเป๋า และเสื้อผ้า เป็นหลัก

 

อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามการรายงานผลประกอบการของ LVMH ที่จะเปิดเผยในวันที่ 28 มกราคมนี้ด้วยว่าจะลดลง หรือเพิ่มขึ้นเหมือนกับ Richemont

 

ภาพ: Cartier

 

อ้างอิง:

The post Richemont บริษัทแม่ของ Cartier เห็นยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบรนด์นาฬิกาหรูสวิสที่ครองใจตลาดมากที่สุด https://thestandard.co/top-swiss-luxury-watch-brands/ Wed, 25 Dec 2024 03:00:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1016740 แบรนด์นาฬิกาหรูสวิสที่ครองใจตลาดมากที่สุด

หากพูดถึงของสะสมที่เป็นการลงทุนและรักษาความมั่งคั่งไปใน […]

The post แบรนด์นาฬิกาหรูสวิสที่ครองใจตลาดมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบรนด์นาฬิกาหรูสวิสที่ครองใจตลาดมากที่สุด

หากพูดถึงของสะสมที่เป็นการลงทุนและรักษาความมั่งคั่งไปในเวลาเดียวกัน เชื่อว่า ‘นาฬิกาหรู’ คงเป็นไอเท็มที่หลายคนนึกถึง

 

หนึ่งในประเทศที่โด่งดังในด้านของนาฬิกาหรูคงหนีไม่พ้นประเทศอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ที่นับว่าเป็นผู้ผลิตชื่อดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งความประณีตในการผลิตนาฬิกาแต่ละเรือน ความแม่นยำ และมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ทำให้นาฬิกาสวิสมิใช่เพียงแค่เครื่องบอกเวลา แต่ยังเป็นของสะสมสำหรับการลงทุนให้กับใครหลายคนด้วย

 

LuxeConsult และ Morgan Stanley ออกผลสำรวจที่เผยให้เห็นภาพรวมตลาดนาฬิกาหรูสัญชาติสวิส ซึ่งในปี 2023 ถือเป็นปีทองของตลาด เนื่องจากยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.67 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (1.03 ล้านล้านบาท) 

 

สำหรับแบรนด์นาฬิกาสวิสที่โดดเด่นนั้นนำโดยชื่อที่หลายคนน่าจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว นั่นคือ Rolex ซึ่งกินส่วนแบ่งตลาดไปมากถึง 30.3% โดยในปี 2023 ถือเป็นปีแรกที่ยอดขายนาฬิกาของแบรนด์พุ่งทะลุ 1 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (3.86 แสนล้านบาท) ทิ้งห่างแบรนด์อันดับ 2 อย่าง Cartier ที่สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดมาได้ 7.5% เท่ากับ OMEGA

 

ตลาดนาฬิกาหรูของสวิสมี 4 แบรนด์ใหญ่ที่ครองยอดขายในตลาดเกินครึ่ง (50.2%) ได้แก่ Rolex, Cartier, OMEGA และ Patek Philippe 

 

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือนาฬิกาหรูที่ราคาเกินกว่า 25,000 ฟรังก์สวิส ซึ่งเป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดถึง 69% และมีมูลค่าคิดเป็น 44% ของการส่งออกนาฬิกาหรูแบรนด์สวิสทั้งหมด แต่แม้ตลาดกลุ่มนี้จะสร้างมูลค่าที่สูง แต่หากดูในเชิงปริมาณ นาฬิกาหรูสวิสคิดเป็นปริมาณเพียง 2.5% ของจำนวนหน่วยที่ขายได้ทั้งหมดเท่านั้น

 

UOB Privilege Banking ให้คุณค่ากับทุก Passion & Lifestyle และพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมทุกความหลงใหลให้กลายเป็นความมั่งคั่ง ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ เข้ากันกับไลฟ์สไตล์ผู้มีความมั่งคั่งทุกท่าน

[ADVERTORIAL]

 

 

อ้างอิง:

 

UOB Privilege Banking

 

The post แบรนด์นาฬิกาหรูสวิสที่ครองใจตลาดมากที่สุด appeared first on THE STANDARD.

]]>
Byeon Woo Seok ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Cartier https://thestandard.co/byeon-woo-seok-cartier-brand-ambassador/ Fri, 22 Nov 2024 04:12:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1011459 Byeon Woo Seok

Byeon Woo Seok ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เป […]

The post Byeon Woo Seok ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Cartier appeared first on THE STANDARD.

]]>
Byeon Woo Seok

Byeon Woo Seok ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Prada ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ล่าสุดเขาได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของแบรนด์เครื่องประดับลักชัวรีชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Cartier

 

โดย Cartier แถลงว่า “นักแสดงหนุ่ม Byeon Woo Seok ผู้ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของเสน่ห์หลากหลายด้านและสไตล์การแต่งตัวนั้น พร้อมที่จะแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์อันเป็นอิสระ และบุคลิกที่เต็มไปด้วยสีสันผ่านการทำงานร่วมกับ Cartier ในอนาคต”

 

ด้าน Byeon Woo Seok ได้เผยความรู้สึกในการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Cartier ด้วยว่า “ผมมีความสุขและตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ Cartier ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้อยู่กับ Cartier แบรนด์ที่ยังคงใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างท้าทายและต่อเนื่องเหนือกาลเวลา และยังแสดงให้เห็นถึงดีไซน์อันงดงามด้วยงานฝีมือของพวกเขา”

