Café Leitz by Pacamara – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 05 Oct 2021 14:06:16 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ไม่เกาเหลาเพราะกินเส้น 7 เมนูพาสต้าเด็ดๆ ที่คุณไม่ควรพลาด! https://thestandard.co/7-pasta-menu/ https://thestandard.co/7-pasta-menu/#respond Thu, 25 Oct 2018 12:24:54 +0000 https://thestandard.co/?p=137315

รู้หรือไม่ว่ามีวันวันพาสต้าโลก (World Pasta Day) อยู่ด้ […]

The post ไม่เกาเหลาเพราะกินเส้น 7 เมนูพาสต้าเด็ดๆ ที่คุณไม่ควรพลาด! appeared first on THE STANDARD.

]]>

รู้หรือไม่ว่ามีวันวันพาสต้าโลก (World Pasta Day) อยู่ด้วยบนโลก ซึ่งตรงกับ 25 ตุลาคม และปีนี้ทางองค์กร International Pasta Organization หรือ IPO ที่จัดตั้งวันดังกล่าวนี้ขึ้นมาก็ฉลองวาระนี้อย่างยิ่งใหญ่ในกรุงดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มันยิ่งใหญ่กว่าปกติก็เพราะนั่งนับนิ้วดูแล้วพบว่า เป็นเวลา 20 ปีเต็มแล้ว ที่ผู้ชื่นชอบเมนูเส้นได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2541 ซึ่งการจัดงานนี้ก็เพื่อจุดประสงค์ที่จะสนับสนุนและให้ผู้คนตระหนักถึงพาสต้า อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยองค์การยูเนสโกและรากเหง้าวัฒนธรรมของอาหารแถบเมดิเตอร์เรเนียน รวมไปถึงยังร่วมกันสนับสนุนและพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพาสต้าอีกด้วย

 

เนื่องในโอกาสที่จะเฉลิมฉลองให้กับเจ้าพวกเส้นเล็กเส้นน้อยเหล่านี้ THE STANDARD รวบรวมจานพาสต้าน่ากินจากหลากหลายร้านมาให้คุณได้ตามไปชิมกัน งานนี้โนเกาเหลา!

 

Photo: อรัณย์ หนองพล

 

สปาเกตตีปลาเค็มเบคอนพริกแห้ง

พิกัด: Tree House Cafe หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

ความน่าสนใจ: เริ่มต้นเมนูเส้นๆ แบบไทยๆ กับการนำเอาเมนูสปาเกตตีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็หลงรักอย่าง ‘สปาเกตตีเบคอนพริกแห้ง’ มาผัดรวมกับปลาเค็ม ซึ่งเป็นรสชาติแบบไทยๆ ตีความใหม่จนได้จานสปาเกตตีที่น่าหลงรัก เพราะความเค็มของปลาเค็มฝอยนั้นช่วยตัดความเลี่ยนจากน้ำมัน รวมไปถึงรสชาติของพริกแห้งก็ไม่เผ็ดร้อนจนเกินทาน วันไหนขับรถลงใต้อย่าลืมแวะ!

 

Tree House Cafe

Open: วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-18.00 น. ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ เปิดให้บริการถึง 20.00 น. หยุดให้บริการทุกวันพุธ

Address: ตั้งอยู่ในซอยหัวหิน 29 ตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะพบกับบ้านพักอาศัยที่มีต้นไม้ขึ้นสูงๆ และป้ายสีทองแดงเขียนชื่อร้าน Tree House Cafe

Budget: 15-350 บาท

More: thestandard.co/tree-house-cafe-huahin/

 

Photo: สลัก แก้วเชื้อ

 

Blue Swimmer Crab Capellini

พิกัด: Thaan ซอยสุขุมวิท 31 กรุงเทพฯ

ความน่าสนใจ: หนึ่งร้านอาหารที่โดดเด่นในเรื่องของเนื้อ แต่เขาเองก็ยังมีเมนูเส้นที่น่าประทับใจเช่นกัน อย่าง ‘Blue Swimmer Crab Capellni’ ที่เลือกใช้เส้นแคปเปลินี หรือเส้นแองเจิลแฮร์ เป็นตัวหลักของจาน และยังเลือกเสิร์ฟแบบเย็น ราดซอสสาหร่ายเพสโต้กับเนื้อปูจากสุราษฎร์ธานี แต้มด้านบนด้วยทองเปลวและไข่ปลาคาเวียร์ อร่อยแค่ไหนลองตามไปทานได้

 

Thaan Charcoal Cooking

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 17.00-23.00 น.

