Burt’s Bees – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 08 Nov 2019 03:00:30 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Beauty List: รวมพล Beauty Holiday Set สุดคุ้มของแบรนด์ที่จัดเต็มปีละครั้ง https://thestandard.co/beauty-list-beauty-holiday-set/ Fri, 08 Nov 2019 03:00:30 +0000 https://thestandard.co/?p=301851

เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งความสุขกันแล้ว ช่วง […]

The post Beauty List: รวมพล Beauty Holiday Set สุดคุ้มของแบรนด์ที่จัดเต็มปีละครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>

เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งความสุขกันแล้ว ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสดีที่จะได้พบกับไอเท็มความงามสุดพิเศษที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และดีไซน์ หลายแบรนด์มีการหั่นราคาและจัดเซตสุดคุ้มส่งท้ายปีที่จะมีปีละครั้งเท่านั้น THE STANDARD จัดลิสต์บิวตี้ไอเท็มชิ้นปังๆ จากแบรนด์โดนๆ มารวมไว้ให้เลือกกันแบบจุใจดังนี้ 

 

 

Burt’s Bees: Joy Beauty Nature
ปีนี้เซตของขวัญจาก Burt’s Bees พิเศษและน่ารักกว่าทุกปี โดยเฉพาะการจัดเซตลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากบรรจุในกระเป๋าเครื่องสำอางเก๋ไก๋เกิน 20% หากใครเป็นแฟนลิปบาล์มจะรู้สึกว่าคุ้ม เพราะแต่ละเซตจะมี Gift ที่แตกต่างเป็นเหมือนของขวัญให้ด้วย เช่น โหลน้ำผึ้งสุดน่ารักจากเซต Burt’s Balm Jar และที่เรากรี๊ดที่สุดคือ เซต Burt’s Bees Nourishing Lip Collection – Beeswax (395 บาท จากปกติ 530 บาท) ที่จับคู่ลิปบาล์มกับแฮนด์ซาล์ฟอันโด่งดังมาไว้ด้วยกัน มาพร้อมกล่องลายรวงผึ้งที่ใช้งานได้หลายฟังก์ชัน เช่น ใช้เป็นเชิงเทียน เก็บแปรงแต่งหน้า หรือเครื่องเขียนก็เข้าที 

 

 

Neal’s Yard Remedies: ออร์แกนิกดังจากอังกฤษที่รอคอย 

หากคุณเป็นแฟนตัวยงของ Neal’s Yard Remedies จะต้องตื่นเต้นมาก เพราะแบรนด์สกินแคร์ออร์แกนิกจากอังกฤษแบรนด์นี้เป็นเจ้าของรางวัลการันตีกว่า 50 รางวัลจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก ปีล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัล CEW Eco Award Winner 2018 มาสดๆ ร้อนๆ ปีนี้จัดเซตสกินแคร์ในกลุ่มดูแลปัญหาริ้วรอยที่ลดหนักจากปกติเซตละ 15,180 บาท เหลือเพียง 10,500 บาท (ในเซต Frankincense Intense Lift Collection) นอกจากนี้ยังมีเซตดังๆ อีกเพียบที่ตบเท้าเข้าชั้นวางเรียงรายให้ช้อปกันจุใจในราคาที่หั่นลงแบบจุกๆ สูงสุด 36% 

 

 

