Australia – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 06 Nov 2025 00:31:24 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 รวมสถานที่เที่ยวใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเลของออสเตรเลีย https://thestandard.co/life/gold-coast-attractions-australia/ Thu, 06 Nov 2025 00:31:24 +0000 https://thestandard.co/?p=1140087 รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย

โกลด์โคสต์ไม่ได้เป็นเพียงเมืองตากอากาศยอดนิยมของรัฐควีน […]

The post รวมสถานที่เที่ยวใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเลของออสเตรเลีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย

โกลด์โคสต์ไม่ได้เป็นเพียงเมืองตากอากาศยอดนิยมของรัฐควีนส์แลนด์ แต่คือภาพแทนของชีวิตริมทะเลแบบออสซี่อย่างแท้จริง

 

ที่นี่เต็มไปด้วยพลังของผู้คนที่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง คาเฟ่ดีไซน์เก๋ริมทะเล โรงแรมหรูที่มองเห็นวิวมหาสมุทร และพื้นที่ธรรมชาติที่ขับรถเพียงชั่วโมงเดียวก็ถึงด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่นเกือบทั้งปี แสงแดดและทะเลกลายเป็นฉากหลังของชีวิตประจำวันของผู้คนที่นี่

 

แต่เหนือกว่านั้นคือความหลากหลาย จากย่าน Broadbeach ที่มีห้างหรูและบาร์ rooftop ไปจนถึง Tamborine Mountain ที่มีอุณหภูมิเย็นลง เต็มไปด้วยไร่องุ่นและกลิ่นไม้ป่าฝน

 

ทำความรู้จัก Gold Coast เมืองที่มีครบทั้งทะเล ภูเขา และไลฟ์สไตล์สมัยใหม่

 

โกลด์โคสต์ (Gold Coast) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ห่างจากบริสเบนเพียงราวหนึ่งชั่วโมงโดยรถยนต์ และใช้เวลาบินตรงจากกรุงเทพฯ – บริสเบน ประมาณ 11 ชั่วโมง ด้วย Jetstar Airways ก่อนต่อรถมา หรือจะแวะเที่ยวที่บริสเบนก่อนก็ทำได้เช่นกัน

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 1

 

เมืองนี้ขนานไปกับแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีชายหาดทอดยาวกว่า 70 กิโลเมตรตั้งแต่ Main Beach จนถึง Coolangatta จึงไม่น่าแปลกที่โกลด์โคสต์จะถูกเรียกว่า เมืองแห่งแสงแดดและทะเลสีทอง

 

ตลอดทั้งปี ที่นี่มีอากาศอบอุ่นสบาย ฤดูร้อนเฉลี่ย 21–29°C และฤดูหนาวอยู่ที่ราว 12–21°C ทำให้สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้แทบทุกเดือน ไม่ว่าจะเล่นเซิร์ฟ เดินป่าในเขตภูเขา หรือจิบกาแฟในคาเฟ่ริมทะเล

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 2

 

ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่นี่สะท้อนค่านิยมทำงานเท่าที่พอ ใช้ชีวิตให้คุ้มคุณจะเห็นคนวิ่งออกกำลังกายริมชายหาดตั้งแต่เช้า นักโต้คลื่นลงน้ำก่อนออฟฟิศเปิด หรือครอบครัวที่ใช้เวลาช่วงเย็นในบาร์ริมทะเลพร้อมวิวพระอาทิตย์ตก

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 3

 

ในขณะเดียวกัน เมืองก็มีโครงสร้างพื้นฐานและวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ครบถ้วน เช่น ห้างหรูอย่าง Pacific Fair ไปจนถึงแกลเลอรี คาเฟ่ และคอมมูนิตี้มาร์เก็ตที่แสดงพลังของคนรุ่นใหม่ โกลด์โคสต์จึงเป็นเมืองที่มีทั้งความมีชีวิตชีวา ความสงบ และความหรูหราในอุณหภูมิเดียวกัน ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่ให้คุณเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตช้าอย่างสบาย หรือเต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าจดจำ และเหล่านี้คือกิจกรรมที่เราคิดว่าคุณน่าจะชอบ

 

Warner Bros. Movie World

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 4

 

สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียภายใต้แบรนด์ Warner Bros. แห่งเดียวในซีกโลกใต้ ภายในเต็มไปด้วยเครื่องเล่นและโชว์ที่จำลองบรรยากาศของโลกภาพยนตร์ ตั้งแต่โซน DC Universe ที่รวมเหล่าฮีโร่และวายร้ายชื่อดัง ไปจนถึงโชว์ Hollywood Stunt Driver ที่สร้างฉากแอ็กชันสมจริงระดับภาพยนตร์

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 5 รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 6

 

ไฮไลต์คือ DC Rivals HyperCoaster เครื่องเล่นที่สูงกว่า 60 เมตรและทำความเร็วได้ถึง 115 กม./ชม. ที่แฟนความตื่นเต้นไม่ควรพลาด นอกจากความสนุก ยังมีร้านค้าและคาเฟ่ธีมหนัง Hollywood ให้เดินเล่นแบบสบายๆ เหมาะกับการใช้เวลาครึ่งวันในเมืองแห่งความบันเทิงนี้

 

Sea World Helicopters & Arro Jet Boating

 

จากความตื่นเต้นในสวนสนุก สู่การมองเห็นโกลด์โคสต์จากมุมสูง บริการของ Sea World Helicopters เปิดโอกาสให้เราได้ชมชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียจากบนฟ้า เส้นขอบฟ้าของ Surfers Paradise ที่เรียงรายด้วยตึกสูงระดับโลกตัดกับสีน้ำทะเลเทอร์ควอยซ์ เป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจและสงบในเวลาเดียวกัน มีเที่ยวบินให้เลือกตั้งแต่ 5 ถึง 30 นาที แต่ทุกเส้นทางล้วนให้มุมมองพาโนรามาที่สวยเอามากๆ

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 7

 

เมื่อกลับสู่พื้นดิน เราสามารถสนุกกับกิจกรรมใน Sea World หรือจอยกับ Arro Jet Boating กิจกรรมทางน้ำยอดนิยมใน Broadwater ที่ผสมความสนุกเข้ากับวิวทะเลแบบใกล้ชิดด้วยสปีดโบ๊ตจะพาคุณหมุน 360 องศาผ่านแนวชายฝั่งและป่าชายเลน ท่ามกลางเพลงสุดมันส์ น้ำทะเลสาด และชมวิวสองข้างทางที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมา

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 8

 

Hot Air Balloon Gold Coast & O’Reilly’s Canungra Valley Vineyard

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 9

 

หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดของโกลด์โคสต์คือการขึ้นบอลลูนตอนเช้า Hot Air Balloon Gold Coast ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่จัดขึ้นใกล้เมือง Canungra ใช้เวลาประมาณ 30–40 นาที ลอยเหนือหุบเขาและทิวเขาในแสงอาทิตย์แรกของวัน ด้วยระดับความสูงที่อยู่ต่ำกว่าเครื่องบิน ทำให้เรามองเห็นพื้นดินอย่างใกล้ชิด อยู่ในดงม่านหมอก ที่ให้ความรู้สึกที่พิเศษจริงๆ ใครไม่เคยลอง เราขอแนะนำเลย

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 10

 

จากนั้นเราจะไปชมไร่ไวน์ O’Reilly’s Canungra Valley Vineyard เพื่อรับประทานอาหารเช้าพร้อมลองไวน์เทสติ้ง จากนั้นก็แวะให้อาหารอัลปากาที่ฟาร์ม Mountview Alpaca Farm ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน อัลปากาที่นี่เป็นมิตรมาก เราสามารถให้อาหารจากมือและสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด จะเซลฟีด้วยก็ยังได้

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 11

 

Tamborine Mountain

 

ภูเขาแห่งนี้ถูกเรียกว่า The Green Behind the Gold เพราะเป็นพื้นที่สีเขียวที่อยู่ห่างจากชายหาดโกลด์โคสต์เพียงหนึ่งชั่วโมง อากาศเย็นสบายตลอดปีและเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร คาเฟ่ และไร่องุ่นเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา เหมาะกับการเดินอาบป่า สูดอากาศบริสุทธิ์

 

ช่วงบ่ายต่อด้วยการเยี่ยมชม Tamborine Mountain Distillery โรงกลั่นเครื่องดื่มที่เก่าแก่และได้รับรางวัลมากที่สุดของออสเตรเลีย มีมากกว่า 300 รางวัลจากทั่วโลก และเปิดให้ผู้เข้าชมทดลองชิมลิเคียวร์หลากหลายรส ตั้งแต่ Limoncello ไปจนถึง Vodka ที่ใช้ผลไม้จากภูเขา ที่มีเวิร์กช็อปสอนทำ Limoncello ไว้ในพวกเราด้วย

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 12

 

Catch a Crab Tour

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 13

 

Catch a Crab Tour เป็นกิจกรรมที่เปิดมุมมองของโกลด์โคสต์ให้กว้างขึ้นอีก เพราะเราจะได้ล่องเรือไปตามแม่น้ำ Tweed เรียนรู้วิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่ออกเรือจับปู และลองชิมปูสดๆ ที่เพิ่งยกขึ้นจากกับดัก ชมทิวทัศน์ระหว่างทางที่เป็นป่าชายเลน จับกุ้งเคลย์ฟิช ให้อาหารนกท้องถิ่น ถือเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนรสชาติกับชีวิตในเมือง

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 14 รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 15

 

Tropical Fruit World

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 16

 

วันเดียวกันเราสามารถไป Tropical Fruit World สวนผลไม้เขตร้อนที่ปลูกพืชกว่า 500 ชนิดจากทั่วโลก กิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือ Miracle Fruit Show ที่เป็นการชิมผลไม้หายากในแถบนี้ ท่ามกลางบรรยากาศโดยรอบเป็นหุบเขาเขียวขจีของ Duranbah Valley รวมถึงฟาร์มที่มีสัตว์ต่างๆ มากมายให้เราทักทาย เหมาะกับการไปเป็นแฟมิลี