Address: 68/6 ซอยสุขุมวิท 31 แยก 4 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ

Budget: 500-2,500 บาท

More: thestandard.co/thaan/

 

Photo: วรรษมน ไตรยศักดา

 

Pipe Dello Chef

พิกัด: Nonna Nella by Lenzi อาคาร All Seasons Place ถนนวิทยุ กรุงเทพ

ความน่าสนใจ: จานโฮมเมดพาสต้าเลือกใช้เส้นตอติกลิโอนี (Tottiglioni) ที่ลักษณะเป็นเส้นกลวงนุ่มนิ่มผัดกับมะเขือเทศ กอร์กองโซลาชีส พาร์เมซานชีส และครีม โรยหน้าด้วยผักร็อกเก็ต จุดเด่นของจานนี้คือ การนำไส้กรอกจาก Lenzi’s Farm ซึ่งเป็นฟาร์มของเชฟเองในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี มาผัดร่วมด้วย ด้วยรูปแบบพาสต้าที่เป็นเส้นกลวง ทำให้ซอสและไส้กรอกเข้าไปอยู่ด้านในเส้น และอุ้มซอสได้อย่างดี แถมเชฟยังกำชับว่า ให้รีบทานพาสต้าในขณะที่ยังร้อน เพื่อรสชาติความอร่อยที่ดีที่สุด

 

Nonna Nella by Lenzi

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-22.00 น.

Address: ชั้น 1 CRC Tower อาคาร All Seasons Place ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ Budget: 400-1,500 บาท

More: thestandard.co/nonna-nella-by-lenzi/

 

Photo: วงศกร ยี่ดวง

 

Tortelloni Bolognese

พิกัด: La Dotta ทองหล่อซอย 9 กรุงเทพฯ

ความน่าสนใจ: แน่นอนว่าถ้าพูดถึงร้าน La Dotta สีฟ้าสวยในทองหล่อซอย 9 คุณจะต้องนึกถึงภาพของการทำเส้นสดๆ ในร้าน ซึ่งเขาขึ้นชื่อเรื่องนี้ที่สุด และถ้าหากคุณเป็นแฟนพาสต้ายิ่งไม่ควรพลาดร้านนี้แน่นอน! โดยเฉพาะเมนู ‘ตอเตลินีโบลอกเนส’ ที่เลือกใช้เส้นพาสต้าแบบมีไส้ที่มีลักษณะคล้ายเกี๊ยว ทำด้วยมือสดๆ อัดแน่นด้วยพาร์มาแฮม และชีสพาร์มิจีอาโน เรกกิอาโน (Parmigiano-Reggiano) หอมอร่อยเนยอิตาเลียน และซอสใส่ใบเสจ แถมเจือกลิ่นเฮเซลนัตจางๆ ไม่ควรพลาดจริงๆ หรืออยากเพิ่มเติมความอร่อยของเรื่องเส้นๆ La Dotta เปิดสาขาใหม่อยู่ที่อโศกในชื่อ La Dotta La Grassa ลองไปชิมกันดู

 

La Dotta

Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-14.30 น. และ 17.30-23.00 น.

Address: ทองหล่อซอย 9 สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Budget: 160-2,700 บาท

More: thestandard.co/lifestyle-restaurant-and-bar-pasta-la-dotta/

 

 

พาสต้าแกงปู

พิกัด: Cafe Leitz by Pacamara ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ

ความน่าสนใจ: อีกหนึ่งเมนูพาสต้าที่ประยุกต์รสชาติแบบไทยๆ อย่าง ‘พาสต้าแกงปู’ ที่ใช้เครื่องแกงใต้แท้ๆ ปรุงด้วยส่วนผสมของสมุนไพรนานาชนิด ได้ความเผ็ดผสมความมันของเครื่องแกงและกะทิ ก่อนคลุกเคล้ากับเส้นสปาเกตตีและปูเนื้อแน่นๆ โรยหน้าด้วยหัวหอมดองที่เข้ามาเสริมมิติให้จานนี้ลงตัวยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ทานเผ็ดก็ไม่ต้องกลัว เพราะทางร้านได้ปรับสูตรให้เผ็ดแบบนวลๆ เข้าปากคนหมู่มาก เป็นอีกจานที่ไม่อยากให้พลาดจริงๆ

 

Cafe Leitz by Pacamara

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-23.00 น.

