โก๊ะตี๋ อารามบอย – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 07 May 2024 10:32:17 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘พชร์ อานนท์’ รวมตัวแม่ซอยสุขุมวิท 11 แสดงพลังสามัคคีกะเทยไทย ถ่ายซีนพิเศษ ‘หอแต๋วแตก’ https://thestandard.co/poj-arnon-sukhumvit-11-05032567/ Thu, 07 Mar 2024 00:11:51 +0000 https://thestandard.co/?p=908153 หอแต๋วแตก ถ่ายซีนพิเศษในซอย สุขุมวิท 11

วานนี้ (5 มีนาคม) เมื่อเวลา 18.00 น. ‘พชร์ อานนท์’ ผู้ก […]

The post ‘พชร์ อานนท์’ รวมตัวแม่ซอยสุขุมวิท 11 แสดงพลังสามัคคีกะเทยไทย ถ่ายซีนพิเศษ ‘หอแต๋วแตก’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
หอแต๋วแตก ถ่ายซีนพิเศษในซอย สุขุมวิท 11

วานนี้ (5 มีนาคม) เมื่อเวลา 18.00 น. ‘พชร์ อานนท์’ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจากภาพยนตร์ภาคที่ 10 ของ ‘หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด’ ที่นำแสดงโดย จาตุรงค์ มกจ๊ก และ โก๊ะตี๋ อารามบอย ได้รวมตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์การรวมตัวกันของกลุ่ม LGBTQIA+ ชาวไทย (ซึ่งในที่นี้ THE STANDARD ขอใช้คำว่า ‘กะเทย’ เพื่อสื่อสารตามบริบทแหล่งข่าวที่ใช้คำนี้ในเหตุการณ์) หลังเกิดข้อพิพาทกับกลุ่ม LGBTQIA+ ชาวฟิลิปปินส์เมื่อคืนวันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่ซอยสุขุมวิท 11 ถ่ายซีนพิเศษ ก่อนที่ภาพยนตร์จะฉายในวันที่ 14 มีนาคมนี้ 

 

‘พชร์ อานนท์’ ได้เนรมิต ‘The HUB Phahol-Ari’ พร้อมจำลองเหตุการณ์เสมือนเป็นสุขุมวิทซอย 11 สถานที่เกิดเหตุ โดยมี ‘กะเทย’ ผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายสิบชีวิตเข้าร่วมการแสดงด้วย พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า การเพิ่มซีนในครั้งนี้ตนเองไม่ได้สนับสนุนความรุนแรง แต่อยากให้เห็นถึงความสามัคคีของคนไทย ส่วนซีนนี้จะมีความพิเศษอย่างไรนั้นสามารถติดตามได้ในโรงภาพยนตร์ ตนเองไม่สามารถพูดอะไรเพิ่มเติมได้ เพราะเกรงว่าผู้ชมจะไม่เซอร์ไพรส์ แต่ยืนยันว่าซีนดังกล่าวนี้จะสามารถเข้ากับเนื้อหาที่ได้มีการถ่ายทำและปิดกล้องไปก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน

 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

 

The post ‘พชร์ อานนท์’ รวมตัวแม่ซอยสุขุมวิท 11 แสดงพลังสามัคคีกะเทยไทย ถ่ายซีนพิเศษ ‘หอแต๋วแตก’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ เปิดตำนานใหม่อีกครั้ง ยำรวมมิตรทุกกระแสฮิตในประเทศไทย https://thestandard.co/hor-taew-tak/ Fri, 03 Dec 2021 08:26:53 +0000 https://thestandard.co/?p=567384 หอแต๋วแตก

จะมีหนังสักกี่เรื่องที่ไม่ต้องมีสคริปต์ ไม่รู้จุดเริ่มแ […]

The post หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ เปิดตำนานใหม่อีกครั้ง ยำรวมมิตรทุกกระแสฮิตในประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
หอแต๋วแตก

จะมีหนังสักกี่เรื่องที่ไม่ต้องมีสคริปต์ ไม่รู้จุดเริ่มและจุดจบได้เท่า หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ ภาพยนตร์ลำดับที่ 8 ในจักรวาลหอแต๋วแตกของ พชร์-อานนท์ มิ่งขวัญตา ผู้กำกับที่ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบผลงานของเขา ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความคัลต์ของหอแต๋วแตกเป็นหนึ่งในป๊อปคัลเจอร์แห่งยุคที่ไม่มีใครทำตามได้ และยังมีแฟนคลับรอคอยอย่างเหนียวแน่นเสมอ เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่พชร์ไม่ได้มีแผนจะถ่ายทำภาคต่อ แต่เพราะมีกระแสเรียกร้องจากแฟนๆ จึงกลายมาเป็น หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ ให้เราได้ชมกันอีกครั้ง

 

โบราณว่าไว้ว่าหอแต๋วแตกคือพงศาวดารบันทึกเรื่องราวในช่วงเวลานั้นๆ แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็หนีไม่พ้นเหตุการณ์ช่วงโรคโควิดระบาดในประเทศไทย ที่มีเรื่องราวสารพัดสารพันเกิดขึ้นมากมายให้หยิบเอามาทำยำรวมมิตรขั้นสุด!

 

 

สำหรับภาคนี้ยังคงอัดแน่นด้วยนักแสดงมากหน้าหลายตาเหมือนเคย ตั้งแต่ จาตุรงค์ มกจ๊ก, โก๊ะตี๋ อารามบอย, ติ๊ก กลิ่นสี, แม่หญิงลี พระมหาเทวีเจ้า, ทิพย์-เมญ่า ลินดา, แม่สิตางศุ์ บัวทอง, นิกกี้ ณฉัตร, โดม เพชรธำรงชัย, โดม จารุวัฒน์, ตั้ม วราวุธ, แก๊ง Powerpuff GAY, ต้าวหยอง, หนูรัตน์, โยชิ รินรดา, แตงโม ภัทรธิดา และอีกนับไม่ถ้วน

 

เรื่องราวเริ่มต้นที่พระมหาเทวีเจ้าพร้อมด้วยคณะไสเสลี่ยงข้ามประตูมิติแบบจักรวาล Marvel มาเข้าพักที่โรงแรมสตรีทโฮเทลของเจ๊แต๋ว ร่วมด้วยเจ๊พยูนที่ภาคนี้รีเทิร์นเป็นดาวร้าย ส่วนผีอีแพนเค้กก็ยังไม่หายไปไหน แต่หาทางลงจากภาคก่อนด้วยการบอกว่ายมบาลจับไปผิดตัว และยังกลับมาช่วยเจ๊แต๋วสืบสวนเหตุประหลาดภายในโรงแรม

 

นอกจากสัตว์ของผู้เข้าพักจะตายอย่างสยดสยองโดยหาตัวการไม่ได้ โรงแรมก็ถูกสั่งปิดพอดี เพราะมีคนติดโควิดจากงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิด จึงต้องกักตัว 14 วัน แถมเชื้อกลายพันธุ์จนผู้ป่วยกลายเป็นผีซอมบี้ไปตามๆ กัน นี่คือเรื่องราวที่เราพอจะสรุปได้คร่าวๆ เพราะสาระสำคัญที่แท้จริงไม่ใช่พล็อตเรื่อง แต่เป็นการลุ้นว่าหนังจะโยงกระแสอะไรมาเล่นมุกในนี้ต่างหาก

 

เรียกได้ว่าถูกใส่มาอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกสังขาร ตลกหยาบคายสไตล์หอแต๋วแตก คำพูดคนดัง วลีเด็ด เพลง ภาพยนตร์ต่างๆ ฯลฯ อัดแน่นจนทำให้ทิศทางช่วงครึ่งหลังมีสับสนไปบ้าง โดยฉากที่เราชอบส่วนตัวจนแอบปรบมือให้ด้วยความประทับใจคือฉากล้อเลียนเรื่อง ร่างทรง และฉากแพนเค้กด่าเจ๊แต๋วด้วยการล้อไดอะล็อกในจักรวาลของตัวเองอีกที