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 17 รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 18

 

SkyPoint Observation Deck

 

หนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดของโกลด์โคสต์ ตั้งอยู่บนชั้น 77 ของอาคาร Q1 ซึ่งเป็นตึกสูงที่สุดในออสเตรเลีย จากจุดนี้สามารถมองเห็นเส้นชายหาด Surfers Paradise ที่ทอดยาวกว่า 70 กิโลเมตรและแนวภูเขาเขียวด้านหลังเมืองได้แบบ 360 องศา

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 19

 

ในตอนเช้า แสงแรกของวันสะท้อนกับทะเลและกระจกอาคารรอบเมือง เป็นภาพที่นิ่งแต่ทรงพลัง ส่วนตอนเย็น บรรยากาศเปลี่ยนเป็นแสงอุ่นสีทอง เหมาะกับการนั่งชมวิวพร้อมกาแฟหรือไวน์หนึ่งแก้ว SkyPoint ยังมีเลานจ์และคาเฟ่ที่เปิดให้บริการ เหมาะกับการมานั่งพักหรือใช้เวลาเงียบๆ ระหว่างวัน

 

Morning Run & Beachfront Café Culture

 

โกลด์โคสต์คือเมืองที่มียามเช้าที่สวยและมีชีวิตที่สุดเมืองหนึ่งในออสเตรเลีย นักวิ่งและคนท้องถิ่นนิยมออกกำลังกายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เส้นทางยอดนิยมคือทางเดินเลียบชายหาดจาก Broadbeach ถึง Burleigh Heads ที่ยาวต่อเนื่องกว่า 10 กิโลเมตร นับเป็นรูทวิ่งที่คึกคักและไม่เหงาเลย เพราะมีนักวิ่งมาร่วมกับเราตั้งแต่ตี 5 (เวลาที่เราไปสว่างไวมาก)

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 20

 

หลังวิ่งเสร็จ ยังมีคาเฟ่ดีๆ มีให้เลือกตลอดทาง เช่น BSKT Cafe หรือ Elk Espresso ที่เสิร์ฟอาหารเช้าแบบออสซี่ในสไตล์ร่วมสมัย ทั้งสองร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาด สะท้อนวัฒนธรรมการใช้ชีวิตแบบโกลด์โคสต์ได้ดี

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 21

 

Mamasan Kitchen & Bar

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 22

 

หากใครอยากลองอาหารที่ไม่ได้อยู่ในโรงแรม บริเวณไม่ไกลกัน เราขอแนะนำ Mamasan Kitchen & Bar ในย่าน Oracle Boulevard

 

ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องการตีความอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างร่วมสมัย เช่น ปอเปี๊ยะปูซอฟต์เชลล์ และสเต็กเนื้อวากิว บรรยากาศภายในร้านหรูหราดูดี เหมาะกับค่ำคืนแบบ modern Asian fine dining ที่ไม่ทางการเกินไปนัก แต่รสชาติอาหารดีเลยเหมาะสำหรับมื้อที่เรานึกถึงอาหารเอเชีย

 

ในบริเวณใกล้กันยังมีคาเฟ่ 2 แห่งที่เปิดตั้งแต่เช้า เอาใจคนตื่นเช้าและคนออกกำลังกาย เราชอบทั้ง No Name Lane Cafe และ Elk Espresso ที่อยู่ไม่ไกลกัน รสชาติกาแฟดีทั้งสองเจ้า

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 23

 

Miami Marketta

 

ใครอยากกินอาหารหลายๆ อย่าง แนะนำให้มาตลาดที่เก่าแก่ที่สุดของที่นี่ และสะท้อนตัวตนของโกลด์โคสต์ยุคใหม่ มีร้านอาหารสไตล์ฟู้ดทรักจำนวนมาก หมุนเวียนเปลี่ยนเป็นประจำ มีดนตรีสดจากศิลปินท้องถิ่น บาร์เครื่องดื่มเย็นๆ และไวบ์แบบออสซี่ ที่คุณน่าจะชอบ

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 24

 

The Star Residences

 

ทริปนี้เรานอนที่ The Star Residences Broadbeach ซึ่งตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์เดียวกับ The Star Gold Coast มองเห็นวิวทะเลเต็มตาจากห้องพัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ตั้งแต่สระว่ายน้ำกลางอาคาร ห้องฟิตเนส ไปจนถึงพื้นที่ทำอาหาร และระเบียงส่วนตัวสำหรับชมวิวเมืองให้บรรยากาศเหมือนพักในอพาร์ตเมนต์หรูริมทะเลมากกว่าโรงแรมทั่วไป

 

เราได้ลองห้องอาหารบนชั้น 19 อย่าง The Darling Gold Coast ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวดีที่สุดในเมือง จากจุดนี้เราจะมองเห็นทั้งแนวหาด Broadbeach และแสงไฟของเมืองในยามค่ำได้โดยรอบ เมนูจะผสมผสานเทคนิคยุโรปเข้ากับวัตถุดิบออสเตรเลีย เช่น สเต็กวากิว MB9 หรือจานปลาจากทะเลทางเหนือที่เสิร์ฟพร้อมไวน์ที่คัดโดยซอมเมอลิเยร์ เป็นจุดหมายสำหรับมื้อค่ำที่ต้องการทั้งบรรยากาศและรสชาติในระดับไฟน์ไดนิ่ง

 

Good for…

 

รวมสถานที่เที่ยว ใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเล ของ ออสเตรเลีย 25

 

เหมาะกับคนที่อยากถอยออกจากจังหวะชีวิตที่เร่งรีบของเมืองใหญ่ ไปอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ อยากเที่ยวแบบไม่รีบร้อน สบายๆ และมองหาทริปที่เน้นกิจกรรมแบบ Active leisure ไว้เติมพลัง เอ็นจอยกับไลฟ์สไตล์จิบเบียร์ แวะคาเฟ่ ผู้คนน่ารักเป็นกันเอง ที่นี่เป็นเมืองของคุณ

 

ภาพ: ภัทรศยา เชาว์รัศมีกุล, Tourism and Events Queensland

The post รวมสถานที่เที่ยวใน โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เมืองริมทะเลของออสเตรเลีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมคุยตำรวจกัมพูชา ขอส่งทีมสังเกตการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้สังคมโลกต้องกดดัน https://thestandard.co/police-monitor-call-center-scams/ Tue, 04 Nov 2025 05:40:35 +0000 https://thestandard.co/?p=1139553 ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมคุย ตำรวจกัมพูชา ขอส่งทีมสังเกตการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้ สังคมโลก ต้องกดดัน

วันนี้ (4 พฤศจิกายน) พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บั […]

The post ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมคุยตำรวจกัมพูชา ขอส่งทีมสังเกตการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้สังคมโลกต้องกดดัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมคุย ตำรวจกัมพูชา ขอส่งทีมสังเกตการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้ สังคมโลก ต้องกดดัน

วันนี้ (4 พฤศจิกายน) พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงผลการหารือเบื้องต้นในการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 (The 43rd ASEANAPOL Conference) เกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ว่า ได้มีการพูดคุยกับรองผู้บัญชาการตำรวจกัมพูชา ซึ่งได้ยืนยันว่า ตำรวจกัมพูชาได้ตั้ง 2 ทีมใหญ่ขึ้นมาเพื่อกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า จะพยายามประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานของกัมพูชาตามข้อตกลง 4 ข้อที่นายกรัฐมนตรีลงนามไว้ โดยประเด็นสแกมเมอร์เซ็นเตอร์นี้ ไม่ใช่เพียงไทยเท่านั้นที่ต้องการหารือ แต่เป็นเรื่องหลักที่ทุกประเทศร้องขอและต้องการพูดคุย ทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และจีน ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ต้องดำเนินการในระดับโลก

 

ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ตนต้องการพูดคุยกับกัมพูชาอย่างเป็นทางการในประเด็นการ ส่งตำรวจไทยเข้าไปประจำอยู่ในประเทศกัมพูชาเพื่อสังเกตการณ์ รวมถึงประเทศอื่น ๆ ที่มีปัญหาเรื่องสแกมเมอร์และอาชญากรรมออนไลน์ โดยเชื่อว่าการส่งเจ้าหน้าที่ไปทำงานใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และแลกเปลี่ยนข้อมูลในการลงพื้นที่ จะเป็นประโยชน์มากกว่าการสังเกตการณ์อยู่ฝั่งประเทศไทยเพียงอย่างเดียว

 

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ พล.ต.ท. จิรภพ ตอบอย่างเด็ดเดี่ยวว่า ถูกหลอกก็ต้องยอม เราก็ต้องสู้ เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่ทำได้ และย้ำว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาอันดับหนึ่งของทุกประเทศในขณะนี้ หากกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ จะต้องใช้สังคมโลกกดดัน
พล.ต.ท. จิรภพ ยืนยันว่า ในประเทศไทยนั้น ไม่มีสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ มีเพียงรายย่อย ๆ ที่แอบทำ และพร้อมจับกุมทันทีเมื่อได้รับข้อมูลจากทั้งหน่วยงานในประเทศและตำรวจต่างประเทศ

 

สำหรับความเชื่อมั่นต่อกัมพูชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยอมรับว่าถึงแม้เคยผิดหวัง แต่เชื่อว่ารอบนี้สังคมโลกเห็นชัดว่าศูนย์สแกมเมอร์อยู่ที่ใด และหวังว่าพลังของนานาประเทศจะทำให้กัมพูชาร่วมมือในที่สุด

 

ส่วนประเด็นที่อาจถูกมองว่าเป็นการนำความลับไปชี้เป้าให้กัมพูชา และเกรงว่าความร่วมมือจะไม่เกิดขึ้นนั้น พล.ต.ท. จิรภพ ระบุว่า จะใช้วิธีส่งไปทีละเป้า และจะดูจากผลปฏิบัติเป็นหลัก หากไม่สำเร็จก็จะไม่ส่งข้อมูลเพิ่ม โดยย้ำว่าทุกการดำเนินการจะทำอย่างเร็วที่สุด

The post ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมคุยตำรวจกัมพูชา ขอส่งทีมสังเกตการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้สังคมโลกต้องกดดัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ถอดรหัส 3 ทริกเกอร์ปลุกพลัง ‘โกงขีดจำกัด’ จาก Physical: Asia https://thestandard.co/life/physical-asia-limit-breaking-triggers/ Fri, 31 Oct 2025 09:44:38 +0000 https://thestandard.co/?p=1138195 ถอดรหัส 3 ทริกเกอร์ปลุกพลัง ‘โกงขีดจำกัด’ จาก Physical: Asia

 *บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของรายการแข่งขันบางส […]

The post ถอดรหัส 3 ทริกเกอร์ปลุกพลัง ‘โกงขีดจำกัด’ จาก Physical: Asia appeared first on THE STANDARD.

