Bitcoin ETF – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 30 Dec 2024 02:49:56 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 บทสรุปสินทรัพย์ดิจิทัลปี 2024: จาก Bitcoin ETF สู่ปรากฏการณ์ Halving และการดันให้ Bitcoin เป็นทุนสำรองระดับประเทศ https://thestandard.co/digital-assets-2024-summary/ Mon, 30 Dec 2024 02:48:58 +0000 https://thestandard.co/?p=1025592 สินทรัพย์ดิจิทัล

ปี 2024 วงการสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกเผชิญกับการเปลี่ยนแ […]

The post บทสรุปสินทรัพย์ดิจิทัลปี 2024: จาก Bitcoin ETF สู่ปรากฏการณ์ Halving และการดันให้ Bitcoin เป็นทุนสำรองระดับประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สินทรัพย์ดิจิทัล

ปี 2024 วงการสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF, การลดลงของอุปทาน Bitcoin ที่เกิดใหม่เหลือครึ่งหนึ่งอย่างเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่นำมาซึ่งการสร้างจุดสูงสุดของราคาครั้งใหม่ในประวัติศาสตร์, การที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ในการจัด Devcon7 สุดยิ่งใหญ่, การขึ้นสู่ตำแหน่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมนโยบายพลิกวงการคริปโตเคอร์เรนซี และเมื่อช่วงปลายปีกับมุมมองเกี่ยวกับการนำ Bitcoin มาเป็นทุนสำรองของชาติ ต้องยอมรับว่าเป็นปีทองของ Bitcoin เลยก็ว่าได้ บทความนี้จะพาทุกคนมาทบทวนแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา

 

1. การอนุมัติ Bitcoin ETF: The First International Digital Commodity

 

มติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (ก.ล.ต.) เมื่อคืนวันที่ 11 มกราคม 2024 ได้สร้าง Legitimacy หรือการคืนความชอบธรรมทางกฎหมายให้กับอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์อย่างเหมาะสม เหตุการณ์นี้จึงถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ทำให้ Bitcoin ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน Mainstream Asset Class อย่างชัดเจน

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนในแวดวงคริปโตทั่วโลกต่างรอคอยและจับตามอง รวมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลสำคัญต่อทิศทางของวงการ เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนผ่านเหรียญได้สะดวกและง่ายขึ้น แต่ยังเป็นเหมือนการยืนยันสถานะของ Bitcoin ที่ถูกสบประมาทกว่า 10 ปี ว่าเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ ให้กลายเป็น The First International Digital Commodity เป็นที่ยอมรับและให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงผ่านตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก

 

ตัวเลขจาก Farside Investors ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2024 ระบุว่า มีสถาบันที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด ได้แก่ กองทุน iShares Bitcoin Trust จาก BlackRock จำนวน 37,173 BTC คิดเป็นมูลค่า 121,002.63 ล้านบาท รองลงมาเป็น ETF Fidelity Wise Origin Bitcoin จำนวน 11,793 BTC คิดเป็นมูลค่า 38,387.65 ล้านบาท และ ETF Bitwise Bitcoin จำนวน 2,235 BTC คิดเป็นมูลค่า 7,278 ล้านบาท ตามลำดับ

 

2. Bitcoin Halving: ยิ่งขาดแคลนยิ่งเป็นที่ต้องการ

 

Bitcoin Halving เป็นกระบวนการทำให้การแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ขุด Bitcoin ยากขึ้นกว่าเดิม และเป็นกลไกที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยรางวัลจากการขุด Bitcoin จะลดลงทุกๆ 4 ปี โดยจะลดลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 210,000 บล็อก แต่ละบล็อกจะถูกสร้างขึ้นทุก 10 นาที

 

ก่อนหน้านี้เกิดปรากฏการณ์ Bitcoin Halving มาแล้ว 3 ครั้ง และในเดือนเมษายน 2024 เป็นเหตุการณ์ Halving ครั้งที่ 4 ซึ่งจะลดรางวัลบล็อกจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC เหมือนเป็นการลดจำนวนซัพพลายการปล่อย BTC ใหม่เข้าสู่ตลาดนั่นเอง

 

ปรากฏการณ์ Halving ล่าสุดนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวกระตุ้นสร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่ตลาดขาขึ้น และอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่า Bitcoin จะสามารถสร้างราคาสูงสุดครั้งใหม่ได้ก่อน Halving จะมาถึง เพราะตามสถิติในแต่ละรอบที่ผ่านมายังไม่เคยมีรอบไหนที่ทำ New High แบบรอบนี้

 

สำหรับประเทศไทย Halving ที่ผ่านมาถือเป็นโอกาสสำคัญในการให้ความรู้และเตรียมความพร้อมแก่ชุมชนคริปโตในประเทศ เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการลดจำนวนซัพพลายของ Bitcoin และพร้อมรับมือกับการเข้ามาสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีทั้งเรื่องเป็นไปตามคาดและเกินคาดได้เช่นกัน

 

3. Devcon7 SEA: นักพัฒนาหลายหมื่นคนมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย

 

หนึ่งในความภาคภูมิใจของวงการสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนไทยในปี 2024 คือการที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดงาน Devcon7 แสดงให้เห็นถึงความมีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางด้านบล็อกเชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การประชุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวของนักพัฒนา Ethereum จากทั่วโลก ดึงดูดผู้พัฒนา ทั้งผู้ประกอบการและผู้นำความคิดหลายหมื่นคนมายังกรุงเทพฯ เพื่อพูดคุยโดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา DApps DeFi และความยั่งยืน

 

งานนี้ยังช่วยยืนยันสถานะของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรกับคริปโต และส่งเสริมความร่วมมือที่อาจนำไปสู่นวัตกรรมสำคัญในอนาคตด้วย

 

4. นโยบายคริปโตของทรัมป์: ผลกระทบต่อตลาดโลก

 

การกลับมาของทรัมป์ในฐานะผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ทำให้เกิดความสนใจใหม่ต่อนโยบายคริปโตของสหรัฐฯ แม้ว่าเขาจะมีท่าทีที่ไม่ชัดเจนต่อคริปโตในช่วงแรก แต่นโยบายของรัฐบาลในปี 2024 ชี้ให้เห็นถึงแนวทางที่เน้นการเปิดกว้าง เปลี่ยนแปลง ควบคุม และสนับสนุนนวัตกรรมคริปโตและบล็อกเชน เพื่อให้สหรัฐฯ ก้าวเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว

 

สำหรับประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ นำมาซึ่งทั้งโอกาสและความท้าทาย การมีความชัดเจนด้านกฎระเบียบอาจส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดน แต่การควบคุมที่เข้มงวดขึ้นในสหรัฐฯ อาจทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่อย่างประเทศไทย รัฐบาลไทยจำเป็นต้องหาจุดสมดุล เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

 

5. Bitcoin เป็นทุนสำรองของชาติ: ข้อเสนอที่กล้าหาญ

 

จากปี 2021 ที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยอมรับและเปิดกว้างให้ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ประเทศต่างๆ ก็ได้มองเห็นประโยชน์ อีกทั้งยังเรียนรู้จากช่องโหว่ที่ต้องปรับ เพื่อมาพัฒนาหาแนวทางที่เหมาะสม จนมาถึงปัจจุบันหลายประเทศก็เริ่มสำรอง Bitcoin ไว้แล้ว

 

ข้อมูลจาก BitcoinTreasuries ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2024 ระบุว่า สหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก จำนวน 198,109 BTC รองลงมาคือจีน ซึ่งถือครอง 190,000 BTC ส่วนสหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับ 3 ด้วยการถือครอง 61,245 BTC ขณะที่ยูเครนเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรปตะวันออก ด้วยการถือครอง 46,351 BTC ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในระดับประเทศ และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือประเทศเล็กๆ อย่างภูฏานก็มีการขุดและถือครอง 11,688 BTC ด้วยเช่นกัน

 

แนวคิดการใช้ Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของชาติกำลังได้รับความสนใจในระดับโลก อย่างน้อยประเทศไทยควรเริ่มพิจารณาเพิ่ม Bitcoin เข้าไปในคลังสำรองของประเทศในสัดส่วนเพียง 1-2% ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคลังสำรองทั้งหมดเป็น Bitcoin เพราะหากเริ่มดำเนินการในตอนนี้ ต้นทุนจะยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับอนาคตที่ราคาอาจสูงขึ้นแล้วเราไปเริ่มในตอนนั้น เริ่มในวันที่เราอาจต้องเสียเงินอย่างมหาศาล

 

การพิจารณา Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองของประเทศไม่เพียงช่วยกระจายความเสี่ยงทางการเงิน แต่ยังแสดงถึงการเปิดรับนวัตกรรมใหม่ในระดับนโยบาย ซึ่งสามารถเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยบนเวทีโลกด้านเทคโนโลยีการเงินได้ในอนาคตด้วย

 

คำเตือน:

  • คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • เนื้อหาดังกล่าวจัดทำโดย บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ...

 

อ้างอิง:

The post บทสรุปสินทรัพย์ดิจิทัลปี 2024: จาก Bitcoin ETF สู่ปรากฏการณ์ Halving และการดันให้ Bitcoin เป็นทุนสำรองระดับประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
KTAM เปิดขายกองทุน Bitcoin เน้นลงทุนผ่าน Bitcoin ETF ต่างประเทศ https://thestandard.co/ktam-bitcoin-etf/ Mon, 02 Dec 2024 05:27:21 +0000 https://thestandard.co/?p=1015045 KTAM กองทุน Bitcoin

KTAM รุกตลาด Bitcoin มองโอกาสเติบโตระยะยาว เปิดขาย KT-B […]

The post KTAM เปิดขายกองทุน Bitcoin เน้นลงทุนผ่าน Bitcoin ETF ต่างประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
KTAM กองทุน Bitcoin

KTAM รุกตลาด Bitcoin มองโอกาสเติบโตระยะยาว เปิดขาย KT-BTCETFFOF-UI วันที่ 2-11 ธันวาคมนี้

 

ชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า กระแสเงินลงทุนไหลเข้ากองทุน Spot Bitcoin ETFs มากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคา Bitcoin ในระยะยาว

 

ความต้องการลงทุนใน Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นทำให้ KTAM เปิดขายกองทุนเปิดเคแทม Bitcoin ETF Fund of Funds ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KT-BTCETFFOF-UI) โดยจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 2-11 ธันวาคม 2567 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท

 

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน และมีความเสี่ยงระดับ 8+

 

“จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ปรับลดดอกเบี้ยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะปรับลดลงอีก 0.25% ในเดือนธันวาคมนี้ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องของเงินเฟ้อได้ รวมถึงแนวโน้มของนโยบายภายใต้รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการผลักดันให้สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางคริปโตเคอร์เรนซีระดับโลก หรือแผนการจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้” ชวินดากล่าว

 

สำหรับกองทุน KT-BTCETFFOF-UI เน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ เช่น หน่วย CIS และ/หรือกองทุนรวม ETF และ/หรือหลักทรัพย์ประเภท ETP (Exchange Traded Products) ซึ่งเป็นกองทุนปลายทาง ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

 

กองทุนจะลงทุนในกองทุนปลายทางทั่วโลกที่มีนโยบายการลงทุนและ/หรือสร้างผลตอบแทนในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ในสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ซึ่งกองทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin สูงสุดได้ไม่เกิน 100% ของ NAV ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 79% ของ NAV

 

เบื้องต้นคาดว่ากองทุนจะลงทุนมากกว่า 20% ในกองทุน iShares Bitcoin Trust ETF (IBIT) และกองทุน Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC) อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการลงทุนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน

 

ภาพ: Bigboss101 / Shutterstock

The post KTAM เปิดขายกองทุน Bitcoin เน้นลงทุนผ่าน Bitcoin ETF ต่างประเทศ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF 2.2 แสนล้านบาท ทำสถิติใหม่ในเดือน พ.ย. https://thestandard.co/bitcoin-etf-fund-220-billion-baht/ Mon, 02 Dec 2024 04:45:03 +0000 https://thestandard.co/?p=1015013 Bitcoin ETF

กองทุน ETF ในสหรัฐฯ ที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin และ Ether […]

The post เงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF 2.2 แสนล้านบาท ทำสถิติใหม่ในเดือน พ.ย. appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bitcoin ETF