Innisfree: Green Holidays

นับจากปี 2010 แบรนด์ Innisfree เริ่มแคมเปญกรีนคริสต์มาสผลิตเครื่องสำอางคอลเล็กชันพิเศษ เพื่อมอบของขวัญให้แก่เด็กผู้ด้อยโอกาสมาตลอด ความน่ารักคือ เมื่อลูกค้าซื้อบิวตี้ไอเท็มดีไซน์พิเศษ ก็ได้ร่วมทำบุญไปพร้อมกัน โดยเฉพาะชุด Kit ทำมือที่เริ่มชิมลางตอนปี 2014 ซึ่งขายในราคาพิเศษร่วมกับคอลเล็กชัน Holidays ในแต่ละปีจะมีการนำรายได้ส่วนหนึ่งไปมอบเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในประเทศนั้นๆ สำหรับปีนี้ Innisfree ร่วมมือกับกราฟิกชื่อดังชาวเนเธอร์แลนด์ Jordy Van Nieuwendijk ออกแบบแคมเปญ ‘เติมความสุขให้ล้นใจ กระจายความสุขแด่คนที่คุณรัก’ กับ Kit ทำมือลำโพงน่ารักๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเสียงดนตรีในช่วงเทศกาลแห่งความสุข หรือเทียนหอมที่มาพร้อมวงล้อหมุนเป็นโน้ตดนตรี แต่ที่เด็ดกว่านั้น เราแนะนำให้ทุกคนไปสำรวจคอลเล็กชันใหม่ส่งท้ายปีที่มีลวดลายน่ารักละลานตา ชิ้นเด็ดที่เราเทใจให้เป็นพิเศษคือ Mood Up Party Palette อายแชโดว์ 12 เฉด และมีบลัชออนอีก 4 สี ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งเนื้อกลิตเตอร์ไปจนถึงเนื้อแมตต์ (1,400 บาท) 

 

 

Kiehl’s: Give Merry Give Kiehl’s 

ปีนี้แบรนด์ Kiehl’s ส่งท้ายปีให้แฟนๆ ของแบรนด์ได้สนุกไปกับเกมชิงรางวัลที่หลากหลายในหน้าเพจ รวมถึงการเปิดตัว Holiday Collection 2019 ปีนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะรวมเอาไอเท็ม Customer Favorites หรือชิ้นเด็ดที่ลูกค้ารักมาจัดทำเป็นไอเท็มลิมิเต็ดเอดิชัน เช่น ครีมดังอย่าง Ultra Facial Cream และ Calendula Hercal-Extract Toner ภาพสวยๆ ที่กลายเป็นลวดลายในแพ็กเกจจิ้งใหม่เป็นฝีมือของ Janine Rewell ศิลปินคนดังที่เคยออกแบบงานเจ๋งๆ และร่วมงานกับแบรนด์ Adidas มาแล้ว ครั้งนี้มาออกแบบลวดลายให้ Kiehl’s ดูพิเศษกว่าเดิม 

 

 

Becca: New Exclusive 

หนึ่งในของขวัญที่น่าจะถูกใจผู้รับสุดๆ หนีไม่พ้นไอเท็ม Pop Goes the Glow Champagne Pop Face & Eye Palette (Limited Edition) พาเลตต์นี้ที่คุ้มค่าการใช้งาน ทั้งแต่งตา ใช้เป็นไฮไลต์ หรือใช้เป็นอายแชโดว์ได้เลย แน่นอนว่าสี Champagne Pop ที่เป็นรุ่นขายดีที่สุดของแบรนด์ Becca ถูกนำมารวมอยู่ในรุ่นพิเศษส่งท้ายปี พร้อมกับ 2 เฉดสีใหม่อย่าง Pink Cream แลพ Truffle ส่วนเนื้อซาตินมี 2 เฉดสีสวยอย่าง Berry และ Caramel งานนี้ไม่ว่าจะซื้อให้ตัวเองหรือมอบเป็นของขวัญก็ฟินกันทั้งคู่ (1,530 บาท) 

 

 

ภาพ: Courtesy of Brands 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post Beauty List: รวมพล Beauty Holiday Set สุดคุ้มของแบรนด์ที่จัดเต็มปีละครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบรนด์ความงามปรับตัวอย่างไรเพื่อช่วยรักษ์โลก และคุณก็ทำได้เช่นกัน https://thestandard.co/beauty-environmental-impact-sustainability/ Tue, 28 May 2019 09:01:12 +0000 https://thestandard.co/?p=254743