]]>
ถอดรหัส 3 ทริกเกอร์ปลุกพลัง ‘โกงขีดจำกัด’ จาก Physical: Asia

 *บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของรายการแข่งขันบางส่วน*

 

เพียงไม่กี่วันจากการสตรีมวันแรก Physical: Asia (คนแกร่งแข่งอึด: ศึกแห่งเอเชีย) แฟรนไชส์ของรายการเรียลลิตี้ฮิต Physical: 100 ก็พุ่งทะยานขึ้นอันดับ 1 Top 10 TV Shows ของ Netflix ประเทศไทยทันที 

 

นั่นก็เพราะการกลับมาของสมรภูมิเดือดในครั้งนี้ คือการยกระดับด้วยการรวบตึง 48 ยอดมนุษย์จาก 8 ประเทศ เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มองโกเลีย ตุรกี อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย มาปะทะกันในภารกิจสุดหิน โดยมีเดิมพันเป็นเงินรางวัล 1 พันล้านวอน  

 

 

สำหรับทีมไทยของเรานั้นประกอบไปด้วย ซุปเปอร์บอน นักมวยไทย ผู้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีม, ซันนี่-เกิดเก้า เวชโชกิตติกร นักกีฬารักบี้, สอง-อนุชา ยศปัญญา นักมวยปล้ำ, พลอย-นวลนารี โอลเซ่น นักเพาะกาย, จ๋า-อุรชา ตีระวานิชสันติ์ นักกีฬาครอสฟิต และรัศมีแข อดีตนักวอลเลย์บอล ผู้สร้างสีสันให้กับรายการตั้งแต่อีพีแรกด้วยการใส่ส้นสูงเดินสับให้ชาติอื่นตะลึง 

 

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Netflix Thailand (@netflixth)

 

 

ใน 4 ตอนแรก ผู้เข้าแข่งขันต้องประจัญบานใน 2 ภารกิจสุดโหดอย่าง Territorial Conquest (ศึกยึดครองพื้นที่) และ Shipwreck Transportation (ขนย้ายสัมภาระจากเรืออับปาง) ที่แค่ชมจากทางบ้านก็ยังหอบแทน

  

 

แต่ในนาทีที่เหล่าคนแกร่งกำลังหมดแรงจนร่างกายไปต่อแทบไม่ไหว เรากลับเห็นแรงระเบิดพลังฮึดสุดท้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่น่าเชื่อ…และนี่คือ 3 ทริกเกอร์สำคัญแห่งการ ‘โกงขีดจำกัด’ ที่เราเห็นได้ชัดเจนในรายการ

 

1. ภาวะหลังชนฝา (The Threat Trigger)

 

ในภารกิจขนย้ายสัมภาระจากเรืออับปาง คะแนนของแต่ละทีมถูกเปิดเผยระหว่างการทำภารกิจ ทันทีที่สมองรับรู้ว่า ‘เรากำลังจะแพ้’ มันจะตีความว่านี่คือ ‘ภัยคุกคาม’ และสับสวิตช์เข้าสู่โหมดเอาตัวรอดทันที 

 

 

กลไกนี้คือ ภาวะตื่นตัวสู้ภัย (Acute Stress Response) หรือการตอบสนองต่อความเครียดเฉียบพลันที่บังคับ ให้สมองสั่งการร่างกายให้ทุ่มเททรัพยากรทุกหยดไปที่ภารกิจตรงหน้า 

 

เป้าหมายจะเปลี่ยนจาก ‘เราต้องชนะ’ กลายเป็น ‘เราห้ามแพ้ตอนนี้!’ ซึ่งเป็นสภาวะ ไม่มีอะไรจะเสียที่ช่วยปลดล็อก Hyper-focus และพลังแฝงที่เราไม่เคยรู้ว่ามี

 

 

2. เสียงเชียร์จากทีม (The Social Trigger) 

 

ไม่ว่าจะเป็นภารกิจแรกที่เหล่าคนแกร่งต้องคลุกทรายปะทะแย่งถิ่นฐาน หรือในจุดที่เพื่อนร่วมทีมกำลังจะสิ้นใจจากการขนย้ายลัง เสียงเชียร์จากทีมก็ดังขึ้นไม่เคยหยุด

 

เสียงเชียร์นี้เปรียบเสมือนเกราะกันชนทางอารมณ์ (Emotional Buffer) ที่ทรงพลัง มันช่วยบรรเทาความเครียดและความกังวลในสถานการณ์กดดัน ทำให้ผู้เล่นสามารถกลับมาโฟกัสกับเกมได้  

 

 

ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อสมองได้รับกำลังใจ มันจะตอบสนองด้วยการหลั่งโดปามีน (Dopamine) สารสื่อประสาทแห่งความสุขและรางวัล โดปามีนที่พุ่งสูงขึ้นนี้เองที่ช่วยปลุกแรงจูงใจและกระตุ้นสมองส่วนที่ใช้ในการตัดสินใจ ทำให้เราฮึดสู้ต่อได้แม้ร่างกายกำลังจะหมดแรง 

 

 

3. โหมดอสูร (The Beast Mode Trigger) 

 

โมเมนต์ไวรัลที่ใครต่างพูดถึงก็คือซีนที่รัศมีแขแบกลังหนัก 50 กก. ขึ้นหลังแล้ว เปล่งเสียงตะโกนคำรามดุจอสูรจนทีมเกาหลียังหวั่น นั่นไม่ใช่แค่การปลุกใจ แต่มันคือการ ‘พุช’ ร่างกายให้ไปต่อ 

 

 

เสียงคำรามเต็มพลังนั้นคือการบังคับให้ร่างกายเข้าสู่โหมด ‘สู้หรือหนี’ (Fight-or-Flight) โดยกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกให้ทำงานทันที ร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีนเข้าสู่กระแสเลือดทำให้กล้ามเนื้อหดตัวแรงขึ้น, สั่งให้ตับปล่อยน้ำตาลมาเป็นพลังงานด่วน และทำให้ลืมความเจ็บปวดล้าของร่างกายไปชั่วขณะ

 

ในขณะเดียวกัน การเปล่งเสียงดังๆ ยังบังคับให้แกนกลางลำตัวเกร็งอย่างรุนแรง สร้างแรงดันในช่องท้องที่ทำหน้าที่เหมือนเข็มขัดยกน้ำหนักตามธรรมชาติ ช่วย ล็อกกระดูกสันหลังให้มั่นคง ทำให้ส่งแรงมหาศาลได้อย่างปลอดภัย เรียกว่าเป็นการอัดฉีดอะดรีนาลีนให้ตัวเอง และยังสร้างเกราะให้ร่างกายไปพร้อมๆ กัน

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by James Rusameekae Fagerlund (@rusameekae)

 

 

งานนี้ทีมไหนจะคว้าชัยชนะจากสมรภูมิสุดเดือดนี้ไปได้ ติดตามชมได้ทาง Netflix 

 

อ้างอิง:

The post ถอดรหัส 3 ทริกเกอร์ปลุกพลัง ‘โกงขีดจำกัด’ จาก Physical: Asia appeared first on THE STANDARD.

]]>
เที่ยว บริสเบน ออสเตรเลีย เมืองที่ทำให้คุณตกหลุมรักสโลว์ไลฟ์ https://thestandard.co/life/brisbane-slow-but-sophisticated-balanced-lifestyle/ Thu, 30 Oct 2025 00:41:19 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1137132

เมื่อพูดถึงออสเตรเลีย คนส่วนใหญ่มักนึกถึงซิดนีย์หรือเมล […]

The post เที่ยว บริสเบน ออสเตรเลีย เมืองที่ทำให้คุณตกหลุมรักสโลว์ไลฟ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อพูดถึงออสเตรเลีย คนส่วนใหญ่มักนึกถึงซิดนีย์หรือเมลเบิร์นที่มีภาพความเป็นเมืองใหญ่ชัดเจน แต่ถ้าคุณอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาสัมผัสเมืองที่มีจังหวะชีวิตที่สมดุลดูบ้าง ไม่เร็วหรือช้าเกินไป บริสเบน (Brisbane) คือคำตอบที่ดี เพราะเมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์แห่งนี้ถือเป็นเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ รุ่มรวยด้วยศิลปะร่วมสมัยและไลฟ์สไตล์ มีย่านสวยริมแม่น้ำ และแหล่งธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง

 

ที่นี่คือเมืองที่เปิดโอกาสให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบ Slow but sophisticated ทำให้นาฬิกาชีวิตเราเดินช้าลงเพื่อให้เราได้มาพักจริงๆ แต่ก็ทันสมัยมากพอที่จะตอบโจทย์ความชอบด้านกิน ดื่ม เที่ยวได้อยู่

 

และเหล่านี้คือสถานที่ท่องเที่ยวในแถบบริสเบนที่เราคิดว่าคุณน่าจะชอบ

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

ทำความรู้จักบริสเบนกันก่อน

 

