ปีนี้วงการบาร์ค็อกเทลในกรุงเทพฯ กลับมาร้อนแรงน่าดู เพราะผลรางวัล Asia’s 50 Best Bars 2024 ซึ่งประกาศอันดับที่ 51-100 ออกมาแล้ว มีบาร์จากกรุงเทพฯ ติดอันดับมากถึง 6 แห่ง โดยหนึ่งในนั้นมีบาร์น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่ขึ้นมาอยู่บนลิสต์ระดับเอเชียได้แล้วด้วย

สำหรับเวที Asia’s 50 Best Bars 2024 ซึ่งเป็นการจัดอันดับบาร์ยอดเยี่ยมระดับเอเชีย ปีนี้จะประกาศรางวัลที่ฮ่องกงในวันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 21.25 น. (ตามเวลาประเทศไทย) และก่อนที่เราจะเดินทางไปถึงวันนั้นที่น่าลุ้นว่าจะมีบาร์ไหนจากประเทศไทยมีชื่อเข้ารอบ Top 50 วันนี้พวกเราเลยถือโอกาสแสดงความยินดีกับ 6 บาร์จากกรุงเทพฯ ที่ได้รางวัลกันก่อน

และบาร์จากประเทศไทยที่มีชื่อติดอันดับ 51-100 ได้แก่

อันดับที่ 62: Tropic City

อันดับที่ 73: Opm.bkk

อันดับที่ 83: Firefly 

อันดับที่ 90: Asia Today 

อันดับที่ 91: The Bamboo Bar

อันดับที่ 98: Dry Wave Cocktail Studio 

THE STANDARD LIFE ขอแสดงความยินดีกับทุกบาร์ที่ได้รางวัลในปีนี้ ว่าแต่มีบาร์ไหนที่ทุกคนชื่นชอบเป็นพิเศษบ้าง? มาบอกกันหน่อย

The post 6 บาร์ไทยมีชื่อระดับเอเชีย บนลิสต์ Asia’s 50 Best Bars 2024 อันดับ 51-100 appeared first on THE STANDARD.

ตั้งแต่การเดินทางระหว่างประเทศสามารถทำได้แทบจะกลับมาเป็นปกติ ร้านอาหารอินเดียสไตล์โมเดิร์นอย่าง HERE ของเชฟ Garima Arora ก็เปิดครัวต้อนรับเชฟรับเชิญบินตรงมาจากอินเดียให้เราตามไปชิมกันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งบอกเลยว่าสำหรับเดือนกรกฎาคมที่กำลังจะถึงนั้นดูเหมือนว่าจะจัดเต็มกว่าครั้งก่อนๆ เพราะมีทั้งอาหาร ค็อกเทล และดีเจมาคอยเติมสีสันให้ปาร์ตี้กันได้ตลอดทั้งคืน 

อีเวนต์ที่เรากำลังพูดถึงคือ ‘Goan Portuguese Feast’ ที่ทางร้านต้อนรับเชฟ Hussain Shahzad และทีมงานจากร้านอาหารและบาร์ ‘O Pedro’ ตรงจากมุมไบ โดยร้านอาหารของเชฟ Hussain นั้นโดดเด่นด้วยตำรับอาหารที่ได้แรงบันดาลใจจากรัฐกัว บริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย ผสานกับโปรตุเกส กับเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Ceviches, สลัดปูนิ่ม (Kismur), Pica Pau หรือสเต๊กเนื้อในเกรวี่ ของว่างสไตล์โปรตุเกส ฯลฯ

ส่วนทางด้านเครื่องดื่มนั้น ร้านได้ทำงานร่วมกับ Asia Today ค็อกเทลบาร์จากซอยนานา กับรางวัลบาร์ที่ดีที่สุดอันดับที่ 43 ในเอเชียจาก Asia’s 50 Best Bars 2022 โดยทางทีมงานจะสร้างสรรค์เมนูค็อกเทลจาก Stranger & Sons แบรนด์จินจากรัฐกัว แถมด้วยเสียงเพลงจากสองดีเจที่เราเชื่อว่าสายปาร์ตี้ต้องคุ้นชื่อของพวกเขาเป็นอย่างดี อย่าง DJ Chamapoo และ DJ Eklection   

