Amy Heckerling – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 19 Jul 2017 03:06:01 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ครบรอบ 22 ปี Clueless ภาพยนตร์ที่กลายเป็นไลฟ์สไตล์ไบเบิลของวัยรุ่นยุค 90s https://thestandard.co/culture-film-22th-anniversary-clueless/ https://thestandard.co/culture-film-22th-anniversary-clueless/#respond Wed, 19 Jul 2017 02:27:32 +0000 https://thestandard.co/?p=14900

       ย้อนไปช่วงก่อนที่วัยรุ่นยุค […]

The post ครบรอบ 22 ปี Clueless ภาพยนตร์ที่กลายเป็นไลฟ์สไตล์ไบเบิลของวัยรุ่นยุค 90s appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

     ย้อนไปช่วงก่อนที่วัยรุ่นยุค 2000 จะคลั่งไคล้ไลฟ์สไตล์อู้ฟู่หรูหราของ ปารีส ฮิลตัน ก่อนที่ผู้หญิงครึ่งค่อนโลกจะวาดฝันอยากมีชีวิตประหนึ่งถูกฉายไฟสปอตไลต์ใส่ตลอดเวลาเหมือนพี่น้องตระกูลคาร์ดาเชียน หรือนับทศวรรษก่อนการก้าวขึ้นมาเป็นโรลโมเดลให้สาวๆ วัยทีนของเซเลน่า โกเมซ

     ในยุค 90s แชร์ ฮอโรวิตส์ คือสัญลักษณ์แห่งความโก้เก๋ของชีวิตลูกคุณหนู บริบทความ ‘คูล’ ที่ผู้หญิงวัยแตกเนื้อสาวอยากจะเดินรอยตาม แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากรายชื่อเซเลบริตี้ที่กล่าวมาก่อนหน้าก็เพราะ แชร์ ฮอโรวิตส์ คือตัวละครหลักจากภาพยนตร์เรื่อง Clueless เท่านั้น หาได้มีตัวตนในชีวิตจริงไม่ น่าสนใจว่าเพราะเหตุใดภาพยนตร์หนึ่งในสุดยอดหนังวัยรุ่น ผลงานชิ้นเอกของดาราสาว อลิเซีย ซิลเวอร์สโตน นี้ จึงมีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกันและเด็กไฮสคูลครึ่งค่อนโลก แม้ว่าเวลาจะเคลื่อนผ่านมานาน 22 ปี

 


ก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
     Clueless เล่าเรื่องราวของ แชร์ ฮอโรวิตส์ สาววัย 16 ปี ผู้มีบิดาเป็นทนาย และอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่โตกลางเบเวอร์ลี ฮิลส์ แชร์มีเพื่อนสนิทคือ ดิออน ดาร์เวนพอร์ต ที่พวกเธอจะไปโรงเรียนและนินทาผู้คนรอบข้างอย่างออกรส แต่ไม่พลาดที่จะคิดโครงการปรับแต่งสิ่งต่างๆ รอบตัวตามประสาวัยรุ่นไฟแรงตลอดเวลา แม้ในสายตาของคนรอบกายนั้น ทั้งสองสาวอาจจะถูกด่วนตัดสินว่าเป็นเพียงผู้หญิงวัยรุ่นสวยใสไร้สติ ที่วันๆ หลังเลิกเรียนมีแต่คิดที่จะออกไปซื้อชุด Calvin Klein คอลเล็กชันใหม่มาประดับตู้

 

 

     Clueless ออกฉายเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 1995 ทำรายได้ไปมากกว่า 56.6 ล้านเหรียญในสหรัฐอเมริกา ด้วยต้นทุนการผลิตเพียงแค่ 12 ล้านเหรียญ และรายรับจากสุดสัปดาห์แรกเพียงแค่ 10 ล้านเหรียญเท่านั้น แต่นั่นเป็นเพียงความสำเร็จเบื้องต้นสำหรับผู้กำกับเอมี เฮกเกอร์ลิง (Amy Heckerling) ที่นำบทประพันธ์เรื่อง Emma นิยายขายดีในปี 1815 ของเจน ออสเตน (Jane Austen) มาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย (ในขณะนั้น) เพื่อสร้างภาพยนตร์แนว Coming-of-Age เบาสมอง แต่มีอิทธิพลและสะท้อนลักษณะการดำเนินชีวิตของวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ช่องอย่าง MTV คือช่องบันเทิงที่หนุ่มๆ สาวๆ เฝ้าหน้าจอติดตามกันมากที่สุด และการใช้ชีวิตแบบมนุษย์ผู้มีอันจะกินในย่านเบเวอร์ลี ฮิลส์ เป็นสิ่งที่จะทำให้ทุกคนตาลุกวาวด้วยความอิจฉา และพยายามจะหันมาใส่ใจกับภาพลักษณ์รวมถึงไลฟ์สไตล์ของตนเองมากขึ้น โดยมิได้ลืมพกสมองและสติปัญญา

 

 