บริสเบน (Brisbane) เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย เป็นเมืองใหญ่ลำดับสามของประเทศรองจากซิดนีย์และเมลเบิร์น แต่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองที่แตกต่างออกไป ด้วยความที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบริสเบน ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลาย มีทั้งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่ศิลปะร่วมสมัย คาเฟ่ดีไซน์สวย และตลาดสุดเก๋ที่จัดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์

 

การเดินทางมาที่บริสเบนก็สะดวก ปัจจุบันมีสายการบิน Jetstar Airline เปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่บริสเบน ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง เหมาะสำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์ในเมืองที่มีจังหวะชีวิตพอดีๆ ไม่เร่งรีบเกินไป แต่ยังคงความโมเดิร์นและไลฟ์สไตล์คนเมือง

 

South Bank & Brisbane Festival

 

ใครเป็นสายอาร์ตหรือชอบดูงานศิลปะ ต้องมาย่าน South Bank Parklands ซึ่งเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์และศิลปะของเมือง มีทั้งสวนริมแม่น้ำ คาเฟ่ ร้านอาหาร และ The Wheel of Brisbane รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับประเทศ ที่มีนิทรรศการเวียนที่น่าสนใจมาลงอยู่เรื่อยๆ

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

ช่วงที่เราไปเป็นช่วงการจัดงาน Brisbane Festival ทั้งเมืองจึงเปลี่ยนเป็นพื้นที่แห่งแสงสีและเสียงดนตรี ไฮไลต์คือ Skylore Drone Show ที่ใช้โดรนหลายร้อยตัวสร้างเรื่องราวตำนาน “Spirit of the Whale” บนท้องฟ้ายามค่ำ ผสมผสานระหว่างศิลปะ เทคโนโลยี และตำนานท้องถิ่น นอกจากนั้นสะพานสำคัญของเมืองอย่าง Neville Bonner Bridge, Kangaroo Point Bridge และ Goodwill Bridge ยังถูกประดับประดาไปด้วยสีสันและบอลลูนหลากสี สร้างบรรยากาศที่สนุกไปทั้งเมือง

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

Queensland Art Gallery & Gallery of Modern Art (QAGOMA)

 

ถ้าคุณรักศิลปะหรือชอบใช้เวลาช้าๆ ในพิพิธภัณฑ์ ต้องไม่พลาด QAGOMA พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยระดับโลกที่ตั้งอยู่บริเวณ South Bank ริมแม่น้ำบริสเบน

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

QAGOMA ประกอบด้วยอาคารสองส่วนที่เชื่อมต่อกัน ได้แก่ Queensland Art Gallery (QAG) ที่จัดแสดงผลงานศิลปะคลาสสิกและศิลปะออสเตรเลีย และ Gallery of Modern Art (GOMA) ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโมเดิร์นและนิทรรศการร่วมสมัยจากทั่วโลก ภายในมีแสงธรรมชาติส่องลอดเข้ามาให้ความรู้สึกโปร่งและสงบ เหมาะกับการใช้เวลาเดินชมผลงานไปเรื่อยๆ

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

นิทรรศการที่นี่หมุนเวียนตลอดปี ตั้งแต่งานของศิลปินชาวอะบอริจินที่เล่ารากเหง้าของออสเตรเลีย ไปจนถึงงานศิลปะเอเชียและศิลปะร่วมสมัยจากนานาชาติ เช่น อินสตอลเลชันขนาดใหญ่ วิดีโออาร์ต และประติมากรรมเชิงทดลอง GOMA ยังมีพื้นที่สำหรับเด็ก (Children’s Art Centre) ที่ออกแบบให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ศิลปะผ่านการลงมือสร้างสรรค์จริง

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

Fish Lane

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

ถัดจากย่าน South Bank ไม่ไกลนักคือ Fish Lane ย่านศิลปะและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนจากตรอกเก่าให้กลายเป็นพื้นที่สุดครีเอทีฟของเมือง ที่นี่คือจุดรวมตัวของคนรุ่นใหม่และศิลปิน มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และสตรีตอาร์ตที่แต่งแต้มผนังอาคารไปทั่ว

 

บริสเบน ออสเตรเลีย Slow but Sophisticated

 

กลางวัน Fish Lane จะเต็มไปด้วยคาเฟ่เก๋ๆ เช่น Gauge, Hello Please และร้านกาแฟพิเศษที่คั่วเมล็ดเอง ส่วนตอนเย็นถนนเส้นนี้จะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นโซนกินดื่มสุดคึกคัก มีทั้งไวน์บาร์เล็กๆ ร้านคราฟต์เบียร์ และร้านอาหารระดับเชฟดัง เช่น Southside, Butler Wine Bar หรือ Bar Brutus

 

 

นอกจากอาหารและบาร์ ที่นี่ยังมักจัดงานศิลปะและดนตรีขนาดย่อมอยู่เสมอ เช่น การฉายหนังกลางแจ้ง งานนิทรรศการป๊อปอัป หรืออีเวนต์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Creative Spirit ที่กำลังเติบโตในบริสเบน

 

Story Bridge Adventure Climb

 

 

สะพานเหล็กอายุเกือบร้อยปีแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของบริสเบน และเป็นหนึ่งในสามสะพานในโลกที่เราสามารถปีนขึ้นไปได้ แม้ฟังดูน่าหวาดเสียวแต่ต้องบอกว่าที่นี่มีระบบความปลอดภัยขั้นสูง ตั้งแต่การให้สวมใส่ชุดที่เตรียมไว้ให้ มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายทุกจุด และเราต้องบรีฟกันอย่างจริงจังก่อนที่จะเตรียมตัวเดินขึ้นสะพาน

 

 

ระหว่างปีนหรือเดินเรียงขึ้นไป ไกด์จะเล่าประวัติศาสตร์ของเมือง ก่อนจะถึงจุดสูงสุดที่ความสูง 80 เมตรเหนือแม่น้ำ คุณจะได้เห็นวิวบริสเบนแบบ 360 องศา ที่เราจะเห็นตึกสูงๆ (ต้องบอกว่าอาคารที่นี่เท่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก) เรียงรายข้างแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวทอดยาว หากมาตอนพลบค่ำก็จะได้บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกให้สวยงามไปอีกแบบ

 

Howard Smith Wharves & Felons Brewing Co 

 

 

หลังเดินบนสะพาน เมื่อลงมาก็ถึง Howard Smith Wharves ย่านศิลปะริมแม่น้ำที่รีโนเวตจากโกดังเก่าให้กลายเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร บาร์ และโรงเบียร์ที่ Felons Brewing Co. คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศการใช้ชีวิตแบบสบายๆ ของชาวบริสเบน มีโต๊ะไม้ยาวริมแม่น้ำ ภาพครอบครัวเดินเล่น เด็กปั่นจักรยาน และกลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันในยามค่ำ ให้บรรยากาศสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ 

 

 

จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดและอาหารเคล้ากับบรรยากาศได้เลย เหมาะทั้งมาเวลาบ่ายแก่ๆ และยามเย็น แถมที่นี่ยังติดกับท่าเรือที่เราสามารถล่องเรือเฟอร์รีชมวิวได้อีกด้วย

 

 

แวะเที่ยวเกาะ Tangalooma Island

 

แค่หนึ่งชั่วโมงจากใจกลางเมืองก็ถึง Tangalooma Island Resort บนเกาะ Moreton ที่มีทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังและฝูงปลา หากว่ามาในช่วงเทศกาลปลาวาฬ เราอาจมีโอกาสได้เห็นปลาวาฬเวียนว่ายในท้องทะเลอีกด้วย

 

 

กิจกรรมบนเกาะมีมากมาย ทั้งดำน้ำ snorkeling ดูซากเรือ Tangalooma Wrecks ที่กลายเป็นบ้านของสัตว์ทะเลหลากชนิด ครั้งนี้เราได้เห็นฉลามและปลาหมึกทะเลด้วย หรือจะเล่น sand tobogganing หรือสไลด์บอร์ดจากเนินทรายสูง ขับ ATV ชมแนวทะเล ฯลฯ หรือจะแค่นั่งชมวิวทะเล เล่นน้ำทะเลก็สามารถทำได้เช่นกัน

 

 

ช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุดคือช่วงเย็น เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้อาหารโลมากับมือเราเอง (Wild Dolphin Feeding) เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่คุณจะหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว คุ้มค่ามาก

 

 

แวะมาดูหมีโคอาลาที่ Lone Pine Koala Sanctuary

 

Lone Pine Koala Sanctuary คือสถานดูแลโคอาลาที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่คุณจะได้อุ้มโคอาลาอย่างใกล้ชิด ให้อาหารจิงโจ้และวอลลาบี รวมถึงชมการแสดงฝึกสุนัขต้อนแกะ ไฮไลต์อยู่ที่การได้สัมผัสกับโคอาลาในอิริยาบถต่างๆ ที่น่าเอ็นดู ท่ามกลางบรรยากาศแบบสวนสัตว์เปิดที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ เหมาะกับการมาเที่ยวแบบครอบครัวหรือกับกลุ่มเพื่อนที่อยากใช้เวลาช้าๆ ใกล้ชิดกับสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลีย

 

 

การเดินทางไปยัง Lone Pine ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะคุณสามารถล่องเรือไปได้ด้วย Koala and River Cruises ผู้ให้บริการล่องเรือชื่อดังที่เคยใช้ชื่อว่า Mirimar Cruises และดำเนินการมากว่า 60 ปี เส้นทางนี้จะพาคุณล่องไปตามแม่น้ำบริสเบน ชมวิวสองฝั่งที่เต็มไปด้วยบ้านสวยๆ สวนสีเขียว และสะพานที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง ก่อนจะไปถึงศูนย์อนุรักษ์โคอาลา

 

 

