วันนี้ (25 พฤษภาคม) สนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ตรวจสอบกรณี พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย ยูทูเบอร์และบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง จากกรณีที่พิมรี่พายได้ Live Facebook ขอโทษ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ Live Facebook ต่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีที่พูดถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และการทำงานของรัฐบาลในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งมีการกล่าวพาดพิงถึงพิมรี่พายเป็นเวลา 5 วินาที เกี่ยวกับการตั้งโรงพยาบาลสนามของพิมรี่พาย จนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลไปก่อนหน้านี้ 

สนธิญาเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีประเด็นที่พิมรี่พายต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ 4 ประเด็นคือ กรณีการนำของไปบริจาคมูลค่า 2 แสนกว่าบาทกับหน่วยงานหนึ่ง แต่หน่วยงานแห่งนั้นไม่ยอมรับบริจาค ตนเองอยากทราบว่าหน่วยงานนั้นคือหน่วยงานอะไร เพื่อจะได้ทราบว่าเหตุใดหน่วยงานดังกล่าวไม่ยอมรับเงินบริจาคและสิ่งของของพิมรี่พาย 

รวมถึงประเด็นเรื่องที่พิมรี่พายกล่าวว่าถูกข่มขู่โดยบุคคลบางกลุ่ม จึงอยากทราบว่ากลุ่มบุคคลเหล่านั้นคือใคร เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร เพื่อจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ประเด็นนี้สนธิญามองว่า หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ก็ควรต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง หรือเป็นเพียงการพูดสนุกปากสร้างกระแส 

ประเด็นต่อมาคือ เรื่องธุรกิจของพิมรี่พายในการ Live แต่ละครั้ง ซึ่งตนเองพบว่ามียอดผู้ชมเข้ามาดูและสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากกว่า 1 หมื่นคน จึงตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าตัวมีการจ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้กฎหมายเกี่ยวกับภาษีธุรกิจออนไลน์ถูกบังคับใช้แล้ว และหากพิมรี่พายมีรายได้จากการทำธุรกิจจำนวนมาก ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้อง 

ประเด็นสุดท้ายคือ กรณีของตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ บก.ปคบ. ได้เข้าตรวจค้นโรงงานผลิตเครื่องสำอางของพิมรี่พาย หลังได้รับข้อมูลว่าเครื่องสำอางของพิมรี่พายไม่ได้มาตรฐาน เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2562 โดยในภายหลังเจ้าตัวก็รับว่าเครื่องสำอางที่จำหน่ายไม่ได้มาตรฐาน และจากนั้นพิมรี่พายได้นำเงินไปบริจาคให้กับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในอำเภอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสนธิญามองว่าอาจเป็นกระบวนการนำเงินที่ไม่ถูกกฎหมายไปบริจาคหรือเข้ากระบวนการบางอย่าง จึงอยากทราบว่าเงินที่ใช้ในการบริจาคเป็นเงินที่มาจากที่ใด

ทั้งนี้ สนธิญายืนยันว่าประเด็นที่เข้าร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้ง หลังจากที่พิมรี่พายกล่าวขอโทษอดีตนายกรัฐมนตรี หรือกรณีที่พิมพิพายมักจะกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลบ่อยครั้ง แต่มองว่าหากพิมรี่พายทำธุรกิจต่างๆ ถูกต้อง และมีความบริสุทธิ์ใจ ก็ควรชี้แจงเรื่องดังกล่าวได้ทั้งหมด และหากเจ้าตัวสามารถชี้แจงทุกประเด็นได้ ก็พร้อมเดินทางมาถอนคำร้องทุกข์ดังกล่าวทั้งหมด 

ทั้งนี้ หากตำรวจกองบังคับการปราบปรามสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดเข้าข่ายในเรื่อง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และความผิดในกฎหมายอาญา ก็พร้อมจะเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีในประเด็นต่างๆ ทันที

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post สนธิญา ร้องทุกข์กองปราบ ให้ตรวจสอบ ‘พิมรี่พาย’ 4 ประเด็น เงินบริจาค-ภาษี ยืนยันไม่ใช่กลั่นแกล้ง appeared first on THE STANDARD.

เทรนด์ความงามมันช่างเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน หากไม่นับเทรนด์ของสีสัน และการออกแบบนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มไอเท็มความงามให้สวยงามน่าใช้ และให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เทรนด์สนุกๆ ที่สร้างสีสันให้วงการบิวตี้ก็เปลี่ยนไปเร็วเช่นกัน หากคุณเป็นคนที่ชอบดู YouTube ของเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ที่มาโชว์แต่งหน้า น่าจะเริ่มสังเกตเห็นว่ามีหลายๆ คนนำเอาวิธีการใช้เสียงแบบ ASMR มาบรรยายขั้นตอนระหว่างการแต่งหน้า ซึ่งเริ่มมาเป็นปีแล้ว แต่เพิ่งมาฮิตจนกลายเป็นเทรนด์ ASMR Relaxing Makeup Tutorial ที่ใครๆ ก็ทำตามในช่วงนี้เอง ถือเป็นมิติใหม่ของการดูคนแต่งหน้าที่เพลิดเพลินดี ดีไม่ดีคุณอาจแต่งหน้าตามไม่ทัน เพราะอาจเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ 

The post ชมคลิป: ASMR Relaxing Makeup Tutorial แต่งหน้าไป กระซิบไป เทรนด์ใหม่ของเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์​ appeared first on THE STANDARD.

อีกหนึ่งสีสันในโลกอินสตาแกรม ที่นักแสดงสาว เบลล่า-ราณี แคมเปน ส่งความสุขให้แฟนๆ คือการลุกขึ้นมาฝึกเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ครั้งแรก ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าตื่นเต้นมากๆ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมตอนอยู่บ้านที่แก้เบื่อได้ไม่น้อย 

สาวเบลล่าเริ่มต้นจากการแนะนำลิปสติกรุ่นใหม่ล่าสุดที่เธอเองก็ใช้จริงอยู่แล้ว นั่นคือ Dior Addict Stellar Halo Shine ซึ่งเธอจะใช้ลิปสติกแท่งนี้มาครีเอตลุคแต่งหน้าจำนวน 2 ลุคให้แฟนคลับได้ชมกัน ไปที่ลุคแรกก่อน เธอโชว์ลุคการแต่งกายที่มาในลุคเรียบๆ แต่คูล กับเสื้อสีขาวแมตช์กับกางเกงยีนส์ เบลล่าก็เลยเลือกลิป Dior Addict Stellar Halo Shine สี 669 Super Star มาแต่งเป็น Everyday Look ซึ่งจะใช้ลิปสติกสีอมส้ม และทาทับด้วยลิปกลอสสีนู้ด D-Light การแมตช์สีลิปสติกสองสีเข้าด้วยกันแบบนี้ เป็นการใช้สีที่คอนทราสต์กันแต่แมตช์กันได้ลงตัว และเป็นเฉดสีที่ทาได้ทุกวัน แถมยังเข้ากับทุกลุคอีกด้วย

ไปกันที่ลุคที่สอง เบลล่าบอกว่าเธอจะลองเปลี่ยนเป็นอีกลุค ซึ่งจะออกแนวแกลมๆ นิดหนึ่ง สามารถแต่งลุคนี้ไปดินเนอร์หรือไปออกงานได้ สีที่เธอเลือกมาแมตช์ลุคแต่งหน้าคือลิปสติก Dior Addict Stellar Halo Shine สี 976 Be Dior Star และลิปกลอสสี 976 Be Dior เธอเลือกคู่สีเฉดเหมือนกันมาทาด้วยกัน ทำให้สีติดทนนาน และจะมีสารบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นด้วย เธอแนะนำว่าใครที่ทาลิปสติกสีเข้มไม่เก่งหรือทาไม่เป็น ลองใช้ลิปรุ่นที่เธอทารับรองว่าทาง่ายมากๆ 

เป็นการฝึกเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ที่ดูง่าย ไม่ซับซ้อน และได้เห็นมุมน่ารักๆ ของสาวเบลล่ามากขึ้นด้วย ใครอยากตามไปดูสามารถคลิกได้ที่นี่ 

ภาพ: @Bellacampen/ Instagram

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post เบลล่า-ราณี แคมเปน แก้เบื่อตอนอยู่บ้านด้วยการลุกขึ้นมาฝึกเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ครั้งแรก appeared first on THE STANDARD.