 

 

อย่างไรก็ดี ถึงจะเตรียมปล่อยใจสบายๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่สิ่งที่ยังค้างหลังดูจบจริงๆ คือฉากในเรื่องที่เจ๊แต๋วรับไม่ได้ถ้าอาโคยจะจับมือถือแขนกับเพื่อนเหมือนพวก ‘ซีรีส์วาย’ ซึ่งเราเข้าใจว่าคือนิยามของคู่รัก LGBTQ+ ที่ดูมัสคูลินทั้งคู่ แล้วแพนเค้กก็ปิดท้ายด้วยประโยคสุดคลาสสิกว่า “เป็นอะไรก็ได้ แต่ขอให้เป็นคนดี”

 

เป็นความย้อนแย้งที่ทำให้เราหลุดขำเฝื่อนๆ เมื่อระลึกได้ว่ากำลังดูหนังเรื่องนี้ในวันที่เพศหลากหลายมีตัวตนอยู่ในสื่อไทยมานานแล้ว (ไม่ว่าจะด้วยภาพลักษณ์แบบใดก็ตาม) กระทั่งวันนี้ที่ซีรีส์วายโด่งดังจนเป็นจุดขายให้ผู้คนเรียกกันว่าเป็น ‘Soft Power’ ของเมืองไทย แต่ถึงอย่างนั้น กฎหมายสมรสเท่าเทียมก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อนไปไหนด้วยเหตุผลสุดคร่ำครึ และเพศหลากหลายก็ยังต้องเป็น ‘คนดี’ เพื่อพิสูจน์ตัวตนกันอยู่ต่อไปในสังคมนี้

 

ไม่นับเรื่องฉากของ (อดีต) พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ผู้เป็นไวรัลในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งไม่ผ่านกองเซ็นเซอร์จนต้องตัดฉากนี้ออกไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าเหตุผลเป็นเพราะพระภิกษุไม่ควรเล่นหนัง โดยเฉพาะด้วยภาพลักษณ์ ‘ตลก’ ซึ่งเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมตามหลักศีลธรรมอันดี ทำให้ทั้งผู้กำกับและคนดูงงไปตามๆ กันว่าที่ผ่านมาหนังของพชร์อย่าง หลวงพี่แจ๊ส ก็มีฉากพระมองหน้าอกผู้หญิงและเล่นมุกเรื่องเพศ แต่ก็ไม่ได้ถูกเซ็นเซอร์แต่อย่างใด

 

เลยไปถึงอีกหลายต่อหลายเรื่อง เช่นกรณี ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 (2561) หรือ แสงศตวรรษ (2549), นาคปรก (2551), อาปัติ (2558) ล้วนมีปัญหากับกองเซ็นเซอร์เมื่อนำเสนอภาพของพระในแง่มุมที่ไม่ได้มาสอนธรรมะเตือนใจหลังหนังจบ เหล่านี้ก็ชวนให้ตั้งคำถามอีกครั้งว่า สรุปแล้วทั้งมาตรฐานของกองเซ็นเซอร์ภาพยนตร์และเส้นศีลธรรมอันดีที่ว่านั้นอยู่ตรงไหนกันแน่?

 

 

ฉากของ หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ ที่ไม่ผ่านกองเซ็นเซอร์

 

ไปร่วมเปิดพงศาวดารจดหมายเหตุประเทศไทยในยุคโควิดได้แล้ววันนี้กับ หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ ทุกโรงภาพยนตร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยทางออฟฟิเชียลย้ำชัดเจนว่าให้รีบไปดู เพราะจะไม่มีลงทางสตรีมมิงอย่างแน่นอน!

 

 

และถ้าใครคิดถึงผลงานแนวดราม่าไม่ขายขำของพชร์ อานนท์ เขากำลังจะมีภาพยนตร์แอ็กชันโรแมนติกพร้อมกลิ่นอายแบบยุค 90 ให้ชมกันอีกครั้ง กับเรื่อง บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง เรื่องราวความรักและมิตรภาพของเด็กวัยรุ่น 2 คนที่ไปข้องเกี่ยวกับแก๊งอันธพาลและต้องฝ่าฟันกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นำแสดงโดย เพิร์ธ-ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร และ บาส-สุรเดช พินิวัตร์ มีกำหนดเข้าฉายในเดือนมกราคม ปี 2565

 

ชมตัวอย่างภาพยนตร์ หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่

 

 

ชมตัวอย่างภาพยนตร์ บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง

 

The post หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ เปิดตำนานใหม่อีกครั้ง ยำรวมมิตรทุกกระแสฮิตในประเทศไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
โก๊ะตี๋ อารามบอย แจ้งผลตรวจ ‘ติดเชื้อโควิด’ พร้อมเผยไทม์ไลน์ช่วงวันที่ 21-29 มิถุนายน https://thestandard.co/kohtee-aramboy-infected-with-covid-19/ Wed, 30 Jun 2021 06:09:45 +0000 https://thestandard.co/?p=506632 โก๊ะตี๋ อารามบอย

วันนี้ (30 มิถุนายน) โก๊ะ-เจริญพร อ่อนละม้าย หรือ โก๊ะต […]

The post โก๊ะตี๋ อารามบอย แจ้งผลตรวจ ‘ติดเชื้อโควิด’ พร้อมเผยไทม์ไลน์ช่วงวันที่ 21-29 มิถุนายน appeared first on THE STANDARD.

]]>
โก๊ะตี๋ อารามบอย

วันนี้ (30 มิถุนายน) โก๊ะ-เจริญพร อ่อนละม้าย หรือ โก๊ะตี๋ อารามบอย ดาวตลกชื่อดังได้แจ้งผลการตรวจเชื้อโควิดพบว่า ‘ติดเชื้อ’ ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเผยไทม์ไลน์การเดินทางในช่วงวันที่ 21-29 มิถุนายน

 

ย้อนกลับไปในช่วงเย็นของวันที่ 23 มิถุนายน โก๊ะตี๋ได้เดินทางไปตรวจเชื้อโควิดด้วยวิธีการ Swab Test ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อนำผลตรวจส่งให้ทาง Workpoint สำหรับเตรียมบันทึกรายการ และทราบผลในวันที่ 24 มิถุนายนว่าไม่ติดเชื้อ และได้เดินทางไปอัดรายการ ครัวคุณต๋อย

 

ต่อมาในวันที่ 25 มิถุนายน โก๊ะตี๋ทราบข่าวว่ามีทีมงานติดโควิดจึงเริ่มกักตัวทันที และในวันที่ 27 มิถุนายนได้เดินทางไปตรวจเชื้อด้วยวิธีการ Swab Test อีกครั้ง โดยมีอาการเจ็บคอและมีไข้ หลังจากนั้นในวันที่ 28 มิถุนายนเริ่มมีอาการไข้ขึ้นสูง จึงเดินทางไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง และทราบผลว่าติดเชื้อในวันที่ 29 มิถุนายน 

 

โดยโก๊ะตี๋ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า 

 

“สวัสดีครับ เนื่องจากหนูได้ทราบว่ามีคนร่วมงานติดเชื้อโควิด หนูจึงไม่สบายใจ และรีบดำเนินการเข้ารับการตรวจหาเชื้อตามมาตรการเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด โดยหนูได้ทำการกักตัวและรอผล ซึ่งได้ทราบผลแล้วว่าพบเชื้อ ในวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา

 

“หนูเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง แม้จะพยายามกักตัวเองอยู่ที่สวน และออกไปแค่เฉพาะสถานที่ที่จำเป็นจริงๆ ระมัดระวังตัวกันด้วยนะครับ และรีบดำเนินการตรวจหาเชื้อให้เร็วที่สุด หนูขอกราบขอโทษอย่างยิ่งอีกครั้งครับ”

 

สำหรับรายละเอียดไทม์ไลน์ของโก๊ะตี๋ มีดังนี้

 

วันที่ 21 มิถุนายน 

อยู่สวนแคคตัสส่วนตัวตลอดทั้งวัน

 

วันที่ 22 มิถุนายน 

อยู่สวนตลอดทั้งวัน 

ช่วงดึก-ขับรถเองออกจากสวนไปร่วมรายการ วิเคราะห์บอลยูโร ที่ NBT เวลา 23.00-01.00 น.

