ปี 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จของเซ็นทารา โดยโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีรายได้รวมอยู่ที่ 11,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,230 ล้านบาท (หรือ 12%) เทียบปีก่อน มีกำไรสุทธิจำนวน 1,097 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43%

“ปีที่ผ่านมาชนะปี 2562 ทั้งรายได้และกำไรแล้ว แต่ไม่ใช่ปีที่ดีที่สุดเพราะปี 2561 มีกำไร 2,800 ล้านบาท (โดยเป็นกำไรสำหรับธุรกิจโรงแรม 1,432 ล้านบาท) จึงมองว่าปีนี้จะแตะรายได้ 15,000 หมื่นล้านบาท รวมโรงแรมร่วมทุน ถ้าไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน” ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราระบุ

การเติบโตของปี 2567 นั้นถูกมองว่ามีส่วนสำคัญมาจากผลการดำเนินงานของรีสอร์ทในมัลดีฟส์ ซึ่งล่าสุดได้เปิดให้บริการเซ็นทารา มิราจ ลากูน  มัลดีฟส์ในพื้นที่มาเล่ อะทอลล์เหนือ หนึ่งในเกาะในกลุ่มมัลดีฟส์ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และกำลังจะเปิดให้บริการเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ บนเกาะเดียวกันในเดือนเมษายนนี้

นั่นจะทำให้เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ทในมัลดีฟส์รวมกันทั้งสิ้น 4 โรงแรม ภายใต้แบรนด์และธีมที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ แบรนด์เซ็นทารา (Centara), แบรนด์เซ็นทารา แกรนด์ (Centara Grand), แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) และรีสอร์ทภายใต้ธีมมิราจ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าในตลาดมัลดีฟส์

มัลดีฟส์ถือเป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักมากที่สุดในต่างประเทศคือ 13,000 บาท แต่ถือว่าน้อยกว่าไทยที่สามารถทำราคาได้ 13,500 บาทที่สมุย โดยปี 2567 มีอัตราการเข้าพักที่ 70% ราคาเฉลี่ยรายวัน (ADR) อยู่ที่ 5,700 บาท

กันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงินระบุว่า ปีนี้ทาง บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ได้วางงบลงทุนไว้กว่า 8,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรมและอาหารภายใต้เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป 

โดย 1,800 ล้านบาทสำหรับการลงทุนใหม่ๆ อีก 1,200 ล้านบาทสำหรับธุรกิจอาหาร และที่เหลือกว่า 5,000 ล้านบาทจะเป็นของธุรกิจโรงแรม

สำหรับโรงแรมเริ่มที่หัวหินจะใช้งบเกือบ 1,000 ล้านบาทสำหรับปรับโฉมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า หัวหิน ที่เริ่มทยอยปิดปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเพื่อสร้างเป็นห้องพักประเภทวิลล่าสุดหรูอีก 70 หลัง โดยจะอยู่ภายใต้แบรนด์ เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection)

ผนวกเข้ากับห้องพักที่จะสร้างใหม่เพิ่มอีก 200 ห้อง ภายใต้แบรนด์เซ็นทารา ไลฟ์ (Centara Life) ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำเซ็นทารามีห้องพักกว่า 484 ห้องให้บริการภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย ซึ่งหากรวมทั้งหมดจะใช้เงินกว่า 2,500 ล้านบาทในช่วง 3 ปีต่อจากนี้

รวมทั้งเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า กระบี่ ก็มีแผนจะปิดปรับปรุงครั้งสำคัญในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าให้กลายมาเป็นเซ็นทารา รีเซิร์ฟ (Centara Reserve) โรงแรมหรูระดับลักชัวรีแห่งที่ 2 ของโลกใช้เงินราว 1,600 ล้านบาทด้วยกัน

ขณะที่ต่างประเทศนอกจากมัลดีฟส์ยังมีโรงแรมในต่างประเทศอีก 4 แห่ง ต่อคิวเพื่อรอเปิดให้บริการอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อันนะปุรณะ เมาท์เทน รีสอร์ท และโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) อีกหนึ่งแห่งบนเกาะบาหลี ที่จะกลายมาเป็นรีสอร์ทแรกภายใต้เครือเซ็นทาราในประเทศเนปาลและอินโดนีเซีย

รวมถึงโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งในเวียดนาม ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา และเรสซิเดนซ์ วังดอน และคริสตัล ฮอลิเดย์ ฮาร์เบอร์ วังดอน ที่เมื่อรวมกันแล้วจะมีห้องพักให้บริการทั้งสิ้นถึง 977 ห้องด้วยกัน

นอกจากนี้ยังใช้ในแง่เกมการตลาดจะมีการใช้ Dynamic pricing ซึ่งราคาจะขึ้นลงตามเทศกาล รวมถึงการใช้ระบบ CRM ที่เข้มข้นผ่านการให้ส่วนลด 10-20% แล้วแต่ช่วง ซึ่ง “พิสูจน์แล้วว่าการทำตลาดกับลูกค้าเก่าง่ายกว่าการหาลูกค้าใหม่” กันย์ระบุ 

เมื่อรวมการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่และการปรับโฉมโรงแรมต่างๆ ในปีนี้ เซ็นทาราคาดว่าจะช่วยส่งผลให้ราคาห้องพักเฉลี่ย และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ของเซ็นทาราเพิ่มขึ้นเป็น 6,500 บาท และ 4,500 – 4,800 บาทตามลำดับ โดยคาดว่ารายได้รวม (รวมโรงแรมร่วมทุน) จะเติบโตประมาณ 23% ในปีนี้

ที่น่าจับตาคือโรงแรมในญี่ปุ่นซึ่งมีอยู่ 1 แห่งที่โอซาก้าซึ่งคาดว่าจะได้รับผลดีจากงาน World Expo ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยประเมินว่าจะช่วยทำให้อัตราการเข้าพักทั้งปีเพิ่มจาก 78% ไปสู่มากกว่า 82% และราคาเฉลี่ยเพิ่มจาก 30,000 เยนต่อคืนเป็น 35,000 เยน

ธีระยุทธระบุว่า ยังคงมีแผนที่จะเปิดโรงแรมเพิ่มในญี่ปุ่นโดยมองไว้หลายทำเลแต่จะเกิดขึ้นช่วงไหนต้องแล้วแต่สถานการณ์เพราะอย่างเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้าใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีถึงจะได้เปิด

ที่ผ่านมา มีแผนจะเปิดที่เกียวโตแต่ต้องพับไปก่อนเพราะเจ้าของที่ดินเปลี่ยนใจไม่ขาย ส่วนในโตเกียวไปดูตึกย่านกินซ่า แต่ปรากฏว่าไม่สามารถทุบตึกแล้วสร้างเป็นโรงแรมใหม่ได้ เหล่านี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับโรงแรมที่จะไปเปิดในดินแดนซามูไรทั้งสิ้น

The post เซ็นทารา ‘ท็อปฟอร์ม’ กำไรพุ่ง 43% รายได้ทะลุหมื่นล้าน เตรียมงบ 8 พันล้าน ปรับโฉมหัวหิน-กระบี่ ผุดโรงแรมใหม่เนปาล-อินโดนีเซีย-เวียดนาม appeared first on THE STANDARD.