 

ที่จริงแล้ว Byeon Woo Seok นั้นไม่ได้ห่างไกลจากวงการแฟชั่นเท่าไรนัก เพราะเขาเริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงจากการเป็นนายแบบ ก่อนที่จะเดบิวต์ในฐานะนักแสดงกับละครเรื่อง Dear My Friends ในปี 2016 ซึ่งหลังจากที่ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปีนี้เขาได้กลายเป็นหนึ่งในพระเอกที่มาแรงที่สุดจนเป็นปรากฏการณ์แห่งวงการ K-Drama จากการแสดงซีรีส์เรื่อง Lovely Runner จนกระทั่งได้จัดงานแฟนมีตติ้งอย่าง Summer Letter ใน 8 ประเทศ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

 

ภาพ: Cartier

อ้างอิง:

The post Byeon Woo Seok ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Cartier appeared first on THE STANDARD.

]]>
CARTIER IN PHUKET งานไฮจิวเวลรีที่รวบรวมกว่า 200 ชิ้นสุดประณีตมาจัดแสดง https://thestandard.co/cartier-in-phuket/ Wed, 13 Nov 2024 09:33:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1008191 CARTIER IN PHUKET

Cartier ตอกย้ำบทบาทและอิทธิพลในวงการเครื่องประดับและนาฬ […]

The post CARTIER IN PHUKET งานไฮจิวเวลรีที่รวบรวมกว่า 200 ชิ้นสุดประณีตมาจัดแสดง appeared first on THE STANDARD.

]]>
CARTIER IN PHUKET

Cartier ตอกย้ำบทบาทและอิทธิพลในวงการเครื่องประดับและนาฬิกา ผ่านการนำเสนอผลงานชิ้นสำคัญในนิทรรศการและโชว์เคสเครื่องประดับไฮจิวเวลรี ณ โรงแรมอนันตรา ลายัน จังหวัดภูเก็ต กับเครื่องประดับชั้นสูงกว่า 200 ชิ้น จากแรงบันดาลใจในการเดินทางของ 3 พี่น้องตระกูล Cartier

 

ซึ่งภายในนิทรรศการแบ่งออกเป็น 4 ห้อง มีทั้งห้อง Carved Wood นำเสนอชิ้นงานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพืชพรรณและสัตว์นานาชนิด, ห้อง Ceramics กับพื้นที่เซรามิกสีเขียวที่มีทั้งแหวน สร้อยคอ และกำไลหลากดีไซน์ ที่นำสัตว์ป่านานาพันธุ์ของ Cartier มาผสานรวมกันใน 1 ครีเอชัน 

 

ตามมาด้วยห้อง Silk ที่มีชิ้นงานไอคอนิกตั้งแต่สร้อยคอและต่างหูที่ให้ความรู้สึกพลิ้วไหวเหมือนเส้นไหม และห้อง Wrought Iron ที่นำเสนอทั้งเซ็ตสร้อยคอและต่างหู พร้อมกับนาฬิกาและเครื่องประดับชั้นสูงที่เป็นไฮไลต์ของนิทรรศการนี้ 

 

ก่อนปิดท้ายด้วยโชว์เคสเครื่องประดับไฮจิวเวลรีที่มีทั้งไอเท็มไฮไลต์อย่างสร้อยคอและแหวน Miroitement โดดเด่นด้วยเพชรสีน้ำเงินหายากที่เจียระไนทรงข้าวหลามตัดในขนาด 2.07 กะรัต, สร้อยคอและต่างหู Grattacielo กับเพชรและมรกตจากโคลอมเบียขนาด 2.67 กะรัต ล้อกับจี้เพชรน้ำงาม D IF Type IIa และนาฬิกาซ่อนหน้าปัดและแหวน Tichodroma ที่เจียระไนรูเบลไลต์ทรงเบี้ย 3 เม็ด เข้ากับแหวนฝังรูเบลไลต์ทรงคาโบชองเม็ดงามขนาด 10.06 กะรัต

 

พร้อมการแสดงโดรนที่โชว์ซิกเนเจอร์ทั้งหมดของแบรนด์ Cartier บนท้องฟ้าอย่างอลังการ โดยมีแขกรับเชิญคนสำคัญอย่าง Heart Evangelista และ พีพี กฤษฏ์ มาร่วมงานในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจาก เจฟ ซาเตอร์ Cartier Ambassador ประเทศไทย ที่ในครั้งนี้ร่วมโชว์พร้อมกับศิลปินมากความสามารถอย่าง THE TOYS อีกด้วย

 

ภาพ: Cartier Thailand

The post CARTIER IN PHUKET งานไฮจิวเวลรีที่รวบรวมกว่า 200 ชิ้นสุดประณีตมาจัดแสดง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: 7 สัตว์ 7 แบรนด์ เบื้องหลังโลโก้ ดีไซน์ เรื่องเล่า ที่คนไม่ค่อยรู้ l 7 Things We Love About … EP.21 https://thestandard.co/7-things-we-love-about-ep21/ Mon, 07 Oct 2024 12:00:22 +0000 https://thestandard.co/?p=992643

เคยสงสัยไหมว่าทำไมแบรนด์แฟชั่นถึงเลือกที่จะใช้สัตว์ในกา […]

The post ชมคลิป: 7 สัตว์ 7 แบรนด์ เบื้องหลังโลโก้ ดีไซน์ เรื่องเล่า ที่คนไม่ค่อยรู้ l 7 Things We Love About … EP.21 appeared first on THE STANDARD.