 

วันที่ 23 มิถุนายน 

ช่วงเช้า-ไปวัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ (พิธีปลุกเสกพระ) 

ช่วงบ่าย-ไปวัดตึก จ.ชัยนาท (เข้าถวายเงินทำบุญเพื่อจัดสร้างพระ) 

ช่วงเย็น-มีนัดกลับมาตรวจ Swab Test ที่โรงพยาบาลเอกชน เพื่อนำผลตรวจส่งให้ Workpoint สำหรับเตรียมบันทึกรายการ (โต๊ะนี้มีจอง / ตลก 6 ฉาก

ขับรถกลับบ้านออฟฟิศ

 

วันที่ 24 มิถุนายน  

ทราบผลว่าไม่พบเชื้อ 

ช่วงเช้า-ขับรถเองออกจากบ้านออฟฟิศไปอัดรายการ ครัวคุณต๋อย จากนั้นขับรถกลับสวน

 

วันที่ 25 มิถุนายน 

อยู่สวนแคคตัสทั้งวัน 

ทราบข่าวตอนค่ำว่ามีทีมงานติดโควิด (จึงเริ่มกักตัวเองทันที)

 

วันที่ 26 มิถุนายน 

แจ้งยกเลิกงาน 2 รายการของ Workpoint

 

วันที่ 27 มิถุนายน 

เข้าตรวจ Swab Test ที่โรงพยาบาลแห่งเดิม พร้อมกักตัว รอผล (มีไข้/เจ็บคอ)

 

วันที่ 28 มิถุนายน 

ไม่สบายใจจึงไปตรวจ Swab Test ที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง จากนั้นกลับมากักตัวรอผล (เริ่มมีไข้สูง) 

ยังไม่ทราบผลจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรก

 

วันที่ 29 มิถุนายน 

ช่วงเที่ยง-ทราบผลว่าพบเชื้อจากโรงพยาบาลเอกชน (แห่งหลัง) 

ช่วงเย็น-โรงพยาบาลที่ตรวจพบเชื้อ (แห่งหลัง) รับเข้ารับการรักษาตัว

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

The post โก๊ะตี๋ อารามบอย แจ้งผลตรวจ ‘ติดเชื้อโควิด’ พร้อมเผยไทม์ไลน์ช่วงวันที่ 21-29 มิถุนายน appeared first on THE STANDARD.

]]>
คนใกล้ชิดสวมกอด เสียน้ำตา หลังศาลฎีกาสั่งจำคุกสรยุทธ 6 ปี 24 เดือน ไม่รอลงอาญาคดีไร่ส้ม https://thestandard.co/sorayuth-raisom-case-2/ Tue, 21 Jan 2020 05:45:59 +0000 https://thestandard.co/?p=322726

วันนี้ (21 มกราคม) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกล […]

The post คนใกล้ชิดสวมกอด เสียน้ำตา หลังศาลฎีกาสั่งจำคุกสรยุทธ 6 ปี 24 เดือน ไม่รอลงอาญาคดีไร่ส้ม appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (21 มกราคม) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ฟ้อง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการบริษัทไร่ส้ม และอดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง เป็นจำเลยที่ 3 ร่วมกับ พิชชาภา หรือ ชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท จำเลยที่ 1, บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 และ มณฑา ธีระเดช พนักงาน บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 4

 

ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียกรับทรัพย์สินฯ, เป็นพนักงานฯ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าวตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ 

 

กรณีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ถึง 28 เมษายน 2549 ต่อเนื่องกัน พิชชาภา ซึ่งเป็นพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท ได้จัดทำคิวโฆษณารวมในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ โดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลาจาก บจก.ไร่ส้ม จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท โดยมีบริษัท ไร่ส้ม, สรยุทธ และมณฑาที่ให้การสนับสนุนในการกระทำความผิด

 

โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ซึ่งคดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกพิชชาภา อดีตพนักงาน บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สินฯ เป็นเวลา 20 ปี, ปรับ บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 จำนวน 80,000 บาท ส่วนสรยุทธและมณฑา จำเลยที่ 3-4 ให้จำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

 

ซึ่ง บจก.ไร่ส้ม, สรยุทธ, มณฑา จำเลยที่ 2-4 ได้ยื่นฎีกา โดยมีผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นเซ็นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่าง หรือเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่โทษจำคุกนั้นไม่เกิน 5 ปี หรือคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดดังกล่าว หากจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องมีผู้พิพากษาในสำนวน หรือที่ทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ หรืออัยการสูงสุดเซ็นรับรองว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย

 

โดยจำเลยทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกันคนละ 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล 

 

เมื่อถึงเวลานัด ศาลได้เรียกจำเลยทั้งหมด พบว่าจำเลยทั้งหมดเดินทางมาศาล ซึ่งศาลได้ตรวจสำนวนประชุมแล้วเห็นว่าที่จำเลยฎีกาฟังขึ้นบางส่วน เนื่องจากโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ชัดเจนในบางประเด็น ที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นควรพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกพิชชาภา จำเลยที่ 1 รวม 6 กระทง กระทงละ 3 ปี เป็น 18 ปี, ปรับบริษัท ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 จำนวน 108,000 บาท และจำคุกสรยุทธและมณฑา 12 ปี 

 

แต่เนื่องจากคำให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก พิชชาภา จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 12 ปี, ปรับบริษัท ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 จำนวน 72,000 บาท และจำคุกสรยุทธและมณฑา จำเลยที่ 3-4 คนละ 6 ปี 24 เดือน ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำความผิด

 

ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน และสรยุทธ จำเลยที่ 3 เคยทำคุณงามความดี ขอให้ลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษ ศาลเห็นว่าสรยุทธเป็นสื่อมวลชนอาวุโส เป็นที่นับหน้าถือตาของบุคคลทั่วไป แต่กลับอาศัยโอกาสช่องว่างทางกฎหมายเอื้อประโยชน์แก่ตนกระทำความผิดเสียเอง จึงไม่เพียงพอให้รับฟังเพื่อลงโทษสถานเบาหรือรอลงอาญา

 

ขณะที่บรรยากาศภายในห้องพิจารณา ทันทีที่ศาลอ่านคำพิพากษากว่า 45 นาทีเสร็จสิ้นลง เพื่อนร่วมงานได้เข้าไปกอดและให้กำลังใจสรยุทธ 

 

พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ หรือ ไบร์ท ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ที่ผ่านมาได้ให้กำลังใจกันมาตลอด ส่วนสรยุทธก็พยายามต่อสู้เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีพฤติกรรมเบียดบังเวลาของ อสมท ข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเวลาเกิน ที่ผ่านมาสรยุทธรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกกล่าวหาว่าเบียดบังเวลาการโฆษณาของ อสมท ตนในฐานะเป็นเพื่อนร่วมงาน คนใกล้ชิด ต่างรู้สึกเสียใจและเสียดาย เพราะสรยุทธเป็นพี่ที่ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ต่ออาชีพและคนดู เขาสอนเรามาตลอดว่าต้องเคารพและรับผิดชอบต่อคนดู ซึ่งสรยุทธรักงานข่าวและอาชีพของเขามาก 