ลองเช็กตัวเองหน่อยไหมว่า ในชีวิตนี้เคยกรีดอายไลเนอร์แค่แบบ Cat Eye อย่างเดียวหรือเปล่า? หากคำตอบคือ ‘ใช่’ เราอยากชวนมาดูไอเดียของสาว Tania บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ชาวนิวซีแลนด์หน่อยดีกว่า เธอเป็นคนที่มีไอเดียกรีดอายไลเนอร์ที่สนุก ดูเพลินดั่งการเสพงานอาร์ต เผื่อใครจะใช้เป็นไอเดีย เผื่อแต่งไปงานปาร์ตี้เคานต์ดาวน์ปีใหม่ก็ไม่มีใครห้าม 

1. ใช้อายไลเนอร์สีขาวกับสีดำครีเอตเป็นเส้นรูปดาวที่กึ่งกลางตาล่าง เทคนิควาดเส้นแต่ละข้างให้โค้งเป็นตัว U ครอบหางตา แล้วค่อยวาดดาวเติมลงไปทีหลัง 

2. อายไลเนอร์ลายไม้แขวนเสื้อ ดูมินิมัล น่ารัก เทคนิคใช้ดินสออายไลเนอร์วาดเป็นเส้นโค้งรูปไม้แขวนเสื้อตามรอยพับเปลือกตา แล้วเติมส่วนที่เป็นไม้แขวนตอนท้าย 

3. เติมเสน่ห์ดวงตาให้เป็นลายอ่อนช้อย (ดูคล้ายลายเส้นแบบไทยๆ) เทคนิคคือ วาดเส้นปลายแหลม 2 เลเยอร์ ให้รับกับหางตา เติมเส้นแหลมที่หัวตาเพื่อความสมดุล ทั้งสองข้างใช้อายไลเนอร์คนละสี 

4. ไอเดียนี้แต่งแกล้งเพื่อนขำๆ ก็ตลกดี วาดเส้นไลเนอร์ปลายแหลมจากหัวตาลงมาตามแนวถุงใต้ตา ส่วนหางตาตวัดเส้นให้แหลมขึ้น เป็นสไตล์ที่แปลกแต่ถ่ายรูปออกมาเก๋ดี 

5. ลุคนี้ชวนให้พิศวงงงงวยกับเส้นอายไลเนอร์ที่พันกันเหมือนจะวุ่นวาย แต่ถ้าเพ่งมองจริงๆ แล้ว สวยเก๋ไม่เบา เทคนิคคือวาดเส้นอายไลเนอร์สีดำกับขาวสลับกัน

ภาพ: Instagram @luciphyrr 

The post ชมศิลปะแห่งการกรีดอายไลเนอร์ของสาวบิวตี้ชาวนิวซีแลนด์ appeared first on THE STANDARD.

ในโลกความงามแห่งประเทศเกาหลีใต้ ชื่อของ ‘โพนี่’ หรือ พัคฮเยมิน โด่งดังและเป็นที่รู้จักในฐานะบิวตี้บล็อกเกอร์และเมกอัพอาร์ทิสต์ที่แต่งหน้าได้สร้างสรรค์มากที่สุดคนหนึ่ง

เธอเริ่มเข้าสู่วงการบิวตี้เมื่อปี 2008 โด่งดังจากการเขียนบล็อกสอนแต่งหน้าในสไตล์ของเธอเอง พัฒนาสู่การทำคลิปวิดีโออัปโหลดลงยูทูบ และโกยยอดวิวมหาศาล ปัจจุบันโพนี่ไม่ใช่เน็ตไอดอลเกาหลี หรือเมกอัพอาร์ทิสต์ธรรมดา แต่เธอก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพที่แบรนด์ระดับโลกต่างให้การยอมรับ

อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้เธอขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ของบิวตี้บล็อกเกอร์ในแดนกิมจิ ไปรู้จักเธอให้มากกว่านี้ไปพร้อมๆ กันเลย

The post เส้นทางสู่การเป็นเบอร์ 1 ของ ‘โพนี่’ บิวตี้บล็อกเกอร์สุดฮอตแห่งแดนกิมจิ appeared first on THE STANDARD.

ก่อนมาทำธุรกิจในตำแหน่ง Co-Founder บริษัท จับของร้อน จำกัด พงษ์ศักดิ์ เจริญกุล หรือ ไทเลอร์ เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานในบริษัทเกี่ยวกับดิจิทัลมีเดียเอเจนซีมาก่อน เขาคร่ำหวอดอยู่ในวงการ Consumer Products โดยเฉพาะวงการความงามมานาน กระทั่งมีชั่วโมงบินกว่า 10 ปี จนสามารถเคลมได้ว่า เขานี่แหละที่เป็นผู้บุกเบิก Content Creators และ Blogger ตั้งแต่เจเนอเรชันแรกๆ จนถึงปัจจุบัน

จากประสบการณ์ดังกล่าว เขาจึงเหมาะเหลือเกินที่ THE STANDARD POP จะชวนมาพูดคุยเกี่ยวกับอาชีพบิวตี้บล็อกเกอร์ที่มาแรงในสายตาของเด็กรุ่นใหม่ จริงไหมที่ใครๆ ก็เป็นได้ เพียงมีช่องทางเผยแพร่คอนเทนต์ของตัวเอง เช่น อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ บล็อก หรือยูทูบ ก็สามารถถ่ายรูปหรือวิดีโอโพสต์ลงผ่านสื่อออนไลน์ และอาจได้ค่าตอบแทนในรูปแบบต่างๆ ทั้งเงิน สิ่งของ เครื่องสำอาง และเผลอๆ ได้เปลี่ยนจากคนธรรมดากลายเป็นคนดังและมีชื่อเสียงไม่ต่างจากดารา หากรู้จักสร้างคอนเทนต์ที่ถูกใจคนดูและแบรนด์สินค้า

ว่าแต่การที่ทุกอย่างดูเหมือนเริ่มต้นง่าย แต่อาชีพสุดฮอตนี้จะร่วงหรือรอดกับยุคที่ใครๆ ก็ลุกขึ้นมาเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ เราไปหาคำตอบ