จากปัญหาฝุ่นพิษและมลภาวะซึ่งกระทบทั้งความงาม สุขภาพกายแ […]

The post แบรนด์ความงามปรับตัวอย่างไรเพื่อช่วยรักษ์โลก และคุณก็ทำได้เช่นกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>

จากปัญหาฝุ่นพิษและมลภาวะซึ่งกระทบทั้งความงาม สุขภาพกายและใจที่ผ่านมา น่าจะทำให้หลายคนตระหนักได้แล้วว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด เราจึงอยากชวนผู้อ่าน THE STANDARD มาสำรวจแนวทางรักษ์โลกในแวดวงความงาม พร้อมทบทวนดูว่าในแต่ละวันเราจะช่วยดูแลโลกได้อย่างไรบ้าง เพราะอย่างน้อยจุดเริ่มต้นเล็กๆ ก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

 

ในโลกความงามที่ฉากหน้าเราพูดถึงและสัมผัสแต่เรื่องสวยๆ งามๆ นั้น หารู้ไม่ว่าหลังม่านนั้นกลับมีส่วนสร้างมลภาวะและขยะให้แก่โลกใบนี้ และดึงดูดทรัพยากรธรรมชาติไปใช้ไม่น้อย

 

Photo: Into the Gloss

 

องค์กร Zero Waste รายงานว่าแต่ละปีอุตสาหกรรมความงามสร้างขยะจากแพ็กเกจจิ้งต่างๆ ออกมามากกว่า 1.2 แสนล้านชิ้น แถมส่วนใหญ่ยังเป็นขยะที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ทว่าโชคดีที่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ แบรนด์ความงามไม่ว่าจะเล็ก ใหญ่ แมส ลักชัวรี ตลอดจนสายธรรมชาติ หรือสายวิทยาศาสตร์ ต่างกำลังมุ่งดำเนินการรักษ์โลกอย่างยั่งยืนและจริงจังกว่าที่เราคิด

 

นอกจากการออกแคมเปญรณรงค์สร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคอย่างการสะสมขวดเปล่าเพื่อนำมาแลกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือออกไอเท็มพิเศษที่นำรายได้ไปสมทบทุนองค์กรสิ่งแวดล้อมแล้ว เบื้องหลังนั้นแต่ละแบรนด์ใส่ใจตั้งแต่การเลือกเฟ้นวัตถุดิบ ส่วนผสมที่มีที่มาที่ไปโปร่งใส ไม่เป็นสารอันตราย ปลูกหมุนเวียน และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การใช้แพ็กเกจจิ้งที่รีไซเคิลได้หรือย่อยสลายเองได้ ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สะอาดขึ้น การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ใช้น้ำน้อยลง และหันมาใช้พลังงานทางเลือกจากลมและแสงแดดแทน เป็นต้นว่าเมื่อการลดน้ำหนักผลิตภัณฑ์จะช่วยลดน้ำหนักการขนส่งได้ นั่นหมายถึงลดปริมาณเชื้อเพลิงที่ต้องใช้ ส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง

 

 

Photo: Lush

 

หลายแบรนด์จึงมุ่งเน้นจุดนี้ และแม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับลักชัวรีแบรนด์ที่มักใช้บรรจุภัณฑ์แก้วหรือโลหะหนักๆ เพื่อตอกย้ำความหรูหรา มีราคา ทว่าแบรนด์ดังอย่าง Guerlain ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าน้ำหนักไม่ใช่ปัญหา เพราะไลน์ Orchidee Imperiale โฉมใหม่นั้นปรับบรรจุภัณฑ์หลักให้เบาลง หรือ Dior ที่เน้นความหรูหราก็ปรับบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์บางชิ้นในไลน์ L’Or de Vie, Prestige, Capture Totale ให้เป็นแบบแบบรีฟิลได้ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ นั้นก็งดการใช้กระดาษกันกระแทกด้านในอีกชั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการใช้กระดาษ รักษาปริมาณต้นไม้แล้ว ยังส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยามขนส่งไปได้กว่าครึ่ง