     หนังเรื่องนี้บทประพันธ์เต็มไปด้วยลูกเล่นที่แพรวพราว มีคำคมนับไม่ถ้วนที่ออกมาจากปากนักแสดง และพร้อมจะถูกนำไปยำเป็น memes ในอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการดำเนินเรื่องที่กระชับ ฉับไว ลื่นไหลแบบไร้ซีนชวนง่วงในตลอดช่วงเวลา 97 นาทีของหนัง ทั้งยังการันตีด้วยรางวัลมากมายจาก MTV Movie & TV Awards, American Comedy Awards, National Board of Review, New York Film Critics Circle Awards และอีกนับไม่ถ้วน

 

 

ทำไมหนังเรื่องนี้จึงมีความสำคัญ

     เป็นที่รู้กันว่ามีหนังวัยรุ่นหลายเรื่องที่พยายามจะรวบรวมทุกองศาและมุมมองของการเติบโตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต Clueless อาจจะไม่ได้มาพร้อมบทละครที่มีข้อคิดอันเอื้อประโยชน์ต่อสังคม หรือแฝงไว้ด้วยสัจธรรมอะไรมากมาย แต่กลับมีสิ่งที่คนดูหลายคนอยากจะเห็น รวมถึงประเด็นที่สะท้อนมุมมองของพ่อแม่ผู้ปกครอง คุณครูในโรงเรียน สังคมพหุวัฒนธรรม อีกทั้งเป็นการยำเรื่องราวสำมะเลเทเมาของวัยรุ่นออกมาตีแผ่ในแง่มุมซึ่งให้ความบันเทิง ทะเล้นแต่ไม่ล้ำเส้น โดดเด่นแต่ไม่ดูพยายามจนเกินไป

 

https://www.youtube.com/watch?v=znsg-ysSAX8&feature=youtu.be

 

     ในโลกของการสร้างภาพยนตร์ การวางบทตัวละครที่มาพร้อมคาแรกเตอร์ที่เชื่อมโยงถึงโลกแห่งความเป็นจริงได้นั้น ทำให้คนดูเกิดความ ‘อิน’ ในบทประพันธ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นหนี่งในจุดแข็งของ Clueless ซึ่งมาพร้อมตัวละครที่จะทำให้เราต้องหันไปมองรอบๆ ตัวพลางอุทานว่า “เออ มีคนแบบนี้อยู่ในชีวิตเราจริงๆ ด้วยแฮะ”

     บทของ จอร์ช (แสดงโดย พอล รัดด์) ชายหนุ่มขี้อาย นักศึกษาวิชากฎหมายที่เต้นไม่เป็น, ไท (แสดงโดย บริตทานีย์ เมอร์ฟี) นักเรียนใหม่ผู้มาพร้อมผมเผ้ากระเซอะกระเซิง และค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จากการช่วยเหลือของเพื่อนสาว, เอลตัน (แสดงโดย เจเรมี ซิสโต) เด็กไฮสคูลรูปหล่อพ่อรวย ผู้มาพร้อมอีโก้ในตัวที่สูงลิ่ว, คริสเตียน (แสดงโดย จัสติน วอล์กเกอร์) เด็กหนุ่มรูปงามขวัญใจสาวๆ ที่ดูเหมือนจะหลงใหลในเพศเดียวกันมากกว่าเพศตรงข้าม หรือแม้แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น คุณครูวิชาพละศึกษาที่เป็นเลสเบี้ยน คุณครูคณิตศาสตร์ผู้ไม่ประสีประสาในการแต่งตัว ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นบริบทของมนุษย์ที่วัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องเผชิญในสถานศึกษา และแน่นอนว่า Clueless สื่อทุกคาแรกเตอร์ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ตัวหนังจะดึงดูดความรู้สึกมีส่วนร่วมจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี

 

 
การเป็นหนังอมตะ
     จากวันนั้นในปี 1995 ที่วัยรุ่นยังคงฟังเพลงจากคาสเซตเทป ถึงวันนี้ที่เราทุกคนเสพสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบผ่านหน้าจอมือถือ แน่นอนว่าบริบทบางอย่างของสังคมย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ค่านิยมในป๊อปคัลเจอร์และเทรนด์การแต่งตัวย่อมมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามกระแสโลก แต่สิ่งที่ไม่เคยจางหายไปไหนคือความทรงจำของคอหนังเกี่ยวกับ Clueless ซึ่งตีแผ่ ‘จริต’ ของวัยรุ่นในอุดมคติ ที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้น ทะเยอทะยาน ความสดใส ร่าเริงเบิกบาน ความรู้สึกเติมเต็มจากการเป็นที่รักและชื่นชมของเพื่อนๆ หรือแม้แต่การแอบพ่อไปปาร์ตี้ ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี สิ่งเหล่านี้ก็จะคงอยู่ในตัววัยรุ่นทุกยุคทุกสมัย และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Clueless นี้เปรียบเสมือนคัมภีร์ที่หนุ่มสาววัยแรกแย้มจะ ‘อิน’ ไปอีกนานแสนนาน

 


อ้างอิง:

The post ครบรอบ 22 ปี Clueless ภาพยนตร์ที่กลายเป็นไลฟ์สไตล์ไบเบิลของวัยรุ่นยุค 90s appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/culture-film-22th-anniversary-clueless/feed/ 0