ไลฟ์สไตล์เพื่อคนรุ่นใหม่ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 19 Dec 2023 10:14:34 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ยูโอบีผนึก 5 พาร์ตเนอร์ เปิดตัวบัตรเครดิต Co-brand ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย https://thestandard.co/uob-5-partnered-co-brand-credit-card/ Tue, 19 Dec 2023 10:14:34 +0000 https://thestandard.co/?p=878569 ยูโอบี

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ยกระดับการให้บริการทางการเงินด้ว […]

The post ยูโอบีผนึก 5 พาร์ตเนอร์ เปิดตัวบัตรเครดิต Co-brand ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ยูโอบี

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ยกระดับการให้บริการทางการเงินด้วยการเปิดตัวบัตรเครดิต Co-brand ร่วมกับ 5 แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ แกร็บ, ลาซาด้า, แม็คโคร, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และไทย รอยัล ออร์คิด พลัส การเปิดตัวบัตรเครดิต Co-brand ทั้ง 5 นี้ เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปเมื่อต้นปี 2565 ซึ่งทำให้ธนาคารมีจำนวนลูกค้ารายย่อยเกือบ 8 ล้านรายทั่วภูมิภาคอาเซียน และสามารถมอบสิทธิประโยชน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

 

สุพรทิพย์ พงศาชำนาญกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Card Business ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า การเปิดตัวบัตร Co-brand ทั้ง 5 นี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการทำให้ธนาคารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของลูกค้า บัตรแต่ละใบได้รับการออกแบบเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน 

 

“เรารู้สึกตื่นเต้นกับความร่วมมือครั้งนี้มาก เพราะจะทำให้ธนาคารมอบบริการทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความสนใจของลูกค้าที่แตกต่างกัน ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้เรามอบบริการด้านการเงินที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะแต่ในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมถึงภูมิภาคอาเซียน และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้ธนาคารยูโอบีมีความโดดเด่นและแตกต่าง”​

 

โดยบัตรเครดิต Co-brand ร่วมกับ 5 แบรนด์ชั้นนำ มีดังนี้ 

 

บัตร UOB Grab เพื่อการใช้ชีวิตแบบคนเมือง

บัตร UOB Grab ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทเกือบจะในทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การชำระเงิน การแชร์รถ และการสั่งอาหาร ที่ผ่านมาผู้ถือบัตรยูโอบีมีการทำธุรกรรมบน Grab เกือบ 1 ล้านรายการในแต่ละเดือน บัตร UOB Grab ใบนี้จะนำเสนอบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบดิจิทัลอย่างราบรื่น และมอบสิทธิประโยชน์เหนือระดับและความสะดวกสบายให้กับผู้ถือบัตร

 

บัตร UOB Lazada เพื่อนักช้อปออนไลน์ตัวยง

การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของผู้ถือบัตรยูโอบีในการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 ในปี 2566 ความร่วมมือกับ Lazada แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของยูโอบีในการมอบโซลูชันทางการเงินที่ออกแบบตามความชอบของลูกค้า ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ผู้ถือบัตร UOB Lazada จะได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้น 10 เท่าเมื่อซื้อสินค้าในลาซาด้า และรับคะแนนโบนัส 30 เท่าในเดือนเกิด และข้อเสนอที่ดีที่สุดในช่วงเมกะแคมเปญของลาซาด้า บัตร UOB Lazada ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เป็นนักช้อปออนไลน์ตัวยง

 

บัตร UOB Makro สำหรับนักช้อปที่มองหาความคุ้มค่า 

จากผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียนปี 2566 พบว่าร้อยละ 30 ของคนไทยมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการซื้อของใช้ที่จำเป็น บัตร UOB Makro จึงตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการและลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการจับจ่าย โดยมอบคะแนนสะสมสำหรับการซื้อทุกครั้ง ซึ่งสามารถแลกบัตรกำนัลแม็คโครหรือแลกรับเงินคืนจากยอดซื้อที่แม็คโคร

 

บัตร UOB Mercedes สำหรับคนที่ชื่นชอบความหรูหรา

การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของยูโอบีมากกว่าร้อยละ 40 มาจากลูกค้าที่มีรายได้ค่อนข้างสูง บัตร UOB Mercedes จึงได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา โดยเฉพาะความหรูหราแห่งยานยนต์ บัตรใบนี้มอบสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น ส่วนลดจากตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ และการสะสมคะแนนคูณ 8 เมื่อจองรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ และคะแนนคูณ 2 เมื่อใช้จ่ายในหมวดอื่นๆ

 

บัตรยูโอบี ไทย รอยัล ออร์คิด พลัส (UOB ROP) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง

ในปี 2566 การใช้จ่ายในหมวดการเดินทางของบัตรเครดิตยูโอบีมีสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยมียอดใช้จ่ายตั๋วเครื่องบิน คิดเป็นร้อยละ 37 ของยอดใช้จ่ายผ่านบัตร บัตรเครดิต UOB ROP จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อนักเดินทางที่ต้องเดินทางเป็นประจำ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ เช่น การได้รับสถานะสมาชิกบัตรทองอย่างรวดเร็วในโปรแกรมรอยัล ออร์คิด พลัส และการแปลงการใช้จ่ายเป็นไมล์สายการบินที่คุ้มค่า

 

บัตรเครดิต Co-brand ทั้ง 5 ใบของธนาคารยูโอบีนี้ เป็นบัตรที่เพิ่มมาจากบัตรเครดิตหลักทั้ง 5 ใบ ที่ทางธนาคารคัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการที่ชาญฉลาด โดยมอบสิทธิประโยชน์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อความชอบที่แตกต่างกันของลูกค้า

 

