ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 29 Mar 2023 00:04:59 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 จากคู่แข่งสู่คู่รัก! ส่องปรากฏการณ์ Grammy x RS ตั้งบริษัทร่วมทุนจัดคอนเสิร์ต 3 งานใหญ่ในปี 2566 บัตรเริ่มต้น 2,000-6,000 บาท https://thestandard.co/grammy-x-rs-joint-venture/ Tue, 28 Mar 2023 10:04:43 +0000 https://thestandard.co/?p=769879 Grammy RS

เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้เกิ […]

The post จากคู่แข่งสู่คู่รัก! ส่องปรากฏการณ์ Grammy x RS ตั้งบริษัทร่วมทุนจัดคอนเสิร์ต 3 งานใหญ่ในปี 2566 บัตรเริ่มต้น 2,000-6,000 บาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
Grammy RS

เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ระหว่าง Grammy กับ RS ที่ในอดีตเคยเป็นคู่แข่งกัน ล่าสุดได้จดทะเบียนจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ภายใต้ชื่อ Across The Universe มีสัญญากัน 3 ปี ร่วมมือกันในรูปแบบรายโปรเจกต์ ซึ่งใช้เวลาเจรจากันมานานกว่า 5 ปี 

 

โดยทั้งสองค่ายยักษ์ใหญ่เตรียมจัดซีรีส์คอนเสิร์ตด้วยการนำศิลปินในยุค 90 และยุค 2000 ของทั้งสองค่ายมารวมตัวกันกว่า 100 คน เช่น เจ เจตริน, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, คริสติน่า อากีล่าร์, แร็พเตอร์, มอส ปฏิภาณ, ลิฟท์-ออย, ทาทา ยัง, เต๋า สมชาย, กอล์ฟ พิชญะ, เจมส์ เรืองศักดิ์, มาช่า วัฒนพานิช, นุ๊ก สุทธิดา, Girly Berry และ แดน-บีม 

 

เบื้องต้นได้วางโปรแกรมคอนเสิร์ตไว้ 3 งานใหญ่ต่อปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 29-30 กรกฎาคม ตามด้วยวันที่ 9-10 กันยายน และวันที่ 28-29 ตุลาคม 2566 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี มีราคาบัตรอยู่ที่ประมาณ 2,000-6,000 บาท โดยได้รับการตอบรับจากสปอนเซอร์มากกว่า 10 ราย และประเมินว่าบัตรจะ Sold Out ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย 

 

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นมาเพื่อการจัดคอนเสิร์ต Grammy RS โดยเฉพาะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายลงทุนเท่ากัน ที่สำคัญทั้งสองค่ายจะนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญมาช่วยกันพัฒนากระบวนการทำงาน โดยหลักๆ แกรมมี่จะรับหน้าที่ดูภาพรวมธุรกิจ จำหน่ายตั๋ว และโปรดักชัน ส่วนอาร์เอสดูเรื่องงบประมาณและทำการตลาดประชาสัมพันธ์ 

 

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นการตัดสินใจร่วมกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 220 ล้านบาทขึ้นไป

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

The post จากคู่แข่งสู่คู่รัก! ส่องปรากฏการณ์ Grammy x RS ตั้งบริษัทร่วมทุนจัดคอนเสิร์ต 3 งานใหญ่ในปี 2566 บัตรเริ่มต้น 2,000-6,000 บาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: บิ๊กล็อต GRAMMY อากู๋มอบเป็นมรดกให้ลูก แบ่งงานบริหารชัด | Morning Wealth 19 ตุลาคม 2564 https://thestandard.co/morning-wealth-19102021/ Tue, 19 Oct 2021 01:30:04 +0000 https://thestandard.co/?p=549631

‘อากู๋’ โยนบิ๊กล็อต GRAMMY มอบเป็นมรดกให้ลูก ตั้งธรรมนู […]

The post ชมคลิป: บิ๊กล็อต GRAMMY อากู๋มอบเป็นมรดกให้ลูก แบ่งงานบริหารชัด | Morning Wealth 19 ตุลาคม 2564 appeared first on THE STANDARD.

]]>
  • ‘อากู๋’ โยนบิ๊กล็อต GRAMMY มอบเป็นมรดกให้ลูก ตั้งธรรมนูญครอบครัว แบ่งหน้าที่บริหารชัด
  • อากู๋ ไพบูลย์ แจงโยนบิ๊กล็อตหุ้น บมจ.จี เอ็ม เอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) 52% หวังปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น มอบเป็นมรดกให้ลูก รายละเอียดเป็นอย่างไร
  • วิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยและแนวโน้มกำไรกลุ่มแบงก์ กับ เอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผอ.ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: บิ๊กล็อต GRAMMY อากู๋มอบเป็นมรดกให้ลูก แบ่งงานบริหารชัด | Morning Wealth 19 ตุลาคม 2564 appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘อากู๋ ไพบูลย์’ แจงโยนบิ๊กล็อต 52% หวังปรับโครงสร้างถือหุ้นมอบเป็นมรดกให้ลูก พร้อมตั้งธรรมนูญครอบครัว แบ่งหน้าที่บริหารงานชัด https://thestandard.co/grammy-stock-181064/ Mon, 18 Oct 2021 11:21:02 +0000 https://thestandard.co/?p=549530 GRAMMY

การเคลื่อนไหวของหุ้น บมจ.จี เอ็ม เอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) […]

The post ‘อากู๋ ไพบูลย์’ แจงโยนบิ๊กล็อต 52% หวังปรับโครงสร้างถือหุ้นมอบเป็นมรดกให้ลูก พร้อมตั้งธรรมนูญครอบครัว แบ่งหน้าที่บริหารงานชัด appeared first on THE STANDARD.