วานนี้ (4 ธันวาคม) พล.ต.อ. ณัฐธร เพราะสุนทร คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) แถลงผลการจับกุมบุคคลต่างชาติลักลอบตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย 

หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจร่วมมือกับ กสทช. ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่ ทำให้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ายฐานเข้ามายังประเทศไทย เพื่อใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงและเสถียรกว่าฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโทรหลอกลวงเหยื่อคนไทย 

ในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข่าวกระทั่งพบว่ารีสอร์ตแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปิดให้บริการไปในช่วงสถานการณ์โควิด แต่กลับให้เช่าทั้งรีสอร์ตโดยไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าพัก และมีคนต่างชาติเข้า-ออกสถานที่ดังกล่าวอย่างผิดสังเกต

ชุดสืบสวนจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม และประสานเจ้าหน้าที่ กสทช. ตรวจสอบข้อมูลการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วยเครื่องมือพิเศษ พบว่ามีปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงผิดปกติ ไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้เข้าพัก อาจมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมของกลางจำนวนมาก

พล.ต.อ. ณัฐธร กล่าวว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กสทช. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวดขันจับกุมซิม เสาสัญญาณ สถานีโทรคมนาคม และสายเคเบิลข้ามแดนผิดกฎหมาย ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์บางส่วนจำเป็นต้องย้ายเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ควบคู่กับการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่างๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

พฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ถือเป็นความผิดฐานรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุโทรคมนาคม อันเป็นความผิดตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ซึ่งต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งดูแลพื้นที่ภาคเหนือสืบสวนการกระทำผิดในพื้นที่ จนกระทั่งพบรีสอร์ตเป้าหมาย

ทั้งนี้ พบว่าผู้ต้องหาชาวจีนแอบลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตของร้านกาแฟข้างๆ ปิดบังการใช้สัญญาณของคอลเซ็นเตอร์ เชื่อมโยงกับแก๊งที่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ตำรวจพบคนต่างชาติสัญชาติจีน 9 คน ตรวจยึดอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใช้กระทำผิดเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้เป็นจำนวนมาก จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี โดยจะขยายผลถึงผู้บงการเพื่อปราบปรามให้สิ้นซากต่อไป

ทั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นสถานที่แห่งใดมีความผิดปกติ เช่น เคยร้างไปแต่กลับมีคนเข้า-ออกอย่างผิดปกติ หรือมีการใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า หรือขอใช้อินเทอร์เน็ตมากผิดปกติ สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โทร. 191 หรือ กสทช. โทร. 1200 ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าตรวจสอบ ป้องกันมิให้คนร้ายเข้ามาตั้งฐานหลอกลวงคนไทยต่อไป

The post บุกค้นรีสอร์ตร้างเชียงใหม่ หลังเจ้าหน้าที่ตรวจเจอใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตมากผิดปกติ พบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งเป็นฐานหลอกคนไทย appeared first on THE STANDARD.

ใครไปเที่ยวใต้เดือนหน้า ขอบอกว่าคุณดวงดีมาก เพราะเราได้ยินมาว่าร้านอาหารชื่อดังจากเชียงใหม่ที่กำลังมาในหมู่ฟู้ดดี้อย่าง ‘รสิก โลคอล คิทเช่น’ ซึ่งปกติต้องจองคิวกินกันข้ามเดือน กำลังจะเปิดมื้อพิเศษที่โรงแรมเคปกูดู เกาะยาวน้อย หนึ่งในโรงแรมติดหาดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในไทยจาก Small Luxury Hotels of the World

โดยเชฟหวายจะนำเสนออาหารไทยทวิสต์ 12 คอร์สในสไตล์รสิก ที่เชฟใช้วัตถุดิบที่หาได้จากเกาะยาวน้อย ไม่ว่าจะเป็นผักท้องถิ่น อาหารทะเล และปลาน้ำลึกที่ชาวประมงจับได้จากทะเลอันดามัน ร่วมกับเครื่องปรุงท้องถิ่นจากทั่วสารทิศ จนเกิดเป็นเมนูที่แม้จะเรียบง่ายแต่มีหลากหลายมิติ จนเกิดเป็นรสชาติใหม่ในแบบที่เราคาดไม่ถึง  

และเมื่อมาดินเนอร์ท่ามกลางวิวทะเลสวยๆ ห้องพักก็ดีระดับโรงแรมห้าดาวอย่างเคปกูดู เกาะยาวน้อย ก็น่าจะเป็นการยกระดับประสบการณ์การกินมื้อนี้ให้น่าจดจำยิ่งขึ้น    

ดินเนอร์อาหารไทย 12 คอร์ส ราคา 4,800 บาทสุทธิต่อท่าน เฉพาะวันที่ 26-27 กรกฎาคมเท่านั้น มีแพ็กเกจรวมห้องพักของโรงแรมเคปกูดู เกาะยาวน้อย 2 วัน 1 คืน เริ่มต้น 18,480 บาท หรือ 3 วัน 2 คืน เริ่มต้น 22,580 บาท สำหรับห้องพักประเภทดีลักซ์ รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน พร้อมดินเนอร์มื้อพิเศษจากรสิก โลคอล คิทเช่น จำนวน 1 มื้อสำหรับ 2 ท่าน 

สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ 0 7659 2600

The post เคปกูดู x รสิก โลคอล คิทเช่น อาหารมื้อพิเศษที่บอกเล่าเรื่องราวของท้องทะเล appeared first on THE STANDARD.

เชียงใหม่ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เพราะเป็นเมืองที่มีอะไรใหม่ให้เราออกไปค้นหาอยู่เสมอ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่แวะมาเยือนอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ไปนาน และตัดสินใจเลือกพักยัง ‘Anantara Chiang Mai Serviced Suites’ ที่พักแนวเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์จากแบรนด์อนันตราที่เหมาะจะมาพักผ่อนทั้งแบบแก๊งเพื่อนและครอบครัว

Why here?

ถ้าถามว่าทำไมต้อง ‘Anantara Chiang Mai Serviced Suites’ เพราะที่พักที่นี่เหมาะสำหรับแก๊งเพื่อนและครอบครัว โดยมีห้องชุดให้เลือกพักสูงสุดแบบ 3 ห้องนอน แถมยังอยู่ใกล้แม่น้ำ โดยเดินข้ามสะพานมานิดเดียว ลูกค้ายังสามารถเข้ามาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างของ Anantara Chiang Mai ได้อีกด้วย 

อย่างห้องที่เราพักคือ Three Bedroom Suite ห้องพักขนาดใหญ่ถึง 160 ตารางเมตร ที่มีห้องนอนด้านในหลบซ่อนอีก 3 ห้องนอน ด้านในแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่ครัว และห้องอาหารชัดเจน ตกแต่งสวยงามในสไตล์ร่วมสมัยที่มีกลิ่นอายล้านนาเต็มเปี่ยม เพดานสูงและผนังกระจกบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้เติมแต่งผนังสีแดงในบางส่วน ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ทำให้ไม่ต้องแย่งกันใช้ และบางห้องยังมีอ่างอาบน้ำให้ได้แช่ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่สะสมมาจากการเดินทาง

Worth it

• สำหรับทริปแบบครอบครัวไม่เกิน 4 คน แนะนำ ‘Premier Two Bedroom Suite’ ห้องพักสวีท 2 ห้องนอน ที่นอกจากได้พื้นที่เป็นสัดส่วนแล้วยังง่ายต่อการเข้าถึงสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า ด้านในยังมีครัว เครื่องซักผ้าและเครื่องอบ และบริการเชฟส่วนตัวเป็นออปชันเสริม

• ‘Anantara Spa’ สปาริมน้ำ ที่มีไฮไลต์เป็นทรีตเมนต์ผสานวัฒนธรรมล้านนา ด้วยทรีตเมนต์นวดน้ำมันไพลโดยใช้เทคนิคไทย พม่า และจีน และอื่นๆ รวมกัน

• ส่วนใครเป็นสายชอบว่ายน้ำ ห้ามพลาดกับ ‘Rooftop Pool’ สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า ที่มอบวิวเมืองและแม่น้ำปิงขณะลงเล่น บริเวณเดียวกันยังมีบาร์น้ำให้สั่งเครื่องดื่มแก้วโปรดมาจิบเบาๆ ได้ด้วย

Good for…

เราว่า Anantara Chiang Mai Serviced Suites เหมาะกับนักเดินทางที่หาที่พักแบบอยู่ยาว หรือนักเดินทางที่มากับครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนที่อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นสัดส่วนมากกว่าโรงแรม มีครัว สามารถทำอาหารได้นิดหน่อย แถมทำเลที่ตั้งยังติดอยู่ริมแม่น้ำปิง เดินทางไปมาสะดวก สามารถออกไปเที่ยวตามย่านต่างๆ ของตัวเมืองเชียงใหม่ได้ในไม่กี่นาที

Anantara Chiang Mai Serviced Suites

Location: ถนนเจริญประเทศ เลียบแม่น้ำปิง อำเภอเมืองเชียงใหม่

Budget: เริ่มต้นที่ 10,170 บาทต่อห้อง

Facebook: https://facebook.com/anantarachiangmaiservicedsuites 

Instagram: www.instagram.com/anantaracm_servicedsuites 

Website: www.anantara.com/en/chiang-mai-serviced-suites 

Map: https://maps.app.goo.gl/yXzip1RgatMVeLVeA

The post Anantara Chiang Mai Serviced Suites ที่พักนอนสบาย ที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว appeared first on THE STANDARD.