Goan Portuguese Feast จะจัดขึ้นวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป กับแพ็กเกจอาหารราคา 2,400 บาทต่อท่าน ส่วนค็อกเทลจะสั่งแบบเป็นแก้ว หรือจัดเต็มแบบ Free Flow ก็ได้ในราคา 1,200 บาทต่อท่าน  

เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม และจองที่นั่งได้ที่ www.facebook.com/herebkk

The post กินอาหารจากรัฐกัว แพริ่งเครื่องดื่มจาก Asia Today บาร์ ณ ร้าน HERE 2 กรกฎาคมนี้เท่านั้น appeared first on THE STANDARD.

ถือเป็นอีกหนึ่งงานคอลลาบอเรชันแห่งปีที่ไม่ธรรมดา เมื่อ Asia Today ค็อกเทลบาร์ในซอยนานา ย่านเจริญกรุง ที่เพิ่งคว้ารางวัลบาร์ที่ดีที่สุดอันดับที่ 43 ในเอเชียจากเวที Asia’s 50 Best Bars 2022 ไปครองมาหมาดๆ ได้จับมือร่วมกับสนามมวยราชดำเนิน เปิดป๊อปอัพบาร์ พร้อมส่งค็อกเทลจากวัตถุดิบไทย ให้จิบได้ข้างสนามทุกวันที่มีมวยได้แก่ พุธ พฤหัสบดี อาทิตย์ ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ 

ใครเป็นคอกีฬาอาจได้ยินข่าวคราวมาแล้วบ้างว่าสนามมวยราชดำเนิน หนึ่งในสนามมวยที่เก่าแก่ที่สุดของบ้านเราที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1945 นั้น ตอนนี้ได้บริษัท GSV (Global Sport Ventures) บริษัทลูกของ Plan B เข้ามาดูแลอย่างเป็นทางการ ซึ่งด้วยความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ที่อยากให้เวทีราชดำเนินกลายเป็นเวทีมวยมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทย ในปีนี้เราน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากพวกเขาแน่ๆ 

ซึ่งก่อนจะไปถึงตรงนั้น สนามมวยราชดำเนินก็ได้ประเดิมงานคอลลาบอเรชันแรกที่จับมือกับค็อกเทลบาร์จากกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Asia Today โดยสำหรับป๊อปอัพแรกนี้ Asia Today ได้เลือกเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ใช้ Issan Rum แบรนด์รัมไทยจากจังหวัดหนองคาย เป็นวัตถุดิบหลักในซิกเนเจอร์ดริงก์ทั้งสองอย่าง Issan Coco (200 บาท) ส่วนผสมระหว่างอีสานรัมและน้ำมะพร้าวสด หรือ Issan Sour (220 บาท) ขยับความเปรี้ยวขึ้นมาอีกนิดด้วยอีสานรัม คอร์เดียลมะนาว ไวน์แดง และจิงเจอร์เอล หรือน้ำมะพร้าวสด ก็มีให้บริการเช่นกันนะ 

Asia Today ป๊อปอัพตั้งอยู่ข้างในสนามราชดำเนิน ให้บริการสำหรับผู้ที่เข้ามาดูมวย ซึ่งจะมีแข่งทุกๆ วันพุธ พฤหัสบดี และอาทิตย์ เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 17:00 น. เป็นต้นไป บัตรเข้าชมราคา 1,000, 1,500, 1,800 และ 2,000 บาท สามารถซื้อที่หน้างานหรือเว็บไซต์ https://rajadamnern.com/ 

สนามมวยราชดำเนินกำลังจะมีอะไรใหม่ๆ ให้เราติดตามในปีนี้ THE STANDARD POP จะคอยรายงานให้คุณทราบอีกครั้ง ส่วนตอนนี้ลองแวะไปเยี่ยม Asia Today บาร์กันก่อนได้เลย 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/rajadamnern และ https://web.facebook.com/asiatodaybar 

ภาพ: Courtesy of สนามมวยราชดำเนิน 

The post ค็อกเทลข้างสนาม Asia Today เปิดป๊อปอัพพิเศษในสนามมวยราชดำเนินถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ appeared first on THE STANDARD.