กองทุน ETF ในสหรัฐฯ ที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin และ Ether ต่างได้อานิสงส์จากการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีนโยบายจะสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโต

 

กองทุน Bitcoin ETF และ Ether ETF ต่างมีเงินลงทุนไหลเข้าในรอบเดือนเป็นสถิติใหม่ โดยตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF มูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.2 แสนล้านบาท และไหลเข้ากองทุน Ether ETF 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3.8 หมื่นล้านบาท จากการรวบรวมข้อมูลของ Bloomberg 

 

เงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในสองคริปโตที่ใหญ่ที่สุด ส่งผลให้มูลค่าตลาดโดยรวมของตลาดคริปโตเพิ่มขึ้นประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 42 ล้านล้านบาท หลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากข้อมูลของ CoinGecko 

 

Caroline Bowler ซีอีโอของ BTC Markets Pty. กล่าวว่า Bitcoinกำลังหนุนให้ตลาดคริปโตโดยรวมปรับตัวขึ้น ช่วยให้ราคาเหรียญอื่นๆ วิ่งขึ้นมาด้วย ซึ่งการพุ่งขึ้นนี้ยังไม่น่าจะถึงจุดพีค เมื่อดูจากกระแสเงินทุนที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง 

 

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กองทุน Ether ETF 9 กอง มีเงินไหลเข้าสุทธิ 333 ล้านดอลลาร์ ในระหว่างที่ราคา Bitcoinที่ปรับตัวขึ้นมาเป็นเกือบ 100,000 ดอลลาร์ โดยทำสถิติสูงสุดที่ 97,880 ดอลลาร์ ส่วนราคา Ether ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3,730 ดอลลาร์ 

 

นับแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง Ether ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่า Bitcoin แม้ว่าราคาจะยังไม่ทำสถิติสูงสุดใหม่เหมือนกับ Bitcoin โดยราคาเหรียญ Ether เพิ่มขึ้นราว 53% ส่วน Bitcoin เพิ่มขึ้นราว 43%

 

ภาพ: Wit Olszewski / Shutterstock 

อ้างอิง:

The post เงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF 2.2 แสนล้านบาท ทำสถิติใหม่ในเดือน พ.ย. appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้เชี่ยวชาญคริปโตมองภาวะความกลัวสุดขีดในตลาดคริปโตมีจุดเริ่มต้นจากโลกการเงินดั้งเดิม https://thestandard.co/crypto-extreme-fear-market/ Thu, 08 Aug 2024 05:39:34 +0000 https://thestandard.co/?p=968923

ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดคริปโตมองว่าภาวะความกลัวสุดขีดที่กำ […]

The post ผู้เชี่ยวชาญคริปโตมองภาวะความกลัวสุดขีดในตลาดคริปโตมีจุดเริ่มต้นจากโลกการเงินดั้งเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>

ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดคริปโตมองว่าภาวะความกลัวสุดขีดที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดเวลานี้เริ่มต้นจากโลกการเงินดั้งเดิม

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่เลวร้ายไม่ใช่แค่กับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ยังรวมไปถึงตลาดคริปโต ตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปิดเผยตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน สู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

 

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับ Sahm Rule ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดย Sahm Rule ระบุว่า เมื่อค่าเฉลี่ยของอัตราการว่างงานในรอบ 3 เดือนเพิ่มขึ้นเกิน 0.5% เมื่อเทียบกับค่าต่ำสุดในรอบปี จะถือเป็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เพื่อถือครองเงินสด

 

ในขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.25% จากเดิม 0-0.1% ส่งผลให้ดัชนี Nikkei ปิดลบถึง 4,451 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 การขึ้นดอกเบี้ยนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักลงทุนจำนวนมากที่กู้เงินญี่ปุ่นที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำมาลงทุน ทำให้ต้องขายสินทรัพย์ทิ้งเพื่อลดภาระดอกเบี้ย

 

ส่วนตลาดคริปโตนั้น ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบคือการเทขายของ Jump Trading ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในการทำ Algorithmic Trading และ High Frequency Trading โดยได้เทขาย Ethereum มูลค่ากว่า 315 ล้านดอลลาร์ หลังจาก CEO ลาออก และมีการตรวจสอบจากหน่วยกำกับดูแลสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐฯ (CFTC)

 

การเทขายครั้งนี้ส่งผลให้ราคาของ Ethereum ร่วงลงกว่า 30% มีการคาดการณ์ถึงสาเหตุของการเทขาย 2 ประการ คือ

 

  1. Jump Trading อาจกำลังถอนตัวจากตลาดคริปโตหลังจากเหตุการณ์ภายในบริษัท
  2. Jump Trading อาจมีการกู้ยืมเงินเยนจำนวนมากเพื่อใช้ในการทำ High Frequency Trading และการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นทำให้ต้องขายสินทรัพย์เพื่อชำระหนี้

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณบวกบางประการในตลาดคริปโต โดยเฉพาะจากกองทุน ETFs ของ Ethereum ในวันที่ 5 สิงหาคม มีเงินไหลเข้าสุทธิเป็นบวกที่ 48.80 ล้านดอลลาร์ นำโดย BlackRock ที่มีแรงซื้อสุทธิถึง 47.10 ล้านดอลลาร์ แม้ในสภาวะตลาดที่ผันผวน ในขณะที่กองทุน ETHE ของ Grayscale มีเงินไหลออกสุทธิ 46.80 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่มีการอนุญาตให้มีกองทุน ETFs

 

สำหรับ Bitcoin ETFs แม้จะมีปริมาณเงินไหลออกรวมเป็นลบ แต่กองทุนของ BlackRock ก็ยังมีปริมาณการซื้อสุทธิเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง

 