ทั้งนี้ ธนาคารยูโอบีเป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์ และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชีย-แปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ 

 

ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดอันดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติ้งส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์

The post ยูโอบีผนึก 5 พาร์ตเนอร์ เปิดตัวบัตรเครดิต Co-brand ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดพิกัดช่อง YouTube สายฮีลใจ ดูแล้วสงบ ผ่อนคลายในไลฟ์สไตล์สุดชิล https://thestandard.co/youtube-peaceful-channel/ Sat, 25 Sep 2021 06:41:53 +0000 https://thestandard.co/?p=540493 YouTube

เวลาที่ได้อยู่บ้านและเปิดช่อง YouTube ดูอะไรเพลินๆ นับเ […]

The post เปิดพิกัดช่อง YouTube สายฮีลใจ ดูแล้วสงบ ผ่อนคลายในไลฟ์สไตล์สุดชิล appeared first on THE STANDARD.

]]>
YouTube

เวลาที่ได้อยู่บ้านและเปิดช่อง YouTube ดูอะไรเพลินๆ นับเป็นช่วงเวลาที่เติมเต็มวันหยุดให้อิ่มเอมไปกับบรรยากาศแสนชิลที่ไม่ต้องออกไปตามหาจากข้างนอกให้เปลืองค่าใช้จ่าย สำหรับใครที่กำลังมองหาช่อง YouTube ที่นำเสนอคอนเทนต์ดูเพลิน ได้แรงบันดาลใจทั้งในการทำอาหาร ปลูกผัก แต่งห้อง ทำความสะอาด ผ่านไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน THE STANDARD POP ได้คัดสรรช่อง YouTube สายฮีลใจที่คอนเทนต์ดี ภาพสวย เพลงบรรเลงไพเราะ และช่วยเติมเต็มบรรยากาศวันอยู่บ้านให้เต็มอิ่มและมีความสุขมาฝากทุกคนแล้วดังนี้ 

 

 

1. Channel: Nao 

จุดเด่น: นำเสนอไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่แสนเรียบง่าย สงบ ผ่อนคลาย คนดูจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมชงชา ดริปกาแฟ ทำอาหารสไตล์ญี่ปุ่น จัดบ้านให้เป็นระเบียบ และระหว่างดูๆ อยู่ จะมีน้องแมวเหมียวที่เธอเลี้ยงไว้เดินผ่านกล้อง และบางครั้งก็เป็นดาวเด่นประจำคลิปไปเลยก็มี ภาพสวย เสียงคมชัด และถ่ายทำออกมาเป็นธรรมชาติ ได้ฟีลวันพักผ่อนอยู่บ้านมากๆ 

 

https://www.youtube.com/watch?v=ZH4K0bu3OAo

 

 

2. Channel: The Hanoi Chamomile 

จุดเด่น: เป็นช่องของหนุ่มชาวฮานอย ประเทศเวียดนาม ที่นำเสนอไลฟ์สไตล์ส่วนตัวผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการนั่งทำงาน อ่านหนังสือ ดูซีรีส์ และมี Vlog ให้ได้เลือกชมด้วย สิ่งที่โดดเด่นมากๆ น่าจะเป็นเพลย์ลิสต์ตลอดทั้งคลิป ที่เขาจัดลำดับเพลงได้อย่างเพลิดเพลิน ฟังไปยาวๆ ในคอนเซปต์ที่แตกต่างกัน บางวันเลือกเพลงที่มีผลต่อสมาธิเวลาทำงานหรืออ่านหนังสือ บางวันเป็นเพลงที่ฟังแล้วได้พักใจ หรืองีบหลับได้เลย 

 

 

 

3. Channel: miku / 未来

จุดเด่น: ใครที่ชอบ YouTube แนวเปิดเพลย์ลิสต์คลอเพลินๆ และได้ชมกิจกรรมอาร์ตๆ ไปด้วย แนะนำให้ติดตาม Miku ได้เลย เธอเป็นสาวชาวญี่ปุ่นที่นำเสนอไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้ง Vlog, อาหาร, ชีวิตการทำงาน, Morning Routine และที่พิเศษสุดๆ คือการวาดรูป ซึ่งนอกจากคนดูจะได้ดูเธอวาดรูปบนเฟรมผ้าใบแบบชิลๆ แล้ว เพลงที่อยู่ในเพลย์ลิสต์ของแต่ละคลิปก็เพราะมากๆ ด้วย 

Link: https://www.youtube.com/channel/UCCqQcLx_lIz70zeWzlB6fmQ

 

 

4. Channel: Michelle Choi

จุดเด่น: ช่องของ Michelle Choi นำเสนอไลฟ์สไตล์ของสาวสัญชาติเกาหลีใต้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ผ่านมุมมองที่ดูเป็นธรรมชาติ มีความเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่โชว์ด้าน Self-Care ในด้านต่างๆ ออกมาได้อย่างน่าสนใจ และมีแรงดึงดูดที่ทำให้ผู้ชมตกหลุมรักเสน่ห์อันเป็นธรรมชาติของเธอ สิ่งที่เราชอบมากเป็นพิเศษคือ Habits ของเธอที่กระตุ้นให้เราอยากลุกขึ้นมาทำอะไรที่เป็นการรักตัวเองบ้าง เช่น ทำอาหารอร่อยๆ กินเอง ทั้งเฮลตี้และอิ่มอร่อยด้วย การแต่งตัว แต่งหน้า ทำเล็บ ที่สร้างความสุขทางใจ การทำความสะอาดจนเป็นนิสัย ทำให้บ้านน่าอยู่และพาจิตใจให้รื่นรมย์ และที่สำคัญคือนิสัยการชอบออกกำลังกายที่ทำให้สุขภาพดี 

 

 

 