 

ด้าน โก๊ะตี๋ อารามบอย กล่าวว่า สรยุทธมีกำลังใจดี ตนเองเคยถามว่า ทำไมทำงานทุกวัน หลายคนอาจคิดว่าทำเพราะอยากได้เงิน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะสรยุทธเคยพูดว่า วันที่ไม่ได้ทำงานคือวันที่เสียใจที่สุด และความสุขของสรยุทธคือการได้ทำงานข่าว และได้เล่าข่าวให้ทุกคนได้ฟัง ย้ำว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและต่อสู้เท่าที่จะสู้ได้อย่างเต็มที่ และน้อมรับในคำตัดสิน โดยสรยุทธได้ฝากไว้ว่า ตนเองแค่ติดคุก ไม่ได้ตาย เดี๋ยวก็กลับออกมา พร้อมทั้งได้ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ และชีวิตยังต้องเดินต่อไป 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้ง ไบรท์ พิชญทัฬห์ และโก๊ะตี๋ รวมถึงคนใกล้ชิดที่มาร่วมฟังคำพิพากษาร้องไห้เสียน้ำตาระหว่างสัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน

 

ขณะที่สรยุทธและจำเลยร่วมในคดีจะถูกส่งตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพในวันนี้

 

 

The post คนใกล้ชิดสวมกอด เสียน้ำตา หลังศาลฎีกาสั่งจำคุกสรยุทธ 6 ปี 24 เดือน ไม่รอลงอาญาคดีไร่ส้ม appeared first on THE STANDARD.

]]>
หนู คลองเตย ดาวตลกผู้ให้กำเนิดมุก ‘หลวงปู่เค็ม’ ก้าวเข้าไปในกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบง https://thestandard.co/lusng-pu-khem/ Thu, 15 Aug 2019 12:36:56 +0000 https://thestandard.co/?p=279128 มุกหลวงปู่เค็ม คือใคร

“กองไฟยาวประมาณ 10 เมตร หลวงปู่เค็มก้าวเข้าไปในกองไฟ ก้ […]

The post หนู คลองเตย ดาวตลกผู้ให้กำเนิดมุก ‘หลวงปู่เค็ม’ ก้าวเข้าไปในกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบง appeared first on THE STANDARD.

]]>
มุกหลวงปู่เค็ม คือใคร

“กองไฟยาวประมาณ 10 เมตร หลวงปู่เค็มก้าวเข้าไปในกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบง ต่อจากนั้นหลวงปู่เค็มถูกไฟคลอกตายคากองไฟ” 

 

มุกตลก ‘หลวงปู่เค็ม’ ก้าวเข้าไปในกองไฟ กลับมาเป็นกระแสโด่งดังทางโลกโซเชียล หลังจากคลิปการแสดงเรียกเสียงฮาระหว่าง โก๊ะตี๋ อารามบอย และ เท่ง เถิดเทิง ในรายการ ชิงร้อยชิงล้าน ว้าว ว้าว ว้าว ทางช่อง Workpoint TV (23) เป็นที่ถูกอก ถูกใจ ถูกไลก์ ถูกแชร์ จนตอนนี้มันกลายเป็นไวรัลฮิตที่ผู้คนนำมาเล่นต่อกันมากมาย 

 

เมื่อ ‘มุกหลวงปู่เค็ม’ กลายเป็นปรากฏการณ์ มันก็นำพามาซึ่งข้อสงสัย สืบค้น กระทั่งมีผู้ค้นพบข้อมูล (ที่ขณะนี้) หลายคนเชื่อว่า มุกหลวงปู่เค็มนั้นถูกคิดค้นและเริ่มต้นแสดงเป็นครั้งแรกโดยอดีตดาวตลกระดับอัจฉริยะ หนู คลองเตย ผู้ล่วงลับ ที่สำคัญในยุคหนึ่ง โก๊ะตี๋ อารามบอย ยังเคยเป็นอดีตลูกวงของหนูอีกด้วย จึงไม่แปลกนักที่ผู้ชมจะได้เห็นการพัฒนา ปรับปรุงมุก ‘หลวงปู่เค็ม’ ในแบบฉบับใหม่ที่กำลังโด่งดังอยู่ในเวลานี้      

 

https://www.youtube.com/watch?v=LrIi_wG44W8&feature=youtu.be

มุกหลวงปู่เค็มฉบับ หนู คลองเตย 

 

มุกหลวงปู่เค็มฉบับ โก๊ะตี๋ อารามบอย

 

ท่ามกลางกระแสความฮา มันก็ส่งผลให้ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันยุคตลกคาเฟ่ในช่วงยุค 90 ได้หวนกลับมาทำความรู้จักกับการแสดงตลกอันแพรวพราว จังหวะมุกที่ยอดเยี่ยม ชวนฟัง และเต็มไปด้วยบุคลิกเฉพาะตัวอันเต็มไปด้วยเสน่ห์ของ หนู คลองเตย ดาวตลกพรสวรรค์ที่เคยโด่งดังอย่างสุดขีด ก่อนที่ชะตาชีวิตของเขาจะค่อยๆ ร่วงหล่น ตกต่ำ อันเนื่องมาจากปัญหาการพนันและยาเสพติด ก่อนที่เขาเสียชีวิตลงด้วยโรคไวรัสขึ้นสมองและวัณโรคไปในปี 2548 ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสีย ‘อัญมณีเม็ดงาม’ ของวงการตลก และแวดวงบันเทิงไทยไปอย่างน่าเสียดาย 

 

หนู คลองเตย มีชื่อจริงว่า วันชาติ พึ่งฉ่ำ เกิดที่จังหวัดสิงห์บุรี เขาเรียนจบเพียงชั้น ป.1 ก่อนจะเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ โดยอาศัยอยู่ที่ย่านสลัมคลองเตย หนูเคยยอมรับผ่านหน้าจอรายการทีวีในช่วงโด่งดังใหม่ๆ ว่า สมัยวัยรุ่นตนเองเคยติดทั้งทินเนอร์ และยาเสพติด ก่อนที่จะเลิกเสพไปหมดแล้วตั้งแต่ก่อนก้าวเข้ามาสู่แวดวงตลก 

 

หนูเริ่มต้นเส้นทางบันเทิงจากตำแหน่งเด็กตีกลองในคณะลิเก ก่อนจะขยับไปเป็นตัวตลก และจากจุดนั้นเองที่แววดาวตลกอัจฉริยะของหนูก็ค่อยๆ พัฒนาและฉายแววมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาได้ก้าวเข้าไปเป็นศิลปินตลกใน คณะอิสระ เดือนเพ็ญ ก่อนจะได้รับโอกาสให้เข้าสู่ คณะเป็ด เชิญยิ้ม ซึ่งถือจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ที่ส่งให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ โดยเริ่มถูกจดจำจากมุกท่าเดินนกกระยาง ที่เป็นท่าประจำตัว 

 

แต่เพราะเพชรก็คือเพชร หนูไม่ได้เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้เพียงเฉพาะท่าเดินนกกระยาง แต่แก่นของพรสวรรค์ในตัวเขาคือความแพรวพราว หัวไว ฉลาดเฉลียวในการคิดมุกสด เล่นกับคนดู ในบรรยากาศสดหน้าเวที ขณะเดียวกันการแสดงมุกต่างๆ หนูก็ถือได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นดาวตลกที่มีจังหวะเล่นมุก เรียกเสียงฮาคมที่สุด ยืนหนึ่งไม่เป็นสองรองใครในยุคนั้น

 