]]>

เคยสงสัยไหมว่าทำไมแบรนด์แฟชั่นถึงเลือกที่จะใช้สัตว์ในการเล่าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบโลโก้ โมทีฟการออกแบบสินค้า หรือประวัติศาสตร์ที่มาของแบรนด์ 7 Things We Love About… รวบรวม 7 สัตว์จาก 7 แบรนด์ที่เราชอบมาพูดคุยกันในสัปดาห์นี้ ตั้งแต่ Cartier ไปจนถึง Lacoste

 

ติดตามฟังและชมรายการ 7 Things We Love About… ได้ในวันจันทร์ เวลา 19.00 น. ทุกช่องทางสตรีมมิงและ YouTube ของ THE STANDARD POP

The post ชมคลิป: 7 สัตว์ 7 แบรนด์ เบื้องหลังโลโก้ ดีไซน์ เรื่องเล่า ที่คนไม่ค่อยรู้ l 7 Things We Love About … EP.21 appeared first on THE STANDARD.

]]>
คนรุ่นใหม่กำลังกลายเป็นลูกค้าหลักตลาดนาฬิกาหรู แล้วแบรนด์ไหนที่พวกเขาตัดสินใจเลือก https://thestandard.co/young-buyers-luxury-watch/ Sat, 28 Sep 2024 02:00:17 +0000 https://thestandard.co/?p=988338

เป็นเวลาหลายสิบปีที่ผู้ผลิตนาฬิกาหรูมักจะทำการตลาดกับลู […]

The post คนรุ่นใหม่กำลังกลายเป็นลูกค้าหลักตลาดนาฬิกาหรู แล้วแบรนด์ไหนที่พวกเขาตัดสินใจเลือก appeared first on THE STANDARD.

]]>

เป็นเวลาหลายสิบปีที่ผู้ผลิตนาฬิกาหรูมักจะทำการตลาดกับลูกค้า ‘รุ่นใหญ่’ ที่เชื่อว่ามีรายได้และฐานะมั่นคง แต่ผลการสำรวจล่าสุดของ Chrono24 พบว่า ปัจจุบันกลุ่ม ‘คนรุ่นใหม่’ กลับมีแนวโน้มที่จะซื้อนาฬิกาหรูมากกว่า

 

จากการสำรวจความตั้งใจในการซื้อนาฬิกาหรูในกลุ่มตัวอย่าง 2,123 คน ดำเนินการโดย YouGov ในนามของ Chrono24 ที่เยอรมนี พบว่าลูกค้าอายุน้อยระหว่าง 18-44 ปี ถึง 1 ใน 3 เป็นเจ้าของนาฬิกาหรูอยู่แล้ว และมีความคิดว่าจะซื้อเทียบกับ 26% ของคนในช่วงอายุ 45-55 ปี และเพียง 17% ของคนที่มีอายุมากกว่า 55 ปี

 

โดยกลุ่ม Gen Z อายุระหว่าง 18-24 ปี คือกลุ่มที่มีแนวโน้มสูงสุดถึง 20% ที่จะซื้อนาฬิกาหรูในอีก 12 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของทุกกลุ่มอยู่ที่ 11% เท่านั้น

 

โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้ซื้อครั้งแรกมากที่สุดคือเรื่องการออกแบบที่ 50% ในขณะที่ 48% ให้ความสำคัญกับคุณภาพของกลไกและแบรนด์ ส่วนเรื่องราคามีความสำคัญน้อยกว่าที่ 36% ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ 21% และความพิเศษ 21% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ที่เริ่มสะสมให้ความสำคัญกับความสวยงามมากกว่าราคาและความคุ้มค่า

 

เมื่อแยกตามเพศ ผู้ชายถึง 33% เป็นเจ้าของหรือต้องการเป็นเจ้าของนาฬิกาสุดหรู ส่วนผู้หญิงมีเพียง 19% เท่านั้น โดยการรักษาราคาและมูลค่ามีความสำคัญต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 

 

ขณะที่แบรนด์ที่ครองใจนักสะสมหน้าใหม่ยังคงเป็นแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Rolex (ผู้ชาย 16.2% และผู้หญิง 27.7%) OMEGA (ผู้ชาย 13.7% และผู้หญิง 9.6%) และ Seiko (ผู้ชาย 11.0% และผู้หญิง 4.3%) ตามมาด้วย Breitling, TAG Heuer และ Cartier 

 

ที่น่าสนใจคือ Cartier ครองใจนักสะสมผู้หญิงมือใหม่เป็นส่วนใหญ่ถึง 11.6% หากวัดตามเพศแล้วก็จะเป็นรองแค่ Rolex เพียงแบรนด์เดียว 

 