จุดเริ่มต้นในธุรกิจที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

พงษ์ศักดิ์: การที่เราเป็นพนักงานธรรมดา แล้วอยู่ดีๆ ตัดสินใจลาออกมาทำบริษัทของตัวเอง มันยากตรงที่เราต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เราไม่สามารถจ้างคนมาเป็นพนักงานของเราเองได้ทันที แล้วงานที่ต้องทำเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง มันไม่ได้มีแค่การสร้างเฟซบุ๊กอย่างเดียว มันมีการแพลนคอนเทนต์ การซื้อมีเดีย การติดต่อบล็อกเกอร์ ทำบรีฟให้บล็อกเกอร์ กำหนดไทม์ไลน์ให้กับลูกค้า มันกลายเป็นว่าช่วงเปิดบริษัทเริ่มแรก ทุกคนที่เป็นหุ้นส่วน (เริ่มต้นกัน 3 คน) ต้องทำกันเองตั้งแต่ต้นจนจบ จำได้ว่าทำงานหนักมาก แล้วงานออนไลน์เป็นงานที่โหดนะ ถ้าลูกค้าจะเอางานตอนตี 3 คุณก็ต้องลุกขึ้นมาทำให้เขา บอกได้เลยว่า เราเจอลูกค้ามาทุกแบบ และเราสามารถรับมือได้หมด จากประสบการณ์ส่วนตัว ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งได้ทำงานกับลูกค้า อาจจะไม่เก็ตว่าทำไมลูกค้าเหวี่ยง ทำไมจุกจิก แต่เราทำงานมาเยอะและนานเป็น 10 ปี ทำให้เราเข้าใจลูกค้าว่าเขาต้องการอะไร ทำไมเขาต้องเยอะ เขาเยอะเพราะเขามี Objective แบบนี้ เราแค่ต้องมีวิธีการคุยและรับมือให้ได้

จิ๋วจิ๋ว

จากบริษัทดิจิทัลเอเจนซี สู่การตั้งสังกัดบิวตี้บล็อกเกอร์

พงษ์ศักดิ์: ต้องบอกว่าภาพรวมของ บริษัท จับของร้อน ที่เปิดมาได้ 3 ปีแล้ว ในปีแรก เราเป็นดิจิทัลเอเจนซีเล็กๆ ที่เริ่มจากการทำแพลนสื่อดิจิทัลอย่างเดียวก่อน ถ้ายกตัวอย่างก็เช่น แบรนด์ไหนอยากจะทำเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ยูทูบ หรือคอนเทนต์ ที่เป็นของแบรนด์เองเราก็ทำตรงนี้ให้ รวมไปถึงมีเดียและอีเวนต์เราก็ทำหมด 80% ลูกค้าของเราเป็นแบรนด์บิวตี้ รองลงมาเป็นไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และท่องเที่ยว พอเข้าสู่ปีที่ 2 เรารู้สึกว่าเรารู้จักกับน้องๆ บล็อกเกอร์เยอะ เพราะต้องติดต่อร่วมงานกันบ่อยมาก ทำให้คุยกับพาร์ตเนอร์ว่า ทำไมเราไม่ลองทำเป็นสังกัด Online Creators ของเราเองในชื่อ The Hotties by HHHBKK เป็นบริษัทลูกที่งอกออกมา

ไม่ใช่อยู่ดีๆ คุณบอกตัวเองว่าอยากเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ แต่คุณมาทำเพจหรือยูทูบแล้วขาดใจที่รัก ขาดวินัย คุณก็ร่วง ไม่มีทางประสบความสำเร็จ

ทำหน้าที่เป็นนายหน้าให้บล็อกเกอร์

พงษ์ศักดิ์: The Hotties by HHHBKK จะทำงานเหมือนเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับน้องๆ บล็อกเกอร์หรือครีเอเตอร์ คือถ้าคนไหนอยากให้เราช่วยดีลงานกับแบรนด์ต่างๆ ให้ ก็มาเซ็นสัญญากับเรา ซึ่งตอนเปิดเฟสแรกของ The Hotties by HHHBKK เรามีน้องๆ แค่ 7 คน และเราเป็นคนติดต่อไปหาเด็กเอง โดยที่น้องๆ ก็เป็นคนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เคยร่วมงานกับเราหลายงานมาก ปัจจุบันเราดูแลน้องๆ ทั้งหมด 23 คน สัญญาของเราคงไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร แต่บอกได้เลยว่าเป็นสัญญาที่ Flexible มาก คือบล็อกเกอร์สามารถรับงานเองได้ แต่ถ้างานไหนที่เขารู้สึกว่าดีลกับลูกค้าแล้วไม่จบ เราจะเข้าไปช่วยดูแลตรงนั้น แต่ส่วนใหญ่เราก็จะรับงานให้น้องๆ เป็นหลัก

หมูน้อย

อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในการดีลงานกับลูกค้ายุคนี้

พงษ์ศักดิ์: ถ้าเปรียบเทียบการทำงานในยุคแรกๆ กับยุคนี้ บอกเลยว่าเปลี่ยนไปมาก ข้อเสียของยุคนี้คือ ลูกค้ามีความ Commercial เยอะ มันทำให้ KOL (Key Opinion Leader) ค่อนข้างเสียความเป็นตัวตนในการทำคอนเทนต์ของตัวเอง เพราะถ้าทำตามใจตัวเองมากไป ลูกค้าก็ไม่แฮปปี้ ซึ่งเมื่อก่อนวงการบล็อกเกอร์มันเป็นอะไรที่ Real กว่านี้ ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์อะไรแล้วชอบก็บอกว่าชอบ และพูดได้ว่ามันใช้ดีนะ ควรไปซื้อตาม พอแบรนด์เห็นมันก็เกิดการต่อยอดจ้างงาน ถ้าพูดภาษาโฆษณาคือ ก็อาจจะได้งานลักษณะที่มีการ Tie in สินค้าให้คอนเทนต์น่าสนใจ และขายของได้ด้วยเนียนๆ แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แบบนั้น มันค่อนข้างต่างจากเมื่อก่อนตรงที่เน้นขายของเกินไป น้องๆ ในสังกัดของเราก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน ซึ่งการรับมือกับประเด็นนี้ เราก็ต้องเลือกรับผลิตภัณฑ์ที่ดีจริงเท่านั้น และต้องส่งผลิตภัณฑ์ให้น้องๆ ใช้จริง ก่อนตัดสินใจว่าจะรับงานหรือไม่ ถ้าน้องใช้แล้วไม่ชอบ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะบอกไม่รับงานนั้นเหมือนกัน

ข้อเสียของยุคสมัยนี้คือ ลูกค้ามีความ Commercial เยอะ มันทำให้ KOL (Key Opinion Leader) ค่อนข้างเสียความเป็นตัวตนในการทำคอนเทนต์ของตัวเอง

คิดอย่างไรกับยุคที่ใครๆ ก็ลุกขึ้นมาเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์

พงษ์ศักดิ์: ยุคแรกๆ การแข่งขันมันยังอยู่แค่ในวงการ KOL กลุ่มเล็กๆ เช่น บล็อกเกอร์ไม่กี่คน แต่สมัยนี้มันไม่ได้มีแค่บิวตี้บล็อกเกอร์ที่แข่งกันเองแล้ว เพราะยังมียูทูเบอร์ อินสตาแกรมเมอร์ และอินฟลูเอนเซอร์จากสายต่างๆ ทั้งไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว บิวตี้ แฟชั่น ใครที่อยากลองทำดู คิดคอนเทนต์ ก็ตั้งกล้องถ่าย แล้วปล่อยลงโซเชียลมีเดียของตัวเอง คือมันต้องเริ่มจากการไม่มีสปอนเซอร์ก่อน แต่ในอนาคตทุกคนมักจะหวังว่า การพยายามทำคอนเทนต์ทุกวันนี้มันต้องมีสปอนเซอร์เข้ามา ซึ่งจะเป็นที่มาของรายได้ เราจึงได้เห็นเด็กรุ่นใหม่เกิดขึ้นในวงการนี้เยอะขึ้น ใครที่สามารถทำให้ตัวเองโดดเด่นจนแบรนด์มองเห็นก็มีโอกาสที่จะถูกเชิญไปร่วมงานกับแบรนด์ แล้วสังเกตไหมว่า ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มมีเซเลบริตี้ ดารา พิธีกร นักร้อง คนมีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักระดับประเทศ เริ่มผันจากสื่อออฟไลน์มาทำเป็นสื่อออนไลน์กันมากขึ้น บอกตรงๆ ว่า วงการบิวตี้บล็อกเกอร์ก็สะเทือนนะครับ

