Afghanistan – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 08 Jan 2025 08:15:13 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ทีมชาติไทยเตรียมอุ่นแข้งอัฟกานิสถาน ก่อนดวลศรีลังกา รอบคัดเลือกเอเชียนคัพช่วงมีนาคม https://thestandard.co/thailand-afghanistan-friendly-match-preview/ Wed, 08 Jan 2025 08:15:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1028235 ทีมชาติไทย

วันนี้ (8 มกราคม) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรม […]

The post ทีมชาติไทยเตรียมอุ่นแข้งอัฟกานิสถาน ก่อนดวลศรีลังกา รอบคัดเลือกเอเชียนคัพช่วงมีนาคม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ทีมชาติไทย

วันนี้ (8 มกราคม) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ในช่วงเดือนมีนาคม 2025

 

โดยโปรแกรมแรกจะเป็นการอุ่นเครื่องกับทีมชาติอัฟกานิสถาน ที่อยู่อันดับ 156 ของโลก ในวันที่ 21 มีนาคม 2025

 

ถัดมาทีมชาติไทยจะทำการแข่งขันเอเชียนคัพ 2027 (รอบคัดเลือก) ซึ่งมีโปรแกรมเปิดบ้านรับมือกับศรีลังกา ทีมอันดับ 200 ของโลก ในวันที่ 25 มีนาคมนี้

 

นอกจากนี้ การแข่งขันดังกล่าวทางสมาคมฯ เตรียมยื่นเรื่องต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เพื่อลงทะเบียนให้เป็นเกม FIFA International ‘A’ Match และมีการนับคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งในระดับ Tier 1

 

ส่วนการแข่งขันของทีมชาติไทยทั้ง 2 เกม จะแจ้งยืนยันเวลาแข่งขัน รวมถึงช่องทางการจำหน่ายบัตรเข้าชมให้แฟนบอลทราบอีกครั้งในภายหลัง เบื้องต้นจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 

 

The post ทีมชาติไทยเตรียมอุ่นแข้งอัฟกานิสถาน ก่อนดวลศรีลังกา รอบคัดเลือกเอเชียนคัพช่วงมีนาคม appeared first on THE STANDARD.

]]>
สหรัฐฯ จับกุมชายชาวอัฟกัน ข้อหาวางแผนโจมตีวันเลือกตั้งในนามของกลุ่ม ISIS https://thestandard.co/afghan-national-arrested-for-plotting-an-election-day/ Wed, 09 Oct 2024 05:59:39 +0000 https://thestandard.co/?p=993630 กลุ่ม ISIS

สหรัฐอเมริกาจับกุมชายชาวอัฟกัน วัย 27 ปี ในข้อหาวางแผนโ […]

The post สหรัฐฯ จับกุมชายชาวอัฟกัน ข้อหาวางแผนโจมตีวันเลือกตั้งในนามของกลุ่ม ISIS appeared first on THE STANDARD.

]]>
กลุ่ม ISIS

สหรัฐอเมริกาจับกุมชายชาวอัฟกัน วัย 27 ปี ในข้อหาวางแผนโจมตีวันเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ในนามกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) หรือกลุ่ม ISIS หลังจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของ FBI เดินทางไปพบกับชายคนดังกล่าวและผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหนึ่งคนซึ่งเป็นเยาวชน เพื่อเจรจาซื้อขายอาวุธปืนไรเฟิล AK-47 ที่คาดว่าจะนำไปใช้ก่อเหตุในวันเลือกตั้ง

 

คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการ FBI เผยว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมคือ นาซีร์ อาหมัด ทาเฮดี พลเมืองชาวอัฟกันที่อาศัยอยู่ในรัฐโอคลาโฮมา โดยเดินทางมาถึงสหรัฐฯ พร้อมภรรยาและลูกน้อย เมื่อเดือนกันยายน 2021 ด้วยวีซ่าผู้อพยพพิเศษ

 

เรย์ยังระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้เสพโฆษณาชวนเชื่อและแนวคิดสุดโต่งของกลุ่ม ISIS ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต และเตรียมวางแผนก่อเหตุโจมตีอย่างรุนแรงในวันเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยทาเฮดีพยายามที่จะสะสมอาวุธปืน สะสางบัญชีของบุคคลในครอบครัว และโยกย้ายสมาชิกในครอบครัวไปยังต่างประเทศ

 

ทาเฮดีถูกตั้งข้อหาจัดหา พยายามจัดหา และสมรู้ร่วมคิดเพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ รวมถึงพยายามจัดหาอาวุธปืนและกระสุนปืนเพื่อใช้ก่ออาชญากรรมหรือการก่อการร้าย

 

ขณะที่ เมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าวว่า “เราจะต่อสู้กับภัยคุกคามจากกลุ่ม ISIS และบรรดาผู้สนับสนุนที่หมายจะทำลายความมั่นคงของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เราจะตรวจสอบ สอบสวน และดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ที่พยายามคุกคามชาวอเมริกัน”

 

FBI ยังเผยอีกว่า ทาเฮดีวางแผนมุ่งเป้าไปยังพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันเป็นจำนวนมากในวันเลือกตั้ง และตัดสินใจที่จะจบชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว และหากพบความผิดและถูกตัดสินลงโทษ ทาเฮดีอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดรวม 35 ปี

 

แฟ้มภาพ: T. Schneider / Shutterstock

Department of Justice via CBS

อ้างอิง:

The post สหรัฐฯ จับกุมชายชาวอัฟกัน ข้อหาวางแผนโจมตีวันเลือกตั้งในนามของกลุ่ม ISIS appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตาลีบันฟื้นโทษปาหินใส่ผู้หญิงจนตายหากคบชู้ https://thestandard.co/taliban-reinstates-stoning-women-to-death/ Fri, 29 Mar 2024 07:18:37 +0000 https://thestandard.co/?p=917067

สำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษรายงานว่า ไฮบาตุลเลาะห์ […]

The post ตาลีบันฟื้นโทษปาหินใส่ผู้หญิงจนตายหากคบชู้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

สำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษรายงานว่า ไฮบาตุลเลาะห์ อัคฮุนด์ซาดา ผู้นำสูงสุดของกลุ่มตาลีบัน ประกาศว่า ทางกลุ่มได้กลับมาบังคับใช้โทษปาหินหรือเฆี่ยนตีสตรีในที่สาธารณะ หากพบว่าหญิงผู้นั้นคบชู้

 

อัคฮุนด์ซาดากล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เราจะเฆี่ยนตีผู้หญิง…เราจะปาหินใส่พวกเธอให้ตายในที่สาธารณะ (หากมีการผิดประเวณี)” พร้อมยังกล่าวด้วยว่า “คุณอาจเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิสตรีเมื่อเราปาหินหรือเฆี่ยนตีหญิงในที่สาธารณะโทษฐานคบชู้ เพราะมันขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยของคุณ แต่ผมเป็นตัวแทนของอัลลอฮ์ และคุณเป็นตัวแทนของซาตาน”

 

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีมองว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นการสานต่อความพยายามของตาลีบันที่จะต่อต้านอิทธิพลของชาติตะวันตก พร้อมแสดงความกังวลว่าสตรีในอัฟกานิสถานอาจต้องกลับไปสู่วันที่มืดมน ดังเช่นการปกครองของกลุ่มตาลีบันในช่วงยุค 1990

 

Afghan Witness ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถาน รายงานว่า เฉพาะในปีที่ผ่านมา ผู้พิพากษาที่กลุ่มตาลีบันแต่งตั้งขึ้นมามีคำสั่งให้เฆี่ยนตีหรือประหารชีวิตผู้กระทำความผิดในที่สาธารณะถึง 417 ครั้ง และในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้หญิง 57 คน

 

อนึ่ง นับตั้งแต่ที่กลุ่มตาลีบันกลับมามีอำนาจในอัฟกานิสถานอีกครั้งช่วงเดือนสิงหาคม 2021 กลุ่มตาลีบันก็ได้ยกเลิกการใช้รัฐธรรมนูญของอัฟกานิสถานที่เคยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก พร้อมระงับการใช้ประมวลกฎหมายที่มีอยู่ โดยหันมาบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์ที่เข้มงวดแทน นอกจากนี้พวกเขายังสั่งห้ามไม่ให้ทนายความและผู้พิพากษาหญิงปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย

 

ภาพ: David Sacks via Getty Images

อ้างอิง:

The post ตาลีบันฟื้นโทษปาหินใส่ผู้หญิงจนตายหากคบชู้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ข่าวกรองสหรัฐฯ ยืนยันกลุ่ม IS สาขาอัฟกานิสถาน อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในอิหร่าน https://thestandard.co/us-intelligence-confirms-islamic-states-afghanistan-branch-behind-iran/ Sun, 07 Jan 2024 05:12:15 +0000 https://thestandard.co/?p=884996 เหตุระเบิดในอิหร่าน

ข้อมูลที่สหรัฐฯ รวบรวมได้จากการดักฟังการสื่อสารยืนยันว่ […]

The post ข่าวกรองสหรัฐฯ ยืนยันกลุ่ม IS สาขาอัฟกานิสถาน อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในอิหร่าน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เหตุระเบิดในอิหร่าน

ข้อมูลที่สหรัฐฯ รวบรวมได้จากการดักฟังการสื่อสารยืนยันว่า กลุ่มรัฐอิสลาม สาขาอัฟกานิสถาน หรือ ISIS-K เป็นผู้ก่อเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนเมื่อวันพุธที่แล้ว (3 มกราคม) ที่เมืองเคอร์มาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 คน

 

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดี กลุ่ม IS หรือ ISIS ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเหตุระเบิดที่ร้ายแรงที่สุดในอิหร่านนับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามปี 1979 โดยระบุว่า สมาชิกกลุ่มจำนวน 2 คน ได้จุดชนวนเข็มขัดระเบิดท่ามกลางฝูงชนในงานรำลึกวันครบรอบการเสียชีวิตของนายพล คาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการทหารอาวุโสที่ถูกลอบสังหารในอิรักจากการโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐฯ เมื่อปี 2020 

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มรัฐอิสลามไม่ได้ระบุว่ากลุ่มพันธมิตรที่มีฐานอยู่ในอัฟกานิสถาน หรือที่รู้จักในชื่อ ISIS-Khorasan (ISIS-K) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันศุกร์จึงได้มีการยืนยันเรื่องดังกล่าว โดยแหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่า “สหรัฐฯ มีข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจน” ว่า ISIS-K เป็นผู้ก่อเหตุโจมตี 

 

แหล่งข่าว 2 คนซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวว่า ข่าวกรองที่สหรัฐฯ ได้มานั้นประกอบด้วยข้อมูลที่ได้จากการดักฟังการสื่อสาร โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม 

 

“ข่าวกรองนั้นชัดเจนและไม่มีข้อสงสัย” แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าว

 

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

กลุ่ม IS ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายซุนนี มองว่าชาวมุสลิมนิกายชีอะห์เป็นผู้ละทิ้งความเชื่อ จึงมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นนิกายหลักในอิหร่าน และมักเป็นเป้าหมายของการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรในอัฟกานิสถาน 

 

ในอดีต กลุ่ม IS ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีมัสยิดชีอะห์ในอิหร่านเมื่อปี 2022 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน รวมทั้งเหตุระเบิดรัฐสภาและอนุสรณ์สถานของผู้นำการปฏิวัติอิสลาม อยาตอลเลาะห์ โคไมนี เมื่อปี 2017 

