Brancott Estate – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 23 Nov 2018 11:10:23 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เปิดเบื้องหลังเคล็ดลับไวน์แคลอรีต่ำ เทรนด์ใหม่ที่ดื่มได้แบบไม่รู้สึกผิด https://thestandard.co/brancott-estate-low-calorie-wines/ https://thestandard.co/brancott-estate-low-calorie-wines/#respond Fri, 23 Nov 2018 11:10:23 +0000 https://thestandard.co/?p=152999

ก่อนหน้านั้นเราเคยกล่าวถึงไวน์แคลอรีต่ำกันมาบ้างว่าเป็น […]

The post เปิดเบื้องหลังเคล็ดลับไวน์แคลอรีต่ำ เทรนด์ใหม่ที่ดื่มได้แบบไม่รู้สึกผิด appeared first on THE STANDARD.

]]>

ก่อนหน้านั้นเราเคยกล่าวถึงไวน์แคลอรีต่ำกันมาบ้างว่าเป็นเทรนด์ใหม่น่าจับตามองโดยเฉพาะช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองที่ทั้งออฟฟิศและผองเพื่อนต่างเป็นต้องฉลองให้กับการผ่านพ้นมาได้อีกปี

 

แต่เมื่อนึกถึงแคลอรีที่รับเข้าไปขณะชนแก้วกับเพื่อนซี้ คุณอาจรู้สึกห่อเหี่ยวจนเริ่มหันมองน้ำเปล่าขึ้นมาแทน แต่เนื่องด้วยไวน์นั้นมีไว้ดื่ม หาใช่ตั้งโชว์สวยๆ ในตู้ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจโลกของไวน์แคลอรีต่ำขึ้นมาอีกหน่อยกันดีกว่า เพราะรู้ไหมว่าสามารถผลิตได้แบบตามธรรมชาติ หรือผ่านกรรมวิธีที่ทำให้แคลอรีต่ำได้ (เพราะใครจะอยากดื่มไปกะปริมาณไปจนหมดสนุกกันล่ะ)

 

 

Photo: giphy.com

 

ไวน์แคลอรีต่ำตามธรรมชาติ

ไวน์ที่มีแคลอรีต่ำตามธรรมชาตินั้นจะมีความดราย (Dry) อันเกิดจากระดับน้ำตาลที่ต่ำมากๆ ส่งผลให้รู้สึกฝาดลิ้นเบาๆ และไวน์แคลอรีต่ำนี้มักมีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 10% ซึ่งไวน์แคลอรีต่ำจากธรรมชาติมักผลิตในย่านที่มีอากาศหนาวเย็น อันเนื่องจากองุ่นที่โตในอากาศหนาวเย็นจะไม่หวานและมีน้ำตาลที่ต่ำ ส่งผลให้มีปริมาณยีสต์ในการหมักไวน์ลดลง จึงส่งผลให้เกิดแอลกอฮอล์ในปริมาณต่ำนั่นเอง และแอลกอฮอล์ต่อกรัมมี 7 แคลอรีด้วยกัน ดังนั้นเมื่อเราดื่มไวน์ที่ระบุว่ามีระดับแอลกอฮอล์ 12% ในแก้ว 5 ออนซ์ ก็แปลว่าเรากำลังรับเอาแอลกอฮอล์เปล่าๆ เข้าไปราว 14 กรัม แปลว่ารับแคลอรีเข้าไปเรียบร้อยเกือบ 100 แคลอรี (วิ่งรอบสนามรอบหนึ่งยังไม่คุ้มเลย!)

 

 

Photo: giphy.com

 

แคลอรีที่อยู่ในไวน์นั้นมักมาจากน้ำตาล เมื่อองุ่นมีปริมาณน้ำตาลสูง จนยีสต์กินน้ำตาลไม่หมด จึงเกิดเป็นน้ำตาลที่อยู่ในแก้วไวน์ที่คุณกำลังดื่มนั่นเอง และน้ำตาล 1 กรัมมีจำนวนแคลอรี 4 แคลอรีด้วยกัน เมื่อเราดื่มไวน์ที่มีน้ำตาลสูง จึงทำให้เรารับแคลอรีเพิ่มขึ้นไปด้วย Frank Schieber ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย South Dakota ระบุถึงน้ำตาลในไวน์เอาไว้ดังนี้

 