นัตตี้

ดาราและเซเลบริตี้สร้างแรงสะเทือนอย่างไร

พงษ์ศักดิ์: คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ที่ไม่ใช่ดารา ยังไงก็โดนแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปเยอะ โดยเฉพาะสายบิวตี้ที่กระทบกระเทือนอย่างเห็นได้ชัด เพราะเราต้องบอกตรงๆ ว่า ดาราหรือเซเลบริตี้เป็นคนที่คนทั้งประเทศรู้จักว่า Positioning ของเขาเป็นอย่างไร คนนั้นเคยเป็นพิธีกร คนนี้เคยเล่นละคร ทำให้เป็นเรื่องง่ายต่อแบรนด์ที่จะเลือกคนเหล่านี้มาสร้าง Eyeball ซึ่งหากมีการโปรโมตสินค้าผ่านคนเหล่านี้ จะกระจายการรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่แบรนด์ต้องยอมแลกคือ ค่าใช้จ่ายที่มักจะสูงกว่ามาก ก็จะขึ้นอยู่กับเรตของแต่ละคนอีกที ซึ่งแบรนด์จะต้องคิดมาแล้วว่าลงทุน Budget ไปเท่านี้ต้องคุ้มค่า ถ้าแบรนด์เลือกที่จะใช้ดารา แน่นอนว่าเขาต้องลดจำนวนการใช้งานบิวตี้บล็อกเกอร์ลง ซึ่งถ้าถามว่าบริษัทของเรากระทบไหม ต้องบอกตามตรงว่า กระทบ แต่ไม่ได้น่าตกใจ ตัวเลขรายได้อาจลดลงไปบ้าง แต่ไม่ถึง 10%

แนะทางรอดให้กับบิวตี้บล็อกเกอร์ในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้น

พงษ์ศักดิ์: แม้ในสังกัดจะมีเพียง 23 คน แต่จะมีน้องๆ บิวตี้บล็อกเกอร์ที่แอดเข้ามาในเพจเราเยอะมาก คนรุ่นใหม่บางคนมักจะบ่นให้ฟังว่า เขาทำบล็อก ทำยูทูบมา 2 ปีแล้ว ไม่มีงาน ไม่มีสปอนเซอร์เข้ามาเลย รู้สึกท้อแท้ เราก็ตามเข้าไปดูคอนเทนต์ของเขา แล้วพบว่า คอนเทนต์ของเขาไม่มีอะไรเลย คำว่าไม่มีอะไรเลยหมายความว่า เดือนหนึ่งเขาทำคลิปมาปล่อยแค่ 1 คลิป แล้วทิ้งช่วงหายไป ถ้าแบบนี้ก็ไม่มีทางที่สปอนเซอร์จะเข้ามาอยู่แล้ว เวลาเราให้คำแนะนำน้องๆ ทุกคน เราจะบอกว่า ถ้าคุณอยากเข้ามาในวงการนี้ อย่างแรกที่ต้องมีคือ ‘ใจรัก’ ไม่ใช่อยู่ดีๆ คุณบอกตัวเองว่าอยากเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ แต่คุณมาทำเพจหรือยูทูบแล้วขาดใจที่รัก ขาดวินัย คุณก็ร่วง ไม่มีทางประสบความสำเร็จ ถ้าให้แนะนำจริงๆ อยากให้ตั้ง KPI (Key Performance Indicators) ขึ้นมา เพื่อกำหนดเป้าหมายและวัดผลการทำงานของตัวเองขึ้นมาเลย เช่น ในหนึ่งเดือนคุณจะปล่อยคลิปจำนวนกี่คลิป แล้วทำให้ครบตามเป้าที่ตั้งไว้ ถ้าผลงานคุณดี ผลิตคอนเทนต์ออกมาอย่างสม่ำเสมอ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้สปอนเซอร์มองเห็น

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มมีเซเลบริตี้ ดารา พิธีกร นักร้อง คนมีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักระดับประเทศ เริ่มผันจากสื่อออฟไลน์มาทำเป็นสื่อออนไลน์กันมากขึ้น บอกตรงๆ ว่าวงการบิวตี้บล็อกเกอร์ก็สะเทือน

จริงไหมที่รายได้ของบิวตี้บล็อกเกอร์แตะตัวเลขหลักแสนหลักล้าน
พงษ์ศักดิ์: ถ้าเป็นรายได้ต่อคน เราไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจจะมีดราม่า แต่ถ้าเป็นเรื่องรายได้หลักแสนหลักล้านของน้องบล็อกเกอร์ ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับเพอร์ฟอร์แมนซ์ของแต่ละคน ถามว่ารายได้ตัวเลขนี้จริงไหม จริงครับ แต่ละคนจะได้รับรายได้ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับตัวเขาล้วนๆ บางคนกว่าที่จะทำเงินได้หลักแสนหลักล้าน ความพยายามเขาเยอะมากนะครับ เขาเหมือนสู้มาเกิน 5 ปี แต่บางคนใช้เวลาแค่ 1-2 ปีก็ขึ้นมาได้เลย เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับคนจริงๆ ถ้าเขาสามารถผลิตคอนเทนต์ที่ดีและมีวินัยมาก ถ้าตั้งเป้า KPI เอาไว้ว่าจะทำวิดีโอ 5 คลิปต่อเดือน ก็ทำได้ตามนั้น เขาไม่เคยหยุดทำเลย นี่แหละคือหนทางแห่งความสำเร็จ

เพิร์ล

ฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์

พงษ์ศักดิ์: น้องๆ สมัยใหม่อาจคิดว่าการเป็นบล็อกเกอร์นั้นง่าย ใช้ของก็ฟรี ไม่ต้องลงทุนอะไร อยากบอกเด็กรุ่นใหม่ไว้เลยว่า กว่าที่บิวตี้บล็อกเกอร์รุ่นพี่จะประสบความสำเร็จ เขามีการลงทุนเอง โดยเฉพาะสายบิวตี้ บางคนซื้อเครื่องสำอางหมดไปหลักหมื่นหลักแสนนะครับ เขาเริ่มต้นลงทุนด้วยตัวเองตั้งแต่ที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนๆ ส่งมาให้ด้วยซ้ำ ส่วนการถ่ายภาพ การถ่ายคลิปวิดีโอก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุน ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม ค่าพร็อพ ค่าโลเคชัน เขาพยายามกันมากที่จะลงทุนพัฒนางานของตัวเองให้มีคุณภาพ ความหวังของพี่ในวงการนี้จึงหมายถึงการได้เห็นบิวตี้บล็อกเกอร์ที่มีคุณภาพ ผลิตคอนเทนต์ดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อคนดู รวมไปถึงอยากเห็นบิวตี้บล็อกเกอร์รุ่นใหม่ๆ มีโอกาสโกอินเตอร์ ไม่อยากให้จำกัดความนิยมอยู่แค่ในเมืองไทย เพราะเราเห็นกระแสของบล็อกเกอร์เอเชียที่ได้ร่วมงานดังๆ ของสหรัฐอเมริกา อยากเห็นวงการนี้คึกคักและเติบโตขึ้นอย่างมีพลังและมีคุณภาพครับ

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post ร่วงหรือรอด กับยุคที่ใครๆ ก็ลุกขึ้นมาเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ appeared first on THE STANDARD.

The post บิวตี้บล็อกเกอร์ชาย เทรนด์ใหม่มาแรงในจีน appeared first on THE STANDARD.

THE STANDARD Daily ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2561 เวลา 20.00 น. 