 

ทั้งนี้ แม้ว่าการปราบปรามของกลุ่มตาลีบันทำให้ ISIS-K อ่อนแอลง และผลักดันให้สมาชิกบางคนต้องหลบหนีออกจากอัฟกานิสถานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ ISIS-K ยังคงมุ่งวางแผนปฏิบัติการโจมตีในต่างประเทศ 

 

เหตุการณ์ระเบิดในอิหร่านเมื่อวันพุธ ทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคตึงเครียดยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่ระส่ำอยู่แล้วจากสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาสในฉนวนกาซา และการโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงโดยกลุ่มฮูตีในเยเมน

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

The post ข่าวกรองสหรัฐฯ ยืนยันกลุ่ม IS สาขาอัฟกานิสถาน อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในอิหร่าน appeared first on THE STANDARD.

]]>
การยื้ออำนาจของนายพลมิน อ่อง หล่าย, วิกฤตฝิ่นในอัฟกานิสถาน และการเปลี่ยนทิศทางกลยุทธ์การลงทุนของปู่บัฟเฟตต์: สรุปเหตุการณ์สำคัญปี 2023 ผ่านเลนส์ Nikkei Asia https://thestandard.co/min-aung-hlaing-authority-afghanistan-opium-warren-buffet-investment/ Thu, 28 Dec 2023 10:27:14 +0000 https://thestandard.co/?p=882275 วิกฤตฝิ่นในอัฟกานิสถาน

ในทุกๆ ช่วงเวลาก่อนสิ้นปี Nikkei Asia จะรวบรวมเหตุการณ์ […]

The post การยื้ออำนาจของนายพลมิน อ่อง หล่าย, วิกฤตฝิ่นในอัฟกานิสถาน และการเปลี่ยนทิศทางกลยุทธ์การลงทุนของปู่บัฟเฟตต์: สรุปเหตุการณ์สำคัญปี 2023 ผ่านเลนส์ Nikkei Asia appeared first on THE STANDARD.

]]>
วิกฤตฝิ่นในอัฟกานิสถาน

ในทุกๆ ช่วงเวลาก่อนสิ้นปี Nikkei Asia จะรวบรวมเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นและได้รับความสนใจจากผู้คนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของปีนั้นๆ

 

สำหรับปี 2023 ประเด็นที่ผู้คนค่อนข้างให้ความสนใจมีตั้งแต่การยื้ออำนาจของนายพลมิน อ่อง หล่าย, วิกฤตฝิ่นในอัฟกานิสถาน ไปจนถึงการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ และอื่นๆ

 

บทความชิ้นนี้เป็นการสรุปจากผลงานบทความฉบับเต็ม 6 ชิ้นที่ถูกตีพิมพ์ลงบนเว็บไซต์ Nikkei Asia เป็นการฉายภาพสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นรอบโลกของปี 2023

 

มิน อ่อง หล่าย กับการยื้ออำนาจที่ตนไม่อยากให้หลุดมือ (1 กุมภาพันธ์)

 

ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของ พล.อ. มิน อ่อง หล่าย นั้นมีอยู่น้อยมากเมื่อเทียบกับระดับอำนาจที่อยู่ในกำมือเขา ในฐานะหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองของภูมิภาคเอเชียนับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021

 

Nikkei Asia มีความพยายามที่จะค้นหาและทำความเข้าใจถึงแรงจูงใจ รวมถึงลักษณะนิสัยของนายพลคนนี้ผู้อยู่เบื้องหลังความรุนแรงและความสุดโต่งหลังจากที่ตนได้ทำรัฐประหารสำเร็จ

 

Min Aung Hlaing

 

หากจะสรุปสั้นๆ ถึงผลงานความสำเร็จของ มิน อ่อง หล่าย มันคือการนำพาประเทศถอยหลังกลับไปสู่การปกครองโดยรัฐบาลทหาร และลบล้างความพยายามของผู้คนในประเทศตลอด 20 ปีที่ต้องการปฏิรูประบอบการปกครอง โดยการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ชื่อเสียง ‘คนนอกคอก’ ของประเทศเมียนมาหวนกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากมันเป็นการแบ่งแยกความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในอาเซียน และยังทำให้องค์การสหประชาชาติ (UN) ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐอเมริกาถึงกับเอือมระอา

 

สิ่งที่ทำให้นายพลมิน อ่อง หล่าย แตกต่างคือ ความสามารถในการควบรวมอำนาจโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่ให้การสนับสนุนเลย

 

เนื้อหาเกี่ยวกับมิน อ่อง หล่าย เป็นบทความในซีรีส์ ‘Big Story’ ที่ผู้คนอ่านเยอะมากที่สุดบนเว็บไซต์ Nikkei Asia ซึ่งสื่อถึงสัญญาณว่าอย่างน้อยมีผู้ที่สนใจว่า ‘เมียนมา’ ดินแดนที่มีสงครามมายาวนานกว่าช่วงชีวิตของใครหลายคน จะมีหนทางอย่างไรเพื่อพาประเทศไปสู่ความสงบสุข

 

การปฏิวัติความเท่าเทียมทางเพศในวงการภาพยนตร์บอลลีวูด (8 มีนาคม)

 

ประเด็นเรื่องการแบ่งแยกทางเพศภายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดอย่างบอลลีวูด (Bollywood) เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน ทำให้ Nikkei Asia ตัดสินใจนำเสนอเรื่องราวนี้เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) เพื่อชี้ถึงที่มาที่ไปและพัฒนาการของความพยายามในการลดปัญหาความไม่เท่าเทียมนี้

 