แต่แล้วอัญมณีเม็ดงามที่ควรจะสุกสกาวรุ่งโรจน์ก็กลับค่อยๆ อับแสงลงเรื่อยๆ หลังจากหนูตกเป็นข่าวว่าเป็นหนี้พนันฟุตบอลนับสิบล้าน ชื่อเสียงที่กำลังรุ่ง กลายเป็นของมีตำหนิในวงการบันเทิง เขาถูกให้ออกจากงานพิธีกรรายการทีวี ความรักกลับพังทลาย แม้จะพยายามพาตัวเองกลับมาใหม่ แต่หนูก็ต้องเจอกับข่าวลืออีกครั้งในช่วงปี 2540 ว่าตนเองทั้งเสพทั้งขายยาเสพติด ซึ่งเป็นข่าวร้ายที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อชีวิตและจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก

 

“ถ้าผมพูดปดให้ธรณีสูบ” คือคำยืนยันทั้งน้ำตาที่ หนู เชิญยิ้ม ให้สัมภาษณ์บอกผ่านรายการ เจาะใจ เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2541 

 

หลังเจอมรสุมชีวิต หนูห่างหายจากแวดวงบันเทิงและวงการตลกไปพักใหญ่ ก่อนที่เขาจะกลับมารับงานตลก พร้อมกับฟอร์มวงของตัวเองอีกครั้งภายใต้นามสกุลใหม่ว่า ‘หนู คลองเตย’ 

 

โดย วีระศักดิ์ บุญเพ็ชร์ หรือ ไชยา เชิญยิ้ม ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องคนสนิท เล่าให้ฟังในรายการ ข่าวดังข้ามเวลา เอาไว้ว่า นามสกุลคลองเตยนั้นได้มาจากตำนานตลกอาวุโสของวงการอย่าง ‘ล้อต๊อก’ เป็นผู้ตั้งให้ 

 

“หนู คลองเตย ซึ่งคำว่าคลองเตยเนี่ย ป๋าต๊อกเป็นคนตั้งให้นะ” เขายังเล่าอีกว่า “พี่หนูไปเยี่ยมป๋าต๊อก ป๋าต๊อกนอนอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาล ป๋าต๊อกดึงพี่หนูเข้าไป เขาไม่ให้ใช้เชิญยิ้มก็ไม่เป็นไรนะลูก เราใช้คลองเตย เอ็งใช้เลยคลองเตย เอ็งคนคลองเตย เอ็งใช้เลย คลองเตย ถ้าใครถามหรือมีปัญหาบอก กูเนี่ย ต๊อก คลองตัน เป็นคนตั้งให้”

 

ถึงจุดนี้ คงไม่สำคัญแล้วว่า หนู คลองเตย จะเป็นผู้คิดมุก ‘หลวงปู่เค็ม’ เป็นคนแรกจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่เราคิดว่ามีสำคัญและรู้สึกดียิ่งกว่าในยุคที่กระแสความสนใจในโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มาไวและไปไวคือ การที่ชื่อ ฝีมือการแสดงตลกอันโดดเด่นของ หนู คลองเตย ในยุคสมัยวิดีโอตลกคาเฟ่กำลังฮิต ได้ถูกนำกลับมาอวดฝีมือและเป็นที่รู้จักอีกครั้ง

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล 

อ้างอิง:

The post หนู คลองเตย ดาวตลกผู้ให้กำเนิดมุก ‘หลวงปู่เค็ม’ ก้าวเข้าไปในกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบง appeared first on THE STANDARD.

]]>
สรยุทธ เข้าพิธีอุปสมบทที่โคราช เพื่อนร่วมวงการร่วมงานคับคั่ง https://thestandard.co/sorayuth-suthassanachinda-ordination/ https://thestandard.co/sorayuth-suthassanachinda-ordination/#respond Mon, 23 Apr 2018 11:06:19 +0000 https://thestandard.co/?p=85722

หลัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ต้องเผ […]

The post สรยุทธ เข้าพิธีอุปสมบทที่โคราช เพื่อนร่วมวงการร่วมงานคับคั่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ต้องเผชิญมรสุมชีวิตลูกใหญ่เมื่อปลายเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกนายสรยุทธ 13 ปี 4 เดือน โดยในวันนั้น ศาลได้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ให้เหตุผลจำเลยมีอัตราโทษสูง กระทั่งต้องอยู่ในเรือนจำนาน 15 วัน ศาลฎีกาจึงอนุญาตปล่อยชั่วคราวในวงเงินประกัน 5 ล้านบาท และห้ามออกนอกประเทศ โดยจะต้องมารายงานตัวต่อศาลทุก 3 เดือน

 

 

ขณะที่ภายหลังได้รับอิสรภาพ สรยุทธรุดเยี่ยมคุณแม่ที่กำลังป่วย พร้อมโพสต์ภาพหอมหน้าผากคุณแม่และขอบคุณแฟนคลับที่ส่งทุกข้อความให้กำลังใจ ซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล

 

ล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย.) มีรายงานว่า สรยุทธได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดหนองกระทุ่ม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพิธีกรที่เคยร่วมอ่านข่าวเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง อาทิ น้องไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ, กุ๊ก-กฤติกา ขอไพบูลย์ และยังมีเพื่อนๆ ร่วมวงการคนอื่น เช่น โก๊ะตี๋ อารามบอย, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, คุณตัน ภาสกรนที, โน้ส-อุดม แต้พานิช ท่ามกลางเครือญาติและประชาชนที่มาร่วมอนุโมทนาในพิธีอุปสมบทอย่างคับคั่ง

The post สรยุทธ เข้าพิธีอุปสมบทที่โคราช เพื่อนร่วมวงการร่วมงานคับคั่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/sorayuth-suthassanachinda-ordination/feed/ 0
หมดยุคลงพุง เมื่อตลกหันมาปั้นซิกซ์แพ็ก https://thestandard.co/comedians-actors-get-a-six-pack/ https://thestandard.co/comedians-actors-get-a-six-pack/#respond Tue, 17 Apr 2018 08:03:25 +0000 https://thestandard.co/?p=84410

ประโยคที่ว่า ‘หล่อมักนก ตลกมักได้’ เห็นทีจะไม่พอ เพราะด […]

The post หมดยุคลงพุง เมื่อตลกหันมาปั้นซิกซ์แพ็ก appeared first on THE STANDARD.

]]>

ประโยคที่ว่า ‘หล่อมักนก ตลกมักได้’ เห็นทีจะไม่พอ เพราะดาราตลกสมัยนี้นอกจากจะทั้งฮาทั้งเฮงแล้วยังต้องเฮลตี้อีกด้วย เพราะรอบเอวหรือพุงของคนเราเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี ใครห่วงยางหนา โอกาสที่จะเป็นโรคต่างๆ ก็สูงตามไปด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ต่อให้รวยล้นฟ้าหรือมีชื่อเสียงโด่งดังขนาดไหน หากยังลงทุนกับ ‘พุง’ เห็นทีชีวิตบั้นปลายจะลำบาก เหล่านี้คือตัวอย่างอันดีของการเปลี่ยนแปลงจากตลกลงพุงมาเป็นตลกสายล่ำ (ที่ยังเอิ๊กอ๊ากอารมณ์ดีไม่ต่างกับสมัยเอวหนาสักนิด)

 

หมดยุคตลกในภาพจำที่ต้องอ้วนท้วนลงพุงแล้วหรือยัง?