เปิดปี 2024 มาได้ 2 เดือน เราเริ่มเห็นโรงแรมทั้งในไทยและเอเชียสร้างเสร็จและทยอยเปิดตัวอวดโฉมกันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดาวเด่นอย่าง SO/ Maldives ที่เปิดตัวสู่สาธารณชนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาบนเกาะสิงห์ที่เราคุ้นเคย หรือ Moxy Ratchaprasong แบรนด์ Moxy แห่งแรกในไทยที่เน้นไลฟ์สไตล์และความแสบสัน เช่นเดียวกับ TRIBE Living Bangkok Sukhumvit 39 แบรนด์ TRIBE แห่งแรกที่แอบเปิดรับแขกเงียบๆ ตั้งแต่ต้นปี นี่เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะปีนี้ที่พักระดับ Ultra Luxury ตามมาเปิดในไทยและกรุงเทพฯ อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Aman Nai Lert, The Ritz-Carlton หรือการกลับมาของความไอคอนิกอย่าง Dusit Thani Bangkok

และนี่คือ 21 โรงแรมใหม่น่าสนใจที่กำลังเปิดบ้านในไทยและเอเชีย ปี 2024

1. Dusit Thani Bangkok

การกลับมาของโรงแรมเรือธงของกลุ่มดุสิตธานี ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับแขกอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2024 ด้วยรูปโฉมใหม่ที่ยังคงเสน่ห์ไทยร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานี อาคารสูงสีทองขนาด 39 ชั้น (จากเดิม 22 ชั้น) ประกอบไปด้วยห้องพักสุดหรู จำนวน 257 ห้อง (จากเดิม 517 ห้อง) ทุกห้องสะท้อนความเรียบหรู โอ่อ่า กว้างขวางด้วยพื้นที่เริ่มต้นที่ 50 ตารางเมตร ซึ่งออกแบบโดย André Fu Studio สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของเอเชีย ที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล 

Open: กันยายน 2024

Website: www.dusit.com/dusitthani-bangkok

2. Aman Nai Lert Bangkok

หลังมีข่าวออกมานานหลายปี ในที่สุด Aman แห่งที่สองของไทย ก็คาดว่าจะเปิดให้บริการได้แล้วในปีนี้ ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับบ้านปาร์คนายเลิศ ออกแบบโดย Jean-Michel Gathy โอบล้อมด้วยสวนสวยอายุร้อยกว่าปี โดยโครงการฯ ประกอบด้วยส่วนของที่พักอาศัย Aman Residences 33 ห้อง และส่วนของโรงแรมที่มีห้องสวีทจำนวน 52 ห้อง ว่ากันว่าที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งที่สองที่มี Aman Members’ Club ต่อจาก Aman New York 

Open: ภายในปี ​​2024

Website: www.aman.com/hotels/aman-nai-lert-bangkok

3. The StandardX, Melbourne

โรงแรมเก๋ The Standard ตัดสินใจเปิดแบรนด์ลูกครั้งแรกในนาม The StandardX แล้วลงหลักปักฐานยัง Fitzroy ย่านฮิปในเมืองฮิป เมลเบิร์น เพื่อรองรับตลาดนักเดินทางคนรุ่นใหม่ ห้องพักทั้ง 125 ห้อง ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ครบของใช้ที่จำเป็น ที่นี่มีร้านอาหาร 2 แห่ง ได้แก่ The Roof ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Mercado Medellín ในเม็กซิโกซิตี้ และ Bang ห้องอาหารคอนเซปต์สตรีทฟู้ดของไทย ล็อบบี้มีลักษณะคล้ายห้องใต้หลังคา มีพื้นที่นั่งเล่นมากมาย ตกแต่งด้วยชิ้นงานสั่งทำและของวินเทจ รวมถึงงานศิลปะจากศิลปินท้องถิ่น แว่วมาว่า The StandardX มีแผนมาเปิดในไทยด้วย แต่จะลงที่จุดหมายปลายไหนนั้น ต้องติดตาม

Open: กุมภาพันธ์ 2024

Website: www.standardx.com/melbourne

4. The Ritz-Carlton, Bangkok

หนึ่งในโรงแรมหรูแห่งใหม่ที่ได้รับการคาดหวังมากอีกแห่งในกรุงเทพฯ กับการมาของที่พักหรูระดับ Ultra Luxury ที่ในที่สุดก็ก้าวเข้าสู่กรุงเทพมหานครเสียที โดย The Ritz-Carlton, Bangkok จะตั้งอยู่บนชั้น 1-25 ของอาคารสูง 50 ชั้นในโครงการ One Bangkok ประกอบด้วยห้องพัก 259 ห้อง แบ่งเป็นชุดสวีท 32 ห้อง และห้องชุดสวีทสุดอลังการ Ritz-Carlton Suite เพียง 1 ห้อง ชูการออกแบบ Urban Resort ผสานกลิ่นอายความเป็นไทย นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารและบาร์อีก 4 แห่ง และซิกเนเจอร์สปาอันเป็นเอกลักษณ์

Open: Q3 ปี 2024

Website: https://www.ritzcarlton.com/en/about-the-ritz-carlton/our-legacy/

5. Andaz One Bangkok

ครั้งแรกของแบรนด์ Andaz ในกรุงเทพมหานคร หลังสร้างความประทับใจมาแล้วที่พัทยา Andaz One Bangkok จะตั้งอยู่ในโครงการ One Bangkok โดยมีความเขียวชอุ่มของสวนลุมพินีเป็นฉากหลัง ที่นี่จะเปิดให้บริการห้องพักทั้งหมด 244 ห้อง พร้อมการมาของห้องอาหารอันเลื่องลือ Andaz Tavern โดยการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมทั้งหมดเป็นของ A49 ส่วน PIA Interior จะดูแลด้านงานออกแบบภายใน

Open: Q4 ปี 2024

Website: www.hyatt.com/andaz

6. Janu Tokyo

ที่พักแบรนด์น้องใหม่ในเครือ Aman ที่เน้นฟื้นฟูจิตวิญญาณและการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน กำลังเปิดที่พักแห่งแรกที่ Azabudai Hills อาคารแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ออกแบบโดย Pelli Clarke & Partners นำเสนอห้องพัก 122 ห้อง ร้านอาหาร 8 แห่ง สปาและศูนย์สุขภาพขนาด 4,000 ตารางเมตร ถือได้ว่าเป็นโอเอซิสเขียวชอุ่มใจกลางโตเกียว Janu มีแผนเปิดตัวมีประเทศไทยด้วย แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นเดสติเนชันไหน

Open: กุมภาพันธ์ 2024

Website: www.janu.com/janu-tokyo

7. SO/ Maldives

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กับ SO/ แบรนด์โรงแรมสายแฟชั่นจาก Ennismore ที่มาสร้างไวบ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งนำสีสัน งานดีไซน์ และความสนุกมาสู่มัลดีฟส์ โดยยังไม่ทิ้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและการดูแลธรรมชาติ ตั้งอยู่บน Emboodhoo Lake ละแวกเดียวกับ CROSSROADS Maldives หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่าเกาะสิงห์ วิลล่าทั้งหมด 80 หลัง มีทั้งแบบริมหาด และเหนือน้ำ ซึ่งทุกห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัวและวิวทะเลแบบพาโนรามา มองเห็นความงามของท้องทะเลได้ในทุกอิริยาบถ

