ย้อนกลับไปในเกมที่โรงละครแห่งความฝันเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หนึ่งในคู่ประชันที่น่าดูที่สุดคือการพบกันระหว่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และ บรูโน แฟร์นันด์ส สองดารานำของยี่เกต่างวิกที่เป็นผู้นำและความหวังของคนร่วมคณะ

ที่ผ่านมาก็เคยมีการเปรียบเทียบฝีเท้าและชั้นเชิงการเล่นกันอยู่บ้าง แต่การพบกันครั้งล่าสุดที่ผ่านมามีน้ำหนักความสำคัญที่มากกว่า เพราะต่างต้องแบกรับทีมที่ประสบปัญหาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา และผลการแข่งขันที่โอลด์แทรฟฟอร์ดมีความหมายอย่างมากสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาล

ผลการประชันปรากฏว่า พ่อหนวดครึ้ม บรูโน แฟร์นันด์ส เป็นฝ่ายชนะ ได้รับเสียงปรบมือและพวงมาลัยอย่างล้นหลามจากผู้ชม ทิ้งให้พ่อหน้ามน มาร์ติน โอเดการ์ด ต้องชอกช้ำระกำทรวงและกลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง

มันมีบางอย่างที่แตกต่างกันอยู่ระหว่างทั้งสองคน

ประสาคนรักเกมลูกหนัง หนึ่งในเรื่องที่เราคุยกันได้สนุกเสมอคือการ ‘ขิง’ กันว่านักเตะคนไหน (ที่เราชอบ) ใครเก่งกว่ากัน

ระหว่างแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับอาร์เซนอล ก็มีการพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติเหมือนกันในการจับคู่กันของ บรูโน แฟร์นันด์ส กับ มาร์ติน โอเดการ์ด ซึ่งนอกจากทั้งคู่จะเป็นกัปตันทีมด้วยกันแล้ว ต่างก็เป็นนักเตะในบท ‘เพลย์เมกเกอร์’ ซึ่งถือเป็นคนสำคัญอย่างยิ่งยวดของทีม

เพลย์เมกเกอร์ที่เป็นกัปตันทีมด้วยในเกมฟุตบอลสมัยใหม่นั้นเป็นของที่หาได้ยากแล้ว ไม่เหมือนในอดีตที่นักเตะในบทบาทประมาณนี้มักจะเป็นผู้นำของทีม เพราะคนจะเล่นบทตรงนี้ได้ย่อมเป็นคนที่ต้องเก่งที่สุดในทีม

ระหว่างบรูโนกับโอเดการ์ด ทั้งคู่มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ไม่ใช่แค่เรื่องของตำแหน่งและบทบาทการเล่น แต่รวมถึงสไตล์การเล่นและบุคลิก

สำหรับสตาร์ชาวโปรตุเกส บทบาทที่ถนัดที่สุดคือการเล่นในแบบ ‘หมายเลข 10’ ตัวทำเกมหลักที่มีอิสระในการขับเคลื่อนเกม

สิ่งที่ทำให้บรูโนมีความพิเศษมากกว่าตัวทำเกมคนอื่นคือการที่เขามีเท้าขวาที่ฉมังเดช นอกจากจะเตะได้อย่างหนักหน่วง ก็ยังสามารถใส่ลูกเล่นเพิ่มเข้าไปในการเตะได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของการยิงประตูแต่รวมถึงการเปิดบอล

ถ้าเป็นวันที่เข้าฝัก ใครก็ยากจะหยุดบรูโนได้

ขณะที่โอเดการ์ดไม่ได้เล่นในบทตัวทำเกมหมายเลข 10 แบบคลาสสิก เพราะตามระบบและสไตล์การเล่นของอาร์เซนอล กัปตันทีมชาวนอร์เวย์จะเล่นในแบบของ ‘หมายเลข 8’ เป็นมิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกมจากแดนกลางและเชื่อมการเล่นให้ทั้งทีม

ความสามารถพิเศษของเขาคือการเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหวเหมือนสายน้ำ สายตาที่มองเห็นช็อตการเล่นล่วงหน้าและเท้าซ้ายที่เหมือนพกตาชั่งติดตัว ออกบอลแต่ละครั้งน้ำหนักจะพอดีเสมอ

ที่สำคัญคือความขยันทุ่มเท วิ่งพล่านไปทั่วสนามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย 

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาทั้งคู่โดนวิพากษ์หนักไม่น้อยจากทั้งสื่อและแฟนบอลของทีมตัวเอง

บรูโนโดนถล่มอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากคนในวงการด้วยกันเองอย่าง สตีเฟน วอร์น็อก อดีตนักเตะลิเวอร์พูลที่ปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ให้กับ Sky Sports รวมถึง รอย คีน อดีตกัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ออกมาสับเป็นชิ้นๆ ประหนึ่งข้าวมันไก่สิงคโปร์

ข้อหาของสตาร์โปรตุเกสคือเขาเป็นผู้นำที่ดูไม่น่ารัก ไม่ใช่ผู้นำในแบบอุดมคติ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเป็นคนนิสัยดีมีไมตรีกับคนอื่นไปทั่ว แต่เป็นผู้นำที่ใช้การกระทำเป็นตัวอย่าง ผู้นำที่พยายามทำให้ทีมเดินหน้าต่อไป ผู้นำที่จะไม่สร้างบรรยากาศแย่ๆ จนทำให้คนอื่นพาลจะไม่อยากเล่นด้วย

เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัญหาของบรูโนมายาวนาน เขาเจอคำวิจารณ์เรื่องนี้มาโดยตลอด

ในขณะที่โอเดการ์ด แม้จะเป็นผู้นำในรูปแบบที่แตกต่างกัน บุคลิกใสๆ ไม่เหลี่ยม ไม่ตุกติกมากมาย แต่สถานการณ์ลำบากของอาร์เซนอล ทำให้แฟนบอล Gooners ก็เริ่มตั้งคำถามถึงกัปตันของพวกเขาเหมือนกันว่าตกลงแล้วเก่งพอจะช่วยอะไรทีมได้มากกว่านี้ไหม