ผลการสำรวจเผยว่า ความเท่าเทียมทางเพศในอินเดียกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงอาจจะค่อนข้างช้าก็ตาม แต่ก็ถือว่าอินเดียกำลังเดินหน้าไปบนเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับประเทศที่มีอัตราแรงงานผู้หญิงที่ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

 

1 ใน 4 ของภาพยนตร์ค่าย Bollywood ในปัจจุบันมีนักแสดงนำที่เป็นผู้หญิงแล้ว เพิ่มจาก 2 ทศวรรษก่อนที่มีเพียงแค่ 1 ใน 10 และสัดส่วนของนักแสดงผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปเริ่มมีบทบาทหลักในภาพยนตร์เพิ่มขึ้นเป็น 33% จากเพียง 3% ในกรอบเวลาเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวละครผู้หญิงส่วนใหญ่ในภาพยนตร์กลับถูกกำหนดให้รับบทเป็นบุคคลที่ ‘ไม่มีอาชีพ’

 

หลังจากที่บทความนี้เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ คนในวงการบอลลีวูดต่างพูดว่า ผู้สนับสนุนเงินทุน ผู้กำกับ ผู้เผยแพร่ และสตูดิโอต่างๆ ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่า พวกเขาจะพยายามผลักดันและสนับสนุนเงินทุนในโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมมากขึ้น

 

การเปลี่ยนทิศทางกลยุทธ์การลงทุนของปู่บัฟเฟตต์ (24 พฤษภาคม)

 

วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือปู่บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนานถึงแนวทางการลงทุนของคุณปู่ที่เน้นไปที่ตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก แต่ทว่าในช่วงเร็วๆ นี้ของปี 2023 ปู่บัฟเฟตต์ได้ปรับความสนใจและกล้าที่จะโยกเงินลงทุนมาสู่ 5 บริษัทในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้น จากผลประโยชน์ดอกเบี้ยที่ต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนทางการเงินในฝั่งสหรัฐฯ

 

นับตั้งแต่ที่สาธารณะได้ทราบข่าวการเข้าลงทุนของ Berkshire Hathaway ในตลาดญี่ปุ่น ดัชนี Nikkei ก็พุ่งขึ้นกว่า 40% ไปทำจุดสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ

 

 

อย่างไรก็ตาม บัฟเฟตต์ได้ถอนเงินลงทุนจากบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีน BYD อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้เหตุผลว่า การขายเป็นไปเนื่องจากทางบริษัทมองเห็นโอกาสอื่นที่น่าลงทุนกว่า แต่บางฝ่ายก็มองว่าความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในจีนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความมั่นคงของอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลของการถอนทุน

 

วิกฤต ‘ฝิ่น’ สร้างความวุ่นวายให้กับประชาชน หลังมีคำสั่งห้ามปลูกจากกลุ่มตาลีบัน (21 มิถุนายน)

 

หนึ่งในนักข่าวของ Nikkei Asia ได้ลงพื้นที่ไปยังประเทศอัฟกานิสถาน เพื่อสำรวจผลกระทบของการสั่งห้ามปลูกฝิ่นที่ออกโดยกลุ่มกองกำลังตาลีบันเมื่อเดือนเมษายน ปี 2022 ซึ่งอัฟกานิสถานเคยเป็นประเทศที่มีการปลูกฝิ่นปริมาณมากที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในผลผลิตและการจ้างงานหลักของประเทศ แต่หลังจากที่การประกาศสั่งห้าม ผลผลิตฝิ่นลดลงไปกว่า 95%

 

นักข่าวคนนี้พบว่า ปัญหาเสพติดฝิ่นนั้นอยู่ในขั้นวิกฤตทั้งเด็กและสตรี เขาได้พูดคุยกับมาร์วาและครอบครัวชาวอัฟกานิสถานที่ได้ต่อสู้กับการเสพติด จนสามารถตัดขาดจากยาตัวนี้ได้ แต่ทว่าปัญหาที่ใหญ่กว่าการติดยาคือปัญหาเรื่องปากท้อง “ลูกชายของฉันทำงานกลางแจ้งทั้งวันเพื่อแลกกับเงินประมาณ 50-100 บาทต่อวัน ในขณะที่ฉัน สามี และลูกสาว ใช้ชีวิตอยู่บ้าน”

 

เพื่อให้เข้าใจถึงความลำบากของสถานการณ์ นักข่าวถามมาร์วาต่อว่า มีโอกาสหรือไม่ที่พวกเขาจะกลับมาติดการเสพฝิ่นอีกครั้ง สิ่งที่เธอตอบกลับมาคือ “ในตอนนี้กลุ่มตาลีบันทำให้การเข้าถึงยานั้นเป็นไปได้ยากมากๆ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ตอนนี้เราแทบจะไม่มีเงินซื้ออาหารกินแล้ว ฉะนั้นมันก็แทบจะไม่มีเหตุผลที่เราจะคิดถึงเรื่องเสพยาในตอนนี้ ฉันแค่ภาวนาขอให้สามีฉันได้งานทำเสียที” มาร์วากล่าว

 

ถอดภาพฝันศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่ของ Apple ในอินเดีย (2 สิงหาคม)

 

โรงงานผลิตสินค้าของ Apple ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดียตั้งอยู่ที่เจนไน เมืองทางตอนใต้ของประเทศ ในปี 2023 ถือเป็นช่วงเวลาที่คึกคักสำหรับโรงงานแห่งนี้ที่ได้รับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ให้ผลิต iPhone จำนวน 15 ล้านเครื่องในอินเดียภายในปีนี้ อีกทั้งปี 2023 ยังเป็นปีแรกที่การผลิต iPhone ในสเกลที่ใหญ่ของอินเดียใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับจีนทำนำหน้าอยู่เพียงไม่กี่วัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

 