Open: มกราคม 2024

Website: https://so-hotels.com/en/maldives

8. Moxy Ratchaprasong

ที่พักระดับมิดสเกลที่เน้นไลฟ์สไตล์และความแสบสัน กับการมาของแบรนด์ Moxy ครั้งแรกในประเทศไทย เข้ามาปักหลักอยู่บนทำเลทองย่านราชประสงค์ บนชั้นสูงของ The Market Bangkok รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และบาร์เก๋ อีกทั้งยังเดินไป BTS สถานีชิดลม เพียง 10 นาที ด้วยจำนวนห้องพักมากถึง 504 ห้อง ทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็น Moxy ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก

Open: กุมภาพันธ์ 2024

Website: www.marriott.com/en-us/hotels/bkkox-moxy-bangkok-ratchaprasong/overview

9. Chiang Mai Marriott Hotel

อีกหนึ่งโรงแรมหรูใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่เพิ่งเปิดบ้านต้อนรับแขกอย่างเป็นทางการ หลังเปลี่ยนแบรนด์และรีโนเวตตึกใหม่เกือบทั้งหลังโดยหยิบเอาบริบทที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองของล้านนามาทำใหม่ นอกเหนือจากการพักสบายตามมาตรฐานแบรนด์ จุดเด่นคือโลเคชันใจกลางเมือง สามารถเดินเท้าไปสถานที่สำคัญของเชียงใหม่ได้ และยังเป็นเพียงไม่กี่โรงแรมในเชียงใหม่ ที่มีลักษณะเป็นตึกสูง ให้คุณนอนมองวิวดอยสุเทพได้ตั้งแต่แรกตื่น

Open: มกราคม 2024

Website: www.marriott.com/en-us/hotels/cnxmc-chiang-mai-marriott-hotel

อ่านเพิ่มเติม: https://thestandard.co/life/chiang-mai-marriott-hotel

10. Khao Lak Marriott Beach Resort & Spa

เขาหลักยังคงเป็นที่ต้องการของนักพักผ่อนเสมอ และเครือโรงแรม Marriott ก็กำลังแวะไปเปิดบ้านพักแห่งใหม่ในปีนี้ บริเวณหาดบางหลุด ชายฝั่งอันเงียบสงบในละแวกเขาหลัก จังหวัดพังงา ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 283 ห้อง ตั้งไล่ระดับไปตามเนินเขา แวดล้อมด้วยแมกไม้ พร้อมสระว่ายน้ำ 3 สระ ที่มีเลือกตามไลฟ์สไตล์การพักผ่อน

Open: Q3 ปี 2024

Website: www.marriott.com/en-us/hotels/hktmk-khao-lak-marriott-beach-resort-and-spa

11. Six Senses Kyoto

การมาของ Six Senses แห่งแรกของญี่ปุ่นเรียกว่าไม่ธรรมดา เพราะเปิดประตูอยู่ในใจกลางย่านประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น Higashiyama เมืองเกียวโต ห้องพักและห้องสวีทจำนวน 81 ห้อง ออกแบบอย่างพิถีพิถัน มีขนาดตั้งแต่ 42-238 ตารางเมตร มองเห็นทิวทัศน์ของศาลเจ้าโทโยคุนิที่อยู่ใกล้เคียง หรือทัศนียภาพเมืองอันเต็มไปด้วยยอดไม้ วัด ร้านน้ำชา และหลังคาบ้านแบบพาโนรามา ด้วยความที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง นักพักผ่อนจึงสามารถเดินเท้าไปยังวัดเมียวโฮอิน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกียวโต และวัดพุทธซันจูซันเก็นโด ฯลฯ ได้อย่างง่ายดาย

Open: เมษายน 2024

Website: www.sixsenses.com/en/hotels/kyoto

12. Soneva Secret, Maldives

ผู้นำที่พักแบบ Sustainable Luxury อย่าง Soneva กำลังเปิดให้บริการรีสอร์ตแห่งใหม่ ที่เรียกว่าหรูหราและเข้าถึงยากบริเวณหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บริเวณ Haa Dhaalu Atoll ซึ่งเป็นวงปะการังห่างไกลที่สุดของมัลดีฟส์ ต้องใช้เวลานั่ง Seaplane นานถึง 75 นาที วิลล่าทั้งหมด 14 หลัง มีทั้งแบบริมหาด, เหนือน้ำ, Crusoe Villa วิลล่ากลางน้ำที่เข้าได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น รวมไปถึง Castaway Villa วิลล่าลอยน้ำหนึ่งเดียวด้วย ทุกห้องมี Barefoot Guardian และผู้ช่วยส่วนตัว รวมถึงเชฟประจำบ้านที่จะคอยครีเอตเมนูตามความชอบ โดยคุณสามารถเลือกรับประทานที่วิลล่าหรือตรงไหนก็ได้ของเกาะ

Open: มีนาคม 2024

Website: https://soneva.com/resorts/soneva-secret-2024

13. TRIBE Living Bangkok Sukhumvit 39

เกริ่นมาสักพักแล้วว่าแบรนด์ TRIBE กำลังจะมา และในที่สุดก็มาเสียทีแบบเงียบเชียบเสียด้วย เพราะเริ่มรับเปิดรับแขกบ้างแล้วตั้งแต่ต้นปี แบรนด์โรงแรมไลฟ์สไตล์แห่งใหม่จาก Ennismore ที่มุ่งหมายมอบประสบการณ์การพักผ่อนคุณภาพสูงในราคาสมเหตุสมผล เน้นบรรยากาศสนุก กระฉับกระเฉง มีพื้นที่ส่วนกลางยืดหยุ่นตามไลฟ์สไตล์ผู้เข้าพัก แน่นอนว่ายังไม่ลืมเรื่องราวของคนพื้นที่และเทคโนโลยี TRIBE Bangkok จะเปิดให้บริการที่ซอยสุขุมวิท 39 นอกจากห้องนอนนอนสบาย ที่นี่ยังมีคาเฟ่ บาร์บนชั้นดาดฟ้า ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และออนเซนให้บริการด้วย

Open: มกราคม 2024

Website: https://mytribehotel.com

14. Eastern & Oriental Express, Belmond

หลังจากหยุดให้บริการไปนานถึง 4 ปี รถไฟหรูที่วิ่งข้ามเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขบวนนี้กำลังกลับมาให้บริการอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมห้องโดยสารใหม่ 15 ห้อง และเส้นทางเที่ยวจากสิงคโปร์สู่กัวลาลัมเปอร์ ลังกาวี และปีนัง เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์สองข้างทาง ดื่มด่ำกับความหรูหราจากอาหารและบริการระดับโรงแรม 5 ดาวตลอด 3 คืนบนรถไฟ การเดินทางจะเริ่มที่สิงคโปร์ไปยังกัวลาลัมเปอร์ แวะลงจอดลังกาวี ก่อนแวะไปจอร์จทาวน์ ปีนัง 

Open: กุมภาพันธ์ 2024

Website: www.belmond.com/trains/asia/eastern-and-oriental-express

15. NH Collection Chiang Mai Ping River

เรียกว่ารอกันมานานสำหรับ NH Collection Chiang Mai Ping River ที่เคยประกาศเปิดมานานแล้ว และผัดวันเลื่อนเปิดมาหลายรอบ ทว่าปีนี้ทาง Minor Hotels บอกว่าเปิดแน่ อาคารหลังหลักได้รับการออกแบบโดย ณรงค์ โอถาวร จาก SO Architect นำแรงบันดาลใจช่วงยุคทองของการเดินทาง อ้างอิงโมเดลจาก Daniel McGilvary มิชชันนารีและรัฐบุรุษชาวอเมริกันผู้ใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในเชียงใหม่ในช่วงปลายยุคศตวรรษที่ 19 ที่นี่มีห้องพักจำนวน 79 ห้องรวมห้องสวีท ชูความแตกต่างด้วย River Club ซึ่งมีร้านอาหารและบาร์แห่งแรกของเชียงใหม่ริมแม่น้ำปิง