 

 

จตุรงค์ โพธาราม

จตุรงค์ มกจ๊ก ที่เรารู้จักกันรายนี้ถือเป็นผู้นำของตลกสายออกกำลังกาย เพราะเขาเป็นนักแสดงตลกคนแรกๆ ที่หันมาฟิตเฟิร์มอย่างจริงจัง หลังตื่นมาตอนเช้าแล้วคิดได้ว่าอยากอยู่กับครอบครัวไปนานๆ จากน้ำหนักตัว 80 กิโลกรัม จตุรงค์เริ่มลองผิดลองถูกออกกำลังกายด้วยตัวเอง แต่ผลลัพธ์ยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวมาช่วยจับท่า หลังจากนั้นเขาจึงฝึกเองจนน้ำหนักลดลงไปกว่า 15 กิโลกรัม (จากเทปสัมภาษณ์ช่วงปลายปี 2557) ซึ่งเมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว ลุงรงค์ของคนในวงการฟิตยิ่งกว่าเดิม ทุกวันนี้เขาออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 90 นาที เคล็ดลับอยู่ที่พกเสื้อผ้าและรองเท้าออกกำลังกายติดรถไว้เลย ล่าสุดปีที่แล้วตลกรุ่นเก๋ายังนำทีมดาราวิ่งเก็บตกให้พี่ตูนในโครงการก้าวคนละก้าว (ลืมบอกไปว่าปีนี้เขาอายุ 55 ปี!) และหากคลิกเข้าไปดูไอจี @Jaturong_p จะเห็นว่าเขามักโพสต์ให้ความรู้เรื่องการออกกำลังกายอยู่เสมอ

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ออกกำลังกายติดรถหรือออฟฟิศไว้เลย  

 

 

โก๊ะตี๋ อารามบอย

หลังมีลุงรงค์เป็นไอดอล โก๊ะตี๋เผยหุ่นใหม่ให้เห็นตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังหมอยื่นคำขาดว่าถ้ายังปล่อยให้อ้วนลงพุงอยู่อย่างนี้ เห็นทีโรคจะถามหา ได้ยินดังนั้น โก๊ะตี๋ของเราจึงเกิดแรงบันดาลใจอยากทำเพื่อแม่ บวกกับกำลังอินเลิฟและวางแผนแต่งงานปีนี้ เขาเลยฮึดออกกำลังกายและคุมอาหาร อาศัยเข้าร่วมโปรแกรมลดหุ่นของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเจ้าหนึ่งจนน้ำหนักหายไปร่วม 20 กิโลกรัม ปัจจุบันน้ำหนักตัวยังไม่โยโย่กลับมา เพราะเขาทั้งยกเวตและคาร์ดิโอด้วยการวิ่ง รวมถึงเตะฟุตบอลกับเพื่อนทีม Aramboy ที่เขาสังกัดอยู่ และถ้าสังเกตดู โก๊ะตี๋มักโพสต์คลิปปลุกใจตัวเองให้ออกกำลังกายในไอจี @kootee เสมอ นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้คนผูกติดกับการออกกำลังกาย

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: ตั้งจุดหมาย รักษาวินัย และสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองไม่ละทิ้งการออกกำลังกาย  

 

 

แจ๊ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์

สมัยยังจัดรายการอยู่กับ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา แจ๊ค แฟนฉัน เป็นคนหนึ่งที่โดนขู่อยู่เสมอว่าถ้าไม่ลดน้ำหนักจะโดนปลดออกจากรายการ ประโยคนี้เองได้กลายมาเป็นแรงกระตุ้นให้เขาลดน้ำหนักลงกว่า 26 กิโลกรัมในเวลาเพียง 2 เดือน จากเดิมอยู่ที่ 130 กิโลกรัม เทคนิคอยู่ที่การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ตอนนั้นเขาต้องตื่นมาวิ่งทุกเช้าตั้งแต่ตี 5 มีเทรนเนอร์ส่วนตัวคอยประกบติด ช่วงแรกเน้นการเบิร์นไขมันรอบพุงออกไปให้มากที่สุด บางวันออกกำลังกายทั้งเช้าและเย็น จากนั้นหันมาปรับพฤติกรรมการกิน เลิกกินมื้อดึก งดของทอดๆ มันๆ เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู หมูกระทะ ฯลฯ อาศัยว่ามีวู้ดดี้คอยจัดแจงเรื่องอาหาร ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้น่าประทับใจ นอกจากจะได้หุ่นใหม่แล้ว โรคอ้วนอย่างเบาหวาน ความดันโลหิต หรือคอเลสเตอรอลก็ลดลงตามไปด้วย แม้หลังๆ น้ำหนักจะกลับมาบ้าง แต่ก็ยังไม่พีกสุดเท่าสมัยนั้น

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: เริ่มต้นด้วยการศึกษาและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

 

 

ตี๋ ดอกสะเดา

ด้วยวัยเลข 5 การลดน้ำหนักหรือปั้นซิกซ์แพ็กจึงไม่ง่ายเหมือนคนหนุ่ม แต่ตี๋ ดอกสะเดา ที่เราคุ้นเคยในคนร่างบางก็ทำให้เห็นแล้วว่าต่อให้วัยจะ 50 แต่ก็ยังฟิตได้ กิจกรรมที่เขาชอบทำ ได้แก่ ยกเวตเพิ่มความแข็งแรง และฝึกฟังก์ชันนัลเทรนนิ่งเพิ่มสมรรถภาพทางกาย ส่วนการเผาผลาญไขมัน เขาเลือกการต่อยมวยไทยที่สามารถรีดไขมันจนเห็นซิกซ์แพ็กปังๆ แม้ยามใส่เสื้อ

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: ให้ความสำคัญกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการยกเวต และความแข็งแรงของปอดและหัวใจด้วยคาร์ดิโอ

 

 

เสนาหอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค

เจ้าของตำนานลดหุ่นหวังพิชิตใจสาว จุดเริ่มต้นของรายนี้ค่อนข้างโรแมนติก เพราะเขาตั้งใจลดน้ำหนักเพื่อจีบสาว แต่สุดท้ายแล้วแม้ความสัมพันธ์จะไม่เดินหน้า แต่เสนาหอยก็ได้พิสูจน์แล้วว่าหากคุณมีความมุมานะ การลดความอ้วนไม่ใช่เรื่องยาก จากที่เคยอ้วนลงพุงจนเป็นซิกเนเจอร์ ตอนนี้เสนาหอยต้องทิ้งเสื้อผ้าไปหลายชิ้นเพราะหลวมโพรก เขาเคยเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้เกลียดการเข้าฟิตเนสและแอนตี้คนมีกล้าม เพราะตอนนั้นเขาอ้วน แต่พอได้มาลองออกกำลังกายจริงๆ กลับติดใจ สำหรับเขา ช่วงที่ยากที่สุดคือการดึงตัวเองให้ไปฟิตเนส

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: สร้างเป้าหมายและแรงผลักดันให้หันมาดูแลตัวเอง

 

 

โจนาห์ ฮิลล์

ย้ายมาดูฝั่งต่างประเทศกันบ้างกับดาราตลก โจนาห์ ฮิลล์ ที่เปลี่ยนรูปร่างได้น่าประทับใจที่สุด จากเดิมที่คนรู้จักเขาในภาพพ่อหนุ่มหัวหยิกร่างยักษ์ แต่ปัจจุบันดาวดังจาก The Wolf of Wall Street ลดไซส์ลงกว่าครึ่ง วิธีของเขาคือปรึกษานักโภชนาการเพื่อให้คำแนะนำเรื่องการกินอย่างถูกวิธี ซึ่งเขาค้นพบว่าอาหารที่เวิร์กสุดๆ ได้แก่ อาหารญี่ปุ่น นอกจากนี้เขาต้องเลิกแตะเบียร์ และจดบันทึกว่าแต่ละวันกินอะไรเข้าไปบ้าง เพื่อให้นักโภชนาการตรวจเช็กว่ามีอะไรนอกลู่นอกทางไปบ้างไหม หลังๆ บทที่โจนาห์ได้รับจึงไม่ค่อยตลกเท่าไร หรือเป็นเพราะได้หุ่นเฟี้ยวขนาดนั้นเลยอยากเบนเข็มบ้างก็ไม่รู้