สาเหตุของการรุกอินเดียเพื่อเตรียมแผนการผลิตนั้นมีผลพวงมาจากความไม่สงบของศูนย์กลางการผลิต iPhone ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจิ้งโจวเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022 ที่ผ่านมาจากนโยบาย Zero-Covid 

 

วลีที่ว่า ‘Designed in California, Assembled in China’ กำลังเจอกับแรงกดดันระหว่างสองขั้วมหาอำนาจจีนและสหรัฐอเมริกาที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2018 แล้ว

 

ด้วยความไม่มั่นคงนี้ Apple จึงมีความพยายามที่จะลดความเสี่ยงและคว้าโอกาสในตลาดอินเดียที่กำลังเข้าสู่ช่วงเฟื่องฟู โดยทางบริษัทมีเป้าหมายว่าตนจะผลิต iPhone ในประเทศอินเดียเป็นจำนวนอย่างน้อย 20% ของทั้งหมดในอนาคต และมีแผนที่จะโยกย้ายทรัพยากรทีมวิจัยไปที่อินเดีย หมายความว่าอินเดียอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ขึ้นมาแทนที่จีนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆให้กับ Apple

 

การเตรียมตัวของเมืองชายฝั่งเพื่อรับมือกับน้ำบำบัดจากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ (9 สิงหาคม)

 

รัฐบาลญี่ปุ่นและบริษัท TEPCO มีประวัติผลงานเกี่ยวกับการรายงานที่ไม่ค่อยดีอยู่หลายครั้งในวิกฤตโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิเมื่อปี 2011 เมื่อเป็นเช่นนั้นการเตรียมปล่อยน้ำบำบัดจากโรงงานจึงเป็นประเด็นที่ผู้คนทั้งในประเทศและประเทศรอบข้างต่างกังวลเป็นอย่างมาก ถึงอันตรายและความปลอดภัยของคุณภาพน้ำจากรังสี

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือความเป็นอยู่ของคนบางกลุ่มที่อาจจะต้องเปลี่ยนไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการตัดสินใจดังกล่าว

 

 

ตั้งแต่เดือนสิงหาคม น้ำปริมาณ 23,400 ลูกบาศก์เมตรถูกปล่อยลงสู่ทะเลแปซิฟิกแล้ว ตามมาด้วยการทดสอบน้ำทะเลโดยหน่วยงานทางการของญี่ปุ่นรวมทั้งทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ที่ออกมาระบุว่า น้ำทะเลรวมถึงสิ่งแวดล้อมโดยรอบไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

 

ถึงแม้ว่าสินค้าจากเมืองฟุกุชิมะจะยังสามารถจำหน่ายได้ตามปกติโดยไม่ได้รับแรงกระแทกใดๆ แต่การสั่งห้ามนำเข้าจากฮ่องกงและจีนก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจอาหารทะเลของญี่ปุ่น

 

ในฝั่งของ TEPCO พวกเขาให้เหตุผลว่า การปล่อยน้ำมีความจำเป็นต่อแผนการฟื้นฟู และบริษัทยืนยันว่าจะปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ อย่างเคร่งครัด

 

ส่วนเรื่องที่ว่าคุณภาพของน้ำที่ถูกบำบัดจะไม่สร้างความเสี่ยงหรืออันตรายให้กับสิ่งแวดล้อมได้จริงหรือไม่นั้น คงมีแต่ ‘เวลา’ ที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงของคำสัญญานี้ได้

 

อ้างอิง:

The post การยื้ออำนาจของนายพลมิน อ่อง หล่าย, วิกฤตฝิ่นในอัฟกานิสถาน และการเปลี่ยนทิศทางกลยุทธ์การลงทุนของปู่บัฟเฟตต์: สรุปเหตุการณ์สำคัญปี 2023 ผ่านเลนส์ Nikkei Asia appeared first on THE STANDARD.

]]>
9 ตุลาคม 2004 – อัฟกานิสถานจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในประวัติศาสตร์ https://thestandard.co/onthisday09102004/ Mon, 09 Oct 2023 03:05:34 +0000 https://thestandard.co/?p=852246 เลือกตั้ง อัฟกานิสถาน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีอัฟกานิสถานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 […]

The post 9 ตุลาคม 2004 – อัฟกานิสถานจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในประวัติศาสตร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เลือกตั้ง อัฟกานิสถาน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีอัฟกานิสถานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2004 โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอัฟกานิสถานที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกไปลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดี โดย ฮามิด คาร์ไซ (Hamid Karzai) ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรักษาการ หลังการล่มสลายของรัฐบาลตาลีบันในปี 2001 ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 55.4% มากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ ถึง 3 เท่า ซึ่งผู้สมัคร 12 คนได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่า 1% ขณะที่คาดว่ามีประชาชนอัฟกานิสถานเกือบ 12 ล้านคน หรือมากกว่า 3 ใน 4 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกไปใช้สิทธิลงคะแนน

 

การจัดการเลือกตั้งได้รับการดูแลโดยองค์กรจัดการการเลือกตั้งร่วม ซึ่งมี ซาคิม ชาห์ เป็นประธาน และ เรย์ เคนเนดี ชาวอเมริกันที่ทำงานให้กับองค์การสหประชาชาติ เป็นรองประธาน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครอย่างน้อย 15 คนประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่ามีการฉ้อโกง จนทำให้ UN ต้องตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อทำการสอบสวนความผิดปกติ

 

ภาพ: Paula Bronstein / Getty Images

The post 9 ตุลาคม 2004 – อัฟกานิสถานจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในประวัติศาสตร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
แผ่นดินไหว 6.3 เขย่าอัฟกานิสถาน เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 120 คน บาดเจ็บนับพัน https://thestandard.co/afghanistan-earthquake-6-3-liters/ Sun, 08 Oct 2023 06:24:45 +0000 https://thestandard.co/?p=851996 แผ่นดินไหว อัฟกานิสถาน