 

ในแง่ของผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยข้อมูลจาก Mintel องค์กรสำรวจเทรนด์ทั่วโลก สรุปไว้ว่ากระแสความงามแบบรักษ์โลกนั้นสอดคล้องไปกับพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภควัยมิลเลนเนียลที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พวกเขาปรารถนาที่จะทำให้โลกดีขึ้น สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และมีแนวโน้มสนับสนุนแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โปร่งใส มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจมากกว่า

 

“ผู้บริโภคยุคนี้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย แบรนด์จึงต้องเปิดเผยเข้าไว้ เพราะคนที่ใส่ใจจริงๆ ตั้งแต่ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์มักจะหาข้อมูล บางคนคิดมาเลยว่าใช้เสร็จแล้วสิ่งนั้นจะกลายเป็นขยะแบบไหน” โรเวนา เบิร์ด ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Lush ผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติให้ความเห็น

 

Photo: Psychologies.co.uk

 

ถึงจุดนี้ สำหรับสาวกบิวตี้ชาวไทยที่อยากจะเบนเข็มมาสวยรักษ์โลกบ้าง โรเวนาแนะนำทิปส์เบื้องต้นว่าให้เริ่มจากการปรับทัศนคติก่อน “ถ้าทุกคนคิดที่จะดูแลโลกเหมือนที่เราหมั่นดูแลผิวของเรา โลกจะต้องน่าอยู่ขึ้นแน่ๆ”

 

นอกจากนี้ลองเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว เช่น ควรลดการใช้ผลิตภัณฑ์แบบครั้งเดียวทิ้ง มองหาผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ ใช้ได้หลายครั้ง หรือทำหน้าที่ได้หลายอย่างในชิ้นเดียว จากนั้นค่อยขยับไปถึงการหาข้อมูล หัดอ่านฉลาก ศึกษาตราต่างๆ ที่ช่วยรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะได้เก็บเป็นข้อมูลเวลาเลือกซื้อ และอย่าลืมสนับสนุนแบรนด์ที่ทำดี จะได้เป็นกำลังใจให้ผู้ผลิตด้วย

 

ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกเหล่านี้ช่วยโลกอย่างไรบ้าง ไปดูกัน

หลังจากไปค้นข้อมูลมาบ้างแล้ว เราขอแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของแบรนด์ที่มีมาตรการรักษ์โลกต่อไปนี้ไว้เป็นไอเดียการจับจ่ายผลิตภัณฑ์ความงามครั้งหน้า รับรองว่าคุณจะภูมิใจกับก้าวเล็กๆ ที่ได้มีส่วนช่วยโลกสีเขียวของเรา

 

 

1. Aveda แบรนด์ความงามแรกๆ ที่เปลี่ยนมาใช้พลังงานลมในการผลิตทั้งหมด นอกจากนี้ยังเป็นผู้ซื้อส่วนผสมออร์แกนิกรายใหญ่ของโลก และแพ็กเกจจิ้งส่วนใหญ่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล รวมถึงแต่ละปีจะมีแคมเปญ Light The Way ออกเทียนหอมรุ่นพิเศษที่นำรายได้ไปสนับสนุนองค์กรที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

 

2. Amore Pacific เครือความงามยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลี เจ้าของแบรนด์ เช่น Sulwhasoo, Innisfree, Mamonde วางมาตรการผลิตพร้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มานานนับสิบปี แถมยังสร้างสวนพืชออร์แกนิก Osulloc Tea Garden ที่เกาะเชจู ซึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึง 900 ตันต่อปี หรืออย่างแบรนด์ Innisfree จะมีการรีไซเคิลแพ็กเกจจิ้งผ่าน Empty Bottle Recycling Campaign โดยกระตุ้นให้ผู้ซื้อนำขวดเปล่ามาคืนที่ร้าน