แม้ค่าครองชีพจะสูงขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวในระดับสูงจะส่งผลกระทบกับกลุ่มคนหนุ่มสาวมากกว่ากลุ่มคนรุ่นเก่า แต่กลับแทบไม่มีผลกับการตัดสินใจซื้อนาฬิกาหรูเลย อย่างที่สหรัฐอเมริกาในช่วงปีที่แล้ว 41% ของกลุ่ม Gen Z ซื้อนาฬิกาสุดหรูโดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 10,870 ดอลลาร์ หรือราว 360,000 บาท โดยคนรุ่น Millennials ใช้จ่ายเฉลี่ยที่ครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เท่านั้น 

 

ส่วนในตลาดนาฬิกามือสอง Gen Z ใช้จ่ายระหว่าง 7,500-10,000 ดอลลาร์ หรือราว 250,000-330,000 บาท ซึ่ง Gen Z จะซื้อนาฬิกาใหม่เฉลี่ย 2.4 เรือนต่อปี และนาฬิกามือสอง 1.43 เรือนต่อปี 

 

ส่วนคำถามที่ว่า คนรุ่นใหม่เอาเงินมาจากไหน ส่วนใหญ่ 21% ใช้วิธีผ่อนชำระ หรือไม่ก็ขายทรัพย์สินอย่างอื่นเพื่อหวังสร้างกำไรจากนาฬิกาหรู พูดง่ายๆ ก็คือพวกเขามองเรื่องการลงทุนมากกว่า 

 

Balazs Ferenczi ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาของ Chrono24 ระบุว่า ความต้องการแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกำลังได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมป๊อปมากขึ้น ผ่านเหล่าผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงต่างๆ ทั้งนักร้องฮิปฮอป เช่น Drake หรือ Cardi B รวมถึงนักแสดง นักกีฬา และนักดนตรี ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แบรนด์นาฬิกาใหญ่ๆ เริ่มหาความร่วมมือกับศิลปินเพื่อดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ เช่น Audemars Piguet x Cactus Jack แบรนด์และค่ายเพลงของ Travis Scott ออกมาเป็นนาฬิกา Royal Oak Perpetual Calendar สีน้ำตาลลิมิเต็ดเอดิชัน เป็นต้น 

 

นอกจากนี้ เขายังให้ความเห็นว่า แม้ว่าการรักษามูลค่าของนาฬิกาจะไม่ใช่ประเด็นหลักในการตัดสินใจซื้อ แต่การที่ Rolex ซึ่งมีคุณสมบัติเรื่องมูลค่าค่อนข้างคงที่ เป็นแบรนด์ที่ได้รับเลือกมากที่สุด เหตุผลนี้ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของนักสะสมหน้าใหม่เช่นเดียวกัน 

 

อย่างไรก็ตาม ยิ่งนักสะสมมีประสบการณ์มากขึ้นเท่าไร รสนิยมของแต่ละคนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เลือกซื้อแบรนด์และรุ่นที่มีความหลากหลายมากขึ้นตามไปด้วย 

 


 

Rolex

 

 

ผู้ชาย 16.2%

ผู้หญิง 27.7%

เฉลี่ย 16.8%

 

ครองแชมป์นาฬิกาที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับผู้ที่จะซื้อนาฬิกาหรูเป็นเรือนแรก ด้วยชื่อเสียงและประวัติอันยาวนานของแบรนด์ รวมถึงความนิยมในวงกว้าง จนทำให้ Rolex เป็นนาฬิกาที่รักษามูลค่าได้คงที่ที่สุด

 


 

OMEGA

 

 

ผู้ชาย 13.7%

ผู้หญิง 9.6%

เฉลี่ย 12.7%

 

นาฬิกาเรือนเท่ โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมอย่าง Speedmaster ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่สวมใส่บนดวงจันทร์ นอกจากนี้ ยังถือเป็นบิดาแห่งนาฬิกาจับเวลาสมัยใหม่อีกด้วย 

 


 

Seiko

 

 

ผู้ชาย 11.0%

ผู้หญิง 4.3%

เฉลี่ย 10.5%

 

นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะการเป็นผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือควอตซ์เชิงพาณิชย์เรือนแรกของโลกในปี 1969 ซึ่งในปี 1960 แบรนด์เปิดตัวนาฬิกา Grand Seiko เน้นดีไซน์เรียบง่าย  แต่ใส่ใจเรื่องวัสดุ รายละเอียด และความเที่ยงตรง 

 


 

Breitling

 

 

ผู้ชาย 6.6%

ผู้หญิง 5.2%

เฉลี่ย 6.2%

 

ผู้ผลิตนาฬิกาหรูสัญชาติสวิส ก่อตั้งในปี 1884 บริษัทนี้มีชื่อเสียงด้านการผลิตนาฬิกาโครโนมิเตอร์สำหรับนักบิน ซึ่งมีรุ่นยอดนิยมอย่างนาฬิการุ่น Navitimer และ Superocean 

 


 

TAG Heuer

 

 

ผู้ชาย 6.3%

ผู้หญิง 4.7%

เฉลี่ย 6.0%

 

นาฬิกาสปอร์ตที่มีความเชื่อมโยงกับความเร็ว และขยันสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยมีรุ่นยอดนิยมอย่างเช่น TAG Heuer Carrera และ TAG Heuer Formula 1

 


 

Cartier

 