นั่นเพราะอาร์เซนอลมีปัญหาขาดแคลนผู้เล่นในตัวรุก ถึงขนาดที่ต้องขยับเอา ไมเคิล เมริโน มิดฟิลด์ตัวห้องเครื่องขึ้นไปยืนเป็นศูนย์หน้าชั่วคราวแล้ว แต่แฟนบอลก็คาดหวังว่าคนที่มีทักษะการเล่นเป็นเลิศอย่างโอเดการ์ดจะพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในเกม และนำพาชัยชนะมาสู่ทีมให้ได้

เหมือนในช่วงหนึ่งที่เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ข้อเท้าต้องหายหน้าหายตาไปหลายเดือน ที่ทำให้ผลงานของอาร์เซนอลสะดุดอย่างมีนัยสำคัญ แต่สุดท้ายพอกลับมากลับกลายเป็นว่าโอเดการ์ดยิ่งเล่นก็ยิ่งดูดร็อปลงไปจากมาตรฐานที่เคยทำได้ในฤดูกาลก่อนๆ

คำถามนั้นเริ่มลามไปถึงอาร์เซนอลควรจะหาคนที่ดีกว่านี้เข้ามาเป็นผู้นำทั้งในเกมรุกและนำทีมไหม?

ตรงนี้เองที่ทำให้การเจอกันของบรูโนและโอเดการ์ดในเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดน่าสนใจ โดยที่เราพอจะได้คำตอบบางอย่าง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่ทำได้ดีกว่าในเกมนี้คือหมายเลข 8 ของแมนฯ ยูไนเต็ด

บรูโน แฟร์นันด์ส ไม่ได้แค่เป็นผู้ทำประตูสำคัญให้ปีศาจแดงขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งแรกจากลูกฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ ซึ่งแม้ว่าระยะการตั้งกำแพงจะมีปัญหาอยู่บ้างแต่ลูกยิงของเขาที่ปั่นโค้งข้ามกำแพงก่อนฮุกเข้าเสียบตาข่ายนั้นเป็นการยิงที่สวยสดและงดงามอย่างยิ่ง

ที่สำคัญกว่าคือมันเป็นประตูที่สร้างความแตกต่างให้กับเกมได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บรูโนทำให้ทีมและแฟนบอลได้เสมอโดยเฉพาะในเกมใหญ่นัดสำคัญที่เขาพร้อมจะยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ

ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงครึ่งหลังยังมีโอกาสเกือบจะเป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมได้ด้วยหากดาวิด รายา จะไม่สปริงข้อเท้ากลับไปปัดบอลทิ้งได้ทันเวลาก่อนลูกจะข้ามเส้น และยังมีส่วนกับการสร้างเกมรุกทำอันตรายแนวรับของอาร์เซนอลได้บ่อยครั้ง

แม้ว่าในบางครั้งมันจะเป็นการเล่นที่เสี่ยงหรือมุทะลุไปนิดก็ตาม

ภาพนั้นแตกต่างจากกรณีของโอเดการ์ดที่ตลอดทั้งเกมแม้จะพยายามแล้วที่จะสร้างสรรค์เกมและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีม 

แต่มันมีหลายครั้งในเกมที่สตาร์ชาวนอร์เวย์ ที่เพิ่งทำ 2 ประตูในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เหมือนติดหล่มในรูปแบบการเล่นของตัวเองที่มักจะห่วงการเล่นในแบบปลอดภัยไว้ก่อน เลือกจะม้วน วน หรือจ่ายกลับคืนให้เพื่อน มากกว่าที่จะพยายามแหวก ตะลุย ฝ่าดงนักเตะยูไนเต็ด หรือหาวิธีจ่ายเพื่อฉีกแนวรับให้เป็นริ้วๆในแบบที่เขาเคยทำได้

เรื่องนี้ทำให้คิดถึงหนึ่งในประเด็นของโอเดการ์ดที่รวมถึงอาร์เซนอลในฤดูกาลนี้คือพวกเขาพยายามเล่นแบบลดความเสี่ยง (Risk-Averse) มากเกินไปหรือเปล่า

เล่นเหมือนกลัวจะพลาด เล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อนจนเกินไป จนกลายเป็นค่อยๆลืมอิสระในการเล่นที่เคยเป็นจุดเด่นของทีม

จริงอยู่ที่ต้องเข้าใจในปัญหาใหญ่ของอาร์เซนอลซึ่งขาดแกนหลักในแนวรุกไปจนเกือบหมด สถานการณ์แบบนี้โคตรทีมที่ไหนเจอกับลำบากเหมือนกันทั้งนั้นและอาจจะยับเยินกว่าด้วย

เพียงแต่มันก็วกกลับไปถึงคำถามใหญ่ของเรื่องอยู่ดี

ว่าในยามวิกฤตคับขันแบบนี้ ถ้าเลือกได้เราจะอยากได้ผู้นำทีมในแบบ บรูโน แฟร์นันด์ส หรือ มาร์ติน โอเดการ์ด มากกว่ากัน?

จอมโวยเลือดเดือดที่พร้อมเดินหน้าและท้าชน

กับจอมนิ่งที่สุขุมเยือกเย็นจนอาจจะเย็นเกินไป

จริงอยู่ที่เราไม่ควรจะตัดสินทุกอย่างจากเกมนัดเดียว เพราะมันก็อาจเป็นแค่เกมหนึ่งและหนึ่งวันที่บรูโนทำได้ดีกว่า แต่หากตั้งคำถามชั่งน้ำหนักหัวใจของตัวเองดีๆ สิ่งที่ได้เห็นจาก 90 นาทีกว่าๆที่โอลด์แทรฟฟอร์ดก็พอจะชวนให้คิดและตั้งคำถามสนุกๆกันได้

แต่ถ้าให้เลือกคำตอบที่ดีที่สุดจริงๆ

บางทีจับทั้งคู่มาผสมกันแล้วหารสองก็น่าจะเข้าท่าดี ว่าไหมครับ?