5. Channel: 슛뚜sueddu

จุดเด่น: ช่องสาวชาวเกาหลีใต้คนนี้นำเสนอคอนเทนต์ในช่องของเธอด้วยบรรยากาศที่ชวนให้เราคิดถึงเกาหลีใต้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นมู้ดแอนด์โทน, สีสันของภาพในโทนเย็นที่ดูแล้วรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และสงบ ขณะเดียวกันกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันของ Sueddu ก็เป็นสิ่งที่ดูเพลิน ไม่ว่าเธอจะซักผ้า ทำความสะอาด ถูพื้น เล่นกับสัตว์เลี้ยง และบางครั้งก็ทำให้เราอยากลุกขึ้นมาทำอาหารเฮลตี้กินเองบ้าง นอกจากนี้ น้องหมาขนปุกปุกสีน้ำตาลของเธอที่มักจะเดินผ่านกล้อง ก็ช่วยเรียกรอยยิ้มให้คนดูได้อบอุ่นใจและรู้สึกเอ็นดูอยู่เสมอ 

 

The post เปิดพิกัดช่อง YouTube สายฮีลใจ ดูแล้วสงบ ผ่อนคลายในไลฟ์สไตล์สุดชิล appeared first on THE STANDARD.

]]>
13 Smart Watch ที่เหมาะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง https://thestandard.co/13-smart-watch/ Wed, 13 Jan 2021 06:30:14 +0000 https://thestandard.co/?p=442487 13 Smart Watch ที่เหมาะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง

ตัวเลขการเติบโตของ Smart Watch ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 20 […]

The post 13 Smart Watch ที่เหมาะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
13 Smart Watch ที่เหมาะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง

ตัวเลขการเติบโตของ Smart Watch ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 เติบโตขึ้นกว่าปีก่อนถึง 20% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากเทรนด์รักสุขภาพและโซเชียลมีเดียที่มีส่วนทำให้ Smart Watch โดยเฉพาะในกลุ่มสุขภาพและไลฟ์สไตล์เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน เราจึงอยากพาผู้อ่านมาสำรวจนาฬิกาในตลาดบ้านเราว่า มีเรือนไหนน่าสนใจและเหมาะกับการเริ่มต้นปีใหม่ของตัวเอง โดยเราแบ่งประเภทไว้สำหรับคนออกกำลังกาย คนเล่นฟิตเนส คนเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง ไปจนถึงกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่สวมใส่ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้คุ้มค่าที่สุด

 

13 Smart Watch ที่เหมาะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง

 

อ่านรีวิวทุกเรือนฉบับเต็มได้ที่ https://thestandard.co/choosing-a-smart-watch-matches-your-favorite-sport/ 

 

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post 13 Smart Watch ที่เหมาะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
airasia.com ชูโปรดักต์ SNAP-HOTEL-FlyBeyond บุกตลาดไลฟ์สไตล์ https://thestandard.co/airasia-snap-hotel-flybeyond/ Thu, 03 Dec 2020 01:17:14 +0000 https://thestandard.co/?p=428048 airasia.com ชูโปรดักต์ SNAP-HOTEL-FlyBeyond บุกตลาดไลฟ์สไตล์

ก้าวสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์เต็มตัวกับ AirAsia ยุคใหม่ ที่ไม่ […]

The post airasia.com ชูโปรดักต์ SNAP-HOTEL-FlyBeyond บุกตลาดไลฟ์สไตล์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
airasia.com ชูโปรดักต์ SNAP-HOTEL-FlyBeyond บุกตลาดไลฟ์สไตล์

ก้าวสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์เต็มตัวกับ AirAsia ยุคใหม่ ที่ไม่ได้ให้บริการเฉพาะธุรกิจการเดินทางเเละสายการบินเท่านั้น แต่พ่วงด้วยไลฟ์สไตล์ ทั้งเที่ยวแบบเต็มตัว ผ่านบริการใหม่ครบวงจร ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก แหล่งกินดื่มเที่ยว รวมถึงดีลต่างๆ มากมาย ได้แก่ SNAP บริการตั๋วเครื่องบินพร้อมโรงเเรมที่พัก HOTEL บริการโรงเเรมที่พัก FlyBeyond บริการจองตั๋วเครื่องบินไปยังจุดหมายปลายทางที่มากกว่าเส้นทางบินของ AirAsia ACTIVITY กิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ และ UNLIMITED DEAL ดีลสุดคุ้มตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ โดยทั้งหมดสามารถซื้อได้ง่ายๆ ผ่าน airasia.com 

 

สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน Thai AirAsia กล่าวว่า ตลอดกว่า 17 ปี ที่ Thai AirAsia ให้บริการ ทุกคนจดจำเราในฐานะผู้นำสายการบินราคาประหยัดในภูมิภาคอาเซียน เเละก้าวสูงสุดสู่การได้รับรางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก 11 ปีซ้อน (2552-2562) จากการจัดอันดับของสถาบันสกายแทรกซ์ ซึ่งเราเชื่อมั่นเสมอในการไม่หยุดพัฒนา เพื่อทำให้การเดินทางทางอากาศเป็นเรื่องง่ายเเละคุ้มค่า ตามเเนวคิด ‘ใคร ใคร…ก็บินได้’ สู่การเป็นสายการบินดิจิทัล นวัตกรรมสำหรับทุกคน

 

“วันนี้คู่เเข่งของเราจะไม่ใช่เฉพาะสายการบินเท่านั้น เราเชื่อมั่นว่าจะเติบโตในการก้าวสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค การค้าปลีกออนไลน์ยุคใหม่ได้ โดยให้ airasia.com เป็นเเพลตฟอร์มทางเลือกเเรกๆ ที่เป็นมิตรสำหรับทุกคน คิดถึงความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเรื่องการบินหรือไลฟ์ไตล์ต้องเข้ามาที่ airasia.com ก่อน” 