Open: ปลาย Q3 2024

Website: https://world.nh-hotels.com/en

16. Maison Hotel Bangkok

เปิดตัวอย่างเงียบๆ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา กับการรีแบรนด์ใหม่ของ Rajah สู่ Maison Hotel Bangkok ภายใต้คอนเซปต์ ‘Cabinet of Curiosity’ แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของย่านนานาในอดีต ตัวโรงแรมตั้งอยู่ระหว่างสุขุมวิท 2 และ 4 จุดเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์กลางวันและกลางคืนที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ห้องพัก 243 ห้อง แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ สายน้ำ ป่าไม้ ขุนเขา และท้องฟ้า มาพักที่นี่ห้ามพลาดกับสปาซิกเนเจอร์ที่ผสานจากความเชื่อและภูมิปัญญาไทยแบบดั้งเดิม พร้อมศาสตร์การนวดตามหลักน้ำขึ้น-น้ำลงเพื่อสร้างสมดุล

Open: ธันวาคม 2023

Website: https://maisonhotelbangkok.com

17. Marasca Samui

หลังจากประสบความสำเร็จกับการเปิดแบรนด์ครั้งแรกที่เขาใหญ่ ก็ถึงเวลาของพร็อพเพอร์ตี้ลำดับ 2 ที่เปลี่ยนบรรยากาศไปเปิดไกลถึงหาดเฉวงบนเกาะสมุย การตกแต่งของ Marasca Samui จะมาในโทนอบอุ่น ให้ความรู้สึกราวกับอยู่บ้านพักริมทะเลที่ไหนสักแห่ง เน้นใช้ไม้และสีเอิร์ธโทนและนำเอกลักษณ์ท้องถิ่นมาผสาน เปิดห้องพักและห้องสวีทรวม 62 ห้อง พร้อมบีชคลับริมหาดในนาม Cabanas Koh Samui

Open: กรกฎาคม 2024

Website: https://marasca.live/destination/samui

18. The Standard, Singapore

หลังเปิด The Standard สองแห่งแรกในประเทศไทย แบรนด์โรงแรมเก๋ก็มองหาทำเลใหม่ขยับไปเปิดบ้านอีกหลังที่สิงคโปร์ โดยได้ทำเลดีริมถนน Orange Grove ตรงข้ามโรงแรม Shangri-La Singapore จุดกึ่งกลางระหว่าง Botanic Gardens, Newton Circus Hawker และ Orchard Road ซึ่งทำให้แขกที่มาพักสามารถเดินทางไปยังเที่ยวแหล่งมรดกโลกได้เพียงไม่กี่นาที แถมยังใกล้แหล่งช้อปปิ้งและร้านอร่อยหลายร้าน โดยห้องพักทั้งหมด 143 ห้อง มุ่งหวังมอบประสบการณ์ใหม่แก่แขก แน่นอนว่าที่นี่ย่อมต้องมาพร้อมห้องอาหารและบาร์เก๋ รวมทั้งสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ ซึ่งรายล้อมด้วยลานพฤกษศาสตร์อันหรูหรา

Open: Q4 ปี 2024

Website: www.standardhotels.com/singapore/properties/singapore

19. Asili Village

วิลล่าเปิดใหม่ในขอบรั้วเดียวกับ dusitD2 Khao Yai ที่นำกลิ่นอายการเที่ยวแนวซาฟารีมาสู่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เสมือนการพักผ่อนยังบ้านกลางป่าส่องสัตว์แถวแอฟริกา ตัววิลล่าทุกหลังเป็นแบบ One Bedroom Villa คือมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เพดานสูงโปร่ง พร้อมสระส่วนตัวแบบ Plunge Pool ห้องอาหารลอยฟ้าสูงถึง 7 ชั้น และผาจำลองสำหรับสายแอดเวนเจอร์

Open: มีนาคม 2024

Website: www.facebook.com/AsiliVillage

20. Mercure Bangkok Surawong

สุรวงศ์ยังคงฮอตอย่างต่อเนื่อง เพราะมีโรงแรมอีกแห่งจาก Accor กำลังรอเปิดบ้านอีกหลัง ตั้งอยู่ริมถนนสุรวงศ์ ใกล้กับ Neilson Hays สามารถเดินหากันได้เพียงไม่กี่เมตร ห้องพัก 219 ห้อง นำเสนอเรื่องราวของย่านไทย-จีน เตียงนอนสบายตามมาตรฐาน Mercure ที่นี่มีห้องอาหารจีนชั้นยอดรอเสิร์ฟไปจนถึงรูฟท็อปบาร์วิวน่ามอง

Open: มีนาคม 2024

Website: www.mercurebangkoksurawong.com

21. Hilton Garden Inn Bangkok Riverside

เชนโรงแรมน้องใหม่ในเครือ Hilton ที่เข้ามาเปิดในไทยแห่งแรก และเลือกจับจองยังได้ทำเลทองตรงข้ามห้าง ICONSIAM อาคารสูง 19 ชั้น บนพื้นที่ 17,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องพัก 241 ห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุม และสระว่ายน้ำกลางแจ้งบนชั้น 9 นี่เป็นเพียงข้อมูลทั้งหมดที่เรารู้ เพราะหน้าเว็บไซต์ยังคงขึ้นข้อความไม่รับจองและเปิดเผยข้อมูลมากนัก อย่างไรก็ดี ด้วยทำเลที่ตั้งและห้องวิวแม่น้ำเจ้าพระยา นักพักผ่อนสามารถดูพลุจากห้องนอนได้สบายๆ

Open: Q2 ปี 2024

Website: www.hilton.com/en/hotels/bkkcpgi-hilton-garden-inn-bangkok-riverside

ภาพ: Courtesy of Brand

The post 21 New Hotels น่าสนใจ ที่กำลังเปิดในไทยและเอเชีย ปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

เผลอไม่ทันไร InterContinental Hua Hin รีสอร์ตหรูริมชายหาดหัวหิน ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมรูปโฉมใหม่ด้วยการรีโนเวตห้องพักฝั่งบีชใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงล็อบบี้ ฟิตเนส คิดส์คลับ สระน้ำ และบริเวณหน้าหาด

การพลิกโฉมนี้ทำขึ้นภายใต้คอนเซปต์ ‘The Next Chapter of The Legend, Where Nostalgia Meets Seaside Elegance’ นำกลิ่นอายความสง่างามของเมืองหัวหินในยุค 1920 มาผสานเข้ากับการตกแต่ง เริ่มตั้งแต่ล็อบบี้ที่ปรับให้กว้างขึ้น เพิ่มส่วนเรือนกระจกไว้เป็นมุมเล่นบอร์ดเกมกับครอบครัว เพิ่มห้องเช็กอินสำหรับลูกค้าแบบกลุ่ม และมุม Concierge เป็นสัดส่วนมากขึ้น

ห้องพัก 119 ห้อง เก็บกลิ่นอายยุค 1920 เอาไว้ครบถ้วน ผนังกำแพงทำไม้ระแนงฉลุลายมาประดับ ที่นอนระดับพรีเมียมนอนสบายมากขึ้น เครื่องเสียง Harman Kardon และเครื่องประทินผิวเปลี่ยนมาเป็น Byredo ทั้งหมด

ในส่วนห้องอาหารเช้า เสริมประสบการณ์อาหารเช้าแบบใหม่ Hawker Station จำลองบรรยากาศรถเข็นขายอาหารของตลาดโต้รุ่ง พร้อมเมนูอร่อยเลื่องชื่อประจำหัวหิน ทางด้านสระว่ายน้ำ ปรับปรุงซุ้มคาบานาให้มีความเป็นส่วนตัว และยังเพิ่มกิจกรรมทางน้ำที่ให้บริการ Stand-up Paddle Boards และเรือแคนูด้วย

และอีกหนึ่งไฮไลต์ ‘InterContinental Hua Hin Express’ รถไฟขนาดเล็กสีแดงเบอร์กันดีที่จะให้บริการรับส่งลูกค้าทุกท่านภายในบริเวณโรงแรม สื่อถึงยุคทองของการท่องเที่ยวด้วยรถไฟสู่หัวหิน

ส่วนใครที่อยากไปพักผ่อนที่ InterContinental Hua Hin ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ihg.com/intercontinental/hotels/us/en/hua-hin/hhqha/hoteldetail

ภาพ: Courtesy of Hotel

The post InterContinental Hua Hin รีโนเวตที่พักใหม่ เปิดรถไฟไซส์จิ๋วรับส่งแขกในโรงแรม appeared first on THE STANDARD.