 

3. Neal’s Yard Remedies ใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วสีน้ำเงินที่รีไซเคิลได้ และขวดแบบพลาสติกที่รีไซเคิลได้ 100% เช่นกัน ทั้งยังมีแคมเปญลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง

 

4. Tata Harper ใช้บรรจุภัณฑ์แก้วแบบรีไซเคิลได้ และใช้หมึกย่อยสลายได้ตามธรรมชาติแบบ Soy Ink หรือหมึกถั่วเหลืองบนฉลาก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม โดยกระดาษที่พิมพ์ด้วยหมึกธรรมชาตินี้จะนำไปรีไซเคิลได้ถึง 80% ในขณะที่หมึกเคมีทั่วไปจะรีไซเคิลได้เพียง 30%

 

5. Davines แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่นอกจากจะใช้ส่วนผสมธรรมชาติแล้วยังเปลี่ยนมาใช้พลังงานทางเลือกในการผลิตด้วย เพื่อลดปริมาณขยะและก๊าซเรือนกระจก

 

 

6. Clean แบรนด์น้ำหอมจากส่วนผสมธรรมชาติที่ได้มาโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ผลิตโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และบรรจุภัณฑ์ทำจากวัสดุที่รีไซเคิลได้

 

7. The Body Shop แบรนด์ที่ริเริ่มการจัดหาส่วนผสมอย่างเป็นธรรม ไม่ทำการทดลองในสัตว์ และใช้แพ็กเกจจิ้งรีไซเคิลได้ ล่าสุดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งอย่างมาสก์ชีตนั้น ทางแบรนด์เลือกใช้มาสก์แบบ Veocel มารังสรรค์เป็น Youth Concentrate Sheet Mask แผ่นมาสก์หน้าแบบธรรมชาติที่ย่อยสลายเองได้ และทำด้วยไม้จากป่าที่มีการปลูกทดแทนได้ หลังจากใช้แผ่นมาสก์นี้แล้วสามารถทิ้งในถังหมักที่บ้านร่วมกับขยะอินทรีย์อื่นๆ ได้ เพราะจะย่อยสลายเมื่อเวลาผ่านไปโดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อม

 

8. Kiehl’s นอกจากสนับสนุนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ และมีผลิตภัณฑ์บางรุ่นที่รีไซเคิลและย่อยสลายเองได้แล้วนั้น ยังสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหัดรีไซเคิลผ่านนโยบายสะสมขวดเปล่าแล้วนำมาแลกสินค้าขนาดเดินทางไปใช้

 

9. YSL แบรนด์ความงามสุดหรูบอกว่าแม้หรูหราก็ช่วยรักษ์โลกได้ โดยเริ่มนำรีฟิลมาใช้ในผลิตภัณฑ์ Or Rouge La Crème ที่มาในกระปุกแก้ว ใช้ได้ยาวนาน เพราะเมื่อใช้หมดก็ซื้อเฉพาะรีฟิลที่บรรจุครีมมาเปลี่ยน

 

10. Yves Rocher เริ่มปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เป็นแบบรีฟิลมากขึ้นเพื่อลดการใช้พลาสติกและสร้างขยะ เช่น เจลล้างมือแบบซองรีฟิล เมื่อเทียบกับการซื้อขวดใหม่แล้วจะช่วยลดการใช้พลาสติกในการผลิตได้กว่า 77%

 

 

11. Jurlique นอกจากเพาะปลูกส่วนผสมแบบ Biodynamic ที่ไร้สารเคมีและใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลแล้ว ยังตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2020 จะลดการปล่อยก๊าซเสีย ลดการใช้น้ำ และลดการสร้างขยะให้ได้อีก 20%

 

12. Bulldog กรูมมิ่งแบรนด์ของหนุ่มๆ ใช้พลาสติกทางเลือกที่ทำจากน้ำตาลอ้อย ซึ่งย่อยสลายได้ง่ายและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมาทำแพ็กเกจจิ้ง