 

สันติสุข ยังเผยอีกว่า AirAsia ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2564 เเละอย่างน้อยต่อไปอีก 3 ปี AirAsia จะเดินหน้ารุกในการพัฒนาแพลตฟอร์ม airasia.com เต็มที่ โดยเฉพาะการเพิ่มสินค้าเเละบริการใหม่ เช่น ธุรกิจด้านบริการ สุขภาพ การเเพทย์ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีเเนวโน้มเติบโตหลังสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจด้านเกษตร สินค้าบริการชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งธุรกิจด้านการขนส่ง โลจิสติกส์ โดยใช้จุดเเข็งของเครือข่ายสายการบินในกลุ่ม AirAsia

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post airasia.com ชูโปรดักต์ SNAP-HOTEL-FlyBeyond บุกตลาดไลฟ์สไตล์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘The PARQ Collection’ Public Art ที่ไม่จำกัดแค่ห้องสี่เหลี่ยม และอยากเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน [Advertorial] https://thestandard.co/the-parq-collection/ Thu, 19 Nov 2020 07:30:21 +0000 https://thestandard.co/?p=421331 The PARQ Collection Public Art

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้ ‘ศิลปะ’ ถูกนำมาเป็นตัวชี้วัดคุณภา […]

The post ‘The PARQ Collection’ Public Art ที่ไม่จำกัดแค่ห้องสี่เหลี่ยม และอยากเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
The PARQ Collection Public Art

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้ ‘ศิลปะ’ ถูกนำมาเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของอาคารและชีวิตของผู้คนมากขึ้น นั่นเพราะงานศิลปะสามารถสร้าง ‘ความผ่อนคลาย’ ได้ และด้วยแนวความคิดที่ว่า งานศิลปะไม่จำเป็นต้องพบเจอในภายห้องสี่เหลี่ยมเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าแบบนั้นเท่ากับว่า หากเราต้องการดื่มด่ำกับงานศิลปะ เราอาจไม่สามารถเดินทางไปได้ทุกวัน ต้องตั้งใจหาจังหวะดีๆ ไปในช่วงวันหยุด แต่แท้จริงแล้วเราควรพบเจอกับงานศิลปะได้ทุกวัน และไม่ต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเท่านั้น

 

แนวคิดดังกล่าวทำให้ ‘เดอะ ปาร์ค (The PARQ)’ โครงการไลฟ์สไตล์มิกซ์ยูสแห่งใหม่ภายใต้แนวคิด Life Well Balanced ที่มุ่งพัฒนาออฟฟิศและรีเทลอัจฉริยะ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้ศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยเป็นองค์ประกอบหลักของการพัฒนาพื้นที่ใช้งานแบบผสมผสาน

 

การเปิดตัว ‘เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น (The PARQ Collection)’ งานศิลปะสาธารณะร่วมสมัย หรือ Public Art ภายในพื้นที่โครงการเดอะ ปาร์ค สะท้อนการเชื่อมต่อกันอย่างสมดุลระหว่างเมืองกับธรรมชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างคุณค่าทางจิตใจให้แก่ผู้ใช้อาคารและผู้มาเยือน

 

The PARQ Collection Public Art   

 

เตรียมการ 2 ปีกว่าจะเป็น ‘เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น’

ด้วยความที่ ‘เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น’ เป็นงานศิลปะร่วมสมัยสำหรับจัดแสดงอย่างถาวร ดังนั้นงานนี้จึงต้องอาศัยการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่ง ‘เดอะ ปาร์ค’ เองก็จริงจังกับเรื่องศิลปะเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ตั้งแผนก Art & Culture ขึ้นมาดูแลเรื่องงานศิลปะโดยตรง โดยมี ‘จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย’ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าภัณฑารักษ์ และผู้บริหารฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม โครงการ เดอะ ปาร์ค

 

‘จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย’ คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงศิลปะมานานกว่า 10 ปี โดยสั่งสมประสบการณ์จากการทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ TCDC (Thailand Creative & Design Center) มา 11 ปี ก่อนจะมาเริ่มทำงานในเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการเดอะ ปาร์ค จนเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ปลุกปั้น ‘เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น’ มาเองกับมือ 

 

“การมี เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ไม่เพียงแต่ทำให้เมืองไทยมี Public Art เพิ่มขึ้น แต่ในมุมของวิชาชีพ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากเมื่อภาคเอกชนให้ความสำคัญกับงานศิลปะและงานออกแบบเชิงวัฒนธรรม ผู้บริหารโครงการเดอะ ปาร์ค ตั้งใจลงทุนกับทรัพยากรบุคคล และดึงผู้ที่เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลด้านศิลปะและวัฒนธรรมโดยเฉพาะ” จรินทร์ทิพย์เล่าด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง

 

The PARQ Collection Public Art

จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย หัวหน้าภัณฑารักษ์และผู้บริหารฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม โครงการ เดอะ ปาร์ค

 

แต่กว่า เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น จะสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีการเตรียมการมากว่า 2 ปี โดยอันดับแรกนั้น ทีมภัณฑารักษ์ต้องทำความเข้าใจถึงคอนเซปต์ Life Well Balanced ของโครงการเดอะ ปาร์ค ให้ถ่องแท้เสียก่อน ตลอดจนสำรวจพื้นที่จริงที่จะใช้สำหรับติดตั้งงานศิลปะ และด้วยความที่เป็น Public Art ชิ้นงานจึงต้องเข้ากับบริบทของพื้นที่ที่นำมาตั้งอย่างลงตัว

 