เข้าสู่กลางเดือนมิถุนายน ในเมื่อบาร์ยังเปิดให้บริการตามปกติไม่ได้ ผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวกันต่อไปเพื่อให้ธุรกิจของตัวเองรอด เช่นเดียวกันกับ Teens of Thailand และ Asia Today สองบาร์ในซอยนานาย่านเจริญกรุง ที่หยิบเอาความเชี่ยวชาญของตัวเองมาเปิดคลาสทำเวิร์กช็อปทั้ง 4 กิจกรรม เฉพาะสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น 

โดยทางทีมงานกล่าวว่า “สัญญาว่ายังไงก็จะไม่เลิกทำ และจะไถต่อไปจนกว่าอุตสาหกรรมสุราจะมีอนาคตที่สดใสกว่านี้ วันนี้ขอเอาความรู้ที่สั่งสมมาใช้เพื่ออนาคตและประทังชีวิตของทีมงานทุกคน”  

Asia Today คือค็อกเทลบาร์ที่จริงๆ แล้วจะเรียกว่า Specialize ในเรื่องของน้ำผึ้งก็ถือว่าได้เลย เพราะทางร้านมีการเดินทางหาน้ำผึ้งป่าของไทยจากหลายจังหวัด พืชหลายสายพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดให้คาแรกเตอร์ความหวานที่แตกต่าง ซึ่งพวกเขานำมาใช้อย่างแตกต่างกันด้วย เช่นเดียวกับ Teens of Thailand ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิน เรื่องราวของจินแต่ละยี่ห้อ ผลิตจากประเทศที่ต่างกันก็มีรายละเอียดและรสชาติที่ต่างกัน ทั้งสองความเชี่ยวชาญเกิดจากประสบการณ์ที่ยาวนาน ที่หากคุณสงสัยว่าน้ำผึ้งหรือจินแต่ละชนิดแตกต่างกันได้ขนาดไหนกันเชียว ลงทะเบียนจองเวิร์กช็อปที่สนใจได้จากทั้ง 4 เวิร์กช็อป ได้แก่

1. Gin of Japan: 18 มิถุนายน 2564 เวลา 18:00-20:00 น. ราคา 2,800 บาท (รับจำกัด 8 คน)
2. Wild Honey Workshop: 19 มิถุนายน 2564 เวลา 12:00-14:00 น. ราคา 2,800 บาท (รับจำกัด 8 คน)
3. Gin Master Class: 19 มิถุนายน 2564 เวลา 16:00-18:00 น. ราคา 2,800 บาท (รับจำกัด 6 คน)
4. Gin Sessions with 6 Exquisite Gins: 19 มิถุนายน 2564 เวลา 19:00-21:00 น. ราคา 2,800 บาท  

เวิร์กช็อปจากทีมงาน Teens of Thailand จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 18 และเสาร์ 19 มิถุนายน 2564 สามารถจองที่นั่งของคุณได้ที่ Line: @yologroup และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

The post ‘เมื่อบาร์ยังเปิดไม่ได้แต่เราต้องรอด’ Teens of Thailand และ Asia Today จัด 4 เวิร์กช็อปพิเศษสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น appeared first on THE STANDARD.

โปรดวางมาร์ตินี จินโทนิก หรือไฮบอลในมือคุณลงก่อน เราชวนมาท้าประลองรสชาติใหม่ๆ ที่เหล่าบาร์เทนเดอร์ต่างเขยิบเข้าใกล้ความเป็นเชฟ เล่นสนุก หยิบยืมงานครัวมาจับเสิร์ฟใส่แก้วค็อกเทล ทั้งเครื่องปรุง ยันซอสปรุงรส ยันของดอง แม้นี่จะไม่ใช่เทรนด์ใหม่ล่ามาแรง แต่คุณลอง ‘รับประทาน’ ครบทั้ง 6 แก้วนี้หรือยัง?

Margherita or Margarita? 