 

ผู้ชาย 2.7%

ผู้หญิง 11.6%

เฉลี่ย 3.9%

 

แบรนด์นาฬิกาหรูที่ครองใจนักสะสมรุ่นใหม่กลุ่มผู้หญิง นอกจากนี้ ผู้ชายรุ่นใหม่ก็เริ่มหันมานิยมนาฬิกาโมเดลเล็กกันมากขึ้น อย่างเช่นรุ่น Crash และ Tank ที่มีทั้งความเรียบหรูและดูสุขุม 

 

อ้างอิง: 

The post คนรุ่นใหม่กำลังกลายเป็นลูกค้าหลักตลาดนาฬิกาหรู แล้วแบรนด์ไหนที่พวกเขาตัดสินใจเลือก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Hyunjin วง Stray Kids ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ Cartier https://thestandard.co/hyunjin-stray-kids-cartier-brand-ambassador/ Fri, 13 Sep 2024 03:33:39 +0000 https://thestandard.co/?p=983054 Hyunjin

Hyunjin วง Stray Kids ขึ้นแท่นแอมบาสเดอร์คนล่าสุดของแบร […]

The post Hyunjin วง Stray Kids ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ Cartier appeared first on THE STANDARD.

]]>
Hyunjin

Hyunjin วง Stray Kids ขึ้นแท่นแอมบาสเดอร์คนล่าสุดของแบรนด์เครื่องประดับ Cartier ซึ่งการประกาศนี้มาจากการที่เขาไปร่วมถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร Esquire Korea ฉบับเดือนตุลาคมนี้

 

ก่อนหน้านี้ Hyunjin เคยร่วมงานกับ Cartier มาแล้วครั้งหนึ่งจากการร่วมเป็นแขกคนสำคัญในงานจัดแสดงไฮจิวเวลรี Le Voyage Recommencé ณ กรุงโซล ซึ่งมีคนดังอีกมากมายมาร่วมงานนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น JISOO, Bae Doona, Go Soo และ Teo Yoo

 

Hyunjin ยังกล่าวความรู้สึกที่ได้รับตำแหน่งนี้ว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Cartier ในฐานะแอมบาสเดอร์ เป็นเกียรติมากที่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางกับ Cartier เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สำรวจมุมมองที่สวยงาม และการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ด้วยกัน”

 

ทั้งนี้ การประกาศแต่งตั้ง Hyunjin ให้เป็นแอมบาสเดอร์ทำให้เขาเป็นหนึ่งในแอมบาสเดอร์คนสำคัญ ร่วมกันกับคนดังคนอื่นๆ ในวงการ K-Pop ไม่ว่าจะเป็น Global Ambassador อย่าง JISOO วง BLACKPINK หรือ V วง BTS นั่นเอง

 

ภาพ: Cartier / Instagram

อ้างอิง: 

The post Hyunjin วง Stray Kids ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ Cartier appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจฟ ซาเตอร์ ได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Cartier คนล่าสุดของไทย https://thestandard.co/jeff-satur-cartier-brand-ambassador/ Tue, 25 Jun 2024 07:32:35 +0000 https://thestandard.co/?p=949543

Cartier แต่งตั้งให้ เจฟ ซาเตอร์ นักแสดงและศิลปินรุ่นใหม […]

The post เจฟ ซาเตอร์ ได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Cartier คนล่าสุดของไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>

Cartier แต่งตั้งให้ เจฟ ซาเตอร์ นักแสดงและศิลปินรุ่นใหม่ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดจากประเทศไทย ต่อจากตัวแทนแบรนด์ที่มีอยู่แล้วทั้ง คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส และ ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร

 

การประกาศร่วมงานอย่างเป็นทางการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการเดินทางไปปารีสเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของคอลเล็กชัน Trinity เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังเคยร่วมงานเปิดร้านใหม่สาขา EMPORIUM เมื่อปี 2023

 

ซึ่งภาพการประกาศร่วมงาน เขาได้สวมคอลเล็กชันไฟน์จิวเวลรีและนาฬิกาของ Cartier ทั้งแหวน Juste un Clou และ Trinity สร้อยข้อมือ Clash de Cartier และนาฬิกา Santos de Cartier 

 

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Cartier

 

การร่วมงานกับ Cartier ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าและได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผมในหลายด้าน ทั้งความสวยงามของเครื่องประดับที่เป็นเอกลักษณ์และศิลปะการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร” เจฟ ซาเตอร์ กล่าว 

 

ภาพ: Cartier

The post เจฟ ซาเตอร์ ได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Cartier คนล่าสุดของไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
CARTIER WOMEN’S INITIATIVE 2024 งานประกาศรางวัล ณ เมืองเซินเจิ้น ภายใต้ธีม ‘Forces for Good’ https://thestandard.co/cartier-womens-initiative-2024/ Wed, 05 Jun 2024 06:16:52 +0000 https://thestandard.co/?p=941396 CARTIER WOMEN’S INITIATIVE 2024

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Cartier Women’s Initiative ปร […]

The post CARTIER WOMEN’S INITIATIVE 2024 งานประกาศรางวัล ณ เมืองเซินเจิ้น ภายใต้ธีม ‘Forces for Good’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
CARTIER WOMEN’S INITIATIVE 2024