“หลังจากพิจารณาพื้นที่แล้ว เราได้แนวคิดว่า ธรรมชาติคือแก่นแท้ของสรรพสิ่งทุกอย่างในโลก และเป็นสิ่งที่ถูกนำมาตีความเป็นความหมายหรือรูปแบบทางศิลปะได้มากมาย”

 

‘The Cradle’ การเกิด เติบโต และรุ่งเรืองของบางสิ่งบางอย่าง 

‘เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น’ ประกอบด้วยงานศิลปะ 5 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นนั้นศิลปินจะได้รับโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือในจำนวนนี้ ผลงาน 3 ชิ้นเป็นฝีมือที่มาจากศิลปินคนไทย เริ่มด้วยผลงานศิลปะชิ้นแรก เนื่องจากจรินทร์ทิพย์ต้องการผลักดันให้ศิลปินไทยมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงผลงาน และได้มีโจทย์ท้าทายอันใหม่ในการทำงานวิชาชีพของตัวเอง สำหรับชิ้นแรกนั้นจรินทร์ทิพย์และทีมภัณฑารักษ์ได้ตีความคำว่าธรรมชาติ ที่หมายถึงผลงานที่แสดงสัจจะของวัสดุ จึงได้นึกถึงงานเซรามิกขึ้นมา

 

“ด้วยความที่งานเซรามิกทำจากดิน มันจึงมีความเป็นสัจจะแห่งวัสดุ และความเป็นธรรมชาติอยู่ในนั้น และเป็นงานคราฟต์ที่ต้องอาศัยความประณีต ใช้เวลา อีกทั้งมีคุณสมบัติที่ดูแล้วสร้างความสงบผ่อนคลาย และอยู่กับอาคารได้ตลอดไป อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือเราต้องเอาชนะข้อจำกัดในด้านการผลิตให้ได้ เนื่องจากโดยทั่วไปเรามักไม่ค่อยพบเห็นประติมากรรมที่ทำมาจากเซรามิกขนาดใหญ่เท่าไรนัก”

 

เมื่อนึกถึงงานเซรามิก ชื่อแรกที่จรินทร์ทิพย์นึกถึง ‘อ้อ สุทธิประภา’ ศิลปินผู้มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนในเรื่องกระบวนการผลิตที่ประณีตและละเอียดลออ จนเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างชาติ

 

The PARQ Collection Public Art

 

งานชิ้นนี้ชื้อว่า ‘The Cradle’ ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ตรงบริเวณโถงลิฟต์อาคารสำนักงาน โดยมีรูปแบบเป็นงานเซรามิกที่มีลักษณะเหมือนถูกสานเข้าไว้ด้วยกัน โดยความยากของการรังสรรค์งานชิ้นนี้อยู่ที่การออกแบบเซรามิกให้เป็นรูปทรงโค้งที่เผาแล้วไม่ยุบตัว และขณะเดียวกันก็ยังเป็นชิ้นงานที่มีน้ำหนักมากอีกด้วย จึงต้องมีการพูดคุยกับวิศวกรอย่างใกล้ชิด เพื่อคำนวณน้ำหนักสำหรับการติดตั้งให้พอดี 

 

ดังนั้น ‘The Cradle’ จึงอาศัยความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบและคำนวณโครงสร้าง ไปจนถึงการสร้างชิ้นส่วนเซรามิกเพื่อประกอบเป็นชุดประติมากรรมที่สมบูรณ์แบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อสื่อความรู้สึกเกี่ยวกับการเกิด เติบโต และรุ่งเรืองของบางสิ่งบางอย่าง 

 

“สาเหตุที่ทำเป็นลักษณะเซรามิกติดตั้งบริเวณโถงลิฟต์ เนื่องจากศิลปินมีแนวคิดว่า ตึกใหญ่นั้นเปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ และส่วนสำคัญที่ทำให้ต้นไม้ต้นนั้นยังคงอยู่ได้คือรากอันแข็งแรง แต่รากนั้นมักจะชอนไชอยู่ใต้ดิน ไม่ค่อยโผล่ขึ้นมาด้านบน เช่นเดียวกัน อาคารแห่งนี้ รวมไปถึงความเจริญของศิลปะก็เปรียบเสมือนองค์กร สิ่งที่สำคัญสำหรับองค์กร และขาดไม่ได้เลยคือมนุษย์ผู้ทำงานอยู่เบื้องหลัง เสมือนรากที่ยึดต้นเอาไว้ ศิลปินจึงตั้งใจออกแบบให้รู้สึกว่า ชิ้นงานนี้เป็นรากที่โผล่ออกมาจากตึก” จรินทร์ทิพย์กล่าว

 

‘เกื้อกูล’ สมดุลแห่งชีวิตและการพักผ่อน

สำหรับชิ้นที่สองนั้น จรินทร์ทิพย์อยากได้งานที่มีลักษณะรูปทรงเลียนแบบความเป็นธรรมชาติ สำหรับตั้งอยู่บริเวณหน้าอาคารคอยต้อนรับผู้คนในบริเวณจุดรับส่ง โดยใช้วัสดุเป็นสเตนเลส เนื่องจากไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร เสน่ห์ของวัสดุก็จะยังคงอยู่ โดยงานนี้ได้ ‘พงษธัช อ่วยกลาง’ ประติมากรผู้มีผลงานมากมายเป็นผู้รับผิดชอบ 

 