ผศ. ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้ง FWX แพลตฟอร์มเทรดอนุพันธ์ไร้ศูนย์กลาง และอาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันว่า “ในวันที่ประกาศตัวเลขอัตราการว่างงาน มีหลายคนทางฝั่งทางคริปโตบอกว่าการที่สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยย่อมเป็นผลดีต่อสินทรัพย์ทางเลือกอย่างคริปโต แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ Landscape ของการลงทุนฝั่งคริปโตเปลี่ยนไปแล้ว มีนักลงทุนในโลกการเงินดั้งเดิมจำนวนมากเข้ามาลงทุนในคริปโต ทั้งผ่านและไม่ผ่าน ETFs การที่สภาวะเศรษฐกิจเป็นลบ ราคาหุ้น และสินทรัพย์ดั้งเดิม ร่วงลงอย่างหนัก ย่อมทำให้นักลงทุนต้องขายสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อเก็บเงินสด สร้างสภาพคล่อง คริปโตที่นักลงทุนในโลกดั้งเดิมมองว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูงก็คงไม่พ้นถูกผลกระทบนี้ด้วยเหมือนกัน”

 

หลังจากนี้นักลงทุนคริปโตจำเป็นต้องจับตาตัวเลขทางเศรษฐกิจในภาพใหญ่มากขึ้น ทั้งเรื่องของอัตราดอกเบี้ย และนโยบายในการกระตุ้นและรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ เพราะปัจจัยเหล่านี้ได้กลายมาเป็นปัจจัยหลักในการเคลื่อนไหวของราคาอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว

 

เมื่อถามถึงมุมมองต่อการเทขายของ Jump Trading ผศ. ดร.อุดมศักดิ์ ให้ความเห็นว่า “การเทขายของ Jump Trading ถือเป็นปัจจัยลบระยะสั้น เนื่องจากมี Ethereum เหลืออยู่อีกแค่ 100 กว่าล้านดอลลาร์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะการเคลื่อนไหวของผู้เล่นรายใหญ่เช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในระยะสั้นได้”

 

แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะดูเลวร้าย แต่ปัจจัยเฉพาะของตลาดคริปโตทุกวันนี้ยังนับว่ามีปัจจัยลบน้อยมาก หากตัวเลขทางเศรษฐกิจยังทรงตัวหรือดีขึ้น เราอาจจะได้เห็นการฟื้นตัวของตลาดคริปโตอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

The post ผู้เชี่ยวชาญคริปโตมองภาวะความกลัวสุดขีดในตลาดคริปโตมีจุดเริ่มต้นจากโลกการเงินดั้งเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: บอร์ด ก.ล.ต. เปิดช่องรายใหญ่ซื้อ Bitcoin ETF | Morning Wealth 12 มี.ค. 2567 https://thestandard.co/morning-wealth-12032024/ Tue, 12 Mar 2024 02:41:52 +0000 https://thestandard.co/?p=909908 Bitcoin ETF

บอร์ด ก.ล.ต. อนุมัติเปิดทางให้ บลจ. ขายกองทุนที่ลงทุนใน […]

The post ชมคลิป: บอร์ด ก.ล.ต. เปิดช่องรายใหญ่ซื้อ Bitcoin ETF | Morning Wealth 12 มี.ค. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bitcoin ETF

บอร์ด ก.ล.ต. อนุมัติเปิดทางให้ บลจ. ขายกองทุนที่ลงทุนใน Spot Bitcoin ETF ให้นักลงทุนรายใหญ่ไทยได้ ขณะที่ราคา Bitcoin ทำ ATH ใหม่ทะลุ 71,000 ดอลลาร์ รายละเอียดเป็นอย่างไร

วิเคราะห์ธีมเศรษฐกิจไตรมาส 2 ‘โลก Soft Landing, ไทยอ่อนแอเชิงโครงสร้าง’ พูดคุยกับ ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

 

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: บอร์ด ก.ล.ต. เปิดช่องรายใหญ่ซื้อ Bitcoin ETF | Morning Wealth 12 มี.ค. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>
กองทุน ETF Bitcoin ดูดเงินทุน 8 พันล้านดอลลาร์ ดันราคาเหรียญกลับมาสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน https://thestandard.co/bitcoin-btc-hovers-near-one-month-high/ Fri, 09 Feb 2024 04:49:50 +0000 https://thestandard.co/?p=897810 ETF Bitcoin

ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 45,000 ดอลลาร์ ทำจุด […]

The post กองทุน ETF Bitcoin ดูดเงินทุน 8 พันล้านดอลลาร์ ดันราคาเหรียญกลับมาสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ETF Bitcoin

ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 45,000 ดอลลาร์ ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2024 ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 7% 

 

หนึ่งในปัจจัยบวกสำคัญต่อราคา Bitcoin คือการอนุมัติให้สามารถจัดตั้งกองทุน ETF Bitcoin ในสหรัฐฯ โดยมี 9 กองทุนที่เริ่มเปิดรับเงินลงทุนตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา โดยกองทุนใหม่เหล่านี้ได้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนสุทธิ 8 พันล้านดอลลาร์ แต่สำหรับกองทุน Grayscale Bitcoin Trust ที่ตั้งมานานกว่า 10 ปี ก่อนจะเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นกองทุน ETF กลับมีเงินทุนไหลออก 6 พันล้านดอลลาร์ 

 

Caroline Mauron ผู้ร่วมก่อตั้ง Orbit Markets มองว่า ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงให้โมเมนตัมของ Bitcoin กลับมาอีกครั้ง และมีโอกาสจะช่วยให้ราคา Bitcoin พุ่งทะลุ 50,000 ดอลลาร์ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

 

จับตา NFTs คืนชีพกลับมาเป็นเสาหลักของทุนนิยมดิจิทัล

Yat Siu ผู้ก่อตั้ง Animoca Brands บริษัทด้านการพัฒนาโปรเจกต์ Web 3.0 ชื่อดังอย่าง The Sandbox เชื่อว่า ‘NFTs’ (Non-Fungible Token) จะกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของทุนนิยมดิจิทัล (Digital Capitalism) ในอนาคต ทั้งในวงการจัดการลิขสิทธิ์หรือวงการการศึกษา 

 

ซึ่ง NFTs เป็นเทคโนโลยีบนบล็อกเชนที่ผู้ถือครองสามารถเป็นเจ้าของชิ้นส่วนโทเคนดิจิทัลนั้นได้จริง และสามารถโอนสิทธิ์หรือซื้อขายระหว่างกันเพื่อทำเงินได้โดยปราศจากพรมแดน

 