Address: ชั้น M อาคาร The Helix Quartier ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

Budget: เริ่มต้นที่ 100 บาท

More: thestandard.co/cafe-leitz-by-pacamara/

 

Photo: วราวุธ อันศิรมงคล

 

Lobster Bouillabaisse Rigatoni

พิกัด: Pirate Arena ทองหล่อซอย 13 กรุงเทพฯ

ความน่าสนใจ: ดื่มด่ำรสชาติจากท้องทะเลแบบถึงพริกถึงขิงด้วยพาสต้า ‘Lobster Bouillabaisse Rigatoni’ ซึ่งใช้เส้นริกาโตนีเส้นกลวง มีรูใหญ่ตรงกลาง ผัดกับล็อบสเตอร์ในซอสบุยยาเบส ซึ่งเป็นซอสทะเลแบบฝรั่งเศสที่ได้จากการเคี่ยวซีฟู้ดหลายชนิดรวมกัน และเชฟยังใส่เหล้าเพอร์นอตของฝรั่งเศสเพิ่มกลิ่นหอมหวานปิดท้าย หากไม่แพ้อาหารทะเล คุณก็ควรมาลองชิมสักครั้ง เพราะความเข้มข้นแบบถึงกลิ่นของอาหารทะเลจะทำให้น้ำลายคุณแตกฟอง

 

Pirate Arena

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00-02.00 น.

Address: ทองหล่อซอย 13 สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Budget: เริ่มต้นที่ 200 บาท

More: thestandard.co/seenspace-pirate-arena/

 

Photo: วงศกร ยี่ดวง

 

Homemade Tagliolini, Prawns, Lemon, Aromatic Breadcrumbs

พิกัด: iO Italian Osteria ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ความน่าสนใจ: พาสต้าจานสุดท้าย เราขออนุญาตตามซีเนียร์คอนเทนต์ครีเอเตอร์ของ THE STANDARD ไปทานพาสต้าจานเบิ้มที่เลือกใช้เส้นตากลิโอลินีที่มีหน้าตาคล้ายๆ บะหมี่เป๊าะ เส้นแบนๆ ของบ้านเรา เพียงแต่ไม่หยิก ซึ่งเป็นเส้นโฮมเมดคลุกเคล้ากับกุ้งสับชิ้นเล็ก เพื่อเพิ่มสัมผัสในการทาน ท็อปด้วยกุ้งทะเลตัวโตให้นักชิมกัดได้เต็มคำอีก 3 ตัวใหญ่ๆ รสชาติซอสเข้มข้มด้วยรสชาติของเลมอน พร้อมเพิ่มดีเทลการเคี้ยวด้วยขนมปังกรอบหอมๆ อร่อยถูกปากไม่ยาก

 

iO Italian Osteria

Open: เวลา 11.00-24.00 น.

Address: G117 ชั้น 1 The Groove เซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระรามที่ 1 กรุงเทพฯ

Budget: 200-500 บาท

More: thestandard.co/io-italian-osteria/

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post ไม่เกาเหลาเพราะกินเส้น 7 เมนูพาสต้าเด็ดๆ ที่คุณไม่ควรพลาด! appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/7-pasta-menu/feed/ 0
มาแล้ว Café Leitz by Pacamara คาเฟ่สำหรับคนรัก Leica อย่างเป็นทางการแห่งที่ 2 ของโลก https://thestandard.co/cafe-leitz-by-pacamara/ https://thestandard.co/cafe-leitz-by-pacamara/#respond Thu, 06 Sep 2018 08:05:27 +0000 https://thestandard.co/?p=119307

ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวก Leica หรือชื่นชอบการถ่ายรูป คาเฟ่แห […]

The post มาแล้ว Café Leitz by Pacamara คาเฟ่สำหรับคนรัก Leica อย่างเป็นทางการแห่งที่ 2 ของโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>

ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวก Leica หรือชื่นชอบการถ่ายรูป คาเฟ่แห่งนี้จะทำให้คุณมาเจอพวกเดียวกัน หลัง Leica ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเมืองไทย ผู้นำเข้าอย่าง ดนัย สรไกรกิติกูล จึงอยากให้ Leica เป็นมากกว่ากล้องถ่ายรูป หากแต่อยากสร้างคอมมูนิตี้เล็กๆ ไว้ให้ผู้ที่หลงใหลเสน่ห์ของ Leica ได้มาแลกเปลี่ยนบทสนทนา หรือมีโอกาสได้สัมผัสกับกล้อง Leica รุ่นต่างๆ ที่วางขาย Café Leitz จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ในโลกรองจากประเทศแม่อย่างเยอรมนี  

 

หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า Leica มีคาเฟ่เป็นของตัวเองด้วย นั่นก็เพราะสาขาแรกตั้งอยู่นอกเมืองแฟรงก์เฟิร์ตที่การเดินทางแสนลำบาก คนที่ไปต้องใจรักจริงๆ อีกทั้งเมนูอาหารของที่นั่นยังมีเพียงเมนูง่ายๆ เบาๆ ซึ่งต่างจาก Café Leitz by Pacamara ที่ให้บริการเต็มรูปแบบทั้งอาหาร กาแฟ และขนมหวาน ซึ่งรังสรรค์โดยแบรนด์ที่มีชื่อชั้นด้านเมล็ดกาแฟอย่าง Pacamara Coffee Roaster คุณจึงมั่นใจได้ว่าคาเฟ่แห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่คอนเซปต์ แต่รสชาติก็ไม่ทำให้คอกาแฟต้องผิดหวัง

 

 

ก่อนที่จะเข้าถึงเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ขอพูดถึงความพิเศษของคาเฟ่แห่งนี้ก่อน ประการแรกคือที่นี่มีกล้อง Leica ไว้ให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองถ่ายภาพภายในร้าน ไม่ว่าจะถ่ายอาหาร เครื่องดื่ม หรือคนที่ไปด้วย จากนั้นพนักงานจะปรินต์ภาพนั้นก่อนมอบให้เป็นของที่ระลึกตอนเช็กบิลโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ รวมถึงการจัดเวิร์กช็อปถ่ายภาพร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก Leica ทั้งในและนอกสถานที่

 

The Vibe

หากใครเคยสัมผัสกล้อง Leica มาก่อน เมื่อย่างก้าวเข้าร้านจะสัมผัสได้ถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่แทบถอดจากตัวกล้อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โทนสีอย่างดำ เงิน เทา (และที่ขาดไม่ได้คือป้ายไฟวงกลมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์) หยอดด้วยไม้และสีขาวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นเป็นกันเอง รอบด้านประดับตกแต่งด้วยภาพถ่ายของช่างภาพระดับโลกที่ใช้กล้อง Leica จับโมเมนต์ต่างๆ อย่างช่วงแรกของการเปิดร้านเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ถ่ายด้วยกล้อง Leica รุ่นแรกในปี 1914

 

 