 

13. Panpuri แบรนด์ไทยที่ประกาศมุ่งไปทาง Clean Beauty นำร่องด้วย Zero List รายการสารต้องห้ามกว่า 2,300 รายการซึ่งทางแบรนด์จะไม่ใช้ในผลิตภัณฑ์ เพราะเกรงว่าจะส่งผลร้ายต่อทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ตัวแพ็กเกจจิ้งยังรีไซเคิลได้ กล่องทำจากกระดาษที่ได้จากไม้ที่ปลูกแบบทดแทน และข้อมูลต่างๆ พิมพ์ด้วยหมึก Soy Ink เท่านั้น

 

14. Lush ผลิตภัณฑ์สายธรรมชาติ เน้นคัดสรรวัตถุดิบจากฟาร์มที่เพาะปลูกแบบหมุนเวียนและซื้อขายอย่างเป็นธรรม นอกจากนี้ 35% ของผลิตภัณฑ์จะเป็น Naked Packaging คือไม่ห่อหุ้มเลย และเวลาซื้อจะใช้ผืนผ้าหรือแผ่นกระดาษรีไซเคิลห่อไป เช่น สบู่ก้อน มาสก์ แชมพูแบบแท่ง ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ใช้บรรจุภัณฑ์แบบรีไซเคิลได้

 

15. Burt’s Bees ลดการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ เน้นกระบวนการผลิตที่ประหยัดพลังงาน และใช้ระบบออสโมซิสเพื่อนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ตั้งแต่ปี 2010 รวมทั้งแต่ละปีจะมีแคมเปญระดมเงินทุนเพื่อปกป้องผึ้งและส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน

 

 

ภาพประกอบ: Preawwoo

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

 

 

 

The post แบรนด์ความงามปรับตัวอย่างไรเพื่อช่วยรักษ์โลก และคุณก็ทำได้เช่นกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
5 แบรนด์ความงามออกคอลเล็กชันพิเศษสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ https://thestandard.co/5-beauty-brands-special-collections-lgbtq/ https://thestandard.co/5-beauty-brands-special-collections-lgbtq/#respond Thu, 14 Jun 2018 10:04:51 +0000 https://thestandard.co/?p=97623

หลายคนรับรู้ว่าเดือนมิถุนายนเป็นเดือน Pride ผู้คนจากทั่ […]

The post 5 แบรนด์ความงามออกคอลเล็กชันพิเศษสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลายคนรับรู้ว่าเดือนมิถุนายนเป็นเดือน Pride ผู้คนจากทั่วโลกที่ให้การสนับสนุนกลุ่มคนข้ามเพศจะรวมตัวกันออกมาเคลื่อนไหวผ่านขบวนพาเหรดสีรุ้งสดใสไปตามเมืองต่างๆ ในแต่ละประเทศ แม้แต่ในแวดวงความงามก็มีการเคลื่อนไหวเพื่อกลุ่ม LGBTQ เช่นกัน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ Sephora อเมริกาก็ประกาศเตรียมเปิดสอนแต่งหน้าฟรีให้กลุ่มคนข้ามเพศ ล่าสุด 5 แบรนด์ดังอย่าง Burt’s Bees, Milk Makeup, Kush Queen, Make Up For Ever และ RealHer กลายเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนข้ามเพศ โดยผลิตเครื่องสำอางไอเท็มพิเศษขึ้นมาเพื่อนำรายได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปร่วมสมทบทุนให้กับองค์กร LGBTQ และกองทุนที่สนับสนุนสิทธิมนุษยชนและภาคการศึกษาต่างๆ สำหรับเยาวชน

 