โจทย์ของผลงานชิ้นนี้คือต้องเป็นประติมากรรมสเตนเลสผิวกระจกที่มีขนาดใหญ่แบบไร้รอยต่อ และด้วยสถานที่ติดตั้งอยู่บริเวณเกาะกลาง ดังนั้นการออกแบบจึงต้องมีขนาดและมิติที่พอดีให้รถสามารถเลี้ยวได้ และเมื่อได้ขนาดที่เหมาะสมก็ถึงเวลาลงมือสร้าง เนื่องจากการผลิตในเมืองไทยมีข้อจำกัดเรื่องหน้ากว้างของสเตนเลส ทำให้พงษธัชต้องนำสเตนเลสมาตีด้วยมือจนเนี้ยบที่สุดแบบไร้รอยต่อ

 

The PARQ Collection Public Art

 

ผลงานของพงษธัชใช้ชื่อว่า ‘เกื้อกูล’ ซึ่งสื่อถึงสองพลังที่เกื้อกูลกัน ได้แก่ พลังแห่งการทำงาน และพลังแห่งการใช้ชีวิต ซึ่งเปรียบได้กับพลังทั้งสองชนิดที่ต่างดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่ยังคงจำเป็นต้องพึ่งพิงซึ่งกันและกัน โดยลักษณะของชิ้นงานมีรูปร่างหน้าตาเหมือนดอกมันแซง ซึ่งเป็นมันประเภทหนึ่งที่พบได้ในภาคอีสาน ซึ่งมีขนาดยาวอยู่ใต้ดิน และตัวใบรูปทรงคล้ายกับศิลปะชิ้นนี้

 

“อาจจะจินตนาการได้ว่ารูปทรงของผลงานชิ้นนี้เหมือนกับใบมันแซงที่หล่นลงมา เสน่ห์ของมันคือรูปทรงของสองใบที่เกือบจะซ้อนกัน คล้ายกับมือของพระเจ้าและมือของมนุษย์ที่กำลังจะสัมผัสกัน คุณโด่งเห็นโลโก้ของ เดอะ ปาร์ค ที่เป็นตัวอักษร P และ Q กำลังจะซ้อนกัน จึงตีความเป็นแบบนี้” จรินทร์ทิพย์เผย

 

‘The Cocoon’ พื้นที่สงบเล็กๆ สำหรับหลบหลีกความวุ่นวาย

ส่วนงานชิ้นที่สามนั้น จรินทร์ทิพย์ระบุว่า อยากได้งานที่กลมกลืนไปกับสภาวะแวดล้อม และสื่อถึงธรรมชาติกับมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว ด้วยความที่โครงการฯ มีพื้นที่สวนลอยฟ้าบริเวณชั้น 3 จึงมองหางานศิลป์ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ช่วยสร้างความผ่อนคลาย โดยเฉพาะคนทำงาน ในช่วงพักสั้นๆ ระหว่างวัน

 

ผู้รับผิดชอบงานนี้คือ ‘สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์’ แห่งสนิทัศน์ สตูดิโอ ซึ่งเป็นภูมิสถาปนิกที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ อีกทั้งยังเป็นศิลปินที่เน้นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ ‘Space’ ที่หมายถึงพื้นที่ข้างในและข้างนอก ทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม

 

งานศิลปะชิ้นนี้ใช้ชื่อว่า ‘The Cocoon’ ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นที่สงบเล็กๆ ใจกลางเมืองสำหรับหลบหลีกความวุ่นวาย ให้ผู้ที่ผ่านไปมาได้แวะพักผ่อนหย่อนใจในระหว่างวัน โดยดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากรังไหมที่ห่อหุ้มและปกป้องดักแด้ที่อยู่ภายใน

 

The PARQ Collection Public Art

 

ผลงานชิ้นนี้ต้องการสื่อถึงเมืองและธรรมชาติ ซึ่งแม้จะมีความแตกต่างกัน แต่กลับสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ผิวของผลงานทำจากสเตนเลส เพื่อสะท้อนภาพธรรมชาติโดยรอบ และในขณะเดียวกันก็เป็นการนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น รวมถึงเมื่อสายลมพัดมากระทบ ชิ้นงานจะมีเสียงกระดิ่งคลอเบาๆ ลอดออกมา 

 

‘งานศิลปะ’ ที่มีเบื้องหลังเป็น ‘เทคโนโลยี’

สำหรับอีกสองผลงานของ ‘เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น’ เป็นฝีมือรังสรรค์ของ Studio Drift ศิลปินจากอัมสเตอร์ดัม ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเสร็จพร้อมให้รับชมอย่างเต็มรูปแบบ (Full Collection) ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 

 

ถึงจะไม่สามารถเปิดเผยดีไซน์ได้ เพราะอยากให้ทุกคนเห็นพร้อมกันเมื่อการติดตั้งชิ้นงานเสร็จสิ้น แต่จรินทร์ทิพย์ก็ทิ้งน้ำจิ้มเล็กๆ ไว้ว่า งานทั้งสองชิ้นจะเป็นศิลปะที่นำเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยอาคารของเดอะ ปาร์ค ออกแบบโดยอาศัยเทคโนโลยีมากมายเข้ามาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน จึงอยากได้งานศิลปะที่ผสมผสานเทคโนโลยี แต่ยังให้ความรู้สึกเป็นงานศิลปะอยู่ ซึ่งผลงานของ Studio Drift นับว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก 

 

“Studio Drift เป็นศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์ที่โด่งดังมาก และเป็นศิลปินที่มีแนวคิดตรงกับ เดอะ ปาร์ค จุดเด่นของ Studio Drift คือเป็นศิลปินที่ทำงานศิลปะโดยใช้เทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบทุกชิ้น โดยงานทุกชิ้นมีระบบสมองกล วิศวกรรม และการคำนวณอยู่เบื้องหลังเสมอ อีกทั้งประเด็นที่ทางศิลปินสนใจล้วนเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่สำคัญคืองานที่จะถูกนำมาติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของ เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่นนี้ ยังถือเป็นงานศิลปะชิ้นแรกของ Studio Drift ที่ติดตั้งถาวรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย”