• คุยสดกับสาวสวยสุดฮอต ‘อาชิตา ศิริภิญญานนท์’ Beauty Blogger ชื่อดังที่มีสไตล์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และมียอดผู้ติดตามในโลกโซเชียลกว่าล้านคน!
• พร้อมประเด็นน่าสนใจวันนี้ อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วม ลาว พม่า จับตาไทย ‘41 จังหวัด’
• กองปราบบุกจับบิ๊กสำนักพุทธฯ นับสิบ รวมอดีต ผอ. สำนักพุทธฯ ‘พนม ศรศิลป์’

สามารถติดตาม THE STANDARD Daily ได้เป็นประจำทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ที่ Facebook Live และ Youtube Live ของ thestandardth

The post อาชิตา ศิริภิญญานนท์ Beauty Blogger ชื่อดังที่มีสไตล์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และมียอดผู้ติดตามในโลกโซเชียลกว่าล้านคน – THE STANDARD Daily 1 สิงหาคม 2561 appeared first on THE STANDARD.

บรรดาเมกอัพจำนวนมากในเกาหลีที่ละลานตาเสียจนเราเลือกไม่ถูก หรือไม่แน่ใจว่าอะไรดีอะไรแย่ THE STANDARD แนะนำให้ลองติดตามบิวตี้บล็อกเกอร์แดนโสมดูแล้วจะรู้ว่าไอเท็มอะไรเริ่ด แต่คุณๆ ไม่ต้องเสียเวลาอัปเดตไอเท็มที่กำลังฮอตอยู่ตอนนี้ เพราะเราไปส่องดูมาให้แล้ว

บิวตี้บล็อกเกอร์ Yeondukong, คู่พี่น้องฝาแฝดสุดชิค Q2HAN, นางแบบ ไอรีน คิม ชาวเกาหลีที่ดังระดับโลก และโพนี่ เมกอัพอาร์ทิสต์ที่ผู้มีติดตามมากที่สุดถึง 3.5 ล้านคนในยูทูบ หากอยากรู้ว่าพวกเธอกำลังอินเลิฟกับไอเท็มสุดโปรดชิ้นไหน ไปดูกันเลย

ไอรีน คิม (Irene Kim)
Instagram @ireneisgood

Followers: 1 Million

ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไอรีน คิม คือหนึ่งในคนที่นำเสนอเรื่องราวของเครื่องสำอาง อัปเดตเทรนด์แต่งหน้าในชีวิตประจำวันผ่านช่องยูทูบของเธอได้อย่างน่ารักและเป็นกันเอง แต่พอผลงานการเดินแบบถ่ายแบบระดับโลกปังมาก เธอไม่ได้อัปเดตคลิปในยูทูบเหมือนเดิมแล้ว แต่เรายังติดตามเธอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ความรักสวยรักงามของเธอยังดำเนินต่อไป เรามักได้เห็นเธอหยิบเมกอัพชิ้นเด็ดออกมาแนะนำอยู่บ่อยๆ และนี่คือสิ่งที่เธอกำลังอินเลิฟสุดๆ

Chanel ROUGE ALLURE Luminous Intense Lip Colour in Vibrante ลิปสติกเฉดสีแดงอมส้ม กลายเป็นไอเท็มโปรดในวันที่เธออยากแต่งเติมริมฝีปากสีแดงในชีวิตประจำวันให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา เทคนิคส่วนตัวของเธอเวลาทาลิปสติกคือ ใช้ปลายนิ้วถูที่ลิปสติก แล้วค่อยๆ แตะลงกึ่งกลางริมฝีปาก ก่อนจะเกลี่ยให้ทั่ว เธอบอกว่าทาปากแบบนี้จะช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

 

Hiiii here’s an unfiltered attempt of me applying a red lip this morning! Keep swiping to see the full video?요즘 레드에 빠져서 립을 발라봤어용 ? Using all @chanel.beauty.korea #ireneisbeauty #shotoniphonex

A post shared by Irene Kim 아이린 (@ireneisgood) on Jan 23, 2018 at 1:18am PST

Yeondukong
YouTube Channel: Yeondukong
Subscriber: 636K

Yeondukong เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์สไตล์สวยใส เธอสามารถแต่งหน้าได้หลากหลายตั้งแต่แนวฟรุ้งฟริ้ง เกิร์ลกรุ๊ป ลุคอินดี้ รวมถึงลุคใสๆ เป็นธรรมชาติ ก็ดูเพลินจนลืมเวลา ทุกๆ สัปดาห์เธอจะอัปเดตเทรนด์แฟชั่น เมกอัพใหม่ๆ รวมถึงแนะนำเครื่องสำอางสุดโปรดในแต่ละเดือนอย่างสม่ำเสมอ ต่อไปนี้คือชิ้นเด็ดที่เธอแนะนำว่ามันฮอตสุดๆ

Regen Cosmetics 2 Step Synergy Effect Mask มาสก์กระชับหน้าเรียว ทำจากแผ่นผ้าฝ้ายแท้ 100% ออกแบบเพื่อรูปหน้าของสาวเอเชียโดยเฉพาะ จุดเด่นช่วยกระชับใบหน้า V-Line เป็นนวัตกรรมสำหรับคนที่อยากหน้าเรียวโดยไม่ต้องผ่าตัด ในแผ่นมาสก์มีส่วนผสมของสารสกัดจากอัญชัน เพิ่มความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื่นของผิว สูตรซองชมพูช่วยต่อต้านริ้วรอยไปในตัว มาสก์ต่อเนื่องจะช่วยลดอาการบวมบนใบหน้า

พี่น้องฝาแฝดสุดชิค Q2HAN
YouTube Channel: Q2HAN
Subscriber: 304K

คู่พี่น้องฝาแฝดที่กำลังฮอตสุดๆ ในเกาหลีตอนนี้คือ Q2HAN เธอเริ่มเป็นที่รู้จักจากการอัปโหลดฮาวทูสอน D.I.Y ตัดเย็บเสื้อผ้าแนวกิ๊บเก๋ จากนั้นเริ่มขยับมานำเสนอเรื่องราวไลฟ์สไตล์และเมกอัพจนโด่งดัง และกลายเป็น It girl ที่สื่อต่างๆ ในเกาหลีใต้ รวมทั้งแบรนด์แฟชั่น เครื่องสำอาง ต่างต้องการตัวไปร่วมงานมากที่สุด ไอเท็มที่เธอชื่นชอบตอนนี้คือ

Bellamonster Stress Out Solution Pad แผ่นเช็ดหน้าที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากแครอต มีคุณสมบัติช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวไม่แห้งตึง เหมาะกับทุกสภาพผิว แถมยังปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย ตอนนี้สาวเกาหลีเขาฮิตใช้ Pad เช็ดหน้าแบบนี้กันมาก เพราะลดขั้นตอนยุ่งยากจากการใช้สำลีและโทนเนอร์

โพนี่ (Ponysmakeup)
YouTube Channel: PONY Syndrome
Subscriber: 3.5 Millions

โพนี่ หรือ พักฮเยมิน ปัจจุบันเป็นเมกอัพอาร์ทิสต์ที่มีชื่อเสียงมากของประเทศเกาหลีใต้ เธอมีตารางงานอันยาวเหยียด บินไปร่วมงานกับแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกมากมาย ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่เธอบินมาออกงานอีเวนต์บ่อยๆ เธอมีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยฝีมือการแต่งหน้าที่หาตัวจับยาก เธอเคยสร้างความฮือฮาระดับโลกด้วยการแต่งหน้าตัวเองให้กลายเป็นสาวเทย์เลอร์ สวิฟต์มาแล้ว

 

New! Skin Long-Wear Weightless Foundation SPF15 เปี่ยมไปพร้อมๆกับมอบเม็ดสีที่ดูเป็นผิว ช่วยควบคุมความมัน และเติมความชุ่มชื้นสู่ผิวไปพร้อมๆกัน รองพื้นสูตรนี้ จึงช่วยให้คุณยิ้มออกได้อย่างมั่นใจ ในทุกๆวันและทุกๆสถานการณ์ (2,000 บาท) #AllDaySmile #รองพื้นปกปิด #รองพื้นBobbiBrown

A post shared by Bobbi Brown Thailand (@bobbibrownthailand) on Feb 15, 2018 at 5:20am PST

The post อัปเดตไอเท็มยอดฮิตที่เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์และนางแบบแดนโสมต่างก็มีไว้ให้อุ่นใจ appeared first on THE STANDARD.