ไวน์ขาวแบบดราย: มีน้ำตาล 1-2 กรัมต่อลิตร

ไวน์แดงแบบดราย: มีน้ำตาล 2-3 กรัมต่อลิตร

ไวน์กึ่งดราย: มีน้ำตาล 10-30 กรัมต่อลิตร

พอร์ตไวน์และเชอร์รี: มีน้ำตาล 50-150 กรัมต่อลิตร

ไวน์ขนมหวาน: มีน้ำตาล 100-200 กรัมต่อลิตร

ไวน์หวาน: มีน้ำตาลสูงกว่า 30 กรัมต่อลิตร

 

ไวน์ขาวจากพันธุ์องุ่นกรูเนอร์ เฟลต์ลีเนอร์ (Grüner Veltliner), มุสกาเดต์ (Muscadet) และรีสลิงแบบดราย หรือที่ฉลากระบุไว้ว่า ‘Trocken’ นั้นเป็นไวน์ขาวแคลอรีต่ำจากธรรมชาติ เช่นเดียวกับไวน์แดงอย่าง บาร์เบรา (Barbera), กาเมย์ (Gamay) และปิโนต์ นัวร์แอลกอฮอล์ต่ำ

 

 

Photo: giphy.com

 

แล้วสปาร์กลิงไวน์ล่ะ

สปาร์กลิงไวน์ก็มีแอลกอฮอล์ต่ำได้เหมือนกัน แต่ก่อนจะพูดถึงแคลอรีในไวน์ซ่าแก้วโปรด ควรทำความเข้าใจกันสักนิดก่อนว่าเจ้าสปาร์กลิงไวน์นี้ผลิตอย่างไร

 

อย่างแรกเลย ผู้ผลิตไวน์ก็รังสรรค์เปลี่ยนน้ำองุ่นให้กลายเป็นไวน์ตามปกติ แต่ก่อนจะถึงขั้นตอนปิดฝาขวด มีการเติมน้ำตาลใส่เข้าไป (ในภาษาผลิตไวน์เขาเรียกว่า ‘Dosage’) ดังนั้น ยิ่ง Dosage น้อยเท่าไร ไวน์ก็มีความดรายยิ่งขึ้นเท่านั้น และโดยปกติแล้วความดรายนั้นเรียงได้ตั้งแต่ บรุต (Brut) ที่มีความหวานต่ำสุด ไปจนถึงดราย และหวาน (Sweet)

 

ทั้งนี้การเติมน้ำตาล หรือ Dosage ที่ว่านั้นสามารถดึงเอารสชาติของไวน์ออกมาได้ดียิ่งขึ้น แต่เมื่อมาถึงสปาร์กลิงไวน์ที่แคลอรีต่ำ ขั้นตอนนี้จึงข้ามไปได้เลยเพื่อสร้างไวน์ที่มีแคลอรีต่ำนั่นเอง

 

 

Photo: giphy.com

 

เทรนด์ที่กำลังมา

ทั้งนี้ทั้งทางยุโรปและอเมริกาเองต่างเริ่มเห็นความสำคัญถึงการสร้างความเข้าใจถึงการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป ซึ่งทาง IWSR บริษัทวิจัยทางการตลาดด้านการดื่มเผยข้อมูลว่า ทั่วโลกกำลังหันมาสนใจดื่มอย่างรักษาสุขภาพมากขึ้น ซึ่งทางเลือกที่น่าจะดีที่สุดสำหรับนักดื่มทั้งหลายก็คือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำหรือไร้แอลกอฮอล์ นอกจากนั้นยังเผยอีกว่า ผู้บริโภคเช่นเราๆ เริ่มหันมาดื่มแอลกอฮอล์คู่ไปกับน้ำเปล่าหรือโซดากันมากขึ้นแทนน้ำหวาน เช่นเดียวกับการหันมาดื่มสิ่งที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด และเริ่มเบือนหน้าหนีสิ่งสังเคราะห์ต่างๆ ในอาหารเครื่องดื่มที่บริโภคกันมากขึ้น

 

ในฝั่งตะวันตกเริ่มมีไวน์แคลอรีต่ำออกมาให้เห็นเยอะขึ้น บ้างอยู่ในตลาดมาแล้วกว่า 5 ปี อย่างไวน์ของ เบเทนนี แฟรงเคิล (Bethenny Frankel) นักแสดงหญิงในซีรีส์ The Real Housewives of New York City ที่ทำการตลาดอย่างหนักจนคนพูดถึงจากการใช้องุ่นพันธุ์ที่คนอเมริกันคุ้นเคยอย่าง คาเบอร์เน็ต โซวิญง, ชาร์ดอนเนย์ หรือ ปิโนต์ นัวร์ เป็นต้น

 