Siu มองว่าการที่ตลาดให้มูลค่าต่อ NFTs ที่ค่อนข้างต่ำ (Low Valuation) ในปัจจุบัน ทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมค่อนข้างแข็งแรง ปัจจัยการเก็งกำไรค่อนข้างน้อย และสามารถพัฒนาประโยชน์ใช้สอยได้เยอะกว่า เมื่อเทียบกับช่วงตลาดกระทิงปี 2021-2022 ซึ่งเต็มไปด้วยการเก็งกำไรมากกว่าการหาประโยชน์การใช้งาน

 

และอาจเป็นการตีความได้ว่า คนที่ยังเหลืออยู่บนแพลตฟอร์ม คือกลุ่มคนที่เชื่อมั่นและจริงจังต่อการพัฒนา NFTs ให้เกิดกรณีใช้สอยได้จริงๆ (Use Cases)

 

ทั้งนี้ Siu ยังเชื่อว่า NFTs และระบบ Web 3.0 จะเข้ามาช่วยในการลดความเหลื่อมล้ำ จากการให้ผู้มีส่วนได้เสียได้รับผลประโยชน์และร่วมเป็นเจ้าของด้วยกัน ซึ่งจะเป็นก้าวแรกสำหรับการสร้างสังคมที่ผู้คนมีความเข้าใจด้านการเงินได้อย่างเท่าเทียมอีกด้วย

 

อย่างที่เห็นการเติบโตของ NFTs คริปโตเคอร์เรนซี หรือบล็อกเชนในประเทศแถบเอเชีย จากการที่ผู้คนมองว่าเป็นส่วนขยายและต่อยอดของทุนนิยมแบบดิจิทัล 

 

โดยความสามารถในการเป็นเจ้าของชิ้นส่วนดิจิทัลบนบล็อกเชนของ NFTs เป็นจุดสำคัญในการปฏิวัติวงการลิขสิทธิ์และคอนเทนต์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมการศึกษาไปจนถึงเกมที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากผนวกรวมกับระบบทุนนิยมก็จะสามารถพัฒนากลายเป็นรากฐานสำคัญสำหรับสังคมแบบประชาธิปไตยในอนาคตได้อย่างแท้จริง

 

Siu ได้ยกตัวอย่างของ TinyTap บริษัทเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) ที่ทาง Animoca เข้าซื้อตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งครูบนแพลตฟอร์มสามารถทำเงินจากคอนเทนต์ที่ลงไปในแพลตฟอร์ม โดยปราศจากข้อจำกัดอย่างที่เคยเป็นในยุคก่อน 

 

ทั้งนี้ ตัวเลขการใช้งานบนแพลตฟอร์มยังน้อยอยู่ในตอนนี้ แต่ในอนาคตรายได้บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ที่ให้แก่ผู้ใช้งานอาจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็เป็นได้

 

อ้างอิง:

 

The post กองทุน ETF Bitcoin ดูดเงินทุน 8 พันล้านดอลลาร์ ดันราคาเหรียญกลับมาสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กองทุน Bitcoin Futures หลบไป! นักลงทุนแห่ไปหา Spot ETF แทน ฉุดวอลุ่ม ProShares Bitcoin Strategy ETF วูบ 75% https://thestandard.co/investors-flock-to-bitcoin-spot-etf/ Fri, 26 Jan 2024 00:49:32 +0000 https://thestandard.co/?p=892296

นับตั้งแต่กองทุน Spot Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติในสหร […]

The post กองทุน Bitcoin Futures หลบไป! นักลงทุนแห่ไปหา Spot ETF แทน ฉุดวอลุ่ม ProShares Bitcoin Strategy ETF วูบ 75% appeared first on THE STANDARD.

]]>

นับตั้งแต่กองทุน Spot Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ นักลงทุนก็ให้ความสนใจกับกองทุน Futures ETF น้อยลง ทำให้ Bitcoin Strategy ETF (BITO) ของ ProShares ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมาก ต้องเผชิญกับปริมาณการซื้อ-ขายที่ร่วงลงถึง 75% โดยปริมาณการซื้อ-ขายร่วงลงจากระดับสูงสุด 2 พันล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 11 มกราคม เหลือเพียง 500 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา 

 

ปริมาณการซื้อ-ขายของ ProShares Bitcoin Strategy ETF ที่ดิ่งลงอย่างมีนัยสำคัญนี้ เกิดขึ้นจากความสนใจของนักลงทุนที่เปลี่ยนไปที่ Spot Bitcoin ETF แทน นอกจากวอลุ่มการซื้อ-ขายจะลดลงเหลือเพียง 500 ล้านดอลลาร์ จากระดับสูงสุด 2 พันล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 11 มกราคมแล้ว ข้อมูลจาก etf.com ยังแสดงให้เห็นว่า BITO เจอกับเงินทุนไหลออกสุทธิ (Net Outflow) มากกว่า 270 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเดียวกัน

 

ในทางตรงกันข้าม สัปดาห์แรกที่มีการเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF 11 แห่ง ปริมาณการซื้อ-ขายกองทุนเหล่านี้มีมากถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ายอดการซื้อ-ขายของ ETF ทั้งหมดที่เปิดตัวในปี 2023 การลงทุนใน Spot Bitcoin ETF เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องยุ่งยากในการจัดเก็บ Bitcoin และถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ETF ที่ใช้ Futures เช่น BITO  

 

นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะต้องการลงทุนในกองทุน Spot มากกว่าสินค้าอ้างอิงอย่างสัญญาซื้อ-ขายล่วงหน้า (Futures) เช่น BITO เนื่องจากกลไกโดยธรรมชาติของ Futures จำเป็นต้องมีการ Rollover สัญญา และนำไปสู่ต้นทุนเพิ่มเติมที่ส่งผลเสียต่อผลการดำเนินงานในระยะยาว แต่ในปีที่ผ่านมา กองทุน Spot Bitcoin ETF ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้ความต้องการในกองทุน Bitcoin Futures ยังมีอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากิจกรรมการซื้อ-ขายจะชะลอตัวลง แต่นักวิเคราะห์ตลาดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อบทบาทของ BITO ในภาคส่วนคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง

 

ภายในช่วงเวลาอันสั้นหลังจากที่มีการเปิดตัว ปัจจุบันกองทุน Spot Bitcoin ETF มีมูลค่าตลาดแซงหน้า Silver ETF แล้ว สิ่งนี้เน้นให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้น และการยอมรับ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมายในตลาดการเงินโลก โดย Silver ETF มีมูลค่าสินทรัพย์รวมมูลค่าประมาณ 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ Spot Bitcoin ETF มีมูลค่ามากกว่า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ 