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: ควบคุมอาหารโดยอิงจากหลักโภชนาการที่ถูกต้อง และจดไดอะรีสิ่งที่กินเข้าไป

 

 

แซค กาลิเฟียนาคิส

อีกคนที่ลดน้ำหนักจนจำแทบไม่ได้ เมื่อนักแสดงจาก The Hangover อย่าง แซค กาลิเฟียนาคิส เปลี่ยนหุ่นตัวเองครั้งแรกในปี 2014 เริ่มจากการเลิกดื่มแอลกอฮอลล์ แม้วอดก้าและไส้กรอกจะเป็นเมนูโปรดของเขาก็ตาม นอกจากนี้เขายังเลิกกินฟาสต์ฟู้ดและอาหารที่โฆษณาทางทีวี เปลี่ยนมากินธัญพืชและอาหารที่เป็นมิตรกับรอบพุงแทน ทีเด็ดอยู่ที่การทำคาร์ดิโอเพราะแซคเลือกที่จะคาร์ดิโอด้วยกิจกรรมที่เขาชอบ ได้แก่ การวิ่งบนลู่ การจ๊อกกิ้ง และการปั่นจักรยานซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้เขากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง นักแสดงวัย 49 ปีกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องทำเหมือนที่คนโน้นคนนี้บอก การทำในสิ่งที่ชอบต่างหากที่จะทำให้คุณยึดติดกับมันได้ง่ายและทำอย่างสม่ำเสมอ นั่นต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: หากิจกรรมที่ตนเองชอบเพื่อให้ไม่เบื่อ

 

 

เซธ โรเกน

เมื่อปี 2008 นักแสดงตลก วัย 36 ปี เซธ โรเกน จาก The 40-Year-Old Virgin และ Superbad ทำน้ำหนักหายไปถึง 40 ปอนด์ หรือราวๆ เกือบ 20 กิโลกรัม เพื่อรับบทในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขาหยอดว่า ‘ทำไปเพื่อเงิน’ วิถีการลดน้ำหนักของเซธที่จ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวนั้นเน้น 5 ปัจจัยด้วยกันคือ กินอาหารที่ดี โดยแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 5 มื้อต่อวัน ให้ระบบเผาผลาญทำงานตลอดวัน โดยเน้นอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตต่ำ เขายังเรียกเหงื่อโดยแบ่งการออกกำลังกายเป็น 5 แบบในเวลา 5 นาทีสลับกันภายใน 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเน้นยกเวตด้วยดัมเบล รวมถึงคาร์ดิโอ

 

เคล็ดลับน่าขโมยไปใช้: ความสม่ำเสมอของการออกกำลังกายและการใส่ใจในอาหารที่กินนั้นสำคัญเสมอ

 

Photos: Instagram @hoysaranair, @jackfanchan, @jaturong_p, @teedoksadao, @kootee

อ้างอิง:

The post หมดยุคลงพุง เมื่อตลกหันมาปั้นซิกซ์แพ็ก appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/comedians-actors-get-a-six-pack/feed/ 0
นับถอยหลังเซตสุดท้าย เหลืออีก 9.2 กม. ตูน บอดี้สแลม ก้าวพิชิตเส้นชัยเพื่อ 11 โรงพยาบาล https://thestandard.co/kaokonlakao-last-set/ https://thestandard.co/kaokonlakao-last-set/#respond Mon, 25 Dec 2017 09:47:00 +0000 https://thestandard.co/?p=57956

บรรยากาศ ตูน บอดี้สแลม พร้อมทีมงานก้าวคนละก้าววิ่งเข้าเ […]

The post นับถอยหลังเซตสุดท้าย เหลืออีก 9.2 กม. ตูน บอดี้สแลม ก้าวพิชิตเส้นชัยเพื่อ 11 โรงพยาบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>

บรรยากาศ ตูน บอดี้สแลม พร้อมทีมงานก้าวคนละก้าววิ่งเข้าเช็กพอยต์ที่ 4 แม่สายการ์เด้นท์ซิตี้ เป็นไปอย่างคึกคักและชื่นมื่น ทีมงานและนักแสดงที่มาร่วมวิ่งด้วย อาทิ บัวขาว บัญชาเมฆ, วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา, จ๋า-ยศสินี ณ นคร, โก๊ะตี๋ อารามบอย, นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ, บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี และโน้ส-อุดม แต้พานิช ทุกคนออกอากาศดีใจอย่างไม่มีกั๊ก เมื่อรู้ตัวว่าเหลืออีกเพียงเซตเดียว กับระยะทางอีก 9.2 กิโลเมตรเท่านั้นก็จะพิชิตเส้นชัยป้ายเหนือสุดแดนสยามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

 

ตูน บอดี้สแลม มีสีหน้าสดใส สามารถรับเงินบริจาคและทักทายรวมถึงร่วมสนุกกับผู้คนตลอดเส้นทางที่มารอต้อนรับ

 

 

ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ ทีมงานก้าวคนละก้าว บอกกับ THE STANDARD ว่า ตูน บอดี้สแลมและทีมงานจะใช้เวลาพักที่จุดเช็กพอยต์ที่ 4 นี้นานกว่าจุดอื่นๆ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุดสำหรับการวิ่งในเซตสุดท้ายไปยังเส้นชัยป้ายเหนือสุดแดนสยาม อำเภอแม่สาย คาดว่าขบวนนักวิ่งจะเริ่มออกสตาร์ทเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งทุกท่านสามารถร่วมติดตามการวิ่งเซตสุดท้ายของตูน บอดี้สแลม ได้แบบสดๆ ที่เพจ THE STANDARD โดยเราจะพาทุกท่านก้าวเข้าเส้นชัยพิชิต 2,191 กิโลเมตร จากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปพร้อมกับตูน บอดี้สแลม และทีมงาน

 

 

The post นับถอยหลังเซตสุดท้าย เหลืออีก 9.2 กม. ตูน บอดี้สแลม ก้าวพิชิตเส้นชัยเพื่อ 11 โรงพยาบาล appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/kaokonlakao-last-set/feed/ 0
จับตาช่อง 3 ดันพิธีกรใหม่ ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ พลิกโฉมยกเครื่องอีกรอบ! https://thestandard.co/ruenglaochaonee-new/ https://thestandard.co/ruenglaochaonee-new/#respond Wed, 18 Oct 2017 07:06:03 +0000 https://thestandard.co/?p=35638

     “ผมขอยุติการทำหน้าที่พิธีกรเพื่อไม่ […]

The post จับตาช่อง 3 ดันพิธีกรใหม่ ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ พลิกโฉมยกเครื่องอีกรอบ! appeared first on THE STANDARD.