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทางตะวันตกของประเทศอัฟกานิสถาน ใกล้ […]

The post แผ่นดินไหว 6.3 เขย่าอัฟกานิสถาน เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 120 คน บาดเจ็บนับพัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
แผ่นดินไหว อัฟกานิสถาน

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทางตะวันตกของประเทศอัฟกานิสถาน ใกล้กับชายแดนอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 120 คน และบาดเจ็บนับพัน ขณะที่คาดว่าตัวเลขจะพุ่งขึ้นอีก

 

แผ่นดินไหวขนาด 6.3 เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ตุลาคม) ตามเวลาท้องถิ่น (13.30 น. ตามเวลาไทย) โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองเฮรัต (Herat) ทางตะวันตกของอัฟกานิสถานไปประมาณ 40 กิโลเมตร

 

แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว รวมถึงอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงอย่างน้อย 3 ครั้ง ส่งผลให้อาคารหลายหลังได้รับความเสียหายและพังทลายลงมา ทำให้มีคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เศษซากอาคารที่พังถล่มยังตกลงมาปิดกั้นถนน เป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่สัญญาณการสื่อสารก็ถูกตัดขาด

 

โมซา อาชารี หัวหน้างานจัดการภัยพิบัติประจำจังหวัดเฮรัต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “จนถึงขณะนี้เราได้รับรายงานผู้บาดเจ็บมากกว่า 1,000 คน ในจำนวนนี้รวมถึงผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ ขณะที่มีผู้เสียชีวิตประมาณ 120 คน”

 

รายงานเบื้องต้นระบุจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วอยู่ที่ 15 คน แต่ตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอยู่ที่มากกว่า 300 คน ณ เวลานี้

 

เมืองเฮรัตเป็นเมืองเอกของจังหวัดเฮรัต ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนอิหร่านไปทางตะวันออก 120 กิโลเมตร โดยเฮรัตถูกยกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของอัฟกานิสถาน ขณะที่ประมาณการว่ามีประชากรประมาณ 1.9 ล้านคนอาศัยอยู่ในจังหวัด ตามข้อมูลของธนาคารโลกเมื่อปี 2019

 

อัฟกานิสถานประสบภัยแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเทือกเขาฮินดูกูช เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้รอยต่อของแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียกับอินเดีย

 

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว จังหวัดปักติกา (Paktika) ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 1,000 คน และทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย

 

ภาพ: Mohsen KARIMI / AFP

อ้างอิง:

The post แผ่นดินไหว 6.3 เขย่าอัฟกานิสถาน เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 120 คน บาดเจ็บนับพัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
7 ตุลาคม 2001 – สหรัฐฯ เปิดฉากสงครามต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน https://thestandard.co/onthisday07102001/ Sat, 07 Oct 2023 04:44:26 +0000 https://thestandard.co/?p=851970 สงครามอัฟกานิสถาน

หลังเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ประ […]

The post 7 ตุลาคม 2001 – สหรัฐฯ เปิดฉากสงครามต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สงครามอัฟกานิสถาน

หลังเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เรียกร้องให้กลุ่มตาลีบัน ส่งตัว อุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ให้สหรัฐฯ ในทันที แต่กลุ่มตาลีบันปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานว่าบิน ลาดินมีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจเปิดฉากปฏิบัติการเสรีภาพยั่งยืน (Operation Enduring Freedom-OEF) ในอัฟกานิสถาน ร่วมกับกองกำลังผสมนานาชาติ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2001 โดยเป็นส่วนหนึ่งของสงครามต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก ส่งผลให้กลุ่มตาลีบันถูกโค่นอำนาจรัฐบาล และต้องเปลี่ยนไปทำสงครามกองโจร

 

การต่อสู้ระหว่างกองกำลังผสมนำโดยสหรัฐฯ กับกลุ่มตาลีบันที่ใช้พื้นที่เทือกเขาในการซ่อนตัวเป็นไปอย่างยืดเยื้อนานนับทศวรรษ กระทั่งเดือนธันวาคม 2014 กองกำลังชาติสมาชิก NATO ตัดสินใจยุติปฏิบัติการสู้รบในอัฟกานิสถานอย่างเป็นทางการ และโอนความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยทั้งหมดให้กับรัฐบาลอัฟกานิสถาน

 

การที่ไม่สามารถกำจัดกลุ่มตาลีบันด้วยวิธีการทางทหารได้ ทำให้กองกำลังผสมและรัฐบาลอัฟกานิสถานตัดสินใจหันมาใช้การทูตเพื่อยุติความขัดแย้ง และบรรลุข้อตกลงสหรัฐฯ-ตาลีบันในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งกำหนดให้ต้องถอนทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานภายในปี 2021 แต่มีข้อแลกเปลี่ยนหลักคือกลุ่มตาลีบันต้องให้คำมั่นที่จะป้องกันไม่ให้กลุ่มติดอาวุธใดๆ ใช้พื้นที่อัฟกานิสถานเป็นฐานโจมตีสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอัฟกานิสถานไม่มีส่วนร่วมในข้อตกลงและปฏิเสธเงื่อนไขดังกล่าว ขณะที่การถอนทหารของสหรัฐฯ และกองกำลังผสมเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางการรุกคืบเข้ายึดครองเมืองต่างๆ ของกลุ่มตาลีบันตลอดช่วงฤดูร้อนปี 2021 จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการบุกยึดกรุงคาบูล และเข้าควบคุมอำนาจปกครองอัฟกานิสถานอีกครั้งในวันที่ 15 สิงหาคม ทำให้ อัชราฟ กานี ประธานาธิบดีคนสุดท้ายของรัฐบาลพลเรือนอัฟกานิสถาน ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ และกลุ่มตาลีบันประกาศชัยชนะและสงครามสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ

 

โดยในวันที่ 30 สิงหาคม เครื่องบินทหารของกองทัพสหรัฐฯ ลำสุดท้ายเดินทางออกจากอัฟกานิสถาน ยุติการดำรงอยู่ของกองกำลังผสมนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ และจบสิ้นสงครามอันยืดเยื้อในประเทศนี้ ซึ่งโดยรวมแล้วสงครามในอัฟกานิสถานคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 1.7-2.1 แสนคน 

 

ภาพ: U.S. Airforce / Getty Images

The post 7 ตุลาคม 2001 – สหรัฐฯ เปิดฉากสงครามต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
หญิงอัฟกานิสถานรวมตัวประท้วง หลังตาลีบันแบนร้านเสริมสวย https://thestandard.co/afghanistan-women-protest-after-taliban-banned-beauty-salon/ Fri, 21 Jul 2023 02:41:18 +0000 https://thestandard.co/?p=820015 หญิงอัฟกานิสถาน

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานหล […]

The post หญิงอัฟกานิสถานรวมตัวประท้วง หลังตาลีบันแบนร้านเสริมสวย appeared first on THE STANDARD.

]]>
หญิงอัฟกานิสถาน

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานหลายสิบชีวิตได้ออกมารวมตัวประท้วง ณ กรุงคาบูล เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านคำสั่งแบนร้านเสริมสวยของรัฐบาลตาลีบัน ขณะที่สถานการณ์เป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยิงปืนขึ้นฟ้า และฉีดน้ำเพื่อพยายามสลายการชุมนุมด้วย

 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2021 หลังจากที่ตาลีบันได้กลับมาเรืองอำนาจในอัฟกานิสถานอีกครั้ง พวกเขาก็เริ่มมีคำสั่งกีดกันผู้หญิงไม่ให้เข้าศึกษาในโรงเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังสั่งแบนไม่ให้ผู้หญิงเข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ สวนสนุก และโรงยิม รวมถึงสั่งให้ผู้หญิงแต่งกายอย่างมิดชิดในที่สาธารณะ 

 

ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงส่งเสริมคุณธรรมและป้องกันอบายมุขได้สั่งการให้ร้านเสริมสวยหลายพันแห่งในประเทศ ต้องปิดให้บริการภายในระยะเวลา 1 เดือน 

 

อนึ่ง เมื่อช่วงปลายปี 2001 กองกำลังร่วมที่นำโดยสหรัฐอเมริกาบุกเข้าไปในอัฟกานิสถาน ทำให้กลุ่มตาลีบันหมดอำนาจไป และเมื่อชาวอัฟกันได้รับอิสรภาพนั้น ร้านเสริมสวยในกรุงคาบูลและเมืองอื่นๆ ก็เริ่มผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด โดยร้านเสริมสวยเหล่านี้ถือเป็นรายได้หลักของหลายครอบครัว อีกทั้งยังเป็นสาธารณสถานเพียงไม่กี่แห่งที่ผู้หญิงจะมีโอกาสเข้าสังคมเพื่อพบปะพูดคุยกับผู้หญิงด้วยกัน

 

โดยกระทรวงส่งเสริมคุณธรรมและป้องกันอบายมุขให้เหตุผลในการออกคำสั่งดังกล่าวว่า เงินจำนวนมหาศาลที่ถูกใช้ไปกับการเสริมสวยทำให้เกิดความลำบากแก่ครอบครัวที่ยากจน ขณะที่บริการเสริมสวยบางอย่างก็ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม และการแต่งหน้ามากเกินไปทำให้ผู้หญิงไม่สามารถละหมาดได้อย่างเหมาะสม ส่วนการต่อขนตาและการม้วนผมก็ไม่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

 

การประท้วงในอัฟกานิสถานไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมักถูกควบคุมด้วยการใช้กำลัง แต่จากการรายงานของสำนักข่าว AFP การประท้วงครั้งนี้มีผู้หญิงเข้าร่วมราว 50 คน ซึ่งเรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างรวดเร็ว หนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจเสริมสวยกล่าวว่า “การประท้วงวันนี้เกิดขึ้นเพื่อพูดคุยเจรจา แต่ไม่มีใครเข้าพูดคุยหรือฟังเรา พวกเขาไม่แม้แต่จะสนใจเรา และหลังจากนั้นเพียงครู่หนึ่งพวกเขาก็ปราบปรามเราด้วยการยิงปืนขู่และฉีดน้ำ”

 

ภารกิจช่วยเหลือของสหประชาชาติในอัฟกานิสถาน (UNAMA) ออกมาประณามการสลายการชุมนุมดังกล่าว โดยระบุผ่าน Twitter ว่า “รายงานการสลายการชุมนุมต่อการประท้วงอย่างสันติของผู้หญิงที่ต่อต้านคำสั่งแบนร้านเสริมสวย ถือว่าเป็นการปฏิเสธสิทธิสตรีครั้งล่าสุดในอัฟกานิสถาน และเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง” และยังระบุอีกว่า “ชาวอัฟกานิสถานมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นโดยปราศจากความรุนแรง ผู้มีอำนาจโดยพฤตินัยต้องรักษาสิ่งนี้”

 

รายงานเมื่อเดือนที่แล้วต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติของ ริชาร์ด เบนเนตต์ ผู้รายงานพิเศษประจำอัฟกานิสถาน เผยว่า ชะตากรรมของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงในประเทศนี้ ‘อยู่ในกลุ่มที่เลวร้ายที่สุดในโลก’ เพราะการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอย่างเป็นระบบ คือหัวใจสำคัญของอุดมการณ์และการปกครองของตาลีบัน ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานอาจต้องแบกรับการแบ่งแยกทางเพศอย่างรุนแรง 