ปีนี้มัลดีฟส์คึกคักน่าดูเพราะมีรีสอร์ตเปิดใหม่จำนวนไม่น้อย และหนึ่งในนั้นได้แก่ โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) แบรนด์โรงแรมสายแฟชั่นจาก Ennismore รีสอร์ตที่ไม่ใช่แค่วิวทะเลสวย แต่ยังมอบความหรูหรา มีสไตล์ ในไวบ์คึกคักที่คนเมืองน่าจะชอบ ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติมาเล่ ไม่จำเป็นต้องนั่ง Sea Plane แต่นั่งสปีดโบ๊ตส่วนตัวของทางรีสอร์ตเพียง 15 นาทีก็มาถึงท่าเทียบเรือ ดังนั้นเราจึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่มีพนักงานของรีสอร์ตคอยดูแลต้อนรับ

Why Here

โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) ตั้งอยู่บริเวณ Emboodhoo Lagoon ที่มีรีสอร์ตข้างเคียงอย่าง Hard Rock Hotel Maldives และ CROSSROADS Maldives ที่เป็นเหมือนคอมมูนิตี้มอลล์กลางทะเล มีร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ ร้านรวงให้ช้อปปิ้งมากมาย ทันทีที่ลงจากเรือ คุณก็จะรู้สึกราวกับเป็นคนพิเศษ เพราะจะมีพนักงานมาคอยต้อนรับเราตั้งแต่ท่าเทียบเรือไปจนถึง Arrival Pavilion ที่มีเวลคัมดริงก์เย็นๆ เตรียมไว้ให้เราดับกระหายคลายร้อน    

โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) มีวิลล่าทั้งหมด 80 หลัง ทั้ง Family Beach Villa, Beach Villa และ Overwater Villa ขนาด 1-3 ห้องนอน เหมาะทั้งมาเป็นคู่ หรือมาเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการห้องพักในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ทุกวิลล่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัว ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในห้องน้ำมาจากแบรนด์แห่งความยั่งยืนอย่าง Maison CODAGE ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทุกห้องมีบัตเลอร์ส่วนตัวไว้คอยช่วยเหลือ 

Overwater มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว โดดลงทะเลได้เลย 

ในห้องพักมาแนวพาโนรามากระจกล้อมรอบ 

โซฟาขนาดใหญ่สำหรับนั่งชิลด้านนอก 

Beach Villa

Family Beach Villa

นอกจากห้องพักแล้ว โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) ยังมีห้องอาหารและบาร์ให้เลือกอีก 3 แห่ง ได้แก่ Citronelle Club เสิร์ฟอาหารสไตล์เอเชียน เหมาะกับการแชริ่ง และเสิร์ฟอาหารเช้าด้วย 

Citronelle Club

หรือ Hadaba ที่เสิร์ฟอาหารสโลว์คุกและรมควันเหมาะกับมื้อเย็น และร้านริมหาด Lazuli Beach Club ที่ได้แรงบันดาลใจจากเฟรนช์ริเวียรา ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ใกล้ๆ กันเป็นสระว่ายน้ำที่ประดับด้วยโมเสกหลากสี ซึ่งเรามองว่าเพียงพอสำหรับแขกที่มาพักติดต่อกันหลายคืน ทำให้ไม่รู้สึกจำเจ มีให้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ  

Hadaba

Lazuli Beach Club และสระน้ำประดับโมเสกหลากสี 

ในส่วนของกิจกรรมที่มีให้ทำในรีสอร์ต ก็มีทั้งสายแอ็กทีฟอย่างฟิตเนสใหม่เอี่ยม กิจกรรมทางน้ำ เช่น คายัค แพดเดิลบอร์ด สน็อกเกิล เจ็ตสกี ฯลฯ 

หรือสายสบายอย่างสปาก็มี Salon C. Stellar ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์พรีเมียมอย่าง Maison CODAGE, Comfort Zone หรือ Odacité แต่ถ้าใครอยากทำกิจกรรมยอดนิยมอย่างสำรวจเต่าทะเล สำรวจแนวปะการัง ส่องโลมา ว่ายน้ำกับฉลามหรือปลากระเบน รวมถึงดำน้ำลึก โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) ก็มีบริการเช่นกัน เพียงแต่ต้องจ่ายเพิ่มเติม 

สปาประจำรีสอร์ต 

Worth It…

• เราค่อนข้างชอบโลเคชันของ โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) ที่ไม่ไกลจากสนามบิน นั่งเรือต่อมาเพียง 15 นาทีก็ถึง ไม่ต้องเสียเวลานั่งเครื่องบินเล็กอีกต่อ ทำให้เราไปถึงรีสอร์ตเร็วขึ้น ได้พักผ่อนมากขึ้น
• และแม้จะไม่ไกลจากเกาะมาเล่ แต่ที่นี่ก็อุดมสมบูรณ์มาก จากหน้าห้องพัก เราสามารถมองเห็นปลากระเบน ฉลาม และเต่าทะเลได้ด้วย (ถ้าคุณโชคดี) ไม่ต้องนั่งเรือออกไปไกลๆ แถมยังมีแพ็กเกจทัวร์ไปดูโลมาที่ได้เห็นฝูงโลมาจริงๆ แบบไม่ต้องลุ้นดวงด้วย

ภาพที่ได้จากกิจกรรมทัวร์ฉลาม 

ทัวร์โลมา น้องมาเป็นฝูง

• ต้องบอกว่าห้องพักที่นี่สวยมากสมกับแบรนด์สายแฟชั่น กว้างขวาง เหมาะกับสายคอนเทนต์ เลย์เอาต์ห้องมาในแนวยาว มีหน้าต่างรอบด้าน ทำให้เราสามารถเห็นวิวด้านนอกได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะวิลล่าที่อยู่เหนือน้ำจะฟินมาก ทั้งยังมีโซฟาตัวใหญ่ให้นั่งชิลทั้งด้านในและด้านนอกห้องพัก  

• อาหารแทบทุกเอาต์เล็ตของ โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) ดีมาก ทั้งอาหารเอเชียน เมดิเตอร์เรเนียน หรือนานาชาติ ที่เรารู้สึกว่าทำถึง ใช้วัตถุดิบที่ดี และมีรสชาติที่ถูกต้อง คุ้มค่ากับราคา แต่ที่ประทับใจมาก ได้แก่ บุฟเฟต์มื้อค่ำซึ่งจัดสัปดาห์ละครั้ง ที่ดีทั้งซีฟู้ด สเตชันย่าง สเตชันผัด สลัด และขนมหวาน ยอมรับเลยว่าไม่ได้เจอบุฟเฟต์ดีๆ แบบนี้นานแล้ว

Good for…

คนที่อยากไปเที่ยวมัลดีฟส์มู้ดสนุกๆ ไวบ์คึกคัก ไม่ได้อยากได้ฟีลเงียบสงบ สโลว์ไลฟ์ ชอบห้องพักสวยๆ ถ่ายรูปได้ทุกมุม และอยากมาเที่ยวพักผ่อนในเกาะกลางทะเล แต่ก็ยังอยากเอ็นจอยกับเครื่องดื่มและอาหารที่ดี การันตีว่าได้เห็นปลากระเบนแน่ รับรองว่า โซ/ มัลดีฟส์ (SO/ Maldives) ไม่ทำให้ผิดหวัง

SO/ Maldives 

Location: SO/ Maldives, Emboodhoo Lagoon, Kaafu Atoll, Republic of Maldives 

Budget: เริ่มต้นที่ 39,000 บาท 

Contact: https://so-hotels.com/en/maldives

Map: https://maps.app.goo.gl/t66Eb3GAku5aYqnW8

The post เที่ยวมัลดีฟส์ พักหรู มีสไตล์ พร้อม SO/ Maldives ประสบการณ์แห่งความสวยงามใต้ทะเล appeared first on THE STANDARD.