 

หลังจากที่สหรัฐอเมริกาอนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF แห่งแรก Bitcoin ก็ปรับตัวลงจากประมาณ 49,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี มาอยู่ที่ประมาณ 40,000 ดอลลาร์ ณ เวลา 19.00 น. ของเมื่อวานนี้ (25 มกราคม)

 

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น 

 

อ้างอิง:

The post กองทุน Bitcoin Futures หลบไป! นักลงทุนแห่ไปหา Spot ETF แทน ฉุดวอลุ่ม ProShares Bitcoin Strategy ETF วูบ 75% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ข่าวดีเริ่มจาง! บิทคอยน์ร่วงสู่ระดับ 39,500 ดอลลาร์ ลดลงกว่า 10% จากต้นปี https://thestandard.co/bitcoin-falls-to-39500/ Tue, 23 Jan 2024 02:39:19 +0000 https://thestandard.co/?p=890872

วันนี้ (23 มกราคม) เหรียญคริปโตเบอร์ 1 ตามมูลค่าตลาดอย่ […]

The post ข่าวดีเริ่มจาง! บิทคอยน์ร่วงสู่ระดับ 39,500 ดอลลาร์ ลดลงกว่า 10% จากต้นปี appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (23 มกราคม) เหรียญคริปโตเบอร์ 1 ตามมูลค่าตลาดอย่างบิทคอยน์ หลังจากที่สามารถสร้างผลตอบแทนปิดปีไปกว่า 150% ที่ระดับราคาราว 42,000 ดอลลาร์ในช่วงปี 2023 แต่กลับทำผลตอบแทนในช่วงมกราคมของปีนี้ ปิดลบไปราว 7.88% นับตั้งแต่ต้นปี ลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 40,600 ดอลลาร์ หลังจากที่กองทุน Bitcoin Spot ETF ได้รับการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้นักลงทุนเริ่มแห่ขายทำกำไรออกมาบ้าง

 

โดยในช่วงต้นมกราคมนี้ (11 มกราคม) ที่กองทุน Bitcoin Spot ETF 11 กองได้รับการอนุมัติให้สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ได้สำเร็จ ทำให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จากระดับ 46,000 ดอลลาร์ สู่ 49,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2021

 

ก่อนที่จะถูกเทขายทำกำไรอย่างรวดเร็วในวันเดียวกันกลับไปที่ระดับ 45,000-46,000 ดอลลาร์ ซึ่งในช่วงหลังจากนั้นก็ถูกเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง (Sell on Fact) หลังจากที่มีการเก็งกำไรขึ้นมาจากข่าวกองทุน Bitcoin Spot ETF ในช่วงปีที่ผ่านมา จนมาเคลื่อนไหวที่ระดับราคา 40,600-40,700 ดอลลาร์ในปัจจุบัน 

 

ในขณะที่เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตามตลาดรองลงมาอย่างอีเทอเรียม ก็ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน ที่สร้างผลตอบแทนในช่วงปีก่อนไปราว 91% ปิดที่ราว 2,300 ดอลลาร์ แต่นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมกราคม 2024 กลับปรับตัวขึ้นมาราว 0.69% เคลื่อนไหวที่บริเวณ 2,368 ดอลลาร์ 

 

ซึ่งคาดว่าอาจมาจากกระแสเก็งกำไรลูกถัดไป ที่นักลงทุนมองว่าหาก Bitcoin Spot ETF สามารถอนุมัติได้ กองทุน Ethereum Spot ETF ที่คาดว่าจะพิจารณาการอนุมัติภายในเดือนพฤษภาคมนี้ก็อาจเป็นเหรียญถัดไปที่จะมีกระแสเงินไหลเข้ามาได้

 

ในขณะที่เหรียญฮอตฮิตของวงการอย่าง BNB ของแพลตฟอร์ม Binance กลับไม่ทำผลตอบแทนมาเหมือนเหรียญคริปโตอื่นๆในช่วงปีก่อน (2023) โดยทำผลตอบแทนปิดปีไปเพียง 23% ที่ระดับ 313 ดอลลาร์ 

 

คาดว่ามาจากปัจจัยข่าวด้านลบที่เข้ามากดดันทั้ง Binance และอดีตซีอีโอของ Binance อย่าง CZ ที่นักลงทุนต่างมองกันว่ามีผลโดยตรง ต่อทิศทางในอนาคตของเหรียญดังกล่าว ซึ่งในช่วงมกราคมของปีนี้ BNB ก็เคลื่อนไหวในทิศทางทรงตัว อยู่ที่บริเวณ 313 ดอลลาร์ นับจากต้นปี

 

อ้างอิง: 

The post ข่าวดีเริ่มจาง! บิทคอยน์ร่วงสู่ระดับ 39,500 ดอลลาร์ ลดลงกว่า 10% จากต้นปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดกระทิง! https://thestandard.co/bull-market-tips/ Wed, 17 Jan 2024 07:00:14 +0000 https://thestandard.co/?p=888452 ตลาดกระทิง

ท่ามกลางกระแสข่าวคริปโตมากมาย ทั้งเรื่อง Bitcoin ETF, B […]

The post เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดกระทิง! appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตลาดกระทิง

ท่ามกลางกระแสข่าวคริปโตมากมาย ทั้งเรื่อง Bitcoin ETF, Bitcoin Halving Countdown และ Financial & Corporate Adoption นักลงทุนหลายท่านอาจมองว่าตลาดกระทิงในโลกคริปโตนั้นกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!