ระหว่างทางบนเรือ คุณสามารถนั่งจิบกาแฟหรือเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวและลมแม่น้ำอันสงบ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการชมธรรมชาติแบบ slow cruise และการได้ใกล้ชิดกับสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของออสเตรเลียอย่างแท้จริง

 

 

Good for…

 

เราคิดว่าบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ไม่ใช่เมืองที่กระตุ้นให้เราต้องทำอะไรเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ แต่เป็นเมืองที่อยากให้คุณใช้ชีวิตที่ไม่เร่งรีบ เหมาะกับนักเดินทางที่ชอบความชิลล์ สบายๆ เรียบง่าย ผู้คนน่ารักและเป็นมิตร มีย่านไลฟ์สไตล์ให้กิน-ดื่ม และมีกิจกรรมกลางแจ้งที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ถ้ามาแล้วอยากจะขับรถเที่ยวไปเมืองอื่นอย่างโกลด์โคสต์ก็สามารถทำได้ เราว่ามันเป็นการไปเที่ยวออสเตรเลียที่ให้ประสบการณ์ที่ต่างจากที่คุณเคยสัมผัสมาแน่นอน

 

The post เที่ยว บริสเบน ออสเตรเลีย เมืองที่ทำให้คุณตกหลุมรักสโลว์ไลฟ์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค https://thestandard.co/anutin-apec-dinner-trump-sk-president/ Wed, 29 Oct 2025 12:02:11 +0000 https://thestandard.co/?p=1137104 นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค

วันนี้ (29 ตุลาคม) เวลา 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคย […]

The post นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค appeared first on THE STANDARD.

]]>
นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค

วันนี้ (29 ตุลาคม) เวลา 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเป็นกรณีพิเศษ (Special Dinner in Honor of the U.S. President and State Leaders) ภายใต้หัวข้อ ‘ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก’ (Indo-Pacific Economic Cooperation) ซึ่งอี แชมยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ โดยจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำเขตเศรษฐกิจพิเศษเอเปค

 

งานเลี้ยงอาหารค่ำดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 โดยมีผู้นำจากเขตเศรษฐกิจสำคัญที่เข้าร่วมงานนี้ร่วมกับนายกรัฐมนตรี ได้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, อี แชมยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้, แอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, มาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา, คริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์,ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสิงคโปร์ และเลือง เกื่อง ประธานาธิบดีเวียดนาม ซึ่งในช่วงก่อนงานเลี้ยงผู้นำทั้ง 8 ชาติ ได้พบปะพูดคุยกันตามอัธยาศัย ภายหลังอาหารค่ำ ผู้นำที่เข้าร่วมงานเลี้ยงได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ ‘ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก’ (Indo-Pacific Economic Corporation)

 

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงในงานเลี้ยงอาหารค่ำ สรุปสาระสำคัญดังนี้

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณประธานาธิบดี อี แชมยอง สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงค่ำสุดพิเศษในครั้งนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้อยู่ท่ามกลางพันธมิตรและหุ้นส่วนจากทั่วภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่งคั่งให้เกิดขึ้นในภูมิภาค

 

ทั้งนี้ ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือรอบด้านกับทุกพันธมิตร ทั้งในระดับทวิภาคี ระดับอนุภูมิภาค และระดับภูมิภาค ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น อาเซียน กรอบความร่วมมือแม่โขง และความตกลง RCEP โดยไทยและเกาหลีใต้กำลังเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน-เกาหลีใต้ กรอบแม่โขง-เกาหลีใต้ และการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (CEPA) ขณะเดียวกัน ไทยยังทำงานร่วมกับสหรัฐฯ และออสเตรเลีย ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-สหรัฐฯ (Mekong-U.S. Partnership) และกรอบ ACMECS เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค

 

นายกรัฐมนตรียังรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการเข้าร่วมงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ต่อสันติภาพและความรุ่งเรืองในภูมิภาค พร้อมกล่าวขอบคุณที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนกระบวนการสร้างสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งนำไปสู่การลงนามใน Joint Declaration เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยหวังว่าสหรัฐฯ จะเห็นถึงความตั้งใจจริงและความพยายามอย่างสร้างสรรค์ของไทย เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาข้อตกลงการค้าไทย-สหรัฐฯ ที่สมดุลและเกิดประโยชน์ร่วมกันต่อประชาชนของไทยและสหรัฐฯ

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นหนึ่งในกลไกหลักของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีศักยภาพสูงจากประชากรที่ขยันขันแข็ง เต็มไปด้วยพลัง และมีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ รวมถึงเป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถด้านนวัตกรรมและการเชื่อมโยง โดยการจะเปลี่ยนศักยภาพเหล่านี้ให้เป็นโอกาสที่แท้จริง จำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของสหรัฐฯ ใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่

 

1. ความร่วมมือด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะ AI ซึ่งไทยเห็นว่า เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงขับเคลื่อนนวัตกรรม แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และการหลอกลวงทางออนไลน์

 

2. การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เอื้อต่อการแข่งขัน ด้วยการลดกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อน ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียม ทั้งนี้ ความตั้งใจของไทยที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD สะท้อนถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว

 

3. การเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อให้ห่วงโซ่อุปทานมีความยืดหยุ่นและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อเศรษฐกิจโลกในยุคปัจจุบันที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน

 

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำถึงความตั้งใจของไทยที่จะร่วมมือกับทุกเขตเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมค่านิยมร่วมกันในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจ นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ประชาชนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

 

นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 1 นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2 นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 3 นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 4 นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 5 นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 6

The post นายกฯอนุทิน ร่วมดินเนอร์ ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงต้อนรับ ทรัมป์-ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค appeared first on THE STANDARD.

]]>
รมว.อุตสาหกรรม เผยลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ผ่านมติ ครม.แล้ว ไม่มีลักไก่ ย้ำเป็นเพียงการศึกษา มั่นใจนายกฯอนุทิน รับมือชาติมหาอำนาจได้ https://thestandard.co/thanakorn-rare-earth-mou-cabinet/ Tue, 28 Oct 2025 05:59:14 +0000 https://thestandard.co/?p=1136473 รมว.อุตสาหกรรม เผย ลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ผ่านมติ ครม.แล้ว ไม่มีลักไก่ ย้ำ เป็นเพียงการศึกษา มั่นใจ นายกฯอนุทิน รับมือชาติมหาอำนาจได้

วันนี้ (28 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ธนกร วังบุญคงชนะ รั […]

The post รมว.อุตสาหกรรม เผยลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ผ่านมติ ครม.แล้ว ไม่มีลักไก่ ย้ำเป็นเพียงการศึกษา มั่นใจนายกฯอนุทิน รับมือชาติมหาอำนาจได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รมว.อุตสาหกรรม เผย ลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ผ่านมติ ครม.แล้ว ไม่มีลักไก่ ย้ำ เป็นเพียงการศึกษา มั่นใจ นายกฯอนุทิน รับมือชาติมหาอำนาจได้

วันนี้ (28 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ อนุทินชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกากับ รัฐบาลราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยความร่วมมือในการกระจายห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุสำคัญระดับโลก และส่งเสริมการลงทุนว่า เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจง ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมด้วย อีกทั้งเป็นข้อตกลงร่วมกันในการร่วมศึกษาพัฒนาแร่หายาก ทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฎหมายไทยตามหลักธรรมาภิบาล แต่ตนบอกได้ว่า ไม่ผูกพันทางกฎหมายสามารถยกเลิกได้ และหากมองภาพรวมด้วยใจที่เป็นธรรม ตนคิดว่ามีประโยชน์ต่อประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการต่อยอดทางเทคโนโลยี

 

เมื่อถามว่า วันนี้หากถามว่าประเทศไทยมีแร่แรร์เอิร์ธหรือไม่นั้น ธนกรยอมรับว่า อาจมีบ้าง แต่กระจัดกระจายมีความเข้มข้นต่ำ ไม่คุ้มค่าในการลงทุนทำเหมือง ซึ่ง อดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ยืนยันอย่างชัดเจนแล้ว นอกจากนี้การส่งออกกว่า 13,000 ตันต่อปี เป็นการนำเข้ามาตกแต่งให้มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นก่อนที่จะมีการส่งออก พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความร่วมมือที่ประเทศชาติได้ประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วน แต่ตอนนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรียึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

 

เมื่อถามว่า มีการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือไม่นั้น ธนกร ระบุว่า มีอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นการศึกษา และพัฒนา ดังนั้นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่ในวันนี้เราจะได้ประโยชน์ในเรื่องการเป็นศูนย์กลางของการลงทุน EV แบตเตอรี่ และ เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor)

 

เมื่อถามว่าในประเด็นนี้ประเทศจีนมีการกีดกันสหรัฐอเมริกา จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสงครามการค้าหรือไม่ ธนกรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องคิดเรื่องการสร้างความสมดุลแล้ว ตนก็มองว่าประเทศไทยอยู่ตรงกลาง ดังนั้นจะบริหารประเทศอย่างไรเพื่อสร้างความสมดุลของอำนาจระหว่างสองประเทศ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความยอดเยี่ยมของนายกรัฐมนตรีที่ท่านคิดมาตลอด ว่าไม่ได้สร้างความเสียหายของประเทศไทยแต่เราจะได้ประโยชน์อย่างแน่นอน

 