ใครอยากพักบ้านตากอากาศไวบ์ดีแบบโรงแรม The Standard ห้ามพลาด

ปักหลักเปิดบ้านในไทยมาสักพักแล้ว ถึงเวลาที่แบรนด์โรงแรมเก๋ The Standard จะขยับขยายโปรเจกต์ด้วยการเปิดพร็อพเพอร์ตี้ใหม่ 2 แห่งในนามของ The Standard Residences ให้แก่นักพักผ่อนที่อยากมีบ้านตากอากาศดีไซน์สวยไวบ์สนุกๆ แบบโรงแรม The Standard ไว้ครอบครอง

โดยทั้งสองโครงการของ The Standard Residences จะตั้งอยู่บนทำเลสุดฮอตกับเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ‘The Standard Residences, Hua Hin’ จะตั้งอยู่ละแวกเขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีดีเวลอปเปอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Sansiri Public Company Limited มาดูแล ส่วน The Standard Residences, Phuket Bang Tao จับมือ CG Capital Limited ลงหลักปักฐานยังหาดบางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

ทั้งสองโครงการจะเริ่มเปิด Presales ในช่วงเดือนมีนาคม 2567 โดยโครงการ The Standard Residences, Hua Hin มีกำหนดการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2569 และ The Standard Residences, Phuket Bang Tao มีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในไตรมาสที่ 4 ของปี  2570

นอกจากจะได้พร็อพเพอร์ตี้ที่ถูกใจ ผู้ซื้อโครงการยังได้สิทธิประโยชน์จาก ‘Friend with Benefits’ โปรแกรมส่วนลดพิเศษ 3 ต่อ ได้แก่ ส่วนลดห้องอาหาร 10-15% สำหรับร้านอาหารของโรงแรมในเครือ The Standard และ The Peri Hotel ในประเทศไทย และส่วนลดห้องพักในเครือ The Standard ทั่วโลกสูงถึง 25% รวมไปถึงสิทธิพิเศษและส่วนลดอื่นๆ ตามงานอีเวนต์ด้วย

ภาพ: Courtesy of The Standard Residences

The post แบรนด์โรงแรมเก๋ ‘The Standard’ เตรียมเปิด Residences จำนวน 2 แห่งในไทยที่ภูเก็ตและหัวหิน appeared first on THE STANDARD.

แม้จะเป็นทริปสั้นๆ เพียง 3 วัน 2 คืนที่เราได้ไปพักผ่อนกับ Rosewood Phuket และแทบไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่ใช้เวลาพักผ่อนกับตัวเอง นั่งชมทะเล เดินเล่นสูดอากาศท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว ทว่าที่นี่กลับเป็นอีกรีสอร์ตที่เราหลงรักจนอยากชวนทุกคนไปลองสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วเชื่อได้เลยว่าคุณก็จะอยากกลับไปที่นี่อีกครั้งเหมือนกับเรา

Why Here

Rosewood Phuket เป็นรีสอร์ตระดับอัลตราลักชัวรีแห่งแรกของแบรนด์ Rosewood Hotels & Resorts® ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นี่อยู่ริมหาดไตรตรัง ในตำบลป่าตอง มาถึงแล้วทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบตั้งแต่ทางเข้าที่ปกคลุมด้วยธรรมชาติและเงาไม้ ก่อนมาถึงทางเดินสู่ล็อบบี้ที่ทำให้รู้สึกตั้งตารอกับการเข้าพักมากขึ้นไปอีก

ห้องพักมีทั้งหมด 71 หลัง และมีให้เลือก 2 ชนิด คือ Pool Pavillion และ Villa โดยรอบนี้เราได้พักห้อง ‘Garden Pool Pavilion’ ที่กว้างขวาง หลับสบาย และสามารถใช้ชีวิตในห้องนี้ได้ทั้งวัน เพราะเราลองเดินไปนั่งทำงานมุมหนึ่ง หยิบหนังสือไปอ่านอีกมุมหนึ่ง แล้วนั่งฟังเพลง จิบแชมเปญอีกมุมหนึ่งในห้องมาแล้ว หรือใครไม่อยากว่ายน้ำในสระริมทะเล ก็ลงแช่น้ำเล่นในสระส่วนตัวได้เหมือนกัน

ส่วนห้องอาหารไฮไลต์ของ Rosewood Phuket คือ ตาข่าย (Ta Khai) เป็นห้องอาหารไทยที่มีชื่ออยู่ในร้านแนะนำของ MICHELIN Guide ประเทศไทย ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติไทย แม้แต่เรากินก็ถูกปากหลายเมนูเลย

อีกสิ่งที่เราชอบคือด้าน Wellness ของที่นี่ Asaya (อาสยะ) ไม่ได้เป็นสปาที่ให้บริการนวดผ่อนคลายเพียงอย่างเดียว เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลทุกคนอย่างจริงจังตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกน้ำมัน รีสอร์ตนี้จึงมีนักท่องเที่ยวมาลงโปรแกรมดูแลตัวเองด้วย โดยมีตั้งแต่ 1-14 วัน และทีมผู้เชี่ยวชาญจะดูแลตั้งแต่การออกกำลังกายไปจนถึงอาหารเลย

Worth It

ด้วยความที่ Rosewood Phuket เป็นรีสอร์ตระดับอัลตราลักชัวรี เพราะฉะนั้นเรื่องการบริการคงไม่ต้องพูดถึงว่าน่าประทับใจขนาดไหน ทว่าสิ่งที่เราชอบที่สุดก็คือความสงบและสบาย รู้สึกว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มจริงๆ อาจด้วยห้องพักที่มีความ Cozy ใช้โทนอบอุ่น พอถึงเวลานอนก็สามารถหลับลึกได้ทันที

และด้วยความกว้างขวางของรีสอร์ต ทุกคนจะโทรเรียกรถบักกี้รับ-ส่งไปที่ต่างๆ หรือเลือกเดินเองก็ได้ เพราะรีสอร์ตมีธรรมชาติเยอะทุกมุม เดินไปทางไหนก็รู้สึกสบายตา แถมยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์อีกด้วย

Good For

อย่างที่บอกว่า Rosewood Phuket เป็นรีสอร์ตที่ทำให้เรารู้สึกว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มจริงๆ เราชอบบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียว มองไปทางไหนก็ร่มรื่น แถมยังใช้เวลาในรีสอร์ตได้ทั้งวันแบบไม่เบื่อด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังให้ความสำคัญกับด้าน Wellness อีกต่างหาก ใครที่เป็นสายรักสุขภาพจะต้องรักที่นี่อย่างแน่นอน

Rosewood Phuket

Location: ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต

Budget: เริ่มต้นที่ 30,000-50,000 บาทต่อคืน

Contact: Rosewood Phuket

Map: https://maps.app.goo.gl/sxYTctLMvSWA9roH8

The post Rosewood Phuket รีสอร์ตที่จะทำให้คุณหลงรักความสงบท่ามกลางธรรมชาติ appeared first on THE STANDARD.

สำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่พักกายและใจ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เราขอแนะนำ THANN Wellness Destination จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

THANN Wellness Destination เป็นเหมือนโอเอซิสที่อยู่ไม่ไกลจากรุงเทพฯ ซึ่งเราเคยไปพักมาแล้วช่วงที่รีสอร์ตกลับมาเปิดอีกครั้งหลังโควิด มาในวันนี้เรากลับไปที่นี่อีกครั้ง หลังได้ข่าวว่า THANN Wellness Destination เปิดโซนใหม่ เป็น ‘ไพรเวตพูลวิลล่าหลังใหญ่’ ที่ได้ทั้งวิวแม่น้ำน้อยและทุ่งนาสีเขียว ก็ยิ่งทำให้อยากเรากลับไปพักที่นี่อีกครั้ง  

วิวแม่น้ำน้อย  

บวกกับการที่ THANN Wellness Destination ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะกับความสวยงามเท่านั้น แต่ที่นี่ยังออกแบบภายใต้มีปรัชญาของแบรนด์ 3 ประการสำคัญ ได้แก่ Active Lifestyle การออกกำลังกาย และการทำกิจกรรมเพื่อสร้างความแข็งแรง Balance of Body, Mind and Spirit การปรับสมดุลร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ และ Connect with Others การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการดูแลตัวเองแบบองค์รวม หรือ Well-being ที่เป็นกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน 

ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่ THANN Wellness Destination ใช้ของ THANN 

Why here 

รอบนี้เราพักที่ Presidential 3-Bedroom Pool Villa หรือ ไพรเวตวิลล่า 3 ชั้น ที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำน้อย ภายในมี 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งขนาดใหญ่ กว้างขวาง ขนาด 460 ตารางเมตร สามารถนอนได้สูงสุด 6 คน 

Presidential 3-Bedroom Pool Villa

ภายในวิลล่าแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้เราแทบไม่ต้องออกจากวิลล่า ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ Infinity Pool ยาว 12 เมตร มุมชมวิวด้านนอกห้องพักที่มองเห็นวิวแม่น้ำน้อยได้อย่างเป็นส่วนตัว มุมโซฟาที่มาพร้อมทีวีขนาดยักษ์และชุดเครื่องเสียง Home Theatre & Surround Sound System ระดับพรีเมียม 

นอกจากนั้นทุกห้องพักยังใช้เตียงนอนอัจฉริยะ จากแบรนด์ Omazz (ราคาสูงเกินครึ่งล้าน) ที่มีโหมด ‘บำบัดการพักผ่อน’ 13 ฟังก์ชัน สามารถปรับให้รองรับสรีระทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เรานอนหลับสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย 

บรรยากาศภายในห้องพัก

ห้องน้ำแต่ละห้องสวยคนละแบบ

แน่นอนว่าการเข้าพักที่นี่เป็นแบบ All-Inclusive Package ที่รวมอาหารทุกมื้อตั้งแต่เข้าพัก ตั้งแต่มื้อเย็นของวันแรก สปาทรีตเมนต์ 90 นาทีต่อคืนต่อท่าน คลาสออกกำลังกายและกิจกรรมสันทนาการที่จอยได้ตลอดทั้งวัน สามารถใช้ Wellness Zone เช่น Aromatherapy Bath, Aromatherapy Steam Room และ Salt Therapy Room ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

กิจกรรมทางน้ำมีให้เลือกมากมาย

 สปาทรีตเมนต์ 90 นาทีต่อคืนต่อท่าน

ห้อง Aromatherapy Bath

ส่วนอาหารมาภายใต้คอนเซปต์ Farm to Table เน้นวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลและปลอดสาร มื้อกลางและเย็นจะเสิร์ฟมาเป็นเมนูเซ็ตจำนวน 3 คอร์ส ที่เราสามารถเลือกจานหลักได้ เช่น แซลมอนกับเส้นแองเจิลแฮร์ในซอสพอนสึส้มยูสุ หรือเต้าหู้ทอดซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล ที่เป็นจานเริ่มต้นหรือจานหลักที่เลือกได้ว่าจะเป็นข้าวซอยเป็ดกงฟีฝรั่งเศส, รีซอตโตหมูตุ๋นโอกินาวา หรือสปาเก็ตตีต้มยำกุ้งล็อบสเตอร์แคนาเดียน ซึ่งเมนูจะสลับเปลี่ยนทุกวันเพื่อให้แขกไม่รู้สึกจำเจ

 แซลมอนกับเส้นแองเจิลแฮร์ในซอสพอนสึส้มยูสุและเต้าหู้ทอดราดซอส

เมนูอาหารเช้า 

นอกจากนั้นยังมีบริการชุด Afternoon Tea เสิร์ฟคู่กับชาสมุนไพรเบลนด์รสชาติพิเศษ ที่เป็นเหมือนเซอร์ไพรส์กิฟต์สำหรับแขกที่มาเช็กอินพักในวันแรก เรียกได้ว่าขับรถมาเหนื่อยๆ ก็รู้สึกดีขึ้นเลย  

 Afternoon Tea หลังเช็กอิน  

Worth it 

• ไม่ไกลกรุงเทพฯ เพราะขับรถไปเพียง 1 ชั่วโมงเศษก็ถึงแล้ว ซึ่งเราไม่ต้องเข้าไปยังตัวเมืองอยุธยาด้วย ที่นี่จึงมีความเงียบสงบและใกล้ชิดธรรมชาติมาก นับเป็นสถานที่ซึ่งห่างไกลจากความวุ่นวายอย่างแท้จริง 

สระว่ายน้ำติดริมแม่น้ำน้อย

• ไพรเวตวิลล่าของที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านพักตากอากาศที่อยู่ริมน้ำมากกว่ารีสอร์ต มีมุมนั่งเล่นพร้อมทีวีจอยักษ์ สระว่ายน้ำติดแม่น้ำ มุมชมวิวพระอาทิตย์ตกด้านนอก ห้องพักสวยน่านอนทั้ง 3 ห้อง 

• ไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ทั้งสายออกกำลังกาย ที่มีคลาสกว่า 10 คลาสตลอดทั้งวัน รวมถึงเวิร์กช็อปสำหรับสายผ่อนคลาย เช่น Facial Workshop ที่เราได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ THANN ด้วย 

• เครื่องหอม ครีม สบู่ แชมพู ฯลฯ ในรีสอร์ตแห่งนี้ใช้ของ THANN ที่เราสามารถเลือกกลิ่นที่ชอบเพื่อใช้ในห้องได้ตั้งแต่วันแรกที่เช็กอิน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในคุณภาพระดับพรีเมียม  

• อาหารรสชาติดี แม้จะเน้นไปที่อาหารเพื่อสุขภาพ แต่ที่นี่ก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ได้เป็นอาหารสุขภาพที่สุดโต่งขนาดนั้น เราชอบที่นอกจากสุขภาพแล้ว ที่นี่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความอร่อยที่ต้องมาคู่กัน 

Good for… 

คนที่มองหาทริปท่องเที่ยวกับครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนที่ไม่ได้อยากขึ้นเครื่องบินให้เสียเวลา สามารถขับรถไปได้ มีความเป็นส่วนตัว นอนพักภายใต้ชายคาเดียวกันได้หมด ไม่ต้องแยกกันอยู่ และมีพื้นที่กว้างขวางพอสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะสังสรรค์ เล่นน้ำ หรือหนีมาชาร์จพลังเพื่อสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้กับชีวิต 

คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่: 

• มาชาร์จพลังในการทำงานที่ THANN Wellness Destination จังหวัดพระนครศรีอยุธยา: https://thestandard.co/thann-wellness-destination/
• เปิดประสบการณ์ตามหาความสุขแบบได้สุขภาพ ที่ THANN Wellness Destination จ.พระนครศรีอยุธยา: https://thestandard.co/thann-wellness-destination-2/

THANN Wellness Destination

Address: ริมแม่น้ำน้อย บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

Budget: All-Inclusive Package สำหรับ 4 ท่าน 132,000 บาทต่อคืน, สำหรับ 5 ท่าน 140,250 บาทต่อคืน และสำหรับ 6 ท่าน 148,500 บาทต่อคืน  

Contact: 0 3591 0910

Website: www.thannwellness.com/

Map: 

ภาพ: ภัทรศยา เชาว์รัศมีกุล, THANN

The post พักเที่ยวฮีลใจ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่วิลล่า THANN Wellness Destination จ.พระนครศรีอยุธยา appeared first on THE STANDARD.