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Cartier Women’s Initiative ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลประเภทต่างๆ ประจำปี 2024 ณ เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้ธีม ‘Forces for Good’ ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของ Cartier ในการขยายขอบเขตการเข้าถึงโครงการฯ ให้ครอบคลุมคนหลากหลายกลุ่ม ตลอดจนเสริมสร้างโลกที่มีความยุติธรรมและความเสมอภาคมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำการผนึกกำลังระหว่างโครงการฯ และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

 

ที่งาน Cartier Women’s Initiative 2024 ได้นักเขียนและผู้สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศSandi Toksvig เป็นพิธีกรของงาน พร้อมเปิดฉากด้วยการแสดงจากเหล่านักเต้นในภาควิชาการเต้นรำจาก Zhejiang Conservatory of Music ก่อนที่ Cyrille Vigneron กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Cartier จะมอบรางวัล ซึ่งยังได้รับเกียรติจาก Karlie Kloss ซูเปอร์โมเดล ผู้ประกอบการ และตัวแทนของผู้มีจิตสาธารณะ พร้อมด้วย Guo Jingjing แชมป์กีฬาดำน้ำโอลิมปิก ผู้ซึ่งสนับสนุนสวัสดิการสาธารณะและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

 

การประกาศรายชื่อของผู้ที่ได้รับรางวัลในอันดับที่ 1, 2 และ 3 จากทั้งหมด 11 สาขา ซึ่งประกอบด้วย รางวัลระดับภูมิภาคทั้งหมด 9 สาขา และรางวัลเฉพาะทาง หรือ Thematic Awards 2 สาขา ได้แก่ ​รางวัล Science & Technology Pioneer Award ที่มอบเป็นครั้งแรกในปี 2021 และรางวัล Diversity, Equity & Inclusion Award ซึ่งเพิ่มเข้ามาเมื่อปี 2023

 

สำหรับโครงการ Cartier Women’s Initiative ในครั้งถัดไป จะจัดขึ้นในรูปแบบพิเศษเพื่อเชิดชูเกียรติให้แก่อดีตผู้ชนะโครงการฯ 9 คน ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาธุรกิจ โดยมีกำหนดจัดงานในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 ณ Women’s Pavilion ในงาน World Expo เมืองโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น

 

 

ภาพ: Cartier

The post CARTIER WOMEN’S INITIATIVE 2024 งานประกาศรางวัล ณ เมืองเซินเจิ้น ภายใต้ธีม ‘Forces for Good’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
แชมเปียนผู้ประกอบการหญิงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก https://thestandard.co/women-entrepreneur-driving-positive-change/ Mon, 03 Jun 2024 09:39:08 +0000 https://thestandard.co/?p=940755

“ในฐานะที่เป็นคนตาบอด ฉันมองไม่เห็น แต่เรามีวิสัยทัศน์ท […]

The post แชมเปียนผู้ประกอบการหญิงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก appeared first on THE STANDARD.

]]>

“ในฐานะที่เป็นคนตาบอด ฉันมองไม่เห็น แต่เรามีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่”

 

นี่คือประโยคของ ซาดรีเย โกเรเจ (Sadriye Görece) ผู้ประกอบการหญิงวัย 29 ปี ที่สะท้อนความมุ่งมั่น การใช้ประสบการณ์จากการมองไม่เห็น แปรเปลี่ยนเป็นขุมความคิดและต่อยอดเป็นธุรกิจ

 

โกเรเจเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง BlindLook แอปพลิเคชันที่ใช้การประมวลผลโดย AI แล้วแปลงเป็นเสียง เพื่อช่วยให้คนตาบอดเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ

 

เธอเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าความบกพร่องทางร่างกาย อายุ และเพศสภาพ ไม่ใช่อุปสรรค เธอใช้พลังของเทคโนโลยี บวกปัญญาประดิษฐ์ และวิสัยทัศน์ เปลี่ยนปัญหาจากการมองไม่เห็นให้กลายเป็นธุรกิจที่ช่วยคนตาบอดได้ในระดับโลก

 

โกเรเจคือแชมเปียนจากเวที Cartier Women’s Initiative 2024 (CWI 2024) ได้รับรางวัลผู้ชนะ ในประเภท Diversity, Equity & Inclusion

 

โกเรเจเล่าบนเวทีว่า “สำหรับคนนับล้านที่ถูกมองข้ามโดยการออกแบบกระแสหลัก BlindLook เกิดจากความเชื่อที่ว่าไม่มีใครควรยอมรับสถานะที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เรารวม AI และเสียง เพื่อให้บุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถนำทางชีวิตของพวกเขา”

 

น่าคิดว่าถ้าโลกนี้มีผู้ประกอบการหญิงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมมากขึ้นในระดับชุมชน ประเทศ และภูมิภาคทั่วโลก จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดไหน

 

เสียงของการเปลี่ยนแปลง

 

“ฉันเชื่อว่าการเป็นผู้ประกอบการจะต้องต่อสู้กับความอยุติธรรม”

 

“เราต้องรักษาระบบนิเวศให้ดี เพื่อดูแลความมั่นคงของคนรุ่นถัดไป”

 

