ช่วงเช้าวันนี้ (20 มี.ค.) นางคณิตา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมนางสาววันดี สมภูมิ ซึ่งเป็นผู้ที่เซ็นรับรองงาช้างว่าเป็นงาช้างไทย ก่อนนำไปจดแจ้งครอบครอง เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 โดยเดินทางมาถึงก่อนเวลานัดที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชนผ่านประตูด้านข้าง

พลตำรวจตรี ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการ ปทส. เปิดเผยว่า ประเด็นหลักๆ ที่จะสอบปากคำนางคณิตาและนางสาววันดีเพิ่มเติม เกี่ยวกับการครอบครองงาช้างโดยผิดกฎหมาย โดยไม่ได้เน้นประเด็นใดเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่จะให้การอย่างไรก็ได้ในชั้นพนักงานสอบสวน แต่เบื้องต้นทางตำรวจมีพยานหลักฐานพร้อมยืนยันความผิดได้

จากข้อมูลทราบว่า นางวันดีเป็นผู้เซ็นรับรองงาช้างให้กับภรรยาของนายเปรมชัย เมื่อประมาณปี 2558 ส่วนงาช้างจะเป็นงาที่นำเข้าจากต่างประเทศหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจน

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้นำงาช้างที่ตรวจค้นพบในบ้านพักในซอยศูนย์วิจัย 3 ของนายเปรมชัย เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเปรมชัยและภรรยามาตรวจสอบด้วย เพื่อให้ผู้ต้องหายืนยันว่างาช้างดังกล่าวเป็นของตนเองหรือไม่

ขณะเดียวกันนางคณิตาได้นำเอกสารใบอนุญาตครอบครองงาช้างมาให้กับพนักงานสอบสวนด้วย ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ประกอบไว้ในสำนวนแล้ว

ส่วนหลังจากนี้จะให้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ซึ่งหากพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว จะนำตัวขออำนาจศาลอาญารัชดาเพื่อขอฝากขัง

The post ภรรยาเปรมชัยเข้ารับทราบข้อหาครอบครองงาช้าง ตำรวจยืนยันมีหลักฐานพร้อมเอาผิด appeared first on THE STANDARD.

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า (งาช้าง) ข้อหาครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย และข้อหาพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือเป็นการเข้าพบพนักงานสอบสวนตามวันและเวลาที่มีการนัดหมาย

พลตำรวจตรี ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายเปรมชัย ให้มารับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อกล่าวหาดังกล่าว

โดยวันนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ส่งพนักงานสอบสวนมารับทราบข้อกล่าวหา และสอบปากคำในคดีพยายามติดสินบน

นอกจากนี้ยังได้เรียก นางคณิตา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย และนางวันดี สมภูมิ ซึ่งเป็นผู้รับรองงาช้างให้นางคณิตา เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันคือ มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง อีกด้วย  

สำหรับประเด็นที่จะมีการสอบสวนในวันนี้จะให้นายเปรมชัย เข้าชี้แจงที่มาของอาวุธ เนื่องจากเบื้องต้นพบว่าอาวุธปืนไม่มีทะเบียนใบอนุญาตที่ถูกต้อง ส่วนรายละเอียดต่างๆ อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งหากนายเปรมชัยรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว คาดว่าพนักงานสอบสวนอาจไม่คัดค้านประกันตัว อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะต้องดูพฤติการณ์ของนายเปรมชัยก่อนเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

The post เปรมชัย เดินทางเข้ารับทราบ 3 ข้อหาเพิ่มตามนัด ภรรยาโดนด้วย ข้อหาครอบครองงาช้าง appeared first on THE STANDARD.

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในวันนี้ (15 ก.พ.) เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจสอบหาดีเอ็นเอของงาช้างจำนวน 2 คู่ ที่ยึดได้จากบ้านของนายเปรมชัยในกรุงเทพมหานคร  พร้อมใบอนุญาตครอบครองงาช้าง จากการตรวจสอบแล้วไม่พบสติกเกอร์ ที่ปกติแล้วจะต้องติดไว้ที่งาช้างเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่างาช้างดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบ

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ระบุว่า ในวันนี้ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ให้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบว่างาช้างที่ยึดมาเป็นงาช้างเอเชียหรืองาช้างจากแอฟริกา ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบงาช้างว่าเป็นของเอเชียหรือแอฟริกา ก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยการดูภายนอกและการตรวจสอบดีเอ็นเอ ซึ่งหากเป็นงาช้างแอฟริกาจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก แต่หากขนาดไม่ได้ใหญ่ผิดปกติ ก็ต้องมาตรวจสอบดีเอ็นเออีกครั้งว่าเป็นของช้างโซนประเภทใด

ซึ่งในวันนี้จะมีการสกัดเก็บดีเอ็นเอที่บริเวณโคนของงาช้าง เพื่อนำกลับไปตรวจสอบภายในห้องแล็ป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ถึงจะสามารถทราบผล

ส่วนการขออนุญาตครอบครองงาช้าง ครั้งล่าสุดที่มีการเปิดให้ผู้ที่ครอบครองงาช้างนำงาช้างมาลงทะเบียน ทราบว่า มีผู้นำงาช้างมาลงทะเบียนกว่า 4 หมื่นชิ้น โดยมีกองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานแห่งชาติฯ หรือ กองไซเตส ทำหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลไว้ ซึ่งจะนำผลดีเอ็นเอที่ตรวจได้จาก 4 คู่นี้ไปเทียบเคียงกับข้อมูลที่กองไซเตสอีกครั้งว่างาช้างดังกล่าวมีที่มาจากที่ไหนและถูกต้องหรือไม่ และหากผลการเทียบเคียงพบว่าเป็นงาช้างแอฟริกาก็จะเข้าข่ายความผิดตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส ซึ่งเบื้องต้นประเมินมูลค่างาช้า 4 กิ่ง อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท

The post กรมอุทยานฯ ตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์งาช้าง ‘เปรมชัย’ มาจากไหนและถูกต้องหรือไม่ appeared first on THE STANDARD.