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าประเทศไทยอาจจะเสียเปรียบ เพราะอาจต้องให้สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าแรกในการเข้าไปสำรวจนั้น ธนกร กล่าวว่า เรื่องนี้เราเปิดกว้าง เราทำบันทึกข้อตกลง เราสามารถทำกับประเทศอื่นได้ ไม่แน่ว่าหลังจากนี้นายกรัฐมนตรีอาจจะทำความตกลงร่วมกับประเทศออสเตรเลีย เพราะวันนี้ประเทศไทยก็นำเข้าแร่จากประเทศออสเตรเลีย เข้ามาตกแต่งและส่งออกเป็นจำนวนมาก พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นไม่ต้องกังวล เพราะทุกฝ่ายมองอย่างละเอียดแล้ว ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา และบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย อีกทั้งเรื่องนี้ได้มีการขอมติของคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าไม่มีการรับรู้ในการลงนามดังกล่าว ทั้งที่มีการผ่านมติคณะรัฐมนตรีมาแล้วนั้น มองว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศเพิ่งเสนอเข้ามา และเป็นสิ่งที่เราได้พิจารณาแล้วว่าสามารถทำได้ ส่วนที่ถูกมองว่าจะเป็นการลักไก่หรือไม่นั้น มองว่าคงไม่ใช่การลักไก่ หากเป็นจริงนายกรัฐมนตรีสามารถทำคนเดียวได้ แต่เรื่องนี้ผ่านคณะรัฐมนตรีมาแล้ว และหลังจากนี้จะต้องมีการชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจ รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน และย้ำว่าเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น

The post รมว.อุตสาหกรรม เผยลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ผ่านมติ ครม.แล้ว ไม่มีลักไก่ ย้ำเป็นเพียงการศึกษา มั่นใจนายกฯอนุทิน รับมือชาติมหาอำนาจได้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบบัตรแรบบิท โอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย https://thestandard.co/australia-rabbit-card-design/ Wed, 22 Oct 2025 10:41:48 +0000 https://thestandard.co/?p=1134177 สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบ **บัตรแรบบิท** **โอกาส**ครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย

สถานทูตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยขอเชิญชวนผู […]

The post สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบบัตรแรบบิท โอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบ **บัตรแรบบิท** **โอกาส**ครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย

สถานทูตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจส่งผลงานออกแบบของท่านในการประกวดออกแบบบัตรแรบบิท 2025 เพื่อเฉลิมฉลองมิตรภาพระหว่างออสเตรเลียและไทยที่มีมายาวนาน

 

เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ดร. แอนเจลา แมคโดนัลด์ กล่าวว่า “การประกวดนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือด้านความคิดสร้างสรรค์และความเชื่อมโยงระหว่างผู้คนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศของเรา”

 

“เนื่องในโอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างออสเตรเลียและไทยในปี 2026 เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผลงานการออกแบบที่สะท้อนถึงความอบอุ่น ความหลากหลายและความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่องระหว่างสองประเทศของเรา”

 

ผลงานของผู้ชนะเลิศจะได้พิมพ์เป็นลายบัตรแรบบิทสถานทูตออสเตรเลียซึ่งจะเป็นลายที่สาม และเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเชื่อมโยงในชีวิตประจำวันและการเดินทางร่วมกันระหว่างเราทั้งสองประเทศ

 

เปิดรับผลงานออกแบบของผู้ถือสัญชาติไทยและ/หรือออสเตรเลียที่พำนักอยู่ในไทยแล้ววันนี้ และจะปิดรับผลงานในวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 17.00 น. (ตามเวลากรุงเทพ) ผู้ชนะจะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับออสเตรเลีย พร้อมที่พัก 2 คืน ประกาศผลวันที่ 4 ธันวาคม 2025 ทางเฟซบุ๊กและเว็บไซต์สถานทูตฯ

 

บัตรแรบบิทใช้เพื่อชำระเงินในระบบอิเล็กทรอนิกส์ในกรุงเทพฯ และใช้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสและร้านค้าที่ร่วมรายการอย่างแพร่หลาย โดยการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสช่วยส่งเสริมความยั่งยืนโดยสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเขตเมือง

 

สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนหลัก การบินไทย และ โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพ สำหรับการสนับสนุนของรางวัลการประกวดในครั้งนี้

 

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประกวดฉบับเต็ม รวมถึงคุณสมบัติผู้สมัคร ข้อกำหนดในการส่งผลงาน เกณฑ์การตัดสินและข้อมูลรางวัล ได้ที่
https://thailand.embassy.gov.au/bkok/TC_2025_Rabbit_card_design.html

 

สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบ **บัตรแรบบิท** **โอกาส**ครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย 1

 

[PR NEWS]

The post สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบบัตรแรบบิท โอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจไทยจัดประชุมใหญ่ดึง 17 ประเทศทั่วโลก ผนึกกำลังปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติ ยกระดับการข่าวและปฏิบัติการร่วม https://thestandard.co/the-1st-nsb-international-agencies-coordination-meeting/ Fri, 17 Oct 2025 03:13:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1131695 ตำรวจไทยจัดประชุมใหญ่ดึง 17 ประเทศทั่วโลก ผนึกกำลังปราบปราม ยาเสพติดข้ามชาติ ยกระดับ การข่าวและปฏิบัติการร่วม

วานนี้ (16 ตุลาคม) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด […]

The post ตำรวจไทยจัดประชุมใหญ่ดึง 17 ประเทศทั่วโลก ผนึกกำลังปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติ ยกระดับการข่าวและปฏิบัติการร่วม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตำรวจไทยจัดประชุมใหญ่ดึง 17 ประเทศทั่วโลก ผนึกกำลังปราบปราม ยาเสพติดข้ามชาติ ยกระดับ การข่าวและปฏิบัติการร่วม

วานนี้ (16 ตุลาคม) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เป็นประธานจัดการประชุม ‘The 1st NSB – International Agencies Coordination Meeting’ เพื่อหารือและเสริมสร้างความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านยาเสพติดและหน่วยงานจากต่างประเทศ

 

การประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่รวบรวมภาคีเครือข่ายด้านยาเสพติดในไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยมีผู้แทนและหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดเข้าร่วมจาก 17 ประเทศ และ 30 เครือข่าย อาทิ สหรัฐอเมริกา (DEA), ออสเตรเลีย (AFP), ญี่ปุ่น, เยอรมัน (BKA), แคนาดา (RCMP), สิงคโปร์ และมาเลเซีย

 

พล.ต.ท.อาชยน เปิดเผยว่า การประชุมนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการ ยกระดับความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูล และเสริมสร้างความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่างตำรวจปราบปรามยาเสพติดไทยกับเจ้าหน้าที่ประสานงานของประเทศต่าง ๆ ทั้งในเอเชียและยุโรป

 

ผบช.ปส. กล่าวเพิ่มเติมว่า การผสานความร่วมมือครั้งใหญ่นี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนกันทางการข่าว การสืบสวน และการปฏิบัติการร่วมระหว่างประเทศ รวมถึงการแลกเปลี่ยนด้านข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติอย่างยั่งยืนต่อไป

The post ตำรวจไทยจัดประชุมใหญ่ดึง 17 ประเทศทั่วโลก ผนึกกำลังปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติ ยกระดับการข่าวและปฏิบัติการร่วม appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘ราช กรุ๊ป’ ประกาศแผนรุกหนักธุรกิจในออสเตรเลีย ดินแดนที่มีตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี พร้อมตั้งเป้า EBITDA ใน 5 ปีแตะ 3 หมื่นล้านบาท https://thestandard.co/ratch-energy-expansion-australia/ Thu, 09 Oct 2025 02:36:52 +0000 https://thestandard.co/?p=1128324 ราช กรุ๊ป ออสเตรเลีย

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ปรับแผนกลยุทธ์ใหม่ โด […]

The post ‘ราช กรุ๊ป’ ประกาศแผนรุกหนักธุรกิจในออสเตรเลีย ดินแดนที่มีตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี พร้อมตั้งเป้า EBITDA ใน 5 ปีแตะ 3 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
ราช กรุ๊ป ออสเตรเลีย

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ปรับแผนกลยุทธ์ใหม่ โดยกำหนดทิศทางธุรกิจที่มุ่งเน้นธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานเป็นหลัก โฟกัสหาโอกาสการเติบโตในต่างประเทศมากขึ้น หนึ่งนั้น คือ ในออสเตรเลียที่มีฐานธุรกิจอยู่แล้ว ซึ่งเป็นประเทศที่มีตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี

 

นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยถึงการปรับกลยุทธ์ธุรกิจครั้งสำคัญ โดยนำเสนอแผนต่อคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) ไปแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว รวมถึงนโยบายด้านพลังงานที่เน้นพลังงานสะอาดมากขึ้น

 

กลยุทธ์ใหม่ มุ่งเน้นการขยายสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy: RE) อย่างจริงจัง และการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงาน โดย RATCH ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของ EBITDA โดยเฉลี่ยปีละ 5% อย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2568-2572 แม้จะอยู่ในสภาวะที่ตลาดพลังงานมีการแข่งขันสูง

 

ภาพ : นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 

 

เปิดกลยุทธ์ธุรกิจ 5 เสาหลัก เติบโตภายใต้บริบทพลังงานใหม่

 

RATCH ได้กำหนดกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ 5 ด้าน ซึ่งถูกปรับเพิ่มจากปีก่อนๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด ดังนี้

 

  1. บริหารและปรับปรุงสินทรัพย์ เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการทำกำไรของสินทรัพย์เดิม รวมถึงการพิจารณาหาโอกาสใหม่สำหรับโรงไฟฟ้าที่หมดอายุ (Repowering) 

 

  1. ลงทุนในโครงการตามแผน PDP ดำเนินการตามความสามารถหลัก (Core Competency) ของ RATCH ในการประมูลและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดโอกาสตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) รวมถึงการควบรวมกิจการและการซื้อหุ้น (M&A) ในโครงการที่น่าสนใจ

 

  1. ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องทางด้านพลังงาน ขยายการลงทุนนอกเหนือจากแผน PDP เนื่องจากแผน PDP ของประเทศไทยมักมีการเปลี่ยนแปลง มีความล่าช้าในการออก และนโยบายเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี RATCH จึงหันไปมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสีเขียว (Green) เช่น พลังงานชีวภาพ (Bio Energy), เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF), Wood Pellet และเทคโนโลยีพลังงานขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (SMR)