“เราเชื่อว่าความเท่าเทียมเป็นเรื่องจำเป็น”

 

คำกล่าวเหล่านี้สะท้อนถึงจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการหญิงที่ได้ขึ้นเวทีในงาน CWI 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฉันเป็นหนึ่งในสื่อมวลชนไทยที่ได้รับเชิญไปร่วมงานนี้ด้วย เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อมอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการหญิงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม

 

ค่ำคืนของการประกาศรางวัลเป็นคืนที่เต็มไปด้วยพลัง

 

ผู้ประกอบการหญิงเหล่านี้คือใคร

 

แซนดี ต็อกสวิก (Sandi Toksvig) ผู้ประกาศข่าว นักเขียน นักแสดงตลก และนักสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ชาวเดนมาร์ก ผู้ดำเนินรายการบนเวที จุดประกายช่วงต้นว่า “พลังของแต่ละส่วนอาจจะมีขีดจำกัด แต่เมื่อรวมกันแล้วจะไม่มีวันถูกทำลาย เหมือนกับพลังที่ดีที่มารวมตัวกันในห้องนี้คืนนี้”

 

ผู้ประกอบการหญิงจำนวน 33 คน จาก 22 ประเทศ รวมตัวกันในเวทีคืนนั้น พวกเธอมาจาก 9 ภูมิภาคของโลก แต่ละคนมีภูมิหลังที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม การศึกษา อายุ แต่ความมุ่งมั่นของความเป็นผู้ประกอบการหญิงคือความเหมือน พวกเธอใช้ประสบการณ์ส่วนตัว ปัญหาที่พบ สร้างสรรค์ออกมาเป็นธุรกิจ

 

ผู้นำและความมุ่งมั่น

 

ซีริลล์ วิญเญอรอง (Cyrille Vigneron) ประธานและซีอีโอของ Cartier เน้นย้ำถึงความสำคัญของ Cartier Women’s Initiative ที่สนับสนุนผู้ประกอบการหญิง เขาเล่าบนเวทีว่า

 

“โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2006 และได้พัฒนาเป็นชุมชนที่น่าทึ่ง ที่เชื่อว่าแต่ละโครงการกำลังค่อยๆ เปลี่ยนโลก”

 

วิญเญอรองพูดถึงช่องว่างทางเพศสภาพ (Gender Gap) ว่า “ก่อนโควิดช่องว่างเรื่องเพศสภาพลดลงเหลือ 200 ปี แต่พอหลังโควิดอาจจะสูงขึ้นไปถึง 300 ปี แสดงว่าโลกกำลังถอยหลัง แต่เราขยับเข็มนาฬิกา และสามารถเปลี่ยนแปลงได้”

 

เวทีเศรษฐกิจระดับโลก World Economic Forum ออกรายงานในปี 2017 ระบุว่า ถ้าเศรษฐกิจโลกยังดำเนินไปอย่างปัจจุบัน ช่องว่างเรื่องรายได้และการทำงานระหว่างผู้หญิงและผู้ชายอาจจะต้องใช้เวลา 202 ปี เพื่อปิดช่องโหว่นั้นได้

 

นวัตกรรมเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคม

 

ผู้ประกอบการหญิงเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่ผ่านการคัดสรรแล้วจากโครงการธุรกิจทั่วโลก พวกเธอคือ ‘Fellows’ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Cartier เพื่อพัฒนาแนวคิดและการทำธุรกิจ เส้นทางของพวกเธอกว่าจะได้ไปขึ้นเวที CWI 2024 ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

 

เทคโนโลยีคือหนึ่งในปัจจัยที่เป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจของพวกเธอ

 

อลิสัน แฮร์ริงตัน (Alison Harrington) ผู้ก่อตั้ง Resparke จากประเทศออสเตรเลีย เล่าว่า “เมื่อพ่อตาของฉันมีอาการสมองเสื่อม เขาสูญเสียความเฉียบคมทางจิต แต่เมื่อฉันเล่นดนตรีที่เขาชอบ ฉันได้เห็นประกายในตาของเขา” Resparke ใช้เทคโนโลยีและดนตรีผสมผสานเพื่อบำบัดอาการให้กับผู้ป่วยสมองเสื่อม

 

รานิยา กาฟาร์ (Rania Gaafar) จากอียิปต์ ผู้ก่อตั้งแอป ADVA ที่ช่วยหาทางออกทางการเงินให้กับเด็กผู้หญิงที่ต้องเรียนหนังสือ เธอเล่าว่าเห็นเด็กผู้หญิงที่ต้องออกจากโรงเรียนเพราะพ่อแม่จ่ายค่าเทอมช้า เมื่อไม่มีเงิน 3,000 บาทสำหรับค่าเรียน เด็กผู้หญิงคนนั้นต้องออกจากโรงเรียนในที่สุด กาฟาร์บอกว่าทนไม่ได้และต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ผ่านไป 10 ปี ADVA ช่วยแก้ปัญหาทางการเงินให้เด็กได้มากกว่า 25,000 คน

 

สัมภาษณ์พิเศษผู้ร่วมก่อตั้ง Trestle Labs

 