The Foods

แม้คาเฟ่แห่งนี้เป็นครั้งแรกที่ Pacamara เสิร์ฟอาหารอย่างจริงจัง เพราะ Pacamara Coffee Roaster x Specialty Coffee Lab ซึ่งตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 จะมีอาหารไว้บริการ แต่ก็เพียงไม่กี่รายการ การมาที่นี่คุณจะได้เจอกับเมนูอาหารที่ประยุกต์ระหว่างรสชาติแบบไทยๆ เข้ากับตะวันตก ไม่ซับซ้อน แต่มีสีสัน เพราะทางร้านเชื่อว่า ‘อาหารที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ หากแต่ต้องสร้างอารมณ์ด้วย’ เมื่ออาหารถูกยกมาเสิร์ฟต้องปลุกเร้าให้คุณอยากหยิบกล้องหรือมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ จานเด่นได้แก่ พาสต้าแกงปู (370 บาท) ที่ใช้เครื่องแกงใต้แท้ๆ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรนานาชนิด ปรุงรสให้ได้ความเผ็ดผสมความมันของเครื่องแกงและกะทิ ก่อนคลุกเคล้ากับเส้นพาสต้าที่ลวกสุกกำลังดี กินคู่กับปูเนื้อแน่น โรยหน้าด้วยหัวหอมดองที่เข้ามาเสริมมิติให้จานนี้ลงตัวยิ่งขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าเห็นเป็นแกงใต้แล้วจะเผ็ดร้อนจนกินไม่ไหว เพราะทางร้านได้ปรับสูตรให้เผ็ดแบบนวลๆ เข้าปากคนหมู่มาก  

 

พาสต้าแกงปู

 

ถัดมาได้แก่ ยำส้มโอ (435 บาท) ราดน้ำยำรสจัดจ้านสมกับเป็นยำไทย ก่อนนำไปคลุกมะพร้าวคั่ว เสิร์ฟพร้อมหอยเชลล์แอตแลนติกและหน่อไม้ฝรั่ง หากใครมาช่วงสายๆ แล้วอยากกินเมนูบรันช์อย่าง Egg Benedict (290 บาท) ที่นี่ก็มีไว้บริการ เสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้งท็อปด้วยแซลมอนรมควันและไข่ ก่อนราดด้วยซอสฮอลแลนเดส และน่าจะมีการเหยาะทรัฟเฟิลออยล์ด้วย เพราะได้กลิ่นหอมลอยมาจางๆ เคียงด้วยผักสดกรอบ และโรยเมล็ดทับทิมเพิ่มความกรุบกรอบ    

 

(ซ้าย) Egg Benedict (ขวา) ยำส้มโอ  

 

The Drinks

แน่นอนว่าไฮไลต์ของคาเฟ่แห่งนี้ นอกจากกล้องแล้วต้องพูดถึงเมนูเครื่องดื่มอย่างกาแฟ เพราะ Pacamara เป็นร้านกาแฟคุณภาพสูงสัญชาติไทยประเภท Specialty ที่คัดเลือกเมล็ดกาแฟชั้นดีจากแหล่งปลูกสำคัญทั่วโลก จากร้านกาแฟและโรงคั่วขนาดเล็กในเชียงใหม่ได้ขยับขยายไปสู่ระดับสากลจนเปิดสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯ และนครราชสีมา จวบจนปัจจุบัน Pacamara ได้กลายมาเป็นโรงคั่วกาแฟ Specialty Coffee ของไทยรายแรกที่มีสาขามากที่สุด รวมถึงคาเฟ่แห่งนี้ด้วย  

 

แก้วนี้ได้แก่ Gesha Village จากเอธิโอเปีย ซึ่งเป็นอีกตัวที่มีราคา 1,000 บาท

 

เมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์สำหรับ Cafe Leitz by Pacamara ได้แก่ Leitz Classic Blend ซึ่งเป็นกาแฟที่ถูกออกแบบตามแบบเยอรมนี คาแรกเตอร์และรสชาติชวนให้นึกย้อนไปถึงยุคสมัยของการเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มกาแฟแบบชาติตะวันตก ด้วยรสชาติที่หอมกลมกล่อมเคล้ากลิ่นคาราเมล ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังกินดาร์กช็อกโกแลตที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเปลือกส้ม ทิ้งความหวานอยู่ในปากหลังดื่ม ราคากาแฟของที่นี่เริ่มตั้งแต่ 100-1,000 บาท เหตุที่ราคาสูงถึงหลักพันเป็นเพราะตัวที่มีราคาสูงสุดอย่าง Don Julian Pacamara Bop #1 (1,000 บาท) เป็นเมล็ดกาแฟที่ได้มาจากประเทศปานามา สายพันธุ์พาคามารา ที่ตัวเมล็ดมีขนาดใหญ่กว่าทั่วไป เมื่อผ่านการคั่วจะมีขนาดเทียบเท่าปลายนิ้วก้อย ส่วนชื่อ BOP#1 นั่นย่อมาจาก Best of Panama Number 1 ที่ชนะรางวัลที่ 1 จากเวทีประกวดเมล็ดกาแฟในประเทศปานามา เราจะสัมผัสถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รีต่างๆ และซิตรัสอย่างพลัม ส้ม พีช เสริมด้วยกลิ่นที่หอมคล้ายดอกไม้ ทั้งหมดนี้ได้จากการเพาะปลูกท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม สายพันธุ์ และขั้นตอนการผลิตต่างๆ ก่อนส่งมอบถึงนักดื่มกาแฟทั่วโลก  