 

ศิลปะไม่ใช่เรื่องที่เข้าถึงยาก 

จรินทร์ทิพย์ย้ำว่า ไม่อยากให้คนมองศิลปะเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่เป็นเรื่องของปัจเจกที่แล้วแต่ว่าใครจะชอบ และทำความเข้าใจอย่างไร ในฐานะหัวหน้าภัณฑารักษ์ของโครงการ เดอะ ปาร์ค แล้ว จรินทร์ทิพย์มองว่าหน้าที่ของศิลปะที่ดีคือช่วยจรรโลงบรรยากาศให้ดูสวยงาม และสร้างบทสนทนา แต่ถ้าหากใครต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับงานศิลปะบางอย่าง นั่นคือคำตอบที่ศิลปินแฝงเอาไว้

 

The PARQ Collection Public Art

 

“อยากให้มองความงามเป็นเรื่องปัจเจก จะชอบหรือไม่ชอบ จะว่าสวยหรือไม่สวยนั้นแล้วแต่คนมอง แต่อย่างน้อยคนที่ได้สัมผัสกับศิลปะเหล่านี้ทุกวันจะรู้สึกเริ่มคุ้นชินกับมัน ในฐานะส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน สิ่งที่ เดอะ ปาร์ค ต้องการจะทำคือ ลดทอนแนวคิดที่ว่าศิลปะคือเรื่องแปลกปลอม และเชื่อว่าถ้าหากศิลปะจะช่วยจุดประกาย สร้างบทสนทนา มันก็เป็นไปตามระดับขั้นของมัน

 

“สำหรับศิลปะนั้น หน้าที่ในเบื้องต้นของมันเลยก็คือเห็นแล้วสวยงาม โดยเฉพาะอย่าง เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ที่เราตั้งใจสร้างสรรค์ออกมาให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย มีความสุข ทำให้พื้นที่มีชีวิตชีวาขึ้นมา เพียงเท่านี้ก็เท่ากับประสบความสำเร็จเบื้องต้นแล้ว และถ้าหากผลงานเหล่านี้มันทำให้เกิดบทสนทนาขบคิดขึ้นมา ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากขึ้น

 

“ที่สุดแล้ว เราอยากให้คนคุ้นชินกับงานศิลปะ และมองว่ามันไม่ใช่ของไกลตัว แต่เป็นของที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา เรามีสิทธิ์ที่จะเข้าใจหรือตีความมันอย่างไรก็ได้ ตามประสบการณ์หรือความรู้สึกของเรา นั่นคือหน้าที่ของงานศิลปะ และในอนาคตก็ฝันอยากให้เราได้มีโอกาสสัมผัสศิลปะดีๆ โดยที่ไม่ต้องมีรั้วกั้นมากขึ้น” จรินทร์ทิพย์กล่าว

 

สนับสนุนงานศิลปะในทุกรูปแบบ

ในฐานะที่ ‘เดอะ ปาร์ค’ ให้ความสำคัญกับงานศิลปะถึงขนาดที่ตั้ง ‘แผนก Art & Culture’ ขึ้นมาโดยเฉพาะ ที่นี่จึงเป็นสถานที่พร้อมสนับสนุนงานศิลปะในทุกรูปแบบ 

 

โดยล่าสุด เดอะ ปาร์ค ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักของงาน ‘บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 (Bangkok Art Biennale)’ เทศกาลศิลปะนานาชาติร่วมสมัยที่หลายคนตั้งตาคอย โดยจัดสรรบริเวณของโครงการฯ ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานจากศิลปินชื่อดังทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2563 ไปจนถึง 31 มกราคม 2564

 

นอกจากนี้ในระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ยังมีการจัดกิจกรรม ‘Art in The PARQ’ ซึ่งมีทั้งอาร์ต เวิร์กช็อป และการจัดนิทรรศการ ‘Balancing Your Life’ ที่จัดแสดงภาพวาดแอ็บสแตรกต์สีสันสดใส ภายใต้แนวคิดการเพิ่มสมดุลแห่งชีวิต พร้อมกับเวิร์กช็อปสุดพิเศษโดย ป๊อด-ธนชัย อุชชิน

 

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทำให้ ‘เดอะ ปาร์ค’ ไม่ใช่แค่อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทล แต่เป็นสถานที่แห่งการค้นหาแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

The post ‘The PARQ Collection’ Public Art ที่ไม่จำกัดแค่ห้องสี่เหลี่ยม และอยากเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Whizdom และ สิงโต นำโชค เปิดจุดแฮงเอาต์แห่งใหม่ใกล้ MRT ลาดพร้าว Whizdom Experience Box พร้อมเสิร์ฟกาแฟหอมกรุ่นสไตล์แอฟริกา ‘Shoo We Doo Wa’ [Advertorial] https://thestandard.co/whizdom-experience-box/ Tue, 06 Oct 2020 03:45:10 +0000 https://thestandard.co/?p=396270

เพราะวิถีชีวิตใหม่ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่แสวงหาแหล่งแฮงเอา […]

The post Whizdom และ สิงโต นำโชค เปิดจุดแฮงเอาต์แห่งใหม่ใกล้ MRT ลาดพร้าว Whizdom Experience Box พร้อมเสิร์ฟกาแฟหอมกรุ่นสไตล์แอฟริกา ‘Shoo We Doo Wa’ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>

เพราะวิถีชีวิตใหม่ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่แสวงหาแหล่งแฮงเอาต์เพื่อช่วยผ่อนคลายและกลายเป็นเทรนด์ในยุคปัจจุบัน Whizdom Experience Box พื้นที่สุดชิลแห่งใหม่ใจกลางเมือง ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว จึงเกิดขึ้น  

 

 