]]>
GRAMMY

การเคลื่อนไหวของหุ้น บมจ.จี เอ็ม เอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ในวันนี้ (18 ตุลาคม) เต็มไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะหลังพบรายการซื้อขายขนาดใหญ่ (บิ๊กล็อต) จนทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องสั่งพักการซื้อขาย (H) ในหุ้น GRAMMY เป็นการชั่วคราว เพื่อให้บริษัทชี้แจงถึงรายการบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้น ก่อนจะปลดเครื่องหมายดังกล่าวในเวลาถัดมา

 

โดย ณ เวลา 10.22 น. ของวันนี้ (18 ตุลาคม) พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น GRAMMY จำนวน 10 รายการ รวม 426.77 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 52.05% ของหุ้นทั้งหมด ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 14.30 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 6,102 ล้านบาท 

 

ในเวลาถัดมา GRAMMY ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า รายการบิ๊กล็อตดังกล่าวเกิดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งเป็นสมาชิกของครอบครัวดำรงชัยธรรมได้ดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยการโอนหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดให้แก่ บริษัท ฟ้า ดำรงชัยธรรม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นโดยผู้ถือหุ้นกลุ่มดังกล่าวเพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในครอบครัวดำรงชัยธรรม และรองรับการกำกับดูแลธุรกิจของครอบครัวในระยะยาว 

 

ทั้งนี้ภายหลังการโอนหุ้นครั้งนี้แล้วเสร็จ โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ของ GRAMMY จะเปลี่ยนแปลงเป็น บริษัท ฟ้า ดำรงชัยธรรม จะถือหุ้นใน สัดส่วน 52.05% ของสิทธิการออกเสียงทั้งหมดของบริษัทและกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของ GRAMMY จากเดิมที่โครงสร้างการถือหุ้นของครอบครัวดำรงชัยธรรมโดยตรง ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2564 จะประกอบด้วย

 

  1. ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม สัดส่วน 47.91%
  2. ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม สัดส่วน 1.10%
  3. ระฟ้า ดำรงชัยธรรม สัดส่วน 1.10%
  4. อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม สัดส่วน 0.97%
  5. ฟ้าฉาย ดำรงชัยธรรม สัดส่วน 0.97% 

 

ผลของการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 5 ราย กลายเป็นผู้ถือหุ้น GRAMMY ทางอ้อม แต่จะใช้วิธีการออกสิทธิออกเสียงผ่านทาง บริษัท ฟ้า ดำรงชัยธรรม ซึ่ง ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม จะมีสิทธิออกเสียงในบริษัทดังกล่าวนี้ได้ในสัดส่วน 99% ขณะที่ลูกๆ ทั้ง 4 คนของไพบูลย์ คือ ฟ้าใหม่, ระฟ้า, อิงฟ้า และ ฟ้าฉาย จะมีสิทธิออกเสียงได้ในสัดส่วนคนละ 0.25%

 

เป็นที่น่าจับตามองว่าการปรับโครงสร้างของ GRAMMY รอบนี้จะสามารถพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับขึ้นขึ้นมาโดดเด่นอีกครั้งท่ามกลางกระแสดิสรัปต์ของดิจิทัลได้หรือไม่ เพราะจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาหุ้น GRAMMY ปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง จากปัจจัยพื้นฐานที่เข้ามารองรับ

 

ในขณะที่ราคาหุ้น GRAMMY หลังปลกเครื่องหมาย H ปรับขึ้นร้อนแรงจนทำจุดสูงสุดของวันที่ 18.90 บาท เพิ่มขึ้น 26.8% ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดตลาดที่ระดับ 16.20 บาท เพิ่มขึ้น 9.46% 

 

ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ให้สัมภาษณ์ ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH ว่า การปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในครอบครัวดำรงชัยธรรมครั้งนี้ เป็นการปรับโครงสร้างแบบมอบมรดกให้กับบุตร ผ่าน บริษัท ฟ้า ดำรงชัยธรรม ดังกล่าว ซึ่งเป็นโฮลดิ้ง 

 

โดยบุตรทั้ง 4 คนจะมีสัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิในการออกเสียงเท่าๆ กัน รวมทั้งจะมีกฎกติกา หรือ ธรรมนูญครอบครัว เพื่อป้องกันการขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่บุตรทั้ง 4 คนจะแบ่งหน้าที่ในการบริหารงานใน GRAMMY อย่างชัดเจน โดย

 

ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม บุตรคนโต จะรับผิดชอบหน้าที่และบริหารงานด้านธุรกิจเพลงแต่เพียงคนเดียว 

 

ระฟ้า ดำรงชัยธรรม จะดูแลสายงานทางด้านมีเดีย คอนเทนต์ ดีวีดี 

 

ฟ้าฉาย ดำรงชัยธรรม บุตรสาวดูแลธุรกิจโฮมช้อปปิ้งในนาม ‘โอ ช้อปปิ้ง’ 

 

อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม บุตรสาวอีกคนหนึ่ง จะเข้ามาดูแลรับผิดชอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

 

“ผมอายุมากแล้วก็อยากจะแบ่งมรดกให้ลูก เราทำเรื่องนี้กันมาปีกว่าๆ เราจ้าง บริษัทเบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี มาฟัง ว่าผมกับลูกๆ ต้องการอะไร ใครอยากทำอะไร เราถกเถียงกันแล้วก็ได้ข้อสรุป ออกมา เราทำกันตั้งแต่ตอนนี้เพื่อไม่ให้มีปัญหาที่จะต้องมาแย่งผลประโยชน์ หรือทะเลาะกันในอนาคต เพราะเรากำหนดเป็นธรรมนูญของครอบครัวที่ทุกคนต้องยอมรับ”

 

ไพบูลย์ มั่นใจว่าการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มดำรงชัยธรรมครั้งนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจของ GRAMMY ให้เกิดความชัดเจนและเดินไปอย่างถูกทางท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก 

 

รวมทั้งเชื่อมั่นว่า ผู้บริหาร GRAMMY ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ จะมีวิสัยทัศน์ และดำเนินการหรือแอ็กชัน ธุรกิจเพื่อเดินหน้าเข้าสู่ยุค นิวอีโคโนมิก ภายใต้กระแสการขับเคลื่อนของโลกดิจิทัล ได้อย่างดี

 

“ยุคนี้เป็นยุคของ แอปพลิเคชัน บล็อกเชน การทำ ICO เราจะต้องไปสู่จุดนั้น ซึ่งยุคผมอาจจะไม่ถนัด แต่เจเนอเรชันใหม่ จะถนัดกว่า จะมีความชัดเจนว่าจะไปยังไง โดยมีรุ่นผม และผู้บริหารที่ยังทำงานอยู่ในปัจจุบันให้คำปรึกษา”

 

ประธานกรรมการ GRAMMY กล่าวด้วยว่า นักลงทุนและผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ น่าจะรู้สึกพอใจในการปรับโครงสร้างครั้งนี้เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่า GRAMMY มีการปรับตัว ซึ่งจะสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท รวมทั้งยังป้องกันปัญหาการขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

 

ด้าน มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ GRAMMY ครั้งนี้เป็นเพียงโครงสร้างภายในครอบครัวดำรงชัยธรรม ซึ่งคาดว่าจะยังไม่เห็นผลต่อธุรกิจ ณ วันนี้ แต่ราคาหุ้นที่ตอบสนองในทิศทางบวก เพราะนักลงทุนคาดว่าการบริหารงานโดยเจเนอเรชันใหม่จะสามารถผลักดันให้ธุรกิจปรับตัวรับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้ 

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม เนื่องจากการปรับตัวของกลุ่มดำรงชัยธรรมถือว่าเดินมาถูกทาง แต่ในการดำเนินการจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและทันกับสถานการณ์หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอดู 

 

นอกจากนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญซึ่งเป็นข้อจำกัดในการทำธุรกิจบางด้านของบริษัท เช่น การจัดคอนเสิร์ต การจัดอีเวนต์ หรือกิจกรรมที่จะทำให้เกิดการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก

 

“ตอนนี้เท่าที่ประเมินการนำ หุ้น ONEE เข้าตลาด น่าจะส่งผลดี ช่วยเกื้อหนุนธุรกิจทีวีร่วมกัน ONEE น่าจะมีกำไรมากขึ้น GRAMMY ก็จะได้อานิสงส์ ได้ซินเนอจี กันได้ แต่เรื่องการปรับโครงสร้างภายในครอบครัว ยังมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ ที่ธุรกิจประเภทนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก ผมเชื่อว่า GRAMMY เดินมาถูกทาง แต่เขาจะทำได้เร็วแค่ไหน จะทำอย่างไร จะทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เข้ามากระทบธุรกิจประเภทนี้หรือไม่ยัง เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม จะสะท้อนถึงผลการดำเนินงานมากน้อยแค่ไหน” มงคลกล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานของที่ GRAMMY ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 283.16 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมที่ 2,009.74 ล้านบาท เป็นการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 5,035.62 ล้านบาท มีผลขาดทุน 175.41 ล้านบาท

 


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth

Instagram: instagram.com/thestandardwealth

Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

The post ‘อากู๋ ไพบูลย์’ แจงโยนบิ๊กล็อต 52% หวังปรับโครงสร้างถือหุ้นมอบเป็นมรดกให้ลูก พร้อมตั้งธรรมนูญครอบครัว แบ่งหน้าที่บริหารงานชัด appeared first on THE STANDARD.

]]>