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/sport/football/articles/c4g0wql2vn5o 
• https://tbrfootball.com/rio-ferdinand-names-where-man-uniteds-bruno-fernandes-is-definitely-better-than-arsenals-martin-odegaard/

The post ในความแตกต่างระหว่าง มาร์ติน โอเดการ์ด กับ บรูโน แฟร์นันด์ส appeared first on THE STANDARD.

หลังเกิดเป็นกระแสดราม่าในกลุ่มแฟนบอลที่แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับภาษากายของ บรูโน แฟร์นันด์ส ที่แสดงออกในช่วงท้ายเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกพ่ายลิเวอร์พูล 0-7 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

วานนี้ (8 มีนาคม) เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมยูโรปาลีกถึงกรณีดังกล่าวว่า บรูโน แฟร์นันด์ส ในฐานะกัปตันทีม เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับทีมมาเสมอ และเชื่อว่าทุกคนต่างทำผิดพลาดกันได้ พร้อมยืนยันว่ามิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสจะยังคงเป็นกัปตันทีมต่อไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ปลดบรูโนออกจากการเป็นกัปตันทีมก็ตาม

“เขากำลังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เขามีบทบาทสำคัญในการทำให้เราอยู่ในจุดที่เราอยู่ (อันดับตารางคะแนน และสถานการณ์ลุ้นแชมป์ต่างๆ) เขามักจะมอบพลังงานให้กับทีมเสมอ

“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนผิดพลาดกันได้ ผมมีความสุขมากที่มี บรูโน แฟร์นันด์ส อยู่ในทีม เขาคือกัปตันของเรา ในวันที่ แฮร์รี (แม็กไกวร์) ไม่ได้อยู่ในสนาม

“เราจะสนับสนุนเขาต่อไป เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เราจะไม่อยู่ในจุดที่เราอยู่หากที่ผ่านมาเขาไม่ได้เล่นอย่างทุ่มเทเพื่อเรา” เทน ฮาก กล่าว

สำหรับนัดต่อไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนเรอัล เบติส ในศึกยูฟ่ายูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนนี้ (10 มีนาคม) เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง beIN SPORTS 3

The post เทน ฮาก เผย ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ยืนยัน บรูโน ทำหน้าที่กัปตันต่อไป หลังถูกวิจารณ์เรื่องภาษากายเกมพ่ายลิเวอร์พูล appeared first on THE STANDARD.

วันนี้ (11 พฤศจิกายน) แฟร์นานโด ซานโตส ผู้จัดการทีมของทีมชาติโปรตุเกส ประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติ 26 คนลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ซึ่งยังคงนำทีมโดยสองผู้เล่นตัวเก๋าจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด และ บรูโน แฟร์นันด์ส 

โดยรายชื่อผู้เล่นทีมชาติโปรตุเกสในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ประกอบไปด้วย

ผู้รักษาประตู

ดิเอโก คอสตา (เอฟซี ปอร์โต), รุย ปาตริซิโอ (โรมา), โชเซ ซา (วูล์ฟแฮมป์ตัน)

กองหลัง

ดิโอโก ดาโลต์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), ชูเอา คันเซโล (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), รูเบน ดิอาส (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), ราฟาเอล เกร์เรโร (ดอร์ทมุนด์), อันโตนิโอ ซิลวา (เบนฟิกา), เปเป้ (เอฟซี ปอร์โต), นูโน เมนเดส (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง), ดานิโล เปเรยรา (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง) 

กองกลาง

ชูเอา ปาลินญา (ฟูแลม), รูเบน เนเวส (วูล์ฟแฮมป์ตัน), แบร์นาร์โด ซิลวา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), บรูโน แฟร์นันด์ส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), ชูเอา มาริโอ (เบนฟิกา), มาเตอุส นูเนส (วูล์ฟแฮมป์ตัน), โอตาวิโอ (เอฟซี ปอร์โต), วิตินญา (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง), วิลเลียม คาร์วัลโญ (เรอัล เบติส)

กองหน้า/แนวรุก

อังเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), คริสเตียโน โรนัลโด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), กอนซาโล รามอส (เบนฟิกา), ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด), ริคาร์โด ออร์ตา (บราก้า), ราฟาเอล เลเอา (เอซี มิลาน)

สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติโปรตุเกสถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม H ร่วมกับกานา, อุรุกวัย และเกาหลีใต้

โดยมีคิวลงประเดิมสนามนัดแรกกับกานาในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2022 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

The post โรนัลโด-บรูโน นำทัพ! โปรตุเกสประกาศ 26 นักเตะลุยฟุตบอลโลกที่กาตาร์ appeared first on THE STANDARD.

โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า บรูโน แฟร์นันด์ส กองกลางตัวทำเกมคนสำคัญมีโอกาสที่จะพลาดการลงสนามในเกมแดงเดือดวันอาทิตย์นี้กับลิเวอร์พูล หลังได้รับบาดเจ็บจากนัดล่าสุด

ก่อนหน้าที่จะถึงเกมยักษ์ชนยักษ์ของวงการฟุตบอลอังกฤษในวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมนี้ ทางด้านโซลชาร์ออกมาเปิดเผยสภาพความพร้อมของทีม ซึ่งมีข่าวไม่สู้ดีนักว่ามีผู้เล่น 2-3 รายที่อาจจะไม่สามารถลงเล่นในเกมนี้ได้เนื่องจากสภาพความฟิตมีปัญหา ซึ่งเป็นผลกระทบจากเกมที่พลิกสถานการณ์กลับมาชนะอตาลันตาได้ 3-2 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

โดยหนึ่งในนักเตะที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าบาดเจ็บคือ บรูโน แฟร์นันด์ส ซึ่งผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ก็ยืนยันว่ากองกลางคนสำคัญที่สุดของทีมมีปัญหาอาการบาดเจ็บจริง และพยายามจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กลับมาลงแข่งในนัดนี้ให้ได้

“เกมแบบเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (อตาลันตา, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) จะมีอาการเจ็บและแผลเกิดขึ้นเสมอ เรามี 2-3 คนที่มีปัญหาจากเกมนี้ บรูโนอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นที่ยังน่าสงสัย แต่เขาก็พยายามทำทุกอย่างที่เขาจะทำได้เพื่อให้พร้อมสำหรับการลงเล่น”

ขณะที่ทางด้าน ลิเวอร์พูล เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เปิดเผยว่า ติอาโก อัลคันทารา กองกลางจอมเก๋าชาวสเปน ยังไม่ฟิตพอจะกลับมาลงเล่นได้ในเกมนี้ แต่ในรายของ เคอร์ติส โจนส์​ กองกลางดาวรุ่งที่บาดเจ็บจากการรับใช้ทีมชาติอังกฤษชุดเล็กนั้นสามารถกลับมาลงซ้อมร่วมกับทีมได้แล้วและคาดว่าจะมีชื่อในเกมวันอาทิตย์ด้วย

อ้างอิง:

• https://www.skysports.com/football/news/11095/12441179/bruno-fernandes-ole-gunnar-solskjaer-says-man-utd-midfielder-could-be-a-doubt-for-liverpool-clash
• https://www.bbc.com/sport/football/teams/liverpool

The post โซลชาร์ เผย บรูโน อาจฟิตไม่ทันเกมแดงเดือดวันอาทิตย์นี้ appeared first on THE STANDARD.

บรูโน แฟร์นันด์ส กองกลางตัวทำเกมทีมแมนเชสเตอร์​ ยูไนเต็ด ยอมรับผิดหวังที่ทำหน้าที่สังหารจุดโทษในช่วงชี้เป็นชี้ตายพลาดจนทำให้ทีมพ่ายต่อแอสตัน วิลลา คาโอลด์แทรฟฟอร์ดในเกมพรีเมียร์ลีกวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ขอบคุณแฟนๆ ในสนามที่ยังให้กำลังใจหลังจบเกม

ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวานนี้ (25 กันยายน) แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของแอสตัน วิลลา แต่ทำผลงานได้น่าผิดหวังโดยไม่สามารถทำประตูทีมเยือนได้ และยังมาโดนทีเด็ดจากลูกโหม่งของ คอร์ตนีย์ เฮาส์ ก่อนหมดเวลาแค่ 2 นาที 

แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บรองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ซึ่ง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมเพิ่งจะออกมาบ่นเรื่องการที่ได้จุดโทษยากขึ้นหลังจาก เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลพยายามชูประเด็นขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปี มาได้จุดโทษจากจังหวะที่เฮาส์ทำแฮนด์บอล โดยเป็น บรูโน แฟร์นันด์ส มือสังหารเจ้าประจำที่รับหน้าที่เหมือนเดิม แม้ว่าจะมี คริสเตียโน โรนัลโด ที่อยู่ในทีมด้วยก็ตาม

ปรากฏว่ากองกลางที่ทำไป 4 ประตูในฤดูกาลนี้กลับสังหารจุดโทษพลาดแบบเหลือเชื่อด้วยการยิงข้ามคานออกไปไกลลิบ สุดท้ายทำให้ทีมแพ้ไปในเกมนี้ 0-1 ซึ่งหลังจบเกมแฟร์นันด์สได้ออกมาโพสต์แสดงความรับผิดชอบบนโซเชียลมีเดียของตัวเอง

“ผมเป็นคนที่พร้อมรับมือกับความรับผิดชอบของผมเสมอ และผมก็พร้อมสำหรับความกดดันในช่วงเวลาแบบนี้ วันนี้ผมทำพลาด แต่ผมจะก้าวไปข้างหน้าและพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายด้วยความทะเยอทะยานและความรับผิดชอบเหมือนเดิม เหมือนที่ผมทำในอีกหลายๆ ครั้งที่สุดท้ายบอลจะเข้าไปกองก้นตาข่ายได้

“เสียงวิจารณ์และความเห็นที่หลากหลายเป็นส่วนสำคัญของเกมฟุตบอล ผมเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมันและใช้มันเพื่อเป็นแรงผลักดันตัวเอง และผมก็คิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการทำให้ผมไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองและเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในแบบที่ผมจะเป็นได้ สำหรับทั้งผมและทีม

“วันนี้ผมทำหน้าที่ที่ผมได้รับมอบหมายมาตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับยูไนเต็ด และผมก็พร้อมจะทำหน้าที่อีกครั้งโดยปราศจากความกลัวใดๆ อย่างแน่นอนหากได้รับมอบหมายอีก

“สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือการที่เราจะชนะไปด้วยกัน และผมจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะช่วยทีมและสโมสรแห่งนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมเป็นคนที่จะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในสนามด้วยความมุ่งมั่นและหัวใจที่เต็มร้อย ผมจะพยายามทำต่อไป

“ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกคนหลังเสียงนกหวีดสุดท้าย! การได้ยินพวกคุณร้องเรียกชื่อผมในสนามมันทำให้ผมรู้สึกตื้นตันมาก ผมจะกลับมาแกร่งกว่าเดิม เพราะนี่คือมาตรฐานที่ผมยึดถือไว้ และเหนืออื่นใดคือการทำเพื่อเพื่อนร่วมทีมและแฟนๆ ที่ให้กำลังใจเสมอมา”

อย่างไรก็ดี น่าจับตามองว่าหากแมนฯ ยูไนเต็ดได้ลูกจุดโทษอีกครั้งจะมีการเปลี่ยนตัวผู้ทำหน้าที่เป็นโรนัลโด ซึ่งเป็นมือสังหารเบอร์หนึ่งมาตลอดหรือไม่

อ้างอิง:

• https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/bruno-fernandes-penalty-manchester-united-21679356

The post บรูโนยอมรับผิดหวัง แต่ขอบคุณแฟนแมนฯ ยูไนเต็ดที่ให้กำลังใจ หลังยิงจุดโทษพลาดจนทีมแพ้ appeared first on THE STANDARD.

ตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษที่ผ่านมา บรูโน แฟร์นันด์ส คือนักเตะที่ถือเป็นการซื้อที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกอย่างไม่ต้องสงสัย

จากทีมที่เต็มไปด้วยปัญหา เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สตาร์โปรตุเกสเข้ามาร่วมทัพ พวกเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็นทีมที่ดีขึ้นในทุกจุดอย่างเห็นได้ชัด จนในวันนี้มหาอำนาจอันดับหนึ่งของวงการฟุตบอลอังกฤษมาอยู่ในอันดับที่ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก

สิ่งที่น่าเสียดายคือผลงานในระยะหลังของทีมที่เริ่มดรอปลงไป ส่งผลให้ระยะห่างกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานี้อยู่ห่างกันถึง 14 แต้ม เรื่องโอกาสจะไล่ตามได้ทันในช่วง 11 นัดที่เหลือของฤดูกาลนั้นเป็นสิ่งที่พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นไปได้ยาก

แต่อย่างน้อยที่สุดทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ จะได้โอกาสสำคัญในเกม ‘แมนเชสเตอร์ ดาร์บี’ ที่จะพบกับคู่ปรับร่วมเมือง เพื่อนบ้านที่เสียงชักจะดังขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะกลายเป็น ‘ขาใหญ่’ แทนที่ของพวกเขาไปแล้ว

และเกมนี้ก็เป็นโอกาสสำหรับแฟร์นันด์สด้วยเช่นกันที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อคำครหาที่เขาเผชิญอยู่

“แฟร์นันด์สก็เก่งแค่กับทีมเล็ก แต่เจอทีมใหญ่ก็ไปไม่เป็น”

คำพูดนี้ดูจะเป็นคำพูดที่เสียดแทงใจของนักเตะรายนี้ไม่น้อย จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดที่มีการตอบโต้ประเด็นนี้อย่างเผ็ดร้อน

“ผมไม่รู้ว่านิยามของคำว่า Top 6 ในตารางของคนอื่นเขาหมายถึงอะไร เพราะทีมก็อยู่ใน 6 อันดับแรกของตาราง” แฟร์นันด์สกล่าว “ผมยิงและแอสซิสต์ได้ในเกมเหล่านี้ ในฤดูกาลนี้ผมก็ยิงท็อตแนมได้ แต่คนก็พูดกันอีกว่าจุดโทษไม่นับ! 

“ผมรู้ว่าทุกคนคาดหวังว่าแฟร์นันด์สจะยิงหรือจ่ายได้ทุกนัด เพราะตอนที่ผมย้ายมา ผมเล่นได้ค่อนข้างดี ถ้าดูสถิติตัวเลขแล้ว ทุกคนคิดว่าผมต้องยิงหรือจ่ายทุกนัด 

“ผมเองก็อยากทำให้ได้แบบนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ในฐานะผู้เล่น ผมไม่ได้มาสนใจกับคำว่า Big Six หรืออื่นๆ ในลีก ผมมองทุกเกมเหมือนกันหมด และผมคิดว่าในลีกเราไม่ได้แข่งวิ่งระยะสั้น แต่มันคือการวิ่งในระยะยาว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องยิงในเกมกับ Big Six อะไรหรอก แต่เราต้องยิงทุกทีมให้ได้”

แฟร์นันด์สยังยกตัวอย่างเรื่องฟอร์มการเล่นในสนามที่บางครั้งก็ถูกตัดสินแบบไม่มีมาตรฐานนัก เช่น ในเกมกับทีม Big Six บางนัด คนวิจารณ์ว่าเขาเสียบอลเยอะเกินไปและทำให้ทีมแพ้ แต่ในเกมกับบาซัคเซเฮียร์ (ยูโรปาลีก) เขาก็เสียบอลแบบเดียวกันนี่แหละ แต่ยิงได้ 2 ประตู คนก็แซ่ซ้องว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในเกมวันนั้น

ประเด็นมันอยู่ตรงไหน? ดาวเตะจอมศิลปินไม่เข้าใจ 

อย่างไรก็ดี ไม่แปลกที่ผู้คนจะคาดหวังในตัวของแฟร์นันด์สมากกว่าใคร เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาเป็นขุนพลปีศาจแดง เขาคือคนที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของทีม เป็นตัวละครเอกที่แฟนๆ ฝากความหวังมากที่สุด และแน่นอนว่าแฟนๆ ย่อมอยากเห็นเขาร่ายผลงานที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับคู่ปรับระดับท็อป

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ 10 นัดที่เขาลงเล่นในทีมกลุ่ม Big Six (ซึ่งหมายถึง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล และท็อตแนม ฮอตสเปอร์) เขาทำได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น

นับเฉพาะในฤดูกาลนี้ เขาลงเล่นเจอ Big Six (+ เลสเตอร์ ซิตี้) ไป 7 นัด และทำได้แค่ 1 ประตู (กับสเปอร์ส) โดยไม่มีแอสซิสต์เลย และทีมก็ไม่ชนะด้วยแม้แต่เกมเดียว โดยที่ Sky Sports ระบุว่าผลงานในการเล่นของเขาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.4 คะแนนเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก

ตัวเลขนี้ช่างแตกต่างจากผลงานในการเจอทีมนอกกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเขาทำไปถึง 28 ประตูจากการเล่น 43 นัด 

ดังนั้นในยามที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มออกอาการหนืด เช่นเดียวกับตัวของแฟร์นันด์สเองที่เริ่มดูมีอาการล้าอย่างเห็นได้ชัด การต้องเจอกับคู่แข่งที่โหดที่สุดอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเก็บชัยชนะรวดติดต่อกันทุกรายการมา 21 นัด เป็นชัยชนะในพรีเมียร์ลีก 15 นัด และไม่แพ้ใครติดต่อกันมา 28 นัด แง่หนึ่งก็เป็นเกมที่ยากลำบากอย่างยิ่ง

แต่อีกแง่หนึ่งก็อาจเป็นเวทีให้เขาได้พิสูจน์ความเป็นยอดนักเตะของตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะนักเตะผู้ยิ่งใหญ่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองในเกมแบบนี้ 

จริงอยู่ที่ซิตี้อาจจะมีทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน,​ ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเดน, ริยาด มาห์เรซ ซึ่งกำลังเข้าฝักทุกคน แต่ถ้าหาก บรูโน แฟร์นันด์ส จะงัดอภินิหารออกมาในเกมนี้เพื่อหยุดสถิติของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ

นอกจากจะไม่มีใครสงสัยในตัวเขาอีก ทั่วทั้งอังกฤษอาจจะรู้สึกขอบคุณเขาในฐานะที่ช่วยหยุดความอหังการของเรือใบสีฟ้าที่โลดแล่นไม่สนใจใครด้วย

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

• https://www.thetimes.co.uk/article/bruno-fernandes-is-verging-on-a-flat-track-bully-manchester-united-need-to-get-him-some-help-to-challenge-for-title-qnw665mls
• https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-9333425/Bruno-Fernandes-shrugs-claims-struggles-against-Premier-Leagues-Big-Six.html
• https://www.caughtoffside.com/2021/02/28/stats-prove-that-bruno-fernandes-has-been-missing-for-man-united-against-big-six-after-goalless-draw-against-chelsea/

The post บรูโน แฟร์นันด์ส กับคำครหาเรื่อง ‘Big Six’ และบทพิสูจน์สำคัญในเกม ‘แมนเชสเตอร์ ดาร์บี’ appeared first on THE STANDARD.

ดูเหมือนว่ายิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไร บรูโน แฟร์นันด์ส ก็ยิ่งกลายเป็นนักเตะในดวงใจของชาว ‘ปีศาจแดง’ มากขึ้นเท่านั้น

เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาจากสปอร์ติง ลิสบอน ทุกครั้งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความยากลำบากในสนาม เขาจะเป็นคนที่พร้อมยืนหยัดเพื่อทีมเสมอ 

ครั้งนี้ก็เช่นกัน – ในสถานการณ์ที่ทีมเริ่มตกอยู่ใต้คำถามจากฟอร์มการเล่นที่ไม่สู้ดีนักในช่วงหลัง และคำถามทิ่มแทงใจในเรื่องการได้จุดโทษมากมายของแมนฯ ยูไนเต็ด จนถูกตั้งสมญาที่ไม่น่าฟังเท่าไรนักว่า ‘จุดโทษ ยูไนเต็ด’ – ก็ถึงเวลาที่แฟร์นันด์สจะสวมบทเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของทีมอีกครั้ง

ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แมนฯ​ ยูไนเต็ดมีคิวรับมืออิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ คู่ปรับจากตุรกีที่เคยทำให้พวกเขาอับอายมาแล้วในการพบกันก่อนหน้านี้ และนั่นหมายถึงโอกาสในการคิดบัญชีทบต้นทบดอกให้สาสม

จากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ในเกมกับเวสต์ บรอมวิช อัลเบียน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะได้ 1-0 แต่ประตูโทนในเกมก็เกิดจากลูกจุดโทษ มาวันนี้แมนฯ ยูไนเต็ดคืนสู่ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง

แฟร์นันด์สทำ 2 ประตูได้ภายใน 20 นาทีแรกของเกม (นาทีที่ 7 และ 19) เป็นการเริ่มต้นเกมที่สวยงาม ก่อนที่จะได้จุดโทษอีกในนาทีที่ 35 และนั่นคือโอกาสที่เขาจะทำแฮตทริกในเกมนี้ได้ตั้งแต่ในช่วงครึ่งเวลาแรก

แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือกองกลางชาวโปรตุเกสกลับไม่ยอมทำหน้าที่สังหารประตู โดยปล่อยให้เป็นความรับผิดชอบของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าเพื่อนร่วมทีมแทน ซึ่งดาวยิงก็ตอบแทนน้ำใจของเพื่อนด้วยการทำหน้าที่อย่างไม่ผิดพลาด

แมนฯ​ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 3-0 แบบสบายๆ แต่ก็มีคนสงสัยว่าทำไมแฟร์นันด์สจึงไม่ยอมยิง

กลัวยิงพลาด? ไม่มั่นใจ? หรือเหตุผลอะไร

ไม่ใช่ทั้งนั้น เพราะคำตอบคือเขาต้องการรักษาคำมั่นที่ให้ไว้กับแรชฟอร์ดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และการพลาดโอกาสทำแฮตทริกไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเขามากไปกว่าความรู้สึกดีๆ ของเพื่อน

“แน่นอนว่าทุกคนอยากจะทำแฮตทริกทั้งนั้น แต่หลังจากเกมพรีเมียร์ลีก ผมบอกกับแรชฟอร์ดว่าลูกต่อไปเขาเอาไปยิงได้เลย” แฟร์นันด์สเผยถึงเหตุผล “แรชฟอร์ดเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวซัลโวของแชมเปียนส์ลีก ดังนั้นการให้เขาเรียกความมั่นใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