“บิวตี้บล็อกเกอร์ ยูทูเบอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ มันแทบจะเรียกว่าเป็นอาชีพไม่ได้ด้วยซ้ำในสายตาของบางคน แต่ฟ้าคิดว่าเมื่อตัวเองค้นเจอสิ่งที่ชอบแล้ว ก็อยากเต็มที่กับมันทั้งกายทั้งใจ ยอมทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับมัน ก็อยากพิสูจน์กันไปเลยว่าเราจะทำได้ไหม ฟ้าเชื่อว่าการตั้งใจทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดมันจะช่วยพิสูจน์ทุกการตัดสินใจของเราได้เอง”

ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา ยูทูเบอร์จากช่อง Fah Sarika ผู้โด่งดังในโลกออนไลน์ เปิดใจกับ THE STANDARD ด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นเมื่อเราเริ่มต้นถามถึงสิ่งที่เธอทำอยู่นั่นคือการเป็นยูทูเบอร์เต็มตัว หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เธอเป็นหนึ่งในศิลปิน Demo Project แห่งค่าย Kamikaze นอกจากนั้นยังมีผลงานละครอีก 4 เรื่องทางช่อง 8 เป็นช่วงเวลาที่เธอทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน จนวันหนึ่งก็ถึงเวลาต้องเลือกในสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองจริงๆ

เริ่มต้นไม่ง่าย เพราะตัดสินใจมันยาก

การเริ่มต้นมาเป็นยูทูเบอร์เต็มตัว จำได้ว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะเป็นช่วงที่พีกสุดของชีวิต ตอนนั้นฟ้าเรียนอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ ปี 3 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ควบคู่ไปกับการทำงานที่ค่าย RS ด้วย แถมฟ้ายังเล่นละครที่ช่อง 8 ไปด้วย เป็นช่วงเวลาที่ทั้งเรียนหนัก ทำธุรกิจเสื้อผ้า เป็นนักแสดง และทำคลิปยูทูบ พอทุกอย่างมันเกิดขึ้นพร้อมกัน ฟ้าก็คิดหนักเลยว่าทั้งหมดที่ทำอยู่ตอนนั้นเราชอบทำอะไรกันแน่ วิชาเศรษฐศาสตร์ที่เรียนอยู่มันใช่ไหม ตอนนั้นเครียดมาก เครียดจนร้องไห้ แต่พอชั่งน้ำหนักดีๆ แล้ว ฟ้าก็พบว่าการทำงานสายบิวตี้นี่แหละที่ฟ้าชอบ สนุก และอยากทำ เพียงแต่ตอนนั้นยังทำแบบไม่เต็มตัว เพราะชีวิตช่วงนั้นต้องทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

การเป็นยูทูเบอร์มันเหมือนต้องใช้ทั้งตัว ทั้งแรง ความคิด ต้องมีเวลา ต้องทุ่มเต็มที่กับมันมาก ฟ้าเลยตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย

ครอบครัวคิดอย่างไรกับการลาออก

ฟ้ารู้อยู่แล้วว่าด้านเศรษฐศาสตร์ที่เรียนมามันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่ฟ้าชอบทำอยู่เลย กว่าจะตัดสินใจลาออกจริงๆ ฟ้าก็คิดมาเยอะ คิดมาดีแล้ว แต่ฟ้าโชคดีที่คุณพ่อโอเคกับการตัดสินใจของฟ้า ครอบครัวของฟ้าเข้าใจ ถ้าเป็นคนอื่น สมมติเขาคิดจะทำอะไรตามความชอบของตัวเอง บางทีจะติดปัญหาเรื่องคุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาต เพราะไม่ว่าใครก็คงอยากให้ลูกตั้งใจเรียนหนังสือมากกว่า แต่บ้านฟ้าคือโอเค ไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ แล้วฟ้าก็ไม่อยากเสียเวลากับการทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์กับตัวเอง และไม่อยากเสียเวลาทำสิ่งที่มันไม่ใช่ตัวเรา เมื่อตัวเองค้นเจอสิ่งที่ชอบแล้ว ก็อยากเต็มที่กับมันทั้งกายทั้งใจ ยอมทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับมัน อยากพิสูจน์กันไปเลยว่าเราจะทำได้ไหม ฟ้าเชื่อว่าการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด มันจะช่วยพิสูจน์ทุกการตัดสินใจของเราได้เอง

จุดเริ่มต้นของการเป็นยูทูเบอร์
ฟ้าเป็นคนชอบแต่งหน้า ชอบดูยูทูบพี่โมเมตั้งแต่เด็ก พอชอบดูมากๆ เข้า ก็เลยรู้เรื่องคำศัพท์เกี่ยวกับบิวตี้ เวลาเราแต่งหน้า แล้วพี่ที่สนิทมาถามโน่นถามนี่ เราก็พูดได้ อธิบายได้ พี่ๆ เลยแนะนำว่า ทำไมไม่ทำเป็นกระทู้จริงจังไปเลยล่ะ ฟ้าเลยเริ่มต้นจากการเขียนกระทู้ในเว็บไซต์ Jeban เขียนเสร็จก็เอามาแชร์ในเพจของตัวเอง ก็ได้รับการตอบรับดีมาก คนแชร์เยอะ พอทำกระทู้ได้สักพักก็ขยับไปเป็นการทำวิดีโอ อัพโหลดลงยูทูบ แต่ยูทูบเนี่ยฟ้าชอบอยู่แล้ว เพราะชอบตัดวิดีโอ ที่ผ่านมาก็เคยทำคลิปประกวด ได้รางวัลรองชนะเลิศทำคลิปสร้างสรรค์ลดโลกร้อนเมื่อปี 2554 ตอนเรียนฟ้าทำคลิปประกวดบ่อยมาก พอมาทำคลิปบิวตี้ก็เลยถ่ายเอง ตัดต่อเอง แล้วโพสต์เอง ตั้งแต่เริ่มทำยูทูบเต็มตัวก็ประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากเป็นยูทูเบอร์เต็มตัว

สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดน่าจะเป็นการรู้จักตัวเองมากขึ้นค่ะ เพราะช่องยูทูบเป็นช่องที่นำเสนอตัวตนของเราออกไป เราแต่งหน้าแบบนี้ เราใช้ชีวิตแบบนี้นะ ไม่ว่าจะทำคอนเทนต์อะไร ทุกอย่างต้องทำการรีเสิร์ชข้อมูลตลอด ยิ่งพอฟ้าเลือกทำเป็นงานหลักก็ยิ่งต้องวางแผนมากขึ้น ข้อมูลอะไรก็ตามที่จะปล่อยออกไปเพื่อบอก แนะนำ หรือสอนคนอื่น ตัวเราเองต้องทำให้ได้ก่อน ฟ้าพยายามพัฒนาตัวเองในแง่นั้น ซึ่งมันได้กับตัวเองหลายอย่างมากค่ะ ยิ่งค้น เรายิ่งเจอตัวเองมากขึ้น ทำให้สิ่งที่เราทำสนุกมากขึ้น