 

(ซ้าย) Cortado Orange (ขวา) Coffee The Old Fashion

 

หากใครอยากได้ความสดชื่นแปลกใหม่ แนะนำ Coffee The Old Fashion (160 บาท) ซึ่งเป็นการนำกาแฟ Cold Brew มาสกัดกับน้ำอัดลมอย่างโคล่า ผสมไซรัปวานิลลา เหยาะน้ำมะนาว ตามด้วยโทนิก ท็อปด้วยกลิ่นหอมๆ ของเปลือกส้มและโรสแมรีที่ลอยมาแตะจมูกยามยกดื่ม ส่วนใครชอบดื่มกาแฟใส่นม แต่ยังได้อยากความเข้มข้นของกาแฟ ลอง Cortado Orange (100 บาท) ที่บาริสต้านำเอสเพรสโซช็อตผสมนม Barista Milk หรือนมพาสเจอไรซ์สูตรเฉพาะของทางร้านที่มีความหวานกลมกล่อม มีเนื้อสัมผัสที่หนาแน่นและหนัก ทั้งกาแฟและนมผสมในสัดส่วนที่เท่ากัน วิธีการดื่มคือให้ดื่มกาแฟเข้าไปก่อนแล้วตามด้วยส้ม เพื่อทิ้งท้ายด้วยความสดชื่นและกลิ่นหอมๆ ของส้ม

 

แต่หากใครไม่ใช่คอกาแฟ ช็อกโกแลตเย็นของที่นี่ Blue Chocolate (140 บาท) ก็มีลูกเล่นด้วยการผสมนมสดเข้ากับน้ำอัญชันจนได้เป็นสีพาสเทล จากนั้นตามด้วยซอฟต์ครีมที่นำนมสดไปปั่นผสมกับเกลือเพื่อให้ได้รสหวาน มัน เค็มหน่อยๆ ก่อนดื่มอย่าลืมเทซอสช็อกโกแลตลงไปด้วยตามระดับความเข้มข้นที่ชอบ หรือถ้าใครอยากลองม็อกเทลเพิ่มความสดชื่น ลองเป็น Floral Peach Soda (140 บาท) ที่ใส่เจลลี่รสเชอร์รีบลอสซัมสร้างเท็กซ์เจอร์ ตามด้วยไซรัปกลิ่นพีช น้ำมะนาว และโซดา

 

(ซ้าย) Floral Peach Soda (ขวา) Blue Chocolate

 

ความพิเศษสุดท้าย หากใครซื้อกาแฟที่นี่กลับบ้าน เตรียมพบกับคอลเล็กชันแก้วกาแฟที่สกรีนภาพถ่ายไอคอนระดับโลก เช่น มูฮัมหมัด อาลี ที่ถูกเก็บภาพไว้โดยกล้อง Leica เห็นว่าทางร้านตั้งใจจะเปลี่ยนภาพไปเรื่อยๆ ให้เหล่าสาวกได้ตามเก็บสะสม

 

Cafe Leitz by Pacamara

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-23.00 น.

Address: ชั้น M อาคาร The Helix Quartier ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

Budget: กาแฟเริ่มต้นที่ 100 บาท

Contact: 0 2003 6068

Page: Café Leitz By Pacamara

Map: 

 

 

 

ภาพ: Courtesy of Brand

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

The post มาแล้ว Café Leitz by Pacamara คาเฟ่สำหรับคนรัก Leica อย่างเป็นทางการแห่งที่ 2 ของโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/cafe-leitz-by-pacamara/feed/ 0