ที่ยกคำมาเล่นให้ชวนฉงนว่าสรุปเป็นเครื่องดื่มหรือพิซซ่ากันแน่? โดยเป็นค็อกเทลที่ใส่ความเป็นพิซซ่าลงไปด้วย ใช้เตกีลาที่ผ่านการ ‘Fat Wash’ นำชีสพาร์เมซานรสเค็มมัน และเหล้าคอร์เดียลมะเขือเทศใส่ลงไป โรยใบโหระพาสดราวกับในพิซซ่า จนออกมาเป็นค็อกเทลพิซซ่าระดับมือโปรไม่น่าเบือนหน้าแบบที่คุณคิดสักนิด!

ราคา: 430 บาท

พิกัด: #FindTheLockerRoom ระหว่างซอยทองหล่อ 12 และ 14 กรุงเทพฯ

Bulgogi Old-Fashioned 

ชูโรงคลาสสิกค็อกเทลให้มีลูกเล่นแพรวพราว ด้วยการนำซอสเนื้อบุลโกกิมาผ่านเทคนิคการขจัดไขมันออกจากอาหาร แต่คงไว้ด้วยกลิ่นหอมๆ ของซอสบุลโกกิอร่อยๆ ผสมเบอร์เบินแล้วรมควัน ให้ได้กลิ่นซอสเนื้อนำ ทั้งเค็มทั้งหวาน ก่อนดื่มอย่าลืมกินดาร์กช็อกโกแลตที่มาคู่กันก่อนแล้วค่อยจิบตาม วิธีนี้จะยิ่งเสริมรสให้ค็อกเทลอร่อยขึ้นหลายเท่า!

ราคา: 350 บาท

พิกัด: Sul ซอยทองหล่อ 10 สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Kha-Prao Moo-Krob Khai-Dao 

หากคุณคิดว่าคลั่งอาหารตามสั่งสิ้นคิดแต่อร่อยลืมโลกอย่างกะเพราหมูกรอบเอามากๆ เราขอท้าให้สั่ง Kha-Prao Moo-Krob Khai-Dao แก้วนี้ ค็อกเทลจากรัมรสชาติเข้มแต่หอมน่าจิบ ใส่ทั้งกระเทียม พริก น้ำเชื่อมพริกแห้ง รวมถึงน้ำมันหอย! เท่านั้นไม่พอ ยังเคลือบขอบแก้วด้วยแฮมเซอร์ราโนไฮโซกรอบๆ ให้นึกถึงหมูกรอบ และยังไม่จบเท่านั้น มีไข่ดาวไม่สุกเสิร์ฟเคียงมาด้วย!

ราคา: 390 บาท

พิกัด: Eat Me ซอยคอนแวนต์ สีลม กรุงเทพฯ

Garlic 

แก้วนี้หลายคนอาจจะตกใจ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะสิ่งที่ใช้คือน้ำกระเทียมดอง ค็อกเทลแก้วนี้ให้รสเค็มเสียหน่อย ซึ่งมาจากรัมที่ทำจากน้ำอ้อยหนองคาย ผสานกับน้ำกระเทียมดอง แล้วท็อปด้วยโทนิกเพื่อลดดีกรีความแรงของเหล้าและดื่มคล่องคอยิ่งขึ้น จากนั้นใส่เห็ดถอบที่ผ่านการอินฟิวส์กับเวอร์มุธ เพื่อเพิ่มรสชาติเวลาเคี้ยวพร้อมดื่มเหล้า

ราคา: 420 บาท

พิกัด: Asia Today ซอยนานา เจริญกรุง กรุงเทพฯ

Bone Thugs-N-Harmony 

เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากเจ้าของเพลงดัง Crossroads แห่งยุค 90 ที่พันมาในผ้าโพกหัวอันเป็นเอกลักษณ์ของวง แก้วนี้ใช้เทคนิคการขจัดไขมันออกจากไขกระดูก (Bone Marrow) ดึงกลิ่นหอมของเนื้ออ่อนๆ ออกมาผสมกับรัม และความหอมหวานของสับปะรดที่นำมาเคี่ยวจนเป็นคาราเมล เหยาะด้วยบิตเตอร์ปิดท้าย