ในระหว่างงานฉันได้พูดคุยกับ อักษิตา สัจเดวา (Akshita Sachdeva) ผู้ร่วมก่อตั้ง Trestle Labs เธอได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ในประเภท ‘Diversity, Equity & Inclusion’ อักษิตาพัฒนาเครื่องมือที่เรียกว่า Kibo เพื่อช่วยบุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นและการอ่าน Kibo คือโคมไฟอ่านหนังสือที่สามารถพูดได้อย่างวิเศษ ซึ่งสามารถอ่านเนื้อหาที่พิมพ์หรือเขียนด้วยลายมือในหลายภาษาได้ ทำให้ผู้ที่บกพร่องทางการมองเห็นเข้าถึงเนื้อหาได้

 

อักษิตา สัจเดวา (Akshita Sachdeva) ผู้ร่วมก่อตั้ง Trestle Labs

ซึ่งรับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ในประเภท ‘Diversity, Equity & Inclusion’

 

การเดินทางและวิสัยทัศน์ของอักษิตา

 

“6 ปีที่แล้ว ฉันได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ ปาลี ที่ตาบอดเมื่ออายุ 17 ปี เธอต้องหยุดเรียนเทอมแรก ฉันรู้สึกทึ่งมาก ฉันนำหนังสือของเธอไปที่ห้องแล็บของฉัน ทำให้ทุกอย่างเป็นดิจิทัลและส่งคืนให้เธอ 3 เดือนต่อมา เธอโทรหาฉันและบอกว่าเธอกำลังยืนต่อแถวเพื่อกรอกแบบฟอร์มสำหรับการเรียนต่อในปีที่ 3 ขอบคุณ Kibo เธอสามารถนั่งสอบและก้าวหน้าในการเรียนได้ เหตุการณ์นี้ทำให้ฉันรู้สึกดีใจอย่างมากและยืนยันเส้นทางของฉัน”

 

ทุกวันนี้อักษิตาที่เรียนจบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากอินเดียเมื่อปี 2016 เห็นโอกาสจากการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบ B2B โดยร่วมมือกับโรงเรียน วิทยาลัย และสำนักงาน ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

 

ความท้าทายของผู้ประกอบการหญิง

 

อักษิตาสะท้อนว่า ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการหญิงทำให้มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนอื่น แต่ความท้าทายคือ “บางครั้งคุณต้องมีกลยุทธ์และตัดสินใจอย่างหนักแน่น การรักษาสมดุลระหว่างรูปแบบผลกระทบ (Social Impact) กับรูปแบบธุรกิจ เป็นเรื่องท้าทาย แต่เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืน”

 

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่

 

อักษิตาให้คำแนะนำแก่ผู้หญิงรุ่นใหม่ในวงการผู้ประกอบการเพื่อสังคมว่า “จงค้นหาปัญหาหรือช่องว่างที่คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยทักษะของคุณ แม้จะยากและมีอุปสรรคมากมาย แต่จงอดทน การเดินทางนั้นจะคุ้มค่าเมื่อคุณเห็นผลงานของคุณที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผู้คน”

 

อักษิตามองเห็นการขยาย Kibo ไปยังทุกโรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย ในอินเดีย และกำลังมองหาพันธมิตรในเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง “เรามุ่งมั่นที่จะเสริมพลังให้กับบุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น 250,000 คนใน 3 ปีข้างหน้า”

 

ความมุ่งมั่นต่ออนาคต

 

CWI 2024 ไม่ได้เป็นเพียงพิธีมอบรางวัล แต่เป็นการเรียกร้องให้ลงมือทำ ผู้ประกอบการหญิงเหล่านี้ไม่เพียงแค่เป็นแบบอย่าง แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกที่กำลังสร้างนิยามใหม่ของภูมิทัศน์ธุรกิจ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เรื่องราวของพวกเธอสร้างแรงบันดาลใจให้เราทุกคนในการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม นวัตกรรม และความยุติธรรมทางสังคม

 

วินจี ซิน (Wingee Sin) ผู้อำนวยการโครงการต่างประเทศ Cartier ย้ำว่าการสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงเหล่านี้คือการส่งเสริมความเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม “ผู้หญิงเหล่านี้คือ ครู นักออกแบบแฟชั่น ช่างทำรองเท้า วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี พวกเธอไม่ได้เพียงแค่ทำธุรกิจที่เป็นพลังที่ดีเท่านั้น แต่พวกเธอกำลังปฏิวัติบทบาทและอัตลักษณ์ของผู้หญิง”

 

งานครั้งต่อไปมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 ที่ Women’s Pavilion ในงาน World Expo ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความสำเร็จของผู้ประกอบการหญิงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมต่อไป

 

การเข้าร่วมงานนี้ทำให้ฉันรับรู้ได้ถึงพลังของความเป็นผู้ประกอบการหญิงเพื่อสังคม ที่ไม่ยอมแพ้กับการสานต่อแนวคิดของตัวเอง แม้เริ่มต้นจะดูไม่ออกว่าจะทำเงินได้จริงในโลกธุรกิจ แต่หลายคนพูดคำเดียวกันว่าเครื่องมือที่ทำให้รอดมาได้คือ ‘ความมุ่งมั่น พากเพียร และอดทน’

The post แชมเปียนผู้ประกอบการหญิงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก appeared first on THE STANDARD.

]]>