“ไม่สำคัญเลยว่าใครจะเป็นคนยิงจุดโทษ ตราบใดที่ทีมทำประตูได้ก็พอ”

ขณะที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ ก็ไม่ติดใจอะไรเช่นกัน “แรชฟอร์ดก็เป็นคนที่ยิงจุดโทษได้ดี และแฟร์นันด์สก็มั่นใจมาก ถ้าแฟร์นันด์สอยากจะยกให้แรชฟอร์ดยิง ทำไมจะไม่ได้ อองโตนี มาร์กซิยาล เองก็ยิงจุดโทษลูกหนึ่งในเกมกับไลป์ซิกด้วย แล้วทำไมถึงจะมีการแบ่งกันยิงไม่ได้”

ในช่วงที่เหลือของเกมอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ได้ประตูปลอบใจกลับมาหนึ่งลูกจากฟรีคิกของ เดนิซ ตูรุซ ในนาทีที่ 75 และหลังจากนั้นเกือบจะได้ประตูตีตื้นเพิ่มด้วย แต่ลูกยิงของ เอดิน วิสกา ไปชนคานเข้าอย่างจัง แต่ท้ายที่สุดแล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมสัน กรีนวูด ที่หายกลับมาได้แล้วก็เปิดบอลให้ ดาเนียล เจมส์ เข้าฮอสเป็นประตูปิดท้ายในชัยชนะสวยงาม 4-1

เอดินสัน คาวานี ทำประตูไม่ได้ในเกมนี้ แต่ก็เล่นได้ดีพอสมควร

ประกายแสงจากนักเตะใหม่

นอกเหนือจากเรื่องน่าประทับใจระหว่างแฟร์นันด์สและแรชฟอร์ดแล้ว แฟนแมนฯ ยูไนเต็ดน่าจะรู้สึกชีวิตมีความหวังเพิ่มขึ้นกับฟอร์มการเล่นของ เอดินสัน คาวานี, ดอนนี ฟาน เดอ บีค และอเล็กซ์ เตลเลส นักเตะใหม่ของทีม

โดยเฉพาะ ‘เอล มาทาดอร์’ คาวานี ที่รอคอยโอกาสในการลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกมากว่า 7 สัปดาห์

ช่วงที่ผ่านมา กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามมากนัก แต่ในเกมนี้เมื่อได้โอกาสในการลงเล่นตัวจริงครั้งแรกก็สามารถประสานงานกับเพื่อนได้ดีในบทศูนย์หน้าตัวเป้าของระบบ 4-2-3-1 

คาวานีประสานงานกับแฟร์นันด์สได้ดี และโรยตัวลงมาในพื้นที่ว่างระหว่างกองหลังและกองกลางของอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ซึ่งมีส่วนในการช่วยถักทอเกมรุกของแมนฯ ยูไนเต็ดให้เป็นไปอย่างไหลลื่นและลงตัวมากยิ่งขึ้น

พูดง่ายๆ คือการเล่นง่ายๆ แต่ฉลาดของคาวานีมีส่วนช่วยเปิดมิติในการเล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด และดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทีมพยายามตามหามาอย่างยาวนาน

เพียงแต่จะเป็นคำตอบในระยะยาวของทีมหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูกันต่อไป เพราะหากถามใจของโซลชาร์แล้ว ‘หมายเลข 9’ ที่เขาหวังพึ่งพิงสำหรับอนาคตยังคงเป็นมาร์กซิยาลมากกว่า โดยมีคาวานีเป็นพี่ใหญ่ไว้ประคองเฉยๆ

นอกจากในรายของคาวานีแล้ว ฟาน เดอ บีค ที่ได้โอกาสลงประจำการในตำแหน่งกองกลางตัวรับคู่กับเฟร็ดก็ทำได้ดีเช่นกัน ขณะที่เตลเลสก็ยังแสดงให้เห็นถึงอาวุธอันตรายกับการครอสบอลของเขา ซึ่งสัญญาณเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด 

อย่างน้อยก็เป็นชัยชนะที่ดี และน่าจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในโอลด์แทรฟฟอร์ดได้อีกครั้ง

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

• https://www.bbc.com/sport/football/55048017
• https://www.telegraph.co.uk/football/2020/11/24/manchester-united-vs-istanbul-basaksehir-champions-league-live/
• https://www.telegraph.co.uk/football/2020/11/24/edinson-cavani-offers-glimpses-could-centre-forward-manchester/
• https://www.thetimes.co.uk/edition/sport/bruno-fernandes-well-on-his-way-to-cult-hero-status-at-manchester-united-ndmlzggfd

The post เหตุผลที่ บรูโน แฟร์นันด์ส ปฏิเสธการยิงจุดโทษและโยนโอกาสในการทำแฮตทริกทิ้ง appeared first on THE STANDARD.

The post บรูโนยิง 2 คาวานีซัดปิดท้ายแมนฯ ยูไนเต็ดบุกสอยเอฟเวอร์ตันถึงถิ่น 3-1 appeared first on THE STANDARD.

ทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอข่าวร้ายก่อนเปิดศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือเปแอสเช ในคืนนี้ เมื่อ แฮร์รี แม็กไกวร์ ปราการหลังตัวหลักได้รับบาดเจ็บ ทำให้ บรูโน แฟร์นันด์ส เตรียมสวมปลอกแขนนำทัพแทน

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มเตรียมจะลงสนามกันเป็นเกมแรกในคืนนี้ โดยคู่เอกที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษเป็นเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจะพบกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์ลีกเอิง และเป็นรองแชมป์รายการนี้ในฤดูกาลที่แล้วด้วย

แต่มีข่าวร้ายสำหรับแฟนปีศาจแดง เมื่อปราการหลังตัวเก่งอย่างแม็กไกวร์​ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถลงสนามได้ในเกมนี้ และยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถกลับมาช่วยทีมในเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกกับเชลซีในสุดสัปดาห์ได้หรือไม่ ซึ่งการขาดหายของกัปตันทีมทำให้ โอเล กุนนาร์​ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ ได้มอบปลอกแขนให้แก่ บรูโน แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์จอมทัพของทีมที่เพิ่งรู้ตัวว่าจะต้องสวมปลอกแขนกัปตันทีมในการแถลงข่าวก่อนเกม แม้ว่าจะอยู่กับสโมสรมาเพียงแค่ 9 เดือนเท่านั้น

“เราหวังว่าแม็กไกวร์​จะฟิตสำหรับช่วงสุดสัปดาห์ ตอนนี้เรายังไม่มั่นใจ แต่เราก็มีความหวัง ส่วนกัปตันทีมนั่งอยู่ข้างๆ ผมแล้ว แฟร์นันด์สจะเป็นกัปตันของทีมในคืนนี้” โซลชาร์กล่าวก่อนเกม

“เราเสียผู้เล่นไป 2 คน ซึ่งยังมี เอริก ไบยี และเจสซี ลินการ์ด ที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมกับเรา เราอาจจะอ่อนลงไป แต่เราก็มีผู้เล่นที่เพียงพอ” โดยนอกจากนี้ยังไม่มีชื่อของ เมสัน กรีนวูด กองหน้าดาวรุ่งเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน หลังไม่มีรายชื่อในทีมวันที่เอาชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-1 ในเกมล่าสุดด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวว่ากองหน้าดาวรุ่งถูกลงโทษจากการกระทำผิดทางวินัย

ขณะที่แฟร์นันด์สกล่าวหลังได้ทราบว่าจะต้องสวมปลอกแขนกัปตันทีมว่า “ผมไม่ได้คาดคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน สำหรับผมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ผมจะได้เป็นกัปตันทีมของเพื่อนๆ และการได้เป็นกัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ดถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม แต่ผมคิดว่าทุกคนคือกัปตัน ทุกคนต้องช่วยเหลือคนอื่นและเป็นผู้นำในแบบของตัวเอง ความเป็นผู้นำของผู้เล่นแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป

“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม แต่ขึ้นอยู่กับทีม การเป็นผู้นำคือทำให้ดูในการซ้อมทุกวัน ในเกมทุกเกม และทุกคนก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองในการนำทีมด้วยวิธีที่ทุกคนคิดว่าดีที่สุด”

สำหรับเกมในคืนนี้จะลงสนามที่ปาร์กเดแพร็งส์ โดยยังไม่มีแฟนบอลเข้าชมในสนาม แม้ว่ายูฟ่าจะอนุญาตให้แฟนบอลเข้าสนามได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับมาตรการของแต่ละประเทศ ซึ่งสำหรับฝรั่งเศสยังไม่อนุญาตให้แฟนกีฬาเข้าชมเกมในสนามได้อีกครั้งแต่อย่างใด

ในคืนนี้จะมีนักเตะที่ได้พบกับทีมเก่าด้วยคือ อันเดร์ เอร์เรรา กองกลางฮาร์ดแมนชาวสเปนที่เคยเป็นตัวหลักในทีมแมนฯ ยูไนเต็ดมาก่อน แต่ในรายของ เอดินสัน คาวานี กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยที่เคยค้าแข้งกับเปแอสเชมาหลายปีไม่มีชื่อร่วมเดินทางมาในเกมนี้ด้วยแต่อย่างใด เนื่องจากสภาพร่างกายยังไม่พร้อม

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

• https://www.telegraph.co.uk/football/2020/10/19/depleted-manchester-united-dealt-late-blow-harry-maguire-ruled/
• https://www.theguardian.com/football/2020/oct/19/bruno-fernandes-made-surprise-captain-for-manchester-uniteds-psg-trip

The post แม็กไกวร์เจ็บ – บรูโนสวมปลอกแขนนำทัพปีศาจแดงลุยเปแอสเชคืนนี้ appeared first on THE STANDARD.

บรูโน แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์จอมทัพทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือนมิถุนายน และเป็นการคว้ารางวัล 2 เดือนติดต่อกัน

จากผลงานของกองกลางชาวโปรตุเกสที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำไป 4 ประตูในเกมกับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ซึ่งทำไป 2 ประตู จากนั้นทำประตูจากการยิงจุดโทษในเกมกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และอีกหนึ่งประตูในเกมกับเอฟเวอร์ตัน โดยที่นับรวมฟอร์มของเกมในช่วงครึ่งแรกของเดือนมีนาคม ก่อนที่จะพักการแข่งขันเนื่องจากโรคระบาดโควิด-19

การคว้ารางวัล 2 เดือนติดของแฟร์นันด์ส ทำให้เป็นนักฟุตบอลรายที่ 7 ในประวัติศาสตร์ที่ทำได้ร่วมกับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, เจมี วาร์ดี, แฮร์รี เคน, เดนนิส เบิร์กแคมป์, ร็อบบี ฟาวเลอร์ และ คริสเตียโน โรนัลโด ซึ่งเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนสุดท้าย ที่คว้ารางวัลนี้ได้ 2 เดือนติด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว

รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน

สิงหาคม: ตีมู ปุกกิ (นอริช ซิตี้)

กันยายน: ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง (อาร์เซนอล)

ตุลาคม: เจมี วาร์ดี (เลสเตอร์ ซิตี้)

พฤศจิกายน: ซาดิโอ มาเน (ลิเวอร์พูล)

ธันวาคม: เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

มกราคม: เซร์คิโอ อเกวโร (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

กุมภาพันธ์: บรูโน แฟร์นันด์ส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

มิถุนายน: บรูโน แฟร์นันด์ส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• https://www.premierleague.com/news/1715420

The post ‘บรูโน แฟร์นันด์ส’ คว้านักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก 2 เดือนติด appeared first on THE STANDARD.