ราคา: 420 บาท

พิกัด: Tropic City ซอยเจริญกรุง 28 บางรัก กรุงเทพฯ

Gintichoke

เครื่องดื่มแก้วนี้มีส่วนผสมเพียง 3 อย่างเท่านั้น คือ เหล้าจิน ดรายเวอร์มุธ และน้ำดองหัวผักอาร์ติโชก รสชาติเค็มนำแต่ไม่แหลม แฝงด้วยสัมผัสที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นอาหารกับเครื่องดื่ม เรียกง่ายๆ ว่าแก้วนี้ ‘ถ้าไม่รัก ก็เกลียดเลย’

ราคา: 365 บาท

พิกัด: The WoodShed ซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) กรุงเทพฯ

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post ดื่มได้จริงหรือ? 6 เครื่องดื่มเหนือจินตนาการ หยิบอาหารคาวจับมาทำค็อกเทล appeared first on THE STANDARD.

จากจุดเริ่มต้นของ Asia Today เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ต้องการนำเสนอวัตถุดิบท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของไทยให้เป็นที่รู้จัก ทุกวันนี้เรากล้าพูดได้เต็มปากว่า ของไทยทำอาหารก็อร่อย หยิบมาผสมเหล้าก็ไม่เลว แถมหน้าตาและรสชาติก็ดีงามไม่แพ้วัตถุดิบนอก และเราเชื่อว่า Asia Today เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนเล็กๆ ของแวดวงอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ได้นำวัตถุดิบท้องถิ่นไทยไปทำอาหาร แต่มาตีความและทำความเข้าใจบริบทของฤดูกาล จากนั้นก็พรีเซนต์วัตถุดิบเหล่านั้นให้อยู่ในแก้วค็อกเทล

ณิกษ์ อนุมานราชธน แห่งร้าน Asia Today และ Teens of Thailand

เมื่อครั้งที่ได้ไปช่วงแรกๆ ของการเปิดร้าน เราสัมผัสได้ถึงพัฒนาการและความเข้าใจในตัววัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและเข้มข้นจริงจังกว่าเดิม จากประสบการณ์และทริปต่างจังหวัดที่ทีมงาน Asia Today ได้สั่งสมมาตั้งแต่ก่อนเริ่มทำร้านจนกระทั่งตอนนี้ ทำให้เกิดการจัดระเบียบไอเดีย และการจัดเตรียมวัตถุดิบให้สอดคล้องกับฤดูกาล และทำให้เมนูค็อกเทลของที่นี่ไม่มีความตายตัว แน่นอนว่า คุณสามารถสั่งคลาสสิกค็อกเทลได้ตามปกติ แต่สิ่งที่ร้านภูมิใจเสนอและเราอยากให้คุณได้ลองก็คือ Seasonal Cocktails กว่า 12 ตัว ในราคา 420 บาททุกแก้ว อัดแน่นไปด้วยไอเดีย รสชาติแปลกใหม่ และวัตถุดิบท้องถิ่นไทย ที่เราต้องยกนิ้วให้และจิบจนหมดแก้ว

ค็อกเทลตามฤดูกาลช่วงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางและเรียนรู้วัฒนธรรม ศึกษาอย่างลึกซึ้ง และเกิดความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและชาวบ้าน รวมถึงทำความเข้าใจกับฤดูกาล จนเกิดการตกตะกอนออกมาเป็นค็อกเทลวัตถุดิบไทย 12 แก้ว ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน และตั้งชื่อให้เข้าใจง่าย โดยใช้ชื่อวัตถุดิบหลักของแก้วนั้นๆ เสียเลย

Mangosteen จับคู่ไซรัปมังคุดกับเหล้าเตกีลา เชกให้เข้ากัน แล้วเพิ่มรสชาติกับความเปรี้ยวนิดๆ ด้วย Jambolan Shrub หรือน้ำลูกหว้าหมัก ได้รสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม

ขยับไปที่ Santol จินกับกระท้อน ด้วยความที่กระท้อนมีรสเปรี้ยวอมหวานคล้ายบ๊วย จึงจัดการดองเหล้าสไตล์เหล้าบ๊วย จากนั้นมาผสมกับจิน เวอร์มุท และเลมอน เชื่อมรสชาติเปรี้ยว หวาน และขม ให้เข้ากันด้วย Honey Shrub จนได้ดริงก์ที่รสชาติหวานนวล และขมที่ปลายลิ้น

Garlic แก้วนี้หลายคนอาจจะตกใจ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะสิ่งที่ใช้คือน้ำกระเทียมดอง ค็อกเทลแก้วนี้ให้รสเค็มเสียหน่อย ซึ่งมาจากรัมที่ทำจากน้ำอ้อยหนองคาย ผสานกับน้ำกระเทียมดอง แล้วท็อปด้วยโทนิคเพื่อลดดีกรีความแรงของเหล้าและดื่มคล่องคอยิ่งขึ้น จากนั้นใส่เห็ดถอบที่ผ่านการอินฟิวส์กับเวอร์มุท เพื่อเพิ่มรสชาติเวลาเคี้ยวพร้อมดื่มเหล้า

คงเป็นข่าวดีของคนรักช็อกโกแลตและโกโก้ เพราะ Asia Today ก็มี Cacao จัดมาทั้งเปลือกเม็ดโกโก้เพื่อทำแก้ว ส่วนเหล้านั้นมีเหล้าหวานรสช็อกโกแลตเบอร์เบิน ผสมมะพร้าวแก้ว เหล้าสมุนไพรและจิงเจอร์เบียร์เพื่อลดความเข้มของเหล้าลง ได้รสช็อกโกแลตเต็มๆ แทบไม่ต่างอะไรกับช็อกโกแลตเย็นเลย ถูกใจเราเป็นที่สุด

Irish Coffee เราเป็นหนึ่งคนที่สงสัยว่า เจ้ากาแฟไอริชแก้วนี้มันต่างอะไรกับกาแฟปกติ จนกระทั่งมาได้ความว่า เป็นชื่อคลาสสิกค็อกเทลตัวหนึ่งที่แทบจะเลือนหายไปจากสังคมค็อกเทลบาร์ปัจจุบันแล้ว แต่โชคดีที่ Asia Today ยังมีอยู่ แถมใช้กาแฟไทยของ Left Hand Roaster ด้วยนี่สิ จุดเด่นของค็อกเทลแก้วนี้คือ เสิร์ฟอุ่น ผสมไอริชวิสกี้ วิปครีม และลูกจันทน์ ได้รสชาติที่เข้มข้นของทั้งกาแฟและวิสกี้ที่ผสมกันอย่างลงตัว แถมดื่มง่าย เพราะมีวิปครีมท็อปมาด้วย แนะนำให้ดื่มหลังมื้ออาหารจะดีที่สุด

ปิดท้ายด้วย Eastern Honey (400 บาท) ค็อกเทลน้ำผึ้งจากบาร์ที่จริงจังเรื่องน้ำผึ้งที่สุดในประเทศไทย เพราะภายในร้านมีคอลเล็กชันน้ำผึ้งจากหลากหลายแห่งกว่าร้อยขวด ซึ่งหนึ่งในนั้นได้มาอยู่ในแก้วนี้เป็นที่เรียบร้อย เบสด้วยจิน ส่วนด้านบนเป็นโฟมน้ำผึ้งโรยงาดำ แถมยังเสิร์ฟในแก้วที่ทำจากขี้ผึ้งอีกต่างหาก ส่วนรสชาตินั้นหวานชั้นบน เปรี้ยวชั้นล่าง จิบพร้อมๆ กันคือดี และเราอยากให้ลอง

Asia Today ตั้งอยู่ที่ซอยนานา ถนนไมตรีจิตต์ กรุงเทพฯ เปิดบริการวันอังคาร, พฤหัสบดี, อาทิตย์ เวลา 19.00-24.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 19.00-01.00 น. โทร. 09 7134 4704 และ www.facebook.com/asiatodaybar

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล 

The post เมื่อวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลผลัดมือเชฟข้ามมาใส่ในค็อกเทล ที่ Asia Today appeared first on THE STANDARD.