 

แน่นอนว่ายังมีปัจจัยความเสี่ยงอีกมากมายในโลกคริปโต เช่น หลักเกณฑ์กำกับดูแลจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกที่มีบทบาทสำคัญต่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมคริปโต และความเสี่ยงเรื่องเทคโนโลยีที่ยังคงต้องพิสูจน์กันต่อไปอีกในระยะยาว ดังนั้นอะไรก็ยังคงเกิดขึ้นได้สำหรับตลาดคริปโตในปีนี้ #NotAFinancialAdvice

 

สำหรับคนที่มองว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการลงทุนแล้ว บทความนี้จะช่วยคุณเตรียมความพร้อมในการบริหารความเสี่ยงและให้ข้อเสนอแนวทางในการลงทุนให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายที่คุณตั้งไว้

 

เตรียมความพร้อมในการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงคริปโต

Setting Up for Success & Risk Management

 

 

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ไม่ใช่แค่ในเรื่องความผันผวนของราคา แต่ความเสี่ยงต่างๆ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเปลี่ยนเงินสดให้กลายเป็นเงินคริปโต การซื้อขายคริปโตในช่องทางที่เหมาะสม จนไปถึงการเก็บรักษาคริปโตที่เรามีอยู่ไม่ให้สูญหายหรือถูกขโมยไปได้ มีการหลอกลวงและผู้ไม่ประสงค์ดีมากมายที่จะพยายามหลอกเราอยู่เสมอ ดังนั้นเราจึงต้องศึกษาเรื่องความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ ให้ดีก่อนเริ่มลงทุน

 

มีแนวทางมากมายในการเริ่มต้น แต่ขั้นตอนที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดก็คงเป็นการเปิดบัญชีเทรดกับ Exchange หรือ Broker ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เหมาะสม (และเป็นบริษัทใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือสูงหรือดำเนินธุรกิจมานานโดยไม่มีปัญหาด้านการฉ้อโกง (Fraud) หรือด้านจริยธรรม (Ethics) ทว่าการซื้อขายเหรียญใน Exchange นั้นอาจจะไม่ใช่เป้าหมายที่เราต้องการหากเราต้องการขยายกรอบการลงทุนหรือต้องการทำธุรกรรมต่างๆ ในระบบ Decentralized Blockchain เช่น DeFi, Metaverse, GameFi เป็นต้น การทำความเข้าใจ Digital Wallet และระบบ Blockchain จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้เรามี Set Up ดีพร้อมต่อการลงทุนในตลาดกระทิง

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารและตัวชี้วัดตลาด

Source of Information & Market Indicators

 

นักลงทุนต้องตัดสินใจลงทุนผ่านการกลั่นกรองข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเทรดระยะสั้นหรือลงทุนระยะยาว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีแหล่งข้อมูลที่

 

  1. แม่นยำ
  2. รวดเร็ว
  3. ครบถ้วน
  4. ถูกต้อง

 

ซึ่งต้องบอกเลยว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะหาข่าวสารคุณภาพสูงได้เป็นคนแรกๆ ในโลกคริปโต ดังนั้นนักลงทุนมากมายจึงต้องพึ่งพา Technical Analysis หรือการอ่านกราฟ อย่างไรก็ตาม บอตเทรดในโลกคริปโตสามารถเข้าถึงข้อมูลมหาศาลในโลก Decentralized Blockchain ได้ก็เก่งและเร็วมากๆ จึงทำให้นักลงทุนมือใหม่เทรดไม่ทันระบบเทรดต่างๆ ด้วยเหตุนี้แนวทางที่พอเป็นไปได้คือการใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลายประกอบกัน ทั้ง Qualitative และ Quantitative โดยเน้นใช้ข่าวสารที่มองว่าเป็นปัจจัยลดความเสี่ยงเป็นหลัก แทนที่จะพยายามไล่ตามข่าว Crypto to the Moon (โอกาสโดนหลอกสูงมาก) หรือ Technical Chart ที่บอกให้ซื้อขายแทบตลอดเวลาเพราะมูลค่าคริปโตจะผันผวนสูงมากในระยะสั้น “จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปวัดดวงก็ได้ แต่อย่าเอาไปรวมกับเงินที่คิดจะลงทุนจริงๆ”

 

กลยุทธ์การลงทุนกับการปรับ Mindset

Portfolio Strategy and Mindset

 

 

อย่าเอาเงินทั้งหมดมาลงที่คริปโต ยังไงก็ต้องมีเงินบางส่วนเผื่อใช้ตอนฉุกเฉิน ตลาดคริปโตผันผวนสูงมาก ดังนั้นหากเราลงทุนผิดพลาดอาจจะใช้เวลานานในการ Recover หรือเงินลงทุนอาจจะสูญหายไปเลยก็เป็นได้

 

การแบ่ง Portfolio คือการจัดเป้าหมายในการลงเงินของเราให้มีความชัดเจนและเป็นระเบียบ

 

  1. ลงทุนเสี่ยงสูง / เสี่ยงต่ำ
  2. ระยะสั้น / ระยะยาว
  3. ขั้นต่ำกระจายลงทุนกี่ตัว
  4. แต่ละตัวไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินทั้งหมด
  5. ช่วงเวลาทบทวนและปรับเปลี่ยน Portfolio
  6. อื่นๆ

 

เมื่อเรากำหนดแนวทางการลงทุนได้แล้ว อีกเรื่องที่สำคัญมากๆ ก็คือการกำหนด Mindset ให้ทำตามกลยุทธ์ที่วางไว้ อย่าให้ Emotion (ความรู้สึก) อยู่เหนือ Cognition (สมอง) ไม่เช่นนั้นเราจะฝ่าฝืนนโยบายที่ตัวเองวางไว้แล้วเกิด Panic Sell, FOMO (Fear of Missing Out) Buy อยู่ตลอด ซึ่งผลลัพธ์แทบทุกครั้งจะเป็นไปในแง่ลบอยู่เสมอ

 

ติดตามข่าวสารได้ที่ Brook Digital Asset

Facebook: https://www.facebook.com/BrookDigitalAsset  

X: https://twitter.com/BrookerGroupPLC

 

The post เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดกระทิง! appeared first on THE STANDARD.

]]>
จับตากองทุน ETF ในเหรียญอื่นต่อเนื่องจาก Bitcoin คาด Ethereum คือรายถัดไปที่จะได้ไฟเขียว https://thestandard.co/keep-an-eye-on-etf-in-other-coins/ Thu, 11 Jan 2024 12:22:34 +0000 https://thestandard.co/?p=886676

นับเป็นเวลากว่าหลายปีที่ Bitcoin ETF ถูกพิจารณาจากสำนัก […]

The post จับตากองทุน ETF ในเหรียญอื่นต่อเนื่องจาก Bitcoin คาด Ethereum คือรายถัดไปที่จะได้ไฟเขียว appeared first on THE STANDARD.