หากผู้อ่านอยากมีส่วนร่วมในการสมทบทุนผ่านการซื้อเครื่องสำอางสักชิ้น ลองพิจารณา 9 แบรนด์เหล่านี้ดูสิ มันเป็นวิธีการแสดงออกเล็กๆ แต่เราเชื่อว่ามีความหมายสำหรับกลุ่ม LGBTQ ไม่น้อยทีเดียว

 

 

Pride Burt’s Bees Rainbow Assorted Lip Balm (17 เหรียญสหรัฐ)

ใครยังไม่เคยใช้ลิปบาล์มของ Burt’s Bees ถึงเวลาได้ลองของใหม่กันแล้วกับลิปบาล์มใหม่ล่าสุดที่ดีไซน์เป็นสีรุ้งแสนสวย บอกเลยว่ารุ่นนี้มาแรงมาก วัดจากสถิติที่ขายได้ 1 หลอดทุกๆ 3 วินาที โดยรายได้จากการขายลิปสติกคอลเล็กชันนี้จะสมทบทุนเข้าโครงการ The Gay Lesbian and Straight Education Network ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร และเป็นหนึ่งในองค์กรที่พยายามสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับกลุ่มคนข้ามเพศและนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนของรัฐ

 

 

Milk Makeup Limited Edition Pride Pack (28 เหรียญสหรัฐ)

นอกจาก Milk Makeup จะเป็นแบรนด์ที่ประกาศตัวเป็นแบรนด์สายวีแกน 100% แล้วยังเป็นแบรนด์ที่ร่วมสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ ด้วยเช่นกัน ล่าสุดผลิตเซตลิมิเต็ดเอดิชันที่รวมไว้ทั้งลิปกลอสและแทตทูไลเนอร์ให้ใช้งานควบคู่กัน ส่วนรายได้ 50% จากยอดขายจะถูกส่งเข้ากองทุน The Lesbian, Gay, Bisexual & Transgender Community Center (The Center) ในกรุงนิวยอร์ก

 

 

Kush Queen Pride Bath Bomb (13 เหรียญสหรัฐ)
แค่แช่น้ำและใช้บาธบอมบ์หอมๆ อย่าง Kush Queen Pride Bath Bomb ก็มีส่วนได้ร่วมบริจาคเงินสนับกลุ่ม LGBTQ และรายได้ส่วนหนึ่งยังถูกส่งเข้าโครงการที่ช่วยสร้างประโยชน์ให้ชุมชนอีกด้วย คุณสมบัติเด็ดของบาธบอมบ์ทำมาจากน้ำมันหอมระเหยออร์แกนิก น้ำมันกัญชา และสีผสมอาหารจากธรรมชาติที่ไม่ทำให้อ่างอาบน้ำเปื้อนสีด้วย

 

 

Make Up For Ever Artist Color Pencil (18 เหรียญสหรัฐ)
เป็นแบรนด์เมกอัพที่เล่นใหญ่ไฟกะพริบมาก เมื่อออกอายไลเนอร์รวดเดียว 39 สี เป็นได้ทั้งอายไลเนอร์ ใช้เขียนคิ้ว ระบายสีให้พวงแก้ม และใช้กับริมฝีปากได้ด้วย คอลเล็กชันนี้มีส่วนร่วมกับสถาบัน Hetrick-Martin ของนิวยอร์ก ซึ่งสนับสนุนเยาวชนและกลุ่ม LGBTQ  

 

 

RealHer Eye Am Outstanding (16 เหรียญสหรัฐ)
แบรนด์ RealHer อาจไม่เป็นที่รู้จักในไทย แต่ต้องให้เครดิตการเป็นแบรนด์ความงามที่สนใจกระแสสังคมและสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ ด้วยการแบ่ง 20% ของรายได้จากการขายอายไลเนอร์ RealHer Eye Am Outstanding สมทบทุนเข้าโครงการ LGBT Center of Orange County

 

Photo: Courtesy of Brands

The post 5 แบรนด์ความงามออกคอลเล็กชันพิเศษสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/5-beauty-brands-special-collections-lgbtq/feed/ 0