เปิดตัวไปแล้วอย่างน่าประทับใจกับ Whizdom Experience Box ที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของ Whizdom (วิสซ์ดอม) และนักร้องมากความสามารถ สิงโต นำโชค ที่มานำเสนอแหล่งรวม 3 ไลฟ์สไตล์เพื่อคนรุ่นใหม่ ได้มาพบปะสังสรรค์ Whizdom by MQDC ในรูปแบบของครีเอตสเปซ เพื่อเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ขนาดย่อมที่อัปเดตข่าวสารใหม่ๆ จาก Whizdom และพาไปสัมผัสประสบการณ์จากนวัตกรรมอัจฉริยะสำหรับรูปแบบการอยู่อาศัยและการดำเนินชีวิตแนวใหม่แบบ Well-Being พร้อมพื้นที่ไลฟ์สไตล์ให้แวะมานั่งทำงาน พบปะเพื่อนๆ ในบรรยากาศสดชื่นท่ามกลางเมืองที่วุ่นวาย

 

 

อัษฎา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการ แบรนด์วิสซ์ดอม บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า “Whizdom Experience Box เป็นไลฟ์สไตล์สเปซที่ถ่ายทอดประสบการณ์ความเป็น Whizdom ให้กับกลุ่มลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกับรูปแบบการอยู่อาศัยและการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ๆ ผ่านนวัตกรรมที่ MQDC-Whizdom พัฒนาขึ้นมา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยและต้องการแบ่งปันรูปแบบชีวิตดีๆ นี้ให้กับบุคคลทั่วไป ภายใต้คอนเซปต์ ‘For All Well-Being’ 

 

นอกจากนี้เรายังได้จับมือกับ สิงโต นำโชค นักร้องมากความสามารถที่หลงใหลในกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ และกลั่นออกมาเป็นร้านกาแฟชื่อว่า ‘Shoo We Doo Wa’ (ชูวีดูวา) มาเติมเต็มบรรยากาศพร้อมรสชาติหอมกรุ่นให้กับพื้นที่แห่งนี้ด้วยเมนูกาแฟหลากหลายให้ได้ลิ้มลองตลอดทั้งวัน”

 

‘ไข่ต้ม’ หุ่นยนต์อัจฉริยะ เพื่อนซี้และผู้ช่วยของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ Whizdom Experience Box

 

 

Whizdom Experience Box แหล่งแฮงเอาต์ที่ตอบโจทย์ 3 ไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์มาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ได้แก่

 

  1. Knowledge Sharing พื้นที่แลกเปลี่ยนข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับการอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่ให้คุณได้รับชมข้อมูลโครงการพร้อมห้องตัวอย่างผ่าน VDO Wall และยังมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำประจำอยู่ทุกวัน รวมถึงกิจกรรม Whizdom Re-Forest ร่วมปลูกต้นไม้ออนไลน์ก่อนจะนำไปปลูกจริงเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียว และกิจกรรมเวิร์กช็อปต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการจาก Whizdom Society ก็จะถูกนำมาแสดงไว้ที่นี่เช่นกัน

 

  1. Technology สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบ Well-Being ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีเฉพาะตัวของ MQDC-Whizdom กับ ‘ไข่ต้ม’ หุ่นยนต์อัจฉริยะเพื่อที่อยู่อาศัย ที่ทำหน้าที่เป็นเพื่อนซี้หรือผู้ช่วยของแขกทุกท่านที่มาเยือน และ ‘ฟ้าใส’ เครื่องฟอกอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มออกซิเจนให้กับบริเวณที่การจราจรแสนติดขัด 

 

 

  1. Lifestyle ด้วยโลเคชันที่อยู่ติด MRT สถานีลาดพร้าว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ และมีผู้คนผ่านจำนวนมาก พื้นที่นี้จึงเหมาะเป็นสถานที่สำหรับการนัดพบปะพูดคุย ทำงาน หรือแวะมานั่งจิบกาแฟ ในบรรยากาศสดชื่นท่ามกลางเมือง พร้อม WiFi ฟรี และยังมีมุมเก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูปเช็กอินลงโซเชียลตามใจชอบ 

 

 

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Whizdom Experience Box คือเมนูกาแฟหอมกรุ่นที่ทางร้าน Shoo We Doo Wa คัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีมาให้ได้ลิ้มลองกันตลอดทั้งวัน และพบกับเมนูซิกเนเจอร์ที่คิดค้นมาเพื่อ Whizdom โดยเฉพาะ อย่าง Shoo We Doo Brew ที่ สิงโต นำโชค ได้ออกแบบรสชาติกาแฟสกัดเย็นที่มีบอดี้นุ่มนวล มีกลิ่นหอมหวานไม่ซ้ำใคร พร้อมเพิ่มความสดชื่นด้วยการรินผ่านกลีบเลมอนบางๆ ให้คุณได้สัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมในสไตล์ Shoo We Doo Wa ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเมนู Non-Coffee ไว้ให้บริการอีกด้วย เช่น เมนูช็อกโกแลตเข้มข้น และชาเขียว

 

Blancmange พุดดิ้งน้ำเต้าหู้สไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมผงถั่ว ‘คินาโกะ’ และซอส ‘คุโรมิสึ’

 

Whizdom Experience Box 

Open: เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.

Address: โครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao สามารถเดินทางได้โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าว ทางออกหมายเลข 1

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.mqdc.com

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

The post Whizdom และ สิงโต นำโชค เปิดจุดแฮงเอาต์แห่งใหม่ใกล้ MRT ลาดพร้าว Whizdom Experience Box พร้อมเสิร์ฟกาแฟหอมกรุ่นสไตล์แอฟริกา ‘Shoo We Doo Wa’ [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>