ส่วนข้ามฟากมาแถวนิวซีแลนด์ ก็มีแบรนด์อย่าง Brancott Estate ที่นำเทรนด์นี้อยู่ในแถบนี้ โดยมีทั้งไวน์แคลอรีต่ำแบบ โซวิญง บลองก์ และ ปิโนต์ กริจิโอ ที่เน้นกระบวนการผลิตให้ไวน์มีแคลอรีต่ำกว่า โซวิญง บลองก์ และ ปิโนต์ กริจิโอเดิมถึง 20% ทำให้ไวน์มีเพียง 88 แคลอรีเมื่อรินใส่แก้ว 5 ออนซ์เท่านั้น โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 10% ทำให้ดื่มได้เรื่อยๆ ไม่รีบหน้าแดงไปเสียก่อนด้วย

 

ช่วงเทศกาลใกล้เข้ามาแบบนี้ การมีตัวเลือกให้ดื่มเพิ่มขึ้น (ให้ดื่มสลับกับน้ำเปล่า) ถือว่าไม่เลวเลย แต่บ้านเราจะมีกับเขาเมื่อไร ต้องคอยติดตาม

ภาพประกอบ: Pichamon W.

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post เปิดเบื้องหลังเคล็ดลับไวน์แคลอรีต่ำ เทรนด์ใหม่ที่ดื่มได้แบบไม่รู้สึกผิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/brancott-estate-low-calorie-wines/feed/ 0
‘ไวน์แคลอรีต่ำ’ เทรนด์ใหม่ที่ดื่มเท่าไรก็ไม่อ้วน! https://thestandard.co/brancott-estate-low-calorie-wine/ https://thestandard.co/brancott-estate-low-calorie-wine/#respond Fri, 28 Sep 2018 14:34:43 +0000 https://thestandard.co/?p=125724

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะประเภทใดก็ตาม แน่น […]

The post ‘ไวน์แคลอรีต่ำ’ เทรนด์ใหม่ที่ดื่มเท่าไรก็ไม่อ้วน! appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะประเภทใดก็ตาม แน่นอนว่าถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน ‘ของแสลง’ ของคนที่รักสุขภาพ ไหนจะปริมาณแอลกอฮอล์ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย หรือปริมาณความหวานที่มองไม่เห็นภายใต้ฟองพร่านั้น เพราะฉะนั้นหนุ่มสาวที่ดูแลสุขภาพตัวเองหนักๆ คงหลีกเลี่ยงที่จะไม่แตะต้องของแสลงนี้บ่อยนัก

 

แต่ตอนนี้เราขอแสดงความยินดีกับคุณๆ ที่มักจะพูดติดปากว่า ‘ขอไม่ดื่มดีกว่า มันอ้วน’ เพราะตอนนี้เทรนด์ยอดฮิตของโลกกินดื่มคือ ‘ไวน์แคลอรีต่ำ’ ที่กำลังจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าจับตามองในอนาคตอันใกล้ และหลังจากนี้เราอาจให้รางวัลตัวเองเป็นชาร์ดอนเนย์สักแก้วหลังจากการออกกำลังกายอันหนักหน่วงได้โดยไม่รู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียวกันได้แล้ว!

 

เวลาดื่มไวน์สักแก้ว แน่นอนว่าวัตถุดิบหลักของการผลิตไวน์นั้นคือองุ่น ดังนั้นนอกเหนือจากรสชาติเข้มข้นที่ได้จากการหมักบ่มแทนนินและอะซิดิตี้แล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับเพิ่มเข้าไปด้วยก็คือปริมาณแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ ซึ่งเกิดขึ้นจากที่ยีสต์ทำปฏิกิริยาแปลงสภาพน้ำตาลในถังบ่มเป็นแอลกอฮอล์ และรู้หรือไม่ว่าในไวน์หนึ่งแก้ว คุณได้รับแคลอรีมาจากแอลกอฮอล์ในไวน์นั่นแหละ ยิ่งหากคนที่ดูแลสุขภาพและอาหารการกินของตัวเองเป็นอย่างดี เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของ ‘น้ำตาล’ จะยิ่งชวนร้องยี้

 