วิธีการทำงานในแบบของฟ้าเป็นอย่างไร

สมมติจะทำคลิปขึ้นมาหนึ่งคลิป อันดับแรกฟ้าจะคิดคอนเทนต์ก่อนว่าจะทำคลิปเกี่ยวกับอะไร ถ้ามีสปอนเซอร์เข้ามา ก็จะคุยเรื่องของการทำคอนเทนต์ในแบบของเราว่าเขาโอเคไหม คอนเซปต์ของลูกค้าตรงกับคอนเทนต์ของเราไหม ต้องตกลงกันก่อน ทั้งเรื่องสคริปต์และดราฟต์ของวิดีโอก่อนเริ่มงาน

พอทุกอย่างโอเคแล้วเราก็ค่อยถ่ายทำจริง ฟ้าก็จะถ่ายทำที่ห้องของฟ้านี่แหละ แต่ก่อนก็ถ่ายเอง แต่ตอนนี้ฟ้าจะมีตากล้องหนึ่งคน มีพี่คอยดูเรื่องสคริปต์ ฟ้ามีทีมงานที่ทำงานด้วยกันตอนนี้ประมาณ 4-5 คนค่ะ พอถ่ายเสร็จก็จะไปสู่ขั้นตอนการตัดต่อ ซึ่งการตัดต่อก็จะไม่มีอะไรมาก ถ้ามีลูกค้าก็ส่งให้ลูกค้าดูเพื่อ approve แล้วพอทุกอย่างเรียบร้อยก็เอาคลิปไปตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้า

เดือนหนึ่งกำหนดตายตัวไหมว่าต้องมีกี่คลิป

ในหนึ่งเดือนฟ้าจะทำสต็อกไว้ประมาณ 4 คลิปเพื่อลงทุกวันศุกร์ แล้วก็มีคลิปพิเศษบ้าง ลงทุกวันอังคาร รวมๆ ก็จะมี 6-7 คลิป แต่ฟ้าจะไม่ให้เกิน 8 คลิปต่อเดือนสำหรับช่องยูทูบ ไม่อย่างนั้นมันจะถี่เกินไป

ส่วนในเฟซบุ๊กก็จะมีคลิปลงบ้างแล้วแต่ช่วง ส่วนใหญ่จะเป็นไลฟ์สด และเป็นคลิปงานที่มีลูกค้าบ้าง เป็นกึ่งๆ โปรโมตสินค้า หรือเป็นบล็อกอะไรอย่างนี้ค่ะ รวมทั้งหมดต่อเดือนก็ประมาณ 10 กว่าคลิป รวมกันทั้งยูทูบและเฟซบุ๊ก

สิ่งที่ฟ้าทำก็เป็นสิ่งที่ฟ้าอยากบอกคนดูว่ามันคือความหวังดีนะ เราอยากบอกต่อสิ่งดีๆ แบบนี้ให้กับคนที่รอคอยดูเราอยู่

ชีวิตของยูทูเบอร์เป็นชีวิตแบบไหน

มันก็เหมือนเราเป็นฟรีแลนซ์คนหนึ่งที่สามารถจัดการตารางเวลาตัวเองได้หมดเลย กำหนดได้ว่าจะรับงานถึงวันไหน จะพักไปเที่ยวตอนไหน แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นเช่นกัน เพราะจะไม่มีใครมากดดันเรา ไม่มีการนัดว่าต้องตื่นเช้า ไม่ต้องไปออกกองถ่ายตามเวลาที่กำหนด ไม่ต้องทำตามคำสั่งของใคร แต่ก็ต้องระวังนะ ถ้าเราไม่กระตุ้นตัวเองชีวิตมันก็เปื่อยๆ ได้ เลยต้องแอ็กทีฟตัวเองตลอดเวลา ชีวิตมันเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนมาก แต่ฟ้าก็ชอบนะที่จะจัดการอะไรต่างๆ ด้วยตัวเอง มันสบายใจกว่า เหมือนเป็นเจ้านายตัวเองไปในตัว

อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดของการเป็นยูทูเบอร์

ฟ้าได้ดูแลตัวเองมากขึ้นค่ะ เหมือนพอเราเป็นยูทูเบอร์ มันก็เหมือนกับเรามีสังคมเพื่อนทางโลกออนไลน์เยอะขึ้น โลกมันกว้างกว่าเดิม เราก็ได้แชร์อะไรดีๆ ให้กับคนดูจำนวนมาก มันทำให้ฟ้าอยากดูแลตัวเอง และรู้จักรักตัวเองมากขึ้น ได้มีเป้าหมายชีวิตอะไรที่ทำแล้วสนุก มีความสุข ฟ้าก็อยากทำไปเรื่อยๆ แล้วสิ่งที่ฟ้าทำก็เป็นสิ่งที่ฟ้าอยากบอกคนดูว่ามันคือความหวังดีนะ เราอยากบอกต่อสิ่งดีๆ แบบนี้ให้กับคนที่รอคอยดูเราอยู่

ด้านลบที่เคยเจอในฐานะยูทูเบอร์

ฟ้าว่าข้อเสียมันก็มี ด้วยความที่เป็นงานออนไลน์ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เรียกว่าฟีดข่าวกันวันต่อวันเลย คือเราจะช้าไม่ได้ และกระแสที่เป็นเทรนด์แบบทำตามๆ กัน จะว่าไปมันก็เป็นข้อเสียได้ ยิ่งถ้าเราไม่ชัดเจนในสไตล์ของเรา หรือว่าไม่หนักแน่นพอ ตัวเราเองก็จะหายไปไว ถ้าจุดยืนเราไม่หนักแน่น งานที่เราทำมันไม่ดีพอก็จะไม่ยั่งยืน

คนถามฟ้ากันเยอะมากว่า “เป็นบล็อกเกอร์นี่มันโอเคเหรอ ได้เงินดีเหรอ” หรือ “มันจะเป็นอาชีพที่มั่นคงได้เหรอ” คือมันแทบจะเรียกว่าเป็นอาชีพไม่ได้เลยด้วยซ้ำสำหรับในสายตาบางคน แต่เราก็สามารถพิสูจน์ได้ เขาก็ไม่มารับรู้หรอกว่าเราทำงานกันยังไง ฟ้าแค่ตั้งใจทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่วิ่งตามกระแสที่มาเร็วไปเร็วก็พอ

หัวใจสำคัญของการทำงานด้านนี้คืออะไร

ฟ้าว่าสุดท้ายแล้วในทุกสาขาอาชีพไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรอยู่ สิ่งที่ทุกคนต้องมีเหมือนกันคือจรรยาบรรณ ต้องมีความจริงใจอยู่ในเนื้องานด้วย ไม่ใช่ว่าทำไปเพื่อต้องการยอดวิว หรือต้องการให้ลูกค้ามาจ้างงานเยอะๆ ตัวฟ้าเองก็คิดมาตลอดว่า เมื่อเราตัดสินใจมาทำงานทางด้านนี้ ยอมละทิ้งอะไรหลายๆ อย่าง ฟ้าก็อยากทำให้อาชีพนี้อยู่ได้นาน และเป็นงานที่มั่นคงได้

ฟ้าอยากทำอะไรที่คนสามารถกลับมาดูซ้ำได้ และต้องเป็นประโยชน์ต่อคนดูโดยไม่ลืมคำว่าจรรยาบรรณที่ต้องมีในใจเสมอ อย่างถ้ามีคนมาถามฟ้าว่าอยากสวยทำอย่างไร ฟ้าจะไม่ใช่แค่แบบว่า ถ้าอยากสวยก็ทาครีมนะ แต่ฟ้าจะเพิ่มทัศนคติในการใช้ชีวิตเข้าไปในคอนเทนต์ของฟ้าด้วย ฟ้าจะให้เขามองจากมุมอื่นๆ เช่น เพิ่มความรู้ด้านสุขภาพเข้าไป อะไรที่มันดีต่อสุขภาพก็บอกต่อ ฟ้าอยากพาเขาไปสู่วิธีการที่มันดีต่อตัวเขาจริงๆ เพราะฟ้าคิดว่าแบบนั้นผลลัพธ์มันยั่งยืนกว่า

การมีบิวตี้บล็อกเกอร์​ ยูทูเบอร์มากขึ้นกระทบกับตัวเองด้านใดบ้าง

ตอนนี้บิวตี้บล็อกเกอร์มาก เยอะจริงๆ ฟ้าว่าเยอะมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่สำหรับคนดู ฟ้าคิดว่าคนดูได้ประโยชน์ตรงๆ อยู่แล้ว ในแง่ที่เขามีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกดูหรือไม่ดูอะไร แล้วแต่สไตล์ที่เขาชอบเลย แต่ในด้านของคนที่ทำงานด้านนี้ด้วยตัวเองก็มองว่า โอเค เกิดคู่แข่งทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น โฟกัสในแง่ดี มันช่วยให้วงการนี้ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

ถ้าทุกคนแข่งกันทำคอนเทนต์ดีๆ หรือพยายามมองว่าอาชีพนี้มันเป็นอะไรที่ต้องร่วมมือกันในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่เข้ามาทำ เพราะเป็นแค่งานอดิเรกขำๆ หรือเห็นว่าเป็นเทรนด์ที่ทำแล้วได้เงิน ฟ้าเห็นเยอะนะ มีคนที่เข้ามาทำด้านนี้เพราะคิดว่าเงินมันดี คิดว่าทำง่าย ถ้าถามฟ้าว่างานแบบนี้ง่ายไหม สำหรับฟ้ามันไม่ง่ายเลยนะ ถ้าได้ทำจริงจัง ก็จะรู้ว่าคืออาชีพหนึ่งที่ต้องครีเอทีฟ ต้องวางแผนการทำงาน ต้องติดต่องานกับลูกค้า มันไม่ใช่ว่าทำเล่นๆ แล้วได้เงินง่ายๆ เราต้องหาข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนางานของตัวเองให้ก้าวทันโลกอยู่ตลอดเวลา

จุดเด่นของช่องยูทูบ Fah Sarika  

ฟ้าจะพยายามมอบสิ่งดีๆ ให้คนดูตลอด อะไรที่มันเป็นทางแก้ปัญหาที่ทำได้เลย ฟ้าพยายามที่จะช่วยเขาให้ได้ อย่างถ้ามีคนมาถามเรื่องปัญหาสิว มันไม่ใช่แค่ทาครีมแล้วจบ ฟ้าต้องแนะนำเขาด้วยว่ามันขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ที่เขาเป็นด้วย คุณนอนยังไง คุณกินยังไง ในแต่ละวันคุณได้สังเกตตัวเองบ้างไหม ว่าการใช้ชีวิตของคุณมันเพียงพอที่จะทำให้คุณมีสุขภาพผิว สุขภาพกายที่ดีแล้วหรือยัง ฟ้าพยายามบอกตลอดในทุกคลิป และเริ่มพยายามทำคลิปที่เกี่ยวกับอาหารการกินที่เป็นสายสุขภาพมากขึ้น ซึ่งพอได้ฟีดแบ็กจากคนดู ที่เขาเข้าใจต้นเหตุของปัญหามากขึ้น หรือบางคนเพิ่งมารู้ข้อเท็จจริงบางอย่างจากคลิปของเราว่าสิ่งเขาทำมันผิดมาตลอด อันนั้นคือฟีดแบ็กที่ฟ้าดีใจมาก มันเป็นการบอกต่อสิ่งดีๆ ซึ่งเขาไปทำแล้วชีวิตเขาดีขึ้น เราอ่านคอมเมนต์แล้วก็รู้สึกดีจัง มันยิ่งทำให้เรามีกำลังใจในการทำอะไรแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ

ถ้าไม่จริงใจ ไม่มีทางได้ใจคนดู
เวลาทำงาน ฟ้าพยายามนำเสนอข้อมูลที่จริงใจ และเป็นกลางกับคนดูเสมอ บางคลิปแม้จะมีสปอนเซอร์ ถึงฟ้าจะได้ค่าจ้าง แต่ฟ้าบอกเลยว่าไม่เคยรับงานแบบมั่วๆ ฟ้าจะขอลองสินค้ากับตัวเอง ถ้าไม่ดีจริง เราก็จะไม่รับงานนั้นๆ อย่าง มีลูกค้าส่งแป้งมาให้รีวิว แต่ฟ้าลองแล้วสีมันไม่ได้เลย คือใช้แล้วหน้าเทามาก ฟ้าไม่สามารถทาแป้งลงบนหน้าแล้วไปบอกคนดูว่าสีมันดีมาก ทั้งที่เราหน้าเทาอยู่ แบบนั้นฟ้าทำไม่ได้เลย เรารู้สึกได้ว่าคนดูก็ไม่โง่ เราจะหลอกคนดูไปเพื่ออะไร คนดูสมัยนี้ฉลาดจะตาย แม้แต่ตัวเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของคนดูด้วย ฟ้ารู้สึกว่าเราดูออกว่าอะไรเป็นยังไง เราไม่ได้ดูถูกความรู้ของคนดู สิ่งสำคัญคือจุดยืนตรงนี้ ทุกคนน่าจะรู้ดี มันยังคงเป็นเรื่องของจรรยาบรรณนะ คุณต้องไม่โกหก คุณต้องไม่พูดเพื่อจะเอาเงินค่าจ้าง เพราะสุดท้ายผลเสียมันตกเป็นของช่องเรานี่แหละ ถ้าเราไม่จริงใจ เราจะไม่ได้ใจคนดู

คลิปไหนที่ประสบความสำเร็จสุด

ยากจัง ถ้าวัดในแง่ของตัวเลขที่จับต้องได้ก็คงเป็นคลิป มือใหม่หัดแต่ง คลิปนั้นมียอดวิวถึงหลักล้าน ฟ้าตกใจมาก แต่ก็รู้สึกว่าภูมิใจ เราก็ทำได้นี่นา เพราะมันยากอยู่นะ ถ้าช่องเล็กๆ ของเรายอดวิวไปไกลถึงหลักล้าน พอทำได้มันก็เป็นกำลังใจ และช่วยผลักดันตัวเองให้เรามีเป้าหมายที่ไกลขึ้น คลิปนั้นอาจจะไม่ใช่คลิปที่ดีที่สุดของฟ้านะ แต่ตัวเลขที่ปรากฏทำให้เราวัดได้ว่ามีคนเห็นในสิ่งที่เราตั้งใจทำ แต่ถ้าคลิปที่ประสบความสำเร็จในแง่ของจิตใจ น่าจะเป็นทุกคลิปที่ฟ้าได้รับคอมเมนต์จากคนดู ว่าเขานำเอาคำพูดของเราไปทำตามแล้วเกิดผลดีกับตัวเขาเอง อันนั้นแหละที่ฟ้ารู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จในแง่ของการทำคลิป

เพราะมันคือสิ่งที่เราตั้งใจส่งให้ และคนดูเขาได้รับมันไปจริงๆ

Photo: Fah Sarika

The post ฟ้า ษริกา จากนักแสดงสู่ยูทูเบอร์ ผู้หญิงที่ทุ่มเททั้งกายใจให้กับโลกใบที่เลือกเอง appeared first on THE STANDARD.