 

ปัจจุบันผู้หญิงส่วนใหญ่ยังคงถูกห้ามไม่ให้ทำงานให้กับองค์การสหประชาชาติหรือองค์กรพัฒนาเอกชน และผู้หญิงหลายพันคนถูกไล่ออกจากงานของรัฐบาลหรือได้รับค่าจ้างให้อยู่บ้าน

 

ไฮบาตุลเลาะห์ อัคฮุนซาดา ผู้นำสูงสุดของอัฟกานิสถาน กล่าวผ่านแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานกำลังได้รับการช่วยเหลือจาก ‘การกดขี่แบบดั้งเดิม’ โดยการนำระบบการปกครองของอิสลามมาใช้และฟื้นฟูสถานะของพวกเธอในฐานะ ‘มนุษย์ที่เป็นอิสระและสง่างาม’ 

 

ภาพ: AFP

อ้างอิง: 

The post หญิงอัฟกานิสถานรวมตัวประท้วง หลังตาลีบันแบนร้านเสริมสวย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตาลีบันสั่งปิดร้านเสริมสวยทุกแห่งในอัฟกานิสถาน ขีดเส้นตาย 1 เดือนต้องยุติกิจการ https://thestandard.co/taliban-ordered-beauty-salon-close-within-1-month/ Wed, 05 Jul 2023 12:00:03 +0000 https://thestandard.co/?p=812840 ตาลีบัน

รัฐบาลตาลีบันที่ปกครองอัฟกานิสถานอยู่ในขณะนี้ได้สั่งการ […]

The post ตาลีบันสั่งปิดร้านเสริมสวยทุกแห่งในอัฟกานิสถาน ขีดเส้นตาย 1 เดือนต้องยุติกิจการ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตาลีบัน

รัฐบาลตาลีบันที่ปกครองอัฟกานิสถานอยู่ในขณะนี้ได้สั่งการให้ร้านเสริมสวยในประเทศปิดให้บริการภายในระยะเวลา 1 เดือน ส่งผลให้สถานการณ์ของสตรีในประเทศนั้นใช้ชีวิตได้ยากลำบากยิ่งกว่าเดิม

 

โมฮัมหมัด ซาดิก อากิฟ (Mohammad Sadiq Akif) โฆษกกระทรวงการป้องกันอบายมุขและการเผยแพร่ศีลธรรมอันดี เปิดเผยวานนี้ (4 กรกฎาคม) ว่า “เส้นตายของการปิดร้านเสริมสวยสำหรับสตรีคือ 1 เดือนต่อจากนี้”

 

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลจากนานาประเทศรวมถึงเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ออกมากล่าวประณามการลิดรอนสิทธิสตรีที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่ตาลีบันกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งในปี 2021 หลังจากที่กองกำลังต่างชาติถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน

 

โดยเมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลตาลีบันได้สั่งปิดโรงเรียนมัธยมหญิงล้วน อีกทั้งยังสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย และห้ามเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหญิงชาวอัฟกันทำงานด้วย ขณะที่สถานที่สาธารณะหลายแห่ง เช่น โรงอาบน้ำ โรงยิม และสวนสาธารณะ ถูกปิดไม่ให้ผู้หญิงเข้าใช้บริการ

 

อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2001 กองกำลังร่วมที่นำโดยสหรัฐฯ บุกเข้าไปในอัฟกานิสถาน ทำให้กลุ่มตาลีบันหมดอำนาจไป และเมื่อชาวอัฟกันได้รับอิสรภาพนั้น ร้านเสริมสวยในกรุงคาบูลและเมืองอื่นๆ ก็เริ่มผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด โดยหลังจากที่ตาลีบันหวนคืนสู่อำนาจเมื่อราว 2 ปีก่อน ก็ยังมีหลายร้านที่เปิดให้บริการตามปกติ ซึ่งช่วยสร้างงานให้กับผู้หญิงและเปิดโอกาสให้พวกเธอได้มาใช้บริการดังกล่าวเฉกเช่นเดียวกับสตรีในประเทศอื่นๆ แต่ในอัฟกานิสถานนั้น ร้านเสริมสวยจะเปิดบริการให้กับเฉพาะผู้หญิงด้วยกันเองเท่านั้น และจะนำผ้าหรือวัสดุอื่นๆ มาปิดบังหน้าต่างร้านเพื่อไม่ให้ผู้คนมองเข้ามาจากด้านนอกได้

 

ซาฮาร์ ผู้อยู่อาศัยในกรุงคาบูลที่ปกติแล้วเธอจะไปร้านเสริมสวยทุก 2-3 สัปดาห์เพื่อทำผมและทำเล็บ กล่าวว่า เธอรู้สึกว่าช่องทางสำหรับการเข้าสังคมอย่างปลอดภัยภายนอกบ้านแหล่งสุดท้ายได้หลุดลอยไปแล้ว

 

“ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานสวนสาธารณะ ฉะนั้น ร้านเสริมสวยจึงเป็นสถานที่ที่ดีที่เราจะได้พบปะเพื่อนๆ…มันเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ออกไปเจอผู้คน ได้พบปะกับผู้หญิงคนอื่นๆ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ” เธอกล่าว “ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะพบพวกเขาอย่างไร จะเจอพวกเขาอย่างไร จะพูดคุยกันอย่างไร…ฉันคิดว่ามันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเราและผู้หญิงทั่วอัฟกานิสถาน”

 

ภาพ: Elise Blanchard / For The Washington Post via Getty Images

อ้างอิง:

The post ตาลีบันสั่งปิดร้านเสริมสวยทุกแห่งในอัฟกานิสถาน ขีดเส้นตาย 1 เดือนต้องยุติกิจการ appeared first on THE STANDARD.

]]>