]]>

นับเป็นเวลากว่าหลายปีที่ Bitcoin ETF ถูกพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐอเมริกา จนในที่สุดนักลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีก็ได้รับข่าวดี และกลายเป็นกระแสที่จะดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาในโลกสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งนี้ แต่ทำไมการพิจารณาจึงกินเวลานาน และอนาคตของคริปโตจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้?

 

การผ่านพิจารณาการอนุญาตให้ออก ETF ของ Bitcoin นับเป็นข่าวดีที่โลกคริปโตเฝ้ารออย่างยาวนาน เนื่องจาก ETF เป็นกองทุนที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนโดยตรงกับ Bitcoin ได้ และเป็นวิธีการลงทุนที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้งในตราสารทุน ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน และอสังหาริมทรัพย์ เมื่อ Bitcoin Spot ETF ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทลงทุนชั้นนำอย่าง Fidelity และ BlackRock คาดว่าจะดึงดูดผู้ที่เคยลังเลต่อคริปโตได้สำเร็จ

 

เนื่องจาก ETF ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมมูลค่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ สามารถลงทุนหรืออ้างอิงผลตอบแทนของดัชนีได้ ประกอบกับการซื้อ ETF ก็เป็นเรื่องง่าย เพราะสามารถซื้อขายได้ตลอดทั้งวันในตลาดหลักทรัพย์ และจะได้รับอนุมัติให้ถือ Bitcoin จริง แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ซึ่งลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สของ Bitcoin ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต.สหรัฐฯ ปัดตก Bitcoin Spot ETF มาตลอดหลายปีนี้

 

ก่อนหน้านี้เคยมี ETF ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin อย่างเช่น ProShares Bitcoin Strategy ETF ซึ่งเป็น ETF ฟิวเจอร์ส Bitcoin ตัวแรกที่มีจำหน่ายในสหรัฐฯ เปิดตัวเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2021 หรือ Purpose Bitcoin ETF เปิดตัวครั้งแรกที่โทรอนโตเมื่อต้นปี 2021 ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin ทั้งรูปแบบกายภาพและดิจิทัล แต่ที่จุดประกายความหวังที่แท้จริงคือ Grayscale Bitcoin Trust ซึ่งเป็นทรัสต์การลงทุนใน Bitcoin โดยมีสินทรัพย์ในโลกการลงทุนเดิมค้ำประกัน แรงกระตุ้นสำหรับ Bitcoin Spot ETF ได้รับความนิยมขึ้นเมื่อ Grayscale ชนะคำตัดสินของศาลในวันที่ 29 สิงหาคม ในการผลักดันให้ทรัสต์ Bitcoin ของตนกลายเป็น ETF

 

สาเหตุที่ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลต่อต้าน Bitcoin Spot ETF มาอย่างยาวนานมาจากความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องและการปั่นราคา และยังกังวลว่าความผันผวนของ Bitcoin อาจรุนแรงสำหรับนักลงทุนทั่วไปจนเกินไป โดยราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้น 60% ในปี 2021 ลดลง 64% ในปี 2022 และเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 นอกจากนี้ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ยังตั้งคำถามว่ากองทุนจะมีข้อมูลเพียงพอในการประเมินมูลค่าโทเคนอย่าง Bitcoin ได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงสามารถตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของเหรียญเบื้องหลังได้หรือไม่ ในปี 2021 

 

แกรี เจนส์เลอร์ ประธาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ ให้การเป็นพยานต่อคณะกรรมการการธนาคารของวุฒิสภาว่า การขาดการกำกับดูแลและการเฝ้าระวังด้านกฎระเบียบในตลาดคริปโตทำให้เกิดความกังวลถึงความเป็นไปได้ในการฉ้อโกงและการปั่นราคา และล่าสุดเจนส์เลอร์ได้โพสต์บน X เมื่อวันที่ 9 มกราคม ว่าคริปโตมีความเสี่ยงที่ร้ายแรง 

 

BlackRock และบริษัทด้านการลงทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ทำข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลการเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการลดความเสี่ยงของการปั่นป่วนตลาดและการฉ้อโกงได้ ขณะที่ Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตอย่างเปิดเผยแห่งเดียวในสหรัฐฯ ได้กลายเป็นพันธมิตรในการเฝ้าระวังตลาดสำหรับผู้ออก ETF

 

ทิศทางอนาคตสำหรับโลกคริปโตอาจปรากฏให้เห็นได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด นักลงทุนกำลังพิจารณาว่าสกุลเงินดิจิทัลใดที่จะได้รับอนุมัติ Spot ETF ต่อจาก Bitcoin ซึ่งตัวเต็งได้แก่ Ethereum และ XRP ที่กำลังได้รับความสนใจมากที่สุด

 

ในรอบ 24 ชั่วโมงนี้ ราคา Ethereum (ETH) ปรับตัวขึ้น 9% หลังข่าวการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF ได้รับการยืนยัน ขณะที่ราคา Bitcoin ยังทรงตัวเท่านั้น โดยอาจเป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังเดิมพัน Ethereum ให้เป็นสกุลเงินรายถัดไปที่จะได้รับการอนุมัติ Spot ETF 

 

ในทางตรงกันข้าม Bitcoin ที่มีกระแสตอบรับเชิงบวกมาเป็นเวลาหลายเดือน หลังการอนุมัติ Spot ETF ลุล่วงแล้ว นั่นนำไปสู่การคาดเดาว่าภาวะขาขึ้นของ Bitcoin อาจแผ่วลงแล้วในตอนนี้

 

ริชาร์ด กาลวิน ผู้ร่วมก่อตั้ง DACM ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์คริปโต กล่าวว่า ด้วยขนาด สภาพคล่อง และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า CME ที่มีอยู่ Ethereum มีคุณสมบัติเหมือน Bitcoin ที่ประสบความสำเร็จ ทำให้การถือครอง Ethereum เป็นสินทรัพย์จริงในสหรัฐฯ จึงเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้

 

อ้างอิง:

The post จับตากองทุน ETF ในเหรียญอื่นต่อเนื่องจาก Bitcoin คาด Ethereum คือรายถัดไปที่จะได้ไฟเขียว appeared first on THE STANDARD.

]]>