 

  1. สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินทรัพย์โรงไฟฟ้าที่ปลดระวาง การนำพื้นที่โรงไฟฟ้าที่หมดอายุมาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ การพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าราชบุรี มีพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ ให้เป็นเขตอุตสาหกรรมแนวใหม่ (Industrial Zone) ซึ่งอาจรวมถึง Data Center หรืออุตสาหกรรม 6.0

 

  1. ลงทุนผ่าน Corporate Venture Capital (CVC) กลยุทธ์ใหม่ที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติ เพื่อลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมด้านพลังงานโดยเฉพาะการลงทุนจะเน้นไปที่บริษัทที่อยู่ในระดับ Series B ขึ้นไป เนื่องจากมองว่าเป็นนวัตกรรมที่เริ่มมีความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจแล้ว RATCH ได้จัดสรรงบประมาณนำร่องสำหรับการลงทุน CVC ไว้ที่ 500 ล้านบาท โดยมีการเตรียมการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อคัดเลือกการลงทุน และคาดว่าจะเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวชัดเจนในปี 2569 ภาพรวมพอร์ตโฟลิโอ สัดส่วน RE จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

ปัจจุบัน RATCH มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยมีประเทศที่โฟกัสอันดับ 1 คือ ประเทศไทย, อันดับที่ 2 คือ ออสเตรเลีย อันดับที่ 3 คือ สปป. ลาว อันดับที่ 4 คือ อินโดนีเซีย อันดับที่ 5 คือ ฟิลิปปินส์ อันดับที่ 6 คือ เวียดนาม, และ อันดับที่ 7 คือ ญี่ปุ่น มีพอร์ตกำลังผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 10,000 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนเชื้อเพลิงหลัก (ฟอสซิล) มีสัดส่วนอยู่ที่ 72% และพลังงานหมุนเวียน (RE) มีสัดส่วนอยู่ที่ 27-28%

 

ภาพ : แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ระหว่างปี 2568-2572 ของบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  

 

แม้ว่ากำลังผลิตฟอสซิลจะสูงกว่า แต่สัดส่วน RE จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการปลดระวางของโรงไฟฟ้าฟอสซิล เช่น โรงไฟฟ้าราชบุรี และการลงทุนโครงการใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นพลังงานหมุนเวียน

 

สำหรับรายได้จากการขายไฟในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้สัดส่วน 84% ยังคงมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เนื่องจากโรงไฟฟ้าฟอสซิลสามารถเดินเครื่องได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่ RE ผลิตได้เป็นช่วงเวลา ฐานการลงทุนหลักยังคงอยู่ในประเทศไทย สัดส่วน 68% ของรายได้ ตามมาด้วยต่างประเทศอีกสัดส่วน 32% โดยบริษัทฯ มีแนวทางให้ความสำคัญขยายธุรกิจในออสเตรเลียกับอินโดนีเซียต่อเนื่องที่มีฐานธุรกิจอยู่แล้ว

 

RAC หัวใจสำคัญของการเติบโตในออสเตรเลีย

 

สำหรับบริษัท ราช ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น (RAC) ซึ่ง RATCH ถือหุ้น 100% ถูกวางเป็นฐานหลักในการขยายธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย ที่ตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรี อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงาน RE โดย RAC เป็นแกนหลักในการขยายธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ

 

โดยครึ่งแรกของปีนี้มีสัดส่วนรายได้ 19% ของรายได้รวมบริษัทฯ รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท และคาดว่ารายได้จะเพิ่มมากขึ้นหากโครงการที่อยู่ในมือสามารถพัฒนาและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จตามเป้าหมาย

 

ภาพ: โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Collector Wind Farm  ตั้งอยู่ในรัฐ นิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย

 

ปัจจุบัน RAC มีกำลังการผลิตที่ลงทุนไปแล้วประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ และมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Emission ของออสเตรเลีย โดยมีความพร้อมของธุรกิจและมีโครงการที่ดำเนินการดังนี้

 

  1. บริการเสริมความมั่นคงระบบ (Ancillary Services) RATCH ได้นำสินทรัพย์เดิมมาเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีของออสเตรเลีย (National Electricity Market – NEM) ซึ่งมีความต้องการบริการเสริมเพื่อรับมือกับความผันผวนของ RE ที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง RATCH ถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่เข้ามาทำธุรกิจและขายไฟฟ้าในประเทศออสเตรเลีย

 

โดยระบบไฟฟ้าโดยใช้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ล่าสุด RAC ได้พัฒนาโครงการ Synchronous Condenser ในโรงไฟฟ้าทาวน์สวิลล์ ขนาด 234 เมกะวัตต์

 

  • ให้บริการระบบ Synchronous Condenser ที่โรงไฟฟ้า Townsville ในรัฐควีนส์แลนด์ มีกำลังผลิตไฟฟ้า 234 เมกะวัตต์ เป็นแห่งแรกในออสเตรเลียที่ RATCH เข้าไปดำเนินการ บริการนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพความถี่ของระบบไฟฟ้า โครงการนี้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยสามารถสร้างรายได้ประมาณ 570,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อเดือน
  • ให้บริการระบบ Black Start เป็นการติดตั้งระบบที่ช่วยให้โรงไฟฟ้าสามารถจ่ายไฟในภาวะที่ระบบไฟฟ้าดับสนิท (Blackout) ซึ่ง RE ไม่สามารถทำได้ RATCH ได้รับเงินค่าบริการความพร้อม (Readiness Fee) เป็นรายเดือน โดยคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 4 ปี

 

ภาพ: โครงการโรงไฟฟ้า Townsville กำลังผลิตไฟฟ้า 234 เมกะวัตต์ ในรัฐควีนส์แลนด์  ประเทศออสเตรเลีย 

 

  1. การแก้ปัญหาราคาไฟฟ้าติดลบ (Negative Price) เนื่องจากออสเตรเลียมีการผลิตพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานลมและแสงอาทิตย์) ในช่วงกลางวันสูงมาก ทำให้เกิดปัญหาราคาไฟฟ้าติดลบ. RATCH จึงมุ่งเน้นการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (Storage) ร่วมกับ RE เพื่อกักเก็บไฟฟ้าที่ราคาถูกหรือติดลบ และนำไปขายเมื่อราคาเป็นบวก

 

โดยมีโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการโซลาร์ Marulan กำลังผลิต 150 เมกะวัตต์ บวกแบตเตอรี่ และ โครงการโซลาร์ Beryl ขนาด 100 เมกะวัตต์ พร้อมระบบกักเก็บพลังงาน ความจุ 200 MWh ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา จะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 2572

 

นอกจากนี้ ยังมีโครงการแบตเตอรี่แบบเพียวๆ คือ โครงการระบบกักเก็บพลังงาน EL Arish ขนาด 250 เมกะวัตต์ และโครงการลมขนาดใหญ่ Springland กำลังผลิต 500-800 เมกะวัตต์ ในรัฐควีนส์แลนด์ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2573

 

  1. สถานะทางการเงินของ RAC ปัจจุบัน RAC มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองทางการเงิน โดยมีรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปี RAC ใช้เงินสดที่สะสมไว้ พร้อมสำหรับการลงทุนโครงการใหม่อีกประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 4 โครงการ มีศักยภาพที่จะทำให้รายได้ของ RAC เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าได้ในอนาคต

 

นอกจากนี้ การกู้ยืมเงินสำหรับโครงการในออสเตรเลียก็มีต้นทุนต่ำมาก ราว 1% กว่าๆ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Base Rate เนื่องจาก RAC ได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงิน

 

ภาพ: รายละเอียดโครงการลงทุนของ RAC ในประเทศออสเตรเลียที่มีการลงทุนไปแล้ว

 

โอกาสธุรกิจแห่งอนาคตและตลาดที่น่าสนใจ

 

RATCH กำลังศึกษาโอกาสในธุรกิจเชื้อเพลิงแห่งอนาคต มีดังนี้

 

  • พลังงานเชื้อเพลิงสีเขียว ศึกษาความเป็นไปได้ใน Green Hydrogen และ Green Ammonia ซึ่งยังต้องรอให้เทคโนโลยีและราคามีจุดคุ้มทุนโดยไม่พึ่งพาเงินอุดหนุน (Subsidy) เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
  • Biofuel และ SAF มองหาพันธมิตรเพื่อขยายสู่ธุรกิจ Bio Diesel และ SAF (Sustainable Aviation Fuel) ในต่างประเทศ เนื่องจาก RATCH มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องกล, ไฟฟ้า แต่ธุรกิจเหล่านี้ต้องการความเชี่ยวชาญด้านปิโตรเคมีและวิศวกรรมเคมี
  • ธุรกิจ Retail RATCH สนใจการเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกพลังงานในออสเตรเลียเพื่อบริหารความเสี่ยงจากราคาไฟฟ้าผันผวน อย่างไรก็ตาม ตลาดรีเทลมีความท้าทายสูง เนื่องจากผู้เล่นเดิมมีความเข้มแข็งและมีฐานลูกค้าที่มั่นคง

 

“ออสเตรเลียเป็นตลาดไฟฟ้าพลังงานสะอาดและเกี่ยวเนื่องเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมาย Net Zero Emissions ของประเทศ ซึ่งเพิ่มโอกาสการลงทุนพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน ระบบกักเก็บพลังงาน และการให้บริการเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าโดยใช้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ล่าสุด RAC ได้พัฒนาโครงการ Synchronous Condenser ในโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซทาวน์สวิลล์ ขนาด 234 เมกะวัตต์ เพื่อรักษาเสถียรภาพระบบส่งไฟฟ้าของรัฐควีนส์แลนด์ โครงการนี้ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับสินทรัพย์โรงไฟฟ้าที่กำลังจะปลดระวางตามแผนงาน และคาดว่าความต้องการโครงการลักษณะนี้จะมากขึ้นตามการใช้พลังงานทดแทนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต” นิทัศน์ กล่าว