]]>

     “ผมขอยุติการทำหน้าที่พิธีกรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง 3 เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย”

     คือข้อความที่ประกาศผ่านอินสตาแกรมของ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ เมื่อ 3 มีนาคม 2559 หรือเมื่อปีที่แล้ว เพื่อยุติบทบาททางหน้าจอรายการข่าวชื่อดัง เรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งเขานั่งแท่นเป็นพิธีกรมาตั้งแต่ปี 2546

     จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็นับรวมเป็นเวลาปีกว่าๆ แล้วที่สรยุทธห่างจากหน้าจอ หายไปจากหน้าม่าน 13 ปีกว่าที่เขาทำหน้าที่ ‘ยามเช้าพี่ก็เฝ้าคิดถึงน้อง’ มาโดยตลอด

 

https://www.instagram.com/p/BCfG78UDdMK/?hl=th&taken-by=sorrayuth9111

 

     เพราะต้องเจอมรสุมชีวิตที่เขาตกเป็นจำเลยในคดีไร่ส้ม แถมยังถูกคนในวงการเรียกหาจริยธรรมการทำหน้าที่อย่างเซ็งแซ่อยู่ช่วงหนึ่ง สถานะทางคดีในปัจจุบันคือการต่อสู้ในชั้นศาลฎีกา หลังสองศาลตัดสินให้เขาต้องรับโทษจำคุก และเมื่อชั้นศาลอุทธรณ์ เขาต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำอยู่หลายสิบวัน ก่อนจะได้รับการประกันตัวให้ออกมาต่อสู้คดี

     มรสุมเรื่องชะตากรรมชีวิตที่ว่าหนักหนาสาหัสแล้วยังต้องเผชิญกับมรสุมธุรกิจเป็นระลอกต่อมา เมื่อหน้าจอ เรื่องเล่าเช้านี้ ขาดแม่เหล็กดึงดูดคนดูอย่างสรยุทธ วิกฤตของรายการที่ครองเรตติ้งข่าวเช้ามานานก็บังเกิดเมื่อต้องเจอกับเรตติ้งที่ดำดิ่ง แถมถูกหั่นเวลา ยังไม่นับก่อนหน้านี้ที่มีกระแสให้เอเจนซีบอยคอตการลงโฆษณาในรายการนี้

     การจะหาคนที่มีพลังทัดเทียมสรยุทธเพื่อมานั่งหน้าจอกระชากเรตติ้งกลับคืนมาหรือประคองให้ดีเท่าเดิมเป็นเรื่องที่ทีมงานก็แก้ไม่ตก แม้พิธีกรหลักที่ยืนพื้นคู่สรยุทธในรายการมากว่า 7 ปีอย่าง ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ก็เอาไม่อยู่ เพราะบทบาทในรายการผ่านสายตาผู้ชมที่เห็นมาตลอดคือการเป็นประหนึ่งลูกคู่ของสรยุทธเท่านั้น และเมื่อต้องรับบทหนักในการเป็นพิธีกรหลักของรายการก็ยังไม่สามารถประคองหรือโกยเรตติ้งให้อยู่รอดได้

     แม้ก่อนหน้านี้จะดึง เจก รัตนตั้งตระกูล เข้ามาช่วย แต่ก็เป็นพิธีกรได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เป็นการขัดตาทัพในช่วงที่ไบรท์ พิชญทัฬห์ ต้องพักรักษาตัว เนื่องจากป่วยเป็นไข้เลือดออก

 

 

     ต่อมาได้มีการเปิดตัวพิธีกรฝ่ายชายอย่าง ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า ที่เคยเป็นผู้ประกาศทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ แล้วย้ายไปช่องทรูโฟร์ยูได้ไม่ถึงเดือน ทำหน้าที่เป็นพิธีกรหลักฝ่ายชายมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 เป็นเวลา 1 ปีนิดๆ ที่เขาเข้ามาทำหน้าที่แทนสรยุทธ แต่ก็ยังไม่สามารถตรึงคนดูอยู่ แถมมีเสียงวิจารณ์เล็กๆ ว่าเขาสามารถที่จะเจิดจรัสทางหน้าจอได้ดียิ่งกว่านี้

     หากไล่เรียงดูพิธีกรในรายการ คนที่อยู่มายาวนานมากที่สุดรองๆ จากสรยุทธก็คือ หนุ่ย-เอกราช เก่งทุกทาง ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรในช่วงข่าวกีฬายืนพื้นมาตั้งแต่ปี 2546 ใกล้เคียงกับกรรมกรข่าวคนดังที่ตอนนี้ต้องปล่อยมือไปต่อสู้คดี มีการดึงเอาพิธีกรฝีปากกล้าอย่าง น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เข้ามาเสริมทัพในช่วงข่าวบันเทิงที่มี โก๊ะตี๋ อารามบอย และว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ เข้ามาช่วยเสริม โดยแบ่งการทำหน้าที่ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์

     ก่อนหน้านี้ช่อง 3 ดิ้นปรับตัวและปรับผังไตรมาสสุดท้ายเดือนตุลาคม 2559 หลังหั่นเวลาของรายการสุดฮอตอย่าง เรื่องเล่าเช้านี้ ทิ้งถึง 45 นาที ก็ดันรายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิง กลับมาอีกรอบ ซึ่งปัจจุบันยังคงออกอากาศอยู่เพื่อมาช่วยเรื่องเรตติ้งในช่วงเวลาออกอากาศดังกล่าว

 

https://twitter.com/KaiPasit/status/920272517222121472

 

     ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีการออกมาเปิดเผยอีกรอบผ่านทวิตเตอร์ของ ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท พิธีกรช่อง 3 และในวันเดียวกัน หนึ่งในพิธีกรหลักอย่างไบรท์ พิชญทัฬห์ ก็ได้อัพอินสตาแกรมเป็นคลิปวิดีโอโปรโมต เรื่องเล่าเช้านี้ โฉมใหม่ที่มีการเปิดตัวพิธีกรแบบให้ลุ้นระทึกว่าเป็นใครบ้าง พร้อมทิ้งท้ายให้ติดตามเร็วๆ นี้

     แวดวงสื่อได้ยินเรื่องนี้มาช่วงหนึ่งและไม่ประหลาดใจนักที่จะมีการปรับเปลี่ยนหรือพลิกโฉม เอาพิธีกรเก่าไป เอาพิธีกรใหม่มา ซึ่งเป็นเรื่องของการปรับตัวเพื่อการอยู่รอด และเพื่อตรึงคนดูให้กลับมาให้ได้มากที่สุด

     แน่นอนว่าในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ยากนักว่าจะเป็นใครบ้าง เฉลยให้ตายอย่างไร ไบรท์ พิชญทัฬห์ ก็น่าจะยังนั่งแท่นเป็นพิธีกรหลัก และดึงเอาไก่ ภาษิต มานั่งแท่นอ่านคู่ ส่วน เซน-เมจกา สุพิชญางกูร ที่รับผิดชอบข่าวต่างประเทศ และเป็นผู้ประกาศด้วยน่าจะอยู่ทำหน้าที่ต่อไป

     คำถามคือ แล้วต๊ะ พิภู จะอยู่หรือไป?

     หนุ่ย เอกราช น่าจะได้รับความไว้วางใจให้อยู่ทำหน้าที่ต่อไป แต่ที่ถือว่าใจกล้า ฮือฮา และไม่ผิดไปจากที่หลายคนคิดคือการดึงเอา ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มานั่งเป็นพิธีกรในช่วงหนึ่งของรายการด้วย ส่วนคนอื่นๆ ก็คงต้องลองคาดเดากันดู เพราะหากวิเคราะห์ทั้งหมดอาจดูไม่ลุ้นระทึก ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะลงตัวปลายเดือนนี้ และโฉมใหม่น่าจะมาเร็วๆ นี้แบบที่มีการโปรโมตกันอยู่

 

     การพลิกโฉมครั้งนี้จะช่วยให้รายการไปได้ดีขึ้นและกลับมาผงาดอีกครั้งหรือพอประคองตัวได้คงต้องรอติดตาม และจับตาดูช่องอื่นๆ ที่จะต้องปรับตัวมาสู้ในสนามหน้าจอกันอย่างดุเดือด พร้อมๆ กับสถานการณ์ธุรกิจทีวีทั้งช่องเดิมและดิจิทัลที่ต่างเผชิญปัญหาหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน

 

https://www.instagram.com/p/BaWYhNzH5Wm/?hl=th&taken-by=bright_ch3

 

The post จับตาช่อง 3 ดันพิธีกรใหม่ ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ พลิกโฉมยกเครื่องอีกรอบ! appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/ruenglaochaonee-new/feed/ 0