แต่การปรากฏตัวของเจ้าไวน์แคลอรีต่ำนี้จะมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดื่มปกติๆ ไป เนื่องจากไวน์แคลอรีต่ำ 1 แก้วในความจุ 5 ออนซ์ จะให้ปริมาณน้ำตาลเพียง 0.2 ออนซ์เท่านั้น! ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าไวน์บางชนิดนั้นมีแคลอรีต่ำมาตั้งแต่ในกระบวนการผลิตแล้ว เช่น ไวน์ที่ผลิตแถบมาร์ลโบโรห์ในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ที่มีภูมิอากาศหนาวเย็น พอองุ่นถูกปลูกในพื้นที่อากาศเย็น เจ้าองุ่นก็จะผลิตน้ำตาลออกมาได้น้อย และเมื่อน้ำตาลน้อย ยีสต์ก็จะย่อยน้ำตาลได้น้อย ย่อมหมายถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่น้อยลงตามไปด้วย และนั่นคือจำนวนแคลอรีที่คุณได้รับเข้าไปเพียงน้อยนิด

 

อย่างไรก็ตาม ในท้องตลาดเองก็ยังมีไวน์ที่มีแคลอรีต่ำและไม่หวานมากวางขายอยู่ เช่น ไวน์ขาวรีสลิง ที่นอกจากจะไม่หวานมาก รีสลิงยังมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และยังมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่สูงมากอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วไวน์แดงจะให้ปริมาณน้ำตาลเฉลี่ยเพียง 1 กรัมต่อ 1 แก้วไวน์ขนาดปกติ ส่วนไวน์ขาวที่หวานกว่าก็มีน้ำตาลเพิ่มอีกนิดที่ 1.4 กรัมเท่านั้น

 

ในกรณีของไวน์โลแคล (Low-Calorie Wine) ภายในขวดมีปริมาณแคลอรีที่ต่ำลงราว 15-30% โดยในตลาดมีไวน์ตั้งแต่โซวิญง บลองก์ที่มาทั้งรูปแบบมีฟอง (Sparkling) และไม่มีฟอง (Still) คล้ายๆ กับการเลือกประเภทน้ำแร่ ซึ่งใช้เทคโนโลยีกำจัดแอลกอฮอล์ออกไป โดยคงไว้ซึ่งกลิ่นและรสชาติของไวน์ดั้งเดิมอย่างครบถ้วน

 

“ถ้าดื่มไวน์แคลอรีต่ำ 2 แก้วต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับไวน์ปกติทั่วไป ร่างกายจะได้รับแคลอรีเพียง 3% เมื่อเทียบกับปริมาณแคลอรีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน” ดเวย์น เบอร์ชอว์ (Dwayne Bershaw) อาจารย์สอนวิชาการทำไวน์ในคณะวิทยาศาสตร์การอาหาร มหาวิทยาลัยคอร์เนลในสหรัฐอเมริกากล่าวไว้ ซึ่งนอกจากนี้เขายังได้แสดงความคิดเห็นกับ BBC Health ไว้อีกว่าไวน์แคลอรีต่ำเป็นมิตรกับมื้ออาหาร โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะหาวปากหวอก่อนจบคอร์สด้วยความง่วงจากระดับแคลอรีและแอลกอฮอล์

 

ถึงแม้ตอนนี้ไวน์แคลอรีต่ำจะยังไม่แพร่หลายอย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มของผลิตภัณฑ์ชนิดดังกล่าวก็ดูเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างมาก เฉกเช่นตลาดของไวน์แคลอรีต่ำในประเทศอังกฤษที่เติบโตอย่างน่าสนใจในปีที่ผ่านมาราว 8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2015 ซึ่งนักการตลาดเล็งเห็นว่าสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการในเวลานี้คือการได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มไวน์ที่มีแอลกอฮอล์น้อยลงหรือกระทั่งไม่มีเลย ส่วนเหตุผลนั้นเดาได้ง่ายมาก เพราะพวกเขาต้องการรักษาสุขภาพไปพร้อมๆ กับการได้ดื่มเครื่องดื่มที่สังสรรค์ได้ และไม่ตื่นมาแฮงตาปรือในตอนเช้าก็เท่านั้นเอง

               

เมืองไทยเรายังไม่มีไวน์แคลต่ำ แต่ได้ยินแว่วๆ ว่าเร็วๆ นี้มาให้ได้ชิมแน่นอน โปรดติดตาม…

 

เชียร์ส!

 

อ่านเรื่อง เปลี่ยนบรรยากาศไวน์แพริ่ง! จะกัมมี่แบร์หรือช็อกโกแลตก็จับคู่ไวน์ได้น่าทึ่งทั้งนั้น ได้ที่นี่

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

The post ‘ไวน์แคลอรีต่ำ’ เทรนด์ใหม่ที่ดื่มเท่าไรก็ไม่อ้วน! appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/brancott-estate-low-calorie-wine/feed/ 0