 

RAC คือกลจักรสำคัญปั้นพอร์ตพลังงานทดแทนโต

 

ทั้งนี้ แผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ RAC จะสนับสนุนเป้าหมายด้านพลังงานทดแทนของบริษัทฯ ที่กำหนดเป้าหมายไว้ที่ 30% ของกำลังการผลิตรวมในปี 2573 และเพิ่มเป็นสัดส่วน 40% ในปี 2578 ปัจจุบัน RAC อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อพัฒนาและก่อสร้างโครงการพลังงานทดแทนและระบบกักเก็บไฟฟ้า รวม 9 โครงการ ในจำนวนนี้มี 4 โครงการที่มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์มารูลัน กำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) ขนาด 81 เมกะวัตต์ และกักเก็บพลังงานได้ 162 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและกำหนดจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2570

 

สำหรับโครงการระบบกักเก็บพลังงานเบรีล ขนาด 100 เมกะวัตต์ และกักเก็บพลังงานได้ 200 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และโครงการระบบกักเก็บพลังงานอีแอล เอริช ขนาด 250 เมกะวัตต์ และกักเก็บพลังงานได้ 500 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งแผนงานทั้งสองโครงการได้รับความเห็นชอบแล้ว และคาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2572 และโครงการพลังงานลมสปริงแลนด์ อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ ซึ่งการประเมินเบื้องต้นความเร็วลมเหมาะสมเป็นแหล่งพลังงานได้ และมีระบบสายส่งในพื้นที่รองรับได้ สำหรับกำลังการผลิตของโครงการประมาณการ 500-800 เมกะวัตต์ คาดว่าเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2573

 

ปัจจุบัน RAC บริหารจัดการสินทรัพย์โรงไฟฟ้าในออสเตรเลีย กำลังการผลิตรวม 2,095 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 3 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 9 แห่ง ซึ่งรวมถึงโครงการระบบกักเก็บพลังงานด้วย

 

ภาพ: โครงการของ RAC ที่กำลังก่อสร้างและมีศักยภาพที่จะพัฒนาโครงการ

 

เปิดปัจจัยความท้าทายและเป้าหมายการเติบโต

 

RATCH ยอมรับว่าการตั้งเป้าหมายเติบโต EBITDA เฉลี่ย 5% ต่อปี ถือเป็นความท้าทายในยุคปัจจุบัน เนื่องจากผลตอบแทนในตลาดพลังงานไม่สูงเหมือนยุค PPA แรกๆ. การแข่งขันในตลาดออสเตรเลียถือว่ารุนแรงที่สุดในบรรดาประเทศที่ RATCH ลงทุนอยู่

 

นิทัศน์ ย้ำว่า RATCH ต้องการเป็นบริษัทพลังงานที่เป็นหุ้นที่เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Stock) แม้ว่าการขยายการลงทุนอย่างรวดเร็วในต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย จะทำให้สัดส่วนการลงทุนในประเทศไทยลดลงในเชิงสัดส่วน แต่บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการในประเทศที่มีโอกาส เช่น โครงการโซลาร์เซลล์ตามแผน PDP และเตรียมความพร้อมสำหรับนโยบาย Direct PPA หรือการซื้อขายไฟตรงกับลูกค้า 

 

เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมทั้งด้านที่ดินและการพัฒนาโซลาร์เซลล์ RATCH ถูกมองว่าเป็น Regional Player โดยสถาบันการเงินและนักลงทุนต่างประเทศมานานแล้ว และมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่การเป็น Global Player

 

ทุ่มงบ 15,000 ล้านบาทต่อปี ลงทุนขยายธุรกิจ

 

ด้านวดีรัตน์ เจริญคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงิน บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะแตะระดับ 30,000 ล้านบาท หรือเติบโตปีละประมาณ 5% ภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า ระหว่างปี 2568-2572 หลังจากปัจจุบันบริษัทสามารถทำได้ถึงระดับ 15,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งถือว่าทำได้เร็วกว่าเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ภายในปี 2570 เนื่องจากต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่าและการสร้างความน่าเชื่อถือ รวมทั้งธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ในออสเตรเลีย สามารถสร้าง EBITDA ได้ดีกว่าแผนที่วางไว้

 

ราช กรุ๊ป ออสเตรเลีย

ภาพ : วดีรัตน์ เจริญคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงิน บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 

 

ด้านงบลงทุนของบริษัทฯ เตรียมไว้ประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อใช้ขยายธุรกิจในประเทศที่เป็นฐานการลงทุนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ไทย, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, สปป. ลาว, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยในปี 69 มีแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศไทย, สปป. ลาว และอินโดนีเซีย ส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศออสเตรเลียคาดว่าจะใช้แหล่งเงินทุนของบริษัท ราช ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RAC) ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 100% เพราะปัจจุบันมีกระแสเงินสดสะสมรวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

 

ขณะที่แผนการขยายกิจการผ่านการทำดีล M&A คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากปัจจุบันบริษัทกำลังพิจารณาโรงไฟฟ้าอยู่ประมาณ 5 โครงการ ซึ่งแบ่งเป็นโครงการในประเทศไทยจำนวน 2 โครงการ และในต่างประเทศจำนวน 3 โครงการ ไม่นับรวมโครงการที่ดำเนินการก่อสร้างใหม่ โดยในส่วนเงินลงทุนปีนี้บริษัทเตรียมไว้ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท แต่ในช่วงที่ผ่านมาใช้ไปแล้วเพียง 4,000 ล้านบาท จึงทำให้ยังมีเงินทุนเพียงพอในการทำดีล M&A

 

ภาพ: Creative Cairo / Shutterstock

The post ‘ราช กรุ๊ป’ ประกาศแผนรุกหนักธุรกิจในออสเตรเลีย ดินแดนที่มีตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี พร้อมตั้งเป้า EBITDA ใน 5 ปีแตะ 3 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
4 ชาติตะวันตกประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ สะท้อนความไม่พอใจสงครามกาซา อิสราเอลประณามให้รางวัลกลุ่มก่อการร้าย https://thestandard.co/4-western-nations-recognise-palestinian-state/ Mon, 22 Sep 2025 04:12:40 +0000 https://thestandard.co/?p=1121312

สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส พากันประกาศ […]

The post 4 ชาติตะวันตกประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ สะท้อนความไม่พอใจสงครามกาซา อิสราเอลประณามให้รางวัลกลุ่มก่อการร้าย appeared first on THE STANDARD.

]]>

สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส พากันประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์วานนี้ (21 กันยายน) โดยถือเป็นการสะท้อนความไม่พอใจต่อการทำสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา และมุ่งหวังที่จะส่งเสริมแนวทางแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐ (Two State Solution)

 

การตัดสินใจของ 4 ชาติตะวันตก ซึ่งที่ผ่านมาเป็นพันธมิตรกับอิสราเอล สอดคล้องกับท่าทีของอีกกว่า 140 ประเทศที่สนับสนุนการรับรองความเป็นรัฐของปาเลสไตน์

 

โดยการตัดสินใจของสหราชอาณาจักรมีความหมายอย่างยิ่งในเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากสหราชอาณาจักรมีบทบาทสำคัญในการสร้างอิสราเอลให้เป็นประเทศสมัยใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

 

“วันนี้ เพื่อฟื้นความหวังสันติภาพสำหรับชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล และแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ สหราชอาณาจักรจึงประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ” เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าว และย้ำว่า

 

“วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ในฉนวนกาซากำลังลุกลามบานปลาย การทิ้งระเบิดโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ของรัฐบาลอิสราเอล ตลอดจนการบุกโจมตีภาคพื้นดินในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความอดอยาก และความเสียหาย ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง”

 

ทั้งนี้ คาดว่าประเทศอื่นๆ รวมถึงฝรั่งเศส จะประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ในช่วงสัปดาห์นี้

 

อิสราเอลประณาม ให้รางวัลกลุ่มก่อการร้าย

 

ด้านเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ประณามการรับรองรัฐปาเลสไตน์ของชาติตะวันตก โดยชี้ว่าเป็นการให้รางวัลแก่กลุ่มก่อการร้าย

 

“ผมมีข้อความที่ชัดเจนถึงผู้นำที่รับรองรัฐปาเลสไตน์หลังจากเหตุการณ์สังหารหมู่อันน่าสยดสยองเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ว่า คุณกำลังให้รางวัลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้ก่อการร้าย” เขากล่าว

 

“และผมมีข้อความอีกข้อหนึ่งถึงคุณ คือมันจะไม่เกิดขึ้น รัฐปาเลสไตน์จะไม่ได้ก่อตั้งขึ้นทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน”

 

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอิสราเอล ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในทันทีเกี่ยวกับการตัดสินใจของ 4 ชาติตะวันตกในการรับรองรัฐปาเลสไตน์ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้ว่า เขาคัดค้านการเคลื่อนไหวดังกล่าว

 

ปาเลสไตน์-ฮามาสยินดี

 

ด้านมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ กล่าวว่า การรับรองรัฐปาเลสไตน์ของชาติตะวันตกจะช่วย “ปูทางให้รัฐปาเลสไตน์ อยู่เคียงข้างรัฐอิสราเอลในด้านความปลอดภัย สันติภาพ และความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี”

 

ขณะที่กลุ่มฮามาสยินดีกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ แต่มองว่าต้องมาพร้อมกับมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อยุติสงครามในกาซาและป้องกันไม่ให้อิสราเอลผนวกรวมดินแดนเวสต์แบงก์

 

อ้างอิง:

The post 4 ชาติตะวันตกประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ สะท้อนความไม่พอใจสงครามกาซา อิสราเอลประณามให้รางวัลกลุ่มก่อการร้าย appeared